หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเป็นปมคิดไม่ถึงว่า ตนเกิดเป็นมนุษย์มาถึงสองชาติภพ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สิ้นหวังเช่นนี้!ความคิดความอ่านของฮ่องเต้หวู่ยากจะหยั่งถึง จิตใจลึกลับซับซ้อนดั่งเหวเสมือนทะเลราชวงศ์ต้าเซี่ย เต็มไปด้วยขุนนางน้อยใหญ่ ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ฉลาดปราดเปรื่องดูไม่ออกหรือว่า ตนถูกปรักปรำ?พวกเขาต่างรู้ดีแก่ใจ!ถึงขึ้นที่ว่า แม้แต่แม่ทัพผู้เฒ่าซูก็ตระหนักรู้ว่า เป็นฝีมือของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักที่ปล่อยข่าวรั่วไหล ทำให้ทหารตระกูลซูตกอยู่ในวงล้อม นำมาซึ่งความพ่ายแพ้!ดังนั้น แม่ทัพผู้เฒ่าซูจึงสู้สุดชีวิต ปกป้องและพาตนเองตีฝ่าวงล้อมออกมา!เพียงแต่น่าเสียดาย แม่ทัพผู้เฒ่าซูสู้รบเพียงลำพัง จนหมดแรงแล้วสิ้นใจในที่สุดก่อนตาย เขาทิ้งจดหมายเขียนด้วยเลือดไว้หนึ่งฉบับ ให้ตนนำไปให้ฮ่องเต้หวู่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์!หลี่หลงหลินรีบกุมแผ่นอก พบว่าจดหมายเขียนด้วยเลือดยังอยู่ เขาจึงค่อยโล่งอก!จดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ เป็นความหวังเดียวในการพลิกชะตาชีวิตของตน!ทว่าหลี่หลงหลินคิดทบทวนหลายครั้ง เขาไม่คิดจะเอาจดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ออกมา แล้วให้ฮ่องเต้หวู่โดยตรงเหตุผลนั
เมืองหลวงจวนตระกูลซูพรึ่บ!ณ ลานกลางจวน ลำแสงสีเงินเคลื่อนผ่าน!นั่นไม่ใช่สายฟ้า แต่เป็นลำแสงสะท้อนจากหอกยาว!เงาตามติดการเคลื่อนไหวของหอก หอกพุ่งตัวดุจดั่งมังกร!นางสวมเสื้อเกราะ ด้านหลังมีผ้าคลุมสีแดงโบกสะบัด ไม่ได้สวมหมวกเกราะ ผมยาวสลวยถึงกลางหลังมัดรวบเป็นหางม้า พริ้วไหวขึ้นลงวีรชนผู้กล้าหาญ สตรีไม่แพ้บุรุษ!สตรีผู้นั้นคือซูเฟิ่งหลิงหลานสาวแม่ทัพผู้เฒ่าซู!ตึ้ง!หอกยาวในมือซูเฟิ่งหลิงทิ่มแทงด้วยความรุนแรง เจาะทะลุหุ่นไม้ แตกเป็นเสี่ยงๆ!บนศีรษะของหุ่นไม้มีแผ่นกระดาษติดไว้ สามตัวอักษร...หลี่หลงหลิน!หญิงสาวข้างกายปรบมือ “คุณหนู วิชาหอกของคุณหนูพัฒนาขึ้นอีกแล้วเจ้าค่ะ!”ซูเฟิ่งหลิงกำหมัดแน่น ทรวงอกอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง ดวงตาหงส์น้ำตารื้น พูดด้วยความโมโห “วิชาหอกเก่งกาจ มีประโยชน์อะไร? ข้าเจ็บใจที่ไม่อาจสังหารไอ้คนสารเลวหลี่หลงหลินด้วยตนเอง ไม่อาจแก้แค้นให้ตระกูลซูที่จงรักภักดีได้!”พวกสตรีได้ยินเช่นนั้น ต่างก้มหน้าลง สีหน้าฉายความโกรธเคืองตระกูลซูจงรักภักดีทุกชั่วอายุคน ภักดีต่อต้าเซี่ย!เพราะคนสารเลวหลี่หลงหลิน ทำให้ผู้ชายของตระกูลซูตายอย่างอนาถ เหลือเพียงห
“ฮูหยินผู้เฒ่า!”คนทั้งตระกูลซูพากันทำความเคารพหญิงชราแม้ซูเฟิ่งหลิงจะหยุดการกระทำของตน ทว่ายังเจ็บใจยิ่งนัก “ท่านย่า! แทงครั้งเดียว ข้าก็สังหารเจ้าคนสารเลวหลี่หลงหลินได้แล้ว!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูหัวเราะในลำคอ “โชคดีที่ข้ามาทันเวลา หากเจ้าทำให้เว่ยกงกงบาดเจ็บ เช่นนั้นเจ้าก็เท่ากับว่าเจ้าทำความผิดร้ายแรง! ยังไม่รีบถอยออกไปอีก!”ซูเฟิ่งหลิงไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน กลัวแค่เพียงฮูหยินผู้เฒ่าซูเวลาโมโหเท่านั้น แม้จะเจ็บใจ แต่นางก็ถอยไปยืนข้างๆ อย่างเชื่อฟังทว่าดวงตาหงส์คู่นั้น ยังคงจ้องเขม็งไปที่หลี่หลงหลิน แทบอยากจะกลืนกินเขาทั้งเป็น!เว่ยซวินดึงสติกลับมา ก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าวแล้วทำเคารพ “คารวะฮูหยินผู้เฒ่าซู! ไม่พบเจอกันนาน ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นเช่นไรบ้าง สุขภาพแข็งแรงดีหรือไม่?”เว่ยกงกงเป็นขันทีคนโปรดของฮ่องเต้หวู่ ถูกขนานนามว่าเก้าพันปีแต่กระทั่งเก้าพันปีท่านนี้ ยังต้องทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่าซูอย่างว่าง่าย!เห็นได้ชัดว่าฮูหยินผู้เฒ่าคนนี้ไม่เพียงมีอำนาจในตระกูลซู แม้แต่ในราชสำนัก ก็น่าเกรงขามยิ่งนัก!ถึงอย่างไร ทหารรักษาแคว้นสิบแปดนายของตระกูลซู นางเป็นคนสอนมากับมือ!เมื่อครั้นฮ
ฮูหยินผู้เฒ่าซูอ่านจดหมายเลือดวนซ้ำหลายรอบ พูดด้วยความไม่เข้าใจ “หลี่หลงหลิน! เหตุใดท่านไม่เอาจดหมายเลือด ให้ฝ่าบาท เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน?”หลี่หลงหลินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเศร้าหมอง “ไม่มีใครรู้จักลูกชายดีเท่ากับบิดา! นิสัยของเสด็จพ่อ ข้ารู้จักเป็นอย่างดี! ด้วยความหวาดระแวงและดื้อรั้นของเสด็จพ่อ จะเชื่อข้าหรือ?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูเงียบนางเองก็รู้ดีว่าฮ่องเต้หวู่เป็นคนอย่างไรตระกูลซู จงรักภักดีต่อต้าเซี่ย ปกป้องดินแดนทางเหนือมาหลายชั่วอายุคน ไม่รู้ว่ามีวิญญาณจงรักภักดีมากมายเพียงใดที่ถูกฝังในต่างแดน แต่ฮ่องเต้หวู่กลับยังคงหวาดระแวงและคอยกดตระกูลซูสถานการณ์ในราชสำนัก ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็พอได้ยินมาบ้างขุนนางฝ่ายบุ๋นรักเงินทอง ขุนนางฝ่ายบู๊รักชีวิตบวกกับฮ่องเต้หวู่ไม่ยอมแต่งตั้งองค์รัชทายาทนอกจากองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินที่เสเพลเกินไป ไม่มีขุนนางคนใดสนับสนุนขุนนางคนอื่นล้วนลอบสนับสนุนองค์ชายพระองค์ เสมือนองค์ชายทั้งเก้าในสมัยราชวงศ์ชิงช่วงชิงบัลลังก์!หลายฝ่ายในราชสำนักแก่งแย่งชิงดี โจมตีซึ่งกันและกัน จนโกลาหลเสียงร้องทุกข์ของไพร่ฟ้าท่วมท้องถนน ชีวิตลำบากข้นแค้น!เวลานี้
หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ทหารที่เหลืออยู่หนึ่งพันนายของตระกูลซู บุกเข้าวัง ปรับราชวงศ์เปลี่ยนรัชสมัย! เขายืมมือของตระกูลซูกำจัดผู้เห็นต่าง ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ เพื่อให้ตระกูลซูถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏ ให้อาชญากรรมทั้งหมดตกอยู่กับตระกูลซู! ” “หากเขาสังหารตระกูลซู ล้างมลทินให้ตนเอง ยกดินแดนให้คนป่าเถื่อนเป็นการชดเชย เขาก็จะนั่งอยู่บนบัลลังก์ได้อย่างมั่นคง!” “นี่คือภาพรวมแผนการของเขา!” “ยอดแม่ทัพยืนหยัดบนหมื่นกระดูก!” “ไม่ว่าจะเป็นข้า หรือตระกูลซู ล้วนเป็นบันไดของคนผู้นี้!” “คนไร้ประโยชน์อย่างข้า ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย!”“แต่ตระกูลซูมีแต่ด้วยความภักดี กลับต้องกลายเป็นกบฏ ถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ ทิ้งชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปชั่วลูกชั่วหลาน!” คําพูดนี้ ทําลายกำแพงในใจของฮูหยินผู้เฒ่าซูไปโดยสิ้นเชิง!ตุ้บ!ฮูหยินผู้เฒ่าซูนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนพื้น ดวงตาของนางว่างเปล่า ร้องไห้คร่ำครวญ: “ไม่กลัวหากร่างกายจะแหลกเป็นชิ้นๆ เหลือเพียงใจภักดิ์ไว้ในประวัติศาสตร์! ตระกูลซูของเราไม่กลัวความตาย! เพียงแต่หากตระกูลซูกลายเป็นกบฏจริงๆ แล้วข้าจะมีหน้าไปเจอบรรพบุรุษของตระกูลซูได้ยังไง...
ในท้องพระโรงฝ่าบาทกําลังมีประชุมฉุกเฉินเหล่าขุนนางทั้งบุ๋นบู๊ต่างยืนสีหน้าเคร่งเครียด บรรยากาศภายในจริงจังเป็นอย่างมากเส้นเลือดบนหน้าผากฝ่าบาทปูดขึ้น พักตรมังกรโกรธจัด: “มีกองทหารหลายแสนนายทางตอนเหนือ กลับไม่สามารถหยุดการย่ำยีประชาชนอย่างทารุณของเผ่าหมานนับหมื่นได้! ตอนนี้กองทัพเผ่าหมานได้เข้าใกล้เมืองหลวงแล้ว! ”“ต้าเซี่ยที่ยิ่งใหญ่ กลับไม่มีแม่ทัพและทหารที่สามารถสู้รบได้เลย!”“หรือต้องให้ข้านำทัพไปทำสงครามเอง?”เหล่าขุนนางทุกคนต่างก้มหน้าและไม่มีใครกล้าพูดฝ่าบาทเอ่ยด้วยความไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของผู้ที่ตนหวังไว้: “ไร้ประโยชน์! ล้วนเป็นพวกไร้ประโยชน์ ขุนนางเข้าใจข้าผิด! ศัตรูอยู่ตรงหน้า คุณธรรมอยู่ที่ใด? ”ในเวลานี้หลี่เซวียนองค์ชายหกยืนขึ้น: “เสด็จพ่อ กระหม่อมมีวิธีแก้ไขวิกฤตในเมืองหลวงพะยะค่ะ!”ดวงตาของฝ่าบาทเป็นประกายขึ้น: “เจ้าหก เจ้าฉลาดและมีไหวพริบมาตั้งแต่เด็ก! วิธีที่ว่าคืออะไร ไหนลองพูดมาสิ! ”หลี่เซวียนเอ่ยขึ้น: “ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน!การต่อต้านทหารม้าเผ่าหมาน จำเป็นต้องมีผู้นำทัพชั้นยอด! ภายใต้การบัญชาทัพของเสด็จพ่อ แล้วยังมีราชองครักษ์อ
ฝ่าบาทตกตะลึงเขาคิดไม่ถึงว่าฮูหยินผู้เฒ่าซูจะขอพระราชทานสมรสจริงๆอีกทั้งยังขอพระราชทานสมรสกับองค์ชาย!การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ จะทำเหมือนเป็นเรื่องเล่นขายของของเด็กๆได้ยังไง?ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือการพระราชทานสมรส ต้องให้ความสำคัญกับคู่ที่เหมาะสมพูดตรงๆ ก็คือการแต่งงานทางการเมืองสนมขององค์ชาย ถ้าไม่เป็นองค์หญิงของต่างแคว้น ก็เป็นบุตรสาวของขุนนางที่มีอํานาจหากผู้ชายในตระกูลซูยังอยู่ ในฐานะหัวเรือใหญ่ที่เฝ้าชายแดนทางเหนือ ตระกูลซูก็มีคุณสมบัติที่จะแต่งงานกับราชวงศ์แต่ตอนนี้ตระกูลซูเหลือเพียงเด็กกำพร้าและแม่ม่าย ไร้ค่าที่จะกล่าวถึงแม้ว่าตนเองตกลงที่จะพระราชทานสมรส แต่องค์ชายก็อาจไม่เห็นด้วย!เมื่อเห็นความลังเลของฝ่าบาท เว่ยซวินจึงเอ่ยด้วยเสียงต่ำ:" ฝ่าบาทสิ่งสําคัญที่สุดในตอนนี้คือระงับความโกรธของประชาชน หากพระองค์พระราชทานสมรสให้กับตระกูลซู และประหารองค์ชายเก้าได้ ความโกรธของประชาชนก็จะหายไป! ”ฝ่าบาทพยักหน้าใช่!ตอนนี้ต้าเซี่ยคลอนแคลน สถานการณ์ของราชวงค์ไม่แน่ชัดตนเองจะคิดไกลขนาดนั้นไปทำไม?สำหรับประชาชนตระกูลซูมีบารมีสูงมาก หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ทํ
ฝ่าบาทส่ายหัวครั้งแล้วครั้งเล่า: “ไร้เหตุผล! ไร้เหตุผลสิ้นดี! ฮูหยินผู้เฒ่าซู เว้นแต่เจ้าจะมีเหตุผล สามารถโน้มน้าวใจข้าได้! ไม่อย่างนั้น ข้าจะไม่มีวันประทานสมรสที่ไร้เหตุผลเช่นนี้! ”ฮูหยินผู้เฒ่าซูกัดฟันเอ่ย: “ฝ่าบาท! หม่อมฉันเกลียดหลี่หลงหลินจริงๆ และเขาต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง! แต่แค่ฆ่าเขาด้วยมีดมันจะง่ายเกินไป! ”“หม่อมฉันต้องการให้หลี่หลงหลินเป็นลูกเขยของตระกูลซู เป็นวัวและม้าให้กับตระกูลซู และทรมานเขาอย่างสาสม!”“ทำให้เขาขอมีชีวิตรอดก็ไม่ได้ ขอตายก็ไม่ได้!”“ฝ่าบาท เมื่อครู่พระองค์เพิ่งตรัสว่า ให้หม่อมฉันจัดการกับหลี่หลงหลิงได้ตามใจชอบ! คำพูดพระองค์หนักแน่นดั่งภูผา จะกลับคำไม่ได้เพคะ! ”ทั้งราชสำนักตกอยู่ในความเงียบพูดตามตรง เหตุผลของฮูหยินผู้เฒ่าซู แม้จะดูขัดๆไม่สมเหตุสมผลไปหน่อย แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ตอนนี้ตระกูลซูไม่มีผู้ชาย มีเพียงกลุ่มแม่ม่าย ซึ่งทุกคนอยู่ในวัยที่อารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรงบวกกับซูเฟิ่งหลิงที่มุทะลุดุดันหลี่หลงหลินเข้าสู่ตระกูลซู และกลายเป็นผู้ชายคนเดียว เขาจะต้องถูกกินทั้งเป็นอย่างแน่นอน!แค่คิดก็ทําให้คนขนลุกซู่แล้ว!ดวงตาของฝ่าบาทเป็นประกาย สีหน้าเผยค