หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเป็นปมคิดไม่ถึงว่า ตนเกิดเป็นมนุษย์มาถึงสองชาติภพ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สิ้นหวังเช่นนี้!ความคิดความอ่านของฮ่องเต้หวู่ยากจะหยั่งถึง จิตใจลึกลับซับซ้อนดั่งเหวเสมือนทะเลราชวงศ์ต้าเซี่ย เต็มไปด้วยขุนนางน้อยใหญ่ ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ฉลาดปราดเปรื่องดูไม่ออกหรือว่า ตนถูกปรักปรำ?พวกเขาต่างรู้ดีแก่ใจ!ถึงขึ้นที่ว่า แม้แต่แม่ทัพผู้เฒ่าซูก็ตระหนักรู้ว่า เป็นฝีมือของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักที่ปล่อยข่าวรั่วไหล ทำให้ทหารตระกูลซูตกอยู่ในวงล้อม นำมาซึ่งความพ่ายแพ้!ดังนั้น แม่ทัพผู้เฒ่าซูจึงสู้สุดชีวิต ปกป้องและพาตนเองตีฝ่าวงล้อมออกมา!เพียงแต่น่าเสียดาย แม่ทัพผู้เฒ่าซูสู้รบเพียงลำพัง จนหมดแรงแล้วสิ้นใจในที่สุดก่อนตาย เขาทิ้งจดหมายเขียนด้วยเลือดไว้หนึ่งฉบับ ให้ตนนำไปให้ฮ่องเต้หวู่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์!หลี่หลงหลินรีบกุมแผ่นอก พบว่าจดหมายเขียนด้วยเลือดยังอยู่ เขาจึงค่อยโล่งอก!จดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ เป็นความหวังเดียวในการพลิกชะตาชีวิตของตน!ทว่าหลี่หลงหลินคิดทบทวนหลายครั้ง เขาไม่คิดจะเอาจดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ออกมา แล้วให้ฮ่องเต้หวู่โดยตรงเหตุผลนั
เมืองหลวงจวนตระกูลซูพรึ่บ!ณ ลานกลางจวน ลำแสงสีเงินเคลื่อนผ่าน!นั่นไม่ใช่สายฟ้า แต่เป็นลำแสงสะท้อนจากหอกยาว!เงาตามติดการเคลื่อนไหวของหอก หอกพุ่งตัวดุจดั่งมังกร!นางสวมเสื้อเกราะ ด้านหลังมีผ้าคลุมสีแดงโบกสะบัด ไม่ได้สวมหมวกเกราะ ผมยาวสลวยถึงกลางหลังมัดรวบเป็นหางม้า พริ้วไหวขึ้นลงวีรชนผู้กล้าหาญ สตรีไม่แพ้บุรุษ!สตรีผู้นั้นคือซูเฟิ่งหลิงหลานสาวแม่ทัพผู้เฒ่าซู!ตึ้ง!หอกยาวในมือซูเฟิ่งหลิงทิ่มแทงด้วยความรุนแรง เจาะทะลุหุ่นไม้ แตกเป็นเสี่ยงๆ!บนศีรษะของหุ่นไม้มีแผ่นกระดาษติดไว้ สามตัวอักษร...หลี่หลงหลิน!หญิงสาวข้างกายปรบมือ “คุณหนู วิชาหอกของคุณหนูพัฒนาขึ้นอีกแล้วเจ้าค่ะ!”ซูเฟิ่งหลิงกำหมัดแน่น ทรวงอกอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง ดวงตาหงส์น้ำตารื้น พูดด้วยความโมโห “วิชาหอกเก่งกาจ มีประโยชน์อะไร? ข้าเจ็บใจที่ไม่อาจสังหารไอ้คนสารเลวหลี่หลงหลินด้วยตนเอง ไม่อาจแก้แค้นให้ตระกูลซูที่จงรักภักดีได้!”พวกสตรีได้ยินเช่นนั้น ต่างก้มหน้าลง สีหน้าฉายความโกรธเคืองตระกูลซูจงรักภักดีทุกชั่วอายุคน ภักดีต่อต้าเซี่ย!เพราะคนสารเลวหลี่หลงหลิน ทำให้ผู้ชายของตระกูลซูตายอย่างอนาถ เหลือเพียงห
“ฮูหยินผู้เฒ่า!”คนทั้งตระกูลซูพากันทำความเคารพหญิงชราแม้ซูเฟิ่งหลิงจะหยุดการกระทำของตน ทว่ายังเจ็บใจยิ่งนัก “ท่านย่า! แทงครั้งเดียว ข้าก็สังหารเจ้าคนสารเลวหลี่หลงหลินได้แล้ว!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูหัวเราะในลำคอ “โชคดีที่ข้ามาทันเวลา หากเจ้าทำให้เว่ยกงกงบาดเจ็บ เช่นนั้นเจ้าก็เท่ากับว่าเจ้าทำความผิดร้ายแรง! ยังไม่รีบถอยออกไปอีก!”ซูเฟิ่งหลิงไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน กลัวแค่เพียงฮูหยินผู้เฒ่าซูเวลาโมโหเท่านั้น แม้จะเจ็บใจ แต่นางก็ถอยไปยืนข้างๆ อย่างเชื่อฟังทว่าดวงตาหงส์คู่นั้น ยังคงจ้องเขม็งไปที่หลี่หลงหลิน แทบอยากจะกลืนกินเขาทั้งเป็น!เว่ยซวินดึงสติกลับมา ก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าวแล้วทำเคารพ “คารวะฮูหยินผู้เฒ่าซู! ไม่พบเจอกันนาน ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นเช่นไรบ้าง สุขภาพแข็งแรงดีหรือไม่?”เว่ยกงกงเป็นขันทีคนโปรดของฮ่องเต้หวู่ ถูกขนานนามว่าเก้าพันปีแต่กระทั่งเก้าพันปีท่านนี้ ยังต้องทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่าซูอย่างว่าง่าย!เห็นได้ชัดว่าฮูหยินผู้เฒ่าคนนี้ไม่เพียงมีอำนาจในตระกูลซู แม้แต่ในราชสำนัก ก็น่าเกรงขามยิ่งนัก!ถึงอย่างไร ทหารรักษาแคว้นสิบแปดนายของตระกูลซู นางเป็นคนสอนมากับมือ!เมื่อครั้นฮ
ฮูหยินผู้เฒ่าซูอ่านจดหมายเลือดวนซ้ำหลายรอบ พูดด้วยความไม่เข้าใจ “หลี่หลงหลิน! เหตุใดท่านไม่เอาจดหมายเลือด ให้ฝ่าบาท เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน?”หลี่หลงหลินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเศร้าหมอง “ไม่มีใครรู้จักลูกชายดีเท่ากับบิดา! นิสัยของเสด็จพ่อ ข้ารู้จักเป็นอย่างดี! ด้วยความหวาดระแวงและดื้อรั้นของเสด็จพ่อ จะเชื่อข้าหรือ?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูเงียบนางเองก็รู้ดีว่าฮ่องเต้หวู่เป็นคนอย่างไรตระกูลซู จงรักภักดีต่อต้าเซี่ย ปกป้องดินแดนทางเหนือมาหลายชั่วอายุคน ไม่รู้ว่ามีวิญญาณจงรักภักดีมากมายเพียงใดที่ถูกฝังในต่างแดน แต่ฮ่องเต้หวู่กลับยังคงหวาดระแวงและคอยกดตระกูลซูสถานการณ์ในราชสำนัก ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็พอได้ยินมาบ้างขุนนางฝ่ายบุ๋นรักเงินทอง ขุนนางฝ่ายบู๊รักชีวิตบวกกับฮ่องเต้หวู่ไม่ยอมแต่งตั้งองค์รัชทายาทนอกจากองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินที่เสเพลเกินไป ไม่มีขุนนางคนใดสนับสนุนขุนนางคนอื่นล้วนลอบสนับสนุนองค์ชายพระองค์ เสมือนองค์ชายทั้งเก้าในสมัยราชวงศ์ชิงช่วงชิงบัลลังก์!หลายฝ่ายในราชสำนักแก่งแย่งชิงดี โจมตีซึ่งกันและกัน จนโกลาหลเสียงร้องทุกข์ของไพร่ฟ้าท่วมท้องถนน ชีวิตลำบากข้นแค้น!เวลานี้
หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ทหารที่เหลืออยู่หนึ่งพันนายของตระกูลซู บุกเข้าวัง ปรับราชวงศ์เปลี่ยนรัชสมัย! เขายืมมือของตระกูลซูกำจัดผู้เห็นต่าง ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ เพื่อให้ตระกูลซูถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏ ให้อาชญากรรมทั้งหมดตกอยู่กับตระกูลซู! ” “หากเขาสังหารตระกูลซู ล้างมลทินให้ตนเอง ยกดินแดนให้คนป่าเถื่อนเป็นการชดเชย เขาก็จะนั่งอยู่บนบัลลังก์ได้อย่างมั่นคง!” “นี่คือภาพรวมแผนการของเขา!” “ยอดแม่ทัพยืนหยัดบนหมื่นกระดูก!” “ไม่ว่าจะเป็นข้า หรือตระกูลซู ล้วนเป็นบันไดของคนผู้นี้!” “คนไร้ประโยชน์อย่างข้า ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย!”“แต่ตระกูลซูมีแต่ด้วยความภักดี กลับต้องกลายเป็นกบฏ ถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ ทิ้งชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปชั่วลูกชั่วหลาน!” คําพูดนี้ ทําลายกำแพงในใจของฮูหยินผู้เฒ่าซูไปโดยสิ้นเชิง!ตุ้บ!ฮูหยินผู้เฒ่าซูนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนพื้น ดวงตาของนางว่างเปล่า ร้องไห้คร่ำครวญ: “ไม่กลัวหากร่างกายจะแหลกเป็นชิ้นๆ เหลือเพียงใจภักดิ์ไว้ในประวัติศาสตร์! ตระกูลซูของเราไม่กลัวความตาย! เพียงแต่หากตระกูลซูกลายเป็นกบฏจริงๆ แล้วข้าจะมีหน้าไปเจอบรรพบุรุษของตระกูลซูได้ยังไง...
ในท้องพระโรงฝ่าบาทกําลังมีประชุมฉุกเฉินเหล่าขุนนางทั้งบุ๋นบู๊ต่างยืนสีหน้าเคร่งเครียด บรรยากาศภายในจริงจังเป็นอย่างมากเส้นเลือดบนหน้าผากฝ่าบาทปูดขึ้น พักตรมังกรโกรธจัด: “มีกองทหารหลายแสนนายทางตอนเหนือ กลับไม่สามารถหยุดการย่ำยีประชาชนอย่างทารุณของเผ่าหมานนับหมื่นได้! ตอนนี้กองทัพเผ่าหมานได้เข้าใกล้เมืองหลวงแล้ว! ”“ต้าเซี่ยที่ยิ่งใหญ่ กลับไม่มีแม่ทัพและทหารที่สามารถสู้รบได้เลย!”“หรือต้องให้ข้านำทัพไปทำสงครามเอง?”เหล่าขุนนางทุกคนต่างก้มหน้าและไม่มีใครกล้าพูดฝ่าบาทเอ่ยด้วยความไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของผู้ที่ตนหวังไว้: “ไร้ประโยชน์! ล้วนเป็นพวกไร้ประโยชน์ ขุนนางเข้าใจข้าผิด! ศัตรูอยู่ตรงหน้า คุณธรรมอยู่ที่ใด? ”ในเวลานี้หลี่เซวียนองค์ชายหกยืนขึ้น: “เสด็จพ่อ กระหม่อมมีวิธีแก้ไขวิกฤตในเมืองหลวงพะยะค่ะ!”ดวงตาของฝ่าบาทเป็นประกายขึ้น: “เจ้าหก เจ้าฉลาดและมีไหวพริบมาตั้งแต่เด็ก! วิธีที่ว่าคืออะไร ไหนลองพูดมาสิ! ”หลี่เซวียนเอ่ยขึ้น: “ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน!การต่อต้านทหารม้าเผ่าหมาน จำเป็นต้องมีผู้นำทัพชั้นยอด! ภายใต้การบัญชาทัพของเสด็จพ่อ แล้วยังมีราชองครักษ์อ
ฝ่าบาทตกตะลึงเขาคิดไม่ถึงว่าฮูหยินผู้เฒ่าซูจะขอพระราชทานสมรสจริงๆอีกทั้งยังขอพระราชทานสมรสกับองค์ชาย!การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ จะทำเหมือนเป็นเรื่องเล่นขายของของเด็กๆได้ยังไง?ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือการพระราชทานสมรส ต้องให้ความสำคัญกับคู่ที่เหมาะสมพูดตรงๆ ก็คือการแต่งงานทางการเมืองสนมขององค์ชาย ถ้าไม่เป็นองค์หญิงของต่างแคว้น ก็เป็นบุตรสาวของขุนนางที่มีอํานาจหากผู้ชายในตระกูลซูยังอยู่ ในฐานะหัวเรือใหญ่ที่เฝ้าชายแดนทางเหนือ ตระกูลซูก็มีคุณสมบัติที่จะแต่งงานกับราชวงศ์แต่ตอนนี้ตระกูลซูเหลือเพียงเด็กกำพร้าและแม่ม่าย ไร้ค่าที่จะกล่าวถึงแม้ว่าตนเองตกลงที่จะพระราชทานสมรส แต่องค์ชายก็อาจไม่เห็นด้วย!เมื่อเห็นความลังเลของฝ่าบาท เว่ยซวินจึงเอ่ยด้วยเสียงต่ำ:" ฝ่าบาทสิ่งสําคัญที่สุดในตอนนี้คือระงับความโกรธของประชาชน หากพระองค์พระราชทานสมรสให้กับตระกูลซู และประหารองค์ชายเก้าได้ ความโกรธของประชาชนก็จะหายไป! ”ฝ่าบาทพยักหน้าใช่!ตอนนี้ต้าเซี่ยคลอนแคลน สถานการณ์ของราชวงค์ไม่แน่ชัดตนเองจะคิดไกลขนาดนั้นไปทำไม?สำหรับประชาชนตระกูลซูมีบารมีสูงมาก หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ทํ
ฝ่าบาทส่ายหัวครั้งแล้วครั้งเล่า: “ไร้เหตุผล! ไร้เหตุผลสิ้นดี! ฮูหยินผู้เฒ่าซู เว้นแต่เจ้าจะมีเหตุผล สามารถโน้มน้าวใจข้าได้! ไม่อย่างนั้น ข้าจะไม่มีวันประทานสมรสที่ไร้เหตุผลเช่นนี้! ”ฮูหยินผู้เฒ่าซูกัดฟันเอ่ย: “ฝ่าบาท! หม่อมฉันเกลียดหลี่หลงหลินจริงๆ และเขาต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง! แต่แค่ฆ่าเขาด้วยมีดมันจะง่ายเกินไป! ”“หม่อมฉันต้องการให้หลี่หลงหลินเป็นลูกเขยของตระกูลซู เป็นวัวและม้าให้กับตระกูลซู และทรมานเขาอย่างสาสม!”“ทำให้เขาขอมีชีวิตรอดก็ไม่ได้ ขอตายก็ไม่ได้!”“ฝ่าบาท เมื่อครู่พระองค์เพิ่งตรัสว่า ให้หม่อมฉันจัดการกับหลี่หลงหลิงได้ตามใจชอบ! คำพูดพระองค์หนักแน่นดั่งภูผา จะกลับคำไม่ได้เพคะ! ”ทั้งราชสำนักตกอยู่ในความเงียบพูดตามตรง เหตุผลของฮูหยินผู้เฒ่าซู แม้จะดูขัดๆไม่สมเหตุสมผลไปหน่อย แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ตอนนี้ตระกูลซูไม่มีผู้ชาย มีเพียงกลุ่มแม่ม่าย ซึ่งทุกคนอยู่ในวัยที่อารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรงบวกกับซูเฟิ่งหลิงที่มุทะลุดุดันหลี่หลงหลินเข้าสู่ตระกูลซู และกลายเป็นผู้ชายคนเดียว เขาจะต้องถูกกินทั้งเป็นอย่างแน่นอน!แค่คิดก็ทําให้คนขนลุกซู่แล้ว!ดวงตาของฝ่าบาทเป็นประกาย สีหน้าเผยค
จวนขององค์ชายสี่หลี่จือเงยหน้าหัวเราะลั่น “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เจ้าเก้าสุดท้ายก็ทนไม่ไหว ต้องเรียกกองกำลังเขาทิศประจิมเข้าวังจนได้! ดูเหมือนในวังจะเกิดเรื่องใหญ่จริงๆ! นี่แหละ โอกาสของข้ามาถึงแล้ว!”เซียวเม่ยเอ๋อร์ที่เชื่อฟังและปฏิบัติตามทุกอย่าง พิงอยู่ข้างหลี่จือ พร้อมรอยยิ้มเย้ายวน “นี่เป็นโอกาสดีที่สวรรค์ประทานให้! ข้าขออวยพรให้องค์ชายสี่ได้รับชัยชนะ และขึ้นครองบัลลังก์!”หลี่จือชะงัก “เจ้าจะไม่เข้าวังไปกับข้าหรือ หรือว่าเจ้าไม่อยากเห็นเจ้าเก้าถูกจับกุมและถูกประหารด้วยตาตัวเองหรือ?”เซียวเม่ยเอ๋อร์หัวเราะเบาๆ “ข้าเป็นเพียงสตรี! เรื่องที่ต้องเห็นเลือดขอข้ามเถอะ! ให้ท่านราชครูไปกับท่านแทนเถิด!"หลี่จือพยักหน้าเหตุผลที่เขาอยากให้เซียวเม่ยเอ๋อร์ไปด้วยก็เพราะกองทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือพันนายเหล่านี้ รับคำสั่งจากเซียวเม่ยเอ๋อร์หรือเซียวเซวียนเช่อเท่านั้นในเมื่อเซียวเม่ยเอ๋อร์ไม่ไป เซียวเซวียนเช่อไปก็เหมือนกัน!ยิ่งไปกว่านั้น ราชครูชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ยังเป็นคนที่เฉลียวฉลาดและเปี่ยมด้วยเล่ห์กลในช่วงเวลาสำคัญ เขาอาจกลายเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้แผนการสำเร็จลุล่วง!หลี่จื
ฮ่องเต้หวู่ฟังเรื่องราวจบลง ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นเยียบ ความหนาวเหน็บแล่นผ่านทั่วร่าง เลือดในกายราวกับจะแข็งตัว!เว่ยซวินเองก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกที่แท้ เรื่องราวนี้กลับมีเบื้องหลังซับซ้อนถึงเพียงนี้!ทั้งหมดล้วนเป็นแผนการของเสิ่นชิงโจว!แต่เสิ่นชิงโจวแม้จะวางแผนรอบคอบเพียงใด ก็พลาดไปจุดหนึ่งนั่นคือ หลี่หลงหลินสามารถถอนพิษสารหนูได้!ฮ่องเต้หวู่จึงยังไม่สิ้นพระชนม์!“สตรีชั่วช้า!”ฮ่องเต้หวู่ทรงกริ้วจนพระวรกายสั่นสะท้าน “พยุงข้าไปพบนาง! ข้าจะต้องถามนางให้รู้เรื่องต่อหน้า...”สายตาของหลี่หลงหลินพลันวูบไหว ก่อนจะกล่าวเกลี้ยกล่อม “เสด็จพ่อ ตามความเห็นของลูก ตอนนี้ท่านควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฮองเฮาหลู่ไปก่อนจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะถามด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไมล่ะ? เจ้ากลัวว่าถ้าข้าเห็นนางแล้ว ข้าจะโกรธจนทำร้ายร่างกายตัวเองหรือ? เจ้าวางใจได้ ข้าไม่ได้ใจแคบถึงเพียงนั้น! ข้าเพียงอยากตำหนิสตรีชั่วช้านี่ด้วยตัวเองเท่านั้น...”หลี่หลงหลินรีบอธิบาย “เสด็จพ่อ ลูกไม่ได้หมายความเช่นนั้น! แต่แผนการของเสิ่นชิงโจวนั้นยังไม่จบ ยังมีหมากตัวต่อไป! หากเสด็จพ่อแสร
ไม่นานนักเว่ยซวินนำชามโจ๊กเข้ามา ค่อยๆ ป้อนให้ฮ่องเต้หวู่ทีละนิดฮ่องเต้หวู่เริ่มกลับมามีเรี่ยวแรง สีหน้าดูสดใสมากขึ้น“เจ้าเก้า...”ฮ่องเต้หวู่หันมามองหลี่หลงหลิน “ข้าหมดสติไปนานแค่ไหน?”หลี่หลงหลินตอบ “เพียงหนึ่งคืนพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึง “ที่ข้าถูกวางยาพิษ เป็นพิษสารหนูจริงหรือ?”หลี่หลงหลินตอบ “จริงพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่หันไปมองซุนชิงไต้ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ไม่เสียทีที่ได้ชื่อว่าหมอเทวดาซุน แม้แต่พิษสารหนูที่ไม่มีทางรักษา ยังสามารถถอนพิษได้!”ซุนชิงไต้รีบตอบด้วยความถ่อมตน “ฝ่าบาท หม่อมฉันเองก็จนปัญญากับพิษสารหนูนี้! ทุกสิ่งล้วนต้องยกความดีความชอบให้กับองค์ชายเก้า ที่ใช้วิธีอันเหลือเชื่อหลายอย่างช่วยพระองค์จนฟื้นขึ้นมาได้ หม่อมฉันเองยังรู้สึกทึ่ง! หม่อมฉันยังได้รับการสั่งสอนด้วย!”สีหน้าของฮ่องเต้หวู่พลันมืดครึ้มลงทันทีในความทรงจำที่เลือนราง เขายังคงจำเรื่องราวเมื่อวานได้บางส่วนความเจ็บปวดนั้นช่างรุนแรงยิ่งนัก!จนกระทั่งฮ่องเต้หวู่คิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความจริง แต่เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายจากขุมนรกแต่เมื่อซุนชิงไต้กล่าวเช่นนี้ ฮ่องเต้หวู่ก็
ทั้งสองฝ่ายยังคงยืนกรานในขณะนั้นเอง ไม่มีใครสังเกตว่าฮ่องเต้หวู่ซึ่งนอนอยู่บนเตียง เริ่มขนตาสั่นไหวเล็กน้อยที่จริงแล้ว สติสัมปชัญญะของฮ่องเต้หวู่กำลังค่อยๆ ฟื้นคืนเพียงแต่ร่างกายอ่อนแอยิ่งนัก ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตาใครกันที่ส่งเสียงโหวกเหวกอยู่ข้างกายข้า?อ้อ ดูเหมือนจะเป็นเว่ยซวินกับเจ้าเก้ากำลังโต้เถียงกัน! ช่างไม่มีมารยาทเอาเสียเลย รบกวนการพักผ่อนคนอื่น!ไม่สิ ข้าไม่ได้ฝันไปนี่นา เหมือนว่าข้าจะถูกวางยา ใช่แล้ว พิษสารหนู!ความทรงจำพลันย้อนกลับมาอย่างรวดเร็ว ฮ่องเต้หวู่ตระหนักได้ทันทีว่าตนเองถูกพิษเล่นงาน!และยิ่งไปกว่านั้น มันคือพิษสารหนูที่ไร้ทางรักษา!ข้าตายแล้วหรือ?เฮ้อ!ข้ายังไม่อยากตายเลย!ทั้งที่ข้าตัดสินใจอย่างยากลำบากว่าจะปฏิรูปแผ่นดินให้รุ่งเรืองยิ่งใหญ่ สร้างยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ให้กับต้าเซี่ย เพื่อให้ราษฎรทั้งแผ่นดินได้ใช้ชีวิตอย่างผาสุก ให้เสิ่นชิงโจวผู้ทรยศได้เห็น!แต่สุดท้าย กลับต้องมาถูกพิษสารหนูที่ไร้ทางรักษา!ออกศึกยังไม่ทันสำเร็จ กลับต้องมาสิ้นชีพเสียก่อน!ข้า...ไม่อยากตาย!แต่ยังดี ที่ข้ายังมีลูกชายที่ดี!เจ้าเก้า ภารกิจที่ยังไม่สำเร็จของข
หลี่จือมองไปยังลานกว้างที่เต็มไปด้วยทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือนับพันนายในชุดเกราะถืออาวุธ หัวใจของเขาพลันร้อนรุ่ม!เจ้าหก สิ่งที่เจ้าไม่อาจทำได้!พี่คนนี้จะทำแทนเจ้าเอง!เมื่อพี่ได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ จะออกพระราชโองการ ล้างมลทินให้เจ้าอย่างแน่นอน!ท่านแม่...ลูกคนนี้จะต้องสังหารหลี่หลงหลิน เพื่อแก้แค้นให้ท่านอย่างสาสม!ในความคิดของหลี่จือ ภาพของฉินกุ้ยเฟยและองค์ชายหกหลี่เซวียนผุดขึ้นมาอย่างชัดเจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะบุกเข้าไปในพระราชวังทันที เพื่อโค่นล้มราชวงศ์และเปลี่ยนแปลงแผ่นดินแต่แล้วหลังจากความตื่นเต้นชั่วครู่ หลี่จือกลับสงบใจลงอย่างฉับพลันบทเรียนที่เคยได้รับมา สอนเขาให้รู้จักระมัดระวังแม้หลี่จือจะโง่เขลาสักเพียงใด แต่การที่เคยพ่ายแพ้ต่อหลี่หลงหลินมานับครั้งไม่ถ้วน เขาจำต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง และครุ่นคิดให้รอบคอบทุกครั้งเมื่อเผชิญเหตุการณ์ต่างๆ“อย่าเพิ่งรีบร้อน!”“หลี่หลงหลินผู้นี้ เจ้าเล่ห์เพทุบาย ไร้ยางอายและเต็มไปด้วยเล่ห์กลสารพัด!”“เราควรรอข่าวจากในวังอีกสักหน่อย!”“ยืนยันให้แน่ชัดว่าเสด็จพ่อสิ้นพระชนม์จริงๆ แล้วค่อยลงมือ!”หลี่จือกัดฟันอดทนต่อความอ
เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งการเปลี่ยนแปลงในราชสำนักที่ไม่ชอบมาพากล!เซียวเม่ยเอ๋อร์เดินย่างกรายเข้ามาอย่างอ่อนช้อย อาภรณ์บางเบา นัยน์ตาอันงดงามดั่งดอกท้อแย้มชวนหลงใหลยากถอนตัว “สวามี มีเรื่องใดที่ทำให้ท่านกลัดกลุ้มหรือ?”หลี่จือขมวดคิ้วแน่น “ในวังอาจเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น! แต่...มันคือเรื่องอะไรกันแน่! แม้แต่ข้าก็ยังไม่รู้แน่ชัด...”เซียวเม่ยเอ๋อร์โน้มตัวเข้าใกล้ กระซิบเบาๆ ข้างหูของหลี่จือ เสียงอ่อนหวานอ่อนละมุน “แม้สวามีจะไม่รู้ แต่ข้ารู้...”หลี่จือสะดุ้งตื่นตกใจ มองเซียวเม่ยเอ๋อร์ด้วยความตกตะลึง “เจ้ารู้ว่าในวังเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ? หรือว่ามันจะเป็นแผนการของอาจารย์ของฮ่องเต้? รีบบอกข้ามา เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”เซียวเม่ยเอ๋อร์กล่าวเสียงเบา “เป็นไปได้ว่า ฮ่องเต้หวู่สวรรคตแล้ว!”พรึ่บ...“หลี่จือดุจต้องสายฟ้าฟาด เสียงอึกทึกก้องสะท้านในหัวจนมิอาจตั้งตัวได้เสด็จพ่อสวรรคตแล้วหรือ?นี่...นี่เป็นไปได้อย่างไร!แต่ว่า หากเซียวเม่ยเอ๋อร์กล่าวเช่นนี้ ก็ย่อมหมายความว่าแผนการของอาจารย์ของฮ่องเต้เสิ่นชิงโจวสำเร็จผลแล้ว พวกเขาย่อมได้ยินข่าวลือบางอย่างมาจากที่ใดที่หนึ่ง!“ทำไม...”“
ฮองเฮาหลู่ถูกกักตัวไว้ในตำหนักบรรทม โดยมีขันทีคนสนิทสองคนของเว่ยซวินเฝ้าอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันเมื่อหลี่หลงหลินก้าวเข้ามา เว่ยซวินก็พาผู้ติดตามทั้งหมดถอยออกไปทันทีขันทีใหญ่ช่างรู้จักสถานการณ์ในที่อย่างวังหลัง ยิ่งรู้อะไรมากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสตายเร็วเท่านั้น!“เจ้าเก้า!”ฮองเฮาหลู่เงยหน้าขึ้น ดวงตาเปล่งประกายมองไปยังหลี่หลงหลิน พร้อมรอยยิ้มบาง “เจ้ามาแล้ว!”ขันทีใหญ่ไม่ได้รังแกนาง ยังคงให้นางรักษาความสง่างามของฮองเฮาไว้อย่างครบถ้วนหลี่หลงหลินพึมพำเบาๆ “ข้าไม่น่ามาเลย!”ฮองเฮาหลู่ดูเหมือนไม่เข้าใจว่าหลี่หลงหลินกำลังหยอกล้อ นางขมวดคิ้วเรียวแน่น “ไม่ว่าเจ้าจะพูดเรื่องอะไร! แต่ในเมื่อเจ้ามาหาข้า เช่นนั้นย่อมหมายความว่าฮ่องเต้หวู่ได้สิ้นพระชนม์แล้ว! พิษได้แสดงฤทธิ์จนเกินเยียวยา!”พิษสารหนูไร้ทางรักษาในเรื่องนี้ ฮองเฮาหลู่มั่นใจเต็มเปี่ยมในสายตานาง ฮ่องเต้หวู่ย่อมต้องสิ้นพระชนม์ไปแล้ว!การที่องค์ชายเก้าเดินทางมาพบนาง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการเจรจาข้อตกลงแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเสี่ยง!แต่ครั้งนี้ นางเป็นฝ่ายชนะ!ริมฝีปากของฮองเฮาหลู่ยกยิ้มเย็นชา “เจ้าเก้า ข้า
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังโต้เถียงกัน พลันมีเสียงอันแผ่วเบาดังขึ้นว่า“ข้าเชื่อใจเจ้าเก้า... สหายเว่ย จงทำตามที่องค์ชายเก้าบอกเถิด”ที่แท้ ฮ่องเต้หวู่ทรงได้สติขึ้นมาเมื่อใดก็ไม่อาจรู้ได้ ทว่าสารพิษในพระวรกายยังไม่จางหายจนหมดสิ้น ยามเปล่งเสียงจึงดูอิดโรย และยังมิอาจลืมพระเนตรได้ง่ายๆเว่ยซวินพลันปีติยินดีจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ คุกเข่าลงเบื้องหน้าพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฝ่าบาท! ทรงฟื้นแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ? ช่างเป็นพรจากสวรรค์ และแรงอำนวยพรของเหล่าบรรพชนโดยแท้! กระหม่อมจะทำตามที่องค์ชายเก้าสั่งทุกประการพ่ะย่ะค่ะ...”กล่าวจบ เว่ยซวินก็รับผงถ่านกัมมันต์จากมือหลี่หลงหลินมาโขลกให้ละเอียด แล้วนำขึ้นถวายให้ฮ่องเต้หวู่เสวย แม้รสชาติจะขื่นขมจนยากกลืนลงคอ แต่ไม่นานนัก พระอาการปวดท้องของฮ่องเต้หวู่ก็บรรเทาลงอย่างเห็นได้ชัด ความอึดอัดในกระเพาะก็บรรเทาไปมากแต่ถึงกระนั้น พระวรกายของฮ่องเต้หวู่ยังคงอ่อนแรง เหมือนจะหลับทุกขณะซุนชิงไต้ตรวจชีพจรอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“พิษสารหนูซึมเข้าสู่พระวรกายแล้ว และแผ่ลึกจนถึงจุดที่ยากจะเยียวยา!”หลี่หลงหลินชี้ไปยังถั่วเขียวสดที่เหลือ พล
ของสามอย่างที่หลี่หลงหลินต้องการกลับหาไม่ยากเว่ยซวินสั่งคนให้ส่งมายังห้องทรงพระอักษรโดยตรงหลี่หลงหลินครุ่นคิด สั่งให้ซูเฟิ่งหลิงกลับบ้าน ไปนำถ่านกัมมันต์บางส่วนกลับมา“ถ่านกัมมันต์?”ซูเฟิ่งหลิงเผยสีหน้างุนงง “ท่านหมายถึง สิ่งที่พี่สะใภ้รองนำมาทำน้ำตาลอ้อยน่ะหรือ? ที่บ้านมีก็มีจริง แต่มีประโยชน์อะไร?”หลี่หลงหลินร้อนใจ พูดว่า “เจ้าอย่าถามอีกเลย! อย่างไรเสียก็มีประโยชน์มาก!”ซูเฟิ่งหลิงไม่ถามมากอีก รีบกลับไปนำถ่านกัมมันต์มาจากจวนสกุลซูอีกด้านหนึ่งหลี่หลงหลินให้ซุนชิงไต้ช่วยเหลือ นำไข่ขาวออกมา จากนั้นเริ่มกรอกใส่ปากฮ่องเต้หวู่แท้จริงแล้ว ฮ่องเต้หวู่ดื่มน้ำมูลเข้าไปมาก ฟื้นคืนสติกลับมาตั้งนานแล้วเพียงแต่อาเจียนออกไปหลายครั้ง ทำให้ฮ่องเต้หวู่คล้ายถูกสูบพลังไปจนหมด ร่างกายไม่มีแรงหลงเหลือเลยสักนิด เปลือกตาหนักคล้ายถูกกรอกตะกั่วตอนนี้เอง ปากของฮ่องเต้หวู่ถูกบีบเปิดออก กลิ่นคาวของไข่ขาวผสมนมวัว ถูกกรอกเข้ามา“เจ้าเก้า...”“เจ้าลูกอกตัญญู!”“เราใกล้จะตายอยู่แล้ว!”“เจ้าถึงขั้นยังให้เราดื่มของพรรค์นี้!”ภายในใจของฮ่องเต้หวู่ เปี่ยมความไม่พอใจคล้ายมีม้าโคลนหญ้านับหมื่นตัวว