แชร์

บทที่ 105

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
เพียงหลี่หลงหลินได้ยิน ทันใดนั้นก็คลี่ยิ้มแล้ว “พี่สะใภ้ใหญ่อ่อนโยนเป็นกุลสตรี ดีกว่าเสือโคร่งเฉกเช่นซูเฟิ่งหลิงคนนี้! ข้ากำลังอยากไปดูภายในร้านอยู่พอดี!”

ซูเฟิ่งหลิงถลึงตาใส่หลี่หลงหลินหนึ่งปราด พูดว่า “เขาไป ข้าก็ไม่ไปแล้ว! ข้าเพิ่งกลับจากภูเขาทิศประจิม เหนื่อยแทบตายแล้ว...”

สีหน้าฮูหยินผู้เฒ่าซูเข้มขึ้น ด่าออกมา “เจ้าเด็กคนนี้ เหตุใดดื้อเพียงนี้? ใช่หรือไม่ว่าเจ้าต้องการทำให้ข้าโมโหตาย เจ้าถึงจะพอใจ?”

ซูเฟิ่งหลิงได้ยินถ้อยคำนี้ ทันใดนั้นตกใจแย่แล้ว สีหน้าโศกเศร้าเสียใจ “ท่านย่า ข้าไป ข้าไปยังใช้ไม่ได้อีกหรือ?”

แม้ซูเฟิ่งหลิงไม่ยินยอมเยี่ยงไร แต่กลับทำได้เพียงไปร้านพร้อมหลี่หลงหลิน

มองเงาหลังของทั้งคู่ ฮูหยินผู้เฒ่าซูบ่นงึมงำ “เด็กน้อย ข้าช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้แล้ว!”

ณ ร้านขายผ้าสกุลซู

ร้านมีขนาดใหญ่มาก แต่กลับเงียบเหงาไร้ผู้คน ไม่มีลูกค้าแม้คนเดียว

มีเพียงลั่วอวี้จู๋ที่มีสีหน้าอมทุกข์ นั่งถอนหายใจอยู่หลังโต๊ะขายของเพียงลำพัง

มองเห็นหลี่หลงหลินและซูเฟิ่งหลิงมาแล้ว ลั่วอวี้จู๋รีบลุกขึ้น เปล่งเสียงดีใจปนตกตะลึง “องค์ชาย น้องหญิง เหตุใดพวกท่านมาได้เล่า?”

ใบหน้าซูเฟิ่งหลิงดำทึ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 106

    ซูเฟิ่งหลิงล้วนโง่งมแล้วเดิมนางคิดว่า สกุลซูสามารถทำเงินมหาศาลได้หนึ่งก้อน!คิดไม่ถึง ปัญหาใหญ่ถึงขั้นมาเยือนแล้ว!สีหน้าซูเฟิ่งหลิงกระวนกระวาย “พี่สะใภ้ใหญ่ ถ้าอย่างนั้นจะทำเยี่ยงไร?”ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้ว ถอนหายใจพลางพูด “พวกเราทอผ้ายิ่งได้มากเท่าใด ขาดทุนก็มากเท่านั้น! บัดนี้ทำได้เพียงหยุดผลิต จึงจะสามารถลดความเสียหายได้! หาไม่แล้ว ไม่เกินหนึ่งเดือน สกุลซูจะต้องล้มละลายเป็นแน่!”ซูเฟิ่งหลิงชะงักงัน ส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง “พี่สะใภ้ใหญ่ ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้! หากพวกเราหยุดผลิต เช่นนั้นพวกแม่ม่ายจะทำเยี่ยงไร? พวกนางยังรอเงินค่าจ้าง ส่งลูกเข้าสำนักศึกษาอยู่นะ”ลั่วอวี้จู๋พูดอย่างลำบากใจ “ข้าย่อมรู้ดี! แต่ นี่เป็นเพียงหนทางเดียวในตอนนี้!”หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ พูดว่า “ไม่! ข้ากลับคิดว่า สกุลซูจะต้องสามารถรอดพ้นจากอุปสรรคในครานี้ไปได้เป็นแน่! พวกเราไม่เพียงไม่สามารถหยุดการผลิตได้ มิหนำซ้ำยังสามารถขยายขนาดให้ใหญ่ยิ่งขึ้นได้อีกด้วย!”ลั่วอวี้จู๋มองหลี่หลงหลินอย่างเหลือจะเชื่อ พูดไม่ออก “องค์ชาย ท่านเสียสติไปแล้ว? ท่านเองก็เห็นแล้ว นานมากเพียงนี้ ไม่มีลูกค้าแม้คนเดียว...”หลี่หลงห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 107

    เผ่าหมานลงใต้ โจมตียึดเมือง ยึดได้ราวห้าเมืองราษฎร์ทางเหนือของต้าเซี่ย เพื่อหลีกหนีไฟสงคราม ต่างพากันหนีเอาตัวรอดมายังเมืองหลวง กลายเป็นผู้ลี้ภัยเพียงแต่ฮ่องเต้หวู่คิดไม่ถึง ผู้ลี้ภัยมีมากเพียงนี้!หนึ่งแสนคน!นั่นคือหนึ่งแสนปากเชียวนะ!หากดูแลไม่ดี จะต้องเกิดความโกลาหลเป็นแน่!ฮ่องเต้หวู่ออกคำสั่งในทันใด “เหตุใดไม่รีบพูดตั้งแต่แรก? รีบเรียกขุนนางใหญ่ของสำนักเลขาธิการ มาหารือเรื่องนี้!”เว่ยซวินค้อมตัวลง “น้อมรับพระบัญชา”พระบรมราชโองการถ่ายทอดลงมา ขุนนางใหญ่ของสำนักเลขาธิการต่างพากันเข้าวัง มาปรึกษาหารือต่อเบื้องพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่อย่างกระตือรือร้นขุนนางใหญ่เห็นพ้องต้องกัน สนับสนุนการตัดสินพระทัยของฮ่องเต้หวู่ จะต้องตั้งถิ่นฐานใหม่ให้ผู้ลี้ภัยอย่างเหมาะสมจากนั้น พวกเขาแต่ละคนยื่นมือออกมา หันทางฮ่องเต้หวู่เพื่อขอเงิน!ผู้บัญชาการย่อมไม่ปล่อยให้ผู้อยู่ใต้อาณัติหิว!เสื้อผ้าอาหารที่พักอาศัยของผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคน ทุกด้านล้วนต้องจ่ายเงิน!นี่มิใช่เงินจำนวนน้อยๆ!เพียงฮ่องเต้หวู่ได้ยินว่าต้องการเงิน ชะงักงันในทันใด!เงินที่เราทำสงคราม ล้วนนำมาจากเว่ยซวินที่นั่นพวกเจ้าม

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 108

    ณ ภายนอกเมืองหลวง ผู้ลี้ภัยจากแดนเหนือจำนวนมากล้วนรวมกันอยู่ที่นี่พวกเขาตั้งกระโจมภายในพื้นที่ผู้ลี้ภัย หลังตั้งถิ่นฐานชั่วคราวแล้ว ก็พากันเข้าเมืองหลวง ซื้อของจำเป็นที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันตลาดที่เดิมทีเงียบเหงา ทันใดนั้นกลายเป็นเนืองแน่น ครึกครื้นขึ้นมาแล้วหลิวเกินเซิงเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเขาอายุสี่สิบกว่าปี สวมเสื้อหนังสกปรก ร้อนจนเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเต็มศีรษะ น่าสงสารมากอย่างเห็นได้ชัด“เมืองหลวงอากาศบ้านี่! เหตุใดถึงร้อนเพียงนี้!”หลิวเกินเซิงปาดเหงื่อเม็ดใหญ่เต็มศีรษะ ปากบ่นงึมงำแดนเหนือยังปกคลุมไปด้วยหิมะ อากาศหนาวพื้นเย็น เมืองหลวงเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิเดือนสาม หญ้างอกงามสกุณาโบยบินหลินเกินเซิงเองก็เป็นคนยากจน ค้าขายเล็กน้อยที่แดนเหนือ เงินในมือก็มีไม่กี่อีแปะ บนตัวสวมเสื้อหนังเพียงตัวเดียวอุณหภูมิของเมืองหลวงสูงมาก ไม่สามารถสวมเสื้อหนังได้แล้วหลิวเกินเซิงวางแผนซื้อผ้าหนึ่งพับ ให้ตนเองและคนในครอบครัวทำเสื้อผ้าบางๆ สวมใส่ปรากฏว่า หลิวเกินเซิงเดินมาหลายร้านแล้ว เพียงผ่านเข้าประตูยังไม่ทันแนะนำตัว ก็ถูกลูกจ้างใช้สายตาหมิ่นแคลนมองคนไล่ออกมาแล้ว“เมืองหลวงนี้...ก็มิใช

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 109

    หลิวเกินเซิงเผชิญหน้ากับเทพเจ้าแห่งความตายซูเฟิ่งหลิง ยังมีใบหน้าเจ้าเล่ห์ของหลี่หลงหลิน ไม่กล้าขัดขืนอย่างแท้จริงเขาทำได้เพียงยอมจำนน เดินมาที่ชั้นวางของอย่างเชื่อฟังหา?หลิวเกินเซิงยื่นมือไปลูบผ้า รู้สึกแปลกใจอยู่บ้างผ้านี้ทออย่างละเอียด มิใช่สินค้ามีตำหนิมองจากการทอดูแล้ว เป็นของดีจะต้องเทียบผ้าซงเจียงได้เป็นแน่หลิวเกินเซิงว้าวุ่นภายในใจในเมื่อมิใช่สินค้ามีตำหนิ น่ากลัวว่าตนเองต้องถูกกรรโชกเงินมากเป็นแน่!ครั้งนี้ ตนเองต้องล้มละลายแน่แล้ว!เสียงหลิวเกินเซิงสั่นเครือ “องค์ชายเก้า ผ้านี้ต้องจ่ายมากน้อยเพียงใด?”หลี่หลงหลินตอบ “แปดสิบอีแปะ!”หลิวเกินเซิงได้ยินราคา ทั้งตัวคนล้วนตะลึงงันเป็นไปได้เยี่ยงไร?เมื่อครู่เขาไปถามร้านอื่น แม้แต่ผ้าคุณภาพต่ำที่สุด หนึ่งผืนก็ราคาหนึ่งร้อยอีแปะแล้วยิ่งไปกว่านั้นคุณภาพผ้าผืนนี้ดีมากเพียงนี้ อย่างน้อยราคาก็ต้องสองร้อยอีแปะปรากฏว่าขายเพียงแปดสิบอีแปะ?ตนเองมิได้เข้าใจผิดกระมัง?หลิวเกินเซิงสงสัยว่าตนเองฟังผิดไป “เท่าใดนะ? แปดสิบตำลึง?”หลี่หลงหลินหลุดหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าคนต่างถิ่น ใช่หรือไม่ว่าฟังภาษากลางไม่เข้าใจ! แปดสิ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 110

    “ผ้าดีเพียงนี้ ขายเพียงแปดสิบอีแปะ ซื้อได้ก็ได้กำไรแล้ว!”“ผลประโยชน์นี้ไม่ตักตวงไม่ได้แล้ว!”“พอดีเลย พวกเราล้วนต้องซื้อผ้าตัดชุดใหม่!”“ทุกคนไปด้วยกันเถอะ!”คนพื้นเพเดียวกันเดินตามหลังหลิวเกินเซิง เดินทางไปยังร้านขายผ้าสกุลซูพร้อมกันณ จวนสกุลซูลั่วอวี้จู๋เพิ่งหลับไปได้ไม่นาน ก็ตกใจตื่นขึ้นมาแล้วไม่รู้เพราะสาเหตุใด หนังตานางกระตุกไม่หยุด รู้สึกกระวนกระวายภายในใจ คล้ายกำลังจะมีเรื่องเกิดขึ้นแล้วตอนนี้เอง เสียงตะโกนดังขึ้นหน้าประตู “ฮูหยินน้อย เกิดเรื่องแล้ว!”ลั่วอวี้จู๋รีบลุกขึ้นจากเตียง ผลักประตูเปิดออก พบว่าเป็นลูกจ้างส่งผ้าของร้านขายผ้าสกุลซู“เกิดเรื่องใด? อย่าลนลาน! พูดช้าๆ!”ลั่วอวี้จู๋สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง ตั้งสมาธิสีหน้าลูกจ้างตกตะลึงรับมือไม่ทัน “ฮูหยินน้อย เมื่อครู่ข้าไปส่งผ้าที่ร้าน บังเอิญพบคุณหนูใหญ่และองค์ชายเก้าบังคับซื้อบังคับขาย...”เพียงลั่วอวี้จู๋ได้ยิน ตกตะลึงสีหน้าเผือดซีด “ถึงขั้นมีเรื่องนี้?”ลูกจ้างพูดอย่างมั่นใจ “ข้าไม่มีวันมองพลาด! คุณหนูใหญ่ถือหอก ขวางประตูไว้! ลูกค้าคนนั้นตกใจแทบแย่แล้ว คุกเข่าขอความเมตตาบนพื้น....”“แย่แล้ว...แย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 111

    ซูเฟิ่งหลิงถลึงตามองหลี่หลงหลิน แล้วกัดฟันสีเงินของนางเจ้าคนสารเลวนี่ ต้องเป็นตัวซวยแน่ๆ!อยู่กับเจ้าทีไร ไม่เคยมีเรื่องดีเลย!หลี่หลงหลินยืนขึ้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ ท่านอย่าโกรธไปเลยนะ! เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของซูเฟิ่งหลิง ข้าสั่งให้นางปิดร้านเอง! ความผิดทั้งหมด ข้าหลี่หลงหลินจะเป็นผู้รับผิดชอบเองขอรับ!”ซูเฟิ่งหลิงเหลือบมองหลี่หลงหลินด้วยความประหลาดใจเฮอะ!ถือว่าเจ้ายังมีจิตสำนึกที่ดี!ลั่วอวี้จู๋ตะลึงงัน แววตาทั้งคู่จ้องมองไปที่หลี่หลงหลิน แล้วกล่าวด้วยความไม่เข้าใจ “องค์ชายเก้า เหตุใดเจ้าถึงต้องทำเช่นนี้?”หลี่หลงหลินก็พูดเสียงเรื่อยเฉื่อย “ช่วงเวลาพิเศษ ก็ต้องทำเรื่องที่พิเศษ! สถานการณ์ของตระกูลซูมาถึงจุดที่ร้ายแรงมาก! จำเป็นต้องใช้วิธีการที่คาดไม่ถึงเพื่อทำลายสถานการณ์นี้ขอรับ!”ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วอันงดงามของนางพร้อมกล่าวว่า “ทำลายสถานการณ์ที่เจ้าว่าคือการบังคับให้ซื้อหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าแล้วกล่าวอย่างมั่นใจว่า “ใช่แล้ว”ลั่วอวี้จู๋แค่นเสียงเย็นชากล่าวว่า “แล้วการค้าขายเช่นนี้ องค์ชายเก้าหาเงินได้เท่าไร?”หลี่หลงหลินก็หันไปพูดกับซูเฟิ่งหลิง “เอาเงินที่ขา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 112

    และทันใดนั้นคนจำนวนนับไม่ถ้วนก็พากันแห่เข้ามาในร้านขายผ้าสกุลซู เหยียบจนธรณีประตูร้านแตกหักแล้ว“นี่เป็นผ้าที่ดีที่สุดที่ข้าเคยเห็นมา!”“ผ้าดีๆ แบบนี้ขายในราคาเพียงสิบแปดเหวินเท่านั้นจริงๆ หรือ?”“สมองของเจ้าของร้านต้องมีปัญหาแน่นอน!” “ทุกคนรีบไปซื้อกันเถอะ ใกล้จะมืดแล้วเดี๋ยวร้านปิดเอา!”“ข้าอยากได้ผ้าหนึ่งผืน!”“ข้าอยากได้สองผืน!”“...”ผู้ลี้ภัยเหล่านี้แท้จริงแล้วไม่ได้มาสร้างความเดือดร้อน แต่มาแย่งกันซื้อผ้าเพียงแค่ชั่วพริบตานั้น กิจการของร้านขายผ้าสกุลซูจากที่ไม่มีใครเอ่ยถึง ตอนนี้ได้กลายเป็นที่นิยมแล้วซูเฟิ่งหลิงและหลี่หลงหลินรับผิดชอบการขายที่หน้าร้าน ส่วนลั่วอวี้จู๋อยู่หลังโต๊ะคิดเงิน ทำหน้าที่รับเงินและคิดบัญชีลูกค้ามีจำนวนมากเกินไปจริงๆทั้งสามคนยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหอบหายใจซูเฟิ่งหลิงและลั่วอวี้จู๋เห็นร้านขายดีเช่นนี้ ก็ไม่เพียงแต่มีความสุขเท่านั้น แต่ในใจก็ยังรู้สึกประหลาดใจด้วยนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?เห็นได้ชัดว่าหลี่หลงหลินเป็นคนบังคับให้ซื้อ และทำลายชื่อเสียงของสกุลซูแต่เหตุใดกิจการถึงได้ขายดีขนาดนี้!ไม่เพียงเท่านั้นนี่ก็คือเจตนาของหลี่หลง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 113

    “แบบนี้ไม่เท่ากับช่วยเหลือพวกวิปลาสหรือ?”ผู้ลี้ภัยทุกคนต่างตกใจดินแดนทางเหนือเป็นดินแดนที่ยากจนข้นแค้น เมื่อเทียบกับที่ศรีวิไลอย่างเมืองหลวงที่มีแสงสีมากมายและพิลึกพิลั่นแห่งนี้ข่าวที่ว่าองค์ชายเก้าเป็นโรคตะวันพันมังกรและชอบบุรุษนั้นน่าตกใจมากสำหรับพวกเขา และมันก็ได้ทำลายศีลธรรมอันดีงามทั้งหมดลงทันทีมันขัดต่อจริยธรรมของมนุษย์ และเป็นความผิดที่เลวร้ายมาก!ตนกลับซื้อผ้าจากคนชั่วร้ายคนหนึ่ง นี่ไม่เท่ากับช่วยเหลือเผด็จการหรือ?แต่เหล่าผู้ลี้ภัยถือผ้าราคาถูกและหนาเอาไว้ พวกเขาไม่อาจทำใจวางลงได้หลิวเกินเซิงถามอย่างอึกอักว่า “องค์ชายเก้า เจ้าชอบบุรุษจริงๆ หรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้น ผ้าเหล่านี้พวกข้าไม่ซื้อแล้ว...”เมื่อซูเฟิ่งหลิงได้ยินอย่างนั้น แก้มของนางพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที นางรีบถอยหลังกลับไปลั่วอวี้จู๋รู้เรื่องราวภายในเป็นอย่างดี ก่อนจะถลึงตามองซูเฟิ่งหลิง “ดูเรื่องงามไส้ที่เจ้าทำสิ!”ซูเฟิ่งหลิงมีสีหน้าเศร้าโศก ก่อนจะเอ่ยอย่างน่าสงสาร “ข้าก็แค่นึกสนุก ถึงได้ลงมือทำอย่างหุนหันพลันแล่น แต่ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะเกิดเรื่องใหญ่ในเมืองหลวงเช่นนี้...”“เฮ้อ!”ลั่วอวี้จู๋ถอ

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 976

    “น่าเสียดายก็เพียงแต่ มีคนไม่ยอมให้เสด็จย่าท่านได้อยู่อย่างสุขสบาย ยุยงให้เข้าใจผิด ทำให้ท่านต้องทนต่อความหนาว!”หลี่หลงหลินเหลือบมองหลี่เทียนฉี่แวบหนึ่ง บอกเป็นนัยสวบ!สีหน้าแดงเรื่อของหลี่เทียนฉี่กลายเป็นดำดุจตับหมูฝันไปก็คาดไม่ถึงหลี่หลงหลินเจ้าเด็กคนนี้ถึงขั้นพลิกสถานการณ์กล่าวหาผู้อื่นสวมหมวกเด็กอกตัญญูลงบนศีรษะตน!“เสด็จย่า!”หลี่เทียนฉี่สูญเสียความใจเย็นไปในทันใด พูดแก้ตัว “ท่านอย่าฟังคำยุแยงของเขาเป็นอันขาด! นี่เขากำลังใส่ร้ายคน!”หลี่หลงหลินเลิกคิ้วขึ้น “องค์ชายใหญ่ เราไม่ได้เอ่ยชื่อ ท่านกลับร้อนตัวกระโดดออกมา นี่มิใช่กำลังยอมรับผิดหรือ?”เราและตัวเราล้วนเป็นคำแทนตัวของรัชทายาทหลี่หลงหลินใช้น้อยมากโดยเฉพาะคำว่าเรา รู้สึกไม่เป็นมงคลอยู่บ้างหลี่หลงหลินไม่อยากเป็นเหมือนฮ่องเต้หวู่ ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครเข้าใจทว่า ยามอยู่ต่อหน้าหลี่เทียนฉี่ หลี่หลงหลินกลับตั้งใจใช้คำว่า “เรา” ที่มีความนัยท้าทายต้องรู้ว่าตอนที่หลี่เทียนฉี่เป็นรัชทายาท ก็แทนตนเองว่าเราอย่างนั้นเราอย่างนี้เพื่อแสดงออกว่าตนเองไม่เหมือนผู้อื่น!ดังคาดมุมปากหลี่เทียนฉี่กระตุกริก สีหน้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 975

    ตำหนักฉางเล่อไม่มีเตาถ่านแม้เตาเดียว หนาวยิ่งกว่าภายนอก!ทุกคนสวมใส่แน่นหนาทั้งชั้นในและชั้นนอก ยังรู้สึกหนาวจนตัวสั่นเจ้าพูดว่าร้อนกับข้า?ไร้สาระ!หลี่เทียนฉี่ลุกออกมา เอ่ยปากเย้ยหยันอย่างไม่ไว้หน้า “รัชทายาท เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ! วันที่อากาศหนาวถึงเพียงนี้ คนใกล้หนาวตายเต็มที เจ้าพูดว่ากลัวพวกเราร้อน?”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “องค์ชายใหญ่ ในเมื่อท่านไม่กลัวร้อน เช่นนั้นก็สวมเสื้อผ้าไว้ อย่าถอดก็แล้วกัน!”องค์ชายใหญ่?หลี่เทียนฉี่ได้ยินคำเรียกขานนี้ สีหน้าแข็งทื่อในทันใดนับตั้งแต่ยังเด็กหลี่หลงหลินล้วนเรียกขานเขาว่าพี่ใหญ่เขาไม่ใส่ใจใยดีหลี่หลงหลิน ไม่เคยเรียกเขาว่าน้องชาย แต่เรียกเขาว่าเจ้าเก้าบัดนี้เวลาผ่านมานานมากแล้วหลี่หลงหลินเป็นรัชทายาท เป็นกษัตริย์ส่วนหลี่เทียนฉี่เจ้าแคว้นคนนี้เป็นขุนนางกษัตริย์และขุนนางแตกต่างกัน ย่อมไม่สนิทสนมกันถึงขั้นเรียกขานว่าพี่ใหญ่ไม่เรียกชื่อโดยตรง แต่เรียกว่าองค์ชายใหญ่ แท้จริงแล้วถือว่าไว้หน้ามากเพียงพอ!ทว่าหลี่เทียนฉี่กลับไม่อาจยอมรับในทันทีเลยได้“ฮึ”“ไม่ถอดก็ไม่ถอด!”หลี่เทียนฉี่สบถเสียงเย็นทีหนึ่ง “ข้ากลับอยากเห็นนัก เจ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 974

    ฮ่องเต้หวู่โกรธจัด ตะคอกออกมากลางงานเลี้ยงหลี่เทียนฉี่และเหล่าขุนนางเห็นสถานการณ์แล้ว แม้ว่าใบหน้าหวาดกลัว ตะโกนว่า “ฝ่าบาทระงับโทสะด้วย” แต่แท้จริงแล้วภายในใจกลับมีความสุขหลี่หลงหลิน!นี่เจ้ารนหาที่ตายเอง โทษคนอื่นไม่ได้!ครั้งนี้ดูว่าเจ้าจะเอาตัวรอดเยี่ยงไร!ขณะเดียวกัน หลี่หลงหลินกำลังพาซูเฟิ่งหลิงไปสนทนาเรื่องสัพเพเหระกับฮองเฮาหลินแม่สามีลูกสะใภ้เข้ากันได้ยากอุปนิสัยของฮองเฮาหลินสุขุมอ่อนโยน เข้าหาง่ายมากซูเฟิ่งหลิงกลับเซ่อซ่า มุทะลุวู่วามอุปนิสัยของแม่สามีและลูกสะใภ้แตกต่างกัน หลี่หลงหลินในฐานะลูกชาย ในฐานะสามี ย่อมต้องเป็นคนกลางเชื่อมความสัมพันธ์ ทำให้พวกนางเข้ากันได้ในเวลาอันสั้นป้องกันมิให้ภายภาคหน้าแม่สามีและลูกสะใภ้มีปัญหากัน คนปวดหัวก็คือตนเองได้ยินเสียงตะคอก ใบหน้างดงามโดดเด่นของฮองเฮาหลินเผยสีหน้าหวาดกลัว ตำหนิหลี่หลงหลิน “องค์ชาย แม่บอกแล้ว ว่าอย่าเล่นอะไรพิเรน! เสด็จพ่อเจ้ากริ้วไม่ผิดไปดังคาด!”“ถึงกระนั้น เจ้าก็ไม่ต้องกลัว!”“มีแม่อยู่ ไม่มีใครสามารถทำร้ายเจ้าได้!”“ต่อให้เป็นฝ่าบาทก็ไม่ได้...”เดิมทีสตรีอ่อนโยนบอบบาง ครั้นเป็นมารดากลับเข้มแข็งป

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 973

    หลี่เทียนฉี่กวาดมองรอบด้าน แปลกใจมากเช่นเดียวกันเจ้าเก้า ตกลงเจ้ากำลังทำอันใดอยู่กันแน่?เสด็จแม่ของเจ้ากำลังจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผา นี่มันซอมซ่อเกินไปแล้วกระมัง!เหล่าขุนนางแต่ละคนล้วนหนาวเหน็บ ความไม่พอใจก่อตัวขึ้นภายในใจสำหรับตนเอง นี่ยังไม่ใช่โอกาสอันดีที่สวรรค์ประทานให้อีกหรือ?ทว่า ในเมื่อนี่เป็นงานเลี้ยงที่ฮองเฮาหลินจัดขึ้น องค์ชายอย่างตนเป็นฝ่ายตะคอกโวยวาย ประท้วงใส่นางก่อน ย่อมไม่เหมาะสม“รอเสด็จพ่อมาถึง ละครสนุกก็จะเริ่มขึ้นแล้ว!”หลี่เทียนฉี่ยกมุมปาก เผยรอยยิ้มเย็นชา“ฮ่องเต้เสด็จ!”เสียงแหลมแหบพร่าของเว่ยซวินดังขึ้นที่หน้าประตูตำหนักทุกคนต่างลุกขึ้น ชะเง้อมองไปเห็นฮ่องเต้หวู่เดินเข้าตำหนักฉางเล่อ บนเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาๆ หนึ่งชั้น“หิมะตกหนักจริงๆ!”ฮ่องเต้หวู่ถอดเสื้อคลุมออก ทันใดนั้นความหนาวก็โจมตีเข้ามาระลอกหนึ่งเกิดอันใดขึ้น?เหตุใดภายในตำหนักฉางเล่อหนาวยิ่งกว่าภายนอกอีกเล่า?เข้าใจผิดไปหรือ?ฮ่องเต้หวู่หันหน้ามอง พบว่าเหล่าขุนนางที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยง แต่ละคนล้วนตัวสั่น จมูกยังมีหยดน้ำแข็งเกาะดูท่าแล้วไม่ใช่ตนเองคิดไปเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 972

    วันส่งท้ายปีเก่า หิมะโปรยปรายตำหนักฉางเล่อแขวนโคมไฟสว่างไสว บรรยากาศครึกครื้นไม่ธรรมดาเชื้อพระวงศ์และเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ต่างเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย“หิมะตกหนักถึงเพียงนี้ หนาวจะตายอยู่แล้ว เหตุใดถึงจัดงานเลี้ยงกันเล่า!”“วันหิมะตกหนักปกคลุมพื้น ข้าเกือบลื่นล้มบนพื้นไปแล้ว!”“อากาศเช่นนี้ออกจากใต้ผ้าห่มเท่ากับรนหาที่ตาย!”“ปีนี้ไม่ยอมให้คนอยู่อย่างสงบเลยจริงๆ!”ขุนนางสองสามคนมาถึงแล้วก็รวมตัวกัน แสดงความไม่พอใจของตนอากาศหนาวเหน็บ ลมพัดเย็นยะเยือกเสียดแทงกระดูก ผู้มาเยือนมีใครบ้างไม่สวมใส่เสื้อผ้าอย่างแน่นหนา ทำให้ตนเองคล้ายบ๊ะจ่างลูกหนึ่งองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่สวมใส่ชุดหรูหรางดงาม สวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำแกมทองยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าขุนนางเห็นว่าเหล่าขุนนางไม่พอใจถึงเพียงนี้ ก็ลอบรู้สึกลำพองใจอยู่รางๆหลี่เทียนฉี่กล่าวทักทาย “มาเข้าร่วมงานเลี้ยงท่ามกลางอากาศเช่นนี้ ความจงรักภักดีของทุกท่านมากเสียจนไม่อาจจำกัดความได้เลย!”ขุนนางคนหนึ่งเผยสีหน้าหดหู่ “องค์ชายอย่าล้อเล่นเลย ข้าอายุปูนนี้แล้วมิอาจทนต่อความทรมานได้พ่ะย่ะค่ะ”“ใช่แล้ว องค์ชาย หากไม่ใช่ฮองเฮาเป็นผู้เชิญมาเข้าร่วมง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 971

    “ก็แค่ติดตั้งท่อทำความร้อนเล็กน้อยเท่านั้น...”ไทฮองไทเฮาได้ยินถ้อยคำนี้ รู้สึกสบายอยู่บ้างจริงๆ จึงเอ่ยออกมา “เฮ้อ! เจ้าเก้าคนนี้ หากกตัญญูได้สักครึ่งหนึ่งของเจ้า ข้าก็พอใจแล้ว!”“เจ้าพูดถูกแล้ว เจ้าเก้าติดตั้งท่อทำความร้อนที่ตำหนักฉางเล่อ มิได้ติดตั้งที่ตำหนักฉือหนิงเสียหน่อย เกี่ยวอันใดกับข้าด้วยเล่า?”หลี่เทียนฉี่อ้ำอึ้ง “แต่ วันนี้หลานเข้าวัง บังเอิญได้ยินพวกขุนนางของสำนักโหรหลวงถกเถียงกัน ได้ยินเสียงซุบซิบนินทามาบ้าง ก็ไม่รู้เป็นความจริงหรือไม่”ไทฮองไทเฮาลอบตกตะลึงภายในใจ “พวกเขาพูดว่าอะไร?”หลี่เทียนฉี่กระซิบเสียงค่อย “พวกเขาพูดว่า ที่เจ้าเก้าดำเนินการก่อสร้างเอะอะเอิกเกริกภายในพระราชวังต้องห้าม ชุลมุนวุ่นวายถึงเพียงนี้ มิใช่เพื่อติดตั้งท่อทำความร้อน! อย่างไรเสีย ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องใช้ท่อทองเหลืองทำความร้อนมาก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”ไทฮองไทเฮาพยักหน้านางเองก็ไม่เชื่อเรื่องเครื่องทำความร้อนใต้พื้นดินตรงกันข้าม ได้ยินหลี่เทียนฉี่พูดว่าใช้ท่อโลหะ กลับน่าเชื่อถือมากกว่าเพียงแต่นางมีเรื่องที่คิดไม่ตกหลี่หลงหลินต้องการติดตั้งท่อทำความร้อนที่ตำหนักฉือหนิงเพื่อลอบฟังการเคลื่อนไหว

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 970

    ในพระราชวังต้องห้ามมีการวางท่อทำความร้อนใต้พื้น ในช่วงเวลาหนึ่ง ทุกหนทุกแห่งล้วนเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ไทเฮาทรงโปรดความเงียบสงบ เมื่อได้ยินเสียงขุดพื้นด้านนอกดังขึ้น ก็ไม่พอใจยิ่งนัก รับสั่งให้เกากงกงขันทีคนสนิทออกไปสืบดูว่าเกิดอะไรขึ้น ผลปรากฏว่า เกากงกงยังไม่ทันออกจากตำหนักฉือหนิง องค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่ก็มาถึง “ถวายบังคมเสด็จย่า!” หลี่เทียนฉี่สวมชุดปักลายหม่าง มาอยู่ต่อหน้าไทเฮา และโค้งคำนับ ไทเฮากระชับเสื้อนวมบนตัวแน่น เอ่ยด้วยความขุ่นเคือง “องค์ชายใหญ่ เจ้ามาได้จังหวะพอดี! ไปถามให้ข้าทีว่า ในวังเกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงได้เสียงดังเช่นนี้?” “เฮ้อ อากาศหนาวเย็นก็แย่แล้ว ยังจะเสียงดังอีก” “ยังจะให้คนอยู่อย่างสงบอีกหรือ!” หลี่เทียนฉี่แสร้งทำเป็นประหลาดใจ “เสด็จย่า พระองค์ยังไม่รู้หรือ? เป็นฝีมือของเจ้าเก้า! ให้คนมาขุดพื้นในวัง บอกว่าจะวางท่อทองแดง!” ไทเฮาตกใจมาก รีบเอ่ยว่า “เจ้าหมายถึงท่อทองแดงที่ใช้ดักฟังหรือ? ข้าได้พูดกับฮ่องเต้แล้ว ฮ่องเต้ก็ทรงรับปากแล้ว เรื่องนี้ยุติแล้ว! เหตุใดเจ้าเก้าจึงยังไม่ยอมเลิกรา ยังจะลงมือก่อสร้างอีก?” “หรือว่า แม้แต่คำพูดของฮ่องเต้ เขาก็

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 969

    ครู่ต่อมา ในที่สุดหลี่เทียนฉี่ก็ถอนหายใจยาว ยืนขึ้น “เดิมทีข้าไม่เต็มใจ แต่ในเมื่อพวกเจ้าวิงวอน ข้าก็จะฝืนใจ เพื่อพวกเจ้า!” “แต่ว่า พวกเจ้าต้องฟังคำสั่งของข้า!” เหล่าขุนนางต่างยินดี “พวกข้าล้วนทำตามคำสั่งขององค์ชายใหญ่!” “องค์ชายใหญ่ เพียงแค่พระองค์เป็นผู้นำ พวกข้าก็จะเข้าวังเข้าเฝ้า ทูลฟ้องรัชทายาท!” “เรื่องนี้ไม่ควรชักช้า พวกเราเข้าวังกันเถอะ!” หลี่เทียนฉี่ส่ายหน้า เอ่ยอย่างเย้ยหยัน “พวกเจ้าเหล่าขุนนางทูลขอมาแล้วกี่ครั้ง? โค่นเจ้าเก้าได้หรือไม่?” เหล่าขุนนางต่างก้มหน้า ไม่เอ่ยอะไร การทูลขอของเหล่าขุนนาง เป็นกลวิธีที่พวกเขาใช้จนชำนาญ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่เพียงใด เพียงแค่เหล่าขุนนางคุกเข่าที่หน้าท้องพระโรง และให้ขุนนางชราไม่กี่คนแสดงละครแกล้งฆ่าตัวตาย ฮ่องเต้หวู่ก็ต้องยอม! แต่กลวิธีนี้กลับใช้ไม่ได้กับหลี่หลงหลิน พวกเขาเหล่าขุนนางทูลขอมาหลายครั้งแล้ว หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่ไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย กลับเลื่อนขั้นได้เป็นรัชทายาทอย่างรวดเร็ว? เจ้ากรมพิธีการขมวดคิ้ว “องค์ชายใหญ่ เช่นนั้นท่านว่าควรทำอย่างไร?” เหล่าขุนนางต่างพยักหน้า “องค์ชายใหญ่ ท่านโปรดชี้แนะพวกข้า

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 968

    ฮ่องเต้หวู่อนุญาตโดยปริยาย เว่ยซวินไม่กล้าชักช้า เร่งระดมขันทีและองครักษ์เสื้อแพรไปหลายร้อยคน ฤดูหนาวหิมะโปรยปราย พระราชวังต้องห้ามอันวิจิตรตระการตา กลายเป็นสถานที่ก่อสร้างอันจอแจ งานดำเนินไปอย่างเร่งรีบ ความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นตระหนกให้แก่นางสนมในวังหลัง แม้แต่ขุนนางในราชสำนักก็รับรู้ “องค์รัชทายาททรงก่อสร้างครั้งใหญ่ในวัง ติดตั้งท่อทำความร้อนใต้พื้น ท่อที่วางนั้นทำจากทองเหลือง!” “นี่มันสิ้นเปลืองเกินไปแล้ว!” “ช่างเป็นการใช้ของล้ำค่าอย่างไร้ประโยชน์!” “ฟุ่มเฟือย ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว!” “ราชสำนักลำบากเพียงนี้ เบี้ยหวัดก็แทบจะจ่ายไม่ไหว องค์รัชทายาทกลับฟุ่มเฟือยอย่างไร้ยางอาย นำทองเหลืองราคาแพงฝังไว้ใต้ดิน!” “ใช่แล้ว เหตุใดพระองค์ไม่ทรงมอบเงินเหล่านี้ให้แก่พวกเรา? ให้พวกเราช่วยเหลือประชาชนที่น่าสงสารเหล่านั้น?” เหล่าขุนนางข้าราชการต่างรวมตัวกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา เหล่าขุนนางต่างโกรธแค้น! ฮ่องเต้หวู่ก็ใจแคบมากพอแล้ว ในคลังหลวงมีเงินนับสิบล้านตำลึง แต่กลับเก็บไว้แน่นหนา ไม่ยอมนำออกมาให้ตนเอง ไม่คิดว่า หลี่หลงหลินจะยิ่ง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status