Share

บทที่ 503

Author: ชาผลไม้
last update Last Updated: 2024-05-20 16:00:00
“กระหม่อมไปรายงานแล้วขอรับ บางทีพระชายาอาจเหนื่อยจากการตรวจบัญชี ดังนั้นจึงไม่...” เหลียงหยวนตอบตะกุกตะกัก

“เหอะ! นางช่างมีจิตใจที่กว้างใหญ่เสียจริง”

เย่เฟยหลียิ่งไม่พอใจมากขึ้น สตรีผู้นี้ไม่เพียงแต่รับสตรีนางอื่นมาตามอำเภอใจเท่านั้น แต่แม้แต่เขาไปที่เรือนของสตรีอื่น นางก็ยังไม่แม้แต่จะส่งคนมาดู

เมื่อเห็นเย่เฟยหลีจากไปแล้ว สี่เชว่ก็เข้าไปในห้อง แล้วเดินเข้าไปหาซุนจื่อซีก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว “คุณหนู ท่านอ๋องพูดอะไรหรือไม่เพคะ?”

“ไม่ เขาจะพูดอะไรก็ปล่อยให้เขาพูดไป” ซุนจื่อซีเบนสายตา แล้วกล่าวขึ้นว่า “เจ้าไปเก็บใบชามาแล้วตามข้าไปที่เรือนของชายาหลี”

“ทำไมล่ะเพคะ? คุณหนู บ่าวอยากถามมานานแล้ว บ่าวไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูดกับชายาหลีเรื่องการแข่งขันที่ยุติธรรมในวันนั้นเลย รูปร่างหน้าตาและพรสวรรค์ของท่านนั้นยอดเยี่ยมมาก บ่าวไม่คิดว่าท่านจะด้อยไปกว่าชายาหลีตรงใดเลย”

“เย่เซวียนเล่อและฉู่เนี่ยนซีนั้นแตกต่างกัน เย่เซวียนเล่อนั้นสามารถยั่วยุได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ แต่ด้วยนิสัยของฉู่เนี่ยนซี ยิ่งข้าพูดตรงมากเท่าไร นางก็ยิ่งระวังตัวน้อยลงเท่านั้น”

สี่เชว่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ และออกไปเตรียมตัว
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Dino Khamruangsri
โอ้ว จะให้นางร้ายมาทำไม ไม่เข้าใจเลย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 504

    ซุนจื่อซีตอบอย่างเกรงใจ “ไม่ดีกว่าเพคะ ถึงซีเอ๋อร์จะโง่เขลาเพียงใดก็เข้าใจมารยาท ขอบพระทัยพระชายามากเพคะ”หลังจากที่ซุนจื่อซีจากไปแล้ว ฉู่เนี่ยนซีก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างครุ่นคิดและเอ่ยถามเย่เฟยหลี “ซุนจื่อซีเป็นคนใจกว้างและอ่อนโยนมากเช่นนี้ เหตุใดตอนนั้นท่านถึงไม่อถิเษกกับนางล่ะเจ้าคะ?”“เพราะว่าตอนนั้นมีบางคนที่ไม่ว่าอย่างไรก็อยากจะแต่งงานกับข้าเสียให้ได้น่ะสิ”เย่เฟยหลีดูไม่แยแสและวางเต้าหู้ชิ้นหนึ่งลงบนจานของฉู่เนี่ยนซีฉู่เนี่ยนซีพูดไม่ออก เดิมทีคิดจะแหย่เย่เฟยหลีเล่น แต่สุดท้ายกลับทำตัวเองกลับขายหน้าเสียเอง “นั่นเป็นเพราะหม่อมฉันยังเด็กและไม่รู้ความต่างหากเจ้าค่ะ”ฉู่เนี่ยนซีกำลังจะใส่เต้าหู้เข้าไปในปาก แต่ก็ต้องสั่นสะเทือนกับสายตาที่เย่เฟยหลีส่งมา ซึ่งทำให้เต้าหู้ในตะเกียบสั่นเล็กน้อย“แล้วตอนนี้รู้ความแล้วหรือยัง?”ตอนนั้นไม่รู้ความจึงอยากแต่งเข้าจวนอ๋องหลี ตอนนี้รู้ความแล้วจึงไม่อยากแต่งแล้วและรู้สึกเสียใจที่แต่งงานกับเขา?ฉู่เนี่ยนซียิ้มแล้วพูดว่า “เต้าหู้นี้รสชาติดีจริง ๆ ท่านอ๋องก็ลองทานดูเถิดเจ้าค่ะ”เย่เฟยหลีสถบเสียงเย็น และไม่ได้สนใจนางอีก แต่เขาก็คีบเต้าหู้เข้

    Last Updated : 2024-05-21
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 505

    “เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?”เย่เฟยหลีลืมตาสีดำขลับมองใบหน้าที่อยู่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่คืบพลางพูดหยอกล้อเมื่อลมหายใจอุ่นกระทบแก้มของฉู่เนี่ยนซีปรากฏรอยสีแดงจาง ๆ รูปร่างคล้ายก้อนเมฆ ขึ้นที่แก้มทั้งสองข้าง นางพูดตะกุกตะกักแต่ก็มีท่าทีดื้อรั้น “คะ คิดอะไรที่ไหน คือ ท่านนอนข้างข้าเช่นนี้ข้าไม่ค่อยชินเท่าไหร่”“ถ้าเช่นนั้นก็ทำตัวให้ชินเสียสิ”พูดจบ เย่เฟยหลีก็ดีดนิ้ว ทำให้เรือนทั้งหลังเข้าสู่ความมืดมิดท่ามกลางความเงียบงันในห้อง ฉู่เนี่ยนซีได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นรัว อีกทั้งเหมือนจะได้ยินเย่เฟยหลีขำเบา ๆ นางจึงเอื้อมมือออกไปหยิกเนื้อที่เอวของเขาด้วยความโกรธแต่เย่เฟยหลีที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาหลายปีแล้ว เอวของเขาแน่นและไม่มีไขมันเลย ฉู่เนี่ยนซีจ้องมองเขาในความมืด จากนั้นก็นอนหันไปอีกทางจนหลังของนางชิดกับหน้าอกของเขา เย่เฟยหลีเอื้อมมือไปโอบนางไว้ในอ้อมแขนพลางถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เหตุใดเจ้าถึงเห็นด้วย?”“เรื่องอะไร?”“ซุนจื่อซี”ฉู่เนี่ยนซีหยุดชะงัก ขณะนั้นลมหายใจของเย่เฟยหลีกำลังเป่ารดศีรษะของนางอยู่“เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะยอมรับคำขอของเสด็จย่าและแต่งงานกับนางจริง ๆ หรือ?”เย่เ

    Last Updated : 2024-05-22
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 506

    นักร่ายรำหญิงบนเวทีสวมผ้าโปร่งสีแดงเข้ม ใบหน้าของนางประดับด้วยลูกปัดด้ายเงิน การเคลื่อนไหวทุกท่วงท่าล้วนเต็มไปด้วยเสน่ห์ แม้มองเพียงครั้งเดียวก็อาจทำให้หลงใหลจนสูญสิ้นสติได้ซุนจื่อซีมองแขนขาวราวรากบัวที่กำลังร่ายรำอยู่ในอากาศกับเอวอันเรียวบางก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงเล็กน้อย ฉู่เนี่ยนซีเห็นดังนั้นก็ยิ้มพลางดึงนางเข้าไปในโรงพนันหุยหุนโรงพนันหุยหุนแตกต่างจากโรงเต้นรำอย่างสิ้นเชิง ที่นี่อึกทึกและแออัด อีกทั้งผู้คนในนี้ต่างก็พ่นผรุสวาทเสียงดังออกมามากมาย ฉู่เนี่ยนซีพูดกับซุนจื่อซีและเย่เฟยหลีว่า “พวกท่านทั้งสองเดินเล่นกันไปก่อน เดี๋ยวข้ามา”ฉู่เนี่ยนซีเตือนเย่เฟยหลีอย่างหนักแน่น “ที่นี่มีพวกเสือ สิงห์ กระทิง แรดอยู่มาก ดูแลนางให้ดีด้วย”เย่เฟยหลีมองตามร่างของฉู่เนี่ยนซีที่จากไปอย่างทำอะไรไม่ได้ เขาไม่รู้ว่านางเชื่อใจเขาจริง ๆ หรือว่านางใจกว้างเกินไปจนไม่สนใจอะไรเลย“เช่นนั้นท่านอ๋องเดินเล่นเป็นเพื่อนหม่อมฉันหน่อยนะเพคะ”ซุนจื่อซีเงยหน้ามองสันกรามเรียบเนียนของเย่เฟยหลี เมื่อมองตามไป นางก็เห็นว่าสายตาของเย่เฟยหลีเอาแต่ตามติดฉู่เนี่ยนซี คล้ายว่าคำพูดของนางจะเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านหูเขาไ

    Last Updated : 2024-05-23
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 507

    เย่เฟยหลีพาซุนจื่อซีไปยังห้องเล็ก ๆ บนชั้นสอง เด็กรับใช้คนหนึ่งนำชาร้อนมาให้พลางพูดอย่างนอบน้อมว่า “เชิญทั้งสองท่านเพลิดเพลินกับช่วงเวลานี้ หากต้องการสิ่งใด ให้ดึงเชือกเรียกคนได้เลยขอรับ”“รบกวนน้องชายด้วย” ซุนจื่อซีพยักหน้าและขอบคุณอีกฝ่าย“เรื่องเมื่อครู่ขอขอบคุณคุณชายนะเจ้าคะ หากท่านไม่ได้อยู่ที่นั่น ข้าคงกลัวมากจนไม่รู้จะทำอย่างไร” ซุนจื่อซีมีสีหน้าชื่นชม“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร บ่อนพนันก็เป็นเช่นนี้ เจ้าเป็นสตรีตัวคนเดียวก็ย่อมตกอยู่ในอันตรายได้ง่าย ดังนั้นก็ไม่ควรไปไหนมาไหนด้วยความประมาท”เย่เฟยหลีกลับมามีสีหน้าเฉยเมย ราวกับว่าเขาไม่สนใจสิ่งใดฉู่เนี่ยนซีที่จัดการสมุดบัญชีทั้งหมดเรียบร้อยก็มาหาเย่เฟยหลีกับซุนจื่อซี หลังจากนั่งลงนางก็รับชาจากเย่เฟยหลี พลางมองไปที่ซุนจื่อซีแล้วถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง เหมือนที่ท่านได้จินตนาการไว้หรือไม่?”เย่เฟยหลีหันมองไปทางอื่นพลางบ่นอุบอิบ รับชาจากเขาแต่ดันไม่พูดกับเขาก่อนงั้นหรือ?“โชคดีที่เมื่อครู่คุณชายดูแลปกป้องข้าอยู่ตลอด เช่นนั้นก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนที่พบกับชายมักมากผู้นั้น…”ซุนจื่อซีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นคร่าว ๆ แต่เปลี่

    Last Updated : 2024-05-24
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 508

    ขณะนั้นรถม้าที่วิ่งมาได้ครึ่งทางก็หยุดลง ฉู่เนี่ยนซีเปิดหน้าต่างเล็ก ๆ มองออกไปด้วยความสับสน ทว่ากลับไม่เห็นอะไรผิดปกติ จึงถามคนขับรถม้าเสียงเบาว่าเกิดอะไรขึ้น คนขับรถม้าจึงตอบว่าท่านอ๋องทรงสั่งให้หยุดทันใดนั้นเมื่อมองตามแสงประกายนอกรถม้าไป ฉู่เนี่ยนซีก็เห็นเย่เฟยหลีเข้ามาพร้อมกับกล่องไม้ในมือ เขานั่งข้าง ๆ และยื่นกล่องไม้นั้นใส่มือนาง“นี่คือขนมซูอวี้ของหอจุ้ยเยว่ เจ้าเล่นสนุกอยู่ตั้งนานแต่ยังไม่ได้กินอะไร กินสักหน่อยให้พออิ่มท้อง พอถึงจวนแล้วค่อยให้คนครัวทำอาหารให้”ซุนจื่อซีตื่นแล้วตั้งแต่ตอนที่รถม้าหยุด และนางก็ฟังการสนทนาระหว่างฉู่เนี่ยนซีและเย่เฟยหลีมาตลอดโดยที่ไม่ได้ลืมตาฉู่เนี่ยนซีดมกลิ่นหอมของขนมซูอวี้ พลางปลุกซุนจื่อซีแล้วยื่นกล่องไม้มาให้นางดมกลิ่นด้วยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “หอมมากเลยว่าไหม ลองชิมสักชิ้นสิ”ซุนจื่อซีขยี้ตาที่ขุ่นมัวแล้วพูดอย่างสับสน “กลิ่นหอมมากเลยเพคะ หอมยิ่งกว่าของที่ทำในวังด้วยซ้ำ”นางหยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่งพลางครุ่นคิด จากนั้นก็ยื่นมันให้เย่เฟยหลีก่อน“ท่านอ๋องชิมก่อนสิเพคะ”เย่เฟยหลีเหลือบมองฉู่เนี่ยนซีจากหางตา เมื่อเห็นว่านางไม่มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด

    Last Updated : 2024-05-25
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 509

    มุมปากของเย่เฟยหลียิ้มกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้นเมฆดำที่ลอยอยู่เต็มในหัวใจของเขาก็สลายไปในทันทีทำให้ท้องฟ้าแจ่มใส เขาวางพู่กันในมือลงแล้วเดินไปหาฉู่เนี่ยนซีพลางพูดเบา ๆ “ขอบใจซีเอ๋อร์มาก”ฉู่เนี่ยนซียิ้มเจื่อนและแอบเสียใจ หากนางรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้นางคงไม่ทำอาหารมาให้ อีกทั้งก็คงไม่ต้องมายืนนิ่งพูดไม่ออกต่อหน้าเย่เฟยหลีเช่นในตอนนี้“ข้านึกว่าซีเอ๋อร์จะไม่สนใจแล้วจริง ๆ เสียอีก”ดวงตาของเย่เฟยหลีเต็มไปด้วยความสุข เขาเช็ดมือและนั่งข้าง ๆ พลางเชิญฉู่เนี่ยนซีให้นั่งด้วยกันฉู่เนี่ยนซีไม่ได้สนใจจริง ๆ แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว นางก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร นางเพียงยิ้มต่อไปพลางคิดว่าหลังจากกลับไปจะลงโทษเสี่ยวเถาเสียหน่อยในจวนอ๋องเหลียนไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกันและความรื่นเริงเช่นนี้ อีกทั้งบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด เย่เหลียนได้ยินข่าวจากพระราชวังว่าฉู่กุ้ยเฟยและพระชายาฉิงถูกวางยา เขาที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหลุบตาลงในขณะที่จมอยู่ในห้วงความคิด พลางใช้มือขวาหมุนแหวนที่นิ้วโป้งมือซ้ายโดยไม่รู้ตัวเสด็จแม่ของเขาก็ประชวรด้วยโรคเช่นนี้ก่อนที่จะสวรรคตเช่นกัน หมอหลวงหลายคนต่างพากันมาวินิจฉัย อีกทั้

    Last Updated : 2024-05-26
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 510

    ในขณะที่ควันสีเทาเหนือกระถางธูปค่อย ๆ เบาบางลง ความตึงเครียดในหัวใจของซุนจื่อซีกลับค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ปลายนิ้วของนางสัมผัสได้ถึงความเย็นของถ้วยชา ทำให้แทบจะไม่สามารถรักษาความสงบไว้ได้เมื่อได้ยินเสียงของสี่เชว่ที่กำลังต้อนรับให้เย่เฟยหลีเข้ามาจากด้านนอก ซุนจื่อซีก็ลูบผมของตัวเองและตรวจดูความเรียบร้อย จากนั้นจึงยืนขึ้นทำความเคารพเย่เฟยหลีที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง “ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ”นางสวมชุดกระโปรงสีแดงบาง ๆ ใบหน้าของนางเหมือนดอกท้อ และแววตาที่เต็มไปด้วยสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ริมฝีปากสีชาด ขนตายาวหนาเป็นแพ ประกอบกับกระดูกไหปลาร้าที่เผยให้เห็นรูปร่างที่เพรียวบางของนาง“มีอะไร?” เย่เฟยหลีรีบนั่งโดยไม่หยุดสอดส่ายสายตา“จื่อซีกำลังคิดว่าวันส่งท้ายปีเก่าที่กำลังใกล้เข้ามานี้อยากจะร่ายรำให้เสด็จย่าได้รับชมอย่างเพลิดเพลิน แต่หม่อมฉันร่ายรำไม่เป็น อีกทั้งท่านอ๋องก็ทรงอยู่กับเสด็จย่ามานาน ท่านคงจะทราบว่าเสด็จย่าชอบการร่ายรำเช่นไร หม่อมฉันจึงมาขอคำแนะนำจากท่านอ๋องเพคะ”“เช่นนั้นข้าจะเชิญอาจารย์ผู้สอนมาให้ เขามีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก แต่ข้ามีเรื่องที่ต้องจัดการที่ค่ายทหาร คงจะไม่ได้อยู

    Last Updated : 2024-05-27
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 511

    ฉู่เนี่ยนซีแสร้งทำเป็นโกรธพลางเหลือบมองเหยียนจือซิน ตัวนางได้พูดสิ่งที่ไม่สมควรพูดไปเสียแล้วหลังจากพูดคุยกันสักพัก ฉู่เนี่ยนซียังคงไม่สามารถหาคำตอบจากเหยียนจือซินว่าความรักคืออะไร นางจึงหยุดพูดถึง“ไปกันเพคะ หม่อมฉันจะพาไปดูดอกไม้ที่หม่อมฉันเพิ่งปลูก แต่ตอนนี้มันยังไม่บาน เอาไว้ดอกไม้บานเมื่อไหร่หม่อมฉันจะเชิญพระนางมาดื่มชานะเพคะ”พูดจบ เหยียนจือซินก็ลากฉู่เนี่ยนซีเดินออกจากห้องด้วยความกระตือรือร้นที่จะแสดงสิ่งที่อยากอวด“ถึงตอนนั้นข้าคงไม่ได้มาที่บ้านตระกูลเหยียนหรอก คงจะไปที่บ้านสามีของเจ้านู่น” ฉู่เนี่ยนซีล้อเลียนเหยียนจือซิน ทั้งสองคนพูดคุยหัวเราะระหว่างที่ออกนอกห้องไปด้วยกันหมากบนกระดานในพระตำหนักหย่างซินอัดกันแน่น คนสองคนที่นั่งขัดสมาธิกันอยู่คนละฝั่งของกระดานหมากรุกก็มีรัศมีเปล่งประกายออกมาที่แตกต่างกันองค์จักรพรรดิขัดเกลาความทะเยอทะยานของตัวเองจนเฉิดฉายมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่พระองค์ก็ทรงเก็บมันไว้ในส่วนลึกของจิตใจ และห่อหุ้มไว้ด้วยความเคลือบแคลงอันบางเบาท่าทางของเย่เฟยหลีที่สง่างามและมั่นคง ผสานกับความเย่อหยิ่งของบุรุษ ทำให้เขาดูหยิ่งผยองราวกับน้ำค้างแข็งและหิมะ

    Last Updated : 2024-05-28

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status