แชร์

บทที่ 88

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
“ลูกมิได้คิดจะจัดตั้งกองทัพทหารม้า…”

หยุนเจิงจงใจแสร้งทำเป็นน้อยเนื้อต่ำใจ “ลูกแค่อยากนำไปขาย เพื่อหาเงินสำหรับงานแต่งงาน...”

“บังอาจ!”

จักรพรรดิเหวินเบิกตากว้างเท่ากับระฆังทองแดง วางอำนาจด้วยรัศมีแห่งราชา “ราชสำนักเราขาดแคลนม้าศึก เจ้าในฐานะองค์ชาย กลับกล้าลักลอบขนม้าศึกอีกรึ”

หยุนเจิงหายใจไม่ทั่วท้อง เป็นใบ้ชั่วขณะ

บัดซบ!

ตาเฒ่านี่กำลังทำการปล้นอย่างถูกต้อง!

ยิ่งกว่านั้น สาเหตุของการปล้นทำให้เขาไม่สามารถห้าข้อโต้แย้งได้โดยสิ้นเชิง

“เอาล่ะ! เห็นแก่เจ้าที่ไร้ประโยชน์!”

จักรพรรดิเหวินจ้องมองหยุนเจิงอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้ารู้ว่าเจ้าได้ม้าเหล่านี้มาเพราะชนะ เอาเช่นนี้ ข้าจะให้เจ้าเลือกม้าดีๆ ก่อนสักยี่สิบตัว แล้วจึงส่งที่เหลือไปยังกองทหารเสินอู่!”

ฮะ!

ตบหัวแล้วลูบหลัง

ม้ายี่สิบตัว?

ช่างใจกว้างเสียจริง!

ร้ายกาจยิ่งกว่าผู้บัญชาการทหารอีก!

เดาว่าตาเฒ่านี่ยังคิดที่จะให้ตัวเองขอบคุณพระเมตตาด้วยซ้ำ!

แม้ว่าในใจของหยุนเจิงจะไม่พอใจอย่างยิ่ง แต่เมื่อจักรพรรดิเหวินได้พูดถึงขนาดนี้แล้ว เขาจึงทำได้เพียงให้เกาเหอพวกเขาคัดเลือกม้าโดยเร็ว

ให้ตายเถอะ ยุ่งยากมาทั้งวัน สุดท้ายก็เหมือนทำชุดแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 89

    จักรพรรดิเหวินต้องการเสด็จไปจวนของหยุนเจิง หยุนเจิงก็ไม่สามารถหยุดเขาได้หลังจากสั่งให้หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนเมืองส่งม้าไปยังกองทหารเสินอู่ จักรพรรดิเหวินผู้ซึ่งอารมณ์ดีจึงให้คนจัดขบวนเสด็จไปยังจวนขององค์ชายหกในขณะที่กำลังเบิกบานพระทัย จักรพรรดิเหวินก็เริ่มรู้สึกกังวลอีกครั้งควรให้รางวัลเจ้าหกเป็นสิ่งใดดี?เอาม้าศึกชั้นดีหลายร้อยตัวมาจากเจ้าหกแล้ว ถ้าไม่ประทานรางวัลให้บ้าง ก็ดูจะไม่เหมาะสมแต่ของรางวัลสำหรับความดีความชอบของเจ้าหกก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ได้ประทานให้ ตอนนี้เขาก็สร้างผลงานอีกแล้ว!คราวนี้เขาไม่รู้ว่าจะให้รางวัลเขาอย่างไรขณะที่จักรพรรดิเหวินกำลังกลุ้มพระทัยอยู่นั้น มู่ซุ่นก็ตามขึ้นมา และรายงานจักรพรรดิเหวินผ่านม่านรถม้าว่า “ฝ่าบาท เมื่อครู่มีคนจากจุดพักม้ามารายงานว่า องค์ชายหกทำให้ปานปู้โกรธจนกระอักเลือด เขาถามว่าควรส่งหมอหลวงไปตรวจอาการดีหรือไม่...”“อะไรนะ”ทันใดนั้นจักรพรรดิเหวินก็เปิดม่านแล้วตรัสว่า “เจ้าหกยังทำให้โจรเฒ่าปานปู้โกรธจนกระอักเลือดงั้นรึ”“พ่ะย่ะค่ะ!”มู่ซุ่นพยักหน้า“รีบบอกข้าเร็ว ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร ให้ข้าพลอยสนุกไปด้วยคน”จักรพรรดิเหวินเบิก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 90

    หยุนเจิงขานรับ แต่อดไม่ได้ที่จะบ่นในใจตาเฒ่าคนนี้ชอบทำตัวเด่นจริงๆ!เมื่อเข้าไปในจวน จักรพรรดิเหวินเหลือบมองพ่อบ้านโดยตั้งใจแต่คล้ายไม่ตั้งใจ เกือบจะเตะพ่อบ้านออกไปหลายครั้งเห็นได้ชัดว่าเจ้าหกชนะการเดิมพัน เขากลับบอกว่าเจ้าหกกำลังตกอยู่ในอันตราย!ตัวเองกำลังอยู่ในอารมณ์อันสนุกสนาน แต่ถูกขัดจังหวะเสียได้!กระจายข่าวมั่วๆ โดยไม่เข้าใจสถานการณ์ด้วยซ้ำ!ช่างเถอะ!เช่นนั้นก็ใช้เหตุผลนี้ย้ายเขาออกไปจากเจ้าหกก็แล้วกัน!จักรพรรดิเหวินตัดสินใจ แล้วเสด็จเข้าไปในจวนภายใต้การคารวะจากทุกคน“บอกข้ามาเร็ว ว่าเรื่องการเดิมพันของพวกเจ้าเป็นมาอย่างไร!”ทันทีที่จักรพรรดิเหวินนั่งลง เขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะถามบอกน้องสาวท่านน่ะสิ!ข้ายังไม่ได้กินข้าวเลยด้วยซ้ำ!หยุนเจิงบ่นในใจแล้วพูดว่า “ยากนักที่เสด็จพ่อจะมาที่จวนของลูก ให้ลูกสั่งคนเตรียมสุราอาหารมาดีหรือไม่ เสด็จพ่อกับลูกจะได้กินข้าวไปด้วยคุยไปด้วย”จักรพรรดิเหวินไม่หิว แต่พอนึกถึงปานปู้ที่โกรธหยุนเจิงจนกระอักเลือด เข้าก็นึกครึ้มอกครึ้มใจ พยักหน้าว่า “ก็ดี!”เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิเหวินตกลง คนรับใช้ในจวนก็เริ่มเตรียมสุราและอาหารทันทีระหว่า

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 91

    ระงับความโทมนัส!คำพูดที่พูดขึ้นอย่างกะทันหันของหยุนลี่นี้ ทำให้จักรพรรดิเหวินกับมู่ซุ่นตะลึงงันพวกตู้กุยหยวนสามคนที่คุกเข่าอยู่ก็อึ้งรรับประทาน ทั้งสามกำลังอยากจะเงยหน้าขึ้นมองว่าใครที่บังอาจมาตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่ต่อหน้าพระพักตร์จักรพรรดิเหวิน แต่พวกเขาก็ไม่กล้าพอจะเงยหน้าขึ้นจักรพรรดิเหวินมองไปที่หยุนลี่ที่วิ่งมาอย่างโซซัดโซเซ พระพักตร์กระตุกขึ้นอย่างอดไม่ได้มู่ซุ่นรู้ดีว่าแย่แล้ว จึงรีบส่งสัญญาณผ่านสีหน้าให้กับหยุนลี่อย่างเต็มกำลังแต่ตอนนี้ความสนใจของหยุนลี่อยู่บนตัวจักรพรรดิเหวินเท่านั้น เขาจะเห็นสีหน้าท่าทางของมู่ซุ่นได้อย่างไรกันเล่า!หยุนลี่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวพอเห็นจักรพรรดิเหวินจ้องมองมายังตนอย่างตะลึงงัน เขายังคิดว่าเป็นเพราะจักรพรรดิเหวินกำลังโศกพระทัย!ในที่สุด หยุนลี่ก็วิ่งไปถึงข้างกายจักรพรรดิเหวิน จากนั้นก็บีบเค้นน้ำตาออกมาได้สองสามหยด พูดขึ้นอย่างโศกเศร้าว่า “เสด็จพ่อ น้องหกโชครายตกตายก่อนวัยอันควร พวกเราต่างก็ล้วนเศร้าโศกนัก แต่เสด็จพ่อเป็นประมุขของรัฐ ต้องรักษาพระวรกายให้ดีนะพ่ะย่ะค่ะ…”พวกตู้กุยหยวนทั้งสามคนพอได้ฟังคำพูดของหยุนลี่ก็ตกใจจนนิ่งอึ้งน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 92

    จักรพรรดิเหวินหย่นก้นลงปุ๊บ ไม่รอให้ใครมารินสุราให้ ทรงยื่นพระหัตถ์ไปคว้ากาสุรามาแล้วยกขึ้นจ่อพระโอษฐ์เสวยดัง “อึกๆ” ไปหลายอึก“ฝ่าบาท โปรดระวังพระวรกายด้วยพ่ะย่ะค่ะ”มู่ซุ่นตักเตือนอย่างระมัดระวัง“ระวังกับผีสิ!”จักรพรรดิเหวินโกรธจนไฟโทสะสุมอก กระแทกกาสุราลงพื้นจนแตกละเอียด ตะโกนขึ้นเสียงหอบ “ข้าต้องถูกลูกทรพีนี่ยั่วโมโหจนตายเข้าสักวัน”จักรพรรดิเหวินโมโหขึ้นมา ผู้คนก็รู้สึกเย็นวาบกันไปทั่ว ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกมู่ซุ่นรีบโบกมือไปทางบ่าวรับใช้ของหยุนเจิง เป็นเชิงให้พวกเขาทำความสะอาดพื้นให้สะอาด“ฝ่าบาทเย็นพระทัยลงก่อนพ่ะย่ะค่ะ”มู่ซุ่นยิ้มกล่าวอย่างระมัดระวัง “องค์ชายสามอาจได้ยินข่าวคร่าวแล้วเข้าใจผิดคิดว่าองค์ชายหกแพ้การเดิมพันแล้ว กลัวว่าฝ่าบาทจะโทมนัสเกินเหตุจึงได้รุดหน้ามาปลอบพระทัย…”หืม?พอได้ยินมู่ซุ่นช่วยหยุนลี่พูด ในใจหยุนเจิงกระตุกวาบเจ้าคนนี้คงไม่ใช่คนของเจ้าสามหรอกนะ?จักรพรรดิเหวินพอได้ฟัง พระพักตร์ก็คล้ำลงทันที ถามขึ้นว่า “ใครเป็นคนแพร่งพรายออกไปว่าเจ้าหกแพ้แล้ว ไม่กลัวตายหรือ?”ผู้ดูแลจวนพอได้ยินคำพูดของจักรพรรดิเหวิน ในใจสั่นวาบ รีบคุกเข่าลงอย่างแรงว่า

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 93

    หลังจากที่หยุนเจิงเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็ทิ้งคำถามนี้กลับไปให้จักรพรรดิเหวิน“ลูกเพียงแค่อยากจะกำจัดความอวดเบ่งของปานปู้เท่านั้น ไม่ได้คิดอยากได้ของรางวัล...”หยุนเจิงทำท่าทางนอบน้อมจักรพรรดิเหวินมองไปที่เขาปราดหนึ่ง จากนั้นก็ครุ่นคิดเงียบๆ ขึ้นมาผ่านไปครู่ใหญ่ จักรพรรดิเหวินราวกับได้ตัดสินพระทัยแล้ว ตรัสขึ้นเสียงขรึม “เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน ข้าจะอนุญาตให้เจ้าเลี้ยงกองกำลังทหารในจวนได้!”หา?สิ้นเสียงจักรพรรดิเหวิน ผู้คนต่างตะลึงงันขึ้นทันทีหยุนเจิงก็จ้องไปที่จักรพรรดิเหวินอย่างตะลึง ทั้งประหลาดใจทั้งดีใจมีทหารประจำจวนเป็นของตนเอง!นี่เป็นอำนาจที่องค์รัชทายาทและท่านอ๋องเท่านั้นถึงจะมีได้!ตาแก่นี่กลับอนุญาตให้ตนมีทหารประจำจวนได้?ฉิบหายแล้ว!ตาแก่นี่คงไม่ได้มองอะไรออกแล้วอยากจะทดสอบตนหรอกนะ?สมองของหยุนเจิงประมวลผลอย่างว่องไว กำลังครุ่นคิดเงียบๆ ว่าจะตอบรับหรือไม่แน่นอนว่าเขาอยากมีอำนาจในการสั่งสมทหารจวนเป็นของตนเอง!แต่ก็ต้องระวังว่านี่จะเป็นกับดักที่บิดาจำเป็นของเขาวางไว้ให้เขา!หากเดินพลาดไปเพียงก้าวเดียว เป็นเรื่องคอขาดบาดตายเลยทีเดียว!“โง่ไปเลยหรือ?”จัก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 94

    เสียงของเยี่ยจื่อดังขึ้นหยุนเจิงลุกขึ้น รีบเปิดประตูห้อง“องค์ชายราวกับดูไม่ค่อยเบิกบานใจนัก?”เยี่ยจื่อเข้าประตูห้องมาก็ถามขึ้นอย่างใคร่รู้หยุนเจิงกลอกตาขาวใส่นาง “เจ้าคิดว่าข้าควรดีใจหรือไง?”“แน่นอนว่าควรดีใจ”เยี่ยจื่อพยักหน้ากล่าวว่า “นี่เป็นความโปรดปรานที่ฝ่าบาทมีต่อเจ้าโดยเฉพาะเลยนะ!”ความโปรดปราน?หยุนเจิงส่ายหัวยิ้มอย่างขมขื่นโปรดปรานก็นับว่าโปรดปรานอยู่ แต่โปรดปรานมากเกินไปแล้วนี่สิก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะตาแก่นี่จู่ๆ ก็เกิดอยากแสดงความรักของบิดาขึ้นมาหรือไง เหตุใดจึงมอบความโปรดปรานเช่นนี้ให้กับตนได้?“ข้าไม่ได้ความโปรดปรานนี้ยังจะดีเสียกว่า!”หยุนเจิงปวดหัวจนต้องนวดศีรษะเยี่ยจื่อมองสีหน้าอมทุกข์ของหยุนเจิง จู่ๆ นางก็อยากจะถอดรองเท้าขึ้นมาลูบหน้าหยุนเจิงสักทีดูเข้า!ตานี่พูดจาบ้าบออะไรเนี่ย?หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นที่มีอำนาจสั่งสมทหารจวน คงจะดีใจจนแทบบ้าแล้ว!แต่เขากลับมานั่งอมทุกข์อยู่ตรงนี้ได้!นี่เขากลัวเลี้ยงทหารจวนห้าร้อยนายนั่นไม่ไหวหรือไง?หยุนเจิงส่ายหัว มองไปทางเยี่ยจื่ออย่างมีความนึกคิดสุดเหนือคณานับ “หากเป็นเจ้า เจ้าจะอยากได้ทหารจวนห้าร้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 95

    เช้าวันต่อมาว่าราชการเช้า จักรพรรดิเหวินได้ประกาศกลางท้องพระโรงว่าพระองค์ตัดสินพระทัยจะมอบอำนาจให้หยุนเจิงเป็นคนรับสมัครทหารจวนส่วนตัวด้วยตัวเองไม่แปลกที่การตัดสินพระทัยของจักรพรรดิเหวินถูกขุนนางจำนวนมากคัดค้านการเกณฑ์ทหารจวนส่วนตัวนั้น มีเพียงแค่ตำแหน่งองค์รัชทายาทและท่านอ๋องเท่านั้นที่มีสิทธิ์กระทำได้!แต่หยุนเจิงไม่ได้มีตำแหน่งดังกล่าว มีสิทธิ์อันใดมาเกณฑ์ทหารจวนส่วนตัวด้วยแต่ไม่ว่าเหล่าขุนนางจะคัดค้านเพียงใดก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงการตัดสินพระทัยของจักรพรรดิเหวินได้ หลังจากเลิกการประชุม ซูเฟยก็รีบรุดไปหาสวีสือฝู่ทันทีการกระทำของจักรพรรดิเหวินทำให้นางรู้สึกถึงภัยคุกคามอันใหญ่หลวงแม้ก่อนหน้านี้จักรพรรดิเหวินจะเคยตรัสต่อหน้าขุนนางกลางท้องพระโรงว่าไม่มีทางมอบตำแหน่งองค์รัชทายาทให้หยุนเจิงเป็นอันขาด แต่ใครจะรู้ได้เล่า เกิดวันใดจักรพรรดิเหวินสมองกลับบ้าขึ้นมาอาจจะทำเช่นนั้นขึ้นก็ได้แม้แต่อำนาจในการเกณฑ์ทหารจวนส่วนตัวจักรพรรดิเหวินก็มอบให้กับหยุนเจิงไปแล้ว การแต่งตั้งให้หยุนเจิงเป็นองค์รัชทายาทก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เมื่อเห็นซูเฟยกลัดกลุ้มใจเช่นนี้ สวีสือฝู่กลับห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 96

    ระหว่างทางกลับ พวกตู้กุยหยวนทั้งสามคนใช้สายตาแปลกๆ มองหยุนเจิง ไม่รู้ว่าในใจกำลังพูดว่าหยุนเจิงนั้นโง่หรือว่ากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่“พวกเจ้ากำลังคิดว่าข้าเป็นคนโง่ใช่หรือไม่”หยุนเจิงยิ้มถาม“อาจเป็นเพราะว่า องค์ชายมีความคิดอื่นร่วมด้วย!”ตู้กุยหยวนยิ้มขมขื่นไม่เอาชุดเกราะเกล็ดแต่เอาชุดเกราะหนังไม่โง่ไปหน่อยหรือหยุนเจิงหัวเราะ แล้วหันไปพูดว่า “พวกเจ้าทั้งสามคนล้วนเคยออกรบกับชาวเป่ยหวนที่ซั่วเป่ยมาหลายครา ข้าขอถามพวกเจ้าหน่อย พวกทหารม้าเป่ยหวนใส่ชุดเกราะประเภทใดเป็นหลัก”“แน่นอนว่าต้องเป็นชุดเกราะหนัง”อวี๋ซื่อจงตอบกลับ “แต่ทหารม้าเป่ยหวนใช้ชุดเกราะหนัง นั่นเป็นเพราะไม่มีทางเลือก! เป่ยหวนขาดแคลนชุดเกราะ ทหารบางนางไม่มีแม้กระทั่งชุดเกราะหนังใส่เสียด้วยซ้ำ”หยุนเจิงหัวเราะ แล้วถามอีกว่า “แล้วสิ่งที่น่าเกรงขามของทหารม้าเป่ยหวนอยู่ที่ใด”จั่วเริ่นตอบกลับ “ทหารม้าเป่ยหวนเคลื่อนไหวดุจลม เชี่ยวชาญในด้านการวิ่งระยะไกล มักจู่โจมใส่ชุดอ่อนของทหารฝ่ายเราโดยไม่รู้ตัวเสมอ …”เมื่อพูดถึงทหารม้าเป่ยหวน ทั้งสามต่างรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมากทหารม้าเป่ยหวนเป็นฝันร้ายของพวกเขาในอดีต กองท

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1474

    หยุนลี่พลันเข้าใจแจ่มแจ้ง มองจักรพรรดิเหวินด้วยความนับถือเต็มใบหน้าเสด็จพ่อช่างมีความคิดล้ำลึกยิ่งนัก!แม้กระทั่งเรื่องนี้ก็ยังทรงคำนึงถึง!“เสด็จพ่อทรงมีสายตากว้างไกล ลูกนับถือจนสุดหัวใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่กล่าวด้วยความจริงใจนี่หาใช่คำเยินยอไม่ แต่เป็นความนับถืออย่างแท้จริงเพียงเรื่องเดียว กลับมีจุดประสงค์มากมายถึงเพียงนี้“เจ้าสาม เจ้ายังอ่อนประสบการณ์เกินไป…”จักรพรรดิเหวินถอนหายใจเบาๆ “เรื่องนี้เจ้ายังต้องเรียนรู้จากเจ้าหกให้มาก! หากเจ้าหกมีเพียงกำลังทหารแข็งแกร่ง ข้าก็หาได้หวาดกลัวเขาไม่! แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในตัวเจ้าหกลูกอกตัญญูผู้นี้คือสมองของเขา เขามักคิดการณ์ไกลอยู่เสมอ เขาอยู่ในจวนปี้ปัวมาสองสิบกว่าปี ข้าคิดว่าเขาคงใช้เวลาส่วนใหญ่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องเหล่านี้…”ในข้อนี้ หยุนลี่เองก็เห็นด้วยไม่มีใครรู้เท่ากับเขาว่าเจ้าหกมีความเจ้าเล่ห์เพียงใดไอ้สารเลวนี้ เมื่อก่อนในจวนปี้ปัวทำตัวขี้ขลาดแน่นอนว่าคงหมกมุ่นอยู่แต่การวางแผนเล่นงานผู้อื่น!ไม่เช่นนั้น ไอ้สารเลวนี้จะมีความเจ้าเล่ห์ได้ถึงเพียงนี้หรือ?“เสด็จพ่อสั่งสอนได้ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่กล่าวด้วยความละอาย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1473

    "นี่..." หยุนลี่อ้าปากค้างไปชั่วขณะ แต่ไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้ เขารู้ดีว่าจักรพรรดิเหวินตรัสอย่างมีเหตุผล ตระกูลใหญ่และขุนนางไม่ได้สนใจว่าใครจะขึ้นเป็นฮ่องเต้ พวกเขาสนแต่ผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น ตอนนี้หยุนเจิงมีกองกำลังที่แข็งแกร่ง หากเขาก่อกบฏ เกรงว่าตระกูลใหญ่และขุนนางหลายคนจะเข้าข้างหยุนเจิง บางตระกูลที่มีความทะเยอทะยาน อาจถึงขั้นร่วมมือกันยกทัพก่อกบฏ แค่หยุนเจิงคนเดียวก็จัดการได้ยากมากอยู่แล้ว ถ้าหลังบ้านของเรายังมีปัญหาเพิ่มเติม ราชสำนักอาจไม่มีแม้แต่แรงที่จะต่อต้านเลยก็เป็นได้ หยุนลี่ครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจกัดฟันพูดว่า "ลูกจะเชื่อเสด็จพ่อ! เมื่อกลับถึงเมืองหลวง ลูกจะทำทุกวิถีทางเพื่อลดอำนาจของพวกตระกูลใหญ่และขุนนาง!" เอาเป็นว่าทำตามนี้! ถ้าไม่จัดการกับพวกตระกูลใหญ่และขุนนาง เงินทองของตัวเองจะมาจากไหน? เพราะนั่นมันตั้งสี่แสนตำลึงเงินนะ! เงินที่ยึดมาได้จากพวกตระกูลใหญ่และขุนนาง บางส่วนจะสามารถเข้ากระเป๋าของตัวเองได้ เพื่อชดเชยความเสียหาย ส่วนหนึ่งสามารถนำเข้าคลังหลวง เพื่อนำไปเตรียมการกองทัพและป้องกันหยุนเจิง! "ถูกต้องแล้ว!" จักรพรรดิเห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1472

    “เฮ้อ…” จักรพรรดิเหวินถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะตบมือหยุนลี่เบาๆ แล้วถามต่อ "เจ้าไปคุยกับเจ้าหกมาเป็นอย่างไรบ้าง?" พอพูดถึงเรื่องนี้ ไฟโทสะที่หยุนลี่เพิ่งกดไว้ก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง แต่โชคดีที่เขาเพิ่งพ่นเลือดไปสองครั้งและปลอบใจตัวเองมาพอสมควร เลยไม่ถึงกับพ่นเลือดออกมาอีก ถึงจะโกรธแค่ไหน แต่หยุนลี่ก็ยังเล่าเรื่องข้อตกลงระหว่างเขากับหยุนเจิงออกมา "ไอ้ลูกอกตัญญูช่างกล้าบ้าบิ่น!" พอจักรพรรดิเหวินได้ฟังเรื่องราวจากหยุนลี่ ก็โมโหจนหายใจแรง "เสด็จพ่ออย่าทรงกริ้ว ขอให้รักษาพระวรกายไว้ก่อนเถิด..." หยุนลี่รีบยื่นมือไปช่วยประคองลมหายใจของจักรพรรดิเหวินให้สงบลง จักรพรรดิเหวินพ่นลมหายใจอย่างแรงอยู่พักใหญ่ จนในที่สุดก็เริ่มสงบลงได้ หลังจากนั้นไม่นาน จักรพรรดิเหวินก็หันไปมองหยุนลี่ด้วยสีหน้าเย็นชา "พรุ่งนี้เจ้าเด็กอกตัญญูยังต้องมาคารวะข้า เจ้าคิดว่าถ้าข้าให้คนซุ่มรอไว้ก่อน จะมีโอกาสจับมันได้ครั้งเดียวหรือไม่?" "ไม่ได้เด็ดขาด!" หยุนลี่รีบห้ามพระองค์จากความคิดบ้าคลั่งนั้น "เสด็จพ่อก็ทรงเห็นแล้วว่าเจ้าหกระวังตัวตลอดเวลา หากจับตัวมันไม่ได้ในการลงมือครั้งเดียว จะยิ่งทำให้มันโกรธแค้น ใน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1471

    เมื่อกลับถึงจวนพัก หยุนลี่ก็ระบายความโกรธด้วยการฟันหิมะอย่างบ้าคลั่ง น่าขายหน้า! ขายหน้าสิ้นดี! ทั้งชีวิตนี้เขาไม่เคยขายหน้าขนาดนี้มาก่อน เขารู้ว่าในการมาฟู่โจวครั้งนี้จะต้องถูกหยุนเจิงหลอก แต่ไม่คิดว่าจะโดนเล่นงานถึงขนาดนี้ ทั้งเงิน ทั้งข้าว ทั้งที่ดิน... ตัวเองยังสมควรเป็นองค์รัชทายาทอยู่อีกหรือ? เขากลายเป็นตัวตลกเต็มประตู! น่าชิงชัง! น่าชิงชังที่สุด! หยุนลี่ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ เลือดลมภายในร่างพลุ่งพล่านไม่หยุด "พรวด..." เมื่อความโกรธทำให้เลือดลมตีขึ้น หยุนลี่ก็ทนไม่ไหวและพ่นเลือดออกมาคำใหญ่ ร่างของหยุนลี่เซไปมาจนเกือบล้มลงกับพื้น โชคดีที่ในจังหวะที่ร่างกำลังจะทรุดลง เขาปักดาบลงพื้น ใช้ดาบค้ำยันตัวเองไว้ พร้อมคุกเข่าข้างหนึ่ง "องค์รัชทายาทเพคะ!" เหล่าข้ารับใช้รีบร้องตะโกนด้วยความตื่นตกใจ ก่อนกรูเข้ามาหา "ไสหัวไป ไสหัวไปให้หมด..." หยุนลี่ตะโกนเสียงต่ำ ขณะที่ปาดคราบเลือดที่มุมปากออกอย่างลวกๆ เขาไม่ต้องการให้ใครเห็นสภาพอันน่าอับอายของตัวเอง เขาคือองค์รัชทายาทแห่งแผ่นดิน ต่อให้เป็นอย่างไรก็ยังต้องรักษาหน้าตาไว้ เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของหยุนลี่ บรรด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1470

    เมื่อเจอคำขู่ของหยุนเจิง หยุนลี่ถึงกับตัวสั่นไปทั้งร่างด้วยความโกรธ ลังเลอยู่นาน ในที่สุดหยุนลี่ก็กัดฟันยอมรับ "ตกลง สี่ล้านตำลึง! เหมือนกับเรื่องเสบียง ให้ชำระภายในสิ้นปี!" เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา หยุนลี่แทบกระอักเลือด เขาเคยคิดไว้ว่าจะพึ่งจางซูผู้เป็นเหมือนเทพเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติเพื่อหาเงินได้อย่างมหาศาล ตอนนี้ เงินหาได้มาก็จริง แต่ยังไม่ทันได้ใช้ให้คุ้ม เจ้าสุนัขตัวนี้ก็มาจ้องตาเป็นมันแล้ว แถมยังต้องควักทุนสำรองออกมา และไปยืมเงินจากคนอื่นอีก! "ทีนี้มาพูดเรื่องช่างฝีมือกันเถอะ!" หยุนเจิงยิ้มอย่างพึงพอใจ "อย่ามาพูดเรื่องไปหาเอาจากกรมโยธาเลย แค่ช่างต่อเรือสองพันคนเอง ไม่ใช่ว่าสร้างเรือรบสองพันลำ! ข้าอาจไม่ยุ่งเรื่องในราชสำนัก แต่ก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ยากสำหรับเจ้า" ไม่ยาก? ในใจหยุนลี่ด่าไม่หยุด นี่มันช่างต่อเรือที่มีการลงทะเบียนเอาไว้! ล้วนมีทะเบียนช่างฝีมืออยู่! ไม่ใช่พวกผู้อพยพสองพันคน! "หนึ่งพัน!" หยุนลี่พยายามระงับโทสะ "จะเคลื่อนย้ายคนที่มีทะเบียนช่างฝีมือเยอะๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย! การควบคุมช่างต่อเรืออาจไม่เข้มงวดเท่าช่างทำเกราะ แต่ถ้ามีทะเบียนติดตัว..."

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1469

    ในห้องของหยุนเจิง เพิ่งจะจัดการความยุ่งเหยิงเรียบร้อย หยุนลี่ก็โผล่มาพอดี ในเวลานั้น หยุนเจิงเพิ่งจะตั้งตัวได้จากเรื่องวุ่นวายที่เกิดกับเจียเหยา "เจ้าหก เจ้าวางแผนได้ดีจริง!" หยุนลี่กำหมัดแน่น กัดฟันพูดว่า "ว่ามา เจ้าอยากได้อะไร?" หยุนลี่ไม่คิดจะอ้อมค้อมกับหยุนเจิง เจ้าสุนัขนี่วางแผนแบบนี้ก็เพื่อจะหาประโยชน์จากตนเองเท่านั้น หากมัวแต่เลี่ยงไปเลี่ยงมา คนที่ต้องเจ็บใจก็คือตัวเองอยู่ดี "พี่สาม ใจเด็ดดีจริง!" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง "เงินห้าล้านตำลึง กับช่างต่อเรืออีกสองพันคน!" "เจ้า..." หยุนลี่โกรธจนแทบระเบิด กัดฟันตะโกน "ทำไมเจ้าไม่ไปปล้นเอาเลยล่ะ?" เจ้าสัตว์เดรัจฉาน! ยังแย่กว่าเดรัจฉานเสียอีก! เขารู้อยู่แล้วว่าหยุนเจิงต้องเรียกร้องมากแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้ เงินห้าล้านตำลึง? ตนจะหาเงินมากขนาดนั้นมาจากไหน? แม้จะมีจางซูผู้เปรียบเสมือนเทพเจ้าแห่งโชคลาภช่วยหาเงิน แต่แม่เจ้า ก็ไม่ถึงขนาดนี้! ซั่วเป่ยก็ยกให้เขาไปแล้ว! เขายังมาอ้อมค้อมขอเงินและเสบียงจากราชสำนักอีก? ไม่สิ ต้องบอกว่าขอจากตนต่างหาก! เขาเสียใจจริงๆ ที่ตอนนั้นปล่อยเจ้าหมอนี่ออกจากเมืองหล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1468

    เอาได้เท่าไรก็เท่านั้น หยุนเจิงหัวเราะเมื่อได้ยิน “เจ้าชอบว่าข้าว่าหน้าหนา แต่ดูเจ้าสิ ก็ไม่ได้บางไปกว่าข้าเลย!” เจียเหยาหัวเราะเบาๆ “ข้านี่แหละเรียนจากเจ้าไง?” “เช่นนั้นรบกวนเจ้าจ่ายค่าเล่าเรียนมาก่อนนะ” หยุนเจิงพูดพลางยื่นมือไปทางเจียเหยา เจียเหยาทำหน้างง ก่อนจะตบมือหยุนเจิงเบาๆ ทันทีที่มือของเจียเหยาสัมผัส ถูกลูกธนูหลายดอกยิงเข้ามาในห้องด้วยเสียง “ฟิ้ว ฟิ้ว” มีลูกธนูสองดอกที่ทะลุผ่านผ้าห่มด้านนอกมากระแทกบนโต๊ะ เกิดเสียง "ตึบ ตึบ" เจียเหยาตั้งใจจะพุ่งไปหยิบแส้ของนางที่ข้างเตียง แต่ถูกหยุนเจิงดึงตัวไว้ เจียเหยาเสียหลัก ล้มเข้าไปในอ้อมอกของหยุนเจิงทันที “ฟิ้ว ฟิ้ว…” ลูกธนูยังคงยิงเข้ามาในห้องอย่างต่อเนื่อง สองคนที่ซ่อนตัวอยู่หลังโต๊ะเริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วน เจียเหยาจ้องมองหยุนเจิงอย่างมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งสังเกตถึงสิ่งแปลกประหลาดก่อนจะถามด้วยใบหน้าแดงซ่าน “เจ้ายังพกของเล่นที่ทำไว้ให้ลูกติดตัวอยู่หรือ?” พูดจบ เจียเหยาก็คว้าสิ่งที่ดันตัวนางอยู่ พร้อมกระตุกมันออกมา นางอยากรู้ว่ามันคืออะไร ที่หยุนเจิงทำหล่นเมื่อคราวก่อน “อย่า…” หยุนเจิงพยายามห้าม แต

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1467

    โต๊ะในห้องของเขาทั้งสองมีขนาดแค่นั้น ซ่อนตัวคนเดียวก็ดูกว้างขวางดี แต่พอซ่อนตัวสองคนหลังโต๊ะ ก็รู้สึกค่อนข้างแคบลง ในระยะนี้ หยุนเจิงได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเจียเหยาอย่างชัดเจน นางคงจะลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่เช้า ไม่รู้ว่าใช่สบู่หอมหรือเปล่า หรือว่านางเหมือนเยี่ยจื่อ ที่ใส่กลีบดอกไม้จำนวนมากในอ่างอาบน้ำ หรือจะเป็นการอาบน้ำด้วยน้ำอบหอม? จู่ๆ ภาพเจียเหยาขณะอาบน้ำก็ผุดขึ้นมาในหัวของหยุนเจิง ทันใดนั้น หยุนเจิงรู้สึกเหมือนมีคนดึงตัวเขา จนถึงตอนนี้ หยุนเจิงถึงได้รู้สึกตัว หยุนเจิงหันศีรษะไป ก็เห็นเจียเหยาจ้องเขาด้วยสายตาสงสัย “อะไร? บนหน้าข้ามีดอกไม้หรือ?” หยุนเจิงถามด้วยสีหน้างงงวย “อะไร? ข้ากำลังอยากถามเจ้าว่ากำลังทำอะไรอยู่?” เจียเหยาหัวเราะเล็กน้อย “ข้าพูดกับเจ้านานแล้ว แต่เจ้าไม่มีปฏิกิริยาเลย ข้ายังคิดว่าเจ้าถูกผีสิงเสียอีก!” “หา?” “เช่นนั้นหรือ?” หยุนเจิงรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่ในใจ บ้าจริง! ยังไม่ทันถึงฤดูใบไม้ผลิเลย! เขานี่กำลังคิดบ้าอะไรอยู่กันแน่? หยุนเจิงรีบสะบัดความคิดฟุ้งซ่านออกไป ก่อนพูดด้วยท่าทีจริงจัง “เมื่อครู่ข้ากำลังคิดบางเรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1466

    เจียเหยาโกรธ “ข้าไม่ได้สงสัยว่าเจ้ามีสิ่งนั้นอยู่ในมือหรือไม่ ข้าแค่ถามไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น!” “ข้าบอกให้เจ้าไป ก็ต้องไป!” หยุนเจิงจ้องเจียเหยาทีหนึ่ง “แม้ว่าเจ้าจะวิ่งกลับไป ถ้าสถานการณ์ในเป่ยหวนไม่ดี เจ้าก็ต้องวิ่งมาหาข้าอยู่ดี วิ่งไปวิ่งมานี่เจ้าไม่เหนื่อยหรือ? หรือเจ้าอยากทรมานตัวเองจนตายเพื่อแก้แค้นข้า?” “ข้า…” เจียเหยาอึ้งจนพูดไม่ออก แต่ว่า คิดดูแล้วก็จริง หากสถานการณ์ในเป่ยหวนไม่ดี นางก็ต้องมาหาหยุนเจิงอยู่ดี คิดแบบนี้ การวิ่งไปมานั้นเหนื่อยมากจริงๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไปดูเขาขยายช่องเขาหลางหยาก็น่าสนใจ “ก็ได้ ข้าจะฟังเจ้า” เจียเหยาพยักหน้าเบาๆ ก่อนถามด้วยสีหน้าล้อเลียน “เจ้ารู้สึกสงสารข้าหรือ?” “เจ้าอยากให้ข้าสงสารเจ้าหรือ?” หยุนเจิงถามกลับ “แน่นอน!” เจียเหยาตอบทันที “ถ้ามองในมุมของข้า ยิ่งเจ้าสงสารข้า ข้าและเป่ยหวนก็ยิ่งได้ประโยชน์” หยุนเจิงยักไหล่ “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าข้าสงสารเจ้าก็แล้วกัน อย่างไรเจ้าก็คิดอะไรก็ได้ที่ทำให้เจ้ามีความสุข” สงสารเจียเหยาหรือ? ก็มีอยู่เล็กน้อยแหล่ะ! ทว่าก็แค่นิดหน่อยเท่านั้น ส่วนใหญ่ก็เพื่อรักษาอำนาจข่มขู่เจียเห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status