ฉินชีหู่ถามอย่างทนไม่ไหว“นี่ยังต้องพูดหรือ?”หยุนเจิงหัวเราะ “เจ้าลืมเรื่องก่อนหน้านี่ที่พวกเราจู่โจมชายแดนเว่ยแล้วหรือ?”ตอนที่จู่โจมชายแดนเว่ย?ฉินชีหู่นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังออกมา “หากพวกเขาไม่แบ่งทหาร พวกเราก็กุมหัวใจพวกเขาโดยตรง!”“ใช่!”หยุนเจิงพยักหน้าหัวเราะหากเกออาซูไม่แบ่งทหาร พวกเขาก็จู่โจมชนเผ่าเป่ยหวนตามทางไปราชสำนักโดยตรงเช่นนี้ พวกเขายังได้รับเสบียงอย่างรวดเร็ว!ไม่ว่าเกออาซูจะเลือกเช่นไร พวกเราล้วนตอบโต้ได้หลังจากปรึกษากับคร่าวๆ แล้ว หยุนเจิงเริ่มออกคำสั่ง “ฉินชีหู่ ชวีเจิ้ง สั่งเจ้าสองคนบัญชาการทหารม้าหนึ่งหมื่นคนเป็นทัพหน้า พรุ่งนี้เช้าออกเดินทาง เคลื่อนทัพไปยังราชสำนักเป่ยหวน!”“เสิ่นลั่วเยี่ยน เจ้ากับข้าบัญชาการทหารม้าหนึ่งหมื่นคนที่เหลือเป็นทัพหลัง!”“อวี๋ซื่อจง ส่งคนไปถ่ายทอดคำสั่งให้ตู้กุยหยวน กองทหารโลหิตพรุ่งนี้เช้าเคลื่อนย้ายมาที่ปีกขวาของพวกเรา ให้ความร่วมมือการเคลื่อนไหวก้าวต่อไปของพวกเรา!”“อีกอย่าง สั่งคนเดินทางกลางคืนไปถ่ายทอดคำสั่งให้เติ่งเป่าและหลูซิ่งที่คุ้มกันเสบียงอยู่ด้านหลัง ภารกิจคือเร่งความเร็วในการคุ้มกันขนสั่งเส
“ก่อกวนและจู่โจม?”เมื่อได้รับข่าวจากคนที่ฉินชีหู่ส่งมา หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเกออาซูผู้นี้ค่อนข้างมีลู่ทาง!สถานการณ์เช่นนี้ นึกไม่ถึงจะส่งคนนับพันมาก่อกวนทัพหน้าของฉินชีหู่?มารดาเขาสิ!คำนวณพลาดแล้ว!เห็นได้ชัดว่าเกออาซูกำลังยื้อเวลาให้เจียเหยาสยบชนเผ่าของอาหลู่ไถ!เมื่อพวกเขาถูกถ่วงเวลา รอเจียเหยาจัดการงานในมือนางเรียบร้อยแล้ว ขวัญกำลังใจกองทัพพวกเขามั่นคงแล้ว ถึงเวลานั้น เจียเหยาจะต้องนำทัพมาโจมตีพวกเขา!เจ้าคนชั่วนี่รู้ว่าเขาไม่ยอมใช้ไม้แข็งปะทะไม้แข็งกับเขา!แต่ว่า การกระทำของเกออาซู เป็นการเตือนสติเขาแล้ว!“ตอนนี้ควรทำเช่นไร?”เสิ่นลั่วเยี่ยนขมวดคิดถามแผนการกับหยุนเจิง“เจ้าคิดว่าพวกเราควรทำเช่นไร?”หยุนเจิงถามกลับเสิ่นลั่วเยี่ยน“นี่...”เห็นได้ชัดว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนนึกไม่ถึงว่าหยุนเจิงจะทดสอบนางในเวลานี้ ฉับพลันนั้นไม่รู้ควรกล่าวเช่นไร ทำได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ “ข้าก็ไม่รู้ควรทำเช่นไร หากทำตามนิสัยข้า ข้าจะสั่งให้ฉินชีหู่รวมทหารกับพวกเรา ฉวยโอกาสตอนทัพศัตรูขวัญกำลังใจไม่มั่นจง โจมตีโดนตรง! แต่เจ้าคงไม่ทำเช่นนี้...”นางรู้ หยุนเจิงทำงานหากเลี่ยงการปะทะได้ก็
“สั่งตู้กุยหยวน จับตากองทัพเกออาซู ทันทีที่กองกำลังเกออาซูไล่โจมตีพวกเรา หาโอกาสเผาเสบียงพวกเขา!”เกออาซูคิดจะถ่วงเวลาพวกเขา เขาก็จะไม่ให้โอกาสเกออาซูถ่วงเวลา!ฉวยโอกาสตอนที่ด้านหลังทัพศัตรูยังไม่ได้ระดมกำลังทหาร จู่โจมโดยเร็ว เอาชนะไปทีละคน!“องค์ชาย คิดอีกหน่อยดีหรือไม่? หรือว่า ให้ข้าบัญชาการ?”อวี๋ซื่อจงลังเล ถามด้วยความระมัดระวังหยุนเจิงทำเช่นนี้ แม้สถานการณ์ตรงหน้าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอันตรายเมื่อถูกทัพศัตรูครอบงำ เป็นไปได้สูงว่าพวกเขาจะถูกเป่ยหวนไล่ตามล้อมปิดกั้นเอาไว้อย่าเอาแต่มองว่าตอนนี้เป่ยหวนเสบียงอาหารไม่พอ ไม่กล้ารักษากองทัพประจำการไว้มากเกินไป แต่เมื่อหยุนเจิงนำกองทหารไปอาละวาดข้างหลังพวกเขา เป่ยหวนต่อให้ฆ่าม้าศึกมาเป็นเสบียงให้กองทัพ ก็ต้องสู้ตายไปข้างหนึ่งกับหยุนเจิงถึงเช่นไร หยุนเจิงกำลังกุมหัวใจของพวกเขาแล้ว!ปศุสัตว์และม้าศึกเหล่านั้น ต่อให้พวกเขาไม่ฆ่า หยุนเจิงก็ต้องช่วยพวกเขาฆ่า!แทนที่จะเป็นเช่นนี้ ไม่สู้ผลาญสมบัติให้หมด สู้จนตายไปข้างหนึ่งกับหยุนเจิงหากเกออาซูนำทัพขัดขวางเส้นทางถอยกลับของพวกเขา เกรงว่าพวกเขาต้องซ้ำรอยเดิม
สายัณห์ยามตะวันรอน เกออาซูได้รับข่าวอีกครั้งง รับรู้การเคลื่อนไหวของทหารม้าต้าเฉียนสีหน้าเกออาซูเปลี่ยนไป ในใจเกิดความกระวนกระวายทัพหลังของศัตรูมากดดันด้วย?สองทัพรวมตัวกันบุกมา กำลังบุกไปไปยังราชสำนัก?เจตนาของเขาถูกศัตรูดูออกแล้ว!ทัพศัตรูโจมตีรวดเร็ว เพื่อไม่ปล่อยให้พวกเขามีเวลาระดมกำลังทหารด้านหลัง!ทำเช่นไร?ต่อไปควรทำเช่นไร?ด้านหลังพวกเขามีกำลังทหารไม่น้อยเลย!แต่เกิดเรื่องฮูหลัวขึ้นกะทันหัน!พวกเขาไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไประดมกำลังทหารเหล่านั้น!ตอนนี้กองทัพต้าเฉียนโจมจีด้านหลังของพวกเขาโดยตรง หากรวบรวมกำลังทหาร ไม่เพียงพอที่จะไปสู้กับต้าเฉียน เช่นนั้นก็เป็นการส่งคนไปตายโดยแท้!ช่วงเวลาฉุกละหุก เกออาซูอยากจะตบตัวเองสักฉากอยู่ดีไม่ว่าดี เขาส่งคนไปถ่วงความเร็วในการเคลื่อนทัพของพวกเขาเพื่อสิ่งใดหากเขาไม่ส่งคนไปทำเรื่องนี้ หยุนเจิงคงกังวลว่าด้านหลังของพวกเขามีแผน ไม่กล้าเสี่ยงบุกเช่นนี้เขาส่งคนไปทำเรื่องนี้ ไม่เท่ากับเป็นการบอกกับหยุนเจิง ด้านหลังของพวกเขา จำเป็นต้องใช้เวลาในการระดมกำลังหรือ?การกระทำเกินจำเป็น!โง่เขลา!เหตุใดเขาจึงโง่เพียงนี้!เกออาซูปวดหัวม
สองทหารคนสนิทรู้ว่าเฆี่ยนเช่นไรคนจึงจะเจ็บ จงใจแช่แส้เฆี่ยนม้าในน้ำเพี๊ยะ!แส้ฟาดลงไป ฟางหยุนซื่อร้องออกมาอย่างอนาถทันที เจ็บจนสั่นไปทั้งตัวเพี๊ยะ!แส้ที่สองฟาดลงไปอีกครั้งฟางหยุนซื่อร้องโหยหวนอีกครั้ง บนหลังเขาถูกเฆี่ยนจนมีบาดแผลแดงสดอยู่สองเส้นเพี๊ยะๆๆ!แส้ในมือทหารคนสนิททั้งสองคนเฆี่ยนตีหลังฟางหยุนซื่อไม่หยุดไม่นาน แผ่นหลังของหยุนซื่อก็ถูกเฆี่ยนจนหนังเปิดเนื้อปริออกอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฟางหยุนซื่อจะอ้อนวอนอย่างอนาถเช่นไร เกออาซูก็ไม่ขยับ ยังสั่งให้คนเฆี่ยนรุนแรงต่อไปแส้ฟาดไปสิบกว่าที ในที่สุดฟางหยุนซื่อก็ทนไม่ไหว ร้องไห้ด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว “แม่ทัพ ข้า... ข้ามีวิธีแล้ว แม่ทัพ...อ๊าก...”ฟางหยุนซื่อด้านหนึ่งกล่าว ด้านหนึ่งร้องเจ็บปวดเขาไม่กล้าไม่พูดนี่แค่แส้กว่าทีเท่านั้น เขาก็ทนไม่ไหวแล้วหากฟาดห้าสิบแส้จริง เกรงว่าเขาคงถูกตีจนตาย“หยุด!”เกออาซูหยุดทหารคนสนิททั้งสอง จากนั้นก็เดินมาข้างหน้าฟางหยุนซื่อ “พูด มีวิธีใด?”ฟางหยุนซื่อพยายามสูดหายใจลึกๆ ค่อยๆ เรียกสติกลับมา จากนั้นก็กล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรง “พวกเราสามารถแบ่งทหารเป็นสองเส้นทาง...”“พูดเหลวไหล!”เกออาซ
วันถัดมา ตอนที่พวกหยุนเจิงกำลังเตรียมจู่โจมชนเผ่าของเป่ยหวนประมาณสิบลี้ระยะห่าง หน่วยสอดแนมมารายงานทางปีกขวาของพวกเขาสามสิบลี้ ปรากฏทหารม้าเป่ยหวนจำนวนมาก มีจำนวนนับหมื่น“คิดจะตรึงกำลังพวกเราหรือ?”หยุนเจิงยิ้มกับตัวเอง ทันใดนั้นก็สั่งอวี๋ซื่อจง “ถ่ายทอดคำสั่งให้ฉินชีหู่และชวีเจิ้ง บัชการทหารหมื่นคนของพวกเขาบุกโจมตีชนเผ่าด้านหน้า ห้ามปล่อยให้คนในชนเผ่าหนีออกไปส่งข่าว! สั่งคนของข้า เปิดฉากทันที ตั้งขบวนโจมตี!”“ขอรับ!”อวี๋ซื่อจงรับคำสั่งทันที“รู้ว่าข้าต้องการทำสิ่งใด?”หยุนเจิงถามเสิ่นลั่วเยี่ยนที่อยู่ข้างกายเสิ่นลั่วเยี่ยนเอียงศีรษะคิด ตอบ “เจ้าอยากให้ทัพศัตรูคิดว่าพวกเราต้องการโจมตีพวกเขา ให้ฉินชีหู่ยื้อเวลากับชนเผ่าแห่งนั้น?”“ไม่เลวเลย! ช่วงนี้ก้าวหน้าเร็วมาก! เรื่องนี้ก็ดูออกแล้ว!”หยุนเจิงพยักหน้ายิ้มเล็กน้อย หลอกเย้าเสิ่นลั่วเยี่ยนใบหน้าของเสิ่นลั่วเยี่ยน กล่าวด้วยความอาย “เอาข้างกายเจ้าทุกวัน หากไม่ก้าวหน้าแม้แต่น้อย เจ้าคงด่านข้าในใจว่าโง่!”“ต้องบอกว่าตอนนี้เจ้าฉลาดแล้ว” หยุนเจิงหัวเราะเสียงดังเสิ่นลั่วเยี่ยนใบหน้ากระตุกเล็กน้อย จ้องคนสารเลวด้วยความโกรธเคือ
ปล่อยให้ทหารม้าเป่ยหวนติดตามพวกเขาเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องดี!ครั้งนี้พวกเขาถ่วงเวลากองทหารม้านี่ การโจมตีชนเผ่าแรกสำเร็จแล้ว ครั้งต่อไปเล่า?แม่ทัพบัญชาการของเป่ยหวนไม่ใช่คนโง่วิธีนี้ใช้ได้เพียงครั้งเดียวหากใช้อีกครั้งต่อไป เป็นไปได้มากว่าศัตรูคงเข้ามากดดันโดยตรงแล้วไม่ได้!ต้องคิดหาวิธีให้ทหารม้ากองนี้ถอยหนี!มิฉะนั้นทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาล้วนอยู่ใต้สายตาของอีกฝ่ายไม่เป็นประโยชน์กับแผนการขั้นต่อไปของพวกเขา!บนทางระหว่างถอย หยุนเจิงสังเกตสภาพสถานที่โดยรอบไม่หยุด ทั้งยังคิดหากลยุทธทำลายศัตรูคิดไปคิดมา หยุนเจิงก็ยังหาวิธีที่ดีไม่ได้ถึงเช่นไรที่นี่ก็ไม่ใช่สถานที่เหมือนหุบผาชันช่องลมหรือหุบเขามรณะคิดจะให้ประโยชน์จากสถานที่ทำให้พวกเขาสามารถตีทัพศัตรูได้ แต่ทัพศัตรูไม่อาจโจมตีพวกเขา โดยพื้นฐานแล้วเป็นไปไม่ได้คิดจัดการกองทัพทหารม้านี้ เกรงว่าต้องเผชิญหน้าโดยตรงสักครั้งแล้ว!หยุนเจิงกำลังครุ่นคิด เห็นว่าไม่ไกลมีเนินดินอยู่ จึงตัดสินใจทันที เรียกคนไปถ่ายทอดคำสั่งให้ฉินชีหู่ “สั่งกองกำลังฉินชีหู่ รีบกลับมาช่วยสนับสนุน อ้อมไปยังเนินดินด้านข้างของงพวกเรา ทันทีที่หน่วยข้าทำศึก
“ฆ่า!”สิ้นเสียงฆ่าที่ดังสะเทือนไปทั่วบริเวร ในที่สุดทหารม้าทั้งสองฝ่ายก็เผชิญหน้ากันสู้กันตอนที่ทั้งสองฝ่ายเข้าใกล้อาณาบริเวณสามลี้ ทหารม้าเป่ยหวนแบ่งออกเป็นสองอย่างรวดเร็ว บุกมาที่ด้านข้างของพวกเขานี่เป็นทักษะการรบที่ทหารม้าไปหวนคุ้นเคยที่สุด อ้อมไปด้านข้างของศัตรู จัดการทหารที่ไม่มีก็กันบ้าง รอให้ศัตรูเสียหาย คอย ดำเนินการล่าเหยื่อตรงหน้าเมื่อเห็นการแปรขบวนทัพของศัตรู หยุนเจิงอดนึกดีใจไหมสุดท้ายก็มาลูกไม้นี้!ยังดีที่พวกเขาบุกโจมตีที่ปีกขวาของทัพศัตรูหากพวกเขาเลือกโจมตีข้างหน้าโดยตรง ไม่นานก็จะตกอยู่กลางวงล้อมซ้ายขวาของทัพศัตรูพวกเขาออกโจมตีสัมภาระเบา ไม่ใช่ทหารม้าทุกคนจะมีโล่ในมือ มีเพียงคนจำนวนน้อยที่มีม้าศึกที่ค่อนข้างดีและโล่ป้องกันการโจมตีด้วยขอบเขตกว้างขวาง ล้วนเป็นทหารที่มีโล่กันบังในมืออยู่ข้างหน้า ทำลายแนวรบของศัตรูก่อนเมื่อกองกำลังศัตรูมาถึงทั้งสองข้างพวกเขาจะโจมตีแบบกองโจร ทหารม้ามากมายไม่มีโล่กันบังล้วนตกอยู่ในอาณาเขตการโจมตีของศัตรู ก็จะเกิดความเสียหายหนักมากเนื่องจากทั้งสองฝ่ายอยู่ใกล้กัน แม่ทัพของศัตรูเข้าใจเจตนาของพวกเขาหยุนเจิงแล้วตรงหน้าเห็นว่