หยุนเจิงตัดสินใจเงียบๆเวลานี้ เมี่ยวอินนำอาหารแห้งและถุงน้ำเดินเข้ามา“กินก่อนเถอะ!”เมี่ยวอินนำอาหารแห้งยกมาไว้หน้าหยุนเจิง กล่าวหลอกล้อ “ดูท่าทางแล้ว ความกดดันที่เจียเหยามอบให้เจ้าใหญ่มาก!”“ใช่!”เจียเหยาพยักหน้าเล็กน้อย “ผู้หญิงคนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม ปะมือกับนาง ความเสียหายไม่แน่นอน”เขาไม่กลัวสู้กับเจียเหยาตั้งแต่ต้นจนจบสิ่งที่เขากังวลคือความเสียหายมากเกินไปวันข้างหน้ายังอีกยาวไกล!ไม่ใช่ว่าสู้กับจบหนึ่งสนามแล้วไม่จำเป็นต้องสู้อีกเรื่องฆ่าศัตรูนับพันตัวเองเสียหายแปดร้อย แต่ไหนแต่ไรมาไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบทำแม้ตอนนี้เป่ยหวนกำลังอันเข็มแข็งเกรียงไกรนั้นเสื่อมทรุดจนเป็นม้าตีนปลายแล้ว หากต้องเล่นถึงชีวิต ก็ทำให้พวกเขาติดขัดได้เช่นกันหากเป่ยหวนมีความคิดที่จะคว่ำโต๊ะ เรียกรับสมัครกองทัพสองสามหมื่นคนสู้ตายกับพวกเขา พวกเขาคงจบไม่สวยสิ่งที่เขาคิดคือสร้างความขัดแย้งภายในให้เป่ยหวน เขาฉวยโอกาสจากสถานการณ์ให้คนของพวกเขาไปสู้กันจนตาย เขาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ นี่จึงสบกับเรื่องที่เจ้าหกทำ “เช่นนั้นเจ้าก็คิดเปิดกว้างหน่อย”เสิ่นลั่วเยี่ยนยื่นหน้ามา “พวกเราไม่จำเป็นต้
ด้วยการบอกเล่าของทั้งสองคน หยุนเจิงก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้วหลังจากเจียเหยาสังหารฮูหลัวที่ขนเสบียงอาหารหลบหนี จากนั้นก็ใช้วิธีสายฟ้าแลบล้อมกองทหารม้าหนึ่งหมื่นคนที่มาสนับสนุนฮูหลัว และทันใดนั้นก็ลอบโจมตีขบวนหน้า ฆ่าแม่ทัพหลักของกองทหารม้าหนึ่งหมื่นคนนั่นแต่ว่า ทหารม้าหนึ่งหมื่นอยู่ใต้สังกัดตรงของอาหลู่ไถแม้แม่ทัพหลักจะถูกยิงตาย กองทหารม้าหนึ่งหมื่นก็ยังคงลุกขึ้นมาต่อต้านหลังสงครามดุเดือด ทหารม้านับหมื่นที่กำลังใจไม่มั่นคงหลังจากสูญเสียไปหนึ่งพันกว่าคนสุดท้ายก็พ่ายแพ้ คนส่วนใหญ่ถูกเจียเหยาบังคับรวมไว้ด้วยกัน ยังมีมากกว่าพันคนบุกฝ่าวงล้อมออกไปได้เจียเหยานำทหารห้าพันคนมุ่งหน้าไปที่กระโจมของอาหลู่ไถ สั่งแม่ทัพใหญ่เกออาซูบัญชาการทหารเกือบสามหมื่นนายที่เหลือ ด้านหนึ่งตัดขาดด้านหลัง ด้านหนึ่งมาเข้ารวมกับนาง พยายามป้องการการจู่โจมของต้าเฉียนให้มากที่สุดหลังจากเข้าใจสถานการณ์แล้ว หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะถอนใจด้วยความโล่งอกเข้าใจสถานการณ์ได้ก็ดีแล้ว!คราวนี้ สามาถลงมือได้อย่างวางใจแล้ว!มารดาเขา!เจียเหยาสตรีผู้นี้มีความกล้า นึกไม่ถึงว่าจะฮุบรวมกองกำลังของอาหลู่ไถแล้วอีกทั้ง ส
ฉินชีหู่ถามอย่างทนไม่ไหว“นี่ยังต้องพูดหรือ?”หยุนเจิงหัวเราะ “เจ้าลืมเรื่องก่อนหน้านี่ที่พวกเราจู่โจมชายแดนเว่ยแล้วหรือ?”ตอนที่จู่โจมชายแดนเว่ย?ฉินชีหู่นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังออกมา “หากพวกเขาไม่แบ่งทหาร พวกเราก็กุมหัวใจพวกเขาโดยตรง!”“ใช่!”หยุนเจิงพยักหน้าหัวเราะหากเกออาซูไม่แบ่งทหาร พวกเขาก็จู่โจมชนเผ่าเป่ยหวนตามทางไปราชสำนักโดยตรงเช่นนี้ พวกเขายังได้รับเสบียงอย่างรวดเร็ว!ไม่ว่าเกออาซูจะเลือกเช่นไร พวกเราล้วนตอบโต้ได้หลังจากปรึกษากับคร่าวๆ แล้ว หยุนเจิงเริ่มออกคำสั่ง “ฉินชีหู่ ชวีเจิ้ง สั่งเจ้าสองคนบัญชาการทหารม้าหนึ่งหมื่นคนเป็นทัพหน้า พรุ่งนี้เช้าออกเดินทาง เคลื่อนทัพไปยังราชสำนักเป่ยหวน!”“เสิ่นลั่วเยี่ยน เจ้ากับข้าบัญชาการทหารม้าหนึ่งหมื่นคนที่เหลือเป็นทัพหลัง!”“อวี๋ซื่อจง ส่งคนไปถ่ายทอดคำสั่งให้ตู้กุยหยวน กองทหารโลหิตพรุ่งนี้เช้าเคลื่อนย้ายมาที่ปีกขวาของพวกเรา ให้ความร่วมมือการเคลื่อนไหวก้าวต่อไปของพวกเรา!”“อีกอย่าง สั่งคนเดินทางกลางคืนไปถ่ายทอดคำสั่งให้เติ่งเป่าและหลูซิ่งที่คุ้มกันเสบียงอยู่ด้านหลัง ภารกิจคือเร่งความเร็วในการคุ้มกันขนสั่งเส
“ก่อกวนและจู่โจม?”เมื่อได้รับข่าวจากคนที่ฉินชีหู่ส่งมา หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเกออาซูผู้นี้ค่อนข้างมีลู่ทาง!สถานการณ์เช่นนี้ นึกไม่ถึงจะส่งคนนับพันมาก่อกวนทัพหน้าของฉินชีหู่?มารดาเขาสิ!คำนวณพลาดแล้ว!เห็นได้ชัดว่าเกออาซูกำลังยื้อเวลาให้เจียเหยาสยบชนเผ่าของอาหลู่ไถ!เมื่อพวกเขาถูกถ่วงเวลา รอเจียเหยาจัดการงานในมือนางเรียบร้อยแล้ว ขวัญกำลังใจกองทัพพวกเขามั่นคงแล้ว ถึงเวลานั้น เจียเหยาจะต้องนำทัพมาโจมตีพวกเขา!เจ้าคนชั่วนี่รู้ว่าเขาไม่ยอมใช้ไม้แข็งปะทะไม้แข็งกับเขา!แต่ว่า การกระทำของเกออาซู เป็นการเตือนสติเขาแล้ว!“ตอนนี้ควรทำเช่นไร?”เสิ่นลั่วเยี่ยนขมวดคิดถามแผนการกับหยุนเจิง“เจ้าคิดว่าพวกเราควรทำเช่นไร?”หยุนเจิงถามกลับเสิ่นลั่วเยี่ยน“นี่...”เห็นได้ชัดว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนนึกไม่ถึงว่าหยุนเจิงจะทดสอบนางในเวลานี้ ฉับพลันนั้นไม่รู้ควรกล่าวเช่นไร ทำได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ “ข้าก็ไม่รู้ควรทำเช่นไร หากทำตามนิสัยข้า ข้าจะสั่งให้ฉินชีหู่รวมทหารกับพวกเรา ฉวยโอกาสตอนทัพศัตรูขวัญกำลังใจไม่มั่นจง โจมตีโดนตรง! แต่เจ้าคงไม่ทำเช่นนี้...”นางรู้ หยุนเจิงทำงานหากเลี่ยงการปะทะได้ก็
“สั่งตู้กุยหยวน จับตากองทัพเกออาซู ทันทีที่กองกำลังเกออาซูไล่โจมตีพวกเรา หาโอกาสเผาเสบียงพวกเขา!”เกออาซูคิดจะถ่วงเวลาพวกเขา เขาก็จะไม่ให้โอกาสเกออาซูถ่วงเวลา!ฉวยโอกาสตอนที่ด้านหลังทัพศัตรูยังไม่ได้ระดมกำลังทหาร จู่โจมโดยเร็ว เอาชนะไปทีละคน!“องค์ชาย คิดอีกหน่อยดีหรือไม่? หรือว่า ให้ข้าบัญชาการ?”อวี๋ซื่อจงลังเล ถามด้วยความระมัดระวังหยุนเจิงทำเช่นนี้ แม้สถานการณ์ตรงหน้าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอันตรายเมื่อถูกทัพศัตรูครอบงำ เป็นไปได้สูงว่าพวกเขาจะถูกเป่ยหวนไล่ตามล้อมปิดกั้นเอาไว้อย่าเอาแต่มองว่าตอนนี้เป่ยหวนเสบียงอาหารไม่พอ ไม่กล้ารักษากองทัพประจำการไว้มากเกินไป แต่เมื่อหยุนเจิงนำกองทหารไปอาละวาดข้างหลังพวกเขา เป่ยหวนต่อให้ฆ่าม้าศึกมาเป็นเสบียงให้กองทัพ ก็ต้องสู้ตายไปข้างหนึ่งกับหยุนเจิงถึงเช่นไร หยุนเจิงกำลังกุมหัวใจของพวกเขาแล้ว!ปศุสัตว์และม้าศึกเหล่านั้น ต่อให้พวกเขาไม่ฆ่า หยุนเจิงก็ต้องช่วยพวกเขาฆ่า!แทนที่จะเป็นเช่นนี้ ไม่สู้ผลาญสมบัติให้หมด สู้จนตายไปข้างหนึ่งกับหยุนเจิงหากเกออาซูนำทัพขัดขวางเส้นทางถอยกลับของพวกเขา เกรงว่าพวกเขาต้องซ้ำรอยเดิม
สายัณห์ยามตะวันรอน เกออาซูได้รับข่าวอีกครั้งง รับรู้การเคลื่อนไหวของทหารม้าต้าเฉียนสีหน้าเกออาซูเปลี่ยนไป ในใจเกิดความกระวนกระวายทัพหลังของศัตรูมากดดันด้วย?สองทัพรวมตัวกันบุกมา กำลังบุกไปไปยังราชสำนัก?เจตนาของเขาถูกศัตรูดูออกแล้ว!ทัพศัตรูโจมตีรวดเร็ว เพื่อไม่ปล่อยให้พวกเขามีเวลาระดมกำลังทหารด้านหลัง!ทำเช่นไร?ต่อไปควรทำเช่นไร?ด้านหลังพวกเขามีกำลังทหารไม่น้อยเลย!แต่เกิดเรื่องฮูหลัวขึ้นกะทันหัน!พวกเขาไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไประดมกำลังทหารเหล่านั้น!ตอนนี้กองทัพต้าเฉียนโจมจีด้านหลังของพวกเขาโดยตรง หากรวบรวมกำลังทหาร ไม่เพียงพอที่จะไปสู้กับต้าเฉียน เช่นนั้นก็เป็นการส่งคนไปตายโดยแท้!ช่วงเวลาฉุกละหุก เกออาซูอยากจะตบตัวเองสักฉากอยู่ดีไม่ว่าดี เขาส่งคนไปถ่วงความเร็วในการเคลื่อนทัพของพวกเขาเพื่อสิ่งใดหากเขาไม่ส่งคนไปทำเรื่องนี้ หยุนเจิงคงกังวลว่าด้านหลังของพวกเขามีแผน ไม่กล้าเสี่ยงบุกเช่นนี้เขาส่งคนไปทำเรื่องนี้ ไม่เท่ากับเป็นการบอกกับหยุนเจิง ด้านหลังของพวกเขา จำเป็นต้องใช้เวลาในการระดมกำลังหรือ?การกระทำเกินจำเป็น!โง่เขลา!เหตุใดเขาจึงโง่เพียงนี้!เกออาซูปวดหัวม
สองทหารคนสนิทรู้ว่าเฆี่ยนเช่นไรคนจึงจะเจ็บ จงใจแช่แส้เฆี่ยนม้าในน้ำเพี๊ยะ!แส้ฟาดลงไป ฟางหยุนซื่อร้องออกมาอย่างอนาถทันที เจ็บจนสั่นไปทั้งตัวเพี๊ยะ!แส้ที่สองฟาดลงไปอีกครั้งฟางหยุนซื่อร้องโหยหวนอีกครั้ง บนหลังเขาถูกเฆี่ยนจนมีบาดแผลแดงสดอยู่สองเส้นเพี๊ยะๆๆ!แส้ในมือทหารคนสนิททั้งสองคนเฆี่ยนตีหลังฟางหยุนซื่อไม่หยุดไม่นาน แผ่นหลังของหยุนซื่อก็ถูกเฆี่ยนจนหนังเปิดเนื้อปริออกอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฟางหยุนซื่อจะอ้อนวอนอย่างอนาถเช่นไร เกออาซูก็ไม่ขยับ ยังสั่งให้คนเฆี่ยนรุนแรงต่อไปแส้ฟาดไปสิบกว่าที ในที่สุดฟางหยุนซื่อก็ทนไม่ไหว ร้องไห้ด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว “แม่ทัพ ข้า... ข้ามีวิธีแล้ว แม่ทัพ...อ๊าก...”ฟางหยุนซื่อด้านหนึ่งกล่าว ด้านหนึ่งร้องเจ็บปวดเขาไม่กล้าไม่พูดนี่แค่แส้กว่าทีเท่านั้น เขาก็ทนไม่ไหวแล้วหากฟาดห้าสิบแส้จริง เกรงว่าเขาคงถูกตีจนตาย“หยุด!”เกออาซูหยุดทหารคนสนิททั้งสอง จากนั้นก็เดินมาข้างหน้าฟางหยุนซื่อ “พูด มีวิธีใด?”ฟางหยุนซื่อพยายามสูดหายใจลึกๆ ค่อยๆ เรียกสติกลับมา จากนั้นก็กล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรง “พวกเราสามารถแบ่งทหารเป็นสองเส้นทาง...”“พูดเหลวไหล!”เกออาซ
วันถัดมา ตอนที่พวกหยุนเจิงกำลังเตรียมจู่โจมชนเผ่าของเป่ยหวนประมาณสิบลี้ระยะห่าง หน่วยสอดแนมมารายงานทางปีกขวาของพวกเขาสามสิบลี้ ปรากฏทหารม้าเป่ยหวนจำนวนมาก มีจำนวนนับหมื่น“คิดจะตรึงกำลังพวกเราหรือ?”หยุนเจิงยิ้มกับตัวเอง ทันใดนั้นก็สั่งอวี๋ซื่อจง “ถ่ายทอดคำสั่งให้ฉินชีหู่และชวีเจิ้ง บัชการทหารหมื่นคนของพวกเขาบุกโจมตีชนเผ่าด้านหน้า ห้ามปล่อยให้คนในชนเผ่าหนีออกไปส่งข่าว! สั่งคนของข้า เปิดฉากทันที ตั้งขบวนโจมตี!”“ขอรับ!”อวี๋ซื่อจงรับคำสั่งทันที“รู้ว่าข้าต้องการทำสิ่งใด?”หยุนเจิงถามเสิ่นลั่วเยี่ยนที่อยู่ข้างกายเสิ่นลั่วเยี่ยนเอียงศีรษะคิด ตอบ “เจ้าอยากให้ทัพศัตรูคิดว่าพวกเราต้องการโจมตีพวกเขา ให้ฉินชีหู่ยื้อเวลากับชนเผ่าแห่งนั้น?”“ไม่เลวเลย! ช่วงนี้ก้าวหน้าเร็วมาก! เรื่องนี้ก็ดูออกแล้ว!”หยุนเจิงพยักหน้ายิ้มเล็กน้อย หลอกเย้าเสิ่นลั่วเยี่ยนใบหน้าของเสิ่นลั่วเยี่ยน กล่าวด้วยความอาย “เอาข้างกายเจ้าทุกวัน หากไม่ก้าวหน้าแม้แต่น้อย เจ้าคงด่านข้าในใจว่าโง่!”“ต้องบอกว่าตอนนี้เจ้าฉลาดแล้ว” หยุนเจิงหัวเราะเสียงดังเสิ่นลั่วเยี่ยนใบหน้ากระตุกเล็กน้อย จ้องคนสารเลวด้วยความโกรธเคือ