“รายงานองค์ชาย ขบวนคุ้มกันเสบียงทัพเราเผชิญกับการโจมตีของทหารม้าเป่ยหวน แม่ทัพชวีเจิ้งนำกองทัพล่าถอย แต่ทหารม้าเป่ยหวนบุกมาอย่างรวดเร็ว ทัพเรายังมีเสบียงบางส่วนนำออกมาไม่ทัน...”ตอนบ่าย หยุนเจิงได้รับข่าวจากคนที่ชวีเจิ้งส่งกลับมา“กองกำลังชวีเจิ้งมีคนบาดเจ็บหรือไม่?”หยุนเจิงถามทันทีทหารส่งสารตอบทันที “ไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่ม้าเสียกำลังไป มีม้าสามร้อยกว่าตัววิ่งจนเหนื่อยตายแล้ว...”“ดี! ดีมาก!”หยุนเจิงดีใจมาก ออกคำสั่ง “สั่งเติ้งเป่า ไปทางทะเลสาบไป๋หลางสามร้อยลี้ ตอบรับกองกำลังฉินชีหู่และกองทหารโลหิต! สั่งกองกำลังชวีเจิ้ง เดินทางตลอดคืนไปอยู่กับกองกำลังเติ่งเป่า!”เสบียงขนไม่ทันก็ไม่ทัน!ถึงเช่นไรคงเหลือเสบียงไม่มากแล้ว!ส่วนม้า ก็ไม่เป็นไรนี่ไม่ใช่ตอนที่พวกเขาเข้าสู่เมืองซั่วเป่ยแล้วม้าศึกสามร้อยกว่าตัว วิ่งจนตายไปแล้วก็ช่างเถอะ!ก็นำมาแปรรูปเป็นอาหารให้ทุกคนแล้วกัน!ขอแค่คนหนีกลับมาได้ก็พอแล้วขอแค่ตีขนเป่ยหวนฟันร่วงเต็มฟื้น ต่อไปยังมีโอกาสได้ม้าศึกอีก!ความต้องการที่เขามีต่อฉินชีหู่และกองทหารโลหิตมีไม่สูง ทัพศัตรูมีสามเส้นทางคนและม้าไม่ใช่หรือ ขอแค่เผาเสบียงเส้นทางใด
เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกฟ้อง เดิมทีอันหวังที่คิดจะอยู่อย่างสงบเงียบก็จำเป็นต้องก่อกบฎแล้วเนื่องจากราชสำนักรวบรวมกำลังทหารไว้ที่ฟู่โจวมากเกินไป เป็นผลให้การป้องกันของซู่โจวว่างเปล่า ไม่นานอันหวังสามารถยึดครึ่งเมืองซู่โจวได้อย่างรวดเร็วปัจจุบัน ราชสำนักได้ระดมทหารสามหมื่นคนจากฟู่โจวอย่างเร่งด่วนเพื่อปราบปรามกบฏผลลัพธ์ต่อมา จั่วเริ่นก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่ว่า เขาส่งคนไปสืบแล้วหากมีข่าวใหม่ จั่วเริ่มจะส่งคนมาส่งจดหมายโดยเร็วอ่านจดหมายในมือจบ หยุนเจิงอดยิ้มส่ายหน้าไม่ได้ “ดูเจ้ารีบร้อน ข้าก็นึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ใด! ไม่ต้องร้อนใจ อันหวังคงสร้างคลื่นลมใดไม่ได้!”หากตามแผนการเดิม หลังจากต้นฤดูใบไม้ผลิราชสำนักเคลื่อนทัพใหญ่ต่อสู้เป่ยหวน อันหวังสามารถฉวยโอกาสนี้ได้แต่ตอนนี้ ราชสำนักไม่ได้ใช้กับเป่ยหวนก่อเรื่องกันไปมา สุดท้ายก็เป็นกองทหารมณฑลทางเหนือต่อสู้กับเป่ยหวนตอนนี้อันหวังเพียงครอบครองพื้นที่ว่างเท่านั้นรอให้ทหารจากฟู่โจวที่ราชสำนักส่งไป ไม่นานก็น่าจะปราบปรามกบฎอันหวังได้แล้วในราชสำนักมีแม่ทัพอาวุโสที่เต็มไปด้วยประสบการณ์มากมาย!สยบความวุ่นวายที่อันหวังก่อ น่าจะไม่ใช่เรื่องยาก
ขณะฟ้ามืด เจียเหยากับเกออาซูนำทหารกลับถึงค่ายทหารของนางฮูหลัวนำกองทัพกลับไปยังค่ายทหารเส้นทางซ้ายการต่อสู้ครั้งนี้ ความเสียหายของพวกเจียเหยาไม่นับว่ายอมรับไม่ได้ทหารห้าพันที่เกออาซูเหลือไว้เฝ้าค่าย บาดเจ็บล้มตายเกือบสองพันคนเท่านั้นผลลัพธ์นี้ดีกว่าที่เจียเหยาคิดไว้มากแล้วแต่เมื่อคิดถึงเสบียงของพวกเขา ในใจของเจียเหยาเหมือนมีเลือดไหลเสบียงที่ถูกเผา คือเสบียงสำหรับสามเดือนของกำลังเกออาซู!เสบียงสามเดือนเชียวนะ!สำหรับพวกเขาที่เสบียงขาดแคลนเข้าขั้นวิกฤตแล้ว เป็นเหมือนการเพิ่มน้ำค้างแข็งบนหิมะโดยไม่ต้องสงสัยตอนที่เห็นกองไฟลุกโชนกลางค่าย เจียเหยาเกือบทนไม่ไหวร้องไห้ออกมาก่อนหน้านี้ พวกเขายังพอจะฝืนรักษาทหารและม้าสามหมื่นไว้ได้! ตอนนี้ แม้แต่ทหารม้าสามหมื่นก็ไร้หนทางรักษาไว้ได้แล้วแต่หากรักษาทหารม้าสามหมื่นไว้ไม่ได้ พวกเขาจะต่อต้านการโจมตีครั้งต่อไปของหยุนเจิงได้เช่นไร?หากยังต้องรักษากำลังทหารสามหมื่นไว้ เสบียงที่เหลือ เพียงพอให้กองทัพสามหมื่นของพวกเขาใช้แค่สองเดือนเท่านั้น“องค์หญิง ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไร?”เกออาซูมองเจียเหยาอย่างไม่รู้ควรทำเช่นไรสูญเสียเสบียงหนึ
เจียเหยาครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นกล่าวกับเกออาซู “ให้พวกเขาเอาวัวแพะมาแลกคนเถอะ! แพะอ้วนสิบตัวหรือวัวหนึ่งตัวแลกกับผู้บาดเจ็บสาหัสหนึ่งคน!”ปศุสัตว์อย่างไรก็มีชีวิตถูกใส่ยาพิษหรือไม่ แค่ดูก็รู้แล้วถึงเช่นไรล้วนนำมาบริโภค“นำวัวแพะมาเลือกหรือ?”เกออาซูขมวดคิ้วกล่าว “มิฉะนั้น เอาเยอะหน่อยเถอะ?”“เจ้าคิดว่าหยุนเจิงโง่หรือ?”เจียเหยาช้อนลูกตา “เอามากเกินไป เขาก็ไม่แลกแล้ว! พวกเราไม่อาจฆ่าผู้บาดเจ็บสาหัสที่พวกเขาทิ้งไว้ ยังต้องหาคนรักษาพวกเขา ยังต้องเปลืองเสบียงอาหารเลี้ยงพวกเขา สุดท้ายแล้ว พวกเราก็เสียเปรียบ...”ผู้บาดเจ็บสาหาเหล่านี้หายิ่งอยู่นาน ยิ่งตายเยอะขึ้นแทนที่จะเป็นเช่นนี้ ไม่สู้ถือโอกาสตอนที่คนเหล่านั้นยังมีลมหายใจ รีบแลกเปลี่ยนของกินกลับมาบ้างดีกว่ามากน้อยก็สามารถคลี่คลายปัญหาขาดแคลนเสบียงของพวกเขาได้บ้างเกออาซูครุ่นคิด พยักหน้าตกลง“ใช่แล้ว ศพที่เขาทิ้งไว้สองร้อยร่าง ก็เอาไปแลกพร้อมกัน ทุกสองศัพแลกแพะสองตัว...”เจียเหยากำชับเพิ่มอีกครั้งศพเหล่านี้ ทิ้งไว้บนที่ดินของพวกเขาก็ไม่มีประโยชน์แลกแพะกลับมาได้บ้าง มากน้อยก็นับว่าคุ้มค่า……วันถัดไป หยุนเจิงได้รับจดห
เวลาชั่วพริบตา ผ่านไปสามวันแล้ววัวแพะเหล่านั้นที่เจียเหยาสั่งให้คนแลกกลับมา บางส่วนตกสู่ท้องของทหารแล้วยังมีบางส่วน นางสั่งให้คนรีบไปยังชนเผ่าข้างหลังพวกเขายังคงเกณฑ์ทหารพร้อมเสบียงจากชนเผ่าต่างๆ อยู่ด้านหลัง โดยพื้นฐานแล้วเป็นการบังคับชนเผ่าด้านหลังมากมายเริ่มบ่นอวดครวญแล้วปศุสัตว์เหล่านี้แม้มีไม่มาก แต่หวังว่ามันจะเอาชนะใจชนเผ่าที่อยู่ด้านหลังได้!คิดถึงปศุสัตว์เหล่านั้น เจียเหยาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธอีกครั้งเพื่อปศุสัตว์เหล่านี้ ฮูหลัวทะเลาะกับนางตั้งนานฮูหลัวคิดจะเอาปศุสัตว์สามส่วนไป นางให้ม้าแก่ฮูหลัวไปสิบตัวเท่านั้น สั่งฮูหลัวฆ่าเป็นรางวัลให้ทหารในค่ายฮูหลัวเจ้าคนสารเลว เวลานีแล้ว เขาคิดถึงเพียงชนเผาของเขารอหยุนเจิงบุกมาติ ฆ่าชาวเป่ยหวนทั้งหมด เขาคงดีใจ!“ไอสารเลว!”เจียเหยาอดด่าในใจไม่ได้ ความกลัดกลุ้มบนใบหน้าไม่หายไปแม้แต่น้อยในทางกลับกัน ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆสถานการณ์ตรงหน้า สำหรับเป่ยหวนแล้ว ยิ่งอยู่ยิ่งยากหากสู้กันเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าพวกเขายังถอยหนีไปยังทะเลทรายเหลือแล้วสงบศึก!หลาววันมานี้ ในสมองเจียเหยาผุดคำนี้ขึ้นมาไม่หยุดนางไม่อยากสู้แล้ว
เจียเหยาควบม้ามา ขวางหน้าฮูหลัวเอาไว้“ฮูหลัว เจ้าคิดจะไปที่ใด?”สายตาเย็นชาของเจียเหยาจับจ้องฮูหลัวฮูหลัวไม่นึกว่าเจียเหยาจะมาถึงเร็วเพียงนี้เขาแอบเตรียมตัวตั้งนาน เพิ่งเริ่มเคลื่อนไหว เจียเหยากับสังเกตเห็นแล้วสมควรตาย!เจียเหยาต้องป้องกันเขามาตลอด!นางไม่เคยไว้วางใจเขา!ฮูหลัวแอบด่าในใจ จากนั้นก็กล่าวด้วยความมั่นใจ “องค์หญิง ศัตรูมีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้งในช่วงนี้ ข้าต้องพาคนกลับไปยังชนเผ่าของจั่วเสียนอ๋อง ป้องกันศัตรูโจมตีชนเผ่าของจั่วเสียนอ๋อง!ช่างมัน ในเมื่อถูกเจียเหยาพบแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องหลบๆ ซ่อนๆ แล้ว!“ในเมื่อจะไป เหตุใดไม่บอกข้าล่วงหน้า?”เจียเหยากล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชา “ฮูหลัว เจ้าก็รู้ การกระทำของเจ้าตอนนี้ เป็นเพียงการหลบหนี! บนทุ่งหญ้าลงโทษคนที่หลบหนีเช่นไร ยังต้องให้ข้าสอนเจ้าหรือ?”ผู้คิดหลบหนี ฆ่าโดยไร้ความปราณี!ต่อให้เป็นขุนนางสูงศักคิ์ หรือว่าทหารธรรมดา ล้วนเหมือนกัน!เผชิญกับแววตาเย็นชาของเจียเหยา ฮูหลัวรู้สึกกลัวเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าว “ข้าเพิ่งได้รับจดหมายจากจั่วเสียนอ๋อง เรื่องเร่งด่วน ไม่ทันได้บอกองค์หญิง!”“ไม่ทัน?”สีหน้าของเจียเหย
ฮูหลัวคิดจะหลบแต่ไม่ทันแล้ว“ฟู่...”ลูกศรยิงทะลุลำคอของฮูหลัวอย่างแม่นยำธนูอีกสองดอก ดอกหนึ่งยิงตัดธงของฮูหลัวขาด อีกดอกหนึ่งยิงทหารคนสนิทที่ชูธงฮูหลัวมองลูกธนูที่เจาะผ่านลำคอเขาโดยไม่รู้ตัว นัยน์ตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อเขานึกไม่ถึงเลย เจียเหยาจะกล้ายิงเขาจริงๆเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของจั่วเสียนอ๋อง!นางกล้าฆ่าเขาต่อหน้าทุกคน?หรือนางไม่กลัวอาหลู่ไถก่อกบฎหรือ?“……”ฮูหลัวอ้าปาก ไม่มีคำพูดได้หลุดออกมา ในปากเต็มไปด้วยเลือด จากนั้น ร่างกายโอนเอียงร่วงจากหลังม้าไป“แม่ทัพฮูหลัว!”เห็นฮูหลัวตกจากหลังม้า ทหารคนสนิทของฮูหลัวโกรธจัดขึ้นมาทันใดทหารคนสนิทคนหนึ่งกระโดดลงจากหลังม้า พยุงฮูหลัวที่ยังมีลมหายใจอยู่ฮูหลัวมีเลือดเต็มปาก ยกมือขึ้นด้วยความยากลำบาก ชี้ไปทางเจียเหยา“ฆ่าพวกเขา แก้แค้นให้แม่ทัพฮูหลัว!”หลังจากเหม่อไปชั่วครู่ ทหารคนสนิทของฮูหลัวส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธเสียงคำรามนั้น ในที่สุดก็ดึงสติทหารคนสนิทของฮูหลัวที่ยังยืนอึ้งอยู่ให้กลับมาอยู่กับความจริงรอได้สติกลับมา ทุกคนง้างธนูทันที ตั้งใจต่อสู้กลับทว่า ทหารคนสนิทของเจียเหยาลงมือเร็วกว่าก้าวหนึ่งเจียเ
เจียเหยาหากไม่ทำก็คือไม่ทำ แต่ถ้าทำก็ไม่หยุดฟังในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นก็จัดการรวบกองทัพสนับสนุนที่อาหลู่ไถส่งมา!นางให้โอกาสฮูหลัวอีกครั้ง แต่ฮูหลัวกลับหมกมุ่นยึดติด!ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อย่าโทษที่นางใจร้ายแล้ว!ถัดไป ควรเป็นตาของอาหลู่ไถและลูกชายของเขาแล้ว!จัดการกองกำลังจั่วเสียนอ๋องให้ราบคราบก่อน ค่อยจัดการกองกำลังโย่วเสียนอ๋อง!เป่ยหวน ห้ามขัดแย้งภายใน!……“กองกำลังเจียเหยาผิดปกติ?”เมื่อได้รับข่าวจากหน่วยสอดแนม หยุนเจิงหนักตากระตุก จากนั้นก็ถามทันที “ผิดปกติเช่นไร?”หน่วยสอดแนมตอบ “ทัพกลางจำนวนมากของเจียเหยาเคลื่อทัพอย่างรวดเร็วไปยังทัพถนนทางขวาตั้งแต่รุ่งสาง เหลือทหารจำนวน้อยไว้เฝ้าค่ายใหญ่เท่านั้น”“พวกเขาเหลือคนไว้เท่าใด?”หยุนเจิงถามอีกครั้ง“เรื่องนี้ไม่แน่ใจ”หน่วยสอดแนมตอบ “แต่ว่า พวกเขาเคลื่อพลออกไปเยอะมาก ดำทะมึนกองใหญ่ อย่างน้อยจำนวนนับหมื่น....”เคลื่อนพลจำนวนมากเพียงนั้น?ทั้งยังเข้าใหญ่กองทัพเส้นทางขวาของพวกเขา?นี่มันเรื่องใดกัน?หรือว่า อาหลู่ไถก่อการกบฏ?เจียเหยาต้องนำทัพไปต่อต้านการโจมตีของอาหลู่ไถที่มาจากทางซ้าย?ไม่มีเหตุผล!หากก่อ