เจียเหยาหากไม่ทำก็คือไม่ทำ แต่ถ้าทำก็ไม่หยุดฟังในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นก็จัดการรวบกองทัพสนับสนุนที่อาหลู่ไถส่งมา!นางให้โอกาสฮูหลัวอีกครั้ง แต่ฮูหลัวกลับหมกมุ่นยึดติด!ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อย่าโทษที่นางใจร้ายแล้ว!ถัดไป ควรเป็นตาของอาหลู่ไถและลูกชายของเขาแล้ว!จัดการกองกำลังจั่วเสียนอ๋องให้ราบคราบก่อน ค่อยจัดการกองกำลังโย่วเสียนอ๋อง!เป่ยหวน ห้ามขัดแย้งภายใน!……“กองกำลังเจียเหยาผิดปกติ?”เมื่อได้รับข่าวจากหน่วยสอดแนม หยุนเจิงหนักตากระตุก จากนั้นก็ถามทันที “ผิดปกติเช่นไร?”หน่วยสอดแนมตอบ “ทัพกลางจำนวนมากของเจียเหยาเคลื่อทัพอย่างรวดเร็วไปยังทัพถนนทางขวาตั้งแต่รุ่งสาง เหลือทหารจำนวน้อยไว้เฝ้าค่ายใหญ่เท่านั้น”“พวกเขาเหลือคนไว้เท่าใด?”หยุนเจิงถามอีกครั้ง“เรื่องนี้ไม่แน่ใจ”หน่วยสอดแนมตอบ “แต่ว่า พวกเขาเคลื่อพลออกไปเยอะมาก ดำทะมึนกองใหญ่ อย่างน้อยจำนวนนับหมื่น....”เคลื่อนพลจำนวนมากเพียงนั้น?ทั้งยังเข้าใหญ่กองทัพเส้นทางขวาของพวกเขา?นี่มันเรื่องใดกัน?หรือว่า อาหลู่ไถก่อการกบฏ?เจียเหยาต้องนำทัพไปต่อต้านการโจมตีของอาหลู่ไถที่มาจากทางซ้าย?ไม่มีเหตุผล!หากก่อ
เช้าวันที่สอง หยุนเจิงพาฉินชีหู่นำทหารสองหมื่นคนออกเดินทางแต่ว่า พวกเขาไม่ได้เคลื่อนทัพไปยังทิศทางค่ายใหญ่ของเจียเหยา แต่ตรงไปที่ชายแดนชิงเวลาพลบค่ำ พวกเขามาถึงชายแดนชิงพวกเขาเดินทางสัมภาระเบา พกแค่อาหารแห้งและธัญพื้นจำนวนน้อยเท่านั้น ทั้งยังแบ่งคนออกเป็นกลุ่มไปยังรอบๆ บริเวณทุ่งหญ้ามู่หม่า พยายามทำให้ม้าศึกท้องอิ่ม ลดปริมาณการใช้ธัญพืชดีที่ตอนนี้อากาสอุ่นขึ้นแล้ว หญ้าอ่อนจำนวนมากโผล่ขึ้นมาแล้ว มากน้อยก็ยังใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ชายแดนชิงแม้จะเผชิญกับความเสียหายหนัก แต่ก็ยังสามารถหาสถานที่กันลมกันฝนได้หยุนเจิงสั่งคนให้พักผ่อนและเฝ้าระวังที่ชายแดนชิง จากนั้นก็รอข่าวจากหน่วยสอดแนมด้วยความอดทนรอจนฟ้ามืดแล้ว หน่วยสอดแนมที่ส่งออกไปตามเส้นทางต่างๆ พากันทยอยกลับมาแล้วกองทัพพวกเขาออกเคลื่อนไหว สายสืบของเป่ยหวนคงพบการเคลื่อนไหวของพวกเขาแล้วปัจจุบัน ค่ายทั้งหมดของเจียเหยาย้ายสถานที่ตั้งไปยังบริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือห่างจากพวกเขาประมาณหกสิบลี้“เห็นได้ชัดว่าเจียเหยากำลังป้องกันพวกเรา!”เสิ่นลั่วเยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูเหมือนเจ้าเดาไม่ผิด ทางเป่ยหวนคงเกิดเรื่องแล้ว”“ศัตรูมีป
หยุนเจิงตัดสินใจเงียบๆเวลานี้ เมี่ยวอินนำอาหารแห้งและถุงน้ำเดินเข้ามา“กินก่อนเถอะ!”เมี่ยวอินนำอาหารแห้งยกมาไว้หน้าหยุนเจิง กล่าวหลอกล้อ “ดูท่าทางแล้ว ความกดดันที่เจียเหยามอบให้เจ้าใหญ่มาก!”“ใช่!”เจียเหยาพยักหน้าเล็กน้อย “ผู้หญิงคนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม ปะมือกับนาง ความเสียหายไม่แน่นอน”เขาไม่กลัวสู้กับเจียเหยาตั้งแต่ต้นจนจบสิ่งที่เขากังวลคือความเสียหายมากเกินไปวันข้างหน้ายังอีกยาวไกล!ไม่ใช่ว่าสู้กับจบหนึ่งสนามแล้วไม่จำเป็นต้องสู้อีกเรื่องฆ่าศัตรูนับพันตัวเองเสียหายแปดร้อย แต่ไหนแต่ไรมาไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบทำแม้ตอนนี้เป่ยหวนกำลังอันเข็มแข็งเกรียงไกรนั้นเสื่อมทรุดจนเป็นม้าตีนปลายแล้ว หากต้องเล่นถึงชีวิต ก็ทำให้พวกเขาติดขัดได้เช่นกันหากเป่ยหวนมีความคิดที่จะคว่ำโต๊ะ เรียกรับสมัครกองทัพสองสามหมื่นคนสู้ตายกับพวกเขา พวกเขาคงจบไม่สวยสิ่งที่เขาคิดคือสร้างความขัดแย้งภายในให้เป่ยหวน เขาฉวยโอกาสจากสถานการณ์ให้คนของพวกเขาไปสู้กันจนตาย เขาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ นี่จึงสบกับเรื่องที่เจ้าหกทำ “เช่นนั้นเจ้าก็คิดเปิดกว้างหน่อย”เสิ่นลั่วเยี่ยนยื่นหน้ามา “พวกเราไม่จำเป็นต้
ด้วยการบอกเล่าของทั้งสองคน หยุนเจิงก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้วหลังจากเจียเหยาสังหารฮูหลัวที่ขนเสบียงอาหารหลบหนี จากนั้นก็ใช้วิธีสายฟ้าแลบล้อมกองทหารม้าหนึ่งหมื่นคนที่มาสนับสนุนฮูหลัว และทันใดนั้นก็ลอบโจมตีขบวนหน้า ฆ่าแม่ทัพหลักของกองทหารม้าหนึ่งหมื่นคนนั่นแต่ว่า ทหารม้าหนึ่งหมื่นอยู่ใต้สังกัดตรงของอาหลู่ไถแม้แม่ทัพหลักจะถูกยิงตาย กองทหารม้าหนึ่งหมื่นก็ยังคงลุกขึ้นมาต่อต้านหลังสงครามดุเดือด ทหารม้านับหมื่นที่กำลังใจไม่มั่นคงหลังจากสูญเสียไปหนึ่งพันกว่าคนสุดท้ายก็พ่ายแพ้ คนส่วนใหญ่ถูกเจียเหยาบังคับรวมไว้ด้วยกัน ยังมีมากกว่าพันคนบุกฝ่าวงล้อมออกไปได้เจียเหยานำทหารห้าพันคนมุ่งหน้าไปที่กระโจมของอาหลู่ไถ สั่งแม่ทัพใหญ่เกออาซูบัญชาการทหารเกือบสามหมื่นนายที่เหลือ ด้านหนึ่งตัดขาดด้านหลัง ด้านหนึ่งมาเข้ารวมกับนาง พยายามป้องการการจู่โจมของต้าเฉียนให้มากที่สุดหลังจากเข้าใจสถานการณ์แล้ว หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะถอนใจด้วยความโล่งอกเข้าใจสถานการณ์ได้ก็ดีแล้ว!คราวนี้ สามาถลงมือได้อย่างวางใจแล้ว!มารดาเขา!เจียเหยาสตรีผู้นี้มีความกล้า นึกไม่ถึงว่าจะฮุบรวมกองกำลังของอาหลู่ไถแล้วอีกทั้ง ส
ฉินชีหู่ถามอย่างทนไม่ไหว“นี่ยังต้องพูดหรือ?”หยุนเจิงหัวเราะ “เจ้าลืมเรื่องก่อนหน้านี่ที่พวกเราจู่โจมชายแดนเว่ยแล้วหรือ?”ตอนที่จู่โจมชายแดนเว่ย?ฉินชีหู่นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังออกมา “หากพวกเขาไม่แบ่งทหาร พวกเราก็กุมหัวใจพวกเขาโดยตรง!”“ใช่!”หยุนเจิงพยักหน้าหัวเราะหากเกออาซูไม่แบ่งทหาร พวกเขาก็จู่โจมชนเผ่าเป่ยหวนตามทางไปราชสำนักโดยตรงเช่นนี้ พวกเขายังได้รับเสบียงอย่างรวดเร็ว!ไม่ว่าเกออาซูจะเลือกเช่นไร พวกเราล้วนตอบโต้ได้หลังจากปรึกษากับคร่าวๆ แล้ว หยุนเจิงเริ่มออกคำสั่ง “ฉินชีหู่ ชวีเจิ้ง สั่งเจ้าสองคนบัญชาการทหารม้าหนึ่งหมื่นคนเป็นทัพหน้า พรุ่งนี้เช้าออกเดินทาง เคลื่อนทัพไปยังราชสำนักเป่ยหวน!”“เสิ่นลั่วเยี่ยน เจ้ากับข้าบัญชาการทหารม้าหนึ่งหมื่นคนที่เหลือเป็นทัพหลัง!”“อวี๋ซื่อจง ส่งคนไปถ่ายทอดคำสั่งให้ตู้กุยหยวน กองทหารโลหิตพรุ่งนี้เช้าเคลื่อนย้ายมาที่ปีกขวาของพวกเรา ให้ความร่วมมือการเคลื่อนไหวก้าวต่อไปของพวกเรา!”“อีกอย่าง สั่งคนเดินทางกลางคืนไปถ่ายทอดคำสั่งให้เติ่งเป่าและหลูซิ่งที่คุ้มกันเสบียงอยู่ด้านหลัง ภารกิจคือเร่งความเร็วในการคุ้มกันขนสั่งเส
“ก่อกวนและจู่โจม?”เมื่อได้รับข่าวจากคนที่ฉินชีหู่ส่งมา หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเกออาซูผู้นี้ค่อนข้างมีลู่ทาง!สถานการณ์เช่นนี้ นึกไม่ถึงจะส่งคนนับพันมาก่อกวนทัพหน้าของฉินชีหู่?มารดาเขาสิ!คำนวณพลาดแล้ว!เห็นได้ชัดว่าเกออาซูกำลังยื้อเวลาให้เจียเหยาสยบชนเผ่าของอาหลู่ไถ!เมื่อพวกเขาถูกถ่วงเวลา รอเจียเหยาจัดการงานในมือนางเรียบร้อยแล้ว ขวัญกำลังใจกองทัพพวกเขามั่นคงแล้ว ถึงเวลานั้น เจียเหยาจะต้องนำทัพมาโจมตีพวกเขา!เจ้าคนชั่วนี่รู้ว่าเขาไม่ยอมใช้ไม้แข็งปะทะไม้แข็งกับเขา!แต่ว่า การกระทำของเกออาซู เป็นการเตือนสติเขาแล้ว!“ตอนนี้ควรทำเช่นไร?”เสิ่นลั่วเยี่ยนขมวดคิดถามแผนการกับหยุนเจิง“เจ้าคิดว่าพวกเราควรทำเช่นไร?”หยุนเจิงถามกลับเสิ่นลั่วเยี่ยน“นี่...”เห็นได้ชัดว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนนึกไม่ถึงว่าหยุนเจิงจะทดสอบนางในเวลานี้ ฉับพลันนั้นไม่รู้ควรกล่าวเช่นไร ทำได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ “ข้าก็ไม่รู้ควรทำเช่นไร หากทำตามนิสัยข้า ข้าจะสั่งให้ฉินชีหู่รวมทหารกับพวกเรา ฉวยโอกาสตอนทัพศัตรูขวัญกำลังใจไม่มั่นจง โจมตีโดนตรง! แต่เจ้าคงไม่ทำเช่นนี้...”นางรู้ หยุนเจิงทำงานหากเลี่ยงการปะทะได้ก็
“สั่งตู้กุยหยวน จับตากองทัพเกออาซู ทันทีที่กองกำลังเกออาซูไล่โจมตีพวกเรา หาโอกาสเผาเสบียงพวกเขา!”เกออาซูคิดจะถ่วงเวลาพวกเขา เขาก็จะไม่ให้โอกาสเกออาซูถ่วงเวลา!ฉวยโอกาสตอนที่ด้านหลังทัพศัตรูยังไม่ได้ระดมกำลังทหาร จู่โจมโดยเร็ว เอาชนะไปทีละคน!“องค์ชาย คิดอีกหน่อยดีหรือไม่? หรือว่า ให้ข้าบัญชาการ?”อวี๋ซื่อจงลังเล ถามด้วยความระมัดระวังหยุนเจิงทำเช่นนี้ แม้สถานการณ์ตรงหน้าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอันตรายเมื่อถูกทัพศัตรูครอบงำ เป็นไปได้สูงว่าพวกเขาจะถูกเป่ยหวนไล่ตามล้อมปิดกั้นเอาไว้อย่าเอาแต่มองว่าตอนนี้เป่ยหวนเสบียงอาหารไม่พอ ไม่กล้ารักษากองทัพประจำการไว้มากเกินไป แต่เมื่อหยุนเจิงนำกองทหารไปอาละวาดข้างหลังพวกเขา เป่ยหวนต่อให้ฆ่าม้าศึกมาเป็นเสบียงให้กองทัพ ก็ต้องสู้ตายไปข้างหนึ่งกับหยุนเจิงถึงเช่นไร หยุนเจิงกำลังกุมหัวใจของพวกเขาแล้ว!ปศุสัตว์และม้าศึกเหล่านั้น ต่อให้พวกเขาไม่ฆ่า หยุนเจิงก็ต้องช่วยพวกเขาฆ่า!แทนที่จะเป็นเช่นนี้ ไม่สู้ผลาญสมบัติให้หมด สู้จนตายไปข้างหนึ่งกับหยุนเจิงหากเกออาซูนำทัพขัดขวางเส้นทางถอยกลับของพวกเขา เกรงว่าพวกเขาต้องซ้ำรอยเดิม
สายัณห์ยามตะวันรอน เกออาซูได้รับข่าวอีกครั้งง รับรู้การเคลื่อนไหวของทหารม้าต้าเฉียนสีหน้าเกออาซูเปลี่ยนไป ในใจเกิดความกระวนกระวายทัพหลังของศัตรูมากดดันด้วย?สองทัพรวมตัวกันบุกมา กำลังบุกไปไปยังราชสำนัก?เจตนาของเขาถูกศัตรูดูออกแล้ว!ทัพศัตรูโจมตีรวดเร็ว เพื่อไม่ปล่อยให้พวกเขามีเวลาระดมกำลังทหารด้านหลัง!ทำเช่นไร?ต่อไปควรทำเช่นไร?ด้านหลังพวกเขามีกำลังทหารไม่น้อยเลย!แต่เกิดเรื่องฮูหลัวขึ้นกะทันหัน!พวกเขาไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไประดมกำลังทหารเหล่านั้น!ตอนนี้กองทัพต้าเฉียนโจมจีด้านหลังของพวกเขาโดยตรง หากรวบรวมกำลังทหาร ไม่เพียงพอที่จะไปสู้กับต้าเฉียน เช่นนั้นก็เป็นการส่งคนไปตายโดยแท้!ช่วงเวลาฉุกละหุก เกออาซูอยากจะตบตัวเองสักฉากอยู่ดีไม่ว่าดี เขาส่งคนไปถ่วงความเร็วในการเคลื่อนทัพของพวกเขาเพื่อสิ่งใดหากเขาไม่ส่งคนไปทำเรื่องนี้ หยุนเจิงคงกังวลว่าด้านหลังของพวกเขามีแผน ไม่กล้าเสี่ยงบุกเช่นนี้เขาส่งคนไปทำเรื่องนี้ ไม่เท่ากับเป็นการบอกกับหยุนเจิง ด้านหลังของพวกเขา จำเป็นต้องใช้เวลาในการระดมกำลังหรือ?การกระทำเกินจำเป็น!โง่เขลา!เหตุใดเขาจึงโง่เพียงนี้!เกออาซูปวดหัวม