ฮูหลัวคิดจะหลบแต่ไม่ทันแล้ว“ฟู่...”ลูกศรยิงทะลุลำคอของฮูหลัวอย่างแม่นยำธนูอีกสองดอก ดอกหนึ่งยิงตัดธงของฮูหลัวขาด อีกดอกหนึ่งยิงทหารคนสนิทที่ชูธงฮูหลัวมองลูกธนูที่เจาะผ่านลำคอเขาโดยไม่รู้ตัว นัยน์ตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อเขานึกไม่ถึงเลย เจียเหยาจะกล้ายิงเขาจริงๆเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของจั่วเสียนอ๋อง!นางกล้าฆ่าเขาต่อหน้าทุกคน?หรือนางไม่กลัวอาหลู่ไถก่อกบฎหรือ?“……”ฮูหลัวอ้าปาก ไม่มีคำพูดได้หลุดออกมา ในปากเต็มไปด้วยเลือด จากนั้น ร่างกายโอนเอียงร่วงจากหลังม้าไป“แม่ทัพฮูหลัว!”เห็นฮูหลัวตกจากหลังม้า ทหารคนสนิทของฮูหลัวโกรธจัดขึ้นมาทันใดทหารคนสนิทคนหนึ่งกระโดดลงจากหลังม้า พยุงฮูหลัวที่ยังมีลมหายใจอยู่ฮูหลัวมีเลือดเต็มปาก ยกมือขึ้นด้วยความยากลำบาก ชี้ไปทางเจียเหยา“ฆ่าพวกเขา แก้แค้นให้แม่ทัพฮูหลัว!”หลังจากเหม่อไปชั่วครู่ ทหารคนสนิทของฮูหลัวส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธเสียงคำรามนั้น ในที่สุดก็ดึงสติทหารคนสนิทของฮูหลัวที่ยังยืนอึ้งอยู่ให้กลับมาอยู่กับความจริงรอได้สติกลับมา ทุกคนง้างธนูทันที ตั้งใจต่อสู้กลับทว่า ทหารคนสนิทของเจียเหยาลงมือเร็วกว่าก้าวหนึ่งเจียเ
เจียเหยาหากไม่ทำก็คือไม่ทำ แต่ถ้าทำก็ไม่หยุดฟังในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นก็จัดการรวบกองทัพสนับสนุนที่อาหลู่ไถส่งมา!นางให้โอกาสฮูหลัวอีกครั้ง แต่ฮูหลัวกลับหมกมุ่นยึดติด!ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อย่าโทษที่นางใจร้ายแล้ว!ถัดไป ควรเป็นตาของอาหลู่ไถและลูกชายของเขาแล้ว!จัดการกองกำลังจั่วเสียนอ๋องให้ราบคราบก่อน ค่อยจัดการกองกำลังโย่วเสียนอ๋อง!เป่ยหวน ห้ามขัดแย้งภายใน!……“กองกำลังเจียเหยาผิดปกติ?”เมื่อได้รับข่าวจากหน่วยสอดแนม หยุนเจิงหนักตากระตุก จากนั้นก็ถามทันที “ผิดปกติเช่นไร?”หน่วยสอดแนมตอบ “ทัพกลางจำนวนมากของเจียเหยาเคลื่อทัพอย่างรวดเร็วไปยังทัพถนนทางขวาตั้งแต่รุ่งสาง เหลือทหารจำนวน้อยไว้เฝ้าค่ายใหญ่เท่านั้น”“พวกเขาเหลือคนไว้เท่าใด?”หยุนเจิงถามอีกครั้ง“เรื่องนี้ไม่แน่ใจ”หน่วยสอดแนมตอบ “แต่ว่า พวกเขาเคลื่อพลออกไปเยอะมาก ดำทะมึนกองใหญ่ อย่างน้อยจำนวนนับหมื่น....”เคลื่อนพลจำนวนมากเพียงนั้น?ทั้งยังเข้าใหญ่กองทัพเส้นทางขวาของพวกเขา?นี่มันเรื่องใดกัน?หรือว่า อาหลู่ไถก่อการกบฏ?เจียเหยาต้องนำทัพไปต่อต้านการโจมตีของอาหลู่ไถที่มาจากทางซ้าย?ไม่มีเหตุผล!หากก่อ
เช้าวันที่สอง หยุนเจิงพาฉินชีหู่นำทหารสองหมื่นคนออกเดินทางแต่ว่า พวกเขาไม่ได้เคลื่อนทัพไปยังทิศทางค่ายใหญ่ของเจียเหยา แต่ตรงไปที่ชายแดนชิงเวลาพลบค่ำ พวกเขามาถึงชายแดนชิงพวกเขาเดินทางสัมภาระเบา พกแค่อาหารแห้งและธัญพื้นจำนวนน้อยเท่านั้น ทั้งยังแบ่งคนออกเป็นกลุ่มไปยังรอบๆ บริเวณทุ่งหญ้ามู่หม่า พยายามทำให้ม้าศึกท้องอิ่ม ลดปริมาณการใช้ธัญพืชดีที่ตอนนี้อากาสอุ่นขึ้นแล้ว หญ้าอ่อนจำนวนมากโผล่ขึ้นมาแล้ว มากน้อยก็ยังใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ชายแดนชิงแม้จะเผชิญกับความเสียหายหนัก แต่ก็ยังสามารถหาสถานที่กันลมกันฝนได้หยุนเจิงสั่งคนให้พักผ่อนและเฝ้าระวังที่ชายแดนชิง จากนั้นก็รอข่าวจากหน่วยสอดแนมด้วยความอดทนรอจนฟ้ามืดแล้ว หน่วยสอดแนมที่ส่งออกไปตามเส้นทางต่างๆ พากันทยอยกลับมาแล้วกองทัพพวกเขาออกเคลื่อนไหว สายสืบของเป่ยหวนคงพบการเคลื่อนไหวของพวกเขาแล้วปัจจุบัน ค่ายทั้งหมดของเจียเหยาย้ายสถานที่ตั้งไปยังบริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือห่างจากพวกเขาประมาณหกสิบลี้“เห็นได้ชัดว่าเจียเหยากำลังป้องกันพวกเรา!”เสิ่นลั่วเยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูเหมือนเจ้าเดาไม่ผิด ทางเป่ยหวนคงเกิดเรื่องแล้ว”“ศัตรูมีป
หยุนเจิงตัดสินใจเงียบๆเวลานี้ เมี่ยวอินนำอาหารแห้งและถุงน้ำเดินเข้ามา“กินก่อนเถอะ!”เมี่ยวอินนำอาหารแห้งยกมาไว้หน้าหยุนเจิง กล่าวหลอกล้อ “ดูท่าทางแล้ว ความกดดันที่เจียเหยามอบให้เจ้าใหญ่มาก!”“ใช่!”เจียเหยาพยักหน้าเล็กน้อย “ผู้หญิงคนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม ปะมือกับนาง ความเสียหายไม่แน่นอน”เขาไม่กลัวสู้กับเจียเหยาตั้งแต่ต้นจนจบสิ่งที่เขากังวลคือความเสียหายมากเกินไปวันข้างหน้ายังอีกยาวไกล!ไม่ใช่ว่าสู้กับจบหนึ่งสนามแล้วไม่จำเป็นต้องสู้อีกเรื่องฆ่าศัตรูนับพันตัวเองเสียหายแปดร้อย แต่ไหนแต่ไรมาไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบทำแม้ตอนนี้เป่ยหวนกำลังอันเข็มแข็งเกรียงไกรนั้นเสื่อมทรุดจนเป็นม้าตีนปลายแล้ว หากต้องเล่นถึงชีวิต ก็ทำให้พวกเขาติดขัดได้เช่นกันหากเป่ยหวนมีความคิดที่จะคว่ำโต๊ะ เรียกรับสมัครกองทัพสองสามหมื่นคนสู้ตายกับพวกเขา พวกเขาคงจบไม่สวยสิ่งที่เขาคิดคือสร้างความขัดแย้งภายในให้เป่ยหวน เขาฉวยโอกาสจากสถานการณ์ให้คนของพวกเขาไปสู้กันจนตาย เขาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ นี่จึงสบกับเรื่องที่เจ้าหกทำ “เช่นนั้นเจ้าก็คิดเปิดกว้างหน่อย”เสิ่นลั่วเยี่ยนยื่นหน้ามา “พวกเราไม่จำเป็นต้
ด้วยการบอกเล่าของทั้งสองคน หยุนเจิงก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้วหลังจากเจียเหยาสังหารฮูหลัวที่ขนเสบียงอาหารหลบหนี จากนั้นก็ใช้วิธีสายฟ้าแลบล้อมกองทหารม้าหนึ่งหมื่นคนที่มาสนับสนุนฮูหลัว และทันใดนั้นก็ลอบโจมตีขบวนหน้า ฆ่าแม่ทัพหลักของกองทหารม้าหนึ่งหมื่นคนนั่นแต่ว่า ทหารม้าหนึ่งหมื่นอยู่ใต้สังกัดตรงของอาหลู่ไถแม้แม่ทัพหลักจะถูกยิงตาย กองทหารม้าหนึ่งหมื่นก็ยังคงลุกขึ้นมาต่อต้านหลังสงครามดุเดือด ทหารม้านับหมื่นที่กำลังใจไม่มั่นคงหลังจากสูญเสียไปหนึ่งพันกว่าคนสุดท้ายก็พ่ายแพ้ คนส่วนใหญ่ถูกเจียเหยาบังคับรวมไว้ด้วยกัน ยังมีมากกว่าพันคนบุกฝ่าวงล้อมออกไปได้เจียเหยานำทหารห้าพันคนมุ่งหน้าไปที่กระโจมของอาหลู่ไถ สั่งแม่ทัพใหญ่เกออาซูบัญชาการทหารเกือบสามหมื่นนายที่เหลือ ด้านหนึ่งตัดขาดด้านหลัง ด้านหนึ่งมาเข้ารวมกับนาง พยายามป้องการการจู่โจมของต้าเฉียนให้มากที่สุดหลังจากเข้าใจสถานการณ์แล้ว หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะถอนใจด้วยความโล่งอกเข้าใจสถานการณ์ได้ก็ดีแล้ว!คราวนี้ สามาถลงมือได้อย่างวางใจแล้ว!มารดาเขา!เจียเหยาสตรีผู้นี้มีความกล้า นึกไม่ถึงว่าจะฮุบรวมกองกำลังของอาหลู่ไถแล้วอีกทั้ง ส
ฉินชีหู่ถามอย่างทนไม่ไหว“นี่ยังต้องพูดหรือ?”หยุนเจิงหัวเราะ “เจ้าลืมเรื่องก่อนหน้านี่ที่พวกเราจู่โจมชายแดนเว่ยแล้วหรือ?”ตอนที่จู่โจมชายแดนเว่ย?ฉินชีหู่นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังออกมา “หากพวกเขาไม่แบ่งทหาร พวกเราก็กุมหัวใจพวกเขาโดยตรง!”“ใช่!”หยุนเจิงพยักหน้าหัวเราะหากเกออาซูไม่แบ่งทหาร พวกเขาก็จู่โจมชนเผ่าเป่ยหวนตามทางไปราชสำนักโดยตรงเช่นนี้ พวกเขายังได้รับเสบียงอย่างรวดเร็ว!ไม่ว่าเกออาซูจะเลือกเช่นไร พวกเราล้วนตอบโต้ได้หลังจากปรึกษากับคร่าวๆ แล้ว หยุนเจิงเริ่มออกคำสั่ง “ฉินชีหู่ ชวีเจิ้ง สั่งเจ้าสองคนบัญชาการทหารม้าหนึ่งหมื่นคนเป็นทัพหน้า พรุ่งนี้เช้าออกเดินทาง เคลื่อนทัพไปยังราชสำนักเป่ยหวน!”“เสิ่นลั่วเยี่ยน เจ้ากับข้าบัญชาการทหารม้าหนึ่งหมื่นคนที่เหลือเป็นทัพหลัง!”“อวี๋ซื่อจง ส่งคนไปถ่ายทอดคำสั่งให้ตู้กุยหยวน กองทหารโลหิตพรุ่งนี้เช้าเคลื่อนย้ายมาที่ปีกขวาของพวกเรา ให้ความร่วมมือการเคลื่อนไหวก้าวต่อไปของพวกเรา!”“อีกอย่าง สั่งคนเดินทางกลางคืนไปถ่ายทอดคำสั่งให้เติ่งเป่าและหลูซิ่งที่คุ้มกันเสบียงอยู่ด้านหลัง ภารกิจคือเร่งความเร็วในการคุ้มกันขนสั่งเส
“ก่อกวนและจู่โจม?”เมื่อได้รับข่าวจากคนที่ฉินชีหู่ส่งมา หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเกออาซูผู้นี้ค่อนข้างมีลู่ทาง!สถานการณ์เช่นนี้ นึกไม่ถึงจะส่งคนนับพันมาก่อกวนทัพหน้าของฉินชีหู่?มารดาเขาสิ!คำนวณพลาดแล้ว!เห็นได้ชัดว่าเกออาซูกำลังยื้อเวลาให้เจียเหยาสยบชนเผ่าของอาหลู่ไถ!เมื่อพวกเขาถูกถ่วงเวลา รอเจียเหยาจัดการงานในมือนางเรียบร้อยแล้ว ขวัญกำลังใจกองทัพพวกเขามั่นคงแล้ว ถึงเวลานั้น เจียเหยาจะต้องนำทัพมาโจมตีพวกเขา!เจ้าคนชั่วนี่รู้ว่าเขาไม่ยอมใช้ไม้แข็งปะทะไม้แข็งกับเขา!แต่ว่า การกระทำของเกออาซู เป็นการเตือนสติเขาแล้ว!“ตอนนี้ควรทำเช่นไร?”เสิ่นลั่วเยี่ยนขมวดคิดถามแผนการกับหยุนเจิง“เจ้าคิดว่าพวกเราควรทำเช่นไร?”หยุนเจิงถามกลับเสิ่นลั่วเยี่ยน“นี่...”เห็นได้ชัดว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนนึกไม่ถึงว่าหยุนเจิงจะทดสอบนางในเวลานี้ ฉับพลันนั้นไม่รู้ควรกล่าวเช่นไร ทำได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ “ข้าก็ไม่รู้ควรทำเช่นไร หากทำตามนิสัยข้า ข้าจะสั่งให้ฉินชีหู่รวมทหารกับพวกเรา ฉวยโอกาสตอนทัพศัตรูขวัญกำลังใจไม่มั่นจง โจมตีโดนตรง! แต่เจ้าคงไม่ทำเช่นนี้...”นางรู้ หยุนเจิงทำงานหากเลี่ยงการปะทะได้ก็
“สั่งตู้กุยหยวน จับตากองทัพเกออาซู ทันทีที่กองกำลังเกออาซูไล่โจมตีพวกเรา หาโอกาสเผาเสบียงพวกเขา!”เกออาซูคิดจะถ่วงเวลาพวกเขา เขาก็จะไม่ให้โอกาสเกออาซูถ่วงเวลา!ฉวยโอกาสตอนที่ด้านหลังทัพศัตรูยังไม่ได้ระดมกำลังทหาร จู่โจมโดยเร็ว เอาชนะไปทีละคน!“องค์ชาย คิดอีกหน่อยดีหรือไม่? หรือว่า ให้ข้าบัญชาการ?”อวี๋ซื่อจงลังเล ถามด้วยความระมัดระวังหยุนเจิงทำเช่นนี้ แม้สถานการณ์ตรงหน้าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอันตรายเมื่อถูกทัพศัตรูครอบงำ เป็นไปได้สูงว่าพวกเขาจะถูกเป่ยหวนไล่ตามล้อมปิดกั้นเอาไว้อย่าเอาแต่มองว่าตอนนี้เป่ยหวนเสบียงอาหารไม่พอ ไม่กล้ารักษากองทัพประจำการไว้มากเกินไป แต่เมื่อหยุนเจิงนำกองทหารไปอาละวาดข้างหลังพวกเขา เป่ยหวนต่อให้ฆ่าม้าศึกมาเป็นเสบียงให้กองทัพ ก็ต้องสู้ตายไปข้างหนึ่งกับหยุนเจิงถึงเช่นไร หยุนเจิงกำลังกุมหัวใจของพวกเขาแล้ว!ปศุสัตว์และม้าศึกเหล่านั้น ต่อให้พวกเขาไม่ฆ่า หยุนเจิงก็ต้องช่วยพวกเขาฆ่า!แทนที่จะเป็นเช่นนี้ ไม่สู้ผลาญสมบัติให้หมด สู้จนตายไปข้างหนึ่งกับหยุนเจิงหากเกออาซูนำทัพขัดขวางเส้นทางถอยกลับของพวกเขา เกรงว่าพวกเขาต้องซ้ำรอยเดิม
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่