ทั้งสองกะพริบตาแรงๆ เพื่อตรวจสอบว่าตนตาฝาดหรือไม่แต่แล้วตัวอักษรบนจดหมายก็ยังคงไม่แปรเปลี่ยนมองดูเนื้อหาที่ง่าย แต่เต็มไปด้วยข่าวสารสำคัญแล้ว ทั้งสองพลันอดอ้ำอึ้งไม่ได้หยุนเจิงยึดอำนาจทหาร แต่จักรพรรดิต้าเฉียนกลับไม่ทำอะไรเขา?ไม่เพียงแต่ตบรางวัลให้ แต่ยังมอบเสบียงให้พวกเขาด้วย?นี่มัน…นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?จักรพรรดิต้าเฉียนบ้าไปแล้วหรือไงกัน?เขาไม่กลัวเลยหรือว่าเช่นนี้จะทำให้แม่ทัพใหญ่ที่รักษาการณ์อยู่ที่ชายแดนของต้าเฉียนจะยึดทหารตั้งกองทหารเอง?กองทหารมณฑลฝ่ายเหนือเป็นกองกำลังชั้นยอดของต้าเฉียนรองจากองครักษ์หกแห่งเมืองจักรพรรดิเชียวนะ!จักรพรรดิต้าเฉียนมอบให้หยุนเจิงเช่นนี้เลย?วินาทีนี้ทั้งสองกำลังก่นด่าอยู่ในใจจักรพรรดิต้าเฉียนบ้าไปแล้วหรือไงกัน?แม้จะไม่สนใจขนาดไหน จักรพรรดิต้าเฉียนก็ควรจะตัดเสบียงอาหารให้กับกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือสิ!หากกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือไม่มีเสบียงอาหารที่มากพอ เป่ยหวนก็จะกดดันน้อยลงทว่าจากสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว สำหรับเป่ยหวนนั่นเท่ากับเป็นสายฟ้าผ่าชัดๆ!“ฮู้…”เจียเหยาพ่นลมหายใจออกมายาวๆ แล้วกล่าวด้วยสีหน้าทุกข์ใจว่า “เราประเมินความกล้าข
หากเป่ยหวนเกิดเรื่องโกลาหลกันภายในตอนนี้ ความตายก็คงอยู่ไม่ไกลแล้วราชครู สุดท้ายข้าก็ต้องเลือกทางนี้แล้วจริงๆ!หวังว่าท่านอยู่บนสวรรค์จะช่วยคุ้มครองเจียเหยาให้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นด้วย!เจียเหยาลุกขึ้น แล้วโค้งคำนับไปทางราชสำนัก แล้วนั่งกลับที่เดิม จากนั้นเริ่มยกพู่กันเขียนขึ้นมาผ่านไปสองเค่อ เจียเหยาก็นำจดหมายที่เขียนเสร็จแล้วใส่ไว้ในกระบองยาว แล้วเรียกผู้บัญชาการทหารข้างกายของตนเข้ามาพร้อมสั่งการด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เจ้านำคนห้าสิบคนส่งมอบจดหมายนี้ไปให้เสด็จพ่อด้วยตนเองให้เร็วที่สุด! พวกเจ้าตายได้ แต่จดหมายห้ามหายเด็ดขาด! หากมีคนคิดจะแย่งไป ก็ให้ทำลายจดหมายนี้ซะ!”ได้ยินคำพูดของเจียเหยาแล้ว ผู้บัญชาการทหารข้างกายพลันสั่นสะท้านเขารู้ดีว่าจดหมายฉบับนี้สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของพวกเขา!“พ่ะย่ะค่ะ!”ผู้บัญชาการทหารข้างกายรับคำสั่ง แล้วถอยออกจากกระโจมค่ายทันที“ฮู้…”เจียเหยาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกำหมัดแน่นด้วยสีหน้าเย็นชา…สองสามวันหลังจากนั้น หยุนเจิงไม่ได้กระทำการมากมายอะไรนักนอกจากซ้อมวรยุทธ์ และหยอกล้อกับเสิ่นลั่วเยี่ยน และเมี่ยวอินทุกวันแล้ว ก็คือไปกำชับการก่อสร้างที่ชาย
หลายวันให้หลัง กองกำลังกองทหารโลหิตของตู้กุยหยวนกลับมาแล้วไม่ผิดจากที่คาด ชนเผาเดิมที่อพยพออกจากทุ่งหญ้ามู่หม่าได้กลับมายังทุ่งหญ้ามู่หม่าอีกครั้งทว่า ปัจจุบันชนเผ่าเหล่านั้นมีชายฉกรรจ์เพิ่มขึ้นมาไม่น้อยพวกตู้กุยหยวนโจมตีสองชนเผ่า สังเกตเห็นกองกำลังของโย่วเสียนอ๋องกำลังวิ่งล้อมเข้ามา จึงล่าถอยทันทีระหว่างที่ล่าถอย พบกับทหารม้ากองย่อยของเป่ยหวน พวกเขาจึงจัดการทหารม้ากองย่อยทิ้งทั้งหมด ส่วนพวกเขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นการโจมตีครั้งแรกของกองทหารโลหิต แม้ไม่นับว่าสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่เลวเลยหลังจากรายงานข่าวกับหยุนเจิงพวกเขาสืบมาเกี่ยวกับสถานการณ์กองกำลังของโปหลวนแล้ว ตู้กุยหยวนกล่าวด้วยสีหน้าแปลกประหลาดอีกครั้ง “องค์ชาย พวกเรายังสืบได้ข่าวที่สำคัญมากเรื่องหนึ่ง”“พูดมา”หยุนเจิงสีหน้าประหลาดใจมองตู้กุยหยวนข่าวสำคัญก็ข่าวสำคัญสิ!สีหน้าของตู้กุยหยวนหมายความเช่นไร?เหตุใดจึงรู้สึกว่าสายตาเขาแปลกๆ?ตู้กุยหยวนหัวเราะแห้ง จากนั้นก็กล่าว “พวกเราได้ข่าวมา ประมุขใหญ่เจี๋ยตั้งใจให้เจียเหยาหมายหมั่นกับเหมิงตูลูกชายคนรองของโปหลวน แต่...ท่าทางขององค์หญิงเจียเหยาไม่ชัดเจน”“พรืด...”
ได้รับจดหมายที่หยุนเจิงสั่งทูตส่งมา เจียเหยาโมโหจนหัวเราะออกมาหยุนเจิงผู้นี้ เหตุใดช่างไร้ยางอายเพียงนี้!ไม่เพียงต้องการให้นางกับเขาแต่งงานกัน ยังขอให้เป่ยหวนแบ่งที่ดินห้าร้อยลี้ เป็นสินเดิมของนาง!สุดท้ายยังข่มขู่นาง หากนางกล้าแต่งกับเหมิงตู เขาจะนำทหารบุกมาทันที!สารเลวไร้ยางอายผู้นี้ เขาคิดว่านางไม่รู้หรือ?ไม่ว่านางจะแต่งกับเหมิงตูหรือไม่ เข้าล้วนบุกมาโจมตี!ถึงกระทั่งว่า มีเรื่องนี้หรือไม่ เขาล้วนบุกมาโจมตีแน่นอน!หากเขาไม่บุกโจมตี เขาก็ไม่ชื่อว่าหยุนเจิงแล้ว!เจียเหยาวางจดหมายในมือ เรียกคนเขามา “จับทูตของพวกเขาไว้ก่อน! ข้าต้องการให้เขานำจดหมายกลับไป!”“ขอรับ!”เจียเหยานั่งลง ในสมองหมุนแล่นอย่างรวดเร็วหยุนเจิงส่งคนจู่โจมชนเผาที่ทุ่งหญ้ามู่หม่า มีจุดประสงค์ใดกันแน่?เป็นเพียงการจู่โจมธรรมดา หรือว่ามีเป้าหมายอื่น?ด้วยความเจ้าเล่ห์ของหยุนเจิง คงไม่มีทางจู่โจมชนเผ่าเขาพวกเขาธรรมดากระมัง?อีกอย่าง หยุนเจิงให้จดหมายนาง มีเป้าหมายใดกัน?หยุนเจิงไม่ใช่คนโง่ ย่อมรู้ว่านางและเสด็จพ่อนางไม่มีทางยอมรับเงื่อนไขของเขาแต่หยุนเจิงสั่งคนมาส่งจดหมายเช่นนี้เขาทำเช่นนี้ มีความห
หนึ่งวันให้หลัง หยุนเจิงได้รับจดหมายตอบกลับของเจียเหยาอ่านเนื้อหาในจดหมายตอบกลับของเจียเหยา หยุนเจิงอดส่ายหน้ายิ้มไม่ได้ผู้หญิงคนนี้ เป็นโจรชั่วเสียจริง!เจียเหยาบ่นกับเขา บอกถึงสภาวะยากลำบากของเป่ยหวน ยังบอกอีกว่านางถอยทัพห้าสิบลี้เพื่อแสดงความจริงใจแล้ว หวังว่าเขาจะรักษาสัญญา ยุติสงครามกับเป่ยหวนส่วนเรื่องที่ประมุขฮูเจี๋ยต้องการให้นางหมั่นหมายกับเหมิงตู กลับไม่เอ่ยถึงสักคำ!“พวกเจ้าใครสามารถลอกเลียนลายมือพู่กันของเจียเหยาได้?”หยุนเจิงนำจดหมายส่งให้ทุกคน ให้ทุกคนได้ตรวจดูทุกคนดูต่อกันจนครบหนึ่งรอบ พากันส่ายหน้าแม้จดหมายนี้จะตอบกลับด้วยอักษรของต้าเฉียน แต่ลายมือของเจียเหยางดงามมาก พวกเขาเหล่าคุณชายนายท่าน ส่วนมากแม้แต่ตัวอักษรยักเขียนได้ไม่สวย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องลอกเลียนลายมือเจียเหยาเลย“ให้ข้าลองเถอะ!”ในที่สุด เมี่ยวอินก็ลุกขึ้นมา“ได้ เช่นนั้นเจ้าลองคัดตามจดหมายฉบับนี้ของเจียเหยาหนึ่งรอบ”หยุนเจิงยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็ปลอบใจเมี่ยวอิน “ไม่ต้องกดดัน ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกประการ สามารถทำให้เหมือนได้เจ็ดส่วนก็พอแล้ว”เมี่ยวอินพยักหน้าเบาๆหยุนเจิงสั่งให้คนพู่กัน
เดิมเขาก็ไม่ได้คาดหวังจดหมายฉบับหนึ่งจะสามารถทำให้ประมุขใหญ่ฮูเจียกับโย่วเสียนอ๋องห่างเหินกันเมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง ทุกคนสับสนที่แท้ เขาก็มีความคิดเช่นนี้!หากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลแล้วหลังจากเมี่ยวอินคัดลอกจดหมายของเขาแล้ว หยุนเจิงเขียนจดหมายให้โปหลวนฉบับหนึ่ง คร่าวๆ คือต้องการร่วมมือกับโปหลวน ส่งโปหลวนขึ้นสู่ตำแหน่งประมุขใหญ่ต้าเฉียนจากนั้น หยุนเจิงเรียนภูตหนึ่งมา สั่งให้เขาพาสองคนไปส่งจดหมายออกไปทว่า หยุนเจิงไม่แน่ใจว่าโปหลวนจะเคารพกฎทำงานไม่ฆ่าทูตเหมือนอย่างเจียเหยาหรือไม่ ดังนั้น เขาทำได้เพียงให้พวกภูตหนึ่งหาโอกาส นำจดหมายสองฉบับส่งให้ทหารกองกำลังของโปหลวนที่ประจำการอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของชายแดนกู้ ค่อยให้คนเหล่านั้นส่งมอบจดหมายให้โปหลวนหลังทุกอย่างเสร็จสิ้น หยุนเจิงเรียกประชุมแม่ทัพทุกคน เริ่มวางแผนเตรียมตัวเคลื่อนไหวต่อไป“สะพานสันดอนเป่ยหยวนอีกนานเท่าใดจึงซ่อมแซมเสร็จ?”หยุนเจิงถามตู๋กูเช่อ“ประมาณอีกสิบวัน”ตู๋กูเช่อตอบ“เหตุใดจึงต้องใช้เวลาอีกสิบวัน?”หยุนเจิงขมวดคิ้วก่อนหน้านี้ก็บอกว่าประมาณสิบวันก็ซ่อมเสร็จแล้วไม่ใช่หรือ?
วันหลังจากนั้น ทุกวันหยุนเจิงเอาแต่คิดหาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของเป่ยหวนเดี๋ยวก็ส่งทหารม้าของชายแดนกู้แสร้งว่าจะจู่โจมที่ใดสักแห่ง เดี๋ยวก็ส่งหน่วยสอดแนมออกไปจำนวนมาก สืบเสาะไปทุกหนแห่งถึงเช่นไรก็ทำทีเหมือนพร้อมบุกโจมตีได้ตลอดเวลาการกระทำผิดปกติต่อเนื่องของหยุนเจิงย่อมดึงดูดความสนใจของเจียเหยาเจียเหยาทุกวันจะส่งสายสืบออกไปสืบการเคลื่อนไหวของกองทัพที่ชายแดนกู้ทว่าการกระทำต่อเนื่องของหยุนเจิงไร้ระเบียบแบบแผน เจียเหยาไม่สามารถตัดสินได้ว่าหยุนเจิงคิดทำสิ่งใดแต่ว่า นางสงสัยว่าหยุนเจิงกำลังก่อกวนสายตานางนางยังคงคิดว่า มีความเป็นไปได้ที่หยุนเจิงจะโจมตีโย่วเสียนอ๋องโดยไม่คาดฝันถึงแม้ ศัพยภาพของโย่วเสียนอ๋องตอนนี้จะแข็งแกร่งกว่าจั่วเสียนอ๋องเดิมหยุนเจิงก้ไม่ใช่คนที่จะลงมือตามหลักแบบแผนนางถึงขั้นสงสัย หยุนเจิงอาจจะจู่โจมกองทัพสามหมื่นของพวกเขากันซึ่งหน้าแต่ว่า ทฤษฎีนี้ มีความเป็นไปได้น้อยหน่อยถึงเช่นไร กำลังรบของกองทหารม้าชั้นยอดก็แขวนไว้อยู่ตรงนั้นอีกทั้งแต่ไหนแต่ไรหยุนเจิงก็มีนิสัยชอบเอาชนะด้วยกุลยุทธ์ชาญฉลาด ชอบใช้ความสูญเสียน้อยที่สุดสร้างความเสียหายหนักให้ศัตรูขอแ
ด้านซ้ายหน้าของทัพศัตรู ยังมีทหารม้าห้าถึงหกพันคนคอยสนับสนุนเห็นได้ชัด หยุนเจิงกำลังป้องกันพวกเขาออกปล้นเสบียงเมื่อได้รับข่าวที่แน่นอน ใจของเจียเหยารู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันทีเสบียงที่เพียงพอให้คนหนึ่งหมื่นบริโภคได้สองเดือน!สำหรับต้าเฉียนแล้ว เสบียงเท่านี้อาจไม่นับว่ามากแต่สำหรับพวกนาง เสบียงเหล่านี้คือสมบัติล้ำค่าอย่างยิ่ง!ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาขาดแคลนที่สุดคือเสบียง!ต้องหาวิธีปล้นเสบียงเหล่านี้มาให้ได้!เจียเหยาใช้ความคิดหากลยุทธอย่างขยันขันแข็งคิดไปคิดมา เจียเหยาอดไม่ได้ที่จะใจกระตุกปีนั้นต้าเฉียนซ่อมบำรุงสามเมืองชายแดน เพื่อสะดวกต่อการขนส่งเสบียง ใช้แรงงานคนและทรัพยากรณ์ซ่อมและสร้างถนนหลักที่สามเมืองชายแดน บนถนนยังปูด้วยเศษหินแต่ว่า ถนนหลักเช่นนี้ สำหรับการขนส่งเสบียง มีทั้งข้อดีและข้อเสียทุ้งหญ้าในตอนนี้ เป็นช่วงเวลาน้ำแข็งละลายพอดีหลายพื้นที่ค่อนข้างเปียกแชะทัพศัตรูคุ้มกันส่งเสบียง ยังต้องทำเวลา ทำได้เพียงเลือกเดินทางด้วยถนนหลักแต่ถนนหลักมีความกว้างเพียงหนึ่งจ้างความกว้างอย่างมากก็ได้แค่รถเกลียนบรรทุกสองคันเคลื่อนที่พร้อมกันเท่านั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ หน่ว