หลายวันให้หลัง กองกำลังกองทหารโลหิตของตู้กุยหยวนกลับมาแล้วไม่ผิดจากที่คาด ชนเผาเดิมที่อพยพออกจากทุ่งหญ้ามู่หม่าได้กลับมายังทุ่งหญ้ามู่หม่าอีกครั้งทว่า ปัจจุบันชนเผ่าเหล่านั้นมีชายฉกรรจ์เพิ่มขึ้นมาไม่น้อยพวกตู้กุยหยวนโจมตีสองชนเผ่า สังเกตเห็นกองกำลังของโย่วเสียนอ๋องกำลังวิ่งล้อมเข้ามา จึงล่าถอยทันทีระหว่างที่ล่าถอย พบกับทหารม้ากองย่อยของเป่ยหวน พวกเขาจึงจัดการทหารม้ากองย่อยทิ้งทั้งหมด ส่วนพวกเขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นการโจมตีครั้งแรกของกองทหารโลหิต แม้ไม่นับว่าสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่เลวเลยหลังจากรายงานข่าวกับหยุนเจิงพวกเขาสืบมาเกี่ยวกับสถานการณ์กองกำลังของโปหลวนแล้ว ตู้กุยหยวนกล่าวด้วยสีหน้าแปลกประหลาดอีกครั้ง “องค์ชาย พวกเรายังสืบได้ข่าวที่สำคัญมากเรื่องหนึ่ง”“พูดมา”หยุนเจิงสีหน้าประหลาดใจมองตู้กุยหยวนข่าวสำคัญก็ข่าวสำคัญสิ!สีหน้าของตู้กุยหยวนหมายความเช่นไร?เหตุใดจึงรู้สึกว่าสายตาเขาแปลกๆ?ตู้กุยหยวนหัวเราะแห้ง จากนั้นก็กล่าว “พวกเราได้ข่าวมา ประมุขใหญ่เจี๋ยตั้งใจให้เจียเหยาหมายหมั่นกับเหมิงตูลูกชายคนรองของโปหลวน แต่...ท่าทางขององค์หญิงเจียเหยาไม่ชัดเจน”“พรืด...”
ได้รับจดหมายที่หยุนเจิงสั่งทูตส่งมา เจียเหยาโมโหจนหัวเราะออกมาหยุนเจิงผู้นี้ เหตุใดช่างไร้ยางอายเพียงนี้!ไม่เพียงต้องการให้นางกับเขาแต่งงานกัน ยังขอให้เป่ยหวนแบ่งที่ดินห้าร้อยลี้ เป็นสินเดิมของนาง!สุดท้ายยังข่มขู่นาง หากนางกล้าแต่งกับเหมิงตู เขาจะนำทหารบุกมาทันที!สารเลวไร้ยางอายผู้นี้ เขาคิดว่านางไม่รู้หรือ?ไม่ว่านางจะแต่งกับเหมิงตูหรือไม่ เข้าล้วนบุกมาโจมตี!ถึงกระทั่งว่า มีเรื่องนี้หรือไม่ เขาล้วนบุกมาโจมตีแน่นอน!หากเขาไม่บุกโจมตี เขาก็ไม่ชื่อว่าหยุนเจิงแล้ว!เจียเหยาวางจดหมายในมือ เรียกคนเขามา “จับทูตของพวกเขาไว้ก่อน! ข้าต้องการให้เขานำจดหมายกลับไป!”“ขอรับ!”เจียเหยานั่งลง ในสมองหมุนแล่นอย่างรวดเร็วหยุนเจิงส่งคนจู่โจมชนเผาที่ทุ่งหญ้ามู่หม่า มีจุดประสงค์ใดกันแน่?เป็นเพียงการจู่โจมธรรมดา หรือว่ามีเป้าหมายอื่น?ด้วยความเจ้าเล่ห์ของหยุนเจิง คงไม่มีทางจู่โจมชนเผ่าเขาพวกเขาธรรมดากระมัง?อีกอย่าง หยุนเจิงให้จดหมายนาง มีเป้าหมายใดกัน?หยุนเจิงไม่ใช่คนโง่ ย่อมรู้ว่านางและเสด็จพ่อนางไม่มีทางยอมรับเงื่อนไขของเขาแต่หยุนเจิงสั่งคนมาส่งจดหมายเช่นนี้เขาทำเช่นนี้ มีความห
หนึ่งวันให้หลัง หยุนเจิงได้รับจดหมายตอบกลับของเจียเหยาอ่านเนื้อหาในจดหมายตอบกลับของเจียเหยา หยุนเจิงอดส่ายหน้ายิ้มไม่ได้ผู้หญิงคนนี้ เป็นโจรชั่วเสียจริง!เจียเหยาบ่นกับเขา บอกถึงสภาวะยากลำบากของเป่ยหวน ยังบอกอีกว่านางถอยทัพห้าสิบลี้เพื่อแสดงความจริงใจแล้ว หวังว่าเขาจะรักษาสัญญา ยุติสงครามกับเป่ยหวนส่วนเรื่องที่ประมุขฮูเจี๋ยต้องการให้นางหมั่นหมายกับเหมิงตู กลับไม่เอ่ยถึงสักคำ!“พวกเจ้าใครสามารถลอกเลียนลายมือพู่กันของเจียเหยาได้?”หยุนเจิงนำจดหมายส่งให้ทุกคน ให้ทุกคนได้ตรวจดูทุกคนดูต่อกันจนครบหนึ่งรอบ พากันส่ายหน้าแม้จดหมายนี้จะตอบกลับด้วยอักษรของต้าเฉียน แต่ลายมือของเจียเหยางดงามมาก พวกเขาเหล่าคุณชายนายท่าน ส่วนมากแม้แต่ตัวอักษรยักเขียนได้ไม่สวย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องลอกเลียนลายมือเจียเหยาเลย“ให้ข้าลองเถอะ!”ในที่สุด เมี่ยวอินก็ลุกขึ้นมา“ได้ เช่นนั้นเจ้าลองคัดตามจดหมายฉบับนี้ของเจียเหยาหนึ่งรอบ”หยุนเจิงยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็ปลอบใจเมี่ยวอิน “ไม่ต้องกดดัน ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกประการ สามารถทำให้เหมือนได้เจ็ดส่วนก็พอแล้ว”เมี่ยวอินพยักหน้าเบาๆหยุนเจิงสั่งให้คนพู่กัน
เดิมเขาก็ไม่ได้คาดหวังจดหมายฉบับหนึ่งจะสามารถทำให้ประมุขใหญ่ฮูเจียกับโย่วเสียนอ๋องห่างเหินกันเมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง ทุกคนสับสนที่แท้ เขาก็มีความคิดเช่นนี้!หากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลแล้วหลังจากเมี่ยวอินคัดลอกจดหมายของเขาแล้ว หยุนเจิงเขียนจดหมายให้โปหลวนฉบับหนึ่ง คร่าวๆ คือต้องการร่วมมือกับโปหลวน ส่งโปหลวนขึ้นสู่ตำแหน่งประมุขใหญ่ต้าเฉียนจากนั้น หยุนเจิงเรียนภูตหนึ่งมา สั่งให้เขาพาสองคนไปส่งจดหมายออกไปทว่า หยุนเจิงไม่แน่ใจว่าโปหลวนจะเคารพกฎทำงานไม่ฆ่าทูตเหมือนอย่างเจียเหยาหรือไม่ ดังนั้น เขาทำได้เพียงให้พวกภูตหนึ่งหาโอกาส นำจดหมายสองฉบับส่งให้ทหารกองกำลังของโปหลวนที่ประจำการอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของชายแดนกู้ ค่อยให้คนเหล่านั้นส่งมอบจดหมายให้โปหลวนหลังทุกอย่างเสร็จสิ้น หยุนเจิงเรียกประชุมแม่ทัพทุกคน เริ่มวางแผนเตรียมตัวเคลื่อนไหวต่อไป“สะพานสันดอนเป่ยหยวนอีกนานเท่าใดจึงซ่อมแซมเสร็จ?”หยุนเจิงถามตู๋กูเช่อ“ประมาณอีกสิบวัน”ตู๋กูเช่อตอบ“เหตุใดจึงต้องใช้เวลาอีกสิบวัน?”หยุนเจิงขมวดคิ้วก่อนหน้านี้ก็บอกว่าประมาณสิบวันก็ซ่อมเสร็จแล้วไม่ใช่หรือ?
วันหลังจากนั้น ทุกวันหยุนเจิงเอาแต่คิดหาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของเป่ยหวนเดี๋ยวก็ส่งทหารม้าของชายแดนกู้แสร้งว่าจะจู่โจมที่ใดสักแห่ง เดี๋ยวก็ส่งหน่วยสอดแนมออกไปจำนวนมาก สืบเสาะไปทุกหนแห่งถึงเช่นไรก็ทำทีเหมือนพร้อมบุกโจมตีได้ตลอดเวลาการกระทำผิดปกติต่อเนื่องของหยุนเจิงย่อมดึงดูดความสนใจของเจียเหยาเจียเหยาทุกวันจะส่งสายสืบออกไปสืบการเคลื่อนไหวของกองทัพที่ชายแดนกู้ทว่าการกระทำต่อเนื่องของหยุนเจิงไร้ระเบียบแบบแผน เจียเหยาไม่สามารถตัดสินได้ว่าหยุนเจิงคิดทำสิ่งใดแต่ว่า นางสงสัยว่าหยุนเจิงกำลังก่อกวนสายตานางนางยังคงคิดว่า มีความเป็นไปได้ที่หยุนเจิงจะโจมตีโย่วเสียนอ๋องโดยไม่คาดฝันถึงแม้ ศัพยภาพของโย่วเสียนอ๋องตอนนี้จะแข็งแกร่งกว่าจั่วเสียนอ๋องเดิมหยุนเจิงก้ไม่ใช่คนที่จะลงมือตามหลักแบบแผนนางถึงขั้นสงสัย หยุนเจิงอาจจะจู่โจมกองทัพสามหมื่นของพวกเขากันซึ่งหน้าแต่ว่า ทฤษฎีนี้ มีความเป็นไปได้น้อยหน่อยถึงเช่นไร กำลังรบของกองทหารม้าชั้นยอดก็แขวนไว้อยู่ตรงนั้นอีกทั้งแต่ไหนแต่ไรหยุนเจิงก็มีนิสัยชอบเอาชนะด้วยกุลยุทธ์ชาญฉลาด ชอบใช้ความสูญเสียน้อยที่สุดสร้างความเสียหายหนักให้ศัตรูขอแ
ด้านซ้ายหน้าของทัพศัตรู ยังมีทหารม้าห้าถึงหกพันคนคอยสนับสนุนเห็นได้ชัด หยุนเจิงกำลังป้องกันพวกเขาออกปล้นเสบียงเมื่อได้รับข่าวที่แน่นอน ใจของเจียเหยารู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันทีเสบียงที่เพียงพอให้คนหนึ่งหมื่นบริโภคได้สองเดือน!สำหรับต้าเฉียนแล้ว เสบียงเท่านี้อาจไม่นับว่ามากแต่สำหรับพวกนาง เสบียงเหล่านี้คือสมบัติล้ำค่าอย่างยิ่ง!ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาขาดแคลนที่สุดคือเสบียง!ต้องหาวิธีปล้นเสบียงเหล่านี้มาให้ได้!เจียเหยาใช้ความคิดหากลยุทธอย่างขยันขันแข็งคิดไปคิดมา เจียเหยาอดไม่ได้ที่จะใจกระตุกปีนั้นต้าเฉียนซ่อมบำรุงสามเมืองชายแดน เพื่อสะดวกต่อการขนส่งเสบียง ใช้แรงงานคนและทรัพยากรณ์ซ่อมและสร้างถนนหลักที่สามเมืองชายแดน บนถนนยังปูด้วยเศษหินแต่ว่า ถนนหลักเช่นนี้ สำหรับการขนส่งเสบียง มีทั้งข้อดีและข้อเสียทุ้งหญ้าในตอนนี้ เป็นช่วงเวลาน้ำแข็งละลายพอดีหลายพื้นที่ค่อนข้างเปียกแชะทัพศัตรูคุ้มกันส่งเสบียง ยังต้องทำเวลา ทำได้เพียงเลือกเดินทางด้วยถนนหลักแต่ถนนหลักมีความกว้างเพียงหนึ่งจ้างความกว้างอย่างมากก็ได้แค่รถเกลียนบรรทุกสองคันเคลื่อนที่พร้อมกันเท่านั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ หน่ว
ชายแดนกู้รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่ได้รับข่าวว่าทัพศัตรูเป่ยหวนมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ หยุนเจิงเริ่มวิตกกังวลเล็กน้อยมารดาเขาสิ!หน่วยคุ้มกันเสบียงของพวกเขาใกล้จะถึงชายแดนชิงแล้ว!เจียเหยายังไม่เคลื่อนไหวหรือ?หรือว่า เจียเหยาอยากรอให้คนของเขาเข้าประจำการที่ชายแดนชิงก่อนค่อยลงมือ?คิดแล้วก็เป็นไม่ได้!ชายแดนชิงแม้จะเผชิญกับการทำลายอย่างหนัก แต่กำแพงเมืองส่วนใหญ่ก็ยังอยู่อาศัยกำแพงเมืองที่ทรุดโทรมของชายแดนชิง สร้างแนวป้องกัน พวกเขาก็ยังมีความได้เปรียบอย่างมากหากรอจนพวกเขาเข้าประจำการที่ชายแดนชิงค่อยลงมือจริง สมองของเจียเหยาคงถูกเฆี่ยนจนบ้าไปแล้ว! หรือว่า เป่ยหวนไม่อยากทำสงครามอีกแล้ว?แม้แต่ความคิดเอียนเอียงในใจก็ไม่หวั่นไหวสักนิดแล้ว?ไม่ถึงขั้นนั้นกระมัง?มีโอกาสเอาเปรียบได้แต่ไม่เอาก็คือคนโง่!เจียเหยาน่าจะรู้จักเหตุผลนี้ดีเขากระตือรือร้นส่งเสบียงไปให้นาง นางจะไม่เอา?อีกทั้ง ด้วยสถานการณ์ที่เป่ยหวนขาดแคลนเสบียงเช่นนี้!เจียเหยาไม่ควรปล่อยเนื้อชิ้นใหญ่ที่ส่งให้ถึงปากหรอกกระมัง?“เอาล่ะ เลิกทำหน้าขมขื่นได้แล้ว”เมี่ยวอินมาถึงข้างกายหยุนเจิง จากนั้นก็นั่งอยู่ในอ้อมกอ
เสิ่นลั่วเยี่ยนหยุนเจิงเอาไว้ กล่าวยิ้มตาหยี “พวกเราส่งคนไปมากมาย สิ้นเปลืองเสบียงไม่น้อย หากทัพศัตรูไม่มีความเคลื่อนไหวใด เสบียงของพวกเราไม่ทำกับสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์แล้ว!”แม้จะบอกว่าม้าและคนจะไม่เคลื่อนไหว ก็ต้องบริโภคเสบียง แต่การบริโภคเสบียงระหว่างคนและม้าเคลื่อนไหวกับไม่เคลื่อนไหวนั้นต่างกันมากใช้คำพูดของหยุนเจิงก็คือ ต้องให้ม้าวิ่ง แต่ไม่ให้ม้ากินหญ้า จะเป็นไปได้เช่นไร?เมื่อได้ฟังคำของเสิ่นลั่วเยี่ยน เมี่ยวอินก็เข้าใจทันทีนางไม่เคยนำทัพ จึงไม่ได้ไปสนใจเรื่องเหล่านี้!เมื่อเห็นท่าทางเสิ่นลั่วเยี่ยน หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้ายิ้มอื้ม!รู้จักแย่งตอบแล้ว!เจียเหยานะเจียเหยา เจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวังสิ!หากเจ้าทำให้ข้าขาดทุน ข้าจะต้องหาโอกาสทำให้เจ้าสูญเสีย!……คืนวันที่สอง เจียเหยาเหลือทหารและม้าเฝ้าค่ายไว้สามพันคน นางนำกองทัพเจ็ดพันคนออกเดินทางตลอดกลางคืนเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจของทัพศัตรู เจียเหยาสั่งอย่างเคร่งครัดห้ามทหารพูดคุยกันพวกเขาไม่สามารถเคลือนทัพด้วยความเร็ว ป้องกันไม่ให้ม้าศึกเดินจนเกิดเสียงดังเกินไปผ่านการเดินทัพมาตลอดคืน รุ่งอรุณ ในที่สุดกอง