ชายแดนกู้รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่ได้รับข่าวว่าทัพศัตรูเป่ยหวนมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ หยุนเจิงเริ่มวิตกกังวลเล็กน้อยมารดาเขาสิ!หน่วยคุ้มกันเสบียงของพวกเขาใกล้จะถึงชายแดนชิงแล้ว!เจียเหยายังไม่เคลื่อนไหวหรือ?หรือว่า เจียเหยาอยากรอให้คนของเขาเข้าประจำการที่ชายแดนชิงก่อนค่อยลงมือ?คิดแล้วก็เป็นไม่ได้!ชายแดนชิงแม้จะเผชิญกับการทำลายอย่างหนัก แต่กำแพงเมืองส่วนใหญ่ก็ยังอยู่อาศัยกำแพงเมืองที่ทรุดโทรมของชายแดนชิง สร้างแนวป้องกัน พวกเขาก็ยังมีความได้เปรียบอย่างมากหากรอจนพวกเขาเข้าประจำการที่ชายแดนชิงค่อยลงมือจริง สมองของเจียเหยาคงถูกเฆี่ยนจนบ้าไปแล้ว! หรือว่า เป่ยหวนไม่อยากทำสงครามอีกแล้ว?แม้แต่ความคิดเอียนเอียงในใจก็ไม่หวั่นไหวสักนิดแล้ว?ไม่ถึงขั้นนั้นกระมัง?มีโอกาสเอาเปรียบได้แต่ไม่เอาก็คือคนโง่!เจียเหยาน่าจะรู้จักเหตุผลนี้ดีเขากระตือรือร้นส่งเสบียงไปให้นาง นางจะไม่เอา?อีกทั้ง ด้วยสถานการณ์ที่เป่ยหวนขาดแคลนเสบียงเช่นนี้!เจียเหยาไม่ควรปล่อยเนื้อชิ้นใหญ่ที่ส่งให้ถึงปากหรอกกระมัง?“เอาล่ะ เลิกทำหน้าขมขื่นได้แล้ว”เมี่ยวอินมาถึงข้างกายหยุนเจิง จากนั้นก็นั่งอยู่ในอ้อมกอ
เสิ่นลั่วเยี่ยนหยุนเจิงเอาไว้ กล่าวยิ้มตาหยี “พวกเราส่งคนไปมากมาย สิ้นเปลืองเสบียงไม่น้อย หากทัพศัตรูไม่มีความเคลื่อนไหวใด เสบียงของพวกเราไม่ทำกับสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์แล้ว!”แม้จะบอกว่าม้าและคนจะไม่เคลื่อนไหว ก็ต้องบริโภคเสบียง แต่การบริโภคเสบียงระหว่างคนและม้าเคลื่อนไหวกับไม่เคลื่อนไหวนั้นต่างกันมากใช้คำพูดของหยุนเจิงก็คือ ต้องให้ม้าวิ่ง แต่ไม่ให้ม้ากินหญ้า จะเป็นไปได้เช่นไร?เมื่อได้ฟังคำของเสิ่นลั่วเยี่ยน เมี่ยวอินก็เข้าใจทันทีนางไม่เคยนำทัพ จึงไม่ได้ไปสนใจเรื่องเหล่านี้!เมื่อเห็นท่าทางเสิ่นลั่วเยี่ยน หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้ายิ้มอื้ม!รู้จักแย่งตอบแล้ว!เจียเหยานะเจียเหยา เจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวังสิ!หากเจ้าทำให้ข้าขาดทุน ข้าจะต้องหาโอกาสทำให้เจ้าสูญเสีย!……คืนวันที่สอง เจียเหยาเหลือทหารและม้าเฝ้าค่ายไว้สามพันคน นางนำกองทัพเจ็ดพันคนออกเดินทางตลอดกลางคืนเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจของทัพศัตรู เจียเหยาสั่งอย่างเคร่งครัดห้ามทหารพูดคุยกันพวกเขาไม่สามารถเคลือนทัพด้วยความเร็ว ป้องกันไม่ให้ม้าศึกเดินจนเกิดเสียงดังเกินไปผ่านการเดินทัพมาตลอดคืน รุ่งอรุณ ในที่สุดกอง
กองกำลังเจียเหยาและฮูหลัวมาถึงแทบจะพร้อมกันเวลานี้ พวกเขายังเห็นทหารม้าต้าเฉียนที่เหมือนเนินดินที่ยังไปได้ไม่ไกลระยะว่างระหว่างสองฝ่าย คาดว่าจะมีประมาณเจ็ดแปดลี้เมื่อเห็นเสบียงจำนวนมหาศาลอยู่ใกล้แค่เอื้อม ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังของเจียเหยาหรือฮูหลัว ไม่มีจิตใจไปจู่โจมคนเหล่านั้นแล้วทัพศัตรูเผาเสบียงไม่ทัน นั่นก็คือความโชคดี!แม้ไม่สามารถทำลายล้างทัพศัตรู แต่สามารถปล้นเสบียงได้ แล้วก็สามารถแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของพวกเขาตอนนี้ได้ด้วย“ฮ่าๆ...”มองดูเสบียงในเกวียนแต่ละลำ ฮูหลัวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดัง “พวกไก่อ่อนต้าเฉียนนั่น สุดท้ายก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับพวกเรา! ไม่ว่าพวกเขาจะเจ้าเล่ห์มากแผนการเพียงใด เมื่อมาถึงทุ่งหญ้า พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเรา!”เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของฮูหลัว คนไม่น้อยหัวเราะตามใช่แล้ว!เล่นแผนอุบาย พวกเขาอาจสู้ต้าเฉียนไม่ได้แต่มาถึงทุ่งหญ้า นั่นก็คือมาถึงใต้ฟ้าของทหารม้าเหล็กต้าเฉียน!ต้าเฉียนขี้ขลาด รู้จักแต่ใช้แผนอุบาย เดิมทีไม่กล้าเผชิญหน้ากับทหารม้าเป่ยหวน!เมื่อได้ฟังเสียงหัวเราะของทุกคน เจียเหยาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเจ้าพวกคนโง่หลงตัวเอง!
หยุนเจิงตัวดี!เขาช่างใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย!แม้แต่ลายละเอียดเล็กน้อยก็ยังไม่เว้น!ถูกหลอกแล้ว!พวกเขาล้วนถูกหลอกแล้ว!หยุนเจิงเดาไว้นานแล้วว่าพวกเขาขาดแคลนเสบียงจึงต้องสนใจเสบียงเหล่านี้แน่นอน!จงใจทำเช่นนี้ เพื่อล่อให้พวกเขาติดกับ!กับดับ นี่เป็นกับดักของหยุนเจิงที่เตรียมไว้ให้พวกเขา!หยุนเจิงออกแบบกับดักใหญ่ด้วยความคิดรอบครอบเช่นนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อทำให้พวกเขารู้สึกรังเกียจ!ด้านหลัง ต้องมีแผนอุบายที่ใหญ่กว่ารอพวกเขาอยู่!“ทหาร!”เจียเหยาคำรามด้วยความโกรธ “ส่งสายลับไปทุกทิศทางทันที สืบเบาะแสของทัพศัตรู! เร็ว!”ตอนที่เจียเหยาส่งสายสืบออกไปทุกทิศทาง กระสอบบนรถขนเสบียงมากมายถูกกรีดเพื่อตรวจสอบแล้วบนรถขนเสบียงสิบกว่าคันนอกจากกระสอบชั้นแรกที่บรรจุอาหารและธัญพืชไว้ ที่เหลือล้วนเป็นวัชพืชและดิน!ผลลัพธ์ดี ยังดีกว่าที่เจียเหยาคาดไว้หน่อยยังดีที่มีเสบียงอยู่บ้างเดิมทีนางคิดว่า ทุกสิ่งที่อยู่บนรถขนเสบียงมีแต่วัชพืชผสมดินแต่ว่า เจียเหนาก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็วระหว่างทางขบวนคุ้มกันเสบียงทัพศตรูก็ต้องกินต้องดื่มเช่นกันเสบียงเหล่านี้ ย่อมต้องเหลือให้พวกเขาใ
“รายงานองค์ชาย ขบวนคุ้มกันเสบียงทัพเราเผชิญกับการโจมตีของทหารม้าเป่ยหวน แม่ทัพชวีเจิ้งนำกองทัพล่าถอย แต่ทหารม้าเป่ยหวนบุกมาอย่างรวดเร็ว ทัพเรายังมีเสบียงบางส่วนนำออกมาไม่ทัน...”ตอนบ่าย หยุนเจิงได้รับข่าวจากคนที่ชวีเจิ้งส่งกลับมา“กองกำลังชวีเจิ้งมีคนบาดเจ็บหรือไม่?”หยุนเจิงถามทันทีทหารส่งสารตอบทันที “ไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่ม้าเสียกำลังไป มีม้าสามร้อยกว่าตัววิ่งจนเหนื่อยตายแล้ว...”“ดี! ดีมาก!”หยุนเจิงดีใจมาก ออกคำสั่ง “สั่งเติ้งเป่า ไปทางทะเลสาบไป๋หลางสามร้อยลี้ ตอบรับกองกำลังฉินชีหู่และกองทหารโลหิต! สั่งกองกำลังชวีเจิ้ง เดินทางตลอดคืนไปอยู่กับกองกำลังเติ่งเป่า!”เสบียงขนไม่ทันก็ไม่ทัน!ถึงเช่นไรคงเหลือเสบียงไม่มากแล้ว!ส่วนม้า ก็ไม่เป็นไรนี่ไม่ใช่ตอนที่พวกเขาเข้าสู่เมืองซั่วเป่ยแล้วม้าศึกสามร้อยกว่าตัว วิ่งจนตายไปแล้วก็ช่างเถอะ!ก็นำมาแปรรูปเป็นอาหารให้ทุกคนแล้วกัน!ขอแค่คนหนีกลับมาได้ก็พอแล้วขอแค่ตีขนเป่ยหวนฟันร่วงเต็มฟื้น ต่อไปยังมีโอกาสได้ม้าศึกอีก!ความต้องการที่เขามีต่อฉินชีหู่และกองทหารโลหิตมีไม่สูง ทัพศัตรูมีสามเส้นทางคนและม้าไม่ใช่หรือ ขอแค่เผาเสบียงเส้นทางใด
เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกฟ้อง เดิมทีอันหวังที่คิดจะอยู่อย่างสงบเงียบก็จำเป็นต้องก่อกบฎแล้วเนื่องจากราชสำนักรวบรวมกำลังทหารไว้ที่ฟู่โจวมากเกินไป เป็นผลให้การป้องกันของซู่โจวว่างเปล่า ไม่นานอันหวังสามารถยึดครึ่งเมืองซู่โจวได้อย่างรวดเร็วปัจจุบัน ราชสำนักได้ระดมทหารสามหมื่นคนจากฟู่โจวอย่างเร่งด่วนเพื่อปราบปรามกบฏผลลัพธ์ต่อมา จั่วเริ่นก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่ว่า เขาส่งคนไปสืบแล้วหากมีข่าวใหม่ จั่วเริ่มจะส่งคนมาส่งจดหมายโดยเร็วอ่านจดหมายในมือจบ หยุนเจิงอดยิ้มส่ายหน้าไม่ได้ “ดูเจ้ารีบร้อน ข้าก็นึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ใด! ไม่ต้องร้อนใจ อันหวังคงสร้างคลื่นลมใดไม่ได้!”หากตามแผนการเดิม หลังจากต้นฤดูใบไม้ผลิราชสำนักเคลื่อนทัพใหญ่ต่อสู้เป่ยหวน อันหวังสามารถฉวยโอกาสนี้ได้แต่ตอนนี้ ราชสำนักไม่ได้ใช้กับเป่ยหวนก่อเรื่องกันไปมา สุดท้ายก็เป็นกองทหารมณฑลทางเหนือต่อสู้กับเป่ยหวนตอนนี้อันหวังเพียงครอบครองพื้นที่ว่างเท่านั้นรอให้ทหารจากฟู่โจวที่ราชสำนักส่งไป ไม่นานก็น่าจะปราบปรามกบฎอันหวังได้แล้วในราชสำนักมีแม่ทัพอาวุโสที่เต็มไปด้วยประสบการณ์มากมาย!สยบความวุ่นวายที่อันหวังก่อ น่าจะไม่ใช่เรื่องยาก
ขณะฟ้ามืด เจียเหยากับเกออาซูนำทหารกลับถึงค่ายทหารของนางฮูหลัวนำกองทัพกลับไปยังค่ายทหารเส้นทางซ้ายการต่อสู้ครั้งนี้ ความเสียหายของพวกเจียเหยาไม่นับว่ายอมรับไม่ได้ทหารห้าพันที่เกออาซูเหลือไว้เฝ้าค่าย บาดเจ็บล้มตายเกือบสองพันคนเท่านั้นผลลัพธ์นี้ดีกว่าที่เจียเหยาคิดไว้มากแล้วแต่เมื่อคิดถึงเสบียงของพวกเขา ในใจของเจียเหยาเหมือนมีเลือดไหลเสบียงที่ถูกเผา คือเสบียงสำหรับสามเดือนของกำลังเกออาซู!เสบียงสามเดือนเชียวนะ!สำหรับพวกเขาที่เสบียงขาดแคลนเข้าขั้นวิกฤตแล้ว เป็นเหมือนการเพิ่มน้ำค้างแข็งบนหิมะโดยไม่ต้องสงสัยตอนที่เห็นกองไฟลุกโชนกลางค่าย เจียเหยาเกือบทนไม่ไหวร้องไห้ออกมาก่อนหน้านี้ พวกเขายังพอจะฝืนรักษาทหารและม้าสามหมื่นไว้ได้! ตอนนี้ แม้แต่ทหารม้าสามหมื่นก็ไร้หนทางรักษาไว้ได้แล้วแต่หากรักษาทหารม้าสามหมื่นไว้ไม่ได้ พวกเขาจะต่อต้านการโจมตีครั้งต่อไปของหยุนเจิงได้เช่นไร?หากยังต้องรักษากำลังทหารสามหมื่นไว้ เสบียงที่เหลือ เพียงพอให้กองทัพสามหมื่นของพวกเขาใช้แค่สองเดือนเท่านั้น“องค์หญิง ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไร?”เกออาซูมองเจียเหยาอย่างไม่รู้ควรทำเช่นไรสูญเสียเสบียงหนึ
เจียเหยาครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นกล่าวกับเกออาซู “ให้พวกเขาเอาวัวแพะมาแลกคนเถอะ! แพะอ้วนสิบตัวหรือวัวหนึ่งตัวแลกกับผู้บาดเจ็บสาหัสหนึ่งคน!”ปศุสัตว์อย่างไรก็มีชีวิตถูกใส่ยาพิษหรือไม่ แค่ดูก็รู้แล้วถึงเช่นไรล้วนนำมาบริโภค“นำวัวแพะมาเลือกหรือ?”เกออาซูขมวดคิ้วกล่าว “มิฉะนั้น เอาเยอะหน่อยเถอะ?”“เจ้าคิดว่าหยุนเจิงโง่หรือ?”เจียเหยาช้อนลูกตา “เอามากเกินไป เขาก็ไม่แลกแล้ว! พวกเราไม่อาจฆ่าผู้บาดเจ็บสาหัสที่พวกเขาทิ้งไว้ ยังต้องหาคนรักษาพวกเขา ยังต้องเปลืองเสบียงอาหารเลี้ยงพวกเขา สุดท้ายแล้ว พวกเราก็เสียเปรียบ...”ผู้บาดเจ็บสาหาเหล่านี้หายิ่งอยู่นาน ยิ่งตายเยอะขึ้นแทนที่จะเป็นเช่นนี้ ไม่สู้ถือโอกาสตอนที่คนเหล่านั้นยังมีลมหายใจ รีบแลกเปลี่ยนของกินกลับมาบ้างดีกว่ามากน้อยก็สามารถคลี่คลายปัญหาขาดแคลนเสบียงของพวกเขาได้บ้างเกออาซูครุ่นคิด พยักหน้าตกลง“ใช่แล้ว ศพที่เขาทิ้งไว้สองร้อยร่าง ก็เอาไปแลกพร้อมกัน ทุกสองศัพแลกแพะสองตัว...”เจียเหยากำชับเพิ่มอีกครั้งศพเหล่านี้ ทิ้งไว้บนที่ดินของพวกเขาก็ไม่มีประโยชน์แลกแพะกลับมาได้บ้าง มากน้อยก็นับว่าคุ้มค่า……วันถัดไป หยุนเจิงได้รับจดห