วันที่สอง หลังนำธุระข้างหลังมอบให้เฝิงอวี้แล้ว หยุนเจิงพาเมี่ยวอินและฉินชีหู่เดินทางไปยังซั่วฟางตอนนี้ ในสมองของพวกเขามีแต่คิดว่าจัดการไอสารเลวเว่ยเหวินจงเช่นไรฉินชีหู่ถึงกับบอกว่าจะถลกหนังเว่ยเหวินจงทั้งเป็น!เวลาบ่าย พวกเขาเห็นกองทหารคุ้มกันเสบียงข้างหน้าพวกเขาเข้าใกล้ พบว่าทหารของโจวมี่ห้าร้อยคนกำลังคุ้มกันเสบียงไปส่งที่เมืองจิ้งอันและสุยหนิง“อง์ชาย!”เมื่อเห็นหยุนเจิง โจวมี่ประหลาดใจด้วยความดีใจอย่างมากด้วยความดีใจ โจมมี่คาราวะทั้งสามคน“พอแล้ว พอแล้ว”หยุนเจิงยกมือห้ามโจวมี่ “พวกเรายังมีธุระ ไม่คุยกับเจ้าแล้ว! พวกเจ้ารีบไปส่งเหล้าที่เมืองสุยหนิงและจิ้งอัน! ใช่แล้ว เจ้าบอกแม่ทัพเฝ้าเมืองทั้งสอง ใครกล้าดื่มเหล้า ประหารทันที!”“ห๊า?”ฉินชีหู่มึนงง “ข้าว่านะน้องชาย เจ้าช่างใจแคบ! เจ้าให้คนส่งเหล้าไปให้กองทัพทั้งสอง แต่ไม่ให้คนดื่มเหล้า นี่ไม่ใช่ทำให้คนเกลียดหรือ?”“เหล่านี้ไม่ใช่เพื่อดื่ม!”หยุนเจิงเอือมระอา “นี่เอาไว้ใช้ล้างบาดแผลของทหารทั้งสองเมือง! ของสิ่งนี้หากดื่ม อาจถึงชีวิต!”นี่เป็นแอลกอฮอล์เข้มข้น!นี่เป็นแอลกอฮอล์ที่เขาสั่งให้จางซูกลั่นออกมาจากเหล้าจางซูเ
เวลานี้ จักรพรรดิเหวินเรียกระดมขุนนางมาประชุมทันใดนั้น ทหารวังวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อน“ฝ่าบาท รายงานด่วนจากซั่วเป่ย! คนรายงานกล่าว ท่านแม่ทัพใหญ่จิ้งเป่ยกำชับ ต้องนำจดหมายฉบับนี้มอบถึงพระหัตถ์ฝ่าบาท...”รายงานด่วนซั่วเป่ย?จักรพรรดิเหวินใจขดเกร็ง จากนั้นก็เอ่ยปาก “เร็ว พาคนเข้ามา!”ทหารวังไม่กล้าชักช้า รีบพาทหารคนสนิทของเว่ยเหวินจงเข้ามาภายในราชวัง“คาราวะ...”“เลิกพูดมากความ รีบนำจดหมายออกมา!”จักรพรรดิเหวินตัดบททหารคนสนิทของเว่ยเหวินจง มู่ซุ่นรีบวิ่งไปหาทหารคนสนิททหารคนสนิทกระหืดกระหอบ รีบนำจดหมายที่เว่ยเหวินจงเขียนด้วยตัวเองออกมามู่ซุ่นรับจดหมาย จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาจักรพรรดิเหวิน ยกมือทั้งสองถวายให้จักรพรรดิรับจัดหมายมา เปิดจดหมายแบบลวกๆเมื่ออ่านเนื้อหาข้างใน จักรพรรดิเหวินพระเนตรทั้งสองเริ่มแดง สองพระหัตถ์สั่นไม่หยุด แม้กระทั่งกระดาษในมือหลุดปลิวไปเห็นท่าท่างผิดปกติของจักรพรรดิเหวิน หลุนลี่ที่อยู่ข้างกายจักรพรรดิเหวินรีบเข้าไปหานาทีถัดไป หยุนลี่รู้สึกปิติยินดีขึ้นมาทันใดหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนล้วนตายแล้ว!แม้แต่ศพล้วนส่งไปที่เมืองจิ้งอันแล้ว!ดี!ดีมา
หลังสิ้นเสียงของหยุนลี่ ทั้งราชสำนักตกอยู่ในบรรยากาศแห่งความโศกเศร้าทันทีทุกคนทำสีหน้าเศร้าเสียใจ ราวกับบุพการีเสียชีวิตแต่ใครที่เสียใจจากจริงใจ ใครแกล้งแสดง มีเพียงพวกเขาที่รู้“ฝ่าบาท เสียใจด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”สวีสือฝู่เดินออกมา ทรุดเข่านั่งลงกับพื้น“ฝ่าบาท เสียใจด้วยพ่ะย่ะค่ะ...”เวลานี้ เหล่าขุนนางพากันคุกเข่าจักรพรรดิเหวินพยายามควบคุมอารมณ์ของพระองค์ ผ่านไปเนิ่นนาน จึงลืมพระเนตรที่เต็มไปด้วยเมฆหมอก น้ำเสียงสั่นเครือ “เรียกฉินลิ่วก่านเข้าวัง!”มู่ซุ่นรีบเรียกคนไปถ่ายทอดคำสั่ง“จ้าวจี๋!”จักรพรรดิเหวินคำรามลั่น“กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”จ้างจี๋ตอบกลับจักรพรรดิเหวินกำพระหัตถ์แน่น กล่าวเสียงต่ำ “เจ้าไปฟู่โจวเตรียมกองทัพ รอรับราชโองการมาถึง นำกองทหาร ไม่ว่าแลกด้วยสิ่งใด เร่งไปช่วยเหลือซั่วเป่ยทันที!”“พ่ะย่ะค่ะ!”จ้างจี๋รับบัญชาแล้วจากไปทันที“มู่ซุ่น รับราชโองการ!”จักรพรรดิเหวินใช้ชายแขนเสื้อเช็ดน้ำตา “สามีภรรยาเจ้าหกหยุนเจิง มีคุณูปการต่อแคว้นยิ่งใหญ่ มอบตำแหน่งแม่ทัพใหญ่เจ้าเต๋อหลังหยุนเจิงมรณกรรม นามยามมรณกรรมว่าอู่เลี่ย มอบตำแหน่งให้พระชายาเป็นแม่ทัพใหญ่ก้วนจว
แต่เว่ยเหวินจงไม่ช่วยเหลือ ก็เหมือนส่งหยุนเจิงและกองทัพนับหมื่นไปตาย!“ฝ่าบาทระงับโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”แม่ทัพเก่าเสวียเช่อลุกขึ้นยืน ก้มโค้งกล่าว “เป่ยหวนครั้งนี้วางแผนเป็นความลับ หลังทหารนับหมื่นถูกขึงที่เมืองกู้ กำลังทหารในเมืองเว่ยเหวินจงไม่เพียงพอ กองทัพเป่ยหวนที่เทียนหูมีความผิดปกติ เว่ยเหวินจงจำเป็นต้องป้องกัน! อีกทั้ง กองทัพเป่ยหวนยึดครองตำแหน่งความได้เปรียบ เว่ยเหวินจงหากเสี่ยงเดินทัพ มีแต่จะทำให้ความเสียหายของกองทหารมณฑลทางเหนือมีมากกว่าเดิม ถึงขนาดเป็นภัยต่อทั้งซั่วเป่ย...”“เสด็จพ่อ แม่ทัพเสวียเช่อกล่าวมีเหตุผล”หยุนลี่รีบสนับสนุน “น้องหกตายในสงคราม ข้าเสียใจมาก แต่เสด็จพ่อเป็นบิดา แล้วก็ยังเป็นกษัตริย์ของแคว้น! เว่ยเหวินจงหากมีกองกำลังเสริมแต่ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือ ต่อให้เสด็จพ่อถลกหนักเลาะเส้นเอ็นล้วนไม่ใช่การทำเกินกว่าเหตุ! แต่เว่ยเหวินจงทำเพื่อความปลอดภัยของทั้งซั่วเป่ยนะพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ฟังคำของหยุนลี่ เหล่าขุนนางพากันพยักหน้าเห็นด้วย“ฝ่าบาท เรื่องนี้ไม่อาจพาลกริ้วแม่ทัพใหญ่เว่ยเหวินจงได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”“เว่ยเหวินจงรักษาซั่วเป่ยมานานหลายปี หากฝ่าบาททรงกริ้วเขาเพราะ
เมืองจิ้งอันอยู่ห่างจากซั่วฟางค่อนข้างไกลจนถึงวันที่สองตอนเที่ยง พวกเขาจึงมาถึงเมืองจิ้งอันทว่า พวกเขาเพิ่งมาถึงเมืองจิ้งอันก็ได้รับข่าวไม่ดีเว่ยเหวินจงสังเกตเห็นความผิดปกติตอนที่เข้าเมืองจิ้งอันมา จึงพาทหารคนสนิทหนีทันทีเสิ่นลั่วเยี่ยนพาคนไล่ล่าขัดขวางเอาไว้ สุดท้ายก็ขวางเว่ยเหวินจงไม่ได้ตอนนี้ เว่ยเหวินจงหนีเข้าเมืองเทียนหูควบคุมทหารและม้าเมืองเทียนหูแล้ว เสิ่นลั่วเยี่ยนและตู๋กูเช่อรวบรวมกองทัพล้อมเมืองเทียนหูเอาไว้แต่ไม่ว่าจะเป็นเสิ่นลั่วเยี่ยนหรือว่าตู๋กูเช่อ ล้วนไม่คิดจะเพิ่มความเสียหาย ดังนั้นจึงลังเลไม่กล้าโจมตีเมือง“ไอสุนัขชั่ว หนีเร็วนัก!”เมื่อได้รู้ข่าว ฉินชีหู่ด่ากราดด้วยความโกรธทันทีพวกเขาบอกแล้วว่าจะมาถลกหนังเว่ยเหวินจง!สุดท้าย ไอโจรชั่วหนีไปยังเมืองเทียนหูแล้ว?ไม่ต้องคิดก็รู้ เว่ยเหวินจงคงบอกกับกองทหารรักษาการณ์เมืองเทียนหูว่าหยุนเจิงสมคบคิดกับตู๋กูเช่อ ต้องกองทัพก่อกบฏกองทหารรักษาการณ์เทียนหูไม่รู้ความจริง ย่อมต้องเข้าข้างเว่ยเหวินจง“ไม่เป็นไร!”หยุนเจิงยิ้มกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ก็แค่จับเขาช้าลงไม่กี่วันเท่านั้น เขาหนีไม่พ้นหรอก! ไปเถอะ พวกเรารับ
หยุนเจิงยิ้มเล็กน้อย “รอให้จับโจรสุนัขเว่ยเหวินจงได้ ทุกอย่างก็กระจ่างแล้ว!”“ท่านคิดจะจับเว่ยเหวินจงเช่นไร?” ฉินชีหู่ขมวดคิ้วมองหยุนเจิง “ท่านจับเว่ยเหวินจงด้วยวิธีใดข้าไม่สน แต่พวกท่านห้ามโจมตีเมืองเด็ดขาด!”การโจมตีเมือง ล้วนสร้างความเสียหายในต้าเฉียนอย่างมากนี่คือผลลัพธ์ที่ฉินชีหู่รับไม่ได้เด็ดขาด“วางใจ ไม่จำเป็นต้องโจมตีเมือง!”หยุนเจิงหัวเราะ “ทหาร ไปเรียกแม่ทัพตู๋กูมาประชุม!”“ขอรับ!”ไม่นาน ทหารที่อยู่นอกกระโจมไปถ่ายทอดคำสั่ง“ได้ยินว่า เจ้าได้รับบาดเจ็บ?”ขณะที่รอตู๋กูเช่อ หยุนเจิงถามอาการบาดเจ็บของเสิ่นลั่วเยี่ยน“ไม่เป็นไร”เสิ่นลั่วเยี่ยนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ก็แค่รอยถลอกบนมือเท่านั้น ไม่ร้ายแรง”“มาให้ข้าดู!”หยุนเจิงไม่เชื่อคำพูดนาง!“ดูสิ่งใดเล่า!”เสิ่นลั่วเยี่ยนจ้องเขม็งหยุนเจิง “บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไร! หากมีปัญหาข้ายังสามารถกระโดดโลดเต้นอยู่ตรงนี้ได้หรือ?”“เร็วเข้า!”หยุนเจิงจ้องมองเสิ่นลั่วเยี่ยน “อย่าบังคับข้าจับเจ้าถลกชุดเกราะ!”“เจ้า...”เสิ่นลั่วเยี่ยนมองหยุนเจิงด้วยความโกรธและอายไอสารเลว!พูดไร้สาระ!ฉินชีหู่ยังอยู่ในกระโจมด้วย!เขาค
เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง ทุกคนจมอยู่ในความคิด“จริงด้วย! เหตุใดข้าถึงคิดไม่ได้!”ตู๋กูเช่อตบหน้าผาทันใด “กองทัพพวกเราอยู่ในท่าทีกดดัน ใจทหารกองทัพเทียนหูต้องหวาดหวั่น แต่โจรชั่วเว่ยเหวินจงยังมีอำนาจ พวกเราต้องถูกเว่ยเหวินจงบีบบังคับ! ทันทีที่พวกเราปล่อย ปัญหายากก็จะถูกโยนไปให้เว่ยเหวินจงแล้ว!”“ปัญหายาก?”ฉินชีหู่ถามด้วยความไม่เข้าใจตู๋กูเช่อยิ้มกล่าว “แม้เสบียงของเทียนหูยังเหลืออยู่มาก แต่ก็สามารถทนได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น! เว่ยเหวินจงไม่มีทางเอาแต่หลบอยู่ในเทียนหู เขาจำเป็นต้องคิดวิธีหลบหนี!”“จากนั้นเล่า?”ฉินชีหู่ยังคงไม่เข้าใจ “ต่อให้พวกเราถอย หากเว่ยเหวินจงหนี จะทำเช่นไร?”“เขาหนีไม่รอด” หยุนเจิงรับช่วงต่อ “ขอแค่เว่ยเหวินจงนำทหารออกนอกเมือง ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ต้องมีทหารที่ไม่เต็มใจถูกเขาบังคับหนีออกมา หรือยอมแพ้ให้กับพวกเรา!”หากตอนนี้ทหารเหล่านั้นไม่หนี โดยพื้นฐานแล้วก็คือไม่คิดจะหนี!ด้านนอกมีกองทัพของพวกเขาปิดกั้น ด้านหลังเป็นเว่ยเหวินจงพวกเขายังไม่คิดหนี คิดว่าถูกเว่ยเหวินจงจับจุดตายไว้แล้วทันทีที่ออกจากเมือง มันก็กลายเป็นคนละเรื่องแล้วเสิ่นลั่วเยี่ยนครุ่
ในเมื่อกล่าวมาถึงขั้นนี้แล้ว หยุนเจิงก็บอกเล่าแผนการทั้งหมดก่อนหน้าของพวกเขาให้ทั้งสองฟังแน่นอน เรื่องดินระเบิด เขาไม่ได้เอ่ยถึง เพียงแค่บอกว่าใช้วิธีพิเศษเฉพาะทำให้เกิดหิมะถล่มสิ้นเสียงของหยุนเจิง ทั้งสองคนอึ้งนั่นก็หมายความว่า ตั้งแต่ครั้งแรกที่หยุนเจิงซุ่มโจมตีทหารม้าเป่ยหวนที่หุบผาชันช่องลมสำเร็จ เขาก็เริ่มวางแผนที่หุบเขามรณะแล้ว?สุดท้ายนึกไม่ถึงว่าเขาจะทำสำเร็จด้วย?นี่...นี่...ชั่วเวลานั้น สมองของพวกเขาสองคนเหมือนจะหยุดค้างพวกเขาเหมือนสูญเสียความสามารถในการคิดพิจารณาในยามปกติไปแล้วตู๋กูเช่อยิ่งคิดว่าตัวเองเป็นผู้บัญชาการกองทัพมาตั้งหลายปีนั้นเปล่าประโยชน์แล้ว!ความเสียหายเป็นศูนย์!ใช้ความเสียหายเป็นศูนย์สร้างหายนะให้ทัพศัตรู นี่คือความสำเร็จที่เหล่าแม่ทัพน้อยใหญ่ล้วนใฝ่ฝัน!อีกทั้ง เขาไม่ได้ฆ่าศัตรูจำนวนหลักร้อยหรือหลักพันเท่านั้น!แต่เป็นกองทัพสองหมื่นคน!ความสำเร็จเช่นนี้ คิดว่าแม้แต่หยุนเจิงก็คงไม่อาจก้าวข้ามไปได้อีกครั้งกระมั้ง?ฉับพลันนั้น สีหน้าตู๋กูเช่อที่มองหยุนเจิงเปลี่ยนไปหลายวันมานี้ เขาคิดว่าเขาประมาณหยุนเจิงสูงแล้วแต่นึกไม่ถึง สุดท้ายเขาก็ปร
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่