“ใช่ เป็นเช่นนี้แน่นอน!”ฉินชีหู่พยักหน้า “มิฉะนั้น ใครจะโง่ปล่อยทุ่งหญ้าดีเพียงนี้ไปไม่ต้องการแล้ว?”หยุนเจิงหรี่ตาเล็กน้อย จากนั้นก็ออกคำสั่ง “ฟังคำสั่ง กองทัพทั้งหมดจู่โจมชนเผ่าที่กำลังอพยพ! ไม่สนว่าเหตุใดพวกเขาอพยพ ปล้นก่อนค่อยว่ากัน!ปล้นได้เท่าใดก็เท่านั้น!ชนเผ่าเมื่อคืนมีแพะและม้ามากมาย คิดว่าวัว แพะและม้าของชนเผ่าแห่งนี้ต้องมีมากกว่ากระมัง?ถึงเช่นไร พวกเขาอยู่ที่ทุ่งหญ้ามู่หม่าด้วยทุ่งหญ้าคุณภาพสูงเช่นนี้ ย่อมสามารถผสมพันธ์ปศุสัตว์ได้มากขึ้น“ฮ่าๆ น้องชายพูดถูกต้อง!”ฉินชีหู่หัวเราะ “ในเมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจปล่อยไปได้แล้ว!”สิ้นเสียงคำสั่งหยุนเจิง กองทัพเริ่มจู่โจมทันทีม้าศึกของพวกเขาเต็มไปด้วยพลัง ระยะทางสิบลี้ กล่าวได้ว่าใกล้มากไม่นาน พวกเขาก็เห็นชนเผ่าเป่ยหวนที่กำลังอพยพ“บุก!”หลังเสียงร้องตะโกนของฉินชีหู่และหยุนเจิง การสังหารหมู่ก็เปิดฉากขึ้นอีกครั้งตอนที่พวกหยุนเจิงเริ่มเปิดฉากสังหาร เจียเหยาพาคนมาถึงยังชนเผ่าที่หยุนเจิงบุกจู่โจมเมื่อคืน“มีคนรอดหรือไม่?”เมื่อได้ข่าวที่หน่วยสอดแนมนำกลับมา เจียเหยารู้สึกประหลาดใจด้วยความยินดีเดิมนางนึกว่าชนเผ่าแห่งนี
การจู่โจมกะทันหัน ทำให้พวกเขาหยุนเจิงได้รับบาดเจ็บแม้หยุนเจิงไม่อยากให้เกิดการบาดเจ็บ แต่ในเมื่อเป็นการต่อสู้ การบาดเจ็บล้มตายเป็นสิ่งที่ยากหลีกเลี่ยงแม้คนส่วนมากที่อพยพเป็นคนชรา สตรีและเด็ก แต่ก็มีชายฉกรรจ์อยู่บ้างอีกทั้ง เผชิญหน้ากับการจู่โจมของพวกเขา คนชรามากมายก็ยังหยิบจับอาวุธขึ้นมาแม้จะเป็นการต่อสู้ฝ่ายเดียว แต่การบาดเจ็บล้มตายก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้การต่อสู้จบลง พวกเขาสูญเสียสองคนไปจากการต่อสู้ บวกกับผู้บาดเจ็บประมาณสิบคนทว่า กำไรที่พวกเขาได้มานั้นมหาศาลแค่ม้าเล็กใหญ่รวมกันมีถึงแปดพันตัวบวกกับม้าสี่พันตัวที่พวกเขาได้มาก่อนหน้านี้ ตอนนี้พวกเขาสามารถหนึ่งคนขี่ม้าสองตัวแล้ว!ให้ตายสิ!นี่ถึงจะเรียกว่าทหารม้าที่แท้จริง!“น้องชาย วัวและแพะเหล่านี้คงไม่ต้องฆ่าแล้วกระมัง?”ฉินชีหู่เลือดท่วมกายมาถึงข้างกายหยุนเจิง ถามด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจมารดาเขาสิ!หากทุกการต่อสู้ทำได้ถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็สบายมากแล้วเสียหายเล็กน้อย กำไรมหาศาล!มารดาเขาสิ นี่ถึงเรียกว่าชัยชนะ!“ท่านคงไม่คิดจะพาวัวและแพะเหล่านี้ไปด้วยกระมัง?”หยุนเจิงคาดเดาเจตนาของฉินชีหู่“แน่นอนสิ!”ฉินชีห
เมื่อคิดหาวิธีถ่วงเวลาทัพศัตรูก็ยังมีโอกาส!ตัดสินใจได้แล้ว หยุนเจิงสั่งฉินชีหู่นำวัวแพะทั้งหมดไปเร่งไปยังหุบผาชันช่องลมทันทีส่วนเขานำทหารม้าสองพันป้องกันด้านขวาหลังของกองทัพหากกองกำลังโย่วเสียนอ๋องเป่ยหวนคิดจะไล่ตามมา ความเป็นไปได้ที่จะมาจากด้านขวาหลังมีมากที่สุดทันทีที่หน่วยลาดตระเวนพบทหารม้าเป่ยหวน เขาค่อยคิดหาวิธีถ่วงเวลาทัพศัตรูเดิมทีฉินชีหู่คิดอยากจะแย่งภารกิจกับหยุนเจิง แต่ถูกหยุนเจิงปฏิเสธหลังแบ่งภารกิจกันแล้ว กองทัพออกเดินทางอย่างรวดเร็ว หยุนเจิงส่งหน่วยสอดแนมไปข้างหลังจำนวนมากยังไปได้ไม่ถึงยี่สิบลี้ หน่วยลาดตระเวนกลับมารายงาน พวกเขาพบกับสายลับของศัตรู เบื้องต้นคาดว่า กองทัพศัตรูน่าจะอยู่ห่างจากพวกเขาไม่ถึงสามสิบลี้แล้วเนื่องจากพวกเขาพบสายลับของศัตรู จึงไม่อาจสืบข่าวได้มากนัก ไม่รู้ว่าทัพศัตรูที่อยู่ด้านขวางหลังมีจำนวนกี่คน“มาเร็วเสียจริง!”หยุนเจิงก่นด่าในใจ เงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ ทันทีแต่น่าเสียดาย เมื่อเงยหน้ามอง บริเวณโดยรอบเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ทั้งไม่มีป่าไม้ แล้วก็ไม่มีหุบเขาที่เหมาะกับการซุ่มโจมตีมีเพียงทางลาดชันเล็กๆ กี่แห่ง นับว่าเป็นภูเขาที่สูงกว
มองทัพศัตรูบนเนินดินไกลๆ แม่ทัพปาตันใหญ่ใต้สังกัดโย่วเสียนอ๋องโปหลวนรู้สึกสับสนเผชิญหน้ากับกองทัพพวกเขาที่กระชั้นชิดเข้ามา นึกไม่ถึงว่าทหารม้าต้าเฉียนที่อยู่ไกลๆ จะนิ่งเฉยได้เพียงนี้?แค่ดูก็รู้แล้วว่าผิดปกติ!หลังจากกองทัพหยุดเคลื่อนไหว ปาตันสั่งการทันที “ส่งหน่วยสอดแนมสองกอง อ้อมไปยังกองเนินข้างหน้า ตรวจสอบจากทางด้านซ้ายขวา ดูว่าทัพศัตรูมีการซุ่มโจมตีหรือไม่!”เนินดินเล็กๆ นั้นบดบังสายตาปาตัน เขาไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ด้านหลังเนินดินได้“ขอรับ!”ไม่นาน หน่วยสอดแนมสองกองก็พุ่งออกไป จากทางซ้ายและขวาเข้าใกล้บริเวณเนินดินหยุนเจิงเดาได้ถึงเจตนาอีกฝ่ายแล้ว ยังคงสั่งให้ทุกคนไม่ต้องทำสิ่งใดดูเถอะ!ให้พวกเขาดูตามใจชอบ!ถึงเช่นไรตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืดแล้วรอจนพวกเขาดูชัดเจนแล้ว ฟ้าก็มืดสนิทแล้วมองดูหยุนเจิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นราวกับคนว่างไม่มีงานทำ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเลื่อมใสศัตรูตัวฉกาจอยู่ตรงหน้า หยุนเจิงยังนิ่งสงบได้เช่นนี้!จิตใจสงบนิ่งของเขา ทำให้คนเลื่อมใสไม่นาน หน่วยสอดแนมสองกองของเป่ยหวนอ้อมมาถึงด้านข้างทั้งสองของพวกเขา มองสถานการณ์โดยรอบของพวกเขาอย่างชัดเจนหลังจากดู
แม่ทัพนายกองของทัพศัตรูถูกเว่ยเหวินจงคนชั่วนั่นแพร่เชื้อหรือ?ไม่ไล่ตามแล้ว?หยุนเจิงลูบคางอย่างครุ่นคิด จากนั้นก็ออกคำสั่ง “กองทัพฟังคำสั่ง หันหัวม้ากลับ บุกอีกครั้ง!”เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง สีหน้าเมี่ยวอินดำทะมึนทันที “เจ้า...”ทว่า ในที่สุดเมี่ยวอินก็ไม่ได้พูดคำของหลังออกมาคำสั่งทหารดุจภูเขา!ในเมื่อหยุนเจิงออกคำสั่ง นางกล่าวสิ่งใดไปก็ไร้ประโยชน์แล้ว!ไม่นาน หยุนเจิงนำทหารม้าสองพันขึ้นหลังม้ามุ่งลงเนินดินไปอีกครั้งทว่า ครั้งนี้ปาตันกลับเชื่องแล้วมองดูเงาเลือนลางใกล้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปาตันไม่ได้ออกคำสั่งให้กองทัพบุกจู่โจม เพียงแค่เตรียมพร้อมตั้งรับ รอให้พวกเขาบุกเข้ามาไม่ผิดจากที่ปาตันคาดการ ในขณะที่ระยะห่างจากพวกเขาเหลือสองกิโลเมตร ทหารม้าต้าเฉียนหันหัวม้ากลับ วิ่งขึ้นไปบนเนินดินอีกครั้งปาตันไม่สั่งให้คนไล่ตาม เพียงแค่ส่งกองกำลังเล็กๆ ท้ายขบวนตามไป“น่าสนใจ!”หยุนเจิงมองย้อนกลับไปที่ทหารม้ากลุ่มเล็กๆ ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นเงา จากนั้นก็พาคนหนีไปอย่างรวดเร็วดูเหมือนว่า ทัพศัตรูไม่ได้มีความคิดจะสู้ตายกับพวกเขา!อื้ม เช่นนั้นก็จัดการง่ายแล้ว!ตอนที่พวกเขาข้ามเนิน
คืนนี้ แม้มีกองไฟสร้างความอบอุ่น แต่ไม่นับว่าผ่านไปง่ายนักวันที่สอง กองกำลังของพวกเขาพบคนเป็นไข้สามร้อยกว่าคน หนึ่งร้อยกว่าคนบาดเจ็บจากความหนาว หากกลับเมืองไปรักษาไม่ทันเวลา คนที่มือและเท้าบาดเจ็บจากความหนาวอาจจะต้องถูกตัดพวกเขาจู่โจมมาตลอดทาง ล้วนไม่มีคนบาดเจ็บมากมายเพียงนี้นึกไม่ถึง แค่ค้างแรมข้างนอกคืนเดียว กลับทำให้มีผู้ป่วยถึงห้าร้อยคนอีกทั้ง ยังเป็นสถานการณ์ที่มีกองไฟด้วยหากไม่มีกองไฟ ผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บเพราะความหนาวอาจมีมากขึ้นไปหลายเท่าเผชิญหน้ากับผลลัพธ์เช่นนี้ ฉินชีหู่และหยุนเจิงจนปัญญาอย่างมากนี่ทำให้พวกเขามุ่งมั่นแน่วแน่ตัดสินใจอยากกลับซั่วฟางให้เร็วที่สุดหลังจากสั่งงานฉินชีหู่แล้ว หยุนเจิงและเมี่ยวอินนำทหารสองพันคนไปด้านหลังอีกครั้งเวลากลางวัน พวกเขาได้รับข่าวจากหน่วยลาดตระเวน ด้านหลังและปีกขวาของพวกเขา ล้วนมีแต่ทหารม้าเป่ยหวน ทหารม้าสองกองของเป่ยหวนอยู่ห่างจากพวกเขาเพียงสามสี่สิบลี้เท่านั้นอีกทั้ง ทหารม้าสองกองน่าจะมีกำลังคนชาวเป่ยหวนนับหมื่นแต่ว่า ทหารม้าสองกองนี้ล้วนไม่จู่โจม เพียงแค่เคลื่อนทัพด้วยความเร็วปกติมาหาพวกเขาเมื่อได้รับรายงานจากหน่วยล
ดีมาก!ในเมื่อเจียเหยามีไหวพริบเช่นนี้ พวกเขาก็ควรไปได้แล้วชนเผ่าในทุ่งหญ้ามู่หม่าก็อพยพไปแล้ว พวกเขาหาผลประโยชน์ใดไม่ได้แล้วควรกลับไปจัดการเรื่องสำคัญแล้ว!หยุนเจิงตัดสินใจ จากนั้นก็ถามเฝิงอวี้ “พวกเจ้ามุ่งหน้ามาจากตรงข้ามหุบผาชันช่องลมมา ใช้เวลานานเพียงใด?”เฝิงอวี้ตอบ “พวกข้าเร่งขบวนทัพมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งชั่วยาม”แม้จะบอกว่าเร่งขบวนทัพ แต่ม้าศึกก็ไม่ได้วิ่งมาตลอดทางเพียงเดินทัพด้วยความเร็วที่ค่อนข้างรวดเร็วเท่านั้นหนึ่งชั่วยาม อย่างมากสุดก็วิ่งยี่สิบกิโลนั่นก็หมายความว่า พวกเขาอยู่ห่างไกลจากการรวมตัวกำลังเสริม มีเพียงสี่สิบห้าสิบลี้เท่านั้นพาสัตว์และเชลยเหล่านี้ไปด้วย คาดว่าคงใช้เวลาถึงเที่ยงคืนจึงสามารถรวมตัวกับกำลังเสริมที่อยู่ตรงข้ามหุบผาชันช่องลมได้ไปเถอะ!อดทนไปถึงที่นั่น ก็ชนะแล้ว!หยุนเจิงสั่งทุกคนเดินหน้าต่อ ขณะเดียวกันก็ยังคงส่งหน่วยลาดตระเวนออกไป จับตาความเคลื่อนไหวของทหารม้าเป่ยหวนด้านหลังและปีกขวาอย่าใกล้หนีออกไปแล้ว ยังถูกทัพศัตรูไล่ตามทันมากัดหนึ่งที เช่นนั้นก็ไม่คุ้มแล้ว“องค์ชาย พวกเราครั้งนี้พวกเราได้โชคใหญ่แล้ว!”มองม้าศึกและวัวแพะรวมอยู่ก
วันที่สอง หลังนำธุระข้างหลังมอบให้เฝิงอวี้แล้ว หยุนเจิงพาเมี่ยวอินและฉินชีหู่เดินทางไปยังซั่วฟางตอนนี้ ในสมองของพวกเขามีแต่คิดว่าจัดการไอสารเลวเว่ยเหวินจงเช่นไรฉินชีหู่ถึงกับบอกว่าจะถลกหนังเว่ยเหวินจงทั้งเป็น!เวลาบ่าย พวกเขาเห็นกองทหารคุ้มกันเสบียงข้างหน้าพวกเขาเข้าใกล้ พบว่าทหารของโจวมี่ห้าร้อยคนกำลังคุ้มกันเสบียงไปส่งที่เมืองจิ้งอันและสุยหนิง“อง์ชาย!”เมื่อเห็นหยุนเจิง โจวมี่ประหลาดใจด้วยความดีใจอย่างมากด้วยความดีใจ โจมมี่คาราวะทั้งสามคน“พอแล้ว พอแล้ว”หยุนเจิงยกมือห้ามโจวมี่ “พวกเรายังมีธุระ ไม่คุยกับเจ้าแล้ว! พวกเจ้ารีบไปส่งเหล้าที่เมืองสุยหนิงและจิ้งอัน! ใช่แล้ว เจ้าบอกแม่ทัพเฝ้าเมืองทั้งสอง ใครกล้าดื่มเหล้า ประหารทันที!”“ห๊า?”ฉินชีหู่มึนงง “ข้าว่านะน้องชาย เจ้าช่างใจแคบ! เจ้าให้คนส่งเหล้าไปให้กองทัพทั้งสอง แต่ไม่ให้คนดื่มเหล้า นี่ไม่ใช่ทำให้คนเกลียดหรือ?”“เหล่านี้ไม่ใช่เพื่อดื่ม!”หยุนเจิงเอือมระอา “นี่เอาไว้ใช้ล้างบาดแผลของทหารทั้งสองเมือง! ของสิ่งนี้หากดื่ม อาจถึงชีวิต!”นี่เป็นแอลกอฮอล์เข้มข้น!นี่เป็นแอลกอฮอล์ที่เขาสั่งให้จางซูกลั่นออกมาจากเหล้าจางซูเ