เมื่อคิดหาวิธีถ่วงเวลาทัพศัตรูก็ยังมีโอกาส!ตัดสินใจได้แล้ว หยุนเจิงสั่งฉินชีหู่นำวัวแพะทั้งหมดไปเร่งไปยังหุบผาชันช่องลมทันทีส่วนเขานำทหารม้าสองพันป้องกันด้านขวาหลังของกองทัพหากกองกำลังโย่วเสียนอ๋องเป่ยหวนคิดจะไล่ตามมา ความเป็นไปได้ที่จะมาจากด้านขวาหลังมีมากที่สุดทันทีที่หน่วยลาดตระเวนพบทหารม้าเป่ยหวน เขาค่อยคิดหาวิธีถ่วงเวลาทัพศัตรูเดิมทีฉินชีหู่คิดอยากจะแย่งภารกิจกับหยุนเจิง แต่ถูกหยุนเจิงปฏิเสธหลังแบ่งภารกิจกันแล้ว กองทัพออกเดินทางอย่างรวดเร็ว หยุนเจิงส่งหน่วยสอดแนมไปข้างหลังจำนวนมากยังไปได้ไม่ถึงยี่สิบลี้ หน่วยลาดตระเวนกลับมารายงาน พวกเขาพบกับสายลับของศัตรู เบื้องต้นคาดว่า กองทัพศัตรูน่าจะอยู่ห่างจากพวกเขาไม่ถึงสามสิบลี้แล้วเนื่องจากพวกเขาพบสายลับของศัตรู จึงไม่อาจสืบข่าวได้มากนัก ไม่รู้ว่าทัพศัตรูที่อยู่ด้านขวางหลังมีจำนวนกี่คน“มาเร็วเสียจริง!”หยุนเจิงก่นด่าในใจ เงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ ทันทีแต่น่าเสียดาย เมื่อเงยหน้ามอง บริเวณโดยรอบเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ทั้งไม่มีป่าไม้ แล้วก็ไม่มีหุบเขาที่เหมาะกับการซุ่มโจมตีมีเพียงทางลาดชันเล็กๆ กี่แห่ง นับว่าเป็นภูเขาที่สูงกว
มองทัพศัตรูบนเนินดินไกลๆ แม่ทัพปาตันใหญ่ใต้สังกัดโย่วเสียนอ๋องโปหลวนรู้สึกสับสนเผชิญหน้ากับกองทัพพวกเขาที่กระชั้นชิดเข้ามา นึกไม่ถึงว่าทหารม้าต้าเฉียนที่อยู่ไกลๆ จะนิ่งเฉยได้เพียงนี้?แค่ดูก็รู้แล้วว่าผิดปกติ!หลังจากกองทัพหยุดเคลื่อนไหว ปาตันสั่งการทันที “ส่งหน่วยสอดแนมสองกอง อ้อมไปยังกองเนินข้างหน้า ตรวจสอบจากทางด้านซ้ายขวา ดูว่าทัพศัตรูมีการซุ่มโจมตีหรือไม่!”เนินดินเล็กๆ นั้นบดบังสายตาปาตัน เขาไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ด้านหลังเนินดินได้“ขอรับ!”ไม่นาน หน่วยสอดแนมสองกองก็พุ่งออกไป จากทางซ้ายและขวาเข้าใกล้บริเวณเนินดินหยุนเจิงเดาได้ถึงเจตนาอีกฝ่ายแล้ว ยังคงสั่งให้ทุกคนไม่ต้องทำสิ่งใดดูเถอะ!ให้พวกเขาดูตามใจชอบ!ถึงเช่นไรตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืดแล้วรอจนพวกเขาดูชัดเจนแล้ว ฟ้าก็มืดสนิทแล้วมองดูหยุนเจิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นราวกับคนว่างไม่มีงานทำ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเลื่อมใสศัตรูตัวฉกาจอยู่ตรงหน้า หยุนเจิงยังนิ่งสงบได้เช่นนี้!จิตใจสงบนิ่งของเขา ทำให้คนเลื่อมใสไม่นาน หน่วยสอดแนมสองกองของเป่ยหวนอ้อมมาถึงด้านข้างทั้งสองของพวกเขา มองสถานการณ์โดยรอบของพวกเขาอย่างชัดเจนหลังจากดู
แม่ทัพนายกองของทัพศัตรูถูกเว่ยเหวินจงคนชั่วนั่นแพร่เชื้อหรือ?ไม่ไล่ตามแล้ว?หยุนเจิงลูบคางอย่างครุ่นคิด จากนั้นก็ออกคำสั่ง “กองทัพฟังคำสั่ง หันหัวม้ากลับ บุกอีกครั้ง!”เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง สีหน้าเมี่ยวอินดำทะมึนทันที “เจ้า...”ทว่า ในที่สุดเมี่ยวอินก็ไม่ได้พูดคำของหลังออกมาคำสั่งทหารดุจภูเขา!ในเมื่อหยุนเจิงออกคำสั่ง นางกล่าวสิ่งใดไปก็ไร้ประโยชน์แล้ว!ไม่นาน หยุนเจิงนำทหารม้าสองพันขึ้นหลังม้ามุ่งลงเนินดินไปอีกครั้งทว่า ครั้งนี้ปาตันกลับเชื่องแล้วมองดูเงาเลือนลางใกล้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปาตันไม่ได้ออกคำสั่งให้กองทัพบุกจู่โจม เพียงแค่เตรียมพร้อมตั้งรับ รอให้พวกเขาบุกเข้ามาไม่ผิดจากที่ปาตันคาดการ ในขณะที่ระยะห่างจากพวกเขาเหลือสองกิโลเมตร ทหารม้าต้าเฉียนหันหัวม้ากลับ วิ่งขึ้นไปบนเนินดินอีกครั้งปาตันไม่สั่งให้คนไล่ตาม เพียงแค่ส่งกองกำลังเล็กๆ ท้ายขบวนตามไป“น่าสนใจ!”หยุนเจิงมองย้อนกลับไปที่ทหารม้ากลุ่มเล็กๆ ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นเงา จากนั้นก็พาคนหนีไปอย่างรวดเร็วดูเหมือนว่า ทัพศัตรูไม่ได้มีความคิดจะสู้ตายกับพวกเขา!อื้ม เช่นนั้นก็จัดการง่ายแล้ว!ตอนที่พวกเขาข้ามเนิน
คืนนี้ แม้มีกองไฟสร้างความอบอุ่น แต่ไม่นับว่าผ่านไปง่ายนักวันที่สอง กองกำลังของพวกเขาพบคนเป็นไข้สามร้อยกว่าคน หนึ่งร้อยกว่าคนบาดเจ็บจากความหนาว หากกลับเมืองไปรักษาไม่ทันเวลา คนที่มือและเท้าบาดเจ็บจากความหนาวอาจจะต้องถูกตัดพวกเขาจู่โจมมาตลอดทาง ล้วนไม่มีคนบาดเจ็บมากมายเพียงนี้นึกไม่ถึง แค่ค้างแรมข้างนอกคืนเดียว กลับทำให้มีผู้ป่วยถึงห้าร้อยคนอีกทั้ง ยังเป็นสถานการณ์ที่มีกองไฟด้วยหากไม่มีกองไฟ ผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บเพราะความหนาวอาจมีมากขึ้นไปหลายเท่าเผชิญหน้ากับผลลัพธ์เช่นนี้ ฉินชีหู่และหยุนเจิงจนปัญญาอย่างมากนี่ทำให้พวกเขามุ่งมั่นแน่วแน่ตัดสินใจอยากกลับซั่วฟางให้เร็วที่สุดหลังจากสั่งงานฉินชีหู่แล้ว หยุนเจิงและเมี่ยวอินนำทหารสองพันคนไปด้านหลังอีกครั้งเวลากลางวัน พวกเขาได้รับข่าวจากหน่วยลาดตระเวน ด้านหลังและปีกขวาของพวกเขา ล้วนมีแต่ทหารม้าเป่ยหวน ทหารม้าสองกองของเป่ยหวนอยู่ห่างจากพวกเขาเพียงสามสี่สิบลี้เท่านั้นอีกทั้ง ทหารม้าสองกองน่าจะมีกำลังคนชาวเป่ยหวนนับหมื่นแต่ว่า ทหารม้าสองกองนี้ล้วนไม่จู่โจม เพียงแค่เคลื่อนทัพด้วยความเร็วปกติมาหาพวกเขาเมื่อได้รับรายงานจากหน่วยล
ดีมาก!ในเมื่อเจียเหยามีไหวพริบเช่นนี้ พวกเขาก็ควรไปได้แล้วชนเผ่าในทุ่งหญ้ามู่หม่าก็อพยพไปแล้ว พวกเขาหาผลประโยชน์ใดไม่ได้แล้วควรกลับไปจัดการเรื่องสำคัญแล้ว!หยุนเจิงตัดสินใจ จากนั้นก็ถามเฝิงอวี้ “พวกเจ้ามุ่งหน้ามาจากตรงข้ามหุบผาชันช่องลมมา ใช้เวลานานเพียงใด?”เฝิงอวี้ตอบ “พวกข้าเร่งขบวนทัพมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งชั่วยาม”แม้จะบอกว่าเร่งขบวนทัพ แต่ม้าศึกก็ไม่ได้วิ่งมาตลอดทางเพียงเดินทัพด้วยความเร็วที่ค่อนข้างรวดเร็วเท่านั้นหนึ่งชั่วยาม อย่างมากสุดก็วิ่งยี่สิบกิโลนั่นก็หมายความว่า พวกเขาอยู่ห่างไกลจากการรวมตัวกำลังเสริม มีเพียงสี่สิบห้าสิบลี้เท่านั้นพาสัตว์และเชลยเหล่านี้ไปด้วย คาดว่าคงใช้เวลาถึงเที่ยงคืนจึงสามารถรวมตัวกับกำลังเสริมที่อยู่ตรงข้ามหุบผาชันช่องลมได้ไปเถอะ!อดทนไปถึงที่นั่น ก็ชนะแล้ว!หยุนเจิงสั่งทุกคนเดินหน้าต่อ ขณะเดียวกันก็ยังคงส่งหน่วยลาดตระเวนออกไป จับตาความเคลื่อนไหวของทหารม้าเป่ยหวนด้านหลังและปีกขวาอย่าใกล้หนีออกไปแล้ว ยังถูกทัพศัตรูไล่ตามทันมากัดหนึ่งที เช่นนั้นก็ไม่คุ้มแล้ว“องค์ชาย พวกเราครั้งนี้พวกเราได้โชคใหญ่แล้ว!”มองม้าศึกและวัวแพะรวมอยู่ก
วันที่สอง หลังนำธุระข้างหลังมอบให้เฝิงอวี้แล้ว หยุนเจิงพาเมี่ยวอินและฉินชีหู่เดินทางไปยังซั่วฟางตอนนี้ ในสมองของพวกเขามีแต่คิดว่าจัดการไอสารเลวเว่ยเหวินจงเช่นไรฉินชีหู่ถึงกับบอกว่าจะถลกหนังเว่ยเหวินจงทั้งเป็น!เวลาบ่าย พวกเขาเห็นกองทหารคุ้มกันเสบียงข้างหน้าพวกเขาเข้าใกล้ พบว่าทหารของโจวมี่ห้าร้อยคนกำลังคุ้มกันเสบียงไปส่งที่เมืองจิ้งอันและสุยหนิง“อง์ชาย!”เมื่อเห็นหยุนเจิง โจวมี่ประหลาดใจด้วยความดีใจอย่างมากด้วยความดีใจ โจมมี่คาราวะทั้งสามคน“พอแล้ว พอแล้ว”หยุนเจิงยกมือห้ามโจวมี่ “พวกเรายังมีธุระ ไม่คุยกับเจ้าแล้ว! พวกเจ้ารีบไปส่งเหล้าที่เมืองสุยหนิงและจิ้งอัน! ใช่แล้ว เจ้าบอกแม่ทัพเฝ้าเมืองทั้งสอง ใครกล้าดื่มเหล้า ประหารทันที!”“ห๊า?”ฉินชีหู่มึนงง “ข้าว่านะน้องชาย เจ้าช่างใจแคบ! เจ้าให้คนส่งเหล้าไปให้กองทัพทั้งสอง แต่ไม่ให้คนดื่มเหล้า นี่ไม่ใช่ทำให้คนเกลียดหรือ?”“เหล่านี้ไม่ใช่เพื่อดื่ม!”หยุนเจิงเอือมระอา “นี่เอาไว้ใช้ล้างบาดแผลของทหารทั้งสองเมือง! ของสิ่งนี้หากดื่ม อาจถึงชีวิต!”นี่เป็นแอลกอฮอล์เข้มข้น!นี่เป็นแอลกอฮอล์ที่เขาสั่งให้จางซูกลั่นออกมาจากเหล้าจางซูเ
เวลานี้ จักรพรรดิเหวินเรียกระดมขุนนางมาประชุมทันใดนั้น ทหารวังวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อน“ฝ่าบาท รายงานด่วนจากซั่วเป่ย! คนรายงานกล่าว ท่านแม่ทัพใหญ่จิ้งเป่ยกำชับ ต้องนำจดหมายฉบับนี้มอบถึงพระหัตถ์ฝ่าบาท...”รายงานด่วนซั่วเป่ย?จักรพรรดิเหวินใจขดเกร็ง จากนั้นก็เอ่ยปาก “เร็ว พาคนเข้ามา!”ทหารวังไม่กล้าชักช้า รีบพาทหารคนสนิทของเว่ยเหวินจงเข้ามาภายในราชวัง“คาราวะ...”“เลิกพูดมากความ รีบนำจดหมายออกมา!”จักรพรรดิเหวินตัดบททหารคนสนิทของเว่ยเหวินจง มู่ซุ่นรีบวิ่งไปหาทหารคนสนิททหารคนสนิทกระหืดกระหอบ รีบนำจดหมายที่เว่ยเหวินจงเขียนด้วยตัวเองออกมามู่ซุ่นรับจดหมาย จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาจักรพรรดิเหวิน ยกมือทั้งสองถวายให้จักรพรรดิรับจัดหมายมา เปิดจดหมายแบบลวกๆเมื่ออ่านเนื้อหาข้างใน จักรพรรดิเหวินพระเนตรทั้งสองเริ่มแดง สองพระหัตถ์สั่นไม่หยุด แม้กระทั่งกระดาษในมือหลุดปลิวไปเห็นท่าท่างผิดปกติของจักรพรรดิเหวิน หลุนลี่ที่อยู่ข้างกายจักรพรรดิเหวินรีบเข้าไปหานาทีถัดไป หยุนลี่รู้สึกปิติยินดีขึ้นมาทันใดหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนล้วนตายแล้ว!แม้แต่ศพล้วนส่งไปที่เมืองจิ้งอันแล้ว!ดี!ดีมา
หลังสิ้นเสียงของหยุนลี่ ทั้งราชสำนักตกอยู่ในบรรยากาศแห่งความโศกเศร้าทันทีทุกคนทำสีหน้าเศร้าเสียใจ ราวกับบุพการีเสียชีวิตแต่ใครที่เสียใจจากจริงใจ ใครแกล้งแสดง มีเพียงพวกเขาที่รู้“ฝ่าบาท เสียใจด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”สวีสือฝู่เดินออกมา ทรุดเข่านั่งลงกับพื้น“ฝ่าบาท เสียใจด้วยพ่ะย่ะค่ะ...”เวลานี้ เหล่าขุนนางพากันคุกเข่าจักรพรรดิเหวินพยายามควบคุมอารมณ์ของพระองค์ ผ่านไปเนิ่นนาน จึงลืมพระเนตรที่เต็มไปด้วยเมฆหมอก น้ำเสียงสั่นเครือ “เรียกฉินลิ่วก่านเข้าวัง!”มู่ซุ่นรีบเรียกคนไปถ่ายทอดคำสั่ง“จ้าวจี๋!”จักรพรรดิเหวินคำรามลั่น“กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”จ้างจี๋ตอบกลับจักรพรรดิเหวินกำพระหัตถ์แน่น กล่าวเสียงต่ำ “เจ้าไปฟู่โจวเตรียมกองทัพ รอรับราชโองการมาถึง นำกองทหาร ไม่ว่าแลกด้วยสิ่งใด เร่งไปช่วยเหลือซั่วเป่ยทันที!”“พ่ะย่ะค่ะ!”จ้างจี๋รับบัญชาแล้วจากไปทันที“มู่ซุ่น รับราชโองการ!”จักรพรรดิเหวินใช้ชายแขนเสื้อเช็ดน้ำตา “สามีภรรยาเจ้าหกหยุนเจิง มีคุณูปการต่อแคว้นยิ่งใหญ่ มอบตำแหน่งแม่ทัพใหญ่เจ้าเต๋อหลังหยุนเจิงมรณกรรม นามยามมรณกรรมว่าอู่เลี่ย มอบตำแหน่งให้พระชายาเป็นแม่ทัพใหญ่ก้วนจว