กล่าวจบ เจียเหยารีบส่งจดหมายให้ปานปู้เมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย ปานปู้ดีใจ ใบหน้าซีดขาวพลันมีสีเลือดขึ้นมาแล้วทว่า ไม่นานปานปู้ก็สงบลงพวกเขาเสียเคยเปรียบต้าเฉียนมากมายเกินไป!พวกเขาลอบโจมตีหลายครั้ง ล้วนเจ็บหนักทุกครั้งหากนี่เป็นแผนทรยศของต้าเฉียน พวกเขาต้องเผชิญกับความสูญเสียใหญ่อีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัยปานปู้ไม่สนใจความเจ็บป่วยของร่างกาย ขบคิดอย่างขยันขันแข็งหากนี่เป็นความจริง ไม่ต้องสงสัยเลย เป็นไปได้มากว่าพวกเขาจะได้รับกำไรมากสุดตั้งแต่เริ่มเปิดสงครามมาที่สำคัญคือ หยุนเจิงที่พวกเขาเกลียดที่สุดอยู่ที่ชายแดนกู้!“อาจารย์ ท่านคิดว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือว่ากับดัก?”เจียเหยาไม่สนใจความเจ็บปวดของปานปู้เช่นกัน เรื่องนี้ นางจำเป็นต้องถามความเห็นของปานปู้ปานปู้ติดต่อกับชาวต้าเฉียนมานานหลายปี รู้จักชาวต้าเฉียนดีกว่านางปานปู้หลับตา คิดเงียบๆ สุดท้ายก็พลันลืมตาขึ้น “อย่างน้อยก็มีความเป็นไปได้หกส่วนว่าจะเป็นความจริง! ภายในกองทหารมณฑลทางเหนือ มีความคิดจะเอาชีวิตหยุนเจิง!”“เรื่องนี้ข้ารู้”เจียเหยาพยักหน้า ทว่ากลับขมวดคิ้วแน่น “แต่พวกเขากล้าเกินไปแล้วกระมัง? พวกเขาโหดร้ายกับ
ชายแดนเมืองกู้วัสดุที่จำเป็นในการซ่อมแซมกำแพงเมืองได้รับการคำนวณมาคร่าวๆ แล้ว ตู๋กูเช่อส่งคนไปป้อมเมืองสุยหนิงและป้อมเมืองจิ้งอันส่งวัสดุที่จำเป็นมาแต่ว่า การขนส่งก็จำเป็นต้องใช้เวลาฉวยโอกาสเวลานี้ หยุนเจิงใช้ประโยชน์จากวัสดุที่จำกัด ซ่อมแซมบ้านใกล้เมืองกู้ที่สามารถซ่อมแซมได้ทั้งเมืองกู้สามารถเรียกได้ว่าเป็นค่ายทหารขนาดใหญ่มหึมาได้แม้ตอนที่พวกเขามาถึงได้นำกระโจมมาด้วยจำนวนหนึ่ง แต่กระโจมไม่อาจเทียบกับค่ายได้ถึงเช่นไรคนเยอะมากมายเช่นนี้ก็กำลังว่าง ไม่สู้ทำงานเสียหน่อยดีกว่าหากพูดถึงสามเมืองชายแดน ก็นับว่าโชคร้ายนักปีนั้นต้าเฉียนต้องยกเมืองใช้แดนให้ ก็ทำให้เมืองเสียหายหนักไปหนึ่งรอบแล้วเพิ่งซ่อมแซมเสร็จไม่กี่ปี ก็ต้องถูกทำลายอีกแล้วหวังว่า สามเมืองชายแดนหลังจากนี้ไปต้องเผชิญหน้ากับการถูกทำลายอีก!หยุนเจิงเตรียมพาเสิ่นลั่วเยี่ยนและเมี่ยวอินเข้าไปดูหอคอย ตู๋กูเช่อและฉินชีหู่ก็เข้ามาหาแล้ว“น้องชาย นี่หนึ่งวันแล้ว พวกเราควรส่งคนไปชายแดนเมืองเว่ยและชายแดนเมืองชิงหรือไม่?”ฉินชีหู่ถามหยุนเจิงด้วยความตื่นเต้น“ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ”หยุนเจิงส่ายหน้ากล่าว “หากเป่ยหวนต้อ
กล่าวจบ ฉินชีหู่ต้องการจากไปจากนั้น เพิ่งก้าวเดินออกไป ฉินชีหู่พลันลุกขึ้นยืน หันกลับมามองเสิ่นลั่วเยี่ยน หัวเราะเจ้าเล่ห์ “น้องสะใภ้ ได้ยินว่าวรยุทธเจ้าไม่เลวเลย! ไม่เช่นนั้น เจ้าสู้กับข้าสักสองกระบวนท่า?”หืมเมื่อได้ฟังคำฉินชีหู่ หยุนเจิงรู้สึกสนใจขึ้นมาเขาอยากรู้ วรยุทธเสิ่นลั่วเยี่ยนและฉินชีหู่ใครจะเก่งกาญกว่ากัน!“ได้สิ!”ถึงเช่นไรเสิ่นลั่วเยี่ยนก็ไม่มีงานทำ จึงตอบรับด้วยความสบายใจเมื่อเห็นนางตกลง ฉินชีหู่ดีใจขึ้นมาทันใดทั้งสองก็ตั้งท่าอย่างรวดเร็ว พวกเขาหยุนเจิงก็ล้อมวงดูอย่างตื่นเต้น“น้องสะใภ้ เห็นแก่ที่เจ้าเป็นสตรี ข้าจะต่อให้เจ้าก่อนสิบกระบวนท่า!”ฉินชีหู่บิดยืดคอไปมา กล่าวด้วยเสียงหัวเราะ“ไม่ต้องหรอก!”เสิ่นลั่วเยี่ยนปฏิเสธโดยไม่ลังเล “เดิมทีพวกเขาก็แค่ประลองกัน ท่านต่อให้ข้าเพื่อสิ่งใด?”ฉินชีหู่หัวเราะ ยกนิ้วโป่งกล่าว “น้องสะใภ้ไม่เสียแรงที่เป็นวีรสตรี เช่นนั้นข้าก็ไม่ต่อให้เจ้าแล้ว!”“มาเถอะ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนเตรียมหอกลายเมฆของตัวเองเอาไว้เมื่อเห็นเสิ่นลั่วเยี่ยนหยิบอาวุธออกมาแล้ว หยุนเจิงเตือน “พวกท่านอย่าจริงจังเกินไป พอประมาณก็พอแล้ว”“วางใจ พวกเ
สองวันให้หลัง วัสดุซ่อมแซมกำลังส่งมาถึงป้อมเมืองสุยหนิงและป้อมเมืองจิ้งอันทยอยมาถึงบางส่วนแล้วขณะเดียวกัน พวกเขาได้รับข่าวที่เว่ยเหวินจงส่งมาเป่ยหวนมีความผิดปกติที่เทียนหู!เพียงแต่ ตอนนี้เว่ยเหวินจงไม่อาจตัดสินใจได้ว่าเป่ยหวนคิดจะทำสิ่งใดเว่ยเหวินจงระดมกำลังบางส่วนไปยังแนวหน้าเมืองเทียนหู ขณะเดียวกัน เว่ยเหวินจงแนะนำให้พวกเขาทางนี้ไม่ต้องเคลื่อนไหวชั่วคราว ดูว่าแท้จริงเป่ยหวนต้องการทำสิ่งใดกันแน่อีกอย่าง เว่ยเหวินจงได้จัดส่งเสบียงอาหารแห้งสำหรับกองทัพสี่หมื่นคนเพียงพอสำหรับหนึ่งเดือนประมาณการเบื้องต้น เสบียงอาหารแห้งจะส่งมาถึงภายในอีกสองวันเมื่อได้รับข่าวจากเว่ยเหวินจง หลายคนที่เอาแต่หมกมุ่นกับความดีใจที่เมืองกลับมาล้วนสงบลงแล้วเป่ยหวนมีความผิดปกติที่เทียนหู?หรือว่า กองทัพเป่ยหวนจะไม่ถอยตัวออกจากชายแดนเมืองเว่ยและเมืองชิง หรือว่ามีแผนอื่น?รองผู้บัญชาการตู๋กูเช่อเรียกประชุมด่วน หารือแผนการต่อไปสถานการณ์ตรงหน้าไม่เหมือนกับที่พวกเขาคิดก่อนหน้านี้!ใช้วิธีกอบกู้ชายแดนเมืองเว่ยและเมืองชิงกลับมาด้วยความสันติ แทบเป็นไปไม่ได้เลย!พวกเขาจำเป็นต้องรับมือแผนสำรองตู๋กูเช่
ในเมื่อพวกเขามีความคาดเดา พวกเขาต้องรู้บางอย่างแน่นอนหยุนเจิงหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้มองทุกคน จากนั้นก็เอ่ยปาก “ก่อนหน้านี้จางซูให้ความคิดที่ไม่ดีกับพวกเรา...”กล่าวจบ หยุนเจิงบอกเรื่องที่พวกเขาปลอมผลจางหลิวเป็นโสมคนแลกเปลี่ยนกับเจียเหยาออกมาเมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง ทุกคนอดไม่ได้ที่จะอึ้ง“จางหลิวคือสิ่งใด?”ฉินชีหู่ถามด้วยสีหน้าแปลกประหลาด“คือว่า...”หยุนเจิงยิ้มด้วยสีหน้าขมขื่น “สิ่งนี้หน้าตาเหมือนโสมมาก ทว่ามันมีพิษมาก กินแล้วอาจถึงชีวิต...”มีพิษ?ถึงชีวิต?เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง ฉินชีหู่พลันลุกขึ้นยืนแม้ว่าเขาไม่รู้ว่าจางหลิวคือสิ่งใด รู้เพียงว่าจางหลิวมีพิษก็พอแล้ว!“ท่านอ๋อง พวกท่าน...คงไม่ได้วางยาพิษเจียเหยาตายหรอกกระมัง?”ตู๋กูเช่อใบหน้ากระตุกเวลานี้ เขาไม่รู้ว่าควรร้องไห้หรือควรหัวเราะใช้จางหลิวปลอมเป็นโสมให้เจียเหยา?พวกเขาก็คิดออกมาได้!ที่สำคัญคือ พวกเขาทำสำเร็จด้วย!เรื่องนี้ ขาดคุณธรรมก็ขาดคุณธรรมอยู่หรอก แต่ก็น่าพอใจมาก!คำถามคือ หากเป็นเพราะเจียเหยาตาย สิ่งนี้นำไปสู่ความล้มเหลวในการกอบกู้ชายแดนเว่ยและชิง ก็แทบไม่ได้ขาดทุนทว่า เปลี่ยนอีกคว
วันที่สอง ทหารเป่ยหวนแบกกระสอบมาถึงชายแดนเมืองเว่ยด้วยคำพูดรุนแรงบอกว่าประมุขฮูเจียมาถึงชายแดนเมืองเว่ยแล้ว ต้องการให้เว่ยเหวินจงส่งมอบหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนออกมา มิฉะนั้น แม่ทัพและพลทหารทุกคน จะบุกซั่วเป่ยโดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้น!ถึงเวลานั้น ทุกที่ที่กองทัพเป่ยหวนผ่านทาง แม้แต่ไก่หรือสุนัขสักตัวก็ไม่เหลือ!หลังจากข่มขู่เสร็จ ทหารม้าเป่ยหวนยิงธนูที่เขียนด้วยรายมือประมุขฮูเจี๋ยอีกครั้งแล้วก็ต้องการให้เว่ยเหวินจงเปิดด้วยตัวเองทว่า จดหมายฉบับนี้ไม่มีทางถึงมือเว่ยเหวินจงต่อให้ถึงมือเว่ยเหวินจง ก็ไม่มีความหมายใดหากต้องการมอบหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนออกไป มีเพียงจักรพรรดิเหวินผู้เดียวที่มีอำนาจเว่ยเหวินจงไร้อำนาจนี้เว่ยเหวินจงต่อให้คิดจะบังคับหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนส่งออกไป ก็ต้องถามทหารของกองทหารเป่ยหวนว่าตกลงหรือไม่ไม่มีผู้ใดสนใจคำขู่ของทหารม้าเป่ยหวน ทุกคนเพียงเพิ่มความเร็วในการซ่อมแซมกำแพงเมืองตอนนี้มีการซ่อมแซมเพิ่มเติม ตอนที่เป่ยหวนจะโจมตี ความเสียหายของพวกเขาคงเล็กน้อยมากโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ท้องฟ้ามืดลงแล้วทว่างานซ่อมแซมกำแพงเมืองยังคงไม่หยุดลงความค
เมื่อได้ฟังคำของหลี่ต้าซาน สีหน้าของหยุนเจิงสีหน้าเปลี่ยนเป็นดูยากขึ้นมาหน่วยคุ้มกันขนส่งเสบียง พบกับการจู่โจมของกองทัพเป่ยหวน!“เสบียงเล่า?”เสิ่นลั่วเยี่ยนสีหน้าเปลี่ยนไป จากนั้นก็ตะโกนถามหลี่ต้าซานคร่ำครวญอย่างไร้เรี่ยวแรง “เสบียงอาหารทั้งหมดถูกเป่ยหวนแย่งไปแล้ว กองทัพสองหมื่นกว่าคนของเราแทบไม่เหลือ ข้าน้อยหนีออกมาสุดชีวิต...”เสิ่นลั่วเยี่ยนเมื่อได้ฟัง อดไม่ได้ที่จะชะงักเสบียงของกองทัพสี่หมื่นพวกเขาถูกเป่ยหวนแย่งไป!โดยไม่ต้องสงสัย กองทัพของเป่ยหวนประจำการอยู่ที่แนวสันดอนเป่ยหยวนใกล้กับบริเวณเมืองกู้!ทางข้างหลังของพวกเขา ถูกตัดขาดแล้ว!อีกทั้งกองทัพใหญ่เป่ยหวนของชายแดนชิงและชายแดนเว่ย ไม่นานก็ต้องออกมากดดัน!ชายแดนเมืองกู้ ถูกล้อมรอบทั้งสามด้าน กลายเป็นเมืองโดดเดี่ยวโดยสิ้นเชิง!อีกทั้งกองทัพเป่ยหวนก็ได้เสบียงอาหารอย่างเพียงพอแล้ว มีกำลังถ่วงเวลากับพวกเขาต่อไป!มองย้อนกลับมาที่พวกเขา เดิมพวกเขาก็ไม่ได้พกเสบียงมามากมายเสบียงที่เหลือ อย่างมากก็เพียงพอกับจำนวนสี่หมื่นคนแค่ประมาณห้าวันเท่านั้น!หยุนเจิงกำหมัดแน่น กัดฟันมองหลี่ต้าซาน “พวกเจ้าคุ้มกันเสบียงอาหารสองหมื่น
คำพูดของหยุนเจิงดังก้องเมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง สีหน้าคนไม่น้อยเปลี่ยนไปดูยากขึ้นมา“น้องชายพูดไม่ผิด ต้องเป็นเว่ยเหวินจงคนสารเลวสมคบคิดศัตรู!”ฉินชีหู่ด่านำออกมาก่อน สองดวงตาเปลี่ยนเป็นแดงกล่ำ“ท่านแม่ทัพใหญ่คงไม่บ้าคลั่งเพียงนี้กระมัง?”“ไม่ใช่ก็แปลกแล้ว เพื่อสังหารท่านอ๋อง เว่ยเหวินจงแอบเล่นตุกติดน้อยหรือ?”“ใช่แล้ว! ไม่น่าเล่าเพียงยึดครองชายแดนกู้ได้ก็หนีแล้ว ที่แท้ก็มีความคิดเช่นนี้!”“เว่ยเหวินจง! ข้าจะต้องสับร่างเจ้าเป็นหมื่นชิ้น...”เวลานี้ อารมณ์ทุกคนพลุกพล่านนอกจากคนจำนวนน้อยมาก แม่ทัพแทบทุกคนล้วนด่าเว่ยเหวินจงยกใหญ่ตู๋กูเช่ออ้าปากเล็กน้อย คิดจะบอกให้ทุนคนเลือกสงสัยไร้เหตุผล แต่ก็ลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ไม่อาจกล่าวออกมาได้เว่ยเหวินจงส่งทหารชาวนาชราและอ่อนแอมาคุ้มกันเสบียง กล่าวได้ว่าทำให้กำลังทหารไม่เพียงพอเขาสั่งให้คนเหล่านี้คุ้มกันขนส่งเสบียงในคืนที่ดาวเต็มท้องฟ้า สามารถกล่าวได้ว่ากังวว่าพวกเขาจะคุ้มครองเสบียงไม่พอเป่ยหวนคาดเดาเวลาที่พวกเขาคุ้มกันขนส่งเสบียงได้อย่างแม่นยำเช่นนี้ บังเอิญเกินไปแล้วต่อให้กล่าวว่าเป่ยหวนสายสืบมาสืบล่วงหน้า สายสืบกลับไปรายงาน