มองไป ทหารม้าเป่ยหวนยาวไม่เห็นหางเจียเหยาอยู่ภายใต้การคุ้มกันของเหล่าองครักษ์ แทบอยากจะพุ่งไปข้างหน้าสุดด้านหน้าของทหารม้าต้าเฉียนมองไม่เห็นเงาแล้วบนหิมะ เหลือไว้เพียงรอยเท้าม้าศึกขนาดใหญ่สองเส้นทางรอยเท้ามุ่งตรงไปยังฝั่งด้านหน้าทางซ้ายของกองทัพใหญ่ ดูจากที่ไกลๆ ยังคงเห็นยอดไม้ถูกปกคลุมด้วยหิมะ มองไปแล้ว ทางนั้นคงมีป่าอยู่แห่งหนึ่งรอยเท้าม้าอีกรอย ยืดยาวไปข้างหน้าแบ่งกันหนี หรือจงใจสร้างค่ายกลลวง?ไม่นาน ในใจเจียเหยามีความกังวลน่าจะเป็นค่ายกลลวง!หากพวกเขาแบ่งทหารไล่ตามไปในป่า เกรงว่าคนถูกทหารม้าต้าเฉียนที่หนีเข้าป่าซุ่มโจมตีทหารม้าเหล่านั้นคิดจะให้พวกเขาแบ่งทหารไล่ตามไป เพื่อลดความกดดันให้กองทหารหลักซั่วฟางที่อยู่ด้านหลัง!ความคิดไม่เลวเลย!น่าเสียดาย นางไม่มีทางติดกับ!เจียเหยาลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็สั่งให้กองทัพบุกไปข้างหน้าสามารถทำลายล้างทหารม้านับพันนั้นได้หรือไม่นั้น ไม่สำคัญเป้าหมายของพวกเขาคือกองกำลังหลักของทัพซั่วฟาง!ขอแค่ทำลายล้างกองกำลังหลักของทัพซั่วฟางได้ ต่อให้ปล่อยทหารม้านับพันเหล่านั้นไปแล้วจะเป็นเช่นไร?ด้วยคำสั่งของเจียเหยา กองทหารม้าเป่ยหว
องครักษ์ปัดป้องลูกธนูไปได้ไม่กี่ดอก ก็ถูกธนูสองดอกยิ่งใส่เมื่อเห็นองครักษ์ถูกยิง เจียเหยาบังคับให้ตัวเองสงบลง ดึงองครักษ์ที่ถูกยิงลากเขาไปในกับดักหลุมม้า ใช้มือปลดแส้ยาวที่ถูกไว้ที่เอวออกแส้ในมือเจียเหยาโบกสะบัด พันรัดคันธนูที่ตกอยู่ไม่ไกลอาศัพแรงจากแซ่ดึงคันธนูกลับมาในชั่วพริบตา เจียเหยาดึงลูกธนูสองลูกที่ปักอยู่บนหิมะออกมา โค้งงอคันธนูและวางลูกธนูทาบลงไปอย่างรวดเร็วฉวยโอกาสจากช่วงเวลาที่ฝนธนูขาดช่วง เจียเหยาผุดลุกขึ่นยืน ปล่อยคันธนูยิงลูกธนูออกไป“ฟิ้ว!”ลูกธนูสองดอกแผดเสียงกลางอากาศ พุ่งเข้าหาทหารม้าต้าเฉียนสองคนที่ถูกแถวด้านหน้าอย่างรวดเร็ว“ฉัวะ...”ลูกธนูพุ่งทะลุร่างทหารม้าต้าเฉียนสองคนทหารม้าต้าเฉียนสองคนร่างกายขดเกร็ง จากนั้นก็ร่วงหล่นจากหลังม้าช่วงเวลาที่ตอนที่เจียเหยาร่วงลงพื้น มือหยินลูกธนูขึ้นมาอีกสามดอก จากนั้นทะยานสู่ท้องฟ้าอีกครั้งลูกธนูสามดอกทะลวงไปกลางอากาศ พุ่งไปทางทหารสามคนระหว่างนั้น สองคนโดนธนูยิง คนหนึ่งรอดพ้นความตายได้อย่างหวุดหวิดโอ้โห!อย่างนี้ก็ได้หรือ?การแสดงที่ยอดเยี่ยมของเจียเหยาดึงดูดความสนใจหยุนเจิงที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคน“กำจัดคนผ
ไม่นาน สถิติการรบก็ออกมาแล้วม้าศึกของพวกเขาเสียหายสามพันกว่าตัว เสียชีวิตพันกว่าคน บาดเจ็บสาหัสห้าร้อยกว่าคนทางด้านต้าเฉียน เสียหายเพียงสิบกว่าคนเท่านั้นจำนวนเกือบครึ่งล้วนเป็นคนที่ถูกเจียเหยายิงธนูสังหารเมื่อรายงานจากลูกน้อง เจียเหยาขบฟันจนได้เสียงกระทบกันบาดเจ็บล้มตายพันกว่าคน ไม่นับว่าเป็นความเสียหายใหญ่ อยู่ในขอบเขตที่นางยอมรับได้แต่เทียบกับความเสียหายของต้าเฉียนแล้ว พวกเขานับว่าเสียหายอย่างอนาถแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ แผนจู่โจมซั่วฟางกะทันให้ที่นางวางแผนอย่างรอบครอบนั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง!การรบก่อนหน้านี้พวกเขาตายไปสามหมื่นกว่าคน ยังสามารถฆ่าม้าศึกไปมากมาย!เทียบกับสิ่งที่พวกเขาได้รับ การสูญเสียของพวกเขาหนักมาก!ช่วงเวลาฉับพลันนั้น เจียเหยารู้สึกเหมือนยกหินทุบเท้าตัวเองแล้ว“องค์หญิง ด้านหลังของพวกเรายังมีทัพใหญ่หกหมื่นคน! พวกเรายังสามารถบุกซั่วฟางได้!”เปาตี้ฮูหลัวตำแหน่งจั่วเสียนอ๋องมาตรงหน้าเจียเหยา กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“พวกเราจะเอาสิ่งใดไปบุกโจมตี?”เจียเหยาตำหนิด้วยสีหน้าเย็นชา “แผนการของพวกเราถูกมองออกแล้ว! ทัพศัตรูรอซ้ำยามเปลี้ย กำลังรอให้พวกเราไปโ
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ การยอมแพ้การบุกโจมตีเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุดแล้วหลังจากก่นด่าหยุนเจิงสารเลวจอมเจ้าเล่ห์แล้ว ปานปู้ก็กล่าวต่อ “องค์หญิง พวกเราต้องส่งคนไปยึดหุบผาชันช่องลมหรือไม่ ป้องกัน...”“ไม่ต้อง!”เจียเหยาส่ายหน้า “พวกเรามาจากทางด้านหลัง หุบผาชันช่องลมไม่มีภัยต้องเฝ้าระวัง! หยุนเจิงไม่มีทางไม่รู้ ต่อให้เขาส่งกองทัพใหญ่ห้าหมื่นึนเฝ้าประจำการที่หุบผาชันช่องลม เจาก็ขวางพวกเราไม่อยู่! หยุนเจิงไม่มีทางเผชิญหน้าปะทะกับพวกเรา เขาไม่มีทางส่งทหารเฝ้าประจำการที่หุบผาชันช่องลม!”ก่อนหน้านี้พวกเขาต้องการยึดหุบผาชันช่องผม ก็เพื่อเปิดเส้นทางให้กองทัพใหญ่ที่อยู่ด้านหลังแต่ตอนนี้ กองทัพใหญ่ของพวกเขาได้เข้าสู่เขตพื้นที่ต้าเฉียนแล้ว พวกเขาโจมตีจากด้านหลัง กองทัพประจำการของหุบผาชันช่องลมไม่มีความได้เปรียบใดหากหยุนเจิงโง่เขลาส่งทหารไปรักษาการณ์ที่หุบผาชันช่องลมจริง เช่นนั้นนางก็ดีใจแล้วอีกทั้ง พวกเขายังต้องป้องกันกองทหารชั้นยอดของเว่ยเหวินจงที่อยู่ด้านหลังเวลานี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องแบ่งกองกำลังทหารแล้วรวมกองทัพเข้าด้วยกันก่อนค่อยเคลื่อนไหว หากเว่ยเหวินจงกล้าที่จะมาข่มขู่ พวกเขาก็กล้
กลับถึงซั่วฟาง ความเสียหายของพวกเขาหยุนเจิงทางนี้ก็รีบทำสถิติออกมาเช่นกันเมื่อรู้ว่าพวกเขาถูกสังหารในสนามรบสิบกว่าคน เซียวว่านโฉวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมาแม้เขาเองจะไม่รู้ว่าเป่ยหวนเสียหายเท่าใด แต่ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิด ความเสียหายของกองทัพใหญ่เป่ยหวนต้องมากกว่าพวกเขาสิบเท่า!ทว่า หยุนเจิงกลับหัวเราะไม่ออกสูญเสียสิบกว่าคน ความจริงแล้วสามารถนับว่าไม่เสียหายต่อให้เขามีนิสัยรักและถนุถนอมทหารเองก็รู้ สงครามไม่มีทางไม่มีคนตายบาดเจ็บล้มตายเป็นศูนย์เรื่องเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนคัดลอกแล้ววางเขาสามารถยอมรับผลการรยครั้งนี้ได้ แต่ในใจเขาก็ยังหงุดหงิด!จนถึงตอนนี้ ในสมองของเขาล้วนนึกถึงภาพการยิงธนูสามดอกในครั้งเดียวนั่นพวกเขาสูญเสียสิบกว่าคน แทบจะกล่าวได้ว่าครึ่งหนึ่งถูกสังหารด้วยน้ำมือคนผู้นั้นอยู่ห่างกันตั้งไกล เขาเองก็มองหน้าตาคนผู้นั้นไม่ชัดแต่สามารถตัดสินได้คร่าวๆ จากเสื้อผ้าและรูปร่าง ผู้นั้นเป็นผู้หญิงเมื่อนึกถึงทักษะการยิงธนูที่น่ากลัวของผู้หญิงคนนั้น ในใจหยุนเจิงหงุดหงิดถึงที่สุด“องค์ชาย พวกเราชนะรบแล้ว เหตุใดท่านดูเหมือนไม่ดีใจเลยสักนิด?”ในที่สุดโ
แต่เขาไม่รู้จักเหล่าลูกน้องของหยุนเจิง ควรส่งใครไป มีเพียงหยุนเจิงที่รู้“คนข้าเตรียมไว้แล้ว!”หยุนเจิงกล่าว เรียกสองคนที่ข้าจัดเตรียมไว้มาเมื่อเห็นสองคนนี้ เซียวว่านโฉวรู้ได้เลยว่าแผนการครั้งนี้สำเร็จไปครึ่งนึงแล้วสองคนนี้สวมเสื้อผ้าของทหารชาวเป่ยหวน มองไปแล้วเหมือนชาวเป่ยหวนไม่มีผิดเพี้ยน“พวกเขาสองคนนี้เลย!”เซียวว่านโฉวมองสองคนนี้ด้วยความพอใจ จากนั้นก็เริ่มกำชับเรื่องที่ต้องระวังให้กับทั้งสองคน หลังกำชับเสร็จจึงกล่าวว่า “หากพวกเจ้ามีชีวิตกลับมา ข้าต้องขอรางวัลต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทแทนพวกเจ้า! หากพวกเจ้าตาย ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือองค์ชาย จะดูแลครอบครัวพวกเขาให้อยู่สุขสบายไร้กังวล!”“ขอบคุณท่านอ๋อง ขอบคุณอวี๋กั๋วกง!”ทั้งสองก้มโค้งกล่าวขอบคุณ“ไม่ ควรเป็นพวกข้าขอบคุณพวกเจ้าสองคน!”เซียวว่านโฉวส่ายหน้าเบาๆ ไม่สนใจฐานะของตนเอง คาราวะให้ทั้งสองคนอย่างจริงใจหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนเองก็พากันคาราวะทั้งสองคน“ไม่ได้ ไม่ได้...”ทั้งสองคนหวาดหวั่นยำเกรง รีบโบกมือทว่า พวกหยุนเจิงยังคงคาราวะทั้งสองคนด้วยความจริงใจสองคนนี้ไปครั้งนี้ อาจไม่ได้กลับมาทั้งสองคนนี้ล้วนเป็นชายชาตร
สามวันผ่านไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวกองทัพใหญ่แปดหมื่นของเป่ยหวนมารวมตัวกันเรียบร้อยแล้วด้านหลังของพวกเขา ยังมีกองทัพเจ็ดหมื่นคนทว่า ด้วยคำสั่งที่เคร่งคัดของเว่ยเหวินจง กองทัพเจ็ดหมื่นไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มจู่โจม เพียงต้องรักษาระยะห่างสี่สิบลี้จากพวกเขา ทันทีที่พวกเขาบุกโจมตีซั่วฟาง กองทัพใหญ่เจ็ดหมื่นก็เข้ามาร่วมโจมตีด้วยแต่เว่ยเหวินจงจัดเตรียมเช่นนี้ กลับทำให้คนมากมายไม่พอใจฉินชีหู่ที่หลุดพ้นจากเมืองสุยหนิงนั้นโวยวายรุนแรงที่สุดฉินชีหู่มาหาเว่ยเหวินจงเพื่อขอทำสงครามอีกครั้งก่อนหน้านี้ เขาไปหาเว่ยเหวินจงสองครั้งเพื่อขอทำสงครามทว่า เว่ยเหวินจงยังคงสั่งอย่างแด็ดขาดห้ามฉินชีหู่เป็นฝ่ายบุกเหตุผลของเว่ยเหวินจงครบถ้วนสมบูรณ์ตอนนี้ การติดต่อของพวกเขากับซั่วฟางตัดขาดกันอย่างสิ้นเชิงพวกเขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ของซั่วฟางเป็นเช่นไรสิ่งที่เว่ยเหวินจงกลัวที่สุดคือซั่วฟางถูกยึดไปแล้ว ทันทีที่กองทัพพวกเขากดดัน กองทัพเป่ยหวนก็จะหันกลับมาโจมตีพวกเขาจำนวนคนกองทัพเป่ยหวนไม่น้อยไปกว่าของพวกเขาหากต่อสู้กันในป่า เป็นไปได้มากที่พวกเขาจะถูกกองทัพเป่ยหวนจัดการถึงเวลานั้น กองทัพเป่ยหวนโจม
ต่อให้เขาคิดอยากจะฆ่าหยุนเจิง เขาก็ไม่กล้าทำร้ายเซียวว่านโฉว!แม้กระทั่งกองทัพเป่ยหวนอาจส่งกำลังเสริมทางหุบผาชันช่องลมแล้ว!ตรงหน้าพวกเขา เป็นไปได้มากว่าไม่ใช่แค่กองทัพใหญ่เป่ยหวนตรงหน้า ต่อให้ชนะเป่ยหวน พวกเขาก็ยังสามารถล่าถอยผ่านหุบผาชันช่องลมได้ตลอดเวลากองทัพเจ็ดหมื่นของพวกเขาถูกกำจัด ทั้งซั่วฟางก็ต้องตกอยู่ในมือของเป่ยหวนแล้ว!ถึงเวลานั้น พวกเขาจะอธิบายกับจักรพรรดิเหวินเช่นไร? “เจ้ามีสิทธิ์ใดมั่นใจว่าพวกเราจะชนะอย่างไม่ต้องสงสัย?”ฉินชีหู่คำราม “ยังไม่สู้ เจ้าก็มีรบกวนขวัญกำลังใจทหารอยู่ที่นี่! หากไม่เห็นว่าเจ้าเป็นผู้บัญชาการกองทหารมณฑลทางเหนือ ข้าจะประหารสารเลวอย่างเจ้าก่อนเลย!” “เจ้า...”เว่ยเหวินจงโมโหเพราะฉินชีหู่ แทยจะสั่งให้คนจัดการฉินชีหู่ทิ้งแต่ว่า ในที่สุดเว่ยเหวินจงก็ไม่ทำสิ่งใดตอนนี้มีเรื่องราวมากมาย หากเขาจัดการฉินชีหู่จริง ดีไม่ดีอาจทำให้เกิดการกบฏ!หลังจากระงับอารมณ์โกรธ เว่ยเหวินจงกัดฟัน “ข้าได้สั่งให้แนวหน้าของหม่าอี้และสู้ฉวีไปตรวจสอบสถานการณ์ซั่วฟางแล้ว อย่างช้าที่สุดพรุ่งนี้ก็ได้ข่าวแล้ว! หากซั่วฟางไม่ถูกยึด ข้าจะจู่โจมทันที! ข้าจะอยู่ด้านหน้าส
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่