ยังดีที่ด้านหลังพวกเขายังมีทัพทหารราบสามหมื่นนาย ด้านหลังทหารราบสามหมื่นนายก็ยังมีทัพใหญ่สามหมื่นกว่านาย!กองทัพแปดหมื่นคนรอบถูกเมืองซัวฟางกินกำลังหลักไป นางไม่เชื่อจะโจมตีไม่ได้!เจียเหยาไม่ลังเลสักนิด ออกคำสั่งโจมตีเต็มกำลังอีกครั้งอีกด้านหนึ่ง อวี๋ซื่อจงนำกำลังล่าถอยไปสี่สิบลี้ ในที่สุดก็กลับถึงสถานที่ตั้งค่ายพักแรมก่อนหน้านี้ของพวกเขาที่ไกลไกล ทหารที่ได้รับคำสั่งพุ่งเข้ามา“อวี๋กั๋วกงมีคำสั่ง ทหารม้าของท่าน ล่าถอยไปยังป่าทางตอนใต้ทันที!”อวี๋ซื่อจงรับคำสั่ง พาคนล่าถอยไปยังป่าไม้ทางนั้นทันทีต่อให้ไม่มีสั่งนี้ เขาเองก็ไม่โง่เขามุ่งไปข้างหน้าหรอก!ด้านหน้ามีหลุมม้าอยู่สามเส้นทาง!พุ่งเข้าไป พวกเขาสามพันคน เกรงว่าคงต้องเสียหายไปมากกว่าครึ่งแล้ว!อวี๋ซื่อจงนำกองกำลังล่าถอยกลับไปยังป่า พวกหยุนเจิงล้อมไว้ทันที“เหตุการณ์เป็นเช่นไร?”เซียวว่านโฉวไถ่ถามด้วยความกระวนกระวายอวี๋ซื่อจงกระหืดกระหอบ “ด้านหลังมีกองทหารม้าเป่ยหวนกองใหญ่ จำนวนไม่น้อยกว่าหมื่นคน!”“ดีมาก! พวกเขาบุกมาจริงด้วย!”เซียวว่านโฉวดีใจ ถามอีกครั้ง “ทัพศัตรูจัดขบวนแบบใด?”อวี๋ซื่อจงส่ายหน้า “ไม่มีรูปแบบขบว
มองไป ทหารม้าเป่ยหวนยาวไม่เห็นหางเจียเหยาอยู่ภายใต้การคุ้มกันของเหล่าองครักษ์ แทบอยากจะพุ่งไปข้างหน้าสุดด้านหน้าของทหารม้าต้าเฉียนมองไม่เห็นเงาแล้วบนหิมะ เหลือไว้เพียงรอยเท้าม้าศึกขนาดใหญ่สองเส้นทางรอยเท้ามุ่งตรงไปยังฝั่งด้านหน้าทางซ้ายของกองทัพใหญ่ ดูจากที่ไกลๆ ยังคงเห็นยอดไม้ถูกปกคลุมด้วยหิมะ มองไปแล้ว ทางนั้นคงมีป่าอยู่แห่งหนึ่งรอยเท้าม้าอีกรอย ยืดยาวไปข้างหน้าแบ่งกันหนี หรือจงใจสร้างค่ายกลลวง?ไม่นาน ในใจเจียเหยามีความกังวลน่าจะเป็นค่ายกลลวง!หากพวกเขาแบ่งทหารไล่ตามไปในป่า เกรงว่าคนถูกทหารม้าต้าเฉียนที่หนีเข้าป่าซุ่มโจมตีทหารม้าเหล่านั้นคิดจะให้พวกเขาแบ่งทหารไล่ตามไป เพื่อลดความกดดันให้กองทหารหลักซั่วฟางที่อยู่ด้านหลัง!ความคิดไม่เลวเลย!น่าเสียดาย นางไม่มีทางติดกับ!เจียเหยาลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็สั่งให้กองทัพบุกไปข้างหน้าสามารถทำลายล้างทหารม้านับพันนั้นได้หรือไม่นั้น ไม่สำคัญเป้าหมายของพวกเขาคือกองกำลังหลักของทัพซั่วฟาง!ขอแค่ทำลายล้างกองกำลังหลักของทัพซั่วฟางได้ ต่อให้ปล่อยทหารม้านับพันเหล่านั้นไปแล้วจะเป็นเช่นไร?ด้วยคำสั่งของเจียเหยา กองทหารม้าเป่ยหว
องครักษ์ปัดป้องลูกธนูไปได้ไม่กี่ดอก ก็ถูกธนูสองดอกยิ่งใส่เมื่อเห็นองครักษ์ถูกยิง เจียเหยาบังคับให้ตัวเองสงบลง ดึงองครักษ์ที่ถูกยิงลากเขาไปในกับดักหลุมม้า ใช้มือปลดแส้ยาวที่ถูกไว้ที่เอวออกแส้ในมือเจียเหยาโบกสะบัด พันรัดคันธนูที่ตกอยู่ไม่ไกลอาศัพแรงจากแซ่ดึงคันธนูกลับมาในชั่วพริบตา เจียเหยาดึงลูกธนูสองลูกที่ปักอยู่บนหิมะออกมา โค้งงอคันธนูและวางลูกธนูทาบลงไปอย่างรวดเร็วฉวยโอกาสจากช่วงเวลาที่ฝนธนูขาดช่วง เจียเหยาผุดลุกขึ่นยืน ปล่อยคันธนูยิงลูกธนูออกไป“ฟิ้ว!”ลูกธนูสองดอกแผดเสียงกลางอากาศ พุ่งเข้าหาทหารม้าต้าเฉียนสองคนที่ถูกแถวด้านหน้าอย่างรวดเร็ว“ฉัวะ...”ลูกธนูพุ่งทะลุร่างทหารม้าต้าเฉียนสองคนทหารม้าต้าเฉียนสองคนร่างกายขดเกร็ง จากนั้นก็ร่วงหล่นจากหลังม้าช่วงเวลาที่ตอนที่เจียเหยาร่วงลงพื้น มือหยินลูกธนูขึ้นมาอีกสามดอก จากนั้นทะยานสู่ท้องฟ้าอีกครั้งลูกธนูสามดอกทะลวงไปกลางอากาศ พุ่งไปทางทหารสามคนระหว่างนั้น สองคนโดนธนูยิง คนหนึ่งรอดพ้นความตายได้อย่างหวุดหวิดโอ้โห!อย่างนี้ก็ได้หรือ?การแสดงที่ยอดเยี่ยมของเจียเหยาดึงดูดความสนใจหยุนเจิงที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคน“กำจัดคนผ
ไม่นาน สถิติการรบก็ออกมาแล้วม้าศึกของพวกเขาเสียหายสามพันกว่าตัว เสียชีวิตพันกว่าคน บาดเจ็บสาหัสห้าร้อยกว่าคนทางด้านต้าเฉียน เสียหายเพียงสิบกว่าคนเท่านั้นจำนวนเกือบครึ่งล้วนเป็นคนที่ถูกเจียเหยายิงธนูสังหารเมื่อรายงานจากลูกน้อง เจียเหยาขบฟันจนได้เสียงกระทบกันบาดเจ็บล้มตายพันกว่าคน ไม่นับว่าเป็นความเสียหายใหญ่ อยู่ในขอบเขตที่นางยอมรับได้แต่เทียบกับความเสียหายของต้าเฉียนแล้ว พวกเขานับว่าเสียหายอย่างอนาถแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ แผนจู่โจมซั่วฟางกะทันให้ที่นางวางแผนอย่างรอบครอบนั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง!การรบก่อนหน้านี้พวกเขาตายไปสามหมื่นกว่าคน ยังสามารถฆ่าม้าศึกไปมากมาย!เทียบกับสิ่งที่พวกเขาได้รับ การสูญเสียของพวกเขาหนักมาก!ช่วงเวลาฉับพลันนั้น เจียเหยารู้สึกเหมือนยกหินทุบเท้าตัวเองแล้ว“องค์หญิง ด้านหลังของพวกเรายังมีทัพใหญ่หกหมื่นคน! พวกเรายังสามารถบุกซั่วฟางได้!”เปาตี้ฮูหลัวตำแหน่งจั่วเสียนอ๋องมาตรงหน้าเจียเหยา กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“พวกเราจะเอาสิ่งใดไปบุกโจมตี?”เจียเหยาตำหนิด้วยสีหน้าเย็นชา “แผนการของพวกเราถูกมองออกแล้ว! ทัพศัตรูรอซ้ำยามเปลี้ย กำลังรอให้พวกเราไปโ
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ การยอมแพ้การบุกโจมตีเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุดแล้วหลังจากก่นด่าหยุนเจิงสารเลวจอมเจ้าเล่ห์แล้ว ปานปู้ก็กล่าวต่อ “องค์หญิง พวกเราต้องส่งคนไปยึดหุบผาชันช่องลมหรือไม่ ป้องกัน...”“ไม่ต้อง!”เจียเหยาส่ายหน้า “พวกเรามาจากทางด้านหลัง หุบผาชันช่องลมไม่มีภัยต้องเฝ้าระวัง! หยุนเจิงไม่มีทางไม่รู้ ต่อให้เขาส่งกองทัพใหญ่ห้าหมื่นึนเฝ้าประจำการที่หุบผาชันช่องลม เจาก็ขวางพวกเราไม่อยู่! หยุนเจิงไม่มีทางเผชิญหน้าปะทะกับพวกเรา เขาไม่มีทางส่งทหารเฝ้าประจำการที่หุบผาชันช่องลม!”ก่อนหน้านี้พวกเขาต้องการยึดหุบผาชันช่องผม ก็เพื่อเปิดเส้นทางให้กองทัพใหญ่ที่อยู่ด้านหลังแต่ตอนนี้ กองทัพใหญ่ของพวกเขาได้เข้าสู่เขตพื้นที่ต้าเฉียนแล้ว พวกเขาโจมตีจากด้านหลัง กองทัพประจำการของหุบผาชันช่องลมไม่มีความได้เปรียบใดหากหยุนเจิงโง่เขลาส่งทหารไปรักษาการณ์ที่หุบผาชันช่องลมจริง เช่นนั้นนางก็ดีใจแล้วอีกทั้ง พวกเขายังต้องป้องกันกองทหารชั้นยอดของเว่ยเหวินจงที่อยู่ด้านหลังเวลานี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องแบ่งกองกำลังทหารแล้วรวมกองทัพเข้าด้วยกันก่อนค่อยเคลื่อนไหว หากเว่ยเหวินจงกล้าที่จะมาข่มขู่ พวกเขาก็กล้
กลับถึงซั่วฟาง ความเสียหายของพวกเขาหยุนเจิงทางนี้ก็รีบทำสถิติออกมาเช่นกันเมื่อรู้ว่าพวกเขาถูกสังหารในสนามรบสิบกว่าคน เซียวว่านโฉวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมาแม้เขาเองจะไม่รู้ว่าเป่ยหวนเสียหายเท่าใด แต่ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิด ความเสียหายของกองทัพใหญ่เป่ยหวนต้องมากกว่าพวกเขาสิบเท่า!ทว่า หยุนเจิงกลับหัวเราะไม่ออกสูญเสียสิบกว่าคน ความจริงแล้วสามารถนับว่าไม่เสียหายต่อให้เขามีนิสัยรักและถนุถนอมทหารเองก็รู้ สงครามไม่มีทางไม่มีคนตายบาดเจ็บล้มตายเป็นศูนย์เรื่องเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนคัดลอกแล้ววางเขาสามารถยอมรับผลการรยครั้งนี้ได้ แต่ในใจเขาก็ยังหงุดหงิด!จนถึงตอนนี้ ในสมองของเขาล้วนนึกถึงภาพการยิงธนูสามดอกในครั้งเดียวนั่นพวกเขาสูญเสียสิบกว่าคน แทบจะกล่าวได้ว่าครึ่งหนึ่งถูกสังหารด้วยน้ำมือคนผู้นั้นอยู่ห่างกันตั้งไกล เขาเองก็มองหน้าตาคนผู้นั้นไม่ชัดแต่สามารถตัดสินได้คร่าวๆ จากเสื้อผ้าและรูปร่าง ผู้นั้นเป็นผู้หญิงเมื่อนึกถึงทักษะการยิงธนูที่น่ากลัวของผู้หญิงคนนั้น ในใจหยุนเจิงหงุดหงิดถึงที่สุด“องค์ชาย พวกเราชนะรบแล้ว เหตุใดท่านดูเหมือนไม่ดีใจเลยสักนิด?”ในที่สุดโ
แต่เขาไม่รู้จักเหล่าลูกน้องของหยุนเจิง ควรส่งใครไป มีเพียงหยุนเจิงที่รู้“คนข้าเตรียมไว้แล้ว!”หยุนเจิงกล่าว เรียกสองคนที่ข้าจัดเตรียมไว้มาเมื่อเห็นสองคนนี้ เซียวว่านโฉวรู้ได้เลยว่าแผนการครั้งนี้สำเร็จไปครึ่งนึงแล้วสองคนนี้สวมเสื้อผ้าของทหารชาวเป่ยหวน มองไปแล้วเหมือนชาวเป่ยหวนไม่มีผิดเพี้ยน“พวกเขาสองคนนี้เลย!”เซียวว่านโฉวมองสองคนนี้ด้วยความพอใจ จากนั้นก็เริ่มกำชับเรื่องที่ต้องระวังให้กับทั้งสองคน หลังกำชับเสร็จจึงกล่าวว่า “หากพวกเจ้ามีชีวิตกลับมา ข้าต้องขอรางวัลต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทแทนพวกเจ้า! หากพวกเจ้าตาย ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือองค์ชาย จะดูแลครอบครัวพวกเขาให้อยู่สุขสบายไร้กังวล!”“ขอบคุณท่านอ๋อง ขอบคุณอวี๋กั๋วกง!”ทั้งสองก้มโค้งกล่าวขอบคุณ“ไม่ ควรเป็นพวกข้าขอบคุณพวกเจ้าสองคน!”เซียวว่านโฉวส่ายหน้าเบาๆ ไม่สนใจฐานะของตนเอง คาราวะให้ทั้งสองคนอย่างจริงใจหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนเองก็พากันคาราวะทั้งสองคน“ไม่ได้ ไม่ได้...”ทั้งสองคนหวาดหวั่นยำเกรง รีบโบกมือทว่า พวกหยุนเจิงยังคงคาราวะทั้งสองคนด้วยความจริงใจสองคนนี้ไปครั้งนี้ อาจไม่ได้กลับมาทั้งสองคนนี้ล้วนเป็นชายชาตร
สามวันผ่านไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวกองทัพใหญ่แปดหมื่นของเป่ยหวนมารวมตัวกันเรียบร้อยแล้วด้านหลังของพวกเขา ยังมีกองทัพเจ็ดหมื่นคนทว่า ด้วยคำสั่งที่เคร่งคัดของเว่ยเหวินจง กองทัพเจ็ดหมื่นไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มจู่โจม เพียงต้องรักษาระยะห่างสี่สิบลี้จากพวกเขา ทันทีที่พวกเขาบุกโจมตีซั่วฟาง กองทัพใหญ่เจ็ดหมื่นก็เข้ามาร่วมโจมตีด้วยแต่เว่ยเหวินจงจัดเตรียมเช่นนี้ กลับทำให้คนมากมายไม่พอใจฉินชีหู่ที่หลุดพ้นจากเมืองสุยหนิงนั้นโวยวายรุนแรงที่สุดฉินชีหู่มาหาเว่ยเหวินจงเพื่อขอทำสงครามอีกครั้งก่อนหน้านี้ เขาไปหาเว่ยเหวินจงสองครั้งเพื่อขอทำสงครามทว่า เว่ยเหวินจงยังคงสั่งอย่างแด็ดขาดห้ามฉินชีหู่เป็นฝ่ายบุกเหตุผลของเว่ยเหวินจงครบถ้วนสมบูรณ์ตอนนี้ การติดต่อของพวกเขากับซั่วฟางตัดขาดกันอย่างสิ้นเชิงพวกเขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ของซั่วฟางเป็นเช่นไรสิ่งที่เว่ยเหวินจงกลัวที่สุดคือซั่วฟางถูกยึดไปแล้ว ทันทีที่กองทัพพวกเขากดดัน กองทัพเป่ยหวนก็จะหันกลับมาโจมตีพวกเขาจำนวนคนกองทัพเป่ยหวนไม่น้อยไปกว่าของพวกเขาหากต่อสู้กันในป่า เป็นไปได้มากที่พวกเขาจะถูกกองทัพเป่ยหวนจัดการถึงเวลานั้น กองทัพเป่ยหวนโจม