Share

บทที่ 494

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
หยุนเจิงไม่ได้เจรจากับพวกเกาเหอก่อนหน้านี้

แต่ว่า พวกเกาเหออยู่ข้างกายหยุนเจิงมานานมากแล้ว ความคิดที่หยุนเจิงมีต่อเยี่ยจื่อนั้น หากพวกเขาไม่ตาบอด ก็ดูออกได้

พวกเขารู้ดี ไม่ควรดูก็ไม่อาจดูได้

“ไม่ช้าก็เร็วข้าจะต้องอับอายตัวเองเพราะคนสารเลว!”

เยี่ยจื่อหันหน้ากลับไป จ้องหยุนเจิงด้วยความโกรธและอับอาย แต่มือที่ดิ้นรนขัดขืนกลับเบาลงไปมาก

“ข้าจะทนได้เช่นไร!”

หยุนเจิงหัวเราะ ด้านหนึ่งจับมือเยี่ยจื่อเดินไปข้างหน้า ด้านหนึ่งคุยปัญหาของพวกเขา

เรื่องเหล่านี้ เขาคุยกับเยี่ยจื่อเพียงคนเดียว

เสิ่นลั่วเยี่ยนและเมี่ยวอินต่างก็ไม่สนใจเรื่องบัญชีภายใน

สถานการณ์ตรงหน้า พวกเขานับว่าตั้งหลักได้อย่างมั่นคงแล้ว

ต่อไป เรื่องที่ต้องกังวลใจที่สุดก็คือปัญหาการจัดสรร

การเก็บเกี่ยวพืชผลครั้งต่อไป ต้องรอเวลาอีกเก้าเดือน!

เขามีเงิน แต่เขากลัว่าาถึงตอนนั้นแม้แต่เมล็ดพืชพวกเขาก็ล้วนซื้อไม่ได้

คิดจะเข้าด่านไปซื้อเมล็ดพืช ก็จำเป็นต้องเคี้ยวกระดูกแข็งอย่างด่านเป่ยลู่

เยี่ยจื่อยิ่งฟังยิ่งกระวนกระวาย

สถานการณ์ยากลำบากเหล่านี้ นางไม่เคยคิดมาก่อน

หากหยุนเจิงไม่บอก นางล้วนคิดไม่ได้

“หากไม่ได้จริงๆ ก็มีเพียงบัง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 495

    ได้ยินคำอนุญาตจากเยี่ยจื่อ หยุนเจิงดีใจในชั่วเวลาที่เยี่ยจื่อหลับตา หยุนเจิงก็ประทับรอยจูบลงไปเยี่ยจื่อตัวสั่น ราวกับถูกสายฟ้าฟาด“หอมแล้ว หอมแล้ว...”“ข้ารู้อยู่แล้ว ฮูหยินจื่อช้าเร็วก็ต้องเป็นคนขององค์ชาย!”“จิ๊ๆ โชคดอกท้อขององค์ชาย ช่างน่าอิจฉา!”ที่ไกลๆ เหล่าองครักษ์คุ้มกันมองมา โต้ตอบกันด้วยสีหน้าลามก“ไม่ควรดูก็อย่าดู! ระวังองค์ชายจะเฆี่ยนพวกเจ้า!”เกาเหอจ้องพวกเขา“เหล่าเกา รบกวนเจ้าช่วยเก็บสายตาเจ้ากลับมาก่อน”“แค่กๆ...ข้ากำลังชมวิวทิวทัศน์!”“รักษาหน้าหน่อย!”“นั่นสิ!”กลุ่มคนกระซิบหยอกล้อกัน แม้จะเก็บสายตากลับไปแล้ว แต่มุมหางตาก็ยังเหลือบมองหยุนเจิงและเยี่ยจื่อเยี่ยจื่อหน้าแดงตั้งนานแล้ว ถึงขั้นลืมผลักหยุนเจิงที่หอมนางนานแล้วออกไปหลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเยี่ยจื่อก็ได้สติกลับมา รีบผลักหยุนเจิงออก “พอแล้ว...”“อืม อืม”หยุนเจิงหัวเราะด้วยความพอใจ “วันนี้พอแค่นี้ ไว้ต่อครั้งหน้า!”“ไปตายซะ!”เยี่ยจื่อโกรธด้วยความเขินอาย หยิกหยุนเจิงอย่างแรง “รีบบอกข้ามา เจ้ามีแผนการใดกันแน่?”หอมก็หมอแล้ว หากยังถามหาแผนการของหยุนเจิงออกมาไม่ได้ นางก็ขาดทุนเกินไปแล้วหย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 496

    “ไม่ถูกสิ พวกเราไม่ได้ทำสงครามกับเป่ยหวน ข่าวดีมากจากที่ใด?”ทหารป้องกันหารือกัน ทว่ากลับไม่มีผู้ใดกล้าขัดขวางนี่คือกฎเหล็กของต้าเฉียนทหารส่งสารปักธงสามผืนไว้ด้านหลัง ห้ามผู้ใดขัดขวางไม่เพียงไม่อาจขัดขวาง ทั้งยังต้องอำนวยความสะดวกจุดพักม้าและจวนทั้งหมดด้วยธงแดงสามผืนเพื่อรายงานข่าวดีธงดำสามผืนเพื่อรายงานแพ้สงครามธงส้มสามผืนเพื่อรายงานข้อมูลทหารเร่งด่วน“ข่าวดี! ซั่วฟางข่าวดีใหญ่...”ม้าเร็วเข้าสู่เมือง ทหารส่งสารตะโกนตลอดทาง“ซั่วฟางข่าวดีใหญ่?”“ซั่วฟางข่าวดีใหญ่ที่ใด?”“คงไม่ใช่รายงานเท็จหรอกกระมัง?”“เจ้าโง่! รายงานเท็จต้องถูกสังหารสามชั่วคน!”“แต่ซั่วฟางข่าวดีใหญ่มาจากที่ใด? ได้ยินว่าซั่วฟางมีแค่ทหารชาวนาเท่านั้นไม่ใช่หรือ?”“ใครจะรู้...”ทหารรักษาเมืองวิพากษ์วิจารณ์“ข่าวดี! ซั่วฟางข่าวดีใหญ่...”ทหารส่งสารห้อตะบึงไปตลอดทาง ตะโกนเสียงสูง ตลอดจนถึงจวนแม่ทัพใหญ่เจิ้นเป่ยทุกหนทุกแห่งที่ทหารส่งสารผ่านไป ทุกคนล้วนสับสนมึนงงมาถึงประตูจวนแม่ทัพใหญ่เจิ้นเป่ย ทหารส่งสารลงจากม้าอย่างรวดเร็ว รีบร้อนวิ่งเข้าไปในจวนตลอดทางยังคงตะโกนประกาศข่าวดีของซั่วเป่ยเว่ยเหว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 497

    ตอนเช้า หยุนเจิงเพิ่งตื่นนอน คนของค่ายใหญ่ทางเหนือก็มารายงาน บอกว่าตู๋กูเช่อมาถึงค่ายใหญ่เหนือแล้ว“มาซะเร็วเลย!”หยุนเจิงยกยิ้มมุมปาก “พวกเจ้ากินข้าวกันก่อนเถอะ ข้าจะไปสักหน่อย!”“กินข้าวเสร็จค่อยไปเถอะ!”เมี่ยวอินเรียกหยุนเจิงเอาไว้“ไม่เป็นไร ไปค่ายแล้วค่อยกินก็เหมือนกัน!”หยุนเจิงโบกมือ ยิ้มเล็กน้อยกล่าว “อย่าทำให้คนรู้สึกว่าพวกเรารบชนะหนึ่งสนามแล้ว หางก็ยกชี้ฟ้าแล้ว”กล่าวจบ หยุนเจิงก็ออกไปอย่างรวดเร็วตอนที่หยุนเจิงมาถึงค่าย ตู๋กูเช่อกำลังพาพวกเฝิงอวี้ตรวจดูศพทหารม้าเป่ยหวนเมื่อเห็นศพกองเป็นภูเขา ในใจตู๋กูเช่อยิ่งสั่นสะท้านเมื่อหยุนเจิงที่เร่งรุดมา ตู๋กูเช่อรีบคาราวะหยุนเจิง “คาราวะท่านอ๋อง!”“อย่า อย่า!”หยุนเจิงโบกมือ “แม่ทัพตู๋กูเช่อเป็นรองผู้บัญชาการ ควรเป็นหยุนเจิงที่คาราวะท่าน”“ไม่ได้ ไม่ได้!”ตู๋กูเช่อรีบห้ามหยุนเจิงที่กำลังจะคาราวะ จากนั้นก็หัวเราะ “ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็อย่าใส่ใจกับมารยามจอมปลอมเหล่านี้!”“ได้!”หยุนเจิงตอบรับอย่างสบาย“ท่านอ๋องการรบครั้งนี้ แสดงออกถึงศักดิ์ศรีของกองทัพมฆฑลทางเหนือของเรา!”ตู๋กูเช่อจับมือหยุนเจิง กล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 498

    การรบของซั่วเป่ยในอดีต แม้เขาไม่ได้เป็นรองผู้บัญชาการกองทหารมณฑลทางเหนือ แต่ก็เป็นแม่ทัพระดับสูงข้อมูลภายในบางส่วน เขาเองก็รับรู้กองทหารโลหิตเกือบถูกทำลายสิ้น เรื่องที่ตู้กุยหยวนถูกตัดแขนไปหนึ่งข้าง เขาย่อมรู้ดีต่อมาเขาได้ยินว่าตู้กุยหยวนเป็นฝ่ายขอลาออก ไปจากซั่วเป่ย เขาเองก็ไม่ได้ไปส่งเพียงเพราะในใจเขารู้สึกผิดต่อตู้กุยหยวนและกองทหารโลหิตหลายปีผ่านไป ได้พบตู้กุยหยวนอีกครั้ง ดวงตาตู๋กูเช่อแดงเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่หยุนเจิงยิ้มมองทั้งสองคน จากนั้นก็กล่าว “แม่ทัพตู๋กู ท่านเร่งเดินทางมาทั้งคืน ยังไม่ได้กินสิ่งใดใช่หรือไม่? ไม่สู้ข้าให้คนนำอาหารมา พวกเรากินไปคุยไป?”“ดีๆ!”ตู๋กูเช่อพยักหน้าไม่นาน อาหารก็ส่งเข้ามาสุดยอดมาก เป็นหัวม้าทั้งหัว“ท่านอ๋อง เช้าตรู่พวกท่านกินสิ่งนี้?”ตู๋กูเช่อมองหัวม้าทั้งหัวตรงหน้าด้วยความตะลึง ตาค้างเขาเป็นรองผู้บัญชาการกองทัพทหารมณฑลทางเหนือ ไม่ใช่ว่าจะโลภเมื่อเห็นเนื้อเพียงแต่เขาคิดไม่ถึง ทหารชาวนาซั่วเป่ยจะกินสิ่งนี้ตั้งแต่เช้าหยุนเจิงหัวเราะ “ครั้งนี้ได้รับชัยชนะ ล้วนเป็นผลงานของทุกคน พวกเราได้เนื้อมาไม่น้อย ย่อมต้องให้รางวัลกับทุ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 499

    เวลาฟ้ามืด นักโทษที่หยุนเจิงปล่อยไปในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองชายแดนเว่ยและนำจดหมายที่หยุนเจิงเขียนด้วยตัวเองมอบให้ปานปู้ปานปู้เปิดอ่านจดหมาย เพียงแค่กวาดมองคร่าวๆ สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงไม่นาน ปานปูนำจดหมายนั้นมาหาอู้เลี่ย “เอาม้าศึกสองพันตัวของพวกเราไปแลกกับศพเหล่านั้น?”อู้เลี่ยสีหน้าเต็มไปด้วยความบึ้งตึง เอาจดหมายที่อยู่บนมือทุบลงไปบนโต๊ะ กัดฟันคำรามเสียงต่ำ “หยุนเจิงไอคนสมควรตาย ความโลภไม่น้อยเลย!”ม้าศึกสองพันตัว สำหรับเป่ยหวนแล้ว ไม่นับว่าเป็นปัญหาทว่า ยกม้าศึกสองฟันตัวให้ชาวต้าเฉียน มันคนละเรื่องกัน “ตอนนี้พวกเราจะแลกเปลี่ยนหรือไม่?”ปานปู้ขมวดคิ้วกล่าว “หยุนเจิงเขียนไว้ในจดหมายชัดเจน หากภายในสิบวันไม่เห็นม้าศึก เขาจะนำศพของเหล่าผู้กล้าของเราส่งไปที่ป้องเมืองสุยหนิง แขวนศพเหล่านั้นไว้บนกำแพงเมืองสุยหนิง...” “แขวนก็แขวนสิ!”อู้เลี่ยสีหน้าเต็มๆ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ถึงเช่นไรพวกเราได้ศพเหล่านั้นก็ไร้ประโยชน์!”ปานปู้ขมวดคิ้วแน่น ถอนหายใจกล่าว “องค์ชายใหญ่ กองทัพของเราเพิ่งพ่ายแพ้ กำลังใจทหารเดิมก็ลดลงอย่างมาก หากหยุนเจิงทำเช่นนี้จริง เกรงว่าจะกระทบกับกำลังใจทห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 500

    ในเมื่อเรื่องนี้กำหนดได้แล้ว ต่อไปก็ย่อมต้องปรึกษากันว่าจะแลกเปลี่ยนเช่นไรตอนที่อู้เลี่ยเรียกคนไปแจ้งนายกองทุกคนมาปรึกษาหารือในกระโจม องครักษ์คนสนิทคนหนึ่งวิ่งเข้ามา “องค์ชายใหญ่ จั่วเสียนอ๋องซู่ลี่ของเมืองชายแดนชิงส่งรายงานด่วนมา!”กล่าวจบ องครักษ์คนสนิทก้มโค้งมอบรายงานด่วนอู้เลี่ยเปิดรายงานด่วนอ่านอ่านไปอ่านมา สีหน้าของอู้เลี่ยพลันเปลี่ยนเป็นความดีใจเวลานี้ ปานปู้และเหล่ามาทัพทยอยกันเข้ามาในกระโจมใหญ่“ดูสินี่คือสิ่งใด!”อู้เลี่ยดีใจยื่นรายงานด่วนในมือมอบให้ปานปู้ปานปู้รับรายงานด่วนด้วยความสงสัย เพียงกวาดตาอ่านคร่าวๆ หนังตาก็พลันกระตุกเมื่อเห็นความผิดปกติของปานปู้ คนอื่นพากันล้อมวงอ่านเนื้อหาในรายงานด่วน ทุกคนพากันหน้าเปลี่ยนสิกับดัก!หยุนเจิงขอร้องให้เป่ยหวนแลกเปลี่ยนม้าศึก มันก็คือกับดักที่สมบูรณ์!เดิมทีพวกหยุนเจิงไม่ได้คิดจะแลกเปลี่ยน แต่เพื่อจงใจรบกวนสายตาของพวกเขาจุดประสงค์ที่แท้จริงของหยุนเจิงก็คือฉวยโอกาสตอนพวกเขาไม่ทันระวัง ใช้ทหารม้าสามพันคนบวกกับทหารราบสองหมื่นคนลอบโจมตีกองทหารรักษาการณ์เป่ยหวนที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่า จากนั้น ทหารราบคอยอยู่ข้างหลังเพื่อ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 501

    จวนจิ้งเป่ยอ๋องซั่วฟางหยุนเจิงเรียกคนสนิมมาที่บ้านเขาเพื่อก่อเตาเล็กแม้จะบอกว่าก่อเตาเล็ก ความจริงก็คือกินหม้อไปถึงเช่นไรตอนนี้เนื้อม้าของพวกเขาก็เพียงพอ นำมาทำหม้อไฟเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แต่ว่า ต้าเฉียนและเป่ยหวนต่างก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าพริก กินเข้าไปก็ยังรู้สึกขาดบางอย่างไปกลุ่มคนนั่งอยู่กันท้ายสวน ท้องฟาพันเกล็ดหิมะลอยมา พวกเขากำลังกินหม้อไฟที่เดือดปุดๆ ดื่มสุราจางกงเมาทาย สุราเข้มข้นเช่นนี้ บอกได้แค่สบายมาก“องค์ชายคิดว่าคนของเราจะบอกแผนการนี้กับเป่ยหวน?”ขณะที่กำลังกิน หลูซิ่งถามออกมากะทันหันหลูซิ่งรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างโชคดีหากเขามารับใช้หยุนเจิงช้ากว่านี้หน่อย เขาเกรงว่าเขาจะไม่มีสิทธิ์นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว คนที่นั่งอยู่ที่นี่ นอกจากคนรอบกายหยุนเจิงแล้ว ก็คือทหารคนสนิทของหยุนเจิงหยุนเจิงเรียกเขามา ย่อมเห็นเขาเป็นทหารสนิท“ข้ากำลังทดสอบอยู่นี่ไม่ใช่หรือ?”หยุนเจิงยักไหล่ “หากเป่ยหวนเพิ่มกำลังทหารที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่า เช่นนั้นก็เป็นยืนยันการคาดการณ์ของข้า!”“ข้าคิดว่าเป็นไปได้มาก!”เสิ่นลั่วเยี่ยนฮึมฮัม “หากตู๋กูเช่อนำแผนการบอกกับเว่ยเหวินตง เป็นไปได้มากว่าเว่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 502

    แม้กำลังรบของคนเหล่านั้นจะสู้กองทัพประจำการที่มีการฝึกซ้อมอย่างชำนาญไม่ได้ แต่ใช้ซุ่มโจมตีก็ยังเพียงพอเป็นหลักการเดียวกันกับหยุนเจิงที่ใช้ทหารชาวนาเหล่านั้นซุ่มโจมตีทหารของพวกเขาหยุนเจิงซุ่มโจมตีพวกเขาในหุบผาชันช่องลมหนึ่งครั้งแล้วพวกเขาก็อยากจะซุ่มโจมตีกองกำลังหยุนเจิงเช่นกัน!แล้วก็ยังเป็นการไม่เสียมารยามโต้ตอบกลับไป!อย่างไรก็ตาม เวลาที่จะแลกม้าศึกกับศพใกล้เข้ามาแล้ว ปานปู้ยิ่งรู้สึกไม่สงบใจปานปู้มักรู้สึกว่าการตั้งค่ายซุ่มโจมตีที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่ามีที่ใดไม่ถูกต้องทว่าตั้งแต่ต้นจนจบก็ยังไม่เข้าใจว่าที่ใดไม่ถูกต้องความรู้สึกเช่นนี้ ทำให้ปานปู้เหมือนนั่งอยู่บนปลายเข็ม รู้สึกไม่สงบสุขถึงที่สุดแทบทั้งวัน ปานปู้เอาแต่จ้องแผนที่แนวหน้าอยู่ภายในกระโจม ขณะเดียวกันก็มีคำสั่งให้เพิ่มคนลาดตระเวนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเป่ยสุ่ย ป้องกันไม่ให้กองกำลังของหยยุนเจิงแอบย่องเข้ามาสร้างปัญหาในเขตแคว้นตอนที่ปานปู้กำลังกลัดกลุ้มคิ้วขมวด อู้เลี่ยเปิดผ้าบ้าน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเดินเข้ามา“ราชครู ข้าคิดแผนที่ยอดเยี่ยมได้แผนหนึ่ง!”อู้เลี่ยเดินเข้ามา กล่าวขึ้นด้วยความดีใจ“อ้อ?”ปา

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1410

    แต่ที่น่าเสียดายคือ เจียเหยาไม่ใช่สตรีแบบนั้น! ทุกความยินยอมและการประนีประนอมของเจียเหยาต่อเขาล้วนเกิดจากสถานการณ์บีบบังคับ เยี่ยจื่อย่อมชื่นชมเจียเหยาอย่างแน่นอน เรื่องนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่หากเจียเหยาเป็นสตรีที่หลงใหลในความรักอย่างเดียว เยี่ยจื่ออาจไม่รู้สึกชื่นชมนาง และคงไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ว่านางกับหยุนเจิงจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ "ไม่แน่หรอก" เยี่ยจื่อยิ้มบาง "เรื่องของความรัก ไม่มีใครในโลกนี้สามารถอธิบายได้ชัดเจน! เช่นเดียวกับข้า ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งข้าจะไม่สนใจสายตาของผู้คนในแผ่นดิน และรักชายคนหนึ่งอย่างไม่ลังเล พร้อมทั้งให้กำเนิดบุตรธิดาแก่เขา..." "เรื่องของพวกเจ้ามันไม่เหมือนกัน" หยุนเจิงบีบเบาๆ ที่ตัวเยี่ยจื่อ "พอแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องพวกนี้เลย! รีบลุกขึ้นเถิด ไม่เช่นนั้นพอคนในจวนมาเรียกเราไปกินข้าวเย็น เจ้าคงอายอีกแน่" "ก็เพราะเจ้านั่นแหละ!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิด้วยความอาย ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นและสวมเสื้อผ้า เมื่อเห็นเยี่ยจื่อสวมชุดชั้นใน หยุนเจิงก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาอีก "ยังมองอยู่อีกหรือ?" เยี่ยจื่อปรายตามองหยุนเจิงด้วยความเข

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1409

    เนื่องจากเยี่ยจื่อกำลังตั้งครรภ์ หยุนเจิงจึงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม พายุที่โหมกระหน่ำมีเสน่ห์ในแบบของมัน และสายฝนที่โปรยปรายก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ หลังจากหยุดยั้งความเร่าร้อน เยี่ยจื่อซบอยู่ในอ้อมอกของหยุนเจิงอย่างแมวน้อยเชื่องๆ "คืนนี้ข้าจะนอนที่ห้องของเจ้า" หยุนเจิงกอดร่างอ่อนนุ่มของเยี่ยจื่อไว้ ด้วยท่าทีที่ดูยังไม่พอใจ "อย่าเลย!" เยี่ยจื่อเอื้อมมือมาตบหน้าอกของหยุนเจิงเบาๆ "หากเจ้ามาอยู่ที่นี่ ข้าก็ต้องโดนเจ้ารังแกอีก หากเกิดอะไรขึ้นกับลูก เราคงร้องไห้ไม่ออก เจ้าไปห้องเมี่ยวอินเถิด!" จากนิสัยของหยุนเจิง ต่อให้ใช้ปลายเท้าคิด นางก็รู้ว่าเขาต้องรังแกนางอีกสักหนึ่งหรือสองรอบหากเขาอยู่ในห้องนี้ แม้ว่าช่วงตั้งครรภ์จะไม่ใช่ว่าจะใกล้ชิดกันไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรทำบ่อยเกินไป "ลูกของข้าหยุนเจิง จะอ่อนแอขนาดนั้นได้อย่างไร?" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะวางมือลงบนหน้าท้องของเยี่ยจื่อโดยไม่รู้ตัว "เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีก!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิอย่างเขินอาย "เมื่อสองวันก่อน ลั่วเยี่ยนยังแอบมาบอกข้าเลยว่าเจ้าไปรังแกนางอีก จวนนี้มิใช่มีเพียงข้ากับลั่วเยี่ยนสองค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1408

    ชุดนี่มันชั้นแล้วชั้นเล่า ถอดออกแต่ละครั้งช่างเสียเวลาเสียจริง หยุนเจิงบ่นในใจพลางจัดการอยู่นาน กว่าจะถอดอาภรณ์ออกหมด แล้วรีบก้าวลงไปในถังอาบน้ำขนาดใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น "ดูท่าทางเจ้าสิ!" เยี่ยจื่อจ้องมองหยุนเจิงด้วยความเขินอาย พลางหัวเราะเบาๆ "หากคนอื่นมาเห็นเข้า คงคิดว่าเจ้าคือโจรขโมยดอกไม้จริงๆ!" "ต่อหน้าเจ้า ข้าก็เป็นโจรขโมยดอกไม้ดีๆ นี่เอง!" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง แล้วดึงเยี่ยจื่อเข้ามาในอ้อมกอด เกรงว่าเยี่ยจื่อจะหนาว หยุนเจิงจึงราดน้ำอุ่นลงบนตัวนาง แน่นอนว่า ระหว่างนี้มือเจ้าเล่ห์ของหยุนเจิงก็ไม่วายลวนลามบนตัวเยี่ยจื่อ เยี่ยจื่อปล่อยให้หยุนเจิงทำตามใจ พลางยื่นนิ้วเรียวขาวลูบไล้รอยแผลเป็นที่เอวของเขา นางจำได้ว่ารอยแผลนี้เกิดขึ้นจากศึกที่หยุนเจิงสังหารฮูเจี๋ยฉานอวี่ นั่นน่าจะเป็นการบาดเจ็บที่หนักที่สุดของหยุนเจิงนับตั้งแต่คุมทัพมา โชคดีที่เป็นเพียงบาดแผล ไม่ได้ถึงแก่ชีวิต ตอนนี้บาดแผลนั้นสมานแล้ว แต่รอยแผลเป็นยังคงปรากฏอย่างชัดเจน "ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป" เยี่ยจื่อก้มหน้าพลางพึมพำ "หากวันใดเจ้ามิได้เป็นเช่นนี้ คงเพราะเราชราและห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1407

    หลังจากส่งสาวรับใช้หน้าประตูไปแล้ว หยุนเจิงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที ก่อนจะผลักประตูเข้าไป "อิงเถา ข้าเหมือนจะได้ยินเสียงใครผลักประตูเข้ามา" เสียงของเยี่ยจื่อดังมาจากหลังฉากกั้น "บ่าวก็เหมือนจะได้ยินเหมือนกัน บ่าวจะไปดูเจ้าค่ะ" อิงเถาตอบรับแล้วรีบวิ่งออกมาจากหลังฉากกั้น นางเพิ่งจะออกมาก็เห็นหยุนเจิงยืนอยู่ในห้อง เมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่คนอื่นที่บังอาจบุกรุกเข้ามา อิงเถาถึงได้คลายความกังวลก่อนจะรีบคำนับ แต่ก่อนที่อิงเถาจะทันได้พูดอะไร หยุนเจิงก็ทำท่าทางให้เงียบ และโบกมือเบาๆ ส่งสัญญาณให้อิงเถาออกไป ดูเหมือนอิงเถาจะเดาได้ว่าหยุนเจิงตั้งใจจะทำอะไร ใบหน้าของนางพลันขึ้นสีแดงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หยุนเจิงปิดกลอนประตูจากด้านใน แล้วค่อยๆ ย่องไปทางหลังฉากกั้น "อิงเถา มีคนผลักประตูหรือไม่?" เยี่ยจื่อเอ่ยถาม ความคิดซุกซนของหยุนเจิงเริ่มเล่นงาน เดิมทีเขาตั้งใจจะจู่โจมเยี่ยจื่ออย่างไม่ให้ทันตั้งตัว แต่คิดได้ว่านางกำลังตั้งครรภ์ เกรงว่าจะทำให้นางตกใจจนเกิดเรื่องไม่คาดคิด จึงเอ่ยขึ้นว่า "มีสิ มีโจรขโมยดอกไม้คนหนึ่ง" เมื่อได้ยิน เยี่ยจื่อหน้าถ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1406

    หยุนเจิงกลับมาจากโรงงานผลิตอาวุธ เพียงแค่เดินมาถึงหน้าจวนอ๋อง ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกวุ่นวายดังมาจากในจวน พอเข้าไปในจวนตามคาด เขาเห็นเหล่าเด็กซนกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ในลานหน้า ลูกชายสองคนกับลูกสาวหนึ่งคนของฉินชีหู่ รวมถึงลูกชายของอดีตรัชทายาท มาที่จวน และกำลังเล่นปาหิมะกับเสิ่นเนี่ยนฉือและฉีเหยียน เด็กๆ เหล่านั้นต่างสวมเสื้อผ้าหนาเตอะเหมือนหมี แม้จะล้มลงบนพื้นหิมะก็ไม่รู้สึกเจ็บ “คารวะฝ่าบาท!” เมื่อเห็นหยุนเจิงกลับมา อาจารย์ที่คอยดูแลเด็กๆ รีบเข้ามาคารวะ “พอเถอะ ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอยู่ในจวนไม่ต้องเคร่งขนาดนั้น” หยุนเจิงโบกมือพลางถามว่า “พี่สะใภ้ตระกูลฉินมาที่นี่แล้วหรือ?” “เจ้าค่ะ” ซินเซิงยิ้มบางๆ ขณะช่วยปัดหิมะออกจากเสื้อหยุนเจิง พลางตอบว่า “ช่วงบ่ายฮูหยินฉินก็มากับเด็กๆ ตอนนี้คงเล่นไพ่นกกระจอกกับเหล่าพระชายาอยู่” หยุนเจิงว่า “เช่นนั้นข้าไปดูสักหน่อย เจ้าเฝ้าเด็กๆ ไว้ อย่าให้พวกเขาเล่นจนเหงื่อออกมากนัก” “บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ” ซินเซิงพยักหน้าเบาๆ หยุนเจิงมองดูเด็กซนที่กำลังเล่นอย่างบ้าคลั่ง และครุ่นคิดในใจว่าจะให้พวกเขาทำ “การบ้านช่วงปิดเทอม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1405

    ตลอดสองวันที่ผ่านมา เจียเหยาเจรจากับกุ่ยฟางอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าข้อเสนอจากกุ่ยฟางจะเกินกว่าเงื่อนไขขั้นต่ำที่เจียเหยากำหนดไว้ในใจแล้ว แต่นางยังไม่พอใจ นางต้องการต่อรองเพื่อให้ได้ทรัพยากรมากขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดีกว่า จุดที่ยังคงเจรจากันไม่ลงตัวอยู่ที่ค่าชดเชยจากสงครามและจำนวนบรรณาการ กุ่ยฟางแสดงเจตนาอย่างชัดเจน หากต้องการค่าชดเชยเพิ่ม จำนวนบรรณาการจะต้องลดลง แต่ในเรื่องจำนวนบรรณาการ เจียเหยาไม่ยอมอ่อนข้อเลย ในที่สุด กุ่ยฟางจำต้องยอมรับข้อกำหนดของเจียเหยาในการถวายบรรณาการตามจำนวนที่นางระบุ ส่วนค่าชดเชยที่กุ่ยฟางสามารถมอบให้ได้ เมื่อคำนวณแล้วอยู่ที่ประมาณร้อยละสี่สิบห้าของข้อเรียกร้องเริ่มต้นของเจียเหยา ผลลัพธ์นี้แม้ไม่ใช่สิ่งที่นางคาดหวังไว้ แต่ก็ดีกว่าที่เจียเหยาประเมินไว้ไม่น้อย เมื่อการเจรจาสิ้นสุด เจียเหยาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ ด้วยทรัพยากรเหล่านี้ ประชาชนแห่งเป่ยหวนจะผ่านฤดูหนาวนี้ไปได้อย่างไม่ลำบากนัก “องค์หญิง เหตุใดท่านจึงไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องบรรณาการ?” เกออาซูถามด้วยความไม่เข้าใจ “หากเรายอมลดเงื่อนไขเรื่องบรรณาการ เราก็จะได้สิ่งอื่นเพ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1404

    ทว่า สำหรับเจียเหยาในตอนนี้ นี่อาจไม่ใช่เรื่องดีนัก เมื่อผู้ที่เข้าร่วมเจรจาจากกุ่ยฟางมีหลายคน ความเห็นของพวกเขาอาจไม่ตรงกัน การดึงกลยุทธ์นี้อาจทำให้เสียเวลาเพิ่มขึ้น เจียเหยารู้สึกกังวลในใจ แต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย “ท่านทูตเชิญนั่งก่อน ข้ามีเรื่องสำคัญต้องจัดการเสียก่อน!” กล่าวจบ เจียเหยาก็ก้มหน้าก้มตาเขียนจดหมายต่อ แต่ความคิดของเจียเหยาในตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่จดหมายอีกแล้ว นางดูเหมือนกำลังเขียนจดหมาย แต่แท้จริงแล้วกำลังกดดันอาเคอถูและคณะ นางรู้ว่าชื่อเหยียนต้องมอบอำนาจในการเจรจาบางส่วนให้แก่อาเคอถูและคณะ สิ่งที่นางต้องทำคือการกดดันคณะทูตกุ่ยฟางเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากยิ่งขึ้น การกระทำของเจียเหยาส่งผลอย่างชัดเจน เมื่อเห็นว่าเจียเหยาดูเหมือนไม่ได้รีบร้อนเจรจาเลย สมาชิกในคณะทูตกุ่ยฟางก็เริ่มมองตากันไปมา สุดท้าย สายตาของทุกคนต่างหันไปที่มู่ลี่จวี เห็นได้ชัดว่ามู่ลี่จวีเป็นผู้คุมการเจรจาครั้งนี้ มู่ลี่จวีรู้สึกโกรธกับความเย็นชาของเจียเหยา แต่เขารู้ดีว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์แสดงความไม่พอใจต่อหน้านาง ชื่อเหยียนมอบอำนาจให้เขาตัดสินใจในบางเรื่องได้จริง แต่ใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1403

    เจียเหยาตัดสินใจหยุดการเคลื่อนทัพต่อ กองทหารของพวกนางถูกส่งออกไปกวาดต้อนทรัพยากร ดินแดนที่พวกนางเข้ายึดครองในตอนนี้เกินกว่าห้าร้อยลี้ไปนานแล้ว แต่เจียเหยาตั้งใจเพียงให้ทัวฮวนและกองทหารยึดครองดินแดนของกุ่ยฟางเพียงสามร้อยลี้ตามเงื่อนไขขั้นต่ำของหยุนเจิงเท่านั้น การยึดครองดินแดนมากกว่านี้ ไม่เพียงเพื่อกวาดต้อนทรัพยากรและกดดันชื่อเหยียน แต่ยังเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในเจรจา ท้ายที่สุด หากนางยอมคืนดินแดนบางส่วนให้ชื่อเหยียน ชื่อเหยียนก็จะไม่สามารถเรียกร้องเงื่อนไขอื่นได้อย่างเข้มงวดนัก ดังที่เจียเหยากล่าวไว้ นางกับหยุนเจิงเป็นคนประเภทเดียวกัน และในตอนนี้ ชื่อเหยียนก็ดูคล้ายกับสถานการณ์ของนางเมื่อก่อนที่ถูกหยุนเจิงกดดันจนถึงทางตัน เพราะเหตุนี้ เจียเหยาจึงเข้าใจจิตใจของชื่อเหยียนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เจียเหยาเคยคิดอยากเป็นผู้พิฆาตมังกร แต่สุดท้ายนางกลับกลายเป็นมังกรร้ายเสียเอง สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจียเหยาจะได้รับคำตอบจากชื่อเหยียน นางกลับได้รับข่าวจากหยุนเจิงผ่านเหยี่ยวขาว “รีบกลับมา ก่อนสิ้นปีมาพบข้าที่ติ้งเป่ย” ข้อความจากหยุนเจิงสั้นมาก เมื่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1402

    “ตกลง เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าอีกครั้ง!” เจียเหยากล่าวพลางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน กุ่ยฟางต้องยอมสวามิภักดิ์และถวายบรรณาการอย่างแน่นอน แต่จำนวนบรรณาการต้องเพิ่มขึ้นอีกร้อยละห้าสิบพร้อมกันนี้ กุ่ยฟางต้องเปิดการค้าเสรีกับต้าเฉียนและเป่ยหวน นอกจากนี้ กุ่ยฟางต้องชดเชยความเสียหายที่เป่ยหวนและต้าเฉียนได้รับจากศึกครั้งนี้ โดยจ่ายชดเชยเป็นทองคำ 100,000 ตำลึง แกะ 100,000 ตัว วัว 30,000 ตัว ม้า 10,000 ตัว และเสบียงอาหาร 4 ล้านตัน และเพื่อเป็นการตอบแทน เจียเหยาจะไม่เรียกร้องให้กุ่ยฟางยกดินแดน 500 ลี้ แต่ลดลงเหลือเพียง 300 ลี้เท่านั้น! ส่วนข้อที่ให้กุ่ยฟางถวายหญิงงาม 100 คนแก่ต้าเฉียนนั้น เจียเหยาได้ยกเว้นให้โดยตรง สำหรับเงื่อนไขปลีกย่อยอื่นๆ เจียเหยาก็ยอมรับตามที่กุ่ยฟางเสนอมา เมื่อได้ยินเงื่อนไขของเจียเหยา อาเคอถูรู้สึกราวกับสมองของตนกำลังอื้ออึง การเพิ่มบรรณาการขึ้นร้อยละห้าสิบยังพอว่า แต่เจียเหยากลับเรียกร้องให้กุ่ยฟางจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาลในคราวเดียว? อย่าว่าแต่ปศุสัตว์และเสบียงเลย เพียงแค่ทองคำ 100,000 ตำลึง กุ่ยฟางก็แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว ทองคำ 100,000 ตำลึง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status