เมื่อได้ฟังคำพูดของหยุนเจิง คนทั้งสามในรถม้าก็ตกอยู่ในความเงียบสงัดพร้อมๆ กันใช่!ในเมื่อหยุนเจิงกำลังจะไปที่ซั่วเป่ย จะต้องผ่านด่านนี้ไม่ช้าก็เร็วตอนนี้อาเจียนออกสักหน่อยก็ดีถ้าในระหว่างการสู้รบกับเป่ยหวน ทหารฝ่ายตัวเองกำลังเข่นฆ่าจนท้องฟ้ามืดมิดอยู่ด้านหน้า แต่เขากลับอาเจียนโอ้กอ้ากอยู่ด้านหลัง นี่สิถึงจะเป็นเรื่องที่น่าขบขันที่สุด“ถึงวันนี้เจ้าจะรู้สึกน่าขายหน้า แต่ต้องบอกว่า เจ้ายังนับว่าเป็นบุรุษ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนส่งสายตาชื่นชมที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักไปทางหยุนเจิง “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎข้อนี้ที่ห้ามทหารข่มขืนสตรีโดยเด็ดขาด!”สำหรับกฎข้อนี้ นางเห็นด้วยเต็มที่นางก็เป็นสตรีหากนางถูกศัตรูจับตัวไปเป็นเชลย นางยอมตายดีกว่าถูกข่มขืนอย่างแน่นอนสำหรับสตรีคนหนึ่ง การถูกศัตรูฆ่าและการถูกศัตรูข่มขืนเป็นสองเรื่องที่แตกต่างกันเมื่อได้ฟังคำชมของเสิ่นลั่วเยี่ยน หยุนเจิงก็ส่ายหัวเบาๆ “ที่ตั้งกฎข้อนี้ขึ้นมา ไม่เกี่ยวอะไรกับการว่าข้าเป็นบุรุษหรือไม่”“แล้วเกี่ยวกับอะไร” เสิ่นลั่วเยี่ยนถามอย่างไม่เข้าใจหยุนเจิงถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดเนิบๆ “ที่สุดแล้วพวกเราก็จะกลายเป็นมารร้าย! แต่ ไม่
เวลาพลบค่ำ กัวทงผู้ว่าการมณฑลอู่หยางพากำลังคนนับร้อยตามมาทั้งที่อยู่ห่างออกไปไกล แต่ฝูงชนกลับได้กลิ่นคาวเลือดอันแสบจมูก“ใต้เท้า สถานการณ์ดูแปลกๆ ไม่ชอบมาพากลนะ!”จวินเฉิงขมวดคิ้วพลางเอ่ยเสียงต่ำว่า “องค์ชายหกคงไม่ได้จะฆ่าพวกเราหรอกกระมัง?”“เขาไม่กล้าหรอก!”กัวทงแค่นเสียงเย็นชา แล้วคัดค้าน “พวกเราต่างก็เป็นข้าหลวงของราชวงศ์ แม้ว่าเขาจะเป็นองค์ชาย แต่หากไม่ผ่านการไต่สวน เขาก็ไม่สามารถฆ่าเราได้! อีกอย่าง องค์ชายหกผู้นี้เป็นเพียงคนไร้ประโยชน์คนหนึ่งเท่านั้น เจ้าคิดว่าเขาจะมีความกล้านั้นหรือ?”“เป็นเช่นนี้ก็จริง แต่ข้าก็ยังรู้สึกแปลกๆ อยู่ดี!” จวินเฉิงขมวดคิ้วเอ่ย “ทางนี้ดูเหมือนจะมีคนเสียชีวิตไปไม่น้อย เป็นไปได้หรือไม่ที่องค์ชายหกถูกกลุ่มจ้าวเฮยหู่โจมตี แล้วอยากระบายอารมณ์กับพวกเราน่ะ?”มันจะเป็นเรื่องปกติหากหยุนเจิงวิ่งไปที่จวนผู้ว่ามณฑลเองทว่าหยุนเจิงกลับสั่งการให้พวกเขามาที่นี่ อีกอย่างกลิ่นคาวเลือดที่นี่ยังรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่าผิดปกติ!“อย่าลนลาน!”กัวทงหัวเราะเหอะๆ “จ้าวเฮยหู่โจมตีคนของเขาแล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย? เราเกี่ยวข้องอะไรกับจ้าวเฮยหู่”“แต่เขาจะเอาเรื่องท
หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ จู่ๆ ก็เปลี่ยนน้ำเสียงพูด “แต่ทว่า จะบอกว่าข้าคืนความเงียบสงบให้กับชาวบ้านมณฑลอู่หยางนั้นเกินไปจริงๆ!”“ท่านอ๋องถ่อมตัวเกินไปแล้ว”กัวทงรีบเอ่ย “ชาวบ้านมณฑลอู่หยางกังวลเกี่ยวกับโจรพวกนี้มานาน เพราะว่าโจรพวกนี้ถึงทำให้ชาวบ้านมณฑลอู่หยางทุกข์ยาก! ข้าไร้ความสามารถ ส่งกองกำลังไปกำราบหลายครั้ง แต่ทว่าคนกลุ่มนี้มีกลอุบายมาก ทำให้ไม่สามารถกำราบได้สำเร็จ! บัดนี้ท่านอ๋องได้กำจัดโจรกลุ่มนี้แล้ว ในที่สุดชาวบ้านมณฑลอู่หยางก็ได้ใช้ชีวิตสงบสุขเสียที”กัวทงพูดจาสวยหรูมากทั้งชื่นชมเรื่องที่หยุนเจิงกำจัดโจรได้ ทั้งยังพูดเรื่องที่เขาส่งกำลังคนไปกำจัดโจรออกมาด้วยใช่ว่าเขาไม่ส่งทหารไปกำราบโจร!แต่เพราะพวกโจรมีกลอุบายมากเกินไป!หยุนเจิงฟังแล้วพลันอดไม่ได้ส่ายศีรษะยิ้มเยาะกัวทงคนนี้พูดจาเก่งจริงๆ!เกรงว่าความคิดของเขาคงจะใช้ไปกับการหาเงินและหาวิธีพูดจาสวยหรูกระมัง?ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คนเช่นนี้นี่มันเยอะมากเสียจริง!“ข้ามีใจอยากคืนความสงบสุขให้กับชาวบ้านมณฑลอู่หยางจริง”หยุนเจิงพยักหน้าเบาๆ แล้วจ้องกัวทงพลางเอ่ยว่า “ทว่าหากข้าต้องการบรรลุเป้าหมายนั้นจะต้องขอยืมของบางอย
หลังจากคำพูดของหยุนเจิงหยุดลง กัวทงและคนอื่นๆ พลันตกใจจนหน้าซีดเซ๊ยวขณะที่หยุนเจิงค่อยๆ ชักกระบี่ออกมา ใจของผู้คนยิ่งตกไปถึงตาตุ่มกัวทงพยายามทำให้ตนเองแน่วแน่ ตะโกนพูดขึ้นว่า “หากท่านอ๋องคิดจะฆ่าข้าจริงๆ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด! แต่หากท่านอ๋องจะกล่าวหาว่าข้าเป็นข้าหลวงทุจริต ข้าไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด! ข้ายอมตายได้ แต่ไม่ยอมแบกรับชื่อเสียอันเสื่อมโทรมนี้ได้!”“จริงหรือ?”หยุนเจิงกวาดตามองกัวทงด้วยแววตาเยือกเย็นไอ้สุนัขนี่ คุณภาพทางจิตวิทยาไม่เลวเลย!เวลานี้แล้วยังจะแสร้งทำเป็นบริสุทธิ์อีก?โจรพวกนั้นพูดถึงการทุจริต ‘อันรุ่งโรจน์’ ของกัวทงไม่น้อยเลยนะ!ผ่านไปสักครู่ หยุนเจิงพลางเอ่ยยิ้มๆ ว่า “ผู้ว่าการกัวใช่ข้าหลวงทุจริตจริงหรือไม่ เราค่อยมาพูดกัน! ในเมื่อพวกเจ้ามากันแล้ว ข้าจะขอเชิญพวกเจ้าให้ดูละครน่าสนใจสักหน่อยแล้วกัน!”กล่าวจบ หยุนเจิงก็โบกมือให้กับตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลออกไปผู้คนรับรู้ จากนั้นก็คุมตัวโจรหลายสิบคนออกมาตรงหน้ากัวทงและคนอื่นๆขณะที่กัวทงคิดว่าหยุนเจิงจะให้คนเหล่านี้ชี้ตัวตนนั้น จู่ๆ ฝูงชนก็ชักกระบี่ขึ้นมา“ชิ้ง…”กระบี่หลุดออกชิ้ง!ชิ้ง!แสง
“ใช่ หากพวกข้าไม่ร่วมมือกับเจ้า เจ้าจะยอมปล่อยพวกข้าไปหรือ?”“ท่านอ๋องโปรดตรวจสอบด้วย ข้าถูกกดขี่จนไร้หนทางจริงๆ…”“ข้าก็ถูกกัวทงไอ้สุนัขนี่กดขี่เช่นกัน…”“ที่ข้ายอมร่วมมือกับเจ้า ก็เพราะจะรวบรวมความผิดของเจ้า!”ฝูงชนต่างร่วมมือกันเปิดโปงความผิดของกัวทงอย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ถูกกดขี่ทั้งหมด ล้วนเป็นความผิดของกัวทงทั้งนั้นบางคนยังพูดดีเอาหน้าให้ตนด้วยซ้ำเมื่อได้ยินคำพูดของผู้คนแล้ว กัวทงก็โมโหจนหายใจลำบาก“ได้ พวกเจ้านี่มันเยี่ยมจริงๆ!”กัวทงกัดฟันมองคนเหล่านี้ แล้วหันไปมองหยุนเจิงพลางเอ่ยเย้ยหยันว่า “ท่านอ๋อง ข้าเป็นข้าหลวงของราชวงศ์! ถึงแม้สิ่งที่พวกเขาพูดจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็จะมีกรมอาญาตัดสินโทษให้ข้า ไม่ถึงมือของท่านหรอก!”หยุนเจิงหลุบตาลงถามคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “เจ้าไม่ให้ข้าตัดสินโทษให้เจ้าใช่หรือไม่?”กัวทงแค่นเสียงเย็นชา “ข้าเป็นขุนนางขั้นสี่ ตามกฎหมายของต้าเฉียน ท่านอ๋องไม่มีอำนาจตัดสินโทษข้า!”ให้ตายเถอะ?ใช้กฎหมายต้าเฉียนมาพูดกับตนด้วยนั้นหรือ?“ได้ เช่นนั้นข้าจะไม่ตัดสินโทษเจ้า!”หยุนเจิงเก็บกระบี่ แล้วหันไปสั่งการตู้กุยหยวน “ให้ทุกคนถอยออกไป!”“หา?”ต
เผชิญหน้ากับโจรหลายร้อยคน ทำให้กัวทงพวกเขาแทบจะไม่สามารถสู้กลับได้ถึงแม้ว่าหนึ่งในพวกเขาจะรู้ทักษะการต่อสู้ แต่ก็นับได้ว่าเป็นฝีมือชั้นต้นเท่านั้นไม่นานนัก คนที่สู้อยู่ก็ถูกโจรหลายร้อยคนกลืนกินเสียงร้องทรมานของกัวทงและคนอื่นๆ ดังเข้าหูไม่สิ้นสุดเพียงแต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นหยุนเจิงหรือโจรพวกนี้ก็ตามล้วนแต่ไม่อ่อนข้อให้กับพวกเขาสักนิดไม่นาน เสียงร้องทรมานของกัวทงและคนอื่นๆ ก็หายไป“ฆ่าพวกมันซะ!”“กัวทง เจ้าเองก็มีวันนี้สินะ!”“ตี ตีมันให้ตาย…”แม้ว่ากัวทงและคนอื่นจะไม่มีแรงแม้แต่ส่งเสียงร้องแล้ว โจรเหล่านี้ก็ยังคงไม่ปล่อยพวกเขาไปจนกระทั่งขุนนางทุจริตพวกนี้ถูกทุบตีจนเสียสภาพ โจรเหล่านี้ถึงได้ค่อยๆ ใจเย็นลง“วิ่ง!”“วิ่งเร็ว!”ไม่รู้ว่าใครตะโกน กลุ่มโจรก็วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงราวกับฝูงแมลงวันบางทีการวิ่งหนีอาจเป็นโอกาสที่จะมีชีวิตรอดก็เป็นได้ทว่าหากอยู่ต่อไป ก็จะตายสถานเดียวมองดูโจรที่วิ่งหนีไปทั่วสารทิศแล้ว ทำให้หยุนเจิงส่ายศีรษะอย่างอดไม่ได้หนี?หนีพ้นหรือ?หยุนเจิงโบกมือให้กับตู้กุยหยวนและคนอื่น ฝูงชนรับคำแล้วเริ่มโจมตีตามไปทันทีผ่านไปไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา โจรทุกคน
หยุนเจิงเอ่ยลองเชิง“ท่าน…”เสิ่นลั่วเยี่ยนชะงักงัน เอ่ยกรุ่นโกรธ “ข้าพบว่าท่านนี่มันพูดจาไม่น่าฟังจริงๆ! ข้าอุตส่าห์มาดูท่าน แต่ท่านกลับไม่พูดแม้แต่คำดีๆ เลย?”“เจ้าอยากฟังนั้นหรือ?”หยุนเจิงเลิกคิ้วขึ้น แล้วเอ่ยยิ้มร้าย “อ้ายเฟย กอดข้าที ปลอบใจข้าที!”“ไสหัวไป!”เสิ่นลั่วเยี่ยนจ้องหยุนเจิงด้วยความหงุดหงิด แล้วเปิดม่านลงจากรถไปพูดกับสารเลวคนนี้นี่มันเหนื่อยจริงๆเดิมทียังดีๆ อยู่ พูดไปพูดมากลับไม่เข้ารูปเข้าร่างเสียอย่างนั้น…เกือบจะถึงยามให้ พวกเขาถึงเข้าสู่มณฑลอู่หยางขุนนางส่วนใหญ่ของมณฑลอู่หยางตายไปหมดแล้ว ตำแหน่งขุนนางที่สูงที่สุดในตอนนี้คือนายอำเภอหยุนเจิงสั่งให้คนไปเรียกนายอำเภอมาพร้อมแจ้งว่า “ผู้ว่าการกัวเขาถูกจ้าวเฮยหู่กลุ่มโจรลอบโจมตีขณะที่ไปต้อนรับข้านอกเมือง ถึงแม้ทหารของข้าจะตามไปถึงและกำราบโจรพวกนั้นหมดแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่เหลือรอดสักคน…”“อะไรนะ?”นายอำเภอมองหยุนเจิงด้วยสายตาอ้ำอึ้งราวกับไม่กล้าเชื่อหูของตนเองหยุนเจิงไม่มีใจอธิบายให้เขาฟังมากมายแล้วสั่งการไปอีกว่า “เจ้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลไปก่อนชั่วคราว ประเดี๋ยวแจ้งไปที่ราชวัง ก่อนที่ผู้ว่าการ
หลังจากพักผ่อนที่อู่หยางคืนหนึ่ง ทุกคนก็เดินทางกันต่อเมื่อรู้ว่าหยุนเจิงส่งตู้กุยหยวนพวกเขาไปตรวจดูว่ามีโจรหรือไม่ เสิ่นลั่วเยี่ยนก็อดไม่ได้จะให้คนรับใช้และสาวใช้ตระกูลเสิ่นรวมตัวกันแล้วตามไปฝึกซ้อมด้วย“ไม่ได้!”หยุนเจิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “หน้าที่ของพวกเจ้าคือรักษาความปลอดภัยของข้า ข้าอยู่ที่ไหน พวกเจ้าก็ต้องอยู่ที่นั่น! นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเจ้าต้องเข้าไปยุ่งด้วย!”“ทำไมถึงจะไม่ได้?”เสิ่นลั่วเยี่ยนโมโห “พวกเขาต้องปกป้องท่าน แล้วไม่ต้องเจอเลือดเจอเนื้อหน่อยหรือไง?”“ไม่ได้ก็คือไม่ได้!” หยุนเจิงไม่อยากสาธยายต่อกับเสิ่นลั่วเยี่ยน “อยู่กับกลุ่มใหญ่นี่แหละ! อย่าเข้าไปยุ่งมั่วซั่วเด็ดขาด!”“ข้าจะไป!” เสิ่นลั่วเยี่ยนคัดค้าน “อย่างไรท่านก็ห้ามข้าไม่ได้อยู่แล้ว!”“ข้าห้ามเจ้าไม่ได้จริงๆ”หยุนเจิงพยักหน้ายิ้มแย้ม “หากเจ้าคิดจะไปจริงๆ ข้าเองก็ห้ามไม่ได้! แต่ทว่าหากไปถึงซั่วเป่ยแล้ว เจ้าก็จงเป็นพระชายาของเจ้าดีๆ ซะ แล้วก็ไม่ต้องคิดจะนำทัพอีกตลอดชีวิต”“ท่าน…”เสิ่นลั่วเยี่ยนโมโหสุดขีด พร้อมเบิกตาจ้องหยุนเจิงตาเป็นมันไอ้สารเลว!กล้าเอาเรื่องนี้มาข่มขู่ตนนั้นหรือ?สารเลว!สารเลว
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่