“ใช่ หากพวกข้าไม่ร่วมมือกับเจ้า เจ้าจะยอมปล่อยพวกข้าไปหรือ?”“ท่านอ๋องโปรดตรวจสอบด้วย ข้าถูกกดขี่จนไร้หนทางจริงๆ…”“ข้าก็ถูกกัวทงไอ้สุนัขนี่กดขี่เช่นกัน…”“ที่ข้ายอมร่วมมือกับเจ้า ก็เพราะจะรวบรวมความผิดของเจ้า!”ฝูงชนต่างร่วมมือกันเปิดโปงความผิดของกัวทงอย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ถูกกดขี่ทั้งหมด ล้วนเป็นความผิดของกัวทงทั้งนั้นบางคนยังพูดดีเอาหน้าให้ตนด้วยซ้ำเมื่อได้ยินคำพูดของผู้คนแล้ว กัวทงก็โมโหจนหายใจลำบาก“ได้ พวกเจ้านี่มันเยี่ยมจริงๆ!”กัวทงกัดฟันมองคนเหล่านี้ แล้วหันไปมองหยุนเจิงพลางเอ่ยเย้ยหยันว่า “ท่านอ๋อง ข้าเป็นข้าหลวงของราชวงศ์! ถึงแม้สิ่งที่พวกเขาพูดจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็จะมีกรมอาญาตัดสินโทษให้ข้า ไม่ถึงมือของท่านหรอก!”หยุนเจิงหลุบตาลงถามคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “เจ้าไม่ให้ข้าตัดสินโทษให้เจ้าใช่หรือไม่?”กัวทงแค่นเสียงเย็นชา “ข้าเป็นขุนนางขั้นสี่ ตามกฎหมายของต้าเฉียน ท่านอ๋องไม่มีอำนาจตัดสินโทษข้า!”ให้ตายเถอะ?ใช้กฎหมายต้าเฉียนมาพูดกับตนด้วยนั้นหรือ?“ได้ เช่นนั้นข้าจะไม่ตัดสินโทษเจ้า!”หยุนเจิงเก็บกระบี่ แล้วหันไปสั่งการตู้กุยหยวน “ให้ทุกคนถอยออกไป!”“หา?”ต
เผชิญหน้ากับโจรหลายร้อยคน ทำให้กัวทงพวกเขาแทบจะไม่สามารถสู้กลับได้ถึงแม้ว่าหนึ่งในพวกเขาจะรู้ทักษะการต่อสู้ แต่ก็นับได้ว่าเป็นฝีมือชั้นต้นเท่านั้นไม่นานนัก คนที่สู้อยู่ก็ถูกโจรหลายร้อยคนกลืนกินเสียงร้องทรมานของกัวทงและคนอื่นๆ ดังเข้าหูไม่สิ้นสุดเพียงแต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นหยุนเจิงหรือโจรพวกนี้ก็ตามล้วนแต่ไม่อ่อนข้อให้กับพวกเขาสักนิดไม่นาน เสียงร้องทรมานของกัวทงและคนอื่นๆ ก็หายไป“ฆ่าพวกมันซะ!”“กัวทง เจ้าเองก็มีวันนี้สินะ!”“ตี ตีมันให้ตาย…”แม้ว่ากัวทงและคนอื่นจะไม่มีแรงแม้แต่ส่งเสียงร้องแล้ว โจรเหล่านี้ก็ยังคงไม่ปล่อยพวกเขาไปจนกระทั่งขุนนางทุจริตพวกนี้ถูกทุบตีจนเสียสภาพ โจรเหล่านี้ถึงได้ค่อยๆ ใจเย็นลง“วิ่ง!”“วิ่งเร็ว!”ไม่รู้ว่าใครตะโกน กลุ่มโจรก็วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงราวกับฝูงแมลงวันบางทีการวิ่งหนีอาจเป็นโอกาสที่จะมีชีวิตรอดก็เป็นได้ทว่าหากอยู่ต่อไป ก็จะตายสถานเดียวมองดูโจรที่วิ่งหนีไปทั่วสารทิศแล้ว ทำให้หยุนเจิงส่ายศีรษะอย่างอดไม่ได้หนี?หนีพ้นหรือ?หยุนเจิงโบกมือให้กับตู้กุยหยวนและคนอื่น ฝูงชนรับคำแล้วเริ่มโจมตีตามไปทันทีผ่านไปไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา โจรทุกคน
หยุนเจิงเอ่ยลองเชิง“ท่าน…”เสิ่นลั่วเยี่ยนชะงักงัน เอ่ยกรุ่นโกรธ “ข้าพบว่าท่านนี่มันพูดจาไม่น่าฟังจริงๆ! ข้าอุตส่าห์มาดูท่าน แต่ท่านกลับไม่พูดแม้แต่คำดีๆ เลย?”“เจ้าอยากฟังนั้นหรือ?”หยุนเจิงเลิกคิ้วขึ้น แล้วเอ่ยยิ้มร้าย “อ้ายเฟย กอดข้าที ปลอบใจข้าที!”“ไสหัวไป!”เสิ่นลั่วเยี่ยนจ้องหยุนเจิงด้วยความหงุดหงิด แล้วเปิดม่านลงจากรถไปพูดกับสารเลวคนนี้นี่มันเหนื่อยจริงๆเดิมทียังดีๆ อยู่ พูดไปพูดมากลับไม่เข้ารูปเข้าร่างเสียอย่างนั้น…เกือบจะถึงยามให้ พวกเขาถึงเข้าสู่มณฑลอู่หยางขุนนางส่วนใหญ่ของมณฑลอู่หยางตายไปหมดแล้ว ตำแหน่งขุนนางที่สูงที่สุดในตอนนี้คือนายอำเภอหยุนเจิงสั่งให้คนไปเรียกนายอำเภอมาพร้อมแจ้งว่า “ผู้ว่าการกัวเขาถูกจ้าวเฮยหู่กลุ่มโจรลอบโจมตีขณะที่ไปต้อนรับข้านอกเมือง ถึงแม้ทหารของข้าจะตามไปถึงและกำราบโจรพวกนั้นหมดแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่เหลือรอดสักคน…”“อะไรนะ?”นายอำเภอมองหยุนเจิงด้วยสายตาอ้ำอึ้งราวกับไม่กล้าเชื่อหูของตนเองหยุนเจิงไม่มีใจอธิบายให้เขาฟังมากมายแล้วสั่งการไปอีกว่า “เจ้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลไปก่อนชั่วคราว ประเดี๋ยวแจ้งไปที่ราชวัง ก่อนที่ผู้ว่าการ
หลังจากพักผ่อนที่อู่หยางคืนหนึ่ง ทุกคนก็เดินทางกันต่อเมื่อรู้ว่าหยุนเจิงส่งตู้กุยหยวนพวกเขาไปตรวจดูว่ามีโจรหรือไม่ เสิ่นลั่วเยี่ยนก็อดไม่ได้จะให้คนรับใช้และสาวใช้ตระกูลเสิ่นรวมตัวกันแล้วตามไปฝึกซ้อมด้วย“ไม่ได้!”หยุนเจิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “หน้าที่ของพวกเจ้าคือรักษาความปลอดภัยของข้า ข้าอยู่ที่ไหน พวกเจ้าก็ต้องอยู่ที่นั่น! นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเจ้าต้องเข้าไปยุ่งด้วย!”“ทำไมถึงจะไม่ได้?”เสิ่นลั่วเยี่ยนโมโห “พวกเขาต้องปกป้องท่าน แล้วไม่ต้องเจอเลือดเจอเนื้อหน่อยหรือไง?”“ไม่ได้ก็คือไม่ได้!” หยุนเจิงไม่อยากสาธยายต่อกับเสิ่นลั่วเยี่ยน “อยู่กับกลุ่มใหญ่นี่แหละ! อย่าเข้าไปยุ่งมั่วซั่วเด็ดขาด!”“ข้าจะไป!” เสิ่นลั่วเยี่ยนคัดค้าน “อย่างไรท่านก็ห้ามข้าไม่ได้อยู่แล้ว!”“ข้าห้ามเจ้าไม่ได้จริงๆ”หยุนเจิงพยักหน้ายิ้มแย้ม “หากเจ้าคิดจะไปจริงๆ ข้าเองก็ห้ามไม่ได้! แต่ทว่าหากไปถึงซั่วเป่ยแล้ว เจ้าก็จงเป็นพระชายาของเจ้าดีๆ ซะ แล้วก็ไม่ต้องคิดจะนำทัพอีกตลอดชีวิต”“ท่าน…”เสิ่นลั่วเยี่ยนโมโหสุดขีด พร้อมเบิกตาจ้องหยุนเจิงตาเป็นมันไอ้สารเลว!กล้าเอาเรื่องนี้มาข่มขู่ตนนั้นหรือ?สารเลว!สารเลว
ระหว่างที่พูด เสิ่นลั่วเยี่ยนยังขยิบตาให้กับหยุนเจิงด้วยแต่ทว่า หยุนเจิงดูอย่างไรก็ไม่เหมือนขยิบตาแต่เหมือนแม่เสือกำลังงีบหลับมากกว่า“อะแฮ่มๆ…”หยุนเจิงกระแอมเบาๆ แล้วเอ่ยอย่างยากลำบากว่า “นี่น่ะหรือสิ่งที่เจ้าคิดได้น่ะ?”“อืม”เสิ่นลั่วเยี่ยนพยักหน้าเบาๆ“เช่นนั้นเจ้าคิดผิดแล้ว”หยุนเจิงส่ายศีรษะกล่าว “ข้าไม่ใช่คนประเภทนี้ วิธีนี้ใช้กับข้าไม่ได้”“ไม่ได้กับผีน่ะสิ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนเบะปาก “พี่สะใภ้บอกแล้วว่าท่านเป็นพวกหื่นกาม จะให้ข้า…”เสิ่นลั่วเยี่ยนเปิดเผยตัวตนในบัดดลพูดไปครึ่งประโยค นางถึงรู้ตัวว่าตนหลุดปากพูดออกไปจึงรีบมองขยิบตาให้กับหยุนเจิงพร้อมเขย่าแขนหยุนเจิงเบาๆ เป็นการออดอ้อนหยุนเจิงปั้นหน้านิ่งเขาก็ว่าทำไมเสิ่นลั่วเยี่ยนถึงวิ่งเข้ามาออดอ้อนตนกะทันหันเช่นนี้!ที่แท้ก็เพราะแผนการที่เยี่ยจื่อให้นางนี่เอง“ช่างเถอะ เห็นแก่ที่เจ้ามาออดอ้อนข้า ข้าจะบอกเจ้าเลยแล้วกัน!”หยุนเจิงมองเสิ่นลั่วเยี่ยนอย่างหมดหนทาง “ที่ข้าไม่ให้เจ้าไปก็เพราะว่าจนถึงตอนนี้แล้วเจ้าก็ยังไม่รู้จักคำว่าเชื่อฟังคำสั่ง! เจ้าจำไว้ล่ะ หน้าที่ของทหารก็คือการเชื่อฟังคำสั่ง!”“เชื่อฟังคำสั่ง?
ไม่กี่วันหลังจากนั้น ตู้กุยหยวนพวกเขาเริ่มบุกโจมตีปราบโจรถึงแม้เสิ่นลั่วเยี่ยนจะนิสัยไม่ดี แต่ยังดีที่นางทำตามที่ตกลงเอาไว้เวลาไม่กี่วัน นางก็นำพาองครักษ์ประกบตัวนับสิบคนไปปราบโจร ระหว่างที่สู้รบอยู่นั้น นางก็สามารถเชื่อฟังคำสั่งได้สุยโจวมีโจรมากมายแต่ทว่า โจรหัวโจกที่ใหญ่ที่สุดก็คือพวกจ้าวเฮยหู่โจรอื่นๆ อย่าว่าแต่กลุ่มนับพันคนเลย แม้แต่กลุ่มนับร้อยคนยังมีน้อยพวกเขากำราบโจรด้วยกำลังคนที่ได้เปรียบกว่า ไม่มีโจรคนไหนสู้ได้เลยไม่กี่วัน จุดประสงค์ในการฝึกซ้อมทหารก็ลุล่วงไปด้วยดีที่สำคัญ ไม่มีคนบาดเจ็บเลย แถมยังได้โจรมาเพิ่มเป็นจำนวนสามสิบกว่าคนด้วยเดิมทีโจรพวกนี้ก็เป็นทหารของจวนขุนนาง แต่เพราะถูกตัดเงินจึงลาออก ทว่ากลับถูกจวนขุนนางหมายหัวว่าเป็นทหารหลบหนี จึงต้องตกระกำลำบากเป็นเช่นนี้แต่ทว่าพวกเขาไม่เคยทำเรื่องไม่ดี อย่างมากก็แค่ปล้นพวกทหารใจดำชอบปอกลอกคนอื่นเพื่อความร่ำรวยเท่านั้นเริ่มมีกลิ่นอายของการปล้นเศรษฐีเพื่อช่วยเหลือคนยากจนแล้ว“ข้างหน้าก็เป็นเขตหลินผิงแล้วสินะ?”หยุนเจิงมองไปที่ไกลจากรถม้า แล้วถามเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ“อืม ใช่แล้ว!”เยี่ยจื่อพยักหน้าหงึกๆ
เฝิงอวี้และจั่วเริ่นรู้ว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนก็มีใจอยากฝึกซ้อมทหารเช่นกัน จึงได้มอบหมายโจรกลุ่มเล็กนี้ให้องครักษ์ใกล้ชิดของเสิ่นลั่วเยี่ยนไปจัดการแต่แล้ว พวกเขากลับประเมินโจรกลุ่มนี้ต่ำไปไม่รอให้เสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขารายงาน สิ่งที่ได้มาก็คือข่าวที่ว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาถูกจับเป็นทั้งหมดบัดนี้ เฝิงอวี้และจั่วเริ่นได้ล้อมรอบหุบเขาไป๋ฮวาไว้แล้วแต่ทว่าเพราะเสิ่นลั่วเยี่ยนพระชายาคนนี้ตกอยู่ในมือของพวกโจร พวกเขาจึงไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรบุ่มบ่ามหัวโจกของโจรกลุ่มนั้นบอกแล้วว่าหากจะให้พวกมันปล่อยตัวพระชายา ก็ให้หยุนเจิงผู้เป็นจิ้งเป่ยอ๋องไปเจรจาด้วยตนเอง!ให้เจ้าไปด้วยตนเอง?เยี่ยจื่อขมวดคิ้วสัมผัสได้ถึงความผิดปกติหุบเขาไป๋ฮวา!นั่นมันสถานที่ที่นัดเจอคนจวนเสิ่นไม่ใช่หรือ?หุบเขาไป๋ฮวามีโจรปรากฏตัวขึ้น ทั้งยังจับตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาไว้ มิหนำซ้ำยังจะให้หยุนเจิงไปเจรจาด้วยตนเองด้วยคิดอย่างไรก็รู้สึกเหมือนเป็นกับดักคนพวกนั้นต้องการเอาเปรียบหยุนเจิง!“หรือว่าเรื่องที่เรานัดพบกันที่หุบเขาไป๋ฮวาถูกแพร่งพรายออกไป?”ในตาของเยี่ยจื่อสั่นวูบไหว สงสัยว่าจวนเสิ่นต้องมีไส้ศึกที่จักรพรรด
ควบม้าไปตลอดทาง ในที่สุดหยุนเจิงก็มาถึงหุบเขาไป๋ฮวากระท่อมของโจรหุบเขาไป๋ฮวาพวกนี้เรียบง่ายมากบอกว่าเป็นกระท่อม แต่ความจริงคือใช้หินตั้งเป็นกำแพงอยู่ข้างนอกถ้ำ จากนั้นทำประตูไม้ง่ายๆ เท่านั้นดูก็รู้ว่าโจรพวกนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ไม่สู้ดีนักแต่ทว่าเพียงแค่โจรกระจอกๆ เช่นนี้กลับจับตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาไว้ได้!เกรงว่า โจรที่เดิมครองกระท่อมนั่นคงถูกฆ่าไปหมดแล้วส่วนคนที่เหลืออยู่ที่นั่นน่าจะเป็นคนที่คิดจะเอาชีวิตของตน!มารดามันเถอะ!ประมาทเกินไป!ไม่คิดเลยว่าตระกูลเสิ่นจะมีไส้ศึก!“ข้าน้อยไม่สามารถปกป้องพระชายาไว้ได้ ขอองค์ชายทรงลงโทษด้วย!”เมื่อเห็นหยุนเจิง เฝิงอวี้และจั่วเริ่นต่างก็เผยสีหน้ารู้สึกผิดขอให้ลงโทษตน“ไม่ใช่ความผิดของพวกเจ้า นี่เป็นแผนการของคนอื่น”หยุนเจิงส่ายศีรษะเบาๆ แล้วถาม “ข้างในนั่นมีประมาณกี่คน?”“ไม่เกินยี่สิบคนขอรับ!” เฝิงอวี้รีบตอบน้อยเพียงนี้เชียวหรือ?หยุนเจิงขมวดคิ้วแน่นคนน้อยเพียงนี้ แต่กลับจับตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาไว้ได้ ดูท่าแล้วฝีมือของคนกลุ่มนี้คงจะไม่ธรรมดา!ทำอย่างไรถึงจะช่วยเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาออกมาได้นะ?อีกอย่าง ยังต้องตร
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่