เมื่อรู้ว่าคนของจักรพรรดิเหวินกำลังจับตาดูอยู่ พวกเขาทั้งสามคนก็ไม่กล้าขอให้ปล่อยตัวเองไปอีกในไม่ช้า ทั้งสามคนและคนที่พวกเขาพามาก็ถูกจับมัดไว้ทั้งหมดในตอนนี้เอง เกาเหอได้กลับมาแล้วเหมือนกันมองไปที่เกาเหอที่วิ่งกลับมา พวกหยุนถิงทั้งสามคนก็จ้องเขาด้วยสีหน้าดุร้ายถ้าเกาเหอไม่หลอกพวกเขา พวกเขาจะตกหลุมพรางได้อย่างไร?ห้าร้อยคนเชียวนะ!เมื่อนับรวมกับพวกเขาทั้งสามคนแล้ว ยังถูกจับได้ง่ายดายขนาดนี้!เสด็จพ่อจะต้องพิโรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างแน่นอน“องค์ชายทั้งสามท่าน ต้องขออภัยด้วยจริงๆ”เกาเหอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสามคนที่ถูกมัดไว้กับต้นไม้ ประสานมือโค้งคำนับแล้วกล่าวว่า "ข้าน้อยไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงองค์ชายทั้งสามพระองค์ ล้วนเป็นเพราะการจำลองการรบ ได้โปรดยกโทษให้กับข้าน้อยด้วย"ยกโทษหรือ?ข้ายกโทษกับบรรพบุรุษทั้งสิบแปดรุ่นของเจ้าสิ!หยุนถิงคำรามในใจอย่างบ้าคลั่ง แต่เนื่องจากคนของจักรพรรดิเหวินจ้องมองเขาอยู่ เขาจึงไม่ตวาดใส่หน้าเกาเหอ ทำได้เพียงจ้องเกาเหอด้วยใบหน้าที่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง จากนั้นค่อยๆ หลับตาลงเจ้ารองและเจ้าห้าเองก็มีสีหน้าคล้ายๆ กัน พวกเขาสาปแช่งในใจไม่รู้กี่ร้อยพั
ทันใดนั้น ดวงตาของตู้กุยหยวนก็สว่างขึ้นขณะที่ตู้กุยหยวนกำลังจะเปิดปากพูด เสิ่นลั่วเยี่ยนก็ชิงตัดหน้าก่อนว่า "ข้าคิดออกแล้ว!"“วิธีอะไรหรือ”หยุนเจิงมองไปที่เสิ่นลั่วเยี่ยนทันทีสาวน้อย!ใช้จินตนาการของเจ้า!อย่าทำให้ข้าผิดหวังเชียว!เสิ่นลั่วเยี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง "เราสามารถถอดแถบผ้าบนร่างของพวกเขาลงมาได้ ส่งคนกลุ่มหนึ่งแสร้งทำเป็นคนของพวกเขาแล้วไปรายงานต่อพวกฉินชีหู่ บอกว่าเจ้าถูกจับตัวแล้ว ให้ฉินชีหู่และหยวนกุยรีบเก็บกองกำลังแล้วย้ายไปรวมตัวกันยังจุดที่พวกเสด็จพ่ออยู่!”"ใช่!"ตู้กุยหยวนพยักหน้าและกล่าว "เมื่อสักครู่นี้ข้าเองก็กำลังคิดวิธีนี้อยู่เหมือนกัน! อย่างไรก็ตาม เราต้องส่งหน้าใหม่ออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกจับได้!"“อืม สมเหตุสมผล!”เสิ่นลั่วเยี่ยนพยักหน้าทันที "ทางที่ดีที่สุดคือส่งทหารที่พวกเจ้าคัดเลือกมาในตอนแรกสุดไป! ให้พวกเขาเปลี่ยนไปสวมชุดเกราะของคนเหล่านี้ที่ถูกมัดไว้..."เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นลั่วเยี่ยนและตู้กุยหยวน กลุ่มคนก็เริ่มหารือกันเกี่ยวกับรายละเอียดถ้าจะทำ ก็ต้องทำให้มันไร้จุดบกพร่อง!มิฉะนั้นพวกเขาก็มีแต่จะเสียกำลังคนไปโดยเปล่าประโยชน์!
บริเวณจุดจอดรถม้าจักรพรรดิเหวินกำลังดื่มสุราอยู่กับเหล่าแม่ทัพ แต่กลับใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวในขณะนี้จักรพรรดิเหวินทั้งดีใจทั้งโมโหที่ดีใจก็เพราะ ข้างกายหยุนเจิงมีคนสนิทที่สามารถรับผิดชอบงานใหญ่ได้เสิ่นลั่วเยี่ยนและตู้กุยหยวน ต่างก็ฉลาดกล้าหาญเมื่อมีพวกเขาอยู่เคียงข้างหยุนเจิง แม้จะโยนเจ้าหกทิ้งไว้ที่ซั่วเป่ย เขาก็รู้สึกวางใจแต่เมื่อเขาคิดถึงหยุนถิงและคนอื่นๆ จักรพรรดิเหวินก็โมโหขึ้นมาอีกทหารม้าสามพันนายไล่ตามทหารราบหนึ่งพันนาย!ม้าศึกจำนวนมากกลับถูกยึดไป?ที่สำคัญคือ ทางด้านหยุนเจิงได้รับความเสียหายน้อยกว่ามาก!น่าขายหน้า!นอกจากจะขายหน้าแล้วก็มีแต่ขายหน้า!เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าลูกโง่สามคนนั่นเรียนตำราพิชัยยุทธ์แบบไหน!หากพวกเขาใช้ความคิดใช้อุบายเหมือนในตำราพิชัยสงครามที่ร่ำเรียนสักหน่อย ก็คงไม่ขายหน้าขนาดนี้!เขาแทบรอไม่ไหวที่จะโยนเจ้าสารเลวทั้งสามนี้ไปฝึกฝนที่สนามรบซั่วเป่ย!ในขณะที่จักรพรรดิเหวินกำลังคิดฟุ้งซาน ทันใดนั้นเสียงกีบเท้าม้าที่ดังราวกับเสียงกลองกึกก้องก็แว่วมาแต่ไกล“เกิดอะไรขึ้น”จักรพรรดิเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อยเซียวว่านโฉวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่
“องค์ชายหก?”ทันใดนั้นเปลือกตาของฉินชีหู่ก็กระตุกเขาไม่เห็นเงาของหยุนเจิงด้วยซ้ำ เขาจะไปพาองค์ชายหกมาจากไหนตาเฒ่านี่คงไม่คิดว่าตัวเองจับองค์ชายหกได้กระมังยิ่งฉินชีหู่คิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทันใดนั้นก็ตบกะโหลกเพียะ ตะโกนด้วยความหงุดหงิด “แย่ล่ะ ข้าตกหลุมพรางเขาแล้ว!”ตกหลุมพราง?หลังจากได้ยินคำพูดของฉินชีหู่ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกพิศวงงุนงงเกิดอะไรขึ้นทำไมฉินชีหู่ถึงตกหลุมพรางล่ะในตอนที่ทุกคนกำลังสับสน จู่ๆ ม้าเร็วก็ควบตะบึงเข้ามาอย่างรวดเร็ว “กราบทูลฝ่าบาท องค์ชายหกได้นำกองทหารไปสมทบกับจุดกองหนุนที่ประตูทิศตะวันออกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”อะไรนะเมื่อได้ยินผู้มารายงาน ในสมองของของทุกคนก็ดังหึ่งๆฉินลิ่วก่านโกรธจัด ตะโกนใส่ฉินชีหู่อย่างเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า “เจ้าคนไร้ประโยชน์ มานี่เดี๋ยวนี้! วันนี้ข้าต้องสับเจ้าทั้งเป็นให้ได้!”เมื่อเห็นฉินลิ่วก่านที่โกรธจนเนื้อเต้น ฉินชีหู่ก็ตกใจกลัว เดินงกๆ เงิ่นๆ เข้าไปด้วยความหวาดกลัว“บอกมา เกิดอะไรขึ้นกันแน่”ฉินลิ่วก่านถลึงตามองลูกชายด้วยดวงตาลุกโชน ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อฉินชีหู่ไม่กล้าปิดบังอำพราง ชี้ไปยังคนที่ปลอมต
จักรพรรดิเหวินเรียกราชองครักษ์ที่มอบให้แก่หยุนเจิงเข้ามาเมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของจักรพรรดิเหวินและกลุ่มแม่ทัพ ราชองครักษ์ก็ไม่กล้าพูดโกหก ทำได้เพียงบอกเล่าในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อได้ฟังที่ราชองครักษ์พูดทั้งหมดแล้ว สีหน้าของจักรพรรดิเหวินก็ดูแย่ในทันทีพวกไร้ประโยชน์สามคนนั้น ไม่เพียงแต่ไล่ตามเจ้าหกไม่ได้ แต่ยังถูกเจ้าหกและคนอื่นๆ จับเป็นด้วยงั้นหรือ?นี่คือการฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ที่ไหนกัน?นี่มันเรื่องน่าขันชัดๆ! ทหารม้าชั้นยอดห้าพันคนไล่ล่าและสกัดกั้นทหารราบหนึ่งพันคน พวกเขาไม่เพียงแค่ปล้นม้าสงครามไปมากมาย แต่ยังมีนายพลสามคนที่ถูกจับเป็นอีกด้วย! สิ่งสำคัญก็คือ ตั้งแต่ต้นจนจบ ต่อให้นับจำนวนหยุนเจิงและคนอื่นๆ ที่ไปหลอกฉินชีหู่ แต่พวกเขาสูญเสียคนและม้าไปเพียงแค่สามร้อยคนเท่านั้น! เหล่าแม่ทัพทั้งตกใจและกลืนไม่เข้าคายไม่ออกใครจะคาดคิดว่า หยุนเจิงและคนอื่นๆ จะกล้าใช้กลยุทธ์ที่ไม่ถูกต้อง หลอกลวงจนสามองค์ทั้งสามยอมให้จับโดยไม่ต้องต่อสู้กันเลยทีเดียว! นี่คือการฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้หรือเล่นขายของกัน?“พวกเจ้า ต่างก็ทำได้ดีมาก!”สักครู่ใหญ่ๆ ใบหน้าของจักรพรรดิเหวินก็ผ่อน
การกระจายกำลังทหารไปตามที่ต่างๆ ของหนานย่วน เมื่อได้ยินเสียงกลองก็กลับมารวมตัวกันหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วยาม หยุนถิงและคนอื่นๆ ก็กลับมาในที่สุดในระหว่างนี้ หลายคนที่กระจัดกระจายไป เมื่อได้ยินเสียงกลองก็กลับมาทีละคนขณะนั้นเอง หยุนถิงและอีกสองคนก็ร้อนใจมากทั้งสามคนรีบลงจากม้าที่ด้านหน้าจักรพรรดิเหวินประมาณร้อยเมตร และวิ่งเหยาะๆ เข้ามา“ลูกขอถวายบังคมเสด็จพ่อ...”ทั้งสามมาถึงด้วยใจที่ไม่เป็นสุข และแสดงความเคารพอย่างพร้อมเพรียงกันจักรพรรดิเหวินเก็บอาการ เงยหน้ากวาดตามองพวกเขาทั้งสามคน “พวกเจ้า ทำได้ไม่เลวเลยจริงๆ! มีแม่ทัพที่กล้าหาญและชาญฉลาดอย่างพวกเจ้า ช่างเป็นโชคดีของแคว้นต้าเฉียนจริงๆ!”“ลูกมีความผิด เสด็จพ่อได้โปรดตัดสินลงโทษด้วย!”ทั้งสามคนตกใจกลัว ต่างพากันกล่าวโทษโดยพร้อมกันคนโง่ก็รู้ว่าจักรพรรดิเหวินกำลังพูดประชดประชัน! “ลงโทษงั้นหรือ?”ความเย็นชาแวบผ่านเข้ามในสายตาของจักรพรรดิเหวิน หยิบถาดผลไม้ที่อยู่ด้านข้างเคาะหัวของพวกเขาทั้งสาม คำรามเสียงดังด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและโกรธเกรี้ยว “ข้าถูกเจ้าหกนำทหารมาโจมตีแล้ว! พวกเจ้าทั้งสามก็ถูกจับตั
เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิเหวิน สีหน้าของพวกหยุนถิงทั้งสามพลันเปลี่ยนไปมากนี่แทบจะเหมือนจับพวกเขาขังคุกแล้ว!หากโดนจับขังแล้วพวกเขาจะแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทได้อย่างไรเล่า“เสด็จพ่อ……”หยุนถิงพลันเงยหน้าขึ้น ทำสีหน้าโศกเศร้าเสียใจพลางเอ่ยปากกล่าว “ลูก……”“หุบปากเจ้าซะ!”จักรพรรดิเหวินพูดตัดบทหยุนถิง “เจ้าจะกลับไปเองหรือจะให้ข้าให้คนคุ้มกันไปส่งเจ้ากลับ?”คุ้มกันไปส่ง!หากพูดหยาบหน่อยก็คือการคุมตัวนั่นเอง!หยุนถิงหุบปากไปทันใดคนเหล่านั้นที่เดิมทีคิดจะขอร้องแทนทั้งสามก็ล้วนแต่หุบปากไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกมาตอนนี้จักรพรรดิเหวินกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ผู้ใดริกล้าเอ่ยปากขอร้องออกมา ต้องเป็นคนรับความซวยไปเป็นแน่ทั้งสามก้มหัวโขกศีรษะต่อจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าโสกเศร้าเสียใจ ลุกขึ้นยืนเซซัดโซเซ และเดินออกไปด้วยสีหน้าไม่เต็มใจและอัปยศอดสูเมื่อทั้งสามออกไป สีพระพักตร์จักรพรรดิเหวินถึงจะค่อยๆ คลายโทสะลง“เจ้าหก!”สายตาจักรพรรดิเหวินจ้องมองไปที่หยุนเจิง“พ่ะย่ะค่ะ!”หยุนเจิงรีบลุกพรวดขึ้นจักรพรรดิเหวินเงยพระพักตร์ขึ้น “เจ้าบอกมาซิ ว่าข้าควรตบรางวัลให้ทหารจวนเหล
เจอขุนนางไม่ต้องไหว้ทำความเคารพ ก็ใช่ว่าเข้าราชสำนักแล้วไม่ต้องไหว้ทำความเคารพสักหน่อย!ตู้กุยหยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวขอบคุณ “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”จักรพรรดิเหวินโบกเบาๆ บอกเป็นนัยให้ตู้กุยหยวนถอยกลับไป และกล่าวกับหยุนเจิงอีกว่า “ข้าให้เจ้ายืมม้าศึกเกือบพันตัวแล้ว ส่วนคนอื่นๆ จะไม่ตบรางวัลอันใดให้แล้ว! ที่เหลือ เจ้าไปจัดการกันเอาเองก็แล้วกัน!”จักรพรรดิเหวินให้โอกาสหยุนเจิงได้ตบรางวัลให้คนอื่นๆ เพื่อให้โอกาสหยุนเจิงเอาชนะใจคนอื่นให้ได้“ลูกเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”หยุนเจิงหยักหน้าเบาๆ แต่ในใจกลับดีใจเป็นอย่างยิ่งช่างคิดไม่ภถึงจริงๆ!การแสดงศิลปะการต่อสู้จำลองเพียงแค่หนึ่งสนาม นึกไม่ถึงเลยว่าจะทำให้สถานการณ์ของตนเองเปลี่ยนไปขนานใหญ่เช่นนี้ได้!ครานี้ ตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ก็ไม่ต้องมาเซ้าซี้ถามตนเรื่องม้าศึกอีกต่อไปแล้ว!“ฉินชีหู่ หยวนกุย!”จักรพรรดิเหวินเรียกทั้งสองออกมาด้านหน้าทั้งสองกลัดกลุ้มใจมาก ก้มหน้าก้มตาเดินออกมาก่อนจะโค้งคำคารวะในใจของทั้งสองรู้ดีว่าพวกเขาถึงคราซวยแล้วพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชเช่นนี้ แม้แต่องค์ชายทั้งสามล้วนแต่ถูกลงโทษไปแล้ว
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่