แชร์

บทที่ 280

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-22 17:00:00
การกระจายกำลังทหารไปตามที่ต่างๆ ของหนานย่วน เมื่อได้ยินเสียงกลองก็กลับมารวมตัวกัน

หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วยาม หยุนถิงและคนอื่นๆ ก็กลับมาในที่สุด

ในระหว่างนี้ หลายคนที่กระจัดกระจายไป เมื่อได้ยินเสียงกลองก็กลับมาทีละคน

ขณะนั้นเอง หยุนถิงและอีกสองคนก็ร้อนใจมาก

ทั้งสามคนรีบลงจากม้าที่ด้านหน้าจักรพรรดิเหวินประมาณร้อยเมตร และวิ่งเหยาะๆ เข้ามา

“ลูกขอถวายบังคมเสด็จพ่อ...”

ทั้งสามมาถึงด้วยใจที่ไม่เป็นสุข และแสดงความเคารพอย่างพร้อมเพรียงกัน

จักรพรรดิเหวินเก็บอาการ เงยหน้ากวาดตามองพวกเขาทั้งสามคน “พวกเจ้า ทำได้ไม่เลวเลยจริงๆ! มีแม่ทัพที่กล้าหาญและชาญฉลาดอย่างพวกเจ้า ช่างเป็นโชคดีของแคว้นต้าเฉียนจริงๆ!”

“ลูกมีความผิด เสด็จพ่อได้โปรดตัดสินลงโทษด้วย!”

ทั้งสามคนตกใจกลัว ต่างพากันกล่าวโทษโดยพร้อมกัน

คนโง่ก็รู้ว่าจักรพรรดิเหวินกำลังพูดประชดประชัน!

“ลงโทษงั้นหรือ?”

ความเย็นชาแวบผ่านเข้ามในสายตาของจักรพรรดิเหวิน หยิบถาดผลไม้ที่อยู่ด้านข้างเคาะหัวของพวกเขาทั้งสาม คำรามเสียงดังด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและโกรธเกรี้ยว “ข้าถูกเจ้าหกนำทหารมาโจมตีแล้ว! พวกเจ้าทั้งสามก็ถูกจับตั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Wisithsak Di Chaikitpinyo
แต่งเรื่อวได้ดีน่าติดตาม​มาก​
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 281

    เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิเหวิน สีหน้าของพวกหยุนถิงทั้งสามพลันเปลี่ยนไปมากนี่แทบจะเหมือนจับพวกเขาขังคุกแล้ว!หากโดนจับขังแล้วพวกเขาจะแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทได้อย่างไรเล่า“เสด็จพ่อ……”หยุนถิงพลันเงยหน้าขึ้น ทำสีหน้าโศกเศร้าเสียใจพลางเอ่ยปากกล่าว “ลูก……”“หุบปากเจ้าซะ!”จักรพรรดิเหวินพูดตัดบทหยุนถิง “เจ้าจะกลับไปเองหรือจะให้ข้าให้คนคุ้มกันไปส่งเจ้ากลับ?”คุ้มกันไปส่ง!หากพูดหยาบหน่อยก็คือการคุมตัวนั่นเอง!หยุนถิงหุบปากไปทันใดคนเหล่านั้นที่เดิมทีคิดจะขอร้องแทนทั้งสามก็ล้วนแต่หุบปากไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกมาตอนนี้จักรพรรดิเหวินกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ผู้ใดริกล้าเอ่ยปากขอร้องออกมา ต้องเป็นคนรับความซวยไปเป็นแน่ทั้งสามก้มหัวโขกศีรษะต่อจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าโสกเศร้าเสียใจ ลุกขึ้นยืนเซซัดโซเซ และเดินออกไปด้วยสีหน้าไม่เต็มใจและอัปยศอดสูเมื่อทั้งสามออกไป สีพระพักตร์จักรพรรดิเหวินถึงจะค่อยๆ คลายโทสะลง“เจ้าหก!”สายตาจักรพรรดิเหวินจ้องมองไปที่หยุนเจิง“พ่ะย่ะค่ะ!”หยุนเจิงรีบลุกพรวดขึ้นจักรพรรดิเหวินเงยพระพักตร์ขึ้น “เจ้าบอกมาซิ ว่าข้าควรตบรางวัลให้ทหารจวนเหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 282

    เจอขุนนางไม่ต้องไหว้ทำความเคารพ ก็ใช่ว่าเข้าราชสำนักแล้วไม่ต้องไหว้ทำความเคารพสักหน่อย!ตู้กุยหยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวขอบคุณ “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”จักรพรรดิเหวินโบกเบาๆ บอกเป็นนัยให้ตู้กุยหยวนถอยกลับไป และกล่าวกับหยุนเจิงอีกว่า “ข้าให้เจ้ายืมม้าศึกเกือบพันตัวแล้ว ส่วนคนอื่นๆ จะไม่ตบรางวัลอันใดให้แล้ว! ที่เหลือ เจ้าไปจัดการกันเอาเองก็แล้วกัน!”จักรพรรดิเหวินให้โอกาสหยุนเจิงได้ตบรางวัลให้คนอื่นๆ เพื่อให้โอกาสหยุนเจิงเอาชนะใจคนอื่นให้ได้“ลูกเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”หยุนเจิงหยักหน้าเบาๆ แต่ในใจกลับดีใจเป็นอย่างยิ่งช่างคิดไม่ภถึงจริงๆ!การแสดงศิลปะการต่อสู้จำลองเพียงแค่หนึ่งสนาม นึกไม่ถึงเลยว่าจะทำให้สถานการณ์ของตนเองเปลี่ยนไปขนานใหญ่เช่นนี้ได้!ครานี้ ตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ก็ไม่ต้องมาเซ้าซี้ถามตนเรื่องม้าศึกอีกต่อไปแล้ว!“ฉินชีหู่ หยวนกุย!”จักรพรรดิเหวินเรียกทั้งสองออกมาด้านหน้าทั้งสองกลัดกลุ้มใจมาก ก้มหน้าก้มตาเดินออกมาก่อนจะโค้งคำคารวะในใจของทั้งสองรู้ดีว่าพวกเขาถึงคราซวยแล้วพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชเช่นนี้ แม้แต่องค์ชายทั้งสามล้วนแต่ถูกลงโทษไปแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 283

    เมื่อทุกคนกลับมารวมตัวกันครบหมดแล้ว หยุนเจิงจึงประกาศตบรางวัลให้ทุกคนคนละหนึ่งร้อยตำลึงส่วนตู้กุยหยวนและพวกทั้งสี่คนที่เป็นรองผู้บัญชาการได้รับรางวัลคนละสองร้อยตำลึงเพียงเอ่ยปากตบรางวัลไม่กี่วินาที เงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงก็หมดลงแล้วภูมิหลังของหยุนเจิงนับว่าร่ำรวยเลยทีเดียว แค่นี้ไม่ถึงกับขนหน้าแข้งร่วงได้ม้าศึกมาแล้ว อีกทั้งยังได้เงินเป้นรางวัลเช่นนี้อีก แน่นอนว่าทุกคนล้วนดีอกดีใจเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่แยกกับตู้กุยหยวนและพวกแล้ว เสิ่นลั่วเยี่ยนจึงมองหยุนเจิงด้วยสีหน้าที่ทางไม่พอใจ “เจ้ามันช่างใจกว้างยิ่งนัก!”“มันก็เป็นเรื่องที่สมควรใจกว้างอยู่แล้วหนิ่!”หยุนเจิงยิ้มเล็กน้อย “อีกไม่นานพวกเขาก็จะร่วมทางไปซั่วเป่ยกับเราแล้ว ไปซั่วเป่ยในครั้งนี้ จะเป็นหรือตายก็ยากที่จะคาดเดาได้ เงินเหล่านี้ก็คือเงินช่วยเหลือครอบครัวพวกเขา”“ข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้”เสิ่นลั่วเยี่ยนเลิกคิ้วขึ้น และกล่าวอย่างลำพองใจว่า “หากวันนี้ข้าไม่คิดวิธีแย่งชิงม้าศึกมา เจ้าจะได้รับชัยชนะหรือ เจ้าไม่คิดจะมอบประโยชน์ใดให้ข้าสักหน่อยหรือไง?”สำหรับการแสดงฝีมือของตนเองในวันนี้ เสิ่นลั่วเยี่ยนพึงพอใจเป็นอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 284

    “พ่ะย่ะค่ะ!”ทั้งสองซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งหลังจากมอบหมายภารกิจเสร็จ หยุนเจิงก็กลับเข้าไปในห้องให้ตายเถอะ!จะมอบสิ่งใดให้เสิ่นลั่วเยี่ยนดีล่ะจะเล่นก็เล่นจะโกรธก็โกรธสิชายาตนเอง อย่างไรก็ต้องตามใจเอาไว้ก่อน!ทว่า คิดไปคิดมา หยุนเจิงก็คิดหาของเหมาะสมไม่ออกช่างเถอะ ค่อยไปถามเยี่ยจื่อก็แล้วกัน!นางเข้าใจเสิ่นลั่วเยี่ยนที่สุด นางน่าจะรู้ว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนชอบสิ่งใดและในขณะที่หยุนเจิงกำลังตัดสินใจอยู่นั้น เมี่ยวอินก็มาหาเขาในมือของนางถือกล่องอันประณีตมาใบหนึ่งหยุนเจิงแปลกใจเล็กน้อย กล่าวด้วยความสนใจว่า “นี่เจ้าเอาของขวัญมาให้ข้าหรือ?”“เดาถูกแล้วล่ะ”เมี่ยวอินพยักหน้าเบาๆ และยื่นกล่องในมือให้กับหยุนเจิง “ของสิ่งนี้ข้าน่าจะไม่ได้ใช้มันแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้ามอบให้เจ้าก็แล้วกัน!”ห๊ะ!หยุนเจิงประหลาดใจมาก จึงรีบเปิดกล่องใบนั้นในกล่องเป็นวัตถุขนาดเท่าพู่กันชิ้นหนึ่งที่ทำมาจากทองเหลืองดูๆ แล้วมีความประณีตยังนัก“มันคืออันใดกัน?”หยุนเจิงถามด้วยความแปลกใจเมี่ยวอินกล่าวอธิบายว่า “มันคือพิรุณบุปผา เป็นอาวุธลับชนิดหนึ่ง……”ในพิรุณบุปผานี้มีเข็มพิษอยู่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-24
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 285

    ในขณะที่เขาเดินไปที่โถงด้านหน้ากับเยี่ยจื่อนั้น หยุนเจิงก้เอ่ยปากถามนางถึงของชอบของเสิ่นลั่วเยี่ยน“ท่านช่างไม่มีความจริงใจเอาซะเลย!”เยี่ยจื่อยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางกล่าว “ท่านจะมอบของให้นางยังต้องมาถามข้าอีกหรือ?”หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา “ก็ข้าไม่รู้นี่หน่าว่านางชอบสิ่งใด”“ท่านคิดเอาเองเถอะ!”ในขณะที่เยี่ยจื่อตอบไปนั้น นางก็มองหยุนเจิงด้วยความเป็นสุขบนความทุกข์ของเขาหยุนเจิงจนปัญญาแล้วจริงๆนี่นางกำลังแก้แค้นตนเรื่องที่ตนแกล้งนางในครั้งก่อนหรือเฮ้อ!ดูท่าคงต้องใช้สมองคิดเองแล้วล่ะ!ไม่นานนัก หยุนเจิงก้เดินมาถึงห้องโถงด้านหน้าสตรีผู้นำอย่างเสิ่นลั่วเยี่ยนผู้นี้กำลังนั่งพูดคุยเป็นเพื่อนกับฉินชีหู่หน้าตาของฉินชีหู่ฟกช้ำดำเขียว ดูท่าจะถูกทุบตีอย่างน่าสังเวชจริงๆเมื่อเห็นสภาพของฉินชีหู่แล้ว หยุนเจิงยิ่งรู้สึกผิดต่อเขามากเห็นหยุนเจิงมาแล้ว เสิ่นลั่วเยี่ยนก็ลุกขึ้นทันที “พี่ใหญ่ฉิน ข้ามีเรื่องต้องจัดการ ต้องขอตัวก่อน”“ไม่เป็นไร!”ฉินชีหู่พยักหน้า ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยความขุ่นเคือง“พี่ใหญ่ฉิน ข้าต้องขอโทษมากจริงๆ ที่ทำให้พี่ใหญ่ฉินต้องถูกทุบตีจนกลายเป็นสภ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-24
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 286

    “ดี เยี่ยมเลย!”หยุนเจิงรีบตอบรับทันที “คืนนี้น้องรักอย่างข้าจะดื่มกับพี่ใหญ่ฉินเอง เพื่อเป็นการขอโทษพี่ใหญ่ฉินด้วย”“เจ้าพูดว่าขอโทษมันดูห่างเหินไปหน่อยแล้ว!”ฉินชีหู่กล่าวด้วยอย่างสบายว่า “จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้ก็โทษเจ้าไม่ได้ พูดตามตรง เป็นข้าเองที่ไม่ได้เรื่อง ทำสุกเอาเผากินก็โดนหลอกเอาซะได้!”ฉินชีหู่ไม่พอใจในผลงานของตัวเองในวันนี้เลยและที่สำคัญที่สุดก็คือ เขายังไม่ทันได้สแดงฝีมือก็ถูกหลอกให้กลับไปแล้ว!เมื่อย้อนกลับไปคิดดูแล้วช่างรู้สึกอับอายขายขี้หน้าเสียจริงนี่หากอยู่ในสนามรบจริงแล้วล่ะก็ มันไม่แค่ถูกทุบตีเท่านั้นแล้ว!อย่างน้อยก็ถูกโบยสิบไม้ รุนแรงสุด เกรงว่าจะถูกทุบตีจนกระบาลแตกเป็นเสี่ยงๆยามรัตติกาล ฉินชีหู่ก็อยู่ดื่มสุรากับหยุนเจิงที่จวนฉินชีหู่เป็นคนกล้าได้กล้าเสียและตรงไปตรงมา เรื่องดื่มสุราก็เช่นกันเดิมทียกซดคนละจอกและแน่นอนว่านี่ก็เป็นเพราะฤทธิ์สุราของต้าเฉียนไม่แรงพอคนทั่วไปล้วนแต่ดื่มสุราข้าวหมากที่ขุ่นทั้งสิ้นแม้แต่เหล้าชั้นดีในวังก็ไม่ได้ใสดั่งน้ำเมื่อดื่มจนได้ที่ ฉินชีหู่ตบไหล่หยุนเจิง และกล่าวด้วยท่วงท่าสบายว่า “น้องรัก เจ้าไปซั่วเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-24
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 287

    หลังจากที่การประลองที่หนานย่วนจบลง หยุนเจิงก็ไม่ได้ไปเรียนยุทธวิธีการรบกับเซียวติ้งอู่อีกเลยจักรพรรดิเหวินเองก็ไม่ได้ก้าวก่ายเขาแต่อย่างใดคงจะเห็นว่าข้างกายเขามีคนคอยวางแผนกลยุทธ์อย่างเสิ่นลั่วเยี่ยนและตู้กุยหยวนก้เพียงพอแล้วกระมัง ต่อให้เขาดั้นด้นเรียนยุทธวิธีการรบต่อก็ไม่ได้มีความหมายมากนักด้วยเหตุนี้หยุนเจิงจึงมีเวลาพักผ่อนหย่อนใจและออกไปเที่ยวเตร่กับจางซูอีกครั้งหลังจากเสร็จจากมื้อเช้า หยุนเจิงก็ไปหาจางซูวันนี้ต้องพูดกับจางซูเรื่องที่เขาต้องไปซั่วเป่ยกับตนแล้วลองดูก่อนว่าจางซูมีท่าทางเช่นไร ถึงจะเดินหมากในก้าวต่อไปได้ในขณะที่หยุนเจิงมาถึงจวนของจางซูนั้น จางซูกำลังปรับปรุงไม้หน้ากลอยู่พอดี“ปรับไม้หน้ากลไปถึงไหนแล้วล่ะ”หยุนเจิงกล่าวถามจางซูอย่างกระตือรือร้น“ก็ไม่อย่างไร”จางซูส่ายหน้าด้วยความกลัดกลุ้มใจพลางกล่าวว่า “องค์ชายหก กระหม่อมแนะนำว่าอย่าทำสิ่งนี้เลย…..”เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว จางซูก็บอกถึงปัญหามากมายที่เกี่ยวกับไม้หน้ากลปัญหาความแม่นยำนั้นแก้ไขง่าย ปัญหาของความยืดหยุ่นจางซูก็แก้ไขแล้วในภายหลังแต่ปัญหาของระยะทางที่จะยิงไปถึงนั้นมันแก้ไขยากมากจริงๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 288

    “เช่นนี้ไม่ต้องไปซั่วเป่ยก็ได้!”จางโบกมือยิ้มเหอะๆ พลางกล่าว “หากองค์ชายหกเห็นของดีอันใดที่ซั่วเป่ยก็ให้คนมาส่งข่าวก็พอแล้ว เมื่อถึงเวลาทำเงินข้าจะให้คนเอาไปส่งให้องค์ชายที่ซั่วเป่ย”เหอะๆเขากล่าวเช่นนี้เพียงแต่ว่า เมื่อถึงตอนนั้นจริงๆ เกรงว่ามันจะไม่ง่ายแล้วหน่ะสิขุนนางในราชสำนักไม่ใช่คนโง่เขลาหากค้นพบว่าเขามีความคิดรวบรวมทัพทหารก็คงไม่ปล่อยให้จางซูส่งเงินส่งเสบียงไปให้เขาหรอกให้ตายสิ!และนี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งเช่นกัน!ช่างเถอะ!ไม่จำเป็นต้องล่าจางซูไปซั่วเป่ยจนถึงขั้นต้องเปิดเผยเจตนาที่แท้จริงของตนเองหรอกหากตนมีรากฐานที่มั่นคงในซั่วเป่ยแล้ว ค่อยหาใครสักคนที่ช่วยเขาทำเงินได้ก็สิ้นเรื่อง!เยี่ยจื่อก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมไม่ใช่หรอกหรือเมื่อถึงตอนนั้นหากจางซูไปซั่วเป่ยได้ก็ใช้จางซูหากไม่ได้ ก็คงจะฝึกเยี่ยจื่อแล้ว!ใช่ ตัดสินใจเช่นนี้ก็แล้วกัน!เห็นหยุนเจิงเงียบไม่เอ่ยปากกล่าวอันใดเช่นนี้ จางซูก็ดกล่าวถามลองเชิงว่า “องค์ชายหก นี่องค์ชายกำลังกลัวว่าหากไปซั่วเป่ยแล้วข้าจะไม่แบ่งกำไรให้ใช่หรือไม่ องค์ชายวางใจเถอะ ข้าจางซูไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน……”“ข้าไม่ได้กลัวสักห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-25

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status