"ขณะที่พวกเขากำลังแสดงละครกันอย่างหน้าซื่อใจคด คนของหยุนเจิงก็ล่าถอยไปทีละคนโดยไม่รู้ตัว พวกเขาก็ถอยไปอยู่ข้างๆ คนกลุ่มนั้นที่ทั้งสามคนพามาทั้งสามคนไม่รู้เลยถึงสถานการณ์เบื้องหลังพวกเขา ยังคงจมอยู่กับ 'ความโศกเศร้า'ก็จริงทั้งสามคนนั้นเสียใจไม่ลงจริงๆไม่อย่างนั้น จะอย่างไรทั้งสามคนก็ต้องบีบน้ำตาออกมาสองสามหยดตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ เฝ้าดูการแสดงของทั้งสามคนอย่างเงียบๆ ขณะเดียวกันก็ลอบจับตาความเคลื่อนไหวของเหล่าทหารรอจนกระทั่งทหารเหล่านั้นเข้าใกล้เขตเป้าหมายของตน ดวงตาของตู้กุยหยวนก็ฉายแววเย็นชา และทันใดนั้นเขาก็ร้องตะโกนว่า "ลงมือ!"สิ้นเสียงคำสั่งของตู้กุยหยวน ผู้คนที่อยู่รอบๆ หยุนเจิงก็รีบจับองค์ชายทั้งสามที่ยังไม่ได้สติกลับมาดีทหารเหล่านั้นที่ตั้งท่ามาเป็นเวลานาน ก็เข้าโจมตีเป้าหมายของตัวเองเหมือนกันทหารที่นำโดยหยุนถิงและคนอื่นๆ ไม่ได้มีการป้องกันสักนิด เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างกะทันหัน หลายคนก็ถูกจับก่อนที่ตัวเองจะตอบสนองกลับมาเสียอีกต่อให้มีคนจำนวนเล็กน้อยที่มีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็ว สามารถหลบหนีการลอบโจมตีของคนของหยุนเจิงได้ แต่พวกเขาก็ถูกล้อมด้วยคนจำนวน
เมื่อรู้ว่าคนของจักรพรรดิเหวินกำลังจับตาดูอยู่ พวกเขาทั้งสามคนก็ไม่กล้าขอให้ปล่อยตัวเองไปอีกในไม่ช้า ทั้งสามคนและคนที่พวกเขาพามาก็ถูกจับมัดไว้ทั้งหมดในตอนนี้เอง เกาเหอได้กลับมาแล้วเหมือนกันมองไปที่เกาเหอที่วิ่งกลับมา พวกหยุนถิงทั้งสามคนก็จ้องเขาด้วยสีหน้าดุร้ายถ้าเกาเหอไม่หลอกพวกเขา พวกเขาจะตกหลุมพรางได้อย่างไร?ห้าร้อยคนเชียวนะ!เมื่อนับรวมกับพวกเขาทั้งสามคนแล้ว ยังถูกจับได้ง่ายดายขนาดนี้!เสด็จพ่อจะต้องพิโรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างแน่นอน“องค์ชายทั้งสามท่าน ต้องขออภัยด้วยจริงๆ”เกาเหอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสามคนที่ถูกมัดไว้กับต้นไม้ ประสานมือโค้งคำนับแล้วกล่าวว่า "ข้าน้อยไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงองค์ชายทั้งสามพระองค์ ล้วนเป็นเพราะการจำลองการรบ ได้โปรดยกโทษให้กับข้าน้อยด้วย"ยกโทษหรือ?ข้ายกโทษกับบรรพบุรุษทั้งสิบแปดรุ่นของเจ้าสิ!หยุนถิงคำรามในใจอย่างบ้าคลั่ง แต่เนื่องจากคนของจักรพรรดิเหวินจ้องมองเขาอยู่ เขาจึงไม่ตวาดใส่หน้าเกาเหอ ทำได้เพียงจ้องเกาเหอด้วยใบหน้าที่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง จากนั้นค่อยๆ หลับตาลงเจ้ารองและเจ้าห้าเองก็มีสีหน้าคล้ายๆ กัน พวกเขาสาปแช่งในใจไม่รู้กี่ร้อยพั
ทันใดนั้น ดวงตาของตู้กุยหยวนก็สว่างขึ้นขณะที่ตู้กุยหยวนกำลังจะเปิดปากพูด เสิ่นลั่วเยี่ยนก็ชิงตัดหน้าก่อนว่า "ข้าคิดออกแล้ว!"“วิธีอะไรหรือ”หยุนเจิงมองไปที่เสิ่นลั่วเยี่ยนทันทีสาวน้อย!ใช้จินตนาการของเจ้า!อย่าทำให้ข้าผิดหวังเชียว!เสิ่นลั่วเยี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง "เราสามารถถอดแถบผ้าบนร่างของพวกเขาลงมาได้ ส่งคนกลุ่มหนึ่งแสร้งทำเป็นคนของพวกเขาแล้วไปรายงานต่อพวกฉินชีหู่ บอกว่าเจ้าถูกจับตัวแล้ว ให้ฉินชีหู่และหยวนกุยรีบเก็บกองกำลังแล้วย้ายไปรวมตัวกันยังจุดที่พวกเสด็จพ่ออยู่!”"ใช่!"ตู้กุยหยวนพยักหน้าและกล่าว "เมื่อสักครู่นี้ข้าเองก็กำลังคิดวิธีนี้อยู่เหมือนกัน! อย่างไรก็ตาม เราต้องส่งหน้าใหม่ออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกจับได้!"“อืม สมเหตุสมผล!”เสิ่นลั่วเยี่ยนพยักหน้าทันที "ทางที่ดีที่สุดคือส่งทหารที่พวกเจ้าคัดเลือกมาในตอนแรกสุดไป! ให้พวกเขาเปลี่ยนไปสวมชุดเกราะของคนเหล่านี้ที่ถูกมัดไว้..."เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นลั่วเยี่ยนและตู้กุยหยวน กลุ่มคนก็เริ่มหารือกันเกี่ยวกับรายละเอียดถ้าจะทำ ก็ต้องทำให้มันไร้จุดบกพร่อง!มิฉะนั้นพวกเขาก็มีแต่จะเสียกำลังคนไปโดยเปล่าประโยชน์!
บริเวณจุดจอดรถม้าจักรพรรดิเหวินกำลังดื่มสุราอยู่กับเหล่าแม่ทัพ แต่กลับใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวในขณะนี้จักรพรรดิเหวินทั้งดีใจทั้งโมโหที่ดีใจก็เพราะ ข้างกายหยุนเจิงมีคนสนิทที่สามารถรับผิดชอบงานใหญ่ได้เสิ่นลั่วเยี่ยนและตู้กุยหยวน ต่างก็ฉลาดกล้าหาญเมื่อมีพวกเขาอยู่เคียงข้างหยุนเจิง แม้จะโยนเจ้าหกทิ้งไว้ที่ซั่วเป่ย เขาก็รู้สึกวางใจแต่เมื่อเขาคิดถึงหยุนถิงและคนอื่นๆ จักรพรรดิเหวินก็โมโหขึ้นมาอีกทหารม้าสามพันนายไล่ตามทหารราบหนึ่งพันนาย!ม้าศึกจำนวนมากกลับถูกยึดไป?ที่สำคัญคือ ทางด้านหยุนเจิงได้รับความเสียหายน้อยกว่ามาก!น่าขายหน้า!นอกจากจะขายหน้าแล้วก็มีแต่ขายหน้า!เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าลูกโง่สามคนนั่นเรียนตำราพิชัยยุทธ์แบบไหน!หากพวกเขาใช้ความคิดใช้อุบายเหมือนในตำราพิชัยสงครามที่ร่ำเรียนสักหน่อย ก็คงไม่ขายหน้าขนาดนี้!เขาแทบรอไม่ไหวที่จะโยนเจ้าสารเลวทั้งสามนี้ไปฝึกฝนที่สนามรบซั่วเป่ย!ในขณะที่จักรพรรดิเหวินกำลังคิดฟุ้งซาน ทันใดนั้นเสียงกีบเท้าม้าที่ดังราวกับเสียงกลองกึกก้องก็แว่วมาแต่ไกล“เกิดอะไรขึ้น”จักรพรรดิเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อยเซียวว่านโฉวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่
“องค์ชายหก?”ทันใดนั้นเปลือกตาของฉินชีหู่ก็กระตุกเขาไม่เห็นเงาของหยุนเจิงด้วยซ้ำ เขาจะไปพาองค์ชายหกมาจากไหนตาเฒ่านี่คงไม่คิดว่าตัวเองจับองค์ชายหกได้กระมังยิ่งฉินชีหู่คิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทันใดนั้นก็ตบกะโหลกเพียะ ตะโกนด้วยความหงุดหงิด “แย่ล่ะ ข้าตกหลุมพรางเขาแล้ว!”ตกหลุมพราง?หลังจากได้ยินคำพูดของฉินชีหู่ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกพิศวงงุนงงเกิดอะไรขึ้นทำไมฉินชีหู่ถึงตกหลุมพรางล่ะในตอนที่ทุกคนกำลังสับสน จู่ๆ ม้าเร็วก็ควบตะบึงเข้ามาอย่างรวดเร็ว “กราบทูลฝ่าบาท องค์ชายหกได้นำกองทหารไปสมทบกับจุดกองหนุนที่ประตูทิศตะวันออกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”อะไรนะเมื่อได้ยินผู้มารายงาน ในสมองของของทุกคนก็ดังหึ่งๆฉินลิ่วก่านโกรธจัด ตะโกนใส่ฉินชีหู่อย่างเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า “เจ้าคนไร้ประโยชน์ มานี่เดี๋ยวนี้! วันนี้ข้าต้องสับเจ้าทั้งเป็นให้ได้!”เมื่อเห็นฉินลิ่วก่านที่โกรธจนเนื้อเต้น ฉินชีหู่ก็ตกใจกลัว เดินงกๆ เงิ่นๆ เข้าไปด้วยความหวาดกลัว“บอกมา เกิดอะไรขึ้นกันแน่”ฉินลิ่วก่านถลึงตามองลูกชายด้วยดวงตาลุกโชน ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อฉินชีหู่ไม่กล้าปิดบังอำพราง ชี้ไปยังคนที่ปลอมต
จักรพรรดิเหวินเรียกราชองครักษ์ที่มอบให้แก่หยุนเจิงเข้ามาเมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของจักรพรรดิเหวินและกลุ่มแม่ทัพ ราชองครักษ์ก็ไม่กล้าพูดโกหก ทำได้เพียงบอกเล่าในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อได้ฟังที่ราชองครักษ์พูดทั้งหมดแล้ว สีหน้าของจักรพรรดิเหวินก็ดูแย่ในทันทีพวกไร้ประโยชน์สามคนนั้น ไม่เพียงแต่ไล่ตามเจ้าหกไม่ได้ แต่ยังถูกเจ้าหกและคนอื่นๆ จับเป็นด้วยงั้นหรือ?นี่คือการฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ที่ไหนกัน?นี่มันเรื่องน่าขันชัดๆ! ทหารม้าชั้นยอดห้าพันคนไล่ล่าและสกัดกั้นทหารราบหนึ่งพันคน พวกเขาไม่เพียงแค่ปล้นม้าสงครามไปมากมาย แต่ยังมีนายพลสามคนที่ถูกจับเป็นอีกด้วย! สิ่งสำคัญก็คือ ตั้งแต่ต้นจนจบ ต่อให้นับจำนวนหยุนเจิงและคนอื่นๆ ที่ไปหลอกฉินชีหู่ แต่พวกเขาสูญเสียคนและม้าไปเพียงแค่สามร้อยคนเท่านั้น! เหล่าแม่ทัพทั้งตกใจและกลืนไม่เข้าคายไม่ออกใครจะคาดคิดว่า หยุนเจิงและคนอื่นๆ จะกล้าใช้กลยุทธ์ที่ไม่ถูกต้อง หลอกลวงจนสามองค์ทั้งสามยอมให้จับโดยไม่ต้องต่อสู้กันเลยทีเดียว! นี่คือการฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้หรือเล่นขายของกัน?“พวกเจ้า ต่างก็ทำได้ดีมาก!”สักครู่ใหญ่ๆ ใบหน้าของจักรพรรดิเหวินก็ผ่อน
การกระจายกำลังทหารไปตามที่ต่างๆ ของหนานย่วน เมื่อได้ยินเสียงกลองก็กลับมารวมตัวกันหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วยาม หยุนถิงและคนอื่นๆ ก็กลับมาในที่สุดในระหว่างนี้ หลายคนที่กระจัดกระจายไป เมื่อได้ยินเสียงกลองก็กลับมาทีละคนขณะนั้นเอง หยุนถิงและอีกสองคนก็ร้อนใจมากทั้งสามคนรีบลงจากม้าที่ด้านหน้าจักรพรรดิเหวินประมาณร้อยเมตร และวิ่งเหยาะๆ เข้ามา“ลูกขอถวายบังคมเสด็จพ่อ...”ทั้งสามมาถึงด้วยใจที่ไม่เป็นสุข และแสดงความเคารพอย่างพร้อมเพรียงกันจักรพรรดิเหวินเก็บอาการ เงยหน้ากวาดตามองพวกเขาทั้งสามคน “พวกเจ้า ทำได้ไม่เลวเลยจริงๆ! มีแม่ทัพที่กล้าหาญและชาญฉลาดอย่างพวกเจ้า ช่างเป็นโชคดีของแคว้นต้าเฉียนจริงๆ!”“ลูกมีความผิด เสด็จพ่อได้โปรดตัดสินลงโทษด้วย!”ทั้งสามคนตกใจกลัว ต่างพากันกล่าวโทษโดยพร้อมกันคนโง่ก็รู้ว่าจักรพรรดิเหวินกำลังพูดประชดประชัน! “ลงโทษงั้นหรือ?”ความเย็นชาแวบผ่านเข้ามในสายตาของจักรพรรดิเหวิน หยิบถาดผลไม้ที่อยู่ด้านข้างเคาะหัวของพวกเขาทั้งสาม คำรามเสียงดังด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและโกรธเกรี้ยว “ข้าถูกเจ้าหกนำทหารมาโจมตีแล้ว! พวกเจ้าทั้งสามก็ถูกจับตั
เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิเหวิน สีหน้าของพวกหยุนถิงทั้งสามพลันเปลี่ยนไปมากนี่แทบจะเหมือนจับพวกเขาขังคุกแล้ว!หากโดนจับขังแล้วพวกเขาจะแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทได้อย่างไรเล่า“เสด็จพ่อ……”หยุนถิงพลันเงยหน้าขึ้น ทำสีหน้าโศกเศร้าเสียใจพลางเอ่ยปากกล่าว “ลูก……”“หุบปากเจ้าซะ!”จักรพรรดิเหวินพูดตัดบทหยุนถิง “เจ้าจะกลับไปเองหรือจะให้ข้าให้คนคุ้มกันไปส่งเจ้ากลับ?”คุ้มกันไปส่ง!หากพูดหยาบหน่อยก็คือการคุมตัวนั่นเอง!หยุนถิงหุบปากไปทันใดคนเหล่านั้นที่เดิมทีคิดจะขอร้องแทนทั้งสามก็ล้วนแต่หุบปากไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกมาตอนนี้จักรพรรดิเหวินกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ผู้ใดริกล้าเอ่ยปากขอร้องออกมา ต้องเป็นคนรับความซวยไปเป็นแน่ทั้งสามก้มหัวโขกศีรษะต่อจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าโสกเศร้าเสียใจ ลุกขึ้นยืนเซซัดโซเซ และเดินออกไปด้วยสีหน้าไม่เต็มใจและอัปยศอดสูเมื่อทั้งสามออกไป สีพระพักตร์จักรพรรดิเหวินถึงจะค่อยๆ คลายโทสะลง“เจ้าหก!”สายตาจักรพรรดิเหวินจ้องมองไปที่หยุนเจิง“พ่ะย่ะค่ะ!”หยุนเจิงรีบลุกพรวดขึ้นจักรพรรดิเหวินเงยพระพักตร์ขึ้น “เจ้าบอกมาซิ ว่าข้าควรตบรางวัลให้ทหารจวนเหล