Share

บทที่ 174

Penulis: เหลียงซานเหลากุ่ย
ทั้งสองเห็นเช่นนี้ต่างก็ส่ายหน้าไปมาราวกับกลองสั่นก็มิปาน

หากทั้งสองกล้าเอ่ยปากบอกว่าอันธพาลเฒ่าผู้นี้โกงแล้วล่ะก็ มีหวังต้องถูกอันธพาลเฒ่าผู้นี้จับแขวนบนคานตากแห้งเป็นแน่

“เจ้าเห็นหรือยัง!”

ฉินลิ่วก่านอ้าปากหัวเราะสียงดังก่อนกล่าว “แม้แต่บุตรชายของเจ้ายังบอกเลยว่าข้าไม่ได้โกง!”

จักรพรรดิเหวินหมดคำพูดแล้ว คร้านจะเถียงกับอันธพาลเฒ่าผู้นี้ “ได้ เจ้าชนะแล้ว พอเจ้าใจแล้วกระมัง รีบให้เด็กในจวนเจ้าเตรียมสุราอาหารได้แล้ว ข้าหิวจะแย่อยู่แล้ว!”

“ดูเจ้าพูดเข้าสิ เจ้ามาถึงจวนข้าแล้ว จะขาดสุราอาหารได้อย่างไรกันเล่า”

ฉินลิ่วก่านหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะหันไปที่ฉินชีหู่ “ยังไม่รีบไปสั่งให้คนยกสุราอาหารมาอีก ไม่ได้ยินที่ฝ่าบาดพูดหรือว่าหิวจะตาอยู่แล้วนั่น”

ฉินชีหู่ใช้ทักษะแวบหายตัวไปภายในชั่วพริบตาอย่างไร้ร่องรอย

หยุนเจิงเห็นเช่นนี้ก็อดที่จะรู้สึกเห็นใจฉินชีหู่ไม่ได้

เขาต้องถูกอันธพาลเฒ่านี่ฏิบัติแบบใดถึงฝึกทักษะหายตัวไปอย่างแปลกประหลาดเยี่ยงเทพได้เช่นนี้

ไม่นานนัก สุราอาหารก็ได้จัดเตรียมพร้อมแล้ว

ฉินลิ่วก่านตั้งใจให้บ่าวรับใช้ในจวนออกไปทั้งหมด

ส่วนจักรพรรดิเหวินเองก็รับสั่งให้องครักษ์ทุกคนอ
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 175

    เวลาห้าปีมาแล้วที่จักรพรรดิเหวินกับฉินลิ่วก่านไม่ได้เจอกันเมื่อทั้งสองมีโอกาสได้นั่งร่ำสุรากันจึงดีใจจนลืมตัวไปเลยหยุนเจิงและฉินชีหู่ที่อยู่ด้วยกันกับทั้งสอง ดูเหมือนว่าไม่มีโอกาสพูดแทรกได้เลยจักรพรรดิเหวินกับฉินลิ่วก่านร่ำสุราชนจอกกันจนเมามากแล้ว อันธพาลเฒ่ายกจอกสุราซดไปอีกสองสามอึก คล้ายกับว่ายังไม่พอ จึงยกไหขึ้นซดทั้งไห“เจ้านี่ก็จริงๆ เลยนะ หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยเข้าวังไปร่ำสุรากับข้าบ้างเลย ทั้งยังไม่ให้ข้ามาที่นี่อีก!”“ข้า...ข้าจะเอาหน้าที่ไหนไปเจอเจ้าล่ะ! ให้ตายเถอะ ในปีนั้นหากข้าไม่ต่อยเจ้าสารเลวนั่น จนสารเลวนั่นบีบบังคับให้จักรพรรดิไปออกศึกเองล่ะก็ ตอนหลังคงไม่เกิดเรื่องขึ้นหรอก!”“เหอะ หากข้าไม่ยืนกรานจะไปเอง ต่อให้เจ้าต่อยขุนนางบู้บุ๋นทั้งท้องพระโรงมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก”“ไม่จริง ไม่ใช่! ในเหล่าบรรดาขุนนางทั้งหมด ก็มี...ก็มีข้านี่แหละที่ห้ามไม่ให้เจ้าไปออกศึกได้ เจ้าว่าข้า...ข้าไม่ห้ามเจ้าหรือ?”“เจ้าหน่ะ...ห้ามไม่ได้หรอก! ข้าแค่มาคิดเสียใจทีหลังก็คือเรื่องที่ข้าให้เจ้าช่วยข้าเฝ้าเมืองหลวงแทนข้า ไม่ให้เจ้าไปซั่วเป่ยกับข้าด้วย! หากว่าเจ้าไป...หากว่าเจ้าไปซั่วเป่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 176

    “พ่อข้าบอกแล้วว่า หากไม่ได้จริงๆ ก็ให้ท่านกับฝ่าบาทแสดงละครด้วยกัน ให้ฝ่าบาทปลดท่านเป็นสามัญชน เพื่อปิดปากชาวบ้าน! จากนั้นท่านพ่อข้าก็จะรับท่านเป็นบุตรบุญธรรม!”“ถึงครานั้น พวกเราก็จะได้เป็นพี่น้องกันอย่างแท้จริงแล้ว วะฮ่าฮ่า...”เมื่อเห็นฉินชีหู่ที่หัวเราะชอบใจคล้ายคนสติไม่สมประกอบคนหนึ่งแล้ว หยุนเจิงพลันชักงันอย่างอดไม่ได้ข้าล่ะขอบใจบรรพบุรุษสกุลฉินแปดชั่วโครตของพวกเจ้ามากจริงๆ!มารดามันเถอะ!หากรู้เช่นนี้ ให้ตายก็ไม่ยอมถวายวิธีหลอมเหล็กลายบุปผาออกไปแน่ๆ!คราวนี้ถวายจนกลายเป็นปัญหาอีก?“น้ำใจของหรงกั๋วกงข้ารับไว้แล้ว”หยุนเจิงเอ่ยถอนใจเบาๆ “แท้จริงแล้ว เป็นเพราะข้าเองที่อยากไปเยือนซั่วเป่ย ข้าใช้ชีวิตอย่างอัปยศอดสูมานานหลายปี อยากใช้ชีวิตเหมือนคนปกติแล้ว! แม้ว่าจะสู้รบจนตายที่ซั่วเป่ย อย่างน้อยก็ได้ใช้ชีวิตครื้นเครงสักรอบ! ไม่ขอให้จารึกชื่อข้าไว้ในประวัติศาสตร์ แต่ขอให้ในประวัติศาสตร์รุ่นหลังไม่กล่าวว่าบุตรชายคนที่หกของจักรพรรดิเหวินเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ทำอะไรไม่เป็น...”เพื่อไม่ให้พ่อลูกสองคนนี้ทำเรื่องชั่วร้ายในคราบคนดี หยุนเจิงจึงทำได้เพียงขุดเอาคำพูดนั่นออกมาใช้อีกครั้ง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 177

    สุดท้ายหยุนเจิงก็ไม่ได้กลับไปหยิบเหล้าให้กับจักรพรรดิเหวินคำพูดของคนเมาสุรา แค่ฟังเป็นพอสุดท้าย จักรพรรดิเหวินและฉินลิ่วก่านเมาจนไม่รู้เรื่องรู้ราวหลังจากที่พาทั้งสองกลับไปพักผ่อนที่ห้องแล้ว หยุนเจิงก็สั่งการไว้ให้กับราชองครักษ์แล้วจากไปเมื่อกลับถึงจวน หยุนเจิงอารมณ์ไม่ดีอย่างไม่ต้องพูดถึงเยี่ยจื่อเข้ามาไถ่ถาม เมื่อทราบความเป็นมาของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว นางเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วฉินลิ่วก่านบุคคลที่โหดร้ายที่สุดในต้าเฉียนเข้ามายุ่งเรื่องนี้ล่ะก็ ตัวแปรก็จะมากขึ้น“ตอนนี้ท่านคิดจะทำอย่างไร?”เยี่ยจื่อเป็นกังวลเล็กน้อย“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร?”หยุนเจิงปวดกบาลจนต้องนวดขมับ “รอดูสถานการณ์ก็แล้วกัน! ตอนนี้ทำได้เพียงรับมือเอาต่างหน้าแล้ว”ใครจะไปคิดว่าจะมีตาแก่โรคจิตนี่โผล่มาตอนครึ่งทางเล่า!นี่เป็นภัยพิบัติแห่งสวรรค์จริงๆ!เยี่ยจื่อมองเขาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พยักหน้าเอ่ยว่า “ตอนนี้ทำได้เพียงเท่านี้แหละ”หยุนเจิงส่ายศีรษะ แล้วถามว่า “เจ้ารู้เรื่องระหว่างตาแก่โรคจิตนั่นกับเสด็จพ่อข้าหรือไม่?”“เรื่องนี้ข้าไม่ค่อยรู้นัก”เยี่ยจื่อส่ายศีรษะ “หากท่านอยากรู้ลองไปถามยายข

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 178

    ตนลืมเรื่องนี้สิ้นเลย!ตนมัวแต่คิดเรื่องทำอุปกรณ์แล้ว!ทำงานเป็นหมู่คณะจะขาดแม่นมไปได้อย่างไร?“ไม่มีปัญหา! ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง!”หยุนเจิงตอบรับทันที แล้วควักเงินสองหมื่นตำลึงออกมาให้กับตู้กุยหยวน “สั่งการคนในห้องครัวให้ทำอาหารดีๆ กับทุกคน และต้องมีเนื้อทุกมื้อ!”“ขอบพระทัยองค์ชาย!”ตู้กุยหยวนโค้งคำนับ แล้วหันกลับไปชูตั๋วเงินในมือต่อเหล่าทหารจวนที่กำลังฝึกซ้อมกันอยู่พร้อมตะโกนว่า “ฝึกซ้อมกันดีๆ ล่ะ! องค์ชายหกสั่งการมาแล้วว่าจะจัดอาหารของพวกเจ้าให้ดี รับรองว่ามีเนื้อกินทุกวันแน่นอน!”“ขอบพระทัยองค์ชายหก!”ฝูงชนดีใจขีดสุด พูดขอบคุณเสียงดังพร้อมเพรียงกันถึงแม้ราชวงศ์ต้าเฉียนจะถือว่าร่ำรวย แต่ทว่าครอบครัวธรรมดาทั่วไปก็ใช่ว่าจะมีเนื้อกินทุกวันสามวันห้าวันได้กินเนื้อหนึ่งมื้อก็ถือว่าดีมากแล้วหยุนเจิงพยักหน้ายิ้มๆ ต่อทุกคน แล้วเรียกพวกตู้กุยหยวนทั้งสามคนมาข้างๆ“ขณะที่พวกเจ้าฝึกซ้อมทหารจวนพวกนี้ นอกจากจะฝึกฝนด้านสมรรถภาพทางร่างกาย และทักษะการต่อสู้แล้ว พวกเจ้าต้องสอนวิธีการลอบโจมตีแก่พวกเขาด้วย หากสามารถลอบโจมตีได้ ก็อย่าสู้ซึ่งหน้า!”“ไม่เพียงแต่ต้องล้มศัตรู แต่ยังต้องล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 179

    ทีแรกที่ได้ยิน หยุนเจิงยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเรียกตนอยู่จนกระทั่งเห็นเจ้าเนื้อคนหนึ่งวิ่งย่องเข้ามาถึงจะตะลึงตกใจจางซู!เจ้าคนนี้คงจะไม่อยากเปิดเผยตัวตนของตนถึงได้เรียกตนในนาม ‘คุณชายหลิว’จางซูวิ่งย่องจนหายใจเหนื่อยหอบมาตรงหน้าหยุนเจิงหยุนเจิงเองก็รีบลงจากหลังม้า แล้วเอ่ยสนุกสนานว่า “วิ่งแค่นี้ เจ้าก็หอบเลยหรือ เจ้ายังอ่อนกว่าข้าอีกนะเนี่ย!”“ก็ข้าชื่อจางซูไงเล่า ต้องอ่อนอยู่แล้ว!”จางซูยิ้มแย้มแล้วขมวดคิ้วถาม “ท่านมาชมขบวนเรือบุปผานั้นหรือ?”“ขบวนเรือบุปผา?”หยุนเจิงทำหน้าทะมึน “ขบวนเรือบุปผาอะไรกัน?”“ท่าน…ท่านไม่รู้?” จางซูตะลึงใจ จากนั้นก็อธิบายให้กับหยุนเจิงฟังขบวนเรือบุปผาแทบจะกลายเป็นเทศกาลหนึ่งในเมืองจักรพรรดิแล้วช่วงเวลานี้ในทุกๆ เดือน หอโคมเขียวทุกแห่งในเมืองจักรพรรดิจะเช่าเรือสำราญให้หญิงงามในหอของตนขึ้นเรือสำราญแล้วเคลื่อนขบวนไปทั้งสายแม่น้ำอันชาง เพื่อแสดงความสามารถของหอโคมเขียวของตนแก่ผู้คนที่อยู่บนฝั่ง อีกทั้งยังเป็นการแข่งขันกันระหว่างสายงานเดียวกันด้วยหลังจากฟังจางซูพูดจบ หยุนเจิงพลันกระจ่างในบัดดลนี่มันขายโฆษณาไม่ใช่หรือ?มิน่าล่ะวันนี้แม่น้ำอ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 180

    “หา?”หยุนเจิงตะลึงงันคนคนนี้สร้างหน้าไม้กลออกมาได้แล้วนั้นหรือ?ตามหลักแล้วของดีเช่นนี้ไม่ควรได้รับการชมจากจางฮว๋ายหรอกหรือ?ทำไมจางฮว๋ายถึงได้ก่นด่าเขาล่ะ?ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!จางซูเอ่ยยิ้มๆ อย่างลำบาก “ราชวงศ์นี้มีหน้าไม้กลตั้งนานแล้ว! อีกอย่างยังมีหน้าไม้ที่ยิงทีเดียวสองเล่ม และยิงต่อเนื่องได้ห้าครั้งอีกด้วย!”“หา?”หยุนเจิงปั้นหน้าอึ้งเกิดอะไรขึ้น?ราชวงศ์ต้าเฉียนมีหน้าไม้กลตั้งนานแล้ว?ทั้งยังชั้นสูงกว่าหน้าไม้กลขงเบ้งที่เขาบอกด้วย?ให้ตาย!เหตุใดเขาถึงไม่รู้?อย่างน้อยเขาก็อยู่ที่กองทหารเสิ่นอู่มาหลายวันแล้ว แต่ก็ไม่เห็นกองทหารเสิ่นอู่ใช้หน้าไม้กลเลยนี่!หยุนเจิงปั้นหน้าหมดคำจะพูด แล้วรีบเรียกเกาเหอมาหลังจากถามไถ่อยู่สักพัก หยุนเจิงถึงได้รู้ชัดอยู่เรื่องหนึ่งราชวงศ์ต้าเฉียนมีหน้าไม้กลเช่นนี้ตั้งนานแล้วจริงๆพูดให้ถูกคือมีของสิ่งนี้ตั้งแต่ราชวงศ์ก่อนแล้ว!แต่ทว่าวิธีการทำหน้าไม้กลเช่นนี้นั้นซับซ้อน ถึงแม้จะดูแลรักษาอยู่สม่ำเสมอ แต่ก็เสียหายง่ายอยู่ดี และมักจะมีปัญหาเรื่องการยิงติดขัดยิงไม่ออกอยู่บ่อยครั้งนอกจากนี้ ระยะไกลและความแม่นยำของหน้าไม้กลก็ยังไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 181

    ไม่ช้า หมิงเยว่ก็นำหยุนเจิงกับจางซูลงเรือสำราญที่จอดเทียบท่าอยู่ริมแม่น้ำทั้งสองเพิ่งจะเข้าไปในเรือสำราญ หญิงสาวที่อยู่ในเรือก็ลุกขึ้นมาทำท่าคาราวะ “คาราวะคุณชายหลิว คุณชายจางเจ้าค่ะ”“เจ้าคือเมี่ยวอิน?”หยุนเจิงกับจางซูตะลึงค้างไปครู่หนึ่ง จ้องเมี่ยวอินตาเขม็งพูดเป็นเช่นไป สตรีนางนี้มีรูปร่างสวยงามมากจริงๆไม่สิ ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่มีเสน่ห์!แบบโคตรมีเสน่ห์เลย!สวยแต่ไม่บ้านๆ มีเสน่ห์แต่ไม่แรด!ที่ไหนควรใหญ่ก็ใหญ่ ที่ไหนควรเล็กก็เล็กเป็นของชั้นเยี่ยมจริงๆ!มิน่าเล่าสุนัขจิ้งจอกเหล่านั้นจึงได้แห่กันมาหานาง“เป็นข้าเองเจ้าค่ะ”เมี่ยวอินยิ้มร่ายิ้มนี้ของนางยิ่งทำให้คนหลงเสน่ห์เข้าไปอีกให้ความรู้สึกว่านางเป็นแม่มดที่มีเสน่ห์พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จางซูข่มความกระสับกระส่ายในใจและพูดอย่างสุภาพว่า "ข้าได้ยินมานานแล้วว่าแม่นางเมี่ยวอินมีความสามารถเป็นอย่างมาก วันนี้ ข้าได้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเจ้าแล้ว ข้าเชื่อแล้วว่าข่าวลือนั้นเป็นเรื่องจริงจริงๆ... "“คุณชายจางชมกันเกินไปแล้ว”เมี่ยวอินยิ้มโปรยเสน่ห์อีกครั้ง จากนั้นก็เชิญทั้งสองไปนั่ง นางสั่งหมิงเยว่ยกน้ำชามาให้ทั้งส

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 182

    เจ้านี่เป็นจอมเสเพลที่วันๆ ขลุกตัวอยู่ในหอโคมเขียว ยังจะมาอายอะไรอีก!“ข้าก็แค่แปลกใจว่านางจะมีรูปลักษณ์อย่างไรกันแน่” จางซูหัวเราะเหอะๆ “องค์ชายหก ตัวข้าจางซูแม้ว่าจะไม่มีข้อดีอะไร แต่ก็เป็นคนรู้จักประมาณตน! สตีระดับแม่นางเมี่ยวอินนี้ จะมาเหลียวแลข้าได้อย่างไรเล่า! โอกาสอันน้อยนิดเพียงนี้ ข้าเก็บไว้ให้เจ้าก็แล้วกัน!”จางซูกล่าวจบก็เผ่นทันทีหยุนเจิงมองแผ่นหลังของจางซูก็อดหัวเราะอย่างเสียภาพพจน์ไม่ได้เขาประเมิณตาคนนี้ต่ำเกินไปจริงๆ!จางซูมักมากในกามก็เรื่องหนึ่ง แต่เขาก็ไม่เสียสติเพราะกาม!เวลาที่ควรจะมีสติสมประดี เขาก็ไม่เลอะเลือนเลยสักนิดคนเช่นนี้ เวลาจะใช้งานก็รู้สึกวางใจ!หลังส่งจางซูจากไปทางสายตา หยุนเจิงก็กลับเข้าในห้องเวลานี้ เมี่ยวอินได้ให้หมิงเยว่นำไพ่นกกระจอกออกมาแล้วพอเมี่ยวอินเห็นหยุนเจิงเข้ามา นางก็ให้หมิงเยว่ออกไปท่าทางของเมี่ยวอินทำให้หยุนเจิงถึงขั้นเข้าสู่ภวังค์สตรีนางนี้ คงไม่ได้กำลังหว่านเสน่ห์ใส่ตนหรอกนะ?หรืออาจเป็นเพราะว่า นางคาดเดาสถานที่แท้จริงของตนออกแล้ว?หากไม่เช่นนั้น ตัวเขาเองได้บอกแก่นางไปแล้วว่าบทกลอนพวกนั้นเขาคัดลอกมา นางจะยังมาพูดคุ

Bab terbaru

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1502

    "เมื่อได้ยินพวกเขาแนะนำตัวทีละคนๆ หยุนเจิงก็เอ่ยในใจว่าดีจริงๆ!แต่ละคนล้วนมีตำแหน่งในราชสำนักไม่น้อยเลย ต่ำสุดยังเป็นขุนนางตำแหน่งขั้นห้า ยิ่งไปกว่านั้น คนเหล่านี้ยังไม่ถือว่าแก่เลย อนาคตยังมีพื้นที่ให้ไต่เต้าขึ้นอีกมาก สำหรับหยุนเจิง นี่นับว่าเป็นของขวัญอันล้ำค่ามาก! ล้ำค่ายิ่งกว่าของขวัญที่เขาได้รับในวันแต่งงานเสียอีก! นี่สิถึงจะเรียกได้ว่าเป็นของขวัญแต่งงานที่แท้จริง! เมื่อทุกคนแนะนำตัวเสร็จ หยุนเจิงก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นกล่าวว่า “พระชายาอ๋องกำลังจะคลอด บัดนี้ข้าต้องรีบเดินทางกลับเมืองติ้งเป่ย วันนี้ก็ถือเสียว่าเป็นงานเลี้ยงต้อนรับล่วงหน้าสำหรับพวกท่านแล้วกัน” “ขอบพระทัยฝ่าบาท!” ทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพพร้อมเพรียงกัน ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ พวกเขาก็ถูกส่งมาแล้ว สถานการณ์ในเขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือเป็นอย่างไรนั้น ทุกคนต่างรู้กันดี เขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือนั้นในนามเป็นของราชสำนัก เจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ก็ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก แต่ปัญหาคือ ด่านเป่ยลู่ขวางอยู่ตรงนั้น กองทัพและคำสั่งจากราชสำนักไม่สามารถผ่านด่านเป่ยลู่ไปถึงเขตป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1501

    “นี่คือรายชื่อของขวัญทั้งหมด ขอเชิญท่านอ๋องตรวจสอบพ่ะย่ะค่ะ” ในช่วงบ่าย อวี๋ฝูนำคนมาจัดการบันทึกรายการของขวัญที่ได้รับจากงานแต่งของหยุนเจิงจนเสร็จสิ้น “ดีมาก ทำงานได้คล่องแคล่วดี” หยุนเจิงรับสมุดเล่มเล็กมาด้วยรอยยิ้ม และไม่ลืมที่จะชมอวี๋ฝูก่อน “เป็นหน้าที่ของข้าน้อยอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” อวี๋ฝูตอบด้วยท่าทีเคารพ “เอาล่ะ ข้าจะตรวจดูเอง เจ้าถอยไปก่อนเถิด” “ข้าน้อยขอทูลลา!” อวี๋ฝูก้มตัวคำนับก่อนจะถอยออกไป หยุนเจิงเดินถือสมุดเล่มเล็กไปนั่งในลานบ้าน เปิดสมุดด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม การแต่งงานระหว่างตนกับเจียเหยาเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น ของขวัญที่ได้รับ ย่อมต้องมีระดับกันบ้าง! นี่น่าจะเป็นรายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว! พูดก็พูดเถอะ เจ้าสามไม่ใช่กำลังขาดเงินอยู่หรือ? ถ้าเขาจัดงานแต่งทุกๆ ไม่กี่ปี เงินทองก็ไหลมาเทมาเองแล้วกระมัง? เฮ้อ! เป็นองค์รัชทายาททั้งที ยังไม่รู้จักหาเงินอีก เสียทีที่ได้ชื่อว่าเป็นองค์รัชทายาท หยุนเจิงแอบวิจารณ์หยุนลี่ในใจ ขณะพลิกเปิดสมุดเล่มเล็กอย่างช้าๆ จะเห็นได้ว่า อวี๋ฝูเป็นผู้ดูแลที่ยอดเยี่ยมมาก เขาไม่เพียง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1500

    ตอนนี้หยุนเจิงไม่มีเวลามากพอที่จะค่อยๆ แยกแยะว่าใครซื่อสัตย์หรือไม่ซื่อสัตย์ จึงต้องใช้วิธีการที่เด็ดขาด ฆ่าบางคน ให้รางวัลบางคน และกดดันบางคน! ว่าแต่จะฆ่าใคร ให้รางวัลใคร หรือกดดันใคร เขาเองก็ยังไม่แน่ใจนัก อย่างไรก็ตาม ในฟู่โจวที่กว้างใหญ่นี้ ย่อมต้องมีขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างแน่นอน ในภายหลัง เขาก็จะใช้คนเหล่านั้นมาเป็นเป้าหมายจัดการ ขุนนางใหม่มารับตำแหน่ง ย่อมต้องจุดไฟสามดวงให้ลุกโชน! ขณะที่หยุนเจิงกำลังครุ่นคิด เจียเหยาก็เดินเข้ามาหาเขา “พวกเราจะออกเดินทางเมื่อไรหรือ?” ทันทีที่มาถึง เจียเหยาก็ถามขึ้น “พรุ่งนี้เถอะ!” หยุนเจิงบีบขมับที่เริ่มปวดเล็กน้อย “วางใจเถอะ ข้าอยากกลับติ้งเป่ยมากกว่าเจ้าซะอีก!” “เรื่องนี้ข้าเชื่อ” เจียเหยายิ้มเล็กน้อย ก่อนถามต่อ “เจ้ากำลังปวดหัวเรื่องการบริหารฟู่โจวหรือ?” “ใช่แล้ว!” หยุนเจิงไม่ปฏิเสธ “ข้าเกิดมาเพื่อเป็นแม่ทัพนำทัพออกรบ เรื่องการปกครองบ้านเมือง ข้าไม่ถนัดเลยจริงๆ...” ในชีวิตก่อน มีคนสอนเขารบ แต่ไม่มีใครสอนเขาเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ยิ่งกว่านั้น ชายคนนี้ที่ร่างเดิมเป็นของเขาก็ไม่เคยเรียนร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1499

    หลังจากจักรพรรดิเหวินและหยุนลี่เสด็จออกจากหัวเมืองสี่ทิศไปแล้ว หยุนเจิงเองก็เตรียมตัวจะออกเดินทางเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนจะออกเดินทาง เขายังต้องจัดการเรื่องการบริหารบ้านเมืองในฟู่โจวให้เรียบร้อย อย่างน้อยต้องให้ขุนนางทุกระดับปฏิบัติหน้าที่ของตน ตอนนี้เขายังไม่มีเวลาหรือความคิดที่จะลงมือจัดการกับขุนนางเหล่านี้ หากออกแรงกดดันมากเกินไป เกรงว่าฟู่โจวอาจจะวุ่นวายจนควบคุมไม่อยู่ เขาต้องการให้ขุนนางเหล่านี้อยู่ในความสงบก่อน รอจนเขาจัดการเรื่องในมือเสร็จสิ้น ค่อยปรับเปลี่ยนขุนนางในฟู่โจวทีหลัง แม้ฟู่โจวจะเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดินแดนนอกด่าน แต่ราชการในฟู่โจวย่อมซับซ้อนกว่าดินแดนนอกด่านมาก หากเร่งรีบเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาไม่จำเป็นได้ ด้วยเหตุนี้ หยุนเจิงจึงใช้โอกาสที่ขุนนางที่มาร่วมงานแต่งของเขาและเจียเหยายังไม่กลับ เรียกพวกเขามารวมตัวกันที่จวนของเขา เขาไม่ได้รู้จักขุนนางเหล่านี้ดีนัก จึงได้มอบหมายให้จี้หราน อดีตเจ้าเมืองฟู่โจว รักษาการในหน้าที่บริหารบ้านเมืองฟู่โจวไปก่อน หลังจากประกาศเรื่องนี้เสร็จ หยุนเจิงก็กล่าวเตือนขุนนางทั้งหลายว่า “ข้าเป็นคนที่นำทัพออกศึก อารมณ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1498

    “อืม เรื่องนี้เจ้าต้องใส่ใจให้มาก!” จักรพรรดิเหวินตรัสเตือน “อย่าปล่อยให้คนของเจ้าหกแฝงตัวอยู่รอบตัวเจ้าเพื่อสืบข่าวอีกต่อไป!” ในชั่วขณะนั้น หยุนลี่เริ่มคิดถึงผู้คนที่เคยร่วมวางแผนกำจัดหยุนเจิงกับเขาก่อนหน้านี้ เฉียวเหยียนเซียน ฮั่วเหวินจิ้ง... แม้กระทั่งหยวนกุยก็ยังไม่รอดพ้นจากความสงสัยของเขา แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่มีใครแสดงพฤติกรรมน่าสงสัย หรือว่า คนของเจ้าหกที่แฝงตัวอยู่ จะซ่อนตัวได้ลึกถึงเพียงนี้? “กลับเมืองหลวงแล้วค่อยตรวจสอบอย่างละเอียดอีกที!” จักรพรรดิเหวินยกพระหัตถ์ขึ้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้หยุนลี่วางใจ ก่อนจะมองเขาด้วยความอ่อนโยน “ข้ารู้ว่าเจ้าถูกเจ้าหกบีบเงินไปถึงสี่ล้านตำลึง ในใจเจ้าคงอึดอัดและเจ็บปวด ข้าจึงให้จางซูช่วยสร้างโรงกลั่นสุราไว้ กลับไป ข้าจะยกโรงกลั่นนั้นให้เจ้า” “เสด็จพ่อ เรื่องนี้... ลูกไม่อาจรับได้พ่ะย่ะค่ะ!” หยุนลี่ตกใจ รีบปฏิเสธพร้อมกับโบกมือไปมา “ไม่มีอะไรที่เจ้าจะรับไม่ได้! แผ่นดินนี้ข้าก็จะยกให้เจ้าแล้ว ข้ายังจะมาสนใจโรงกลั่นสุราอีกหรือ?” จักรพรรดิเหวินตรัสพร้อมส่ายพระพักตร์เบาๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1497

    เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น จักรพรรดิเหวินทรงส่งคนมาแจ้งว่า พระองค์จะเสด็จออกจากหัวเมืองสี่ทิศในวันนี้ เมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างไรก็ตาม ก่อนเสด็จจากไป จักรพรรดิเหวินได้ทรงมีพระบัญชาให้โจวเต้ากงนำกองทัพไปประจำการแนวหน้าที่จูโจว และให้จ้าวจี๋นำกองทัพกลับไปยังตะวันตกเฉียงเหนือ กองกำลังในมือของหยุนเจิงมีมากพออยู่แล้ว หากปล่อยให้กองทัพสามหมื่นนายในจูโจวอยู่ภายใต้การควบคุมของหยุนเจิงด้วย อาจทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาได้ สำหรับเรื่องนี้ หยุนเจิงไม่มีความคิดเห็นใดๆ เมื่อสองวันก่อน ตอนที่เขาเข้าไปถวายพระพรจักรพรรดิเหวิน พระองค์ก็ได้ทรงบอกเรื่องนี้ไว้แล้ว อย่างไรเสีย โจวเต้ากงก็ได้ส่งข่าวลับมาให้เขาทราบอยู่ก่อนแล้ว หากเขาต้องการบุกจูโจวจริงๆ โจวเต้ากงก็คงจะนำกองทัพยอมจำนนเสียเอง หลังจากทานมื้อเช้า หยุนเจิงและเจียเหยาก็นำขุนนางทั้งหลายออกไปส่งจักรพรรดิเหวิน หยุนลี่ และคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงพิธีการออกจากหัวเมืองสี่ทิศ ก่อนจากกัน หยุนเจิงก็รักษาคำพูดโดยการคืนป้ายทองคำให้แก่จักรพรรดิเหวิน และกระซิบพูดบางอย่างกับหยุนลี่ ไม่นานหลังจากออกจากหัวเม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1496

    อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พูดจบ หยุนลี่ก็รู้สึกเสียใจในทันที ตอนนี้เขาควรจะแสดงความอ่อนข้อให้ไอ้สุนัขนี่แท้ๆ! ทำไมถึงปล่อยให้คำพูดไม่กี่คำของมันทำให้ตนต้องมาต่อกรกับมันอีกแล้วล่ะ? เฮ้อ! เจ้าไอ้สุนัขนี่ เวลาพูดจามันช่างยั่วโมโหจริงๆ! “ได้ๆ” หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง “เช่นนั้นข้าขอไปส่งพี่สามด้วยตนเอง” “ไม่ต้องลำบากน้องหกหรอก!” หยุนลี่รีบปฏิเสธ ไม่อยากอยู่ต่อให้นานไปกว่านี้ เกรงว่าจะถูกเล่นงานอีก “ก็ได้!” หยุนเจิงไม่ดึงดัน “อ้อ จริงสิ พี่สาม ตอนเดินทางผ่านจูโจว ก็อย่าลืมช่วยข้าเก็บหนี้ด้วยนะ” เก็บหนี้? เมื่อได้ยินสองคำนี้ หยุนลี่แทบจะกระโดดขึ้นมาด่ามารดา ถ้าเสด็จพ่อไม่เตือน เขาคงไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกเจ้าไอ้สุนัขนี่หลอกอีกแล้ว! ไร้ยางอาย! หยุนลี่สบถอย่างโมโหในใจ แต่ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง “น้องหกไม่ต้องห่วง พี่สามในฐานะองค์รัชทายาท ก็แพ้เดิมพันเจ้าต่อหน้าผู้คนไปแล้ว พี่สามจะผิดคำพูดได้อย่างไร?” หยุนลี่เริ่มตระหนักว่าการพูดคุยกับหยุนเจิงก็มีข้อดีอยู่บ้าง อย่างน้อย มันช่วยฝึกความอดทนของเขาได้เป็นอย่างดี “ขอบคุณพี่สามมาก!” ใบหน้าของหยุนเจิงเต็มไปด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1495

    จวนอ๋องขณะที่หยุนเจิงและเจียเหยากำลังเตรียมตัวทานมื้อค่ำ หยุนลี่ก็นำคนมาส่งรางวัลที่จักรพรรดิเหวินมอบให้ การที่จักรพรรดิเหวินให้หยุนลี่ องค์รัชทายาท มาส่งรางวัลด้วยตัวเอง ทำให้เจียเหยารู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังอยู่ไม่น้อย รางวัลอะไรก็ไม่สำคัญ ขอแค่เป็นของที่มีค่าและขายได้ก็พอ แต่เมื่อขันทีอ่านรายชื่อสิ่งของที่เป็นรางวัลเสียงดัง เจียเหยาก็ถึงกับอึ้งไป หวีหยกขาวประดับทองคำ ปิ่นทองคำประดับดอกไม้ เครื่องประดับปิ่นทองที่แกว่งไปมาได้ ต่างหูแก้ว รวมถึงแป้งฝุ่นและเครื่องประทินโฉม... ทั้งหมดล้วนเป็นของใช้สำหรับผู้หญิง! แม้ว่าสิ่งของเหล่านี้จะมีค่าอยู่บ้าง แต่ทำไมนางกลับรู้สึกว่ารางวัลนี้แฝงความนัยบางอย่าง เมื่อขันทีอ่านรายชื่อรางวัลจนจบ เจียเหยาก็ยังไม่สามารถตั้งสติกลับมาได้ “เจียเหยา ควรขอบคุณเสด็จพ่อได้แล้ว” หยุนเจิงเตือนจากด้านข้าง ในตอนนี้เอง เจียเหยาจึงได้สติกลับมา “ลูกขอบพระคุณเสด็จพ่อสำหรับรางวัล” เจียเหยาขอบคุณด้วยรอยยิ้มฝืนๆ หยุนเจิงยิ้มพลางเดินไปหาหยุนลี่ “พี่สาม ท่านมาถูกเวลาพอดี พวกเรากำลังจะทานมื้อค่ำ! หากพี่สามไม่รังเกียจ ทำไมไม่ร่วมโต๊ะทา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1494

    หยุนลี่พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ลูกจะฝึกฝนตนเองอย่างจริงจัง และจะไม่ทำให้เสด็จพ่อผิดหวังเป็นอันขาด!” “อืม!” จักรพรรดิเหวินพยักหน้าเบาๆ ก่อนถามต่อ “แล้วเจ้าคิดว่า ข้าควรให้รางวัลเจียเหยาอย่างไรดี?” “เอ่อ?” คำถามนี้ของจักรพรรดิเหวินทำให้หยุนลี่ถึงกับงงงัน ควรให้รางวัลเจียเหยาอย่างไร? เรื่องนี้ยังต้องถามด้วยหรือ? ก็คงแค่ให้ตามธรรมเนียมพอเป็นพิธีเท่านั้นมิใช่หรือ? หรือว่าจะต้องให้รางวัลใหญ่โตกับเจียเหยาจริงๆ? สิ่งที่ให้กับเจียเหยา สุดท้ายก็จะตกไปอยู่กับเจ้าหกอยู่ดีมิใช่หรือ? การให้รางวัลใหญ่กับเจียเหยา มีความแตกต่างอะไรกับการสนับสนุนศัตรูโดยตรงกันเล่า? เหตุผลง่ายๆ เช่นนี้ ตนยังเข้าใจ เสด็จพ่อจะไม่เข้าใจได้อย่างไร? แต่เสด็จพ่อกลับถามเช่นนี้ ตกลงว่าเสด็จพ่อมีความตั้งใจอะไรแฝงอยู่กันแน่? หยุนลี่เต็มไปด้วยความสงสัยในใจ พยายามคิดอย่างหนักถึงเจตนาของจักรพรรดิเหวิน คิดไปคิดมา หัวใจของหยุนลี่พลันสะดุ้งขึ้น หรือว่า... เสด็จพ่อกำลังคิดจะดึงเจียเหยาเข้ามาอยู่ฝ่ายเดียวกับพระองค์? หากต้องให้รางวัลใหญ่กับเจียเหยา ดูเหมือนเหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ก็คือเรื่อง

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status