Share

บทที่ 178

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update Last Updated: 2024-04-01 17:00:00
ตนลืมเรื่องนี้สิ้นเลย!

ตนมัวแต่คิดเรื่องทำอุปกรณ์แล้ว!

ทำงานเป็นหมู่คณะจะขาดแม่นมไปได้อย่างไร?

“ไม่มีปัญหา! ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง!”

หยุนเจิงตอบรับทันที แล้วควักเงินสองหมื่นตำลึงออกมาให้กับตู้กุยหยวน “สั่งการคนในห้องครัวให้ทำอาหารดีๆ กับทุกคน และต้องมีเนื้อทุกมื้อ!”

“ขอบพระทัยองค์ชาย!”

ตู้กุยหยวนโค้งคำนับ แล้วหันกลับไปชูตั๋วเงินในมือต่อเหล่าทหารจวนที่กำลังฝึกซ้อมกันอยู่พร้อมตะโกนว่า “ฝึกซ้อมกันดีๆ ล่ะ! องค์ชายหกสั่งการมาแล้วว่าจะจัดอาหารของพวกเจ้าให้ดี รับรองว่ามีเนื้อกินทุกวันแน่นอน!”

“ขอบพระทัยองค์ชายหก!”

ฝูงชนดีใจขีดสุด พูดขอบคุณเสียงดังพร้อมเพรียงกัน

ถึงแม้ราชวงศ์ต้าเฉียนจะถือว่าร่ำรวย แต่ทว่าครอบครัวธรรมดาทั่วไปก็ใช่ว่าจะมีเนื้อกินทุกวัน

สามวันห้าวันได้กินเนื้อหนึ่งมื้อก็ถือว่าดีมากแล้ว

หยุนเจิงพยักหน้ายิ้มๆ ต่อทุกคน แล้วเรียกพวกตู้กุยหยวนทั้งสามคนมาข้างๆ

“ขณะที่พวกเจ้าฝึกซ้อมทหารจวนพวกนี้ นอกจากจะฝึกฝนด้านสมรรถภาพทางร่างกาย และทักษะการต่อสู้แล้ว พวกเจ้าต้องสอนวิธีการลอบโจมตีแก่พวกเขาด้วย หากสามารถลอบโจมตีได้ ก็อย่าสู้ซึ่งหน้า!”

“ไม่เพียงแต่ต้องล้มศัตรู แต่ยังต้องล
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 179

    ทีแรกที่ได้ยิน หยุนเจิงยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเรียกตนอยู่จนกระทั่งเห็นเจ้าเนื้อคนหนึ่งวิ่งย่องเข้ามาถึงจะตะลึงตกใจจางซู!เจ้าคนนี้คงจะไม่อยากเปิดเผยตัวตนของตนถึงได้เรียกตนในนาม ‘คุณชายหลิว’จางซูวิ่งย่องจนหายใจเหนื่อยหอบมาตรงหน้าหยุนเจิงหยุนเจิงเองก็รีบลงจากหลังม้า แล้วเอ่ยสนุกสนานว่า “วิ่งแค่นี้ เจ้าก็หอบเลยหรือ เจ้ายังอ่อนกว่าข้าอีกนะเนี่ย!”“ก็ข้าชื่อจางซูไงเล่า ต้องอ่อนอยู่แล้ว!”จางซูยิ้มแย้มแล้วขมวดคิ้วถาม “ท่านมาชมขบวนเรือบุปผานั้นหรือ?”“ขบวนเรือบุปผา?”หยุนเจิงทำหน้าทะมึน “ขบวนเรือบุปผาอะไรกัน?”“ท่าน…ท่านไม่รู้?” จางซูตะลึงใจ จากนั้นก็อธิบายให้กับหยุนเจิงฟังขบวนเรือบุปผาแทบจะกลายเป็นเทศกาลหนึ่งในเมืองจักรพรรดิแล้วช่วงเวลานี้ในทุกๆ เดือน หอโคมเขียวทุกแห่งในเมืองจักรพรรดิจะเช่าเรือสำราญให้หญิงงามในหอของตนขึ้นเรือสำราญแล้วเคลื่อนขบวนไปทั้งสายแม่น้ำอันชาง เพื่อแสดงความสามารถของหอโคมเขียวของตนแก่ผู้คนที่อยู่บนฝั่ง อีกทั้งยังเป็นการแข่งขันกันระหว่างสายงานเดียวกันด้วยหลังจากฟังจางซูพูดจบ หยุนเจิงพลันกระจ่างในบัดดลนี่มันขายโฆษณาไม่ใช่หรือ?มิน่าล่ะวันนี้แม่น้ำอ

    Last Updated : 2024-04-02
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 180

    “หา?”หยุนเจิงตะลึงงันคนคนนี้สร้างหน้าไม้กลออกมาได้แล้วนั้นหรือ?ตามหลักแล้วของดีเช่นนี้ไม่ควรได้รับการชมจากจางฮว๋ายหรอกหรือ?ทำไมจางฮว๋ายถึงได้ก่นด่าเขาล่ะ?ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!จางซูเอ่ยยิ้มๆ อย่างลำบาก “ราชวงศ์นี้มีหน้าไม้กลตั้งนานแล้ว! อีกอย่างยังมีหน้าไม้ที่ยิงทีเดียวสองเล่ม และยิงต่อเนื่องได้ห้าครั้งอีกด้วย!”“หา?”หยุนเจิงปั้นหน้าอึ้งเกิดอะไรขึ้น?ราชวงศ์ต้าเฉียนมีหน้าไม้กลตั้งนานแล้ว?ทั้งยังชั้นสูงกว่าหน้าไม้กลขงเบ้งที่เขาบอกด้วย?ให้ตาย!เหตุใดเขาถึงไม่รู้?อย่างน้อยเขาก็อยู่ที่กองทหารเสิ่นอู่มาหลายวันแล้ว แต่ก็ไม่เห็นกองทหารเสิ่นอู่ใช้หน้าไม้กลเลยนี่!หยุนเจิงปั้นหน้าหมดคำจะพูด แล้วรีบเรียกเกาเหอมาหลังจากถามไถ่อยู่สักพัก หยุนเจิงถึงได้รู้ชัดอยู่เรื่องหนึ่งราชวงศ์ต้าเฉียนมีหน้าไม้กลเช่นนี้ตั้งนานแล้วจริงๆพูดให้ถูกคือมีของสิ่งนี้ตั้งแต่ราชวงศ์ก่อนแล้ว!แต่ทว่าวิธีการทำหน้าไม้กลเช่นนี้นั้นซับซ้อน ถึงแม้จะดูแลรักษาอยู่สม่ำเสมอ แต่ก็เสียหายง่ายอยู่ดี และมักจะมีปัญหาเรื่องการยิงติดขัดยิงไม่ออกอยู่บ่อยครั้งนอกจากนี้ ระยะไกลและความแม่นยำของหน้าไม้กลก็ยังไ

    Last Updated : 2024-04-02
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 181

    ไม่ช้า หมิงเยว่ก็นำหยุนเจิงกับจางซูลงเรือสำราญที่จอดเทียบท่าอยู่ริมแม่น้ำทั้งสองเพิ่งจะเข้าไปในเรือสำราญ หญิงสาวที่อยู่ในเรือก็ลุกขึ้นมาทำท่าคาราวะ “คาราวะคุณชายหลิว คุณชายจางเจ้าค่ะ”“เจ้าคือเมี่ยวอิน?”หยุนเจิงกับจางซูตะลึงค้างไปครู่หนึ่ง จ้องเมี่ยวอินตาเขม็งพูดเป็นเช่นไป สตรีนางนี้มีรูปร่างสวยงามมากจริงๆไม่สิ ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่มีเสน่ห์!แบบโคตรมีเสน่ห์เลย!สวยแต่ไม่บ้านๆ มีเสน่ห์แต่ไม่แรด!ที่ไหนควรใหญ่ก็ใหญ่ ที่ไหนควรเล็กก็เล็กเป็นของชั้นเยี่ยมจริงๆ!มิน่าเล่าสุนัขจิ้งจอกเหล่านั้นจึงได้แห่กันมาหานาง“เป็นข้าเองเจ้าค่ะ”เมี่ยวอินยิ้มร่ายิ้มนี้ของนางยิ่งทำให้คนหลงเสน่ห์เข้าไปอีกให้ความรู้สึกว่านางเป็นแม่มดที่มีเสน่ห์พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จางซูข่มความกระสับกระส่ายในใจและพูดอย่างสุภาพว่า "ข้าได้ยินมานานแล้วว่าแม่นางเมี่ยวอินมีความสามารถเป็นอย่างมาก วันนี้ ข้าได้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเจ้าแล้ว ข้าเชื่อแล้วว่าข่าวลือนั้นเป็นเรื่องจริงจริงๆ... "“คุณชายจางชมกันเกินไปแล้ว”เมี่ยวอินยิ้มโปรยเสน่ห์อีกครั้ง จากนั้นก็เชิญทั้งสองไปนั่ง นางสั่งหมิงเยว่ยกน้ำชามาให้ทั้งส

    Last Updated : 2024-04-02
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 182

    เจ้านี่เป็นจอมเสเพลที่วันๆ ขลุกตัวอยู่ในหอโคมเขียว ยังจะมาอายอะไรอีก!“ข้าก็แค่แปลกใจว่านางจะมีรูปลักษณ์อย่างไรกันแน่” จางซูหัวเราะเหอะๆ “องค์ชายหก ตัวข้าจางซูแม้ว่าจะไม่มีข้อดีอะไร แต่ก็เป็นคนรู้จักประมาณตน! สตีระดับแม่นางเมี่ยวอินนี้ จะมาเหลียวแลข้าได้อย่างไรเล่า! โอกาสอันน้อยนิดเพียงนี้ ข้าเก็บไว้ให้เจ้าก็แล้วกัน!”จางซูกล่าวจบก็เผ่นทันทีหยุนเจิงมองแผ่นหลังของจางซูก็อดหัวเราะอย่างเสียภาพพจน์ไม่ได้เขาประเมิณตาคนนี้ต่ำเกินไปจริงๆ!จางซูมักมากในกามก็เรื่องหนึ่ง แต่เขาก็ไม่เสียสติเพราะกาม!เวลาที่ควรจะมีสติสมประดี เขาก็ไม่เลอะเลือนเลยสักนิดคนเช่นนี้ เวลาจะใช้งานก็รู้สึกวางใจ!หลังส่งจางซูจากไปทางสายตา หยุนเจิงก็กลับเข้าในห้องเวลานี้ เมี่ยวอินได้ให้หมิงเยว่นำไพ่นกกระจอกออกมาแล้วพอเมี่ยวอินเห็นหยุนเจิงเข้ามา นางก็ให้หมิงเยว่ออกไปท่าทางของเมี่ยวอินทำให้หยุนเจิงถึงขั้นเข้าสู่ภวังค์สตรีนางนี้ คงไม่ได้กำลังหว่านเสน่ห์ใส่ตนหรอกนะ?หรืออาจเป็นเพราะว่า นางคาดเดาสถานที่แท้จริงของตนออกแล้ว?หากไม่เช่นนั้น ตัวเขาเองได้บอกแก่นางไปแล้วว่าบทกลอนพวกนั้นเขาคัดลอกมา นางจะยังมาพูดคุ

    Last Updated : 2024-04-02
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 183

    อยากชิมร่างกายของนาง?เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำพูดตรงไปตรงมาเช่นนี้ของหยุนเจิง ใบหน้าของเมี่ยวอินก็มีสีแดงปรากฏทั่วทั้งใบ หยุนเจิงเห็นดังนั้นก็ตกใจเล็กน้อยมารดามันสิ!จริงจัง?ต่อให้จะไม่ขายตัวยังไง แต่อย่างไรเสียนางก็ทำมาหากินอยู่ในที่แบบนี้นะ?แค่คำพูดนี้ประโยคเดียวนางก็หน้าแดงขนาดนี้แล้ว?นี่เป็นบุปผาไม่เคยช้ำฝนหรือคุณหนูจากจวนตระกูลใหญ่กันล่ะเนี่ย?“คุณชายหลิวอย่าพูดล้อเล่นเช่นนี้อีกเลย”เมี่ยวอินยิ้มเขินอายทั้งตำหนิมองไปทางหยุนเจิง“ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ”หยุนเจิงส่ายหน้า แสร้างทำท่าทีจริงจัง “หากจะไถ่ตัวเจ้าต้องใช้เงินเท่าไหร่หรือ? หรือว่า จะให้ข้าช่วยไถ่ตัวเจ้าดีไหม?”เมี่ยวอินตะลึงค้าง รีบส่ายหัวกล่าวว่า “พวกเราก็แค่พบปะกันอย่างบังเอิญ ข้าจะให้คุณชายหลิวมาไถ่ตัวข้าได้อย่างไรกันเล่า?”หยุนเจิงเอียงศีรษะ “ข้าบอกไปแล้วนี่? ข้าอยากชิมร่างกายของเจ้าไงล่ะ!”เมี่ยวอินกัดริมฝีปากบางเบาๆ จากนั้นส่ายหน้าอีก “บุญของข้าช่างน้อยไม่นิด ไม่กล้าหวังใหญ่เช่นนี้หรอก”“เช่นนั้นข้ายิ่งต้องช่วยไถ่ตัวเจ้าแล้ว”หยุนเจิงพูดขึ้นอย่าง ‘จริงจัง’ ว่า “คนอย่างข้าเนี่ยเห็นใครมีชีวิตตกระกำลำบากไม่

    Last Updated : 2024-04-02
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 184

    ท่าร่ายรำของเมี่ยวอินนั้นแช่มช้างดงาม ประเดี๋ยวอ่อนช้อยประเดี๋ยวแข็งแกร่ง ผู้คนที่ชมอยู่บนฝั่งปรบมือร้องเรียกว่าดีเยี่ยมไม่หยุดหยุนเจิงเหลียวซ้ายแลขวา กำลังแบ่งแยกสมาธิของตนเอง จากนั้นก็เรียกเกาเหอมาพูดข้างหูว่า “เจ้าส่งคนจับตาดูเมี่ยวอินผู้นี้ด้วย”“ขอรับ!”เกาเหอพยักหน้าเบาๆเรือสำราญเคลื่อนไปตามทางน้ำไม่หยุด ผู้คนทั้งสองฝั่งก็วิ่งตามมา ราวกับแฟนคลับที่ติดตามดาราในยุคปัจจุบันหลังจากเวลาประมาณหนึ่งก้านธูป เรือสำราญของแต่ละบ้านก็ค่อยๆ หยุดลง นางคณิกาของหอโคมเขียวก็เริ่มทักทายผู้คนที่อยู่บนฝั่งนางคณิกาของหอโคมเขียวบางคนที่อยู่บนเรือสำราญยังเอาของเล่นแปลกใหม่ที่จางซูผลิตขึ้นมาเล่นด้วยนางคณิกาของหอโคมเขียวฉวินฟางย่วนถึงขั้นตั้งโต๊ะแล้วตีไพ่นกกระจอกกันเลยทีเดียวพวกนางเล่นกันได้แปลกใหม่ยิ่งนัก หากใครแพ้ คนผู้นั้นต้องถอดอาภรณ์ที่แนบกายให้กับคนที่อยู่บนฝั่งการกระทำนี้ดึงดูดเหล่าหมาป่าผู้หิวโหยได้เป็นอย่างดีเพียงครู่เดียว ฝั่งที่เรือสำราญของพวกเขาจอดเทียบก็มีคนมาล้อมรอบเป็นจำนวนมากเรือสำราญลำอื่นพอเห็นดังนั้น ก็เล่นเลียนแบบตามๆ กันแต่หอโคมเขียวที่จางซูไม่ได้มอบไพ่นกกระจอกใ

    Last Updated : 2024-04-02
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 185

    เมื่อกลับถึงจวน หยุนเจิงก็ไปหาเยี่ยจื่อเพื่อพูดคุยเรื่องการรับสมัครหมอความต้องการของหยุนเจิงนั้นเรียบง่ายมาก ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี หากเก่งด้านการรักษาและเป็นวรยุทธ์ได้ก็ยิ่งดีสำหรับจะรับสมัครอย่างไรนั้น ก็มอบหมายให้เยี่ยจื่อจัดการได้เลยไม่ว่าเยี่ยจื่อจะข่มขู่หลอกล่อก็ดี หรือจะใช้เงินฟาดหัวก็ช่าง เขาล้วนไม่สนใจทั้งนั้น“ได้ เรื่องนี้ยกให้ข้าจัดการได้เลย!”เยี่ยจื่อตอบรับ “จริงสิ เจ้าอย่าเอาแต่เรียกข้าไปหาเจ้าที่ห้องกลางดึกกลางดื่นได้หรือไม่ มีเรื่องอะไรไว้ค่อยคุยกันตอนกลางวันไม่ได้หรือ”“ช่วงนี้ตอนกลางวันข้ายุ่งมาก! มีเวลาว่างแค่ตอนกลางคืนเท่านั้น” หยุนเจิงพูดด้วยรอยยิ้มอย่างมีเหตุผลที่พูดได้เต็มปาก แล้วถามว่า “ในจวนยังมีคนพูดซุบซิบนินทาอีกหรือไม่”เยี่ยจื่อส่ายศีรษะน้อยๆ พูดด้วยความเดือดดาล “ตอนนี้ยังไม่มี แต่พอนานวันเข้าก็บอกไม่ได้หรอก!”นางเป็นหญิงม่าย หยุนเจิงก็ยังอยู่ในวัยหนุ่มแน่นขืนนางเอาแต่วิ่งโร่ไปที่ห้องของหยุนเจิงกลางดึกกลางดื่นอยู่เช่นนี้ คงทำให้ผู้คนนินทาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้“เช่นนั้นหรือ”หยุนเจิงลูบคางใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างจริงจัง “เอาเช่นนี้ดีหรือไ

    Last Updated : 2024-04-02
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 186

    เมื่อมองตามแผ่นหลังของเยี่ยจื่อที่เดินไปไกล ซินเซิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจองค์ชายหกช่างน่าสงสารจริงๆเป็นถึงองค์ชายแท้ๆ แต่กลับก็ถูกรังแกบ่อยๆแม้แต่ฮูหยินเยี่ยยังกล้าชักสีหน้าใส่อยู่ข้างนอกต้องรองรับอารมณ์ของผู้อื่น พอกลับบ้านยังต้องรองรับอารมณ์ของฮูหยินเยี่ยอีก...เช้าวันรุ่งขึ้น หยุนเจิงได้ไปรายงานตัวที่กองทหารเสินอู่อีกหลังจากถูกนักเลงเฒ่าทรมานมาหลายวัน จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าการได้ศึกษายุทธวิธีการรบจากเซียวติ้งอู่ในกองทหารเสินอู่ก็ดีเหมือนกันตราบใดที่สามารถสลัดนักเลงเฒ่าให้หลุดพ้นได้ อะไรก็ดีหมด!“องค์ชายหก ช่วงนี้เจ้าคงไม่สบายกระมัง”ทันทีที่เขาเห็นหยุนเจิง เซียวติ้งอู่ก็ยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง“อย่าพูดถึงเลย”หยุนเจิงโบกมือ “ข้าถูกตาเฒ่า...กั๋วกงทรมานจนเกือบตาย...”“ฮ่าๆ...”เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง เซียวติ้งอู่ก็อดหัวเราะไม่ได้ “ทำใจให้ชินเถอะ พวกเราล้วนผ่านมาแล้ว”หยุนเจิงมองดูเขาโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็ถือโอกาสถามถึงเหตุการณ์ในอดีตระหว่างจักรพรรดิเหวินกับฉินลิ่วก่านเซียวติ้งอู่เป็นบุตรชายของเซียวว่านโฉว จึงเคยได้ยินผู้เป็นพ่อพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตระหว

    Last Updated : 2024-04-02

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1374

    การพัฒนาการค้า ย่อมเป็นเส้นทางลัดที่ช่วยให้เมืองเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ในอนาคต ผลิตภัณฑ์พิเศษจากเขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือก็สามารถเข้ามาในซั่วเป่ยได้ แต่ไม่ควรนำทุกสิ่งทุกอย่างมาวางขายในหม่าอี้เท่านั้น ต้องให้โอกาสเมืองอื่นๆ ด้วย ยิ่งพ่อค้าเหล่านี้พักอยู่ในซั่วเป่ยนานเท่าไร ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของซั่วเป่ยมากขึ้นเท่านั้น ทันใดนั้น ในหัวของหยุนเจิงก็ผุดคำพูดประโยคหนึ่งขึ้นมา ปรับปรุงการจัดสรรอุตสาหกรรมให้เหมาะสม! ถือโอกาสในฤดูหนาวนี้ วางแผนเกี่ยวกับอุตสาหกรรมของแต่ละเมืองให้ดี ดีที่สุดคือทำให้ทุกเมืองมีอุตสาหกรรมหลัก เพื่อดึงดูดให้พ่อค้าเหล่านี้เข้าไปในเมืองต่างๆ ของซั่วเป่ยมากขึ้น จะช่วยกระตุ้นการพัฒนาเมืองอื่นๆ ได้ ขณะที่หยุนเจิงกำลังครุ่นคิดเงียบๆ รถม้าก็หยุดลงกะทันหัน เยี่ยจือเปิดม่านขึ้นเตรียมถามว่าเกิดอะไรขึ้น เสิ่นควานก็เข้ามารายงานว่า “ฮูหยินจื้อ มีคนขวางทางอยู่ด้านหน้า ข้าได้ส่งคนไปตรวจสอบแล้ว” “อืม ดีแล้ว” เยี่ยจือพยักหน้าเบาๆ ก่อนเตือนเสิ่นควานว่า “เจ้าตอนนี้เป็นหัวหน้าทหารองครักษ์ของฝ่าบาทแล้ว ควรแทนตัวเองว่า 'กระหม่อม'

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1373

    สองวันต่อมา หยุนเจิงพาเยี่ยจือและเมี่ยวอินเดินทางไปยังเล่ออาน หลังจากเหตุการณ์ลอบสังหารครั้งก่อน คราวนี้กองทหารองครักษ์ของหยุนเจิงระมัดระวังเป็นพิเศษ ด้วยการคุ้มกันอย่างแน่นหนาของทหารองครักษ์ ตลอดทางจึงปลอดภัยไร้เหตุร้าย “ใกล้ถึงหม่าอี้หรือยัง?” หยุนเจิงเปิดม่านรถม้าออกมองด้านนอก ก่อนสั่งเสิ่นควาน “ส่งคำสั่งไป พักที่หม่าอี้หนึ่งวันแล้วค่อยออกเดินทางต่อ” เสิ่นควานเป็นหนึ่งในผู้ที่เสิ่นลั่วเยี่ยนฝึกมาเป็นชุดแรกให้ทำหน้าที่องครักษ์ของเขา ตั้งแต่หยุนเจิงมาถึงซั่วเป่ย เสิ่นควานก็ประจำการอยู่ในกองทหารองครักษ์ของเขา ปัจจุบัน ถงกัง โจวมี่ และเกาหือ ต่างก็ถูกส่งออกไปทำงานภายนอก เสิ่นควานจึงรับหน้าที่รักษาการหัวหน้าทหารองครักษ์แทนชั่วคราว “พ่ะย่ะค่ะ!” เสิ่นควานรับคำสั่ง “ไม่ต้องเสียเวลา” เยี่ยจือรู้ว่าหยุนเจิงเป็นห่วงว่าตนจะเหนื่อยจากการเดินทางไกล นางยิ้มบางๆ “ข้าไม่เป็นไรหรอก เพิ่งตั้งครรภ์ได้ไม่นานเอง มิได้เหมือนลั่วเยี่ยนที่ท้องโตขนาดนั้น” “พักสักวันเถอะ!” หยุนเจิงจับมือเยี่ยจือ “เจ้ากำลังตั้งครรภ์ เดินทางกระทบกระเทือนมาตลอดทาง ควรพักให้เต็มที่เสียหน่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1372

    “อืม ได้!” หยุนเจิงประคองเสิ่นลั่วเยี่ยนลุกขึ้น พร้อมยิ้มกล่าวว่า “อีกไม่กี่วันคงจะมีหิมะตกพอดี ให้ช่างตัดเสื้อทำเสื้อขนนกสองชุดให้พวกเราดีไหม?” “เสื้อขนนก?” เสิ่นลั่วเยี่ยนมองหยุนเจิงด้วยความสงสัย “ก็คือเสื้อขนละเอียดไง” หยุนเจิงเปลี่ยนคำพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น ในราชวงศ์ต้าเฉียนก็มีเสื้อขนนก เพียงแต่เรียกชื่อแตกต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้น เสื้อขนละเอียดชั้นสูงเหล่านั้นให้ความอบอุ่นไม่แพ้เสื้อขนนกในยุคปัจจุบันเลย เพียงแต่ว่าเสื้อขนนกชั้นสูงนั้นผลิตได้น้อยและหาได้ยาก มีเพียงเชื้อพระวงศ์และขุนนางเท่านั้นที่สวมใส่ได้ “ท่านแม่ก็คิดจะทำเสื้อขนละเอียดอยู่เหมือนกัน” เสิ่นลั่วเยี่ยนเม้มปากยิ้ม “แต่จะให้แต่ละคนมีสองชุดคงลำบาก ชาวซั่วเป่ยเลี้ยงเป็ดและห่านกันน้อยมาก ในจวนของเราซื้อขนละเอียดมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังได้มาไม่มากพอ” เช่นนั้นหรือ? หยุนเจิงโอบเอวเสิ่นลั่วเยี่ยนไว้ พร้อมกล่าวด้วยความรู้สึกว่า “เพราะอย่างนี้ไงล่ะ พวกเรายังต้องทำงานหนักอีกเยอะ ต้องทำให้ชาวซั่วเป่ยมีอาหารเพียงพอจนเลี้ยงเป็ดและไก่ได้เป็นจำนวนมาก” เป็ดและห่านในซั่วเป่ย เนื่องจากเลี้ยงในสภาพอากาศหนาวเย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1371

    ติ้งเป่ย หยุนเจิงได้รับจดหมายตอบกลับจากเจียเหยาแล้ว ความคืบหน้าทางฝั่งของเจียเหยาเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยกองทัพใหญ่ของพวกเขาเคลื่อนทัพเข้าใกล้ อำนาจของกุ่ยฟางจึงถอยร่นไปอย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้ มีชนเผ่าหลายกลุ่มยอมสวามิภักดิ์ต่อทัวฮวนแล้ว รวมถึงทหารกุ่ยฟางที่พ่ายศึกบางส่วนก็ยอมสวามิภักดิ์ต่อทัวฮวนเช่นกัน เมื่อรวมกับทหารที่หยุนเจิงส่งให้ ทัวฮวนจึงมีกองทัพมากกว่าหนึ่งหมื่นนายในมือแล้ว ชื่อเหยียนได้ส่งคนไปเจรจากับเจียเหยา แสดงความประสงค์อย่างชัดเจนที่จะขอสงบศึก ทว่า เจียเหยาต้องการกดดันชื่อเหยียนต่อไป จึงยังไม่ตอบรับการเจรจา และเดินทัพต่อไป แม้เจียเหยาจะไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์การศึกอย่างละเอียด แต่ก็คาดว่าน่าจะเป็นเหมือนลมฤดูใบไม้ร่วงที่พัดใบไม้ร่วงหล่น เพราะกองทัพหลักของกุ่ยฟางพ่ายแพ้จนเกือบหมดสิ้น ต่อให้กุ่ยฟางยังเหลือกำลังทหารบ้าง ก็หมดกำลังใจที่จะสู้ต่อ ส่วนเรื่องอภิเษกสมรสของพวกเขา เจียเหยาตอบกลับมาเพียงสั้นๆ ว่าแล้วแต่หยุนเจิงจะเห็นสมควร ไม่ว่าหยุนเจิงหรือเจียเหยา ต่างก็ไม่ได้ใส่ใจกับงานอภิเษกสมรสของพวกเขามากนัก เมื่อวางจดหมายของเจียเหยาลง หยุ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1370

    นอกจากใช้การยกทัพข่มขู่แล้ว ยังมีวิธีอะไรที่จะทำให้น้องหกรับพระราชโองการได้อีก? หรือว่าต้องให้ราชสำนักยื่นผลประโยชน์ให้เขา? คิดไปคิดมา หยุนลี่ก็เกิดความคิดขึ้นมา “เสด็จพ่อ การกระทำครั้งนี้ของน้องหก อาจเป็นการเรียกร้องผลประโยชน์จากราชสำนักในรูปแบบหนึ่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? เขาอาจต้องการข้อเสนอจากราชสำนักก่อนถึงจะยอมรับโองการ” จักรพรรดิเหวินพยักหน้าเล็กน้อย “ข้าคาดว่าลูกอกตัญญูคนนี้อาจจะมีความคิดเช่นนั้น” หยุนลี่รีบเสนอ “หากน้องหกยังคงปฏิเสธไม่รับพระราชโองการ ราชสำนักอาจสั่งปิดฟู่โจวแนวหน้าขึ้นมาใหม่ ห้ามการค้าขายระหว่างเขตภายในกับซั่วเป่ยพ่ะย่ะค่ะ!” จักรพรรดิเหวินเงยหน้ามอง “หากเจ้าหกเกิดจนตรอก ยกทัพลงใต้ ราชสำนักจะรับมืออย่างไร?” “นี่…” หยุนลี่อ้าปากค้างเล็กน้อย “ซั่วเป่ยในปีนี้เต็มไปด้วยศึกสงคราม น้องหกไม่น่าจะ...” “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย!” จักรพรรดิเหวินขัดคำพูดของหยุนลี่ “ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหกกับราชสำนักในตอนนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน ไม่แน่ว่าเจ้าหกอาจกำลังมองหาข้ออ้างที่เหมาะสมในการยกทัพลงใต้! การกระตุ้นเขาในเวลานี้ไม่เป็นผลดีต่อราชสำนัก” หยุน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1369

    เช้าวันถัดมา จักรพรรดิเหวินได้รับจดหมายที่มู่ซุ่นส่งกลับมาอีกครั้ง เป็นจดหมายลายมือของหยุนเจิง เมื่ออ่านเนื้อหาในจดหมายจบ จักรพรรดิเหวินที่โกรธจนแทบระงับอารมณ์ไม่อยู่ก็เรียกหยุนลี่เข้ามาในพระราชยานอีกครั้ง “อ่านดูเถิด!” จักรพรรดิเหวินโยนจดหมายลายพระหัตถ์ของหยุนเจิงให้หยุนลี่ทันที หยุนลี่รีบหยิบจดหมายขึ้นมาอ่าน ในจดหมาย หยุนเจิงได้อธิบายเหตุผลที่ไม่รับพระราชโองการโดยละเอียด พร้อมกล่าวอย่างสง่างามว่า ปีนี้ต้าเฉียนมีค่าใช้จ่ายมหาศาล เวลานี้ไม่เหมาะสมที่จะจัดงานอภิเษกสมรสระหว่างเขากับเจียเหยา เขาซาบซึ้งในความหวังดีของจักรพรรดิเหวิน แต่เขาไม่อาจทนเห็นจักรพรรดิเหวินขายสิ่งของในวังเพื่อหาเงินมาจัดงานแต่งของเขาได้… หยุนเจิงเขียนยืดยาวด้วยถ้อยคำโอ่อ่า แต่เนื้อหาโดยสรุปมีเพียงอย่างเดียว คือเขากับเจียเหยาจะไม่แต่งงานกัน ยิ่งไปกว่านั้น เหตุผลนี้ฟังดูสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง เหมือนเขากำลังคิดถึงประชาชนของต้าเฉียนและจักรพรรดิเหวิน แม้แต่หยุนลี่เองก็ไม่อาจหาข้อบกพร่องใดๆ ได้ “เป็นอย่างไรบ้าง?” จักรพรรดิเหวินถามขึ้น “นี่…” หยุนลี่ขมวดคิ้วแน่น “เสด็จพ่อ ลูกขอพูดตามต

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1368

    หยุนลี่พยายามเก็บอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไว้ แล้วปลอบโยนว่า “เสด็จพ่อ หากสิ่งที่น้องหกพูดเป็นความจริง ก็ถือว่ามีเหตุผลสมควรอยู่บ้างพ่ะย่ะค่ะ เรื่องการแต่งงานของพวกเขาเป็นเรื่องส่วนตัว แต่การกดดันให้กุ่ยฟางยอมแพ้เป็นเรื่องของบ้านเมือง...” “เรื่องบ้านเมืองบ้าอะไร!” จักรพรรดิเหวินพูดด้วยความหงุดหงิด “เจ้ายังมองไม่ออกหรือว่าลูกอกตัญญูคนนี้จงใจทำให้ข้ากับเจ้าต้องอับอาย!” “ห้ะ?” หยุนลี่มองจักรพรรดิเหวินด้วยความงุนงงอย่างมาก แม้เขาจะไม่ลงรอยกับหยุนเจิง แต่เขาก็คิดว่าเหตุผลของหยุนเจิงนั้นฟังขึ้นทีเดียว แล้วทำไมถึงกลายเป็นการทำให้เสด็จพ่อขายหน้าได้ล่ะ? “เพราะอย่างนี้ไง เจ้าถึงยังอ่อนหัดอยู่มาก!” จักรพรรดิเหวินมองหยุนลี่ด้วยสายตาหงุดหงิดก่อนอธิบาย “ภายนอกเหมือนว่าเขาทำเพื่อบ้านเมือง แต่จริงๆ แล้วเขากำลังแสดงความไม่พอใจต่อข้า! กุ่ยฟางเสียหายย่อยยับ ทหารมณฑลทางเหนือมีแม่ทัพมากมาย ทำไมต้องให้เจียเหยาไปเป็นผู้นำกองทัพกดดันกุ่ยฟาง? เจ้าลองคิดดู หากข้าบอกว่าจะเตรียมเงินไว้สิบล้านตำลึงให้เขา เพียงแค่ให้เขาพาเจียเหยามารับเงิน เจ้าคิดไหมว่าเขาจะรีบพาเจียเหยามาทันที?” “นี่...” หยุ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1367

    ระหว่างทางไปฟู่โจว หยุนลี่อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ตั้งแต่พวกเขาออกจากเมืองหลวง เวลาก็ผ่านไปเกือบครึ่งเดือนแล้ว ตลอดเวลานี้ เขาต้องขี่ม้าทุกวัน แม้แต่จะได้นั่งรถม้าสักครั้งก็ไม่มีโอกาส นี่เป็นคำสั่งพิเศษจากจักรพรรดิเหวิน! พระองค์ตรัสว่าต้องการฝึกฝนจิตใจของเขา หลายวันมานี้ เขาขี่ม้าจนร่างกายปวดไปหมด ยิ่งกว่านั้น อากาศในเขตภายในเริ่มหนาวขึ้นทุกที การขี่ม้าทั้งวันก็ยิ่งหนาวเข้าไปใหญ่ หากเป็นแบบนี้ต่อไป เมื่อถึงฟู่โจว เขาคงเหนื่อยจนร่างพัง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจ้าหกตัวแสบ! ถ้าเจ้าหกอยู่ซั่วเป่ยอย่างสงบเรียบร้อย เรื่องวุ่นวายพวกนี้คงไม่มี ใครจะไปรู้ว่าเจ้าหกมันไปเรียนวิชารบมาจากไหน เจ้าหมอนี่อยู่ที่เรือนปี้ปัวมาสิบกว่าปี ไม่เห็นมีใครสอนวิชาพิชัยสงครามให้มันเลย! พอคิดว่าจะได้เจอหยุนเจิงเร็วๆ นี้ หยุนลี่ก็อดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าหยุนเจิงได้รับพระราชโองการหรือยัง ถ้าเจ้าหมอนั่นได้รับพระราชโองการแล้ว คงเริ่มคิดแผนการจะจัดการข้าแน่ เขาถูกหยุนเจิงเล่นงานจนกลัวไปหมดแล้ว ตอนนี้แค่เห็นหน้าหยุนเจิง ก็รู้สึกว่าหยุนเจิงกำลังวางแผนเล่นงานเขาอยู่แล้ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1366

    เช่นนี้หรือ? โหวซื่อไคและอีกคนมองหน้ากันเงียบๆ หากทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง การลงทุนในซั่วเป่ยก็ดูน่าจะเป็นไปได้มาก หลังจากครุ่นคิดเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง โหวซื่อไคก็ตัดสินใจแน่วแน่ “ขอบคุณท่านอ๋องที่ให้โอกาสข้าผู้น้อย ข้าขอเลือกวิธีชดใช้แบบที่สอง!” เมื่อโหวซื่อไคแสดงเจตนา อีกคนก็รีบเลือกทางเดียวกันทันที “ยินดีกับพวกเจ้าที่ตัดสินใจได้ถูกต้อง” หยุนเจิงยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนถามต่อ “ว่าแต่พวกเจ้าคุ้นเคยกับเมิ่งหยุนฉี่หรือไม่? ทำไมเขาถึงไม่ส่งข้าวมาซั่วเป่ยเลย? เขาประสบปัญหาอะไรหรือเปล่า?” โหวซื่อไคตอบ “ข้าผู้น้อยเคยได้ยินเหตุผลที่เมิ่งหยุนฉี่ไม่ส่งข้าวมาซั่วเป่ยอยู่บ้าง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่...” “เล่ามา” หยุนเจิงพูดด้วยความสนใจ โหวซื่อไคไม่กล้าล่าช้า รีบเล่าสิ่งที่เขารู้ตามความจริง ว่ากันว่าเดิมทีเมิ่งหยุนฉี่ตั้งใจจะรวบรวมข้าวให้ครบแล้วส่งมาซั่วเป่ยในคราวเดียว แต่สุดท้าย เมิ่งหยุนฉี่พบว่าตนไม่สามารถรวบรวมข้าวได้ครบ จึงตัดสินใจไม่ส่งข้าวมาซั่วเป่ยเลย ดีกว่าจะต้องส่งข้าวเปล่าๆ แล้วยังต้องชดใช้เงินอีกเหมือนพวกเขา เมิ่งหยุนฉี่ตอนนี้กำลังพยายามไป

DMCA.com Protection Status