แชร์

บทที่ 1143

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-14 17:00:00
ควรทำความเคารพเช่นไร?

ประโยคเดียวของหยุนเจิง พลันทำให้เกาซื่อเจินนิ่งไป

เขาไร้ลาภยศติดตัว!

เขาย่อมรู้ดี ตามหลักมารยาทของต้าเฉียนแล้ว เขาควรคุกเข่าคาราวะหยุนเจิง

แต่เขาเป็นนักปราชญ์ขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่!

ยศนักปราชญ์ขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ลาภยศ แต่เหนือกว่าลาภยศ!

ขอแค่เขาเกาซื่อเจินยินดี เขาสามารถเข้าราชสำนักเป็นขุนนางได้ตลอดเวลา

แต่ว่า ภายในใจเกาซื่อเจินก็รู้ดี ต่อให้เขาเข้าราชสำนักเป็นขุนนาง ตำแหน่งขุนนางก็ยังอยู่ใต้จางฮว๋ายไกลลิบลับ

ต่างก็ได้รับการยอมรับเป็นนักปราชญ์ขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่ ตำแหน่งขุนนางต่ำกว่าจางฮว๋ายมากเกินไป ก็เป็นการขายหน้าไม่ใช่หรือ?

ส่วนเรื่องการทำความเคารพ อย่าว่าแต่ตอนนี้คนที่พบคือหยุนเจิงเลย ต่อให้ตอนนี้คนที่พบคือจักรพรรดิเหวิน หากไม่ใช่จักรพรรดิเหวินร้องขอ ขอแค่ไม่ใช่ในท้องพระโรง เขาก็ไม่มีทางคุกเข่าคาราวะ!

“การคุกเข่าคาราวะของข้า กลัวว่าท่านอ๋องจะรับไม่ไหว!”

เกาซื่อเจินช้อนตามองหยุนเจิง บนใบหน้ามีความบูดบึ้งแล้ว

“ข้าเป็นองค์ชาย แล้วก็เป็นซั่วเป่ยเจี๋ยตู้สื่อ เหตุใดจึงรับการคาราวะจากสามัญชนคนหนึ่งอย่างเจ้าไม่ไหว?”

หยุนเจิงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “เจ้าอายุปูนนี้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1144

    ตอนนี้พวกเขากลัวจริงๆ ว่าท่านอ๋องบ้าเลือดเพิ่งกลับมาจากสนามรบผู้นี้จะมาเอาชีวิตพวกเขาโดยตรงแต่ว่า ก็ยังมีคนที่หัวแข็งมั่นใจว่าหยุนเจิงไม่กล้าฆ่าพวกเขา จ้องหยุนเจิงด้วยความเดือดดาลใบหน้าชราของเกาซื่อเจินกระตุกอย่างควบคุมไม่อยู่“ท่านอ๋อง!”เกาซื่อเจินขึ้นเสียง กล่าวด้วยความโมโห “ท่านอ๋องปฏิบัติกับคนที่มาร้องทุกข์เช่นนี้ หรือว่า...”“ข้าสนใจพวกเจ้าเพื่อสิ่งใด!”หยุนเจิงตัดบทเกาซื่อเจิน “ในมื่อไม่มีลาภยศติดตัว ก็ควรคุกเข่าคาราวะข้า! รวมถึงเจ้าด้วย!”ท่าทางของหยุนเจิงแข็งขืนมาก สายตาเย็นชาจับต้องเกาซื่อเจิน“บังอาจ!”เกาซื่อเจินหวดเคราสั่น “อาจารย์เฒ่าเป็นนักปราชญ์ขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่ เจ้ายังกล้าให้อาจารย์เฒ่าคุกเข่าคาราวะ?”เวลานี้ เกาซื่อเจินในที่สุดก็หยิบเอามาดนักปราชญ์ขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่ออกมาแล้ว“นักปราชญ์ขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่?”หยุนเจิงหัวเราะเยาะ “เมื่อครู่เจ้าบอกไม่ใช่ เจ้าก็แค่ชายชรายากจนคร่ำครึ? เหตุใด ตอนนี้ต้องการให้เจ้าทำความเคารพ ก็เริ่มบอกว่าตัวเองเป็นนักปราชญ์ขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่แล้ว? สิ่งที่เรียกว่านักปราชญ์ขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่ กลับกรอกเช่นนี้ ไร้ยางอายเพียงนี้หรือ?”“เจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1145

    เกาซื่อเจินแม้จะไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แต่สุดท้ายก็คุกเข่าเขาไม่อยากตบหน้าตัวเองแต่ภายในใจเกาซื่อเจินยังคงข่มกลั้นไฟโทสะมองคนที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น พวกจั่วเริ่นอดไม่ได้ที่จะแอบชื่นชมเป็นองค์ชายที่เก่งกาจไม่กี่ประโยคก็ทำให้คนเหล่านี้คุกเข่าได้แล้วสุดท้ายก็เป็นอย่างที่ท่านอ๋องกล่าว กับคนเหล่านี้ไม้อ่อนใช้ไม่ได้ผล ต้องใช้ไม้แข็ง!เยี่ยจื่อมองหยุนเจิงด้วยความกังวล ภายใจกลับเป็นห่วงตอนนี้หยุนเจิงน่าเกรงขาม แต่เรื่องนี้แพร่ออกไปแล้ว ต้องทำให้ปัญญาชนมากมายยืนอยู่ตรงข้ามกับเขาคนที่ผลักดันเรื่องนี้อยู่เบื้องหลังก็จะได้ตามเป้าหมายของเขาแล้วหยุนเจิงไม่รู้ว่าในใจพวกเขาคิดสิ่งใด เพียงแค่มองคนตรงหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นก็หันไปถามเกาซื่อเจินด้วยร้อยยิ้ม “เจ้าว่า ข้าสอนมารยาทพวกเขา ดีกว่าเจ้าสอนใช่หรือไม่?”“ท่านอ๋องช่างน่าเกรงขาม! ผู้เฒ่านับถือ!”เกาซื่อเจินเงยหน้าขึ้นมา จากนั้นก็หยิบแผ่นหยกชิ้นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อแล้วยกขึ้นสูง ตะโกนเสียงดัง “ผู้เฒ่าเกาซื่อเจิน พาบรรดาปัญญาชนมาขอร้องทุกข์กับท่านอ๋อง!”นี่คือขั้นตอนการร้องทุกข์ตามมาตราฐานหยุนเจิงแม้ไม่อยากฟัง แต่ก็ไม่อาจเอาแต่ใจได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1146

    “ข้าไม่มีเจตนาใด เพียงแค่ร้องทุกข์เพื่อชาวบ้านเท่านั้น!”เกาซื่อเจินตะโกนเสียงดัง “ราษฏรทั้งใต้หล้าหวังว่าท่านอ๋องของต้าเฉียนเราจะเป็นวีรบุรุษที่สง่าผ่าเผย ไม่ใช่คนไร้ยางอายที่ทำลายหลักจริยธรรม!”เกาซื่อเจินกล่าว จากนั้นก็เงยหน้ามองเมี่ยวอิน “ปีศาจ หากเจ้าไม่อยากให้ท่านอ๋องแบกชื่อเสื่อมทรามแทนวีรบุรษเพื่อเจ้า ก็ควรฆ่าตัวตายซะ!”เมื่อได้ฟังคำของเกาซื่อเจิน เมี่ยวอินใบหน้ากระตุกอย่างควบคุมไม่อยู่หยุนเจิงในใจทั้งโกรธทั้งขบขันตาแก่นี่ แม้แต่คนยังจำผิด ยังเอะอะโวยวายอยู่ที่นี่?“เหล่าเกา ข้าว่าเจ้าสายตาแก่ฟ่าฟางแล้ว”เยี่ยจื่อมองเกาซื่อเจินด้วยสายตาเย็นชา “นางชื่อเมี่ยวอิน ข้าต่างห่างเยี่ยจื่อ!”“เจ้า...เจ้าคือเยี่ยจื่อ?”เกาซื่อเจินประหลาดใจเขาเห็นเมี่ยวอินหน้าตามีเสน่ห์งดงาม เกิดมาด้วยหน้าตางดงามเป็นก่อเกิดหายนะ จึงนึกว่าเมี่ยวอินก็คือเยี่ยจื่อ!“ถูกต้อง!”เยี่ยจื่อไม่หยิ่งยโสและไม่ทำตนให้ต่ำต้อย “ข้าก็คือคนที่เจ้าเรียกว่าปีศาจ! แต่ว่า ข้าสามารถบอกเจ้าได้อย่างชัดเจน ข้าไม่เพียงจะไม่ฆ่าตัวตาย ยังจะเป็นผู้หญิงที่คลอดบุตรให้ท่านอ๋องด้วย! ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้แล้ว มีที่ให้เจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1147

    “หยุนเจิง!”เยี่ยจื่อและเมี่ยวอินขึ้นหน้าไปพร้อมกัน ส่ายหน้าให้เขา บ่งบอกเขาอย่าวู่วามแม้หยุนเจิงไม่ได้แสดงออกว่าโมโหเท่าใด แต่พวกน้าต่างรู้ดี ภายในใจของหยุนเจิงต้องเต็มไปด้วยไฟโทสะพวกนางกังวลว่าหยุนเจิงโมโหแล้วตัดศีรษะของเกาซื่อเจินต่อให้หยุนเจิงฆ่าเกาซื่อเจินก็ไม่มีผู้ใดทำกระไรเขาได้ แต่หากหยุนเจิงทำเช่นนั้นจริง จะต้องทิ้งชื่อเสียงเสื่อมทรามให้หยุนเจิงตลอดกาล จะทำให้หยุนเจิงถูกวิจารณ์ด้วยวาจาและพู่กันจากปัญญาชนมากขึ้นพวกนางไม่หวังให้หยุนเจิงสร้างเรื่องจากความวู่วามเพราะความโกรธเห็นสองสาวขัดขวางหยุนเจิงสุดชีวิต เกาซื่อเจินยิ่งไร้ความยำเกรง ทำเป็นยอมตายอย่างไม่เห็นแก่ตัว ร้องตะโกน “มีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งใดคุ้มค่าให้ยินดี ตายไปมีสิ่งใดให้หวาดกลัว?”“ข้าเพื่อรักษามารยาทของราชสำนักข้า ร้องทุกข์เพื่อชาวประชา ต่อให้ต้องตาย แล้วจะอย่างไร?”“วันนี้ ต่อข้าตายด้วยคมมีท่านอ๋อง ข้าก็จะหลงเหลือชื่อเสียงดีงามคงอยู่ตลอดไป!”เกาซื่อเจินไม่กลัวตายเขาอายุปูนนี้แล้ว ครึ่งค่อนชีวิตล้วนสู่วิถีนักปราชญ์แล้วถึงคนอายุเช่นเขา คิดแต่จะทำเช่นไรจึงจะหลงเหลือชื่อเสียงดีงามคงอยู่ตลอดไป ไม่ใช่มีชีวิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1148

    เขาลังเล แต่หยุนเจิงไม่ลังเลแม้แต่น้อยมองดูศพที่เลือดยังพุ่งออกมา กลิ่นเหม็นคาวเลือดค่อยๆ ลอยออกมา คนทีหยุนเจิงจะไม่กล้าแตะต้องพวกเขาทุกคนตัวสั่นระริก กลัวว่าหยุนเจิงจะหาตัวเองพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อน หยุนเจิงจะตอบกลับแข็งกร้าวเช่นนี้พวกเขาคิดว่า มีเกาซื่อเจินนักปราชญ์ขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่เป็นแกนนำ หยุนเจิงจะไม่กล้าแตะต้องพวกเขาแต่ตอนนี้พวกเขาเพิ่งรู้ ตัวเองคิดผิดมหันต์บางที เดิมทีหยุนเจิงไม่ได้สนใจชื่อเสียงท่านอ๋องที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ คือคนที่ต่อสู้กับชาวเป่ยหวนในสนามรบด้วยดาบและหอกจริง!นี่คือท่านอ๋องบ้าเลือดผู้หนึ่ง!ไม่ใช่ท่านอ๋องหรือองค์ชายที่อาศัยชื่อเสียงจากการครองใจชาวประชาพวกเขาเหล่านี้ โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนไร้เรี่ยวแรงให้พวกเขาต่อปากต่อคำ หรือเขียนบทกวี แต่งบทเพลงยังพอไหวการต่อสู้ตรงหน้า พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน!ช่วงเวลากะทันหัน คนมากมายเกิดความวู่วามคิดอยากหลบหนีพวกเขานึกเสียใจแล้วที่ติดตามเกาซื่อเจินมาร้องทุกข์ที่ซั่วเป่ยหยุนเจิงไม่มองศพบนพื้นเลยสักนิด เดินไปอยู่ตรงหน้าอีกคนเผชิญกับสายตาของหยุนเจิง คนผู้นี้ตกใจกลัวตัวสั่น ใบหน้าไร้เลือดฝาก“ทูลท่านอ๋

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1149

    นาทีถัดมา ร่างของเกาซื่อเจินสั่นไหวโอนเอนล้มไปกับพื้นทว่า ต่อให้เป็นเช่นนี้ ในสถานที่เกิดเหตุก็ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปพยุงหยุนเจิงมองเกาซื่อเจินที่เลือดเต็มปากนิ่งๆ “โจรชั่ว นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะทำเรื่องยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเช่นนี้ เจ้าเอาหน้าที่ไหนมาเห่าหอนอยู่หน้าข้า?”“อย่างเจ้า คู่ควรเรียนกนักปราชญ์ขงจื๊อ?”“ตามความคิดของข้า เจ้ามันก็แค่โจรเฒ่าหลอกลวงโลกเพื่อชื่อเสียงเท่านั้น!”ยังจะหลงเหลือชื่อที่ดีงามไว้ตลอดไป?เจ้าเกาซื่อเจินไม่ใช่อยากหลงเหลือชื่อที่ดีงามไว้ตลอดไปหรือ?วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มลองรสชาติแห่งความอับอายชั่วนิรันดร์!คิดว่าตัวเองมีสถานะเป็นนักปราชญ์ขงจื๊อไร้สาระ ก็สามารถมากำเริบเสิบสานต่อหน้าเขาได้แล้ว?ปณิธานเพื่อใต้หล้า เพื่อชาวประชาพึ่งพาตนเอง สืบทอดการเรียนรู้แห่งปราชญ์ เพื่อทุกสรรพสิ่งสงบสุขปลอดภัยหากเกาซื่อเจินทำได้จริง ก็เหมาะสมกับฉายานักปราชญ์ขงจื๊อแต่น่าเสียงดาย เกาซื่อเจินเดิมก็ทำไม่ได้จากมุมของเขา เกาซื่อเจินก็แค่โจรเฒ่าอาศัยที่ตัวเองอายุมากเที่ยวดูถูกคนอื่นเท่านั้น!“เจ้า...เจ้าใส่ร้ายคน! เจ้า...ป้ายสีคนอื่น...”เกาซื่อเจินโกรธมาก น้ำตาขุ่นม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1150

    “เจ้า...ฟู่...”เกาซื่อเจินเพิ่งพูดออกมาแค่คำเดียว ก็พ่นเลือดสดออกมาอีกครั้งแต่ว่าครั้งนี้ เกาซื่อจนหมดสติไปโดยตรงแค่นี้ก็ไม่ไหวแล้ว?หยุนเจิงถากถางในใจ จากนั้นก็สั่งเมี่ยวอิน “รักษาโจรเฒ่านี่หน่อย อย่าปล่อยให้เขาตาย! ข้าต้องการให้โจรเฒ่ามีชีวิต ให้เขาเห็นด้วยตาว่าเขาถูกคนทั้งใต้หล้าดูหมิ่นเช่นไร!”“ก็ได้!”เมี่ยวอินจนใจ เดินเข้าไปจับชีพจรให้เกาซื่อเจินตาแก่นี่ก็เหลือเกินยั่วยุ่ใครไม่ยุ ต้องมายั่วยุหยุนเจิงให้ได้จั่วเริ่นเดินเข้ามา ชี้ไปที่กลุ่มคนที่คุกเข่าแล้วถาม “องค์ชาย คนพวกนี้จัดการเช่นไร?”หยุนเจิงกวาดสายตาเย็นชามองทุกคน “เยี่ยเฉินและหวังจิ้งอยู่ก่อน คนที่เหลือ ส่งไปขุดเหมือง!”ขุด...เหมือง?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง ทุกคนแทบจะหมดสติให้พวกเขาคนที่นุ่นนวลบอบบางอย่างพวกเขาไปขุดเหมือง ไม่ต่างจากเอาชีวิตพวกเขา?“ท่านอ๋องไว้ชีวิตด้วย!”“ข้าถูกเกาซื่อเจินโจรเฒ่ายุยง...”“ขอท่านอ๋องเมตตาด้วย...”ทันใดนั้น ทุกคนก็พากันร้องไห้อ้อนวอนหยุนเจิงส่ายหน้าอย่างเย็นชา “นักปราชญ์หยุน ฟ้าจะมอบหมายภาระอันยิ่งใหญ่ให้กับใครคนหนึ่ง ต้องให้เขาลำบากเพื่อฝึกความมุ่งมั่น ให้เขาลำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1151

    หยุนเจิงใช้อิทธิพลในการสยบเรื่องการร้องทุกข์แต่ เรื่องนี้ยังไม่นับว่ายุติหยุนเจิงอยากรู้มาก ที่แท้เป็นใครสร้างลมสร้างฝนอยู่เบื้องหลังเขาไม่กลัวศัตรู แต่ไม่ชอบความรู้สึกที่ไม่รู้แม้กระทั่งว่าศัตรูเป็นใครคนที่คู่ควรให้สงสัยมากที่สุด ย่อมต้องเป็นหยุนลี่องค์รัชทายาทแต่ว่า หยุนเจิงรู้ดี คนเบื้องหลังเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นหยุนลี่ก็เหมือนกับเรื่องลอบสังหารก่อนหน้านี้ คนคู่ควรให้สงสัยมีเยอะเกินไปไม่แน่ว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องการลอบสังหารและเรื่องนี้ต่างก็เป็นคนเดียวกันคิดถึงเรื่องการลอบสังหาร หยุนเจิงก็แอบขมวดคิ้วอีกครั้งเขาส่งคนไปในด่านนานมากแล้วจนถึงตอนนี้ กลับไม่ได้ข่าวกลับมาแม้แต่น้อยเขาถึงขั้นไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นเป็นหรือตายศัตรูไม่น่ากลัว คนที่หน้ากลัวก็คือศัตรูที่ซ่อนอยู่ในที่ลับจำเป็นต้องจับคนผู้นี้ออกมาโดยเร็วที่สุดตอนที่หยุนเจิงกำลังคิดเรื่อยเปื่อย เยี่ยจื่อและเมี่ยวอินเข้ามาอย่างเชื่องช้า“ตาแก่นั่นเป็นเช่นไรบ้าง?”หยุนเจิงเก็บความคิดของตนเองไว้ จากนั้นก็ถามเมี่ยวอิน“ไม่มีสิ่งใดร้ายแรง”เมี่ยวอินส่ายหน้าเบาๆ กล่าวอย่างโหดเหี้ยม “ตาแก่นี่คิดจะต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status