แชร์

บทที่ 1149

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-15 17:00:00
นาทีถัดมา ร่างของเกาซื่อเจินสั่นไหวโอนเอนล้มไปกับพื้น

ทว่า ต่อให้เป็นเช่นนี้ ในสถานที่เกิดเหตุก็ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปพยุง

หยุนเจิงมองเกาซื่อเจินที่เลือดเต็มปากนิ่งๆ “โจรชั่ว นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะทำเรื่องยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเช่นนี้ เจ้าเอาหน้าที่ไหนมาเห่าหอนอยู่หน้าข้า?”

“อย่างเจ้า คู่ควรเรียนกนักปราชญ์ขงจื๊อ?”

“ตามความคิดของข้า เจ้ามันก็แค่โจรเฒ่าหลอกลวงโลกเพื่อชื่อเสียงเท่านั้น!”

ยังจะหลงเหลือชื่อที่ดีงามไว้ตลอดไป?

เจ้าเกาซื่อเจินไม่ใช่อยากหลงเหลือชื่อที่ดีงามไว้ตลอดไปหรือ?

วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มลองรสชาติแห่งความอับอายชั่วนิรันดร์!

คิดว่าตัวเองมีสถานะเป็นนักปราชญ์ขงจื๊อไร้สาระ ก็สามารถมากำเริบเสิบสานต่อหน้าเขาได้แล้ว?

ปณิธานเพื่อใต้หล้า เพื่อชาวประชาพึ่งพาตนเอง สืบทอดการเรียนรู้แห่งปราชญ์ เพื่อทุกสรรพสิ่งสงบสุขปลอดภัย

หากเกาซื่อเจินทำได้จริง ก็เหมาะสมกับฉายานักปราชญ์ขงจื๊อ

แต่น่าเสียงดาย เกาซื่อเจินเดิมก็ทำไม่ได้

จากมุมของเขา เกาซื่อเจินก็แค่โจรเฒ่าอาศัยที่ตัวเองอายุมากเที่ยวดูถูกคนอื่นเท่านั้น!

“เจ้า...เจ้าใส่ร้ายคน! เจ้า...ป้ายสีคนอื่น...”

เกาซื่อเจินโกรธมาก น้ำตาขุ่นม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1150

    “เจ้า...ฟู่...”เกาซื่อเจินเพิ่งพูดออกมาแค่คำเดียว ก็พ่นเลือดสดออกมาอีกครั้งแต่ว่าครั้งนี้ เกาซื่อจนหมดสติไปโดยตรงแค่นี้ก็ไม่ไหวแล้ว?หยุนเจิงถากถางในใจ จากนั้นก็สั่งเมี่ยวอิน “รักษาโจรเฒ่านี่หน่อย อย่าปล่อยให้เขาตาย! ข้าต้องการให้โจรเฒ่ามีชีวิต ให้เขาเห็นด้วยตาว่าเขาถูกคนทั้งใต้หล้าดูหมิ่นเช่นไร!”“ก็ได้!”เมี่ยวอินจนใจ เดินเข้าไปจับชีพจรให้เกาซื่อเจินตาแก่นี่ก็เหลือเกินยั่วยุ่ใครไม่ยุ ต้องมายั่วยุหยุนเจิงให้ได้จั่วเริ่นเดินเข้ามา ชี้ไปที่กลุ่มคนที่คุกเข่าแล้วถาม “องค์ชาย คนพวกนี้จัดการเช่นไร?”หยุนเจิงกวาดสายตาเย็นชามองทุกคน “เยี่ยเฉินและหวังจิ้งอยู่ก่อน คนที่เหลือ ส่งไปขุดเหมือง!”ขุด...เหมือง?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง ทุกคนแทบจะหมดสติให้พวกเขาคนที่นุ่นนวลบอบบางอย่างพวกเขาไปขุดเหมือง ไม่ต่างจากเอาชีวิตพวกเขา?“ท่านอ๋องไว้ชีวิตด้วย!”“ข้าถูกเกาซื่อเจินโจรเฒ่ายุยง...”“ขอท่านอ๋องเมตตาด้วย...”ทันใดนั้น ทุกคนก็พากันร้องไห้อ้อนวอนหยุนเจิงส่ายหน้าอย่างเย็นชา “นักปราชญ์หยุน ฟ้าจะมอบหมายภาระอันยิ่งใหญ่ให้กับใครคนหนึ่ง ต้องให้เขาลำบากเพื่อฝึกความมุ่งมั่น ให้เขาลำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1151

    หยุนเจิงใช้อิทธิพลในการสยบเรื่องการร้องทุกข์แต่ เรื่องนี้ยังไม่นับว่ายุติหยุนเจิงอยากรู้มาก ที่แท้เป็นใครสร้างลมสร้างฝนอยู่เบื้องหลังเขาไม่กลัวศัตรู แต่ไม่ชอบความรู้สึกที่ไม่รู้แม้กระทั่งว่าศัตรูเป็นใครคนที่คู่ควรให้สงสัยมากที่สุด ย่อมต้องเป็นหยุนลี่องค์รัชทายาทแต่ว่า หยุนเจิงรู้ดี คนเบื้องหลังเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นหยุนลี่ก็เหมือนกับเรื่องลอบสังหารก่อนหน้านี้ คนคู่ควรให้สงสัยมีเยอะเกินไปไม่แน่ว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องการลอบสังหารและเรื่องนี้ต่างก็เป็นคนเดียวกันคิดถึงเรื่องการลอบสังหาร หยุนเจิงก็แอบขมวดคิ้วอีกครั้งเขาส่งคนไปในด่านนานมากแล้วจนถึงตอนนี้ กลับไม่ได้ข่าวกลับมาแม้แต่น้อยเขาถึงขั้นไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นเป็นหรือตายศัตรูไม่น่ากลัว คนที่หน้ากลัวก็คือศัตรูที่ซ่อนอยู่ในที่ลับจำเป็นต้องจับคนผู้นี้ออกมาโดยเร็วที่สุดตอนที่หยุนเจิงกำลังคิดเรื่อยเปื่อย เยี่ยจื่อและเมี่ยวอินเข้ามาอย่างเชื่องช้า“ตาแก่นั่นเป็นเช่นไรบ้าง?”หยุนเจิงเก็บความคิดของตนเองไว้ จากนั้นก็ถามเมี่ยวอิน“ไม่มีสิ่งใดร้ายแรง”เมี่ยวอินส่ายหน้าเบาๆ กล่าวอย่างโหดเหี้ยม “ตาแก่นี่คิดจะต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1152

    วันนี้เรื่องนี้สงบแล้ว พรุ่งนี้บางทีอาจมีเรื่องอื่นโผล่มาอีกตั้งแต่โบราณถึงปัจจุบัน ไม่ว่ายุครุ่งเรืองใดล้วนได้มาจากการการรักษาความสงบสุขอย่างยาวนานการบังคับใช้อำนาจและการสังหารหมู่อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่ว่ายุครุ่งเรืองใด ต่างก็จะค่อยๆ แตกแยกสลายไปนางอยากเกลี้ยกล่อมหยุนเจิง แต่ไม่รู้ควรเกลี้ยกล่อมเช่นไรมองดูเยี่ยจื่อที่ใบหน้ากลัดกลุ้ม หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะดึงมือนาง กล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ใต้หล้ามีปัญญาชนรุ่นเก่า ย่อมมีปัญญาชนรุ่นใหม่! ข้าสามารถกำจัดปัญญาชนรุ่นเก่า แล้วก็ยังสามารถสร้างปัญญาชนรุ่นใหม่ได้!”บางเรื่อง ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาลงมือเองยืมแรงเพื่อตอบโต้ ไหนเลยจะไม่ได้!เผชิญกับสายตาหนักแน่นของหยุนเจิง เยี่ยจื่อและเมี่ยวอินชะงักไปยามจำเป็น ใช้ปัญญาชนรุ่นใหม่มาต่อต้านปัญญาชนรุ่นเก่าหรือ?นี่...นับว่าเป็นวิธีที่ดีมาก!สนทนากับเยี่ยจื่อและเมี่ยวอินมากมายแล้ว จั่วเริ่นส่งคนมารายงาน เกาซื่อเจินฟื้นแล้วทว่า อารมณ์ของตาแก่นี่ไม่มั่นคงอย่างยิ่ง ตื่นขึ้นมาก็อยากฆ่าตัวตายยังดีที่มีคนเฝ้าอยู่ ตาแก่นี่ไม่มีโอกาสตายชั่วคราว“ฆ่าตัวตาย?”หยุนเจิงถากถางดูแคลน “ตาแก่นี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1153

    ปัญญาชนคร่ำครึอย่างเกาซื่อเจิน เดิมก็ไม่ค่อยมีแนวป้องกันจิตใจมากนักหยุนเจิงกระแทบทำลายแนวป้องกันจิตใจเกาซื่อเจินได้อย่างง่ายดายมาก“เจ้าคิดจะทำสิ่งใด?”เกาซื่อเจินน้ำตานองหน้า ถามหยุนเจิงด้วยใบหน้าโศกเศร้าหยุนเจิงไม่อ้อมค้อมกับเกาซื่อเจิน ถามตรงประเด็น “ใครใช้ให้พวกเจ้ามาร้องทุกข์ที่ซั่วเป่ย?”เกาซื่อเจินเข้าใจความหมายของหยุนเจิงทันที กล่าวด้วยความโศกเศร้า “เจ้าคิดว่าข้ารับคำสั่งจากผู้อื่น?”“ไม่ใช่หรือ?”หยุนเจิงเลิกคิ้ว จากนั้นก็ถากถาง “ข้ากับเจ้าไร้อคติไร้ความแค้น หากไม่ใช่คนสั่งการมา เหตุใดเจ้าจึงวิ่งมาที่ซั่วเป่ยสร้างความรำคาญให้ข้าและจื่อเอ๋อร์? เจ้ากินอิ่มแล้วว่างเกินไป? หรือว่าคิดจะใช้เรื่องนี้สร้างชื่อเสียง?หยุนเจิงไม่เกรงใจสักนิด ไม่ให้เกียรติเกาซื่อเจินที่เป็นนักปราชญ์ขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่เลยแม้แต่น้อยคำไร้สาระอย่างร้องทุกข์เพื่อชาวประชา หยุนเจิงไม่เชื่อเลยสักนิดชาวบ้านคิดเพียงทำเช่นไรให้กินอิ่มท้อง ใครบ้างจะมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ส่วนปกป้องใบหน้าครอบครัวสวรรค์ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเลยจักรพรรดิเหวินประกาศราชโองการแล้ว เหตุใดต้องให้เกาซื่อเจินมาปกป้องเกี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1154

    ไม่แปลกใจเลยที่ตาแก่นี่ไม่เข้าราชสำนักเป็นขุนนางสมองอย่างเขา หากเป็นขุนนางก็มีแต่สร้างหายนะให้ชาวบ้าน“เจ้ารู้จักหลายคนนั้นหรือไม่?”หยุนเจิงถาม“ไม่รู้จัก”เกาซื่อเจินตอบโดยไม่ต้องคิด“แม้แต่ชื่อของพวกเขาเราก็ไม่รู้จัก?”เยี่ยจื่อถามยังไม่ยอมแพ้เกาซื่อเจินใส่หน้าเบาๆ “ตั้งแต่ตอนจนจบ พวกเราไม่เคยสนทนากันสักประโยค…”เมื่อได้ฟังคำของเกาซื่อเจิน ทั้งสามคนยิ่งหมดคำจะพูดตาแก่นี่ แม้แต่ประโยคเดียวก็ไม่เคยสนทนากับเขา ก็กระโดดลงหลุมที่เขาขุดไว้แล้วคิดจะหลอกตาแก่นี่ ช่างง่ายได้เสียจริง!“ช่างเถอะ ข้าไม่ทำให้เจ้าลำบากชั่วคราว”หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ มองเกาซื่อเจินด้วยใบหน้าสุดเอือมระอา “ต่อไปอ่านหนังสือให้น้อยหน่อย ดูเรื่องราวถูกผิดในโลกให้มากหน่อยเถอะ! เจ้ารีบรักษาร่างกายให้ดี กลับไปข้ามีภารกิจสำคัญมอบให้เจ้า!”“ภารกิจ...สำคัญ?”เกาซื่อเจินมองหยุนเจิงอย่างมึนงงแม้เขาจะคร่ำครึ แต่ก็ไม่โง่ถึงขั้นคิดว่าหยุนเจิงละทิ้งความขุ่นเคืองในอดีตและมอบหมายภารกิจสำคัญให้เขาหยุนเจิงหากสามารถละทิ้งความขุ่นเคืองในอดีตได้จริง ก็คงไม่สังหารปัญญาชนติดต่อกันต่อหน้าเขาหรอกตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว หย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1155

    “อะไรนะ?”เยี่ยจื่อสีหน้าเปลี่ยนไป นัยน์ตาไหววูบแววเย็นยะเยือกผู้ประสบภัย!นี่ต้องการผลักผู้ประสบภัยมาที่ซั่วเป่ย ทำให้ผู้ประสบภัยเหล่านี้ล้างผลาญซั่วเป่ย!หยุนเจิงย่อมรู้ถึงการเดินพันในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้แสดงความโกรธใดออกมา ในทางกลับกันก็ถามด้วยยังถามด้วยสีหน้าสงบ “ผู้ประสบภัยถึงที่ใดแล้ว นานเท่าใดกว่าจะมาถึงด่านเป่ยลู่?”คนผู้นั้นตอบทันที “พวกเขาตอนนี้กำลังเดินทางไปสุยโจว ภายในสองเดือนน่าจะมาถึงด่านเป่ยลู่...”ผู้ประสบภัยทางใต้ต้องการมาซั่วเป่ย สำหรับซั่วเป่ยตอนนี้ ไม่ใช่ข่าวที่ดีแน่นอนผู้ประสบภัยเหล่านี้กับคนที่อพยพมาจากภายในด่านไม่เหมือนกันคนเหล่านี้คือผู้ประสบภัย!ผู้ประสบภัยมาที่ซั่วเป่ย ซั่วเป่ยย่อมต้องเปิดคลังสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเปิดคลังสงเคราะห์ผู้ประสบภัย ก็เท่ากับอาหารที่ต้องบริโภคจำนวนมหาศาลหากผู้ประสบภัยมาไม่กี่หมื่นคน ยังไม่เท่าใดแต่หากผู้ประสบภัยมามากเกินไป เสบียงอาหารของพวกเขาอาจไม่เพียงพอทว่า ตอนที่ผู้ประสบภัยเหล่านี้มาถึงซั่วเป่ย คงอ่อนแออย่างมากไม่เพียงต้องการเสบียงอาหาร ยังต้องการปัจจัยในการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยอื่นด้วยหากผู้ประสบภัยจำนวนมากเส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1156

    หลังตัดสินใจได้แล้ว หยุนเจิงสั่งจั่วเริ่นทันที “ส่งคนรีบไปหม่าอี้ ให้จางซูเลือกคนที่คุ้นเคยขั้นตอนบ่งสุราและกลั่นแอลกอฮอล์รีบมายังด่านเป่ยลู่!”จั่วเริ่นรับคำสั่ง จากนั้นก็ไปทำตามงานที่หยุนเจิงมอบหมาย“เจ้าคิดจะนำวิธีบ่มสุราและกลั่นแอลกอฮอล์ถวายออกไป?”เยี่ยจื่อเข้าใจเจตนาของหยุนเจิงทันที“อื้ม”หยุนเจิงพยักหน้า “ที่สำคัญคือเพื่อทำแอลกอฮอล์! มันถูกบันทึกไว้ในตำราโบราณที่ข้าเคยอ่าน แอลกอฮอล์มีประโยชน์มากในการต่อสู้กับโรคระบาด! แม้อำเภอจวีผิงห่างไกลจากพวกเรามาก โรคระบาดทางนั้นไม่ส่งผลกระทบถึงซั่วเป่ย แต่การควบคุมโรคระบาดให้เร็วที่สุด ไม่เพียงสามารถลดผลกระทบของโรคระบาดที่ต้าเฉียนได้ สำหรับพวกเราก็มีประโยชน์เช่นกัน...”ต้าเฉียนถูกอุทกภัยครั้งนี้ทำลายพลังหยวน สำหรับซั่วเป่ยแล้วก็มีผลกระทบเช่นกันแต่ตอนนี้ยังไม่แสดงออกมา ผ่านไปสักระยะก็จะปรากฎออกมาให้เห็นเส้นทางร่ำรวยจากการบ่มสุราไม่มีแล้ว พวกเขาก็ยังมีเส้นทางร่ำรวยอื่นแต่คนเหล่านี้ตายแล้ว ก็ตายไปแล้วจริงๆเวลานี้ ไม่จำเป็นต้องไปกังวลกับกำไรขาดทุนของสิ่งเหล่านี้“อื้ม ข้าสนับสนุนเจ้า!”เยี่ยจื่อมองหยุนเจิงด้วยความรู้สึกอบอุ่นอ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1157

    แม้จางซูจะเป็นคนเจ้าชู้ แต่เขาจริงใจกับหมิงเย่ว์หมิงเย่ว์ตั้งครรภ์แล้ว เขาอยากให้สถานะกับหมิงเย่ว์คนของตระกูลจางล้วนอยู่เมืองจักรพรรดิ เขาอยากจัดงานแต่งงานกับหมิงเย่ว์ ย่อมต้องกลับไปจัดที่เมืองจักรพรรดิคงไม่อาจหวังให้คนของตระกูลจางวิ่งมาที่ซั่วเป่ยกระมัง?จางฮว๋ายเป็นราชครูของจักรพรรดิหากจางฮว๋ายต้องวิ่งมายังซั่วเป่ย เกรงว่าคนในราชสำนักคงนั่งไม่ติดแล้วเมื่อได้รู้ความคิดของจางซู หยุนเจิงจมสู่ความเงียบอีกครั้งเขาเข้าใจความคิดของจางซูแต่หากจางซูกลับเมืองจักรพรรดิ ย่อมมีอันตรายตอนนี้ คนที่เพ่งเล็งเขา นอกจากเจ้าสามแล้ว ยังมีมือดำที่อยู่หลังม่านที่มองไม่เห็นหากเขาเป็นมือดำที่อยู่หลังม่านผู้นั้น เขาต้องคิดหาวิธีฆ่าจางซูแล้วโยนความผิดให้เจ้าสามแน่นอนแม้เขาสามารถส่งคนไปคุ้มกันจางซูได้ แต่หอกอยู่ที่แจ้งสามารถหลบได้ ธนูที่ลับยากจะป้องกันจางซูไปเมืองจักรพรรดิครั้งนี้ เต็มไปด้วยอันตรายหมิงเย่ว์เดิมทีก็ตั้งครรภ์ หากต้องไปเสี่ยงอันตรายกับเขา นี่ไม่ใช่เรื่องสาระหรือ?หยุนเจิงนิ่งเงียบอยู่นาน จากนั้นก็บอกความกังวลของเขากับจางซูหากจางซูเพียงแค่ต้องการให้สถานะกับหมิงเย่ว์ เขาส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status