แชร์

บทที่ 1106

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-04 17:00:01
หากไม่ใช่การกระทำชุดนี้ของเจียเหยา การต่อสู้ของพวกเขาครั้งนี้ ยึดอาวุธจากข้าศึกที่รบแพ้ก็จะได้มากขึ้น

ข้อเสียของเจียเหยา น่าจะเป็นเรื่องทักษะการรบ

ทุกสิ่งที่เขาเรียนมา ล้วนเป็นทักษะการรบที่ตกผลึกมากจากเหล่าบรรพบุรุษนับไม่ถ้วนเมื่อหลายพันปีก่อน

ส่วนทุกสิ่งที่เจียเหยาเรียน ย่อมไม่ได้กว้างขวางเท่าใด

หากเจียเหยาได้เรียนสิ่งเหล่านั้นเช่นกัน ตัวเขาก็ไม่ได้ว่าจะเอาชนะเจียเหยาได้ทั้งครั้งแล้วครั้งเล่า

เห้อ!

คนอย่างเจียเหยา หากสามารฝึกอบรมอยู่ข้างกายเขา ในอนาคตต้องเป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถที่สุด

ไม่ว่าจะการปกครองภายในหรือการทหาร!

น่าเสียดาย!

เจียเหยาก้มหน้าอยู่นานมาก จึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา เอ่ยเสียงดัง “เจียเหยาขอโทษทุกคน!”

“ต่อจากนี้ไป ทุกคนก็ใช้ชีวิตอยู่ที่ต้าเฉียอย่างสบายใจเถอะ!”

“วันหน้าหากมีโอกาส เจียเหยาจะไปเยี่ยมเยียนทุกคน!”

“ชาตินี้ที่ติดค้างทุกคนไว้ เจียเหยามีเพียงต้องใช้คืนชาติหน้าแล้ว…”

เมื่อได้ฟังคำพูดของเจียเหยา กลุ่มคนร้องไห้สะอึกสะอื้อออกมากะทันหัน

ไม่นาน เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นนี้แค่กระจายออกไป

ทุกคนคุกเข่าอยู่กับพื้น เสียงร้องไห้สะอื้นดังไปทั่ว

เมื่อได้ยินเสียง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1107

    กลางคืน เจียเหยากับหยุนเจิงและเมี่ยวอินนั่งด้วยกันหยุนเจิงเรียกคนเตรียมอาหารหลายจานและสุราสองสามไห นับว่าเป็นการพิธีส่งเจียเหยา“นี่นับว่าเป็นสุรามงคลของพวกเราหรือ?”เจียเหยาช้อนตามองหยุนเจิง สีหน้าเต็มไปด้วยการถากถางตัวเอง“หากเจ้าคิดเช่นนี้ ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้”หยุนเจิงยกไหสุราขึ้นมาอย่างขอไปที รินสุราให้พวกนางและตัวเองหนึ่งถ้วยเขายังไม่ทันวางไหสุราลง เจียเหายาก็กระดกสุราจางกงเมามายหมดรวดเดียว“ปัง!”เจียเหยาวางถ้วยสุราลง เห็นได้ชัดว่ารอให้หยุนเจิงรินสุราให้นาง“เจ้ารินเอาเอง!”หยุนเจิงไหนเลยจะมีแก่ใจปรนนิบัตินาง!ให้เกียรตินางเล็กน้อย นางก็คิดจะได้ใจแล้วเจียเหยาไม่พูดจา สองมือยื่นไป หยิบถ้วยเหล้าของหยุนเจิงและเมี่ยวอินมาท่ามกลางสายตามึนงงของหยุนเจิงและเมี่ยวอิน เจียเหยาราวกับดื่มน้ำ กระดกถ้วยสุราของทั้งสองคนรวดเดียวหมดไม่เหลือสักหยด จากนั้นก็หยิบไหสุรา รินเติมถ้วยสุราให้ทั้งสามคน“เจ้าอยากดื่มจนเมา?”หยุนเจิงมองเจียเหยาด้วยสงสัย “ดูเหมือนเจ้าดื่มไม่เมากระมัง?”“ใช่แล้ว! ดื่มไม่เมา”เจียเหยาใบหน้าโศกเศร้า กล่าวถากถางตัวเอง “ข้ามันไร้ประโยชน์จริงๆ แม้แต่คิดจะดื่มจนเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1108

    จัดการเรื่องเหยี่ยวขาวได้แล้ว เขาสามารถไปสร้างรหัสลับได้แล้วต้องให้ผู้ฝึกเหยี่ยวเหล่านั้นสอนทักษะให้คนของพวกเขาฝึกฝน ทั้งยังต้องจัดตั้งกองทหารรับผิดชอบส่งข่าวและถอนรหัสโดยเฉพาะต่อไปหากต้องส่งข้อมูล ก็จะสะดวกขึ้นมา“แล้วแต่เถอะ!”เจียเหยามองหยุนเจิงด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง จากนั้นก็กล่าว “ด้านเสบียงอาหาร ข้าหวังว่าภายภาคหน้าจะมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนได้มากขึ้น! เสบียงอาหารแค่สามแสนตั้น สำหรับพวกเราแล้ว มันน้อยมาก”ต่อไปภายในสองสามปี เป่ยหวนยังคงขาดแคลนอาหารคนขาดแคลนอาหารของเป่ยหวน จะเป็นจำนวนที่เยอะจนน่ากลัวเสบียงอาหารสามแสนตั้น ไม่ต่างอันใดกับน้ำน้อยแพ้ไฟหยุนเจิงครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นก็ยิ้มถาม “เงินทองของพวกเจ้าเยอะหรือไม่?”เงินทองหรือ?เจียเหยามองหยุนเจิงด้วยความตกใจเงินทองของเป่ยหวนมีไม่มากแต่ว่า เทียบกับนำม้าศึกแลกเสบียงอาหารแล้ว เจียเหยายินดีนำเงินทองซื้อเสบียงอาหารมากกว่า!ไม่มีกิน มีเงินทองอยู่ในมือ นอกจากดูแล้ว ยังสามารถทำสิ่งใดได้อีก?“เจ้ายินดีให้พวกเราใช้เงินทองซื้อเสบียง?”นัยน์ตาเจียเหยาในที่สุดก็มีราศรี มองหยุนเจิงด้วยความตื่นเต้น กลัวหยุนเจิงปฏิเสธเรื่องนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1109

    กลางวันของวันที่สอง พวกเจียเหยาพกเสบียงอาหารจำนวนน้อยออกจากชายแดนกู้ไปสุดท้ายหยุนเจิงก็ไม่ได้ส่งเจียเหยาทว่า ตอนที่เจียเหนาเดินทางออกไปค่อนข้างไกลแล้ว นางกลับหันไปมองหอคอยของชายแดนกู้โดยไม่รู้ตัวบนหอคอย ยังสามารถเห็นเงาของคนผู้หนึ่งได้แม้เงานั้นจะเลือนราง แต่เจียเหยามั่นใจ นั่นคือหยุนเจิงหยุนเจิงมองร่างไปที่อยู่ไกลๆ เงียบๆ ภายในใจถอนใจด้วยความจนใจ“คนเหล่านั้นของพวกเรา ส่งออกไปแล้วหรือยัง?”หยุนเจิงหันหน้าถามเมี่ยวอิน“ส่งออกไปแล้ว”เมี่ยวอินพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็ถาม “เจ้าคิดว่าเจียเหยาจะทรยศ?”“ไม่รู้”หยุนเจิงหันหน้ามองทิศทางที่พวกเจียเหยาจากไป “ข้าหวังว่าเจียเหยาจะฉลาดพอ แต่ก็ต้องระวังพลังแห่งความเกลียดชังด้วย!”สำหรับเจียเหยา หยุนเจิงไม่ไว้ใจอุบายของผู้หญิงคนนี้มากมายเกินไปเป่ยหวนตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องยอมจำนนทันทีที่เป่ยหวนพักฟื้นกลับมา ไม่แน่ว่านางอาจเล่นลูกไม้ใดอีกแต่หวังว่า เจียเหยาจะคิดได้จริงๆ!เขาไม่หวังว่าสักวันต้องฆ่าเจียเหยาด้วยมือตัวเองเมี่ยวอินนิ่งเงียบ เวลานี้ไม่รู้ควรกล่าวสิ่งใดนางเองก็ไม่หวังให้หยุนเจิงฆ่าเจียเหยาด้วยมือเขาในสักวันแต่น่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1110

    คำแนะนำอย่างจริงใจของเยี่ยเจื่อหากประชากรซั่วเป่ยเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก พวกเขาไม่มีทางจัดซื้อเสบียงอาหารอย่างเพียงพอภายในด่าน ซั่วเป่ยช้าเร็วก็จะประสบปัญหาขาดแคลนอาหารระหว่างสนทนา เยี่ยจื่อนำจดหมายที่จางซูส่งคนกลับมามอบให้หยุนเจิงในจดหมายจางซูบอกว่า ตอนนี้ พ่อค้าธัญพืชบางรายเริ่มผลักดันราคาธัญพืชให้สูงขึ้นแล้วราคาของอาหารทั้งหมดล้วนสูงขึ้นไม่น้อยเพิ่มราคาอย่างน้อยหนึ่งส่วน มากสุดสามส่วนตอนนี้ ราชสำนักได้เริ่มปราบปรามพ่อค้าที่โก่งราคาธีญพืชแล้ว แต่ใครก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจะได้ผลเพียงใดสิ่งที่จางซูคิดคือ ไม่ต้องสนใจว่าราคาขึ้นมาน้อยเพียงใด พยายามซื้อเสบียงอาหารมาเก็บกักตุนเอาไว้ เตรียมไว้ในกรณีฉุกเฉินมิฉะนั้น ต่อให้ภายภาคหน้าเงินพวกเขามีเงินมากมายจนใช้ไม่หมด แต่ก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่อาจมีเสบียงอาหารให้ซื้อหยุนเจิงวางจดหมายของจางซู ครุ่นคิดเงียบๆตอนนี้ซื้อเสบียงอาหารเข้ามามาก ก็จำเป็นต้องง่ายเงินจำนวนมากแต่ซั่วเป่ยก็ไม่อาจทำได้ถึงขั้นซื้อให้ตนเองจนเพียงพออีกทั้ง หลังฤดูเก็บเกี่ยวใบไม้ผลิ ซั่วเป่ยอาจเกิดการทำศึกอีกรอบพวกเขาจำเป็นต้องกักตุนอาหารจำนวนมาก!มิฉะนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1111

    หยุนเจิงพักอยู่ที่ติ้งเป่ยเพียงแค่หนึ่งคืน จากนั้นก็รีบร้อนพาคนไปยังด่านเป่ยลู่ทำความเข้าใจว่ากองรักษาเมืองฟู่โจวคิดทำสิ่งใดเขาไม่อยากเปิดศึกกับราชสำนัก ไม่ใช่ไม่กล้าเปิดศึกกับราชสำนักพวกหยุนเจิงเพิ่งมาถึงหม่าอี้ ด้านหน้าก็พบกับคนที่มาส่งรายงานที่ติ้งเป่ย“รายงานท่านอ๋อง ทูตของราชสำนักวันนี้ตอนเช้ามาถึงด่านเป่ยลู่แล้ว ตอนนี้กำลังไปยังติ้งเป่ย!”ราชสำนักส่งคนมาถ่ายทอดราชโองการอีกแล้ว?หยุนเจิงแอบใจเต้น จากนั้นก็สั่งเกาเหอ “เจ้ารีบพาคนไป ให้ทูตของราชสำนักประกาศราชโองการที่หม่าอี้!” “ขอรับ!”เกาเหอรับคำสั่ง พาองครักษ์สองสามคนจากไปทันทีเที่ยงของวันที่สอง ทูตของราชสำนักมาถึงหม่าอี้คนที่มาถ่ายทอดราชโองการ ยังคงเป็นคนที่หยุนเจิงคุ้นเคย มู่ซุ่นมู่ซุ่นมาด้วยความเร่งรีบ หลังทักทายสองสามประโยค มู่ซุ่นเปิดประกาศราชโองการเนื้อหาของราชโองการง่ายมากจักรพรรดิเหวินตอบรับคำขอของหยุนเจิง โยกย้ายเรือรบสามลำของทหารเรือมาให้กองทหารมณฑลทางเหนือขณะเดียวกัน ก็แต่งตั้งเมี่ยวอินเป็นพระชายารองของหยุนเจิงประกาศราชโองการจบ มู่ซุ่นยิ้มหัวเราะบอกกับหยุนเจิง “ฝ่าบาทโปรดปรานองค์ชายมากขึ้นอีกแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1112

    มู่ซุ่นไม่ได้สนใจจำนวนเงินของตั๋วเงิน รับไปด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณองค์ชายหก!”เห็นมู่ซุ่นเก็บตั๋วเงินของเขาแล้ว ในใจหยุนเจิงตัดสินใจแล้วเห็นได้ชัดว่ามู่ซุ่นคิดจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาคนดังอย่างมู่ซุ่นที่อยู่ข้างกายจักรพรรดิ ไม่ใช่จะรับตั๋วเงินจากใครก็ได้บางคนมอบเงินหมื่นตำลึงเงินให้เขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องรับมู่ซุ่นรับตั๋วเงินของเขา ก็เป็นการแสดงออกท่าทีอย่างหนึ่งสุดท้ายแล้ว!ความสามารถต่างหากที่เป็นเส้นทางแห่งอ๋อง!“หัวหน้าขันทีมู่เกรงใจไปแล้ว”หยุนเจิงตอบด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าว “อีกอย่าง รบกวนหัวหน้าขันทีมู่ไปบอกเสด็จพ่อ ข้าทางนี้ได้รับข่าว ชนเผ่าโม่ซีอาจเคลื่อนทัพโจมตีต้าเฉียนเราหลังฤดูเก็บเกี่ยวใบไม้ร่วง ขอเสด็จพ่อทำการเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า”“องค์ชายทราบเรื่องนี้ด้วย?” มู่ซุ่นถามด้วยความประหลาดใจด้วย?คราวนี้เปลี่ยนเป็นหยุนเจิงที่ประหลาดใจแล้ว “หรือเสด็จพ่อได้รับข่าวนี้แล้ว?”มู่ซุ่นพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็ดึงหยุนเจิงไปด้านข้าง กระซิบเอ่ย “ฝ่าบาทได้รายงานลับมาจากตะวันตกเฉียงเหนือ ชนเผ่าโม่ซีช่วงนี้ไปมาหาสู่ใกล้ชิด”“ครั้งนี้อุทกภัยทางตอนใต้ค่อนข้างร้ายแร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1113

    เมืองจักรพรรดิจักรพรรดิเหวินเรียกพบเซียวว่านโฉว เซวียเช่อและสวีสือฝู่มาในห้องส่วนพระองค์ระยะนี้จักรพรรดิเหวินทรงอารมณ์ไม่ดีนักอุทกภัยทางตอนใต้ ความเคลื่อนไหวผิดปกติที่ชนเผ่าโม่ซี กลายเป็นหินก้อนยักษ์ที่กดทับกลางพระทัยของจักรพรรดิเหวินเรื่องอุทกภัยทางตอนใต้ เขามอบให้รัชทายาทหยุนลี่ไปจัดการแล้วสวีสือฝู่เป็นเสนาบดีกรมคลัง ให้หยุนลี่ไปจัดการเรื่องนี้ เหมาะสมที่สุดแต่ว่า ความเคลื่อนไหวผิดปกติของชนเผ่าโม่ซี กลับทำให้จักรพรรดิเหวินได้รับแรงกดดัน“หากชนเผ่าโม่ซีร่วมมือกันส่งทหาร พวกเจ้าคิดว่า จะมีกำลังทหารเท่าใด?”จักรพรรดิถามทั้งสามคนเซียวว่านโฉวคิดไปคิดมา ตอบกลับ “กระหม่อมคิดว่า เกรงว่าจะมีอย่างน้อยสามแสนคน ถึงขั้นอาจมีถึงสี่ห้าแสนคน!”ชนเผ่าโม่ซี ไม่ได้เป็นแคว้นเดียว แต่เป็นชนเผ่าใหญ่น้อยสิบกว่าชนเผ่าแต่ว่า ชนเผ่าโม่ซีมีต้นกำเนิดจากบรรพบุรุษเดียวกัน อีกทั้งชนเผ่าล้วนเป็นชนเผ่าใช้แรงงานทาสระหว่างชนเผ่าต่างๆ เกิดความขัดแย้งไม่ลงรอยกัน หลายครั้งก็ยังกลายเป็นพันธมิตรกันหกปีก่อน ชนเผ่าโม่ซีสามารถส่งทหารมาได้สองแสนคนหลายปีมานี้ ภายใต้การควบคุมของซีเชียงและฮุ๋ยกู่ชนเผ่าที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1114

    จักรพรรดิเหวินครุ่นคิด จากนั้นก็ตรัสถามสวีสือฝู่ “หากใช้กำลังทหารกับชนเผ่าโม่ซี เงินและเสบียงของราชสำนักตอนนี้ สามารถให้กับกองทัพสองแสนคนทางตะวันตกเฉียงเหนือยื้อกับชนเผ่าโม่ซีได้นานเพียงใด?”สวีสือฝู่ครุ่นคิด ตอบ “ประมาณแปดเดือน”ตอนนี้สถานการณ์เช่นนี้ รวบรวมเสบียงอาหารจากคลังทางตอนใต้ขนส่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเป็นเสบียงกองทัพ ค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลเสบียงอาหารของคลังทางตอนใต้ ล้วนต้องใช้บรรเทาอุทกภัย!ทุกเทสมณฑลทางตอนใต้ไม่ยื่นมือขอเสบียงอาหารจากราชสำนักก็นับว่าดีแล้ว!ปัญหาสำคัญคือ ราชสำนักยังต้องเตรียมรับมือกับโรคห่าระบาดเป็นวงกว้างอุทกภัยบวกกับการระบาดของโรคห่าเป็นวงกว้าง เพียงพอที่จะทำให้พลังชี่ของต้าเฉียนบาดเจ็บหนัด“ปีนี้สามารถจัดเก็บภาษีมาได้เท่าใด?” จักรพรรดิเหวินตรัสถามอีกครั้งสวีสือฝู่ “เกรงว่าไม่ถึงครึ่งของปีที่แล้ว…”เก็บภาษีเสบียงหน้าร้อน ความจริงเริ่มทยอยเข้าคลังแล้วภาษีเสบียงในหน้าร้อนมีจำนวนจำกัดมากส่วนใหญ่ของภาษีเสบียง บ้วนเป็นช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยวใบไม้ร่วงเซียวว่านโฉวขมวดคิ้วแน่น ถามด้วยความหงุดหงิด “เหตุใดจึงมีเพียงเท่านี้?”“ท่านคิดว่ามีมากเพียงใด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status