Share

บทที่ 1112

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update Last Updated: 2024-11-06 17:00:01
มู่ซุ่นไม่ได้สนใจจำนวนเงินของตั๋วเงิน รับไปด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณองค์ชายหก!”

เห็นมู่ซุ่นเก็บตั๋วเงินของเขาแล้ว ในใจหยุนเจิงตัดสินใจแล้ว

เห็นได้ชัดว่ามู่ซุ่นคิดจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา

คนดังอย่างมู่ซุ่นที่อยู่ข้างกายจักรพรรดิ ไม่ใช่จะรับตั๋วเงินจากใครก็ได้

บางคนมอบเงินหมื่นตำลึงเงินให้เขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องรับ

มู่ซุ่นรับตั๋วเงินของเขา ก็เป็นการแสดงออกท่าทีอย่างหนึ่ง

สุดท้ายแล้ว!

ความสามารถต่างหากที่เป็นเส้นทางแห่งอ๋อง!

“หัวหน้าขันทีมู่เกรงใจไปแล้ว”

หยุนเจิงตอบด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าว “อีกอย่าง รบกวนหัวหน้าขันทีมู่ไปบอกเสด็จพ่อ ข้าทางนี้ได้รับข่าว ชนเผ่าโม่ซีอาจเคลื่อนทัพโจมตีต้าเฉียนเราหลังฤดูเก็บเกี่ยวใบไม้ร่วง ขอเสด็จพ่อทำการเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า”

“องค์ชายทราบเรื่องนี้ด้วย?” มู่ซุ่นถามด้วยความประหลาดใจ

ด้วย?

คราวนี้เปลี่ยนเป็นหยุนเจิงที่ประหลาดใจแล้ว “หรือเสด็จพ่อได้รับข่าวนี้แล้ว?”

มู่ซุ่นพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็ดึงหยุนเจิงไปด้านข้าง กระซิบเอ่ย “ฝ่าบาทได้รายงานลับมาจากตะวันตกเฉียงเหนือ ชนเผ่าโม่ซีช่วงนี้ไปมาหาสู่ใกล้ชิด”

“ครั้งนี้อุทกภัยทางตอนใต้ค่อนข้างร้ายแร
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1113

    เมืองจักรพรรดิจักรพรรดิเหวินเรียกพบเซียวว่านโฉว เซวียเช่อและสวีสือฝู่มาในห้องส่วนพระองค์ระยะนี้จักรพรรดิเหวินทรงอารมณ์ไม่ดีนักอุทกภัยทางตอนใต้ ความเคลื่อนไหวผิดปกติที่ชนเผ่าโม่ซี กลายเป็นหินก้อนยักษ์ที่กดทับกลางพระทัยของจักรพรรดิเหวินเรื่องอุทกภัยทางตอนใต้ เขามอบให้รัชทายาทหยุนลี่ไปจัดการแล้วสวีสือฝู่เป็นเสนาบดีกรมคลัง ให้หยุนลี่ไปจัดการเรื่องนี้ เหมาะสมที่สุดแต่ว่า ความเคลื่อนไหวผิดปกติของชนเผ่าโม่ซี กลับทำให้จักรพรรดิเหวินได้รับแรงกดดัน“หากชนเผ่าโม่ซีร่วมมือกันส่งทหาร พวกเจ้าคิดว่า จะมีกำลังทหารเท่าใด?”จักรพรรดิถามทั้งสามคนเซียวว่านโฉวคิดไปคิดมา ตอบกลับ “กระหม่อมคิดว่า เกรงว่าจะมีอย่างน้อยสามแสนคน ถึงขั้นอาจมีถึงสี่ห้าแสนคน!”ชนเผ่าโม่ซี ไม่ได้เป็นแคว้นเดียว แต่เป็นชนเผ่าใหญ่น้อยสิบกว่าชนเผ่าแต่ว่า ชนเผ่าโม่ซีมีต้นกำเนิดจากบรรพบุรุษเดียวกัน อีกทั้งชนเผ่าล้วนเป็นชนเผ่าใช้แรงงานทาสระหว่างชนเผ่าต่างๆ เกิดความขัดแย้งไม่ลงรอยกัน หลายครั้งก็ยังกลายเป็นพันธมิตรกันหกปีก่อน ชนเผ่าโม่ซีสามารถส่งทหารมาได้สองแสนคนหลายปีมานี้ ภายใต้การควบคุมของซีเชียงและฮุ๋ยกู่ชนเผ่าที่

    Last Updated : 2024-11-06
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1114

    จักรพรรดิเหวินครุ่นคิด จากนั้นก็ตรัสถามสวีสือฝู่ “หากใช้กำลังทหารกับชนเผ่าโม่ซี เงินและเสบียงของราชสำนักตอนนี้ สามารถให้กับกองทัพสองแสนคนทางตะวันตกเฉียงเหนือยื้อกับชนเผ่าโม่ซีได้นานเพียงใด?”สวีสือฝู่ครุ่นคิด ตอบ “ประมาณแปดเดือน”ตอนนี้สถานการณ์เช่นนี้ รวบรวมเสบียงอาหารจากคลังทางตอนใต้ขนส่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเป็นเสบียงกองทัพ ค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลเสบียงอาหารของคลังทางตอนใต้ ล้วนต้องใช้บรรเทาอุทกภัย!ทุกเทสมณฑลทางตอนใต้ไม่ยื่นมือขอเสบียงอาหารจากราชสำนักก็นับว่าดีแล้ว!ปัญหาสำคัญคือ ราชสำนักยังต้องเตรียมรับมือกับโรคห่าระบาดเป็นวงกว้างอุทกภัยบวกกับการระบาดของโรคห่าเป็นวงกว้าง เพียงพอที่จะทำให้พลังชี่ของต้าเฉียนบาดเจ็บหนัด“ปีนี้สามารถจัดเก็บภาษีมาได้เท่าใด?” จักรพรรดิเหวินตรัสถามอีกครั้งสวีสือฝู่ “เกรงว่าไม่ถึงครึ่งของปีที่แล้ว…”เก็บภาษีเสบียงหน้าร้อน ความจริงเริ่มทยอยเข้าคลังแล้วภาษีเสบียงในหน้าร้อนมีจำนวนจำกัดมากส่วนใหญ่ของภาษีเสบียง บ้วนเป็นช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยวใบไม้ร่วงเซียวว่านโฉวขมวดคิ้วแน่น ถามด้วยความหงุดหงิด “เหตุใดจึงมีเพียงเท่านี้?”“ท่านคิดว่ามีมากเพียงใด

    Last Updated : 2024-11-06
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1115

    เรื่องของชนเผ่าโม่ซี สุดท้ายก็ยังไม่มีข้อสรุปจักรพรรดิเหวินและเซียวว่านโฉวต่างก็คิดอยากทำศึกแต่ว่า พวกเขาไม่เพียงต้องพิจารณาศักยภาพของชนเผ่าโม่ซี ยังต้องคิดด้วยว่าการต่อสู้ครั้งนี้สามารถตัดสินโดยเร็วได้หรือไม่หากอุทกภัยทางตอนใต้รุนแรง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดโรคห่าระบาด พวกเขาคงไม่ต้องพิจารณามากมายเช่นนี้แต่ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ พวกเขาต้องพิจารณาถึงสิ่งเหล่านี้ด้วยออกจากตำหนักส่วนพระองค์ของจักรพรรดิเหวิน สวีสือฝู่ไปหาหยุนลี่หยุนลี่ในตอนนี้เป็นคนงานยุ่งหัวหมุน ทั้งต้องควบคุมดูแลเรื่องลดทอนกำลังตระกูลผู้มีอำนาจและราชวงศ์ แล้วยังต้องรับผิดชอบจัดการเรื่องอุทกภัยทางตอนใต้ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาอุทกภัยทางตอนใต้ทุกพื้นที่ล้วมส่งมาที่จวนรัชทายาทรายงานร้องเรียนทั้งหมด เนื้อหาต่างก็เหมือนกันสถานการณ์อุทกภัยตอนใต้ร้ายแรง ผู้ประสบภัยร่อนเร่ไร้ที่อยู่ ทรัพยากรของทุกเทศมณฑลขาดแคลน ต้องการความช่วยเหลือจากราชสำนักเนื้อหาของเทศมณฑลที่ประสบภัยรุนแรงเป็นเช่นนี้ เนื้อหาของเทศมณฑลที่ประสบภัยไม่ได้รุนแรง ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันมองดูรายงานร้องทุกข์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้ หยุนลี่แทบอย

    Last Updated : 2024-11-07
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1116

    ความต้องการเร่งด่วนของผู้ประสบภัย ก็เป็นโอกาสได้รับหัวใจราษฎรและคำสรรเสริญไม่ใช่หรือ?เมตตา?เมตตาผายลมสิ!สวีสือฝู่ก่นด่าภายในใจ ทว่ายังกล่าวด้วยความอดทน “ยอมทำเรื่องให้ความช่วยเหลือในขณะที่ตกทุกข์ อย่าทำเรื่องเติมดอกไม้ลงไปบนผ้าดิ้นเงินดิ้นทอง! รอให้เขตที่ได้ประสบภัยรุนแรงใกล้ทนไม่ไหว ค่อยโยกย้ายทรัพยาการ ถึงตอนนั้น รัชทายาทค่อยลงใต้ด้วยตัวเอง ถือโอกาสลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่บรรเทาภัยพิบัติไม่ดี จะยิ่งช่วยให้รัชทายาทได้รับชื่อเสียง...”หากโยกย้ายทรัพยากรไปตอนนี้ คนที่ได้รับชื่อเสียง ก็จะกลายเป็นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับเขาหยุนลี่!เจ้าหน้าที่ในราชสำนักรู้ว่ารัชทายาทหยุนลี่จัดการเรื่องนี้ ชาวบ้านธรรมดารู้หรือ?เมื่อได้ฟังคำของสวีสือฝู่ หยุนลี่พเข้าใจแล้ว เอ่ยชื่นชมทันที “สุดยอด สุดยอดจริง!”สวีสือฝู่ยิ้ม “กระหม่อมขอพบรัชทายาท เพราะมีเรื่องอื่น”“ใช่ๆ!”หยุนลี่ได้สติกลับมา “ท่านลุงหากไม่พูด ข้าเกือบลืมแล้ว! ไม่รู้ท่านลุงหาข้า มีเรื่องอันใด?”“เป็นเรื่องของทางตะวันตกเฉียงเหนือ”สวีสือฝู่เสียงเบา “ฝ่าบาทส่งจ้าวจี๋นำทัพเดินทางไปช่วยเหลือทางตะวันตกเฉ

    Last Updated : 2024-11-07
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1117

    “มีเรื่องใด?”สวีสือฝู่อารมณ์ดีถามด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยหยุนลี่กล่าวเสียงเฉียบ “ข้าได้รับข่าว เจ้าสุนัขหยุนเจิงตอนนี้รับซื้อธัญพืชราคาสูงกว่าตลาด ดูเหมือน ซั่วเป่ยจะขาดแคลงอาหารอย่ามาก พวกเราสามารถแอบติดต่อพ่อค้าธัญพืชเหล่านั้น ห้ามผู้ใดขายธัญพืชกับทางซั่วเป่ย! ขอแค่ซั่วเป่ยขาดแคลนอาหาร กองทหารมณฑลทางเหนือก็จะเกิดความขัดแย้งภายในอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!”ขัดแย้งภายใน?สวีสือฝู่ขมวดคิ้วกล่าว “รัชทายาทคิดง่ายดายเกินไปแล้ว! เมื่อซั่วเป่ยขาดแคลนเสบียงอย่างหนัก ความเป็นไปได้ที่กองทหารมณฑลทางเหนือจะลงใต้เพื่อปล้นสะดมมีมากกว่าเกิดความขัดแย้งภายใน...”หยุนลี่ประเมินบารมีของหยุนเจิงในกองทหารมณฑลทางเหนือน้อยไปแล้ว!คนที่สามารถนำทัพกองทหารมณฑลทางเหนือตีเป่ยหวนจนยอมจำนนได้ ควบคุมกองทัพได้อย่างแข็งแกร่งอย่างแน่นอน!ไหนเลยจะขัดแย้งภายในได้ง่ายดายเพียงนั้น?อีกทั้ง พ่อค้าแสวงหาผลกำไร!ไม่ใช่แค่กระดาษคำสั่งห้ามเพียงแผ่นเดียวจะสามารถหยุดยั้งพ่อค้าเหล่านี้ขายเสบียงอาหารให้ซั่วเป่ยได้!พ่อค้าธัญพืชมากมายต่างก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลผู้มีอำนาจและราชวงศ์มีพ่อค้าธัญพืชบางคน ถึงขั้นเดิมทีก็เป็

    Last Updated : 2024-11-07
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1118

    แต่ว่า สวีสือฝู่คิดอย่างละเอียดอีกรอบ ก็ลบความกังวลนี้ไปตอนนี้ เป่ยหวนยอมจำนนแล้ว!ต่อให้ผู้ประสบภัยทางตอนใต้ไม่ไปซั่วเป่ย หรือหยุนเจิงจะสามารถรับทหารเพิ่มไม่ได้?เมื่อคิดเช่นนี้ สวีสือฝู่พยักหน้า “ครั้งนี้ดำเนินการตามแผนล้ำเลิศขององค์ชายแล้วกัน!”……หลังออกจากหม่าอี้ หยุนเจิงปลอมตัวเป็นพ่อค้าและรีบไปที่เมืองซินอันเมืองซินอันนี้ เป็นเมืองที่ก่อตั้งโดยคนยากจนที่อพยพย้ายมาจากทางผ่านตอนนี้ เมืองซินอันรวบรวมคนไว้สามสีหมื่นคนแล้วตามขนาดประชากร นี่เทียบเท่ากับจำนวนประชากรของหนึ่งอำเภอแล้วแต่ว่า เพราะในตอนแรกสุดทุกคนเรียกที่นี่ว่าเมืองซินอัน คุ้นเคยกับการเรียกนี้แล้วแม้เมืองซินอันเป็นเพียงแค่ต้นแบบ แต่เยี่ยจื่อก็ยังคงเจ้าหน้าที่มาดูแลขั้นพื้นฐานบางส่วนเขาอยากไปดูว่าเมืองซินอันแห่งนี้ตอนนี้เป็นเช่นไร ถือโอกาสมาดูว่าเจ้าหน้าที่เหล่านั้นที่เยี่ยจื่อส่งมามีเมตตาต่อชาวบ้านผู้อพยพเหล่านี้หรือไม่ตอนนี้ จากหม่าอี้มายังไม่มีถนนทางการผ่านมายังเมืองซินอันแม้ระยะทางจากหม่าอี้มาถึงเมืองซินอันไม่ไกลมาก พวกเขาก็ต้องใช้เวลาครึ่งวันกว่าจะถึงเพิ่งเข้าสู้เขตบริเวณเมืองซินอัน หยุนเจิงก็เห

    Last Updated : 2024-11-07
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1119

    “ตึงๆๆ...”เสียงกลองจังหวะเร่งเร้าดังอยู่หน้าประตูศาลาว่าการเมื่อได้ยินเสียงกอง คนที่นอนอยู่ในห้องโถงไม่ได้ลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ ทำเพียงช้อนตามองมาที่ประตู สั่งเจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการที่กำลังโบกพัดด้วยความเกียจคร้าน “ไปถามหน่อย มีเรื่องร้ายใด หากไม่มีเรื่องใหญ่ อย่ามารบกวนการนอนของข้า!”ไม่นาน เจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการวิ่งออกมาจากภายในโถง“ใต้เท้าของข้าถามพวกเจ้ามีเรื่องร้ายใด?”เจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการถามเข้าประเด็น ไม่เป็นไปตามกระบวนการตีกลองและการร้องทุกข์อย่างเป็นทางการเลยแม้แต่น้อยหยุนเจิงขมวดคิ้วมองเจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการ กล่าวอย่างหงุดหงิด “พวกเราตีกลองร้องทุกข์ ใต้เท้าของเจ้าควรขึ้นศาลไม่ใช่หรือ? แม้แต่ศาลก็ยังไม่ขึ้น ก็ถามพวกเราว่ามีเรื่องร้ายใด?”มารดาเขาสิ!นี่นับว่าเป็นการตรวจสอบครั้งแรกของเขาในฐานซั่วเป่ยเจี๋ยตู้สื่อกระมัง?กับแค่เมืองผุพังเช่นนี้ ก็มีคนเช่นนี้แล้ว?คนเลวทรามเบาปัญญาเยอะจริงๆ กระมัง?เจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการปรายตามองพวกหยุนเจิง กล่าวเรียบๆ “ใต้เท้าข้าบอกแล้ว เรื่องเล็กจัดการเองได้ เรื่องใหญ่ค่อยหาเขา!”“เช่นนั้นก็เป็นเรื่องใหญ่!”หยุนเจิงมองนั

    Last Updated : 2024-11-08
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1120

    สายตาของเฉินปู้ผู้นี้ไม่เลวเลย!คนที่มีสายตาเช่นนี้ คงไม่ใช่คนที่มีความสามารถพื้นๆ กระมัง?หยุนเจิงครุ่นคิดเล็กน้อย มองตาเฉินปู้ไม่กระพริบ “ข้าถามเจ้า เหตุใดเจ้าขี้เกียจเช่นนี้?”“คำพูดของท่านอ๋องผิดแล้ว”เฉินปู้ไม่ตื่นตระหนกเหมือนปลาที่ถูกจับเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่ข้าขี้เกียจ แต่เพราะที่เมืองซินอันเดิมทีก็ไม่มีงานทำ! ข้าน้อยส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจในเมือง เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งบางส่วน โดยพื้นฐานแล้วสามารถแก้ไขในสถานที่เกิดเหตุใด ไม่ต้องวุ่นวายมาถึงศาลาว่าการ”“ไม่มีงานทำหรือ?”หยุนเจิงมองเฉินปู้อย่างมีความหมายล้ำลึก “ความหมายเจ้าคือ ด้วยความสามารถของเจ้า ดูแลสถานที่เล็กเพียงนี้ ดูถูกกันเกินแล้ว กระมัง?”“ท่านอ๋องฉลาดเฉียบแหลม ข้าน้อยเลื่อมใส!”เฉินปู้โค้งคำรับอีกครั้ง“เจ้าตรงไปตรงมาจริงๆ!”หยุนเจิงหัวเราะ “ข้าว่าเจ้าไม่ควรชื่อเฉินปู้ แต่ควรชื่อบังทองถึงจะถูก!”“บังทอง?”เฉินปู้ไม่เข้าใจ“คนผู้นี้ก็เย่อหยิ่งมีความรู้เช่นกัน”หยุนเจิงยิ้มอย่างขอไปที จากนั้นก็เดินไปนอนตรงเก้าอี้ที่เฉินปู้นอนเมื่อครู่ “เจ้าคิดว่าเจ้าดูแลเมืองซินอันเป็นการดูถูกควา

    Last Updated : 2024-11-08

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status