แชร์

บทที่ 1113

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-06 17:00:01
เมืองจักรพรรดิ

จักรพรรดิเหวินเรียกพบเซียวว่านโฉว เซวียเช่อและสวีสือฝู่มาในห้องส่วนพระองค์

ระยะนี้จักรพรรดิเหวินทรงอารมณ์ไม่ดีนัก

อุทกภัยทางตอนใต้ ความเคลื่อนไหวผิดปกติที่ชนเผ่าโม่ซี กลายเป็นหินก้อนยักษ์ที่กดทับกลางพระทัยของจักรพรรดิเหวิน

เรื่องอุทกภัยทางตอนใต้ เขามอบให้รัชทายาทหยุนลี่ไปจัดการแล้ว

สวีสือฝู่เป็นเสนาบดีกรมคลัง ให้หยุนลี่ไปจัดการเรื่องนี้ เหมาะสมที่สุด

แต่ว่า ความเคลื่อนไหวผิดปกติของชนเผ่าโม่ซี กลับทำให้จักรพรรดิเหวินได้รับแรงกดดัน

“หากชนเผ่าโม่ซีร่วมมือกันส่งทหาร พวกเจ้าคิดว่า จะมีกำลังทหารเท่าใด?”

จักรพรรดิถามทั้งสามคน

เซียวว่านโฉวคิดไปคิดมา ตอบกลับ “กระหม่อมคิดว่า เกรงว่าจะมีอย่างน้อยสามแสนคน ถึงขั้นอาจมีถึงสี่ห้าแสนคน!”

ชนเผ่าโม่ซี ไม่ได้เป็นแคว้นเดียว แต่เป็นชนเผ่าใหญ่น้อยสิบกว่าชนเผ่า

แต่ว่า ชนเผ่าโม่ซีมีต้นกำเนิดจากบรรพบุรุษเดียวกัน อีกทั้งชนเผ่าล้วนเป็นชนเผ่าใช้แรงงานทาส

ระหว่างชนเผ่าต่างๆ เกิดความขัดแย้งไม่ลงรอยกัน หลายครั้งก็ยังกลายเป็นพันธมิตรกัน

หกปีก่อน ชนเผ่าโม่ซีสามารถส่งทหารมาได้สองแสนคน

หลายปีมานี้ ภายใต้การควบคุมของซีเชียงและฮุ๋ยกู่ชนเผ่าที่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1114

    จักรพรรดิเหวินครุ่นคิด จากนั้นก็ตรัสถามสวีสือฝู่ “หากใช้กำลังทหารกับชนเผ่าโม่ซี เงินและเสบียงของราชสำนักตอนนี้ สามารถให้กับกองทัพสองแสนคนทางตะวันตกเฉียงเหนือยื้อกับชนเผ่าโม่ซีได้นานเพียงใด?”สวีสือฝู่ครุ่นคิด ตอบ “ประมาณแปดเดือน”ตอนนี้สถานการณ์เช่นนี้ รวบรวมเสบียงอาหารจากคลังทางตอนใต้ขนส่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเป็นเสบียงกองทัพ ค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลเสบียงอาหารของคลังทางตอนใต้ ล้วนต้องใช้บรรเทาอุทกภัย!ทุกเทสมณฑลทางตอนใต้ไม่ยื่นมือขอเสบียงอาหารจากราชสำนักก็นับว่าดีแล้ว!ปัญหาสำคัญคือ ราชสำนักยังต้องเตรียมรับมือกับโรคห่าระบาดเป็นวงกว้างอุทกภัยบวกกับการระบาดของโรคห่าเป็นวงกว้าง เพียงพอที่จะทำให้พลังชี่ของต้าเฉียนบาดเจ็บหนัด“ปีนี้สามารถจัดเก็บภาษีมาได้เท่าใด?” จักรพรรดิเหวินตรัสถามอีกครั้งสวีสือฝู่ “เกรงว่าไม่ถึงครึ่งของปีที่แล้ว…”เก็บภาษีเสบียงหน้าร้อน ความจริงเริ่มทยอยเข้าคลังแล้วภาษีเสบียงในหน้าร้อนมีจำนวนจำกัดมากส่วนใหญ่ของภาษีเสบียง บ้วนเป็นช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยวใบไม้ร่วงเซียวว่านโฉวขมวดคิ้วแน่น ถามด้วยความหงุดหงิด “เหตุใดจึงมีเพียงเท่านี้?”“ท่านคิดว่ามีมากเพียงใด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1115

    เรื่องของชนเผ่าโม่ซี สุดท้ายก็ยังไม่มีข้อสรุปจักรพรรดิเหวินและเซียวว่านโฉวต่างก็คิดอยากทำศึกแต่ว่า พวกเขาไม่เพียงต้องพิจารณาศักยภาพของชนเผ่าโม่ซี ยังต้องคิดด้วยว่าการต่อสู้ครั้งนี้สามารถตัดสินโดยเร็วได้หรือไม่หากอุทกภัยทางตอนใต้รุนแรง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดโรคห่าระบาด พวกเขาคงไม่ต้องพิจารณามากมายเช่นนี้แต่ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ พวกเขาต้องพิจารณาถึงสิ่งเหล่านี้ด้วยออกจากตำหนักส่วนพระองค์ของจักรพรรดิเหวิน สวีสือฝู่ไปหาหยุนลี่หยุนลี่ในตอนนี้เป็นคนงานยุ่งหัวหมุน ทั้งต้องควบคุมดูแลเรื่องลดทอนกำลังตระกูลผู้มีอำนาจและราชวงศ์ แล้วยังต้องรับผิดชอบจัดการเรื่องอุทกภัยทางตอนใต้ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาอุทกภัยทางตอนใต้ทุกพื้นที่ล้วมส่งมาที่จวนรัชทายาทรายงานร้องเรียนทั้งหมด เนื้อหาต่างก็เหมือนกันสถานการณ์อุทกภัยตอนใต้ร้ายแรง ผู้ประสบภัยร่อนเร่ไร้ที่อยู่ ทรัพยากรของทุกเทศมณฑลขาดแคลน ต้องการความช่วยเหลือจากราชสำนักเนื้อหาของเทศมณฑลที่ประสบภัยรุนแรงเป็นเช่นนี้ เนื้อหาของเทศมณฑลที่ประสบภัยไม่ได้รุนแรง ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันมองดูรายงานร้องทุกข์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้ หยุนลี่แทบอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-07
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1116

    ความต้องการเร่งด่วนของผู้ประสบภัย ก็เป็นโอกาสได้รับหัวใจราษฎรและคำสรรเสริญไม่ใช่หรือ?เมตตา?เมตตาผายลมสิ!สวีสือฝู่ก่นด่าภายในใจ ทว่ายังกล่าวด้วยความอดทน “ยอมทำเรื่องให้ความช่วยเหลือในขณะที่ตกทุกข์ อย่าทำเรื่องเติมดอกไม้ลงไปบนผ้าดิ้นเงินดิ้นทอง! รอให้เขตที่ได้ประสบภัยรุนแรงใกล้ทนไม่ไหว ค่อยโยกย้ายทรัพยาการ ถึงตอนนั้น รัชทายาทค่อยลงใต้ด้วยตัวเอง ถือโอกาสลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่บรรเทาภัยพิบัติไม่ดี จะยิ่งช่วยให้รัชทายาทได้รับชื่อเสียง...”หากโยกย้ายทรัพยากรไปตอนนี้ คนที่ได้รับชื่อเสียง ก็จะกลายเป็นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับเขาหยุนลี่!เจ้าหน้าที่ในราชสำนักรู้ว่ารัชทายาทหยุนลี่จัดการเรื่องนี้ ชาวบ้านธรรมดารู้หรือ?เมื่อได้ฟังคำของสวีสือฝู่ หยุนลี่พเข้าใจแล้ว เอ่ยชื่นชมทันที “สุดยอด สุดยอดจริง!”สวีสือฝู่ยิ้ม “กระหม่อมขอพบรัชทายาท เพราะมีเรื่องอื่น”“ใช่ๆ!”หยุนลี่ได้สติกลับมา “ท่านลุงหากไม่พูด ข้าเกือบลืมแล้ว! ไม่รู้ท่านลุงหาข้า มีเรื่องอันใด?”“เป็นเรื่องของทางตะวันตกเฉียงเหนือ”สวีสือฝู่เสียงเบา “ฝ่าบาทส่งจ้าวจี๋นำทัพเดินทางไปช่วยเหลือทางตะวันตกเฉ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-07
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1117

    “มีเรื่องใด?”สวีสือฝู่อารมณ์ดีถามด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยหยุนลี่กล่าวเสียงเฉียบ “ข้าได้รับข่าว เจ้าสุนัขหยุนเจิงตอนนี้รับซื้อธัญพืชราคาสูงกว่าตลาด ดูเหมือน ซั่วเป่ยจะขาดแคลงอาหารอย่ามาก พวกเราสามารถแอบติดต่อพ่อค้าธัญพืชเหล่านั้น ห้ามผู้ใดขายธัญพืชกับทางซั่วเป่ย! ขอแค่ซั่วเป่ยขาดแคลนอาหาร กองทหารมณฑลทางเหนือก็จะเกิดความขัดแย้งภายในอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!”ขัดแย้งภายใน?สวีสือฝู่ขมวดคิ้วกล่าว “รัชทายาทคิดง่ายดายเกินไปแล้ว! เมื่อซั่วเป่ยขาดแคลนเสบียงอย่างหนัก ความเป็นไปได้ที่กองทหารมณฑลทางเหนือจะลงใต้เพื่อปล้นสะดมมีมากกว่าเกิดความขัดแย้งภายใน...”หยุนลี่ประเมินบารมีของหยุนเจิงในกองทหารมณฑลทางเหนือน้อยไปแล้ว!คนที่สามารถนำทัพกองทหารมณฑลทางเหนือตีเป่ยหวนจนยอมจำนนได้ ควบคุมกองทัพได้อย่างแข็งแกร่งอย่างแน่นอน!ไหนเลยจะขัดแย้งภายในได้ง่ายดายเพียงนั้น?อีกทั้ง พ่อค้าแสวงหาผลกำไร!ไม่ใช่แค่กระดาษคำสั่งห้ามเพียงแผ่นเดียวจะสามารถหยุดยั้งพ่อค้าเหล่านี้ขายเสบียงอาหารให้ซั่วเป่ยได้!พ่อค้าธัญพืชมากมายต่างก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลผู้มีอำนาจและราชวงศ์มีพ่อค้าธัญพืชบางคน ถึงขั้นเดิมทีก็เป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-07
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1118

    แต่ว่า สวีสือฝู่คิดอย่างละเอียดอีกรอบ ก็ลบความกังวลนี้ไปตอนนี้ เป่ยหวนยอมจำนนแล้ว!ต่อให้ผู้ประสบภัยทางตอนใต้ไม่ไปซั่วเป่ย หรือหยุนเจิงจะสามารถรับทหารเพิ่มไม่ได้?เมื่อคิดเช่นนี้ สวีสือฝู่พยักหน้า “ครั้งนี้ดำเนินการตามแผนล้ำเลิศขององค์ชายแล้วกัน!”……หลังออกจากหม่าอี้ หยุนเจิงปลอมตัวเป็นพ่อค้าและรีบไปที่เมืองซินอันเมืองซินอันนี้ เป็นเมืองที่ก่อตั้งโดยคนยากจนที่อพยพย้ายมาจากทางผ่านตอนนี้ เมืองซินอันรวบรวมคนไว้สามสีหมื่นคนแล้วตามขนาดประชากร นี่เทียบเท่ากับจำนวนประชากรของหนึ่งอำเภอแล้วแต่ว่า เพราะในตอนแรกสุดทุกคนเรียกที่นี่ว่าเมืองซินอัน คุ้นเคยกับการเรียกนี้แล้วแม้เมืองซินอันเป็นเพียงแค่ต้นแบบ แต่เยี่ยจื่อก็ยังคงเจ้าหน้าที่มาดูแลขั้นพื้นฐานบางส่วนเขาอยากไปดูว่าเมืองซินอันแห่งนี้ตอนนี้เป็นเช่นไร ถือโอกาสมาดูว่าเจ้าหน้าที่เหล่านั้นที่เยี่ยจื่อส่งมามีเมตตาต่อชาวบ้านผู้อพยพเหล่านี้หรือไม่ตอนนี้ จากหม่าอี้มายังไม่มีถนนทางการผ่านมายังเมืองซินอันแม้ระยะทางจากหม่าอี้มาถึงเมืองซินอันไม่ไกลมาก พวกเขาก็ต้องใช้เวลาครึ่งวันกว่าจะถึงเพิ่งเข้าสู้เขตบริเวณเมืองซินอัน หยุนเจิงก็เห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-07
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1119

    “ตึงๆๆ...”เสียงกลองจังหวะเร่งเร้าดังอยู่หน้าประตูศาลาว่าการเมื่อได้ยินเสียงกอง คนที่นอนอยู่ในห้องโถงไม่ได้ลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ ทำเพียงช้อนตามองมาที่ประตู สั่งเจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการที่กำลังโบกพัดด้วยความเกียจคร้าน “ไปถามหน่อย มีเรื่องร้ายใด หากไม่มีเรื่องใหญ่ อย่ามารบกวนการนอนของข้า!”ไม่นาน เจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการวิ่งออกมาจากภายในโถง“ใต้เท้าของข้าถามพวกเจ้ามีเรื่องร้ายใด?”เจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการถามเข้าประเด็น ไม่เป็นไปตามกระบวนการตีกลองและการร้องทุกข์อย่างเป็นทางการเลยแม้แต่น้อยหยุนเจิงขมวดคิ้วมองเจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการ กล่าวอย่างหงุดหงิด “พวกเราตีกลองร้องทุกข์ ใต้เท้าของเจ้าควรขึ้นศาลไม่ใช่หรือ? แม้แต่ศาลก็ยังไม่ขึ้น ก็ถามพวกเราว่ามีเรื่องร้ายใด?”มารดาเขาสิ!นี่นับว่าเป็นการตรวจสอบครั้งแรกของเขาในฐานซั่วเป่ยเจี๋ยตู้สื่อกระมัง?กับแค่เมืองผุพังเช่นนี้ ก็มีคนเช่นนี้แล้ว?คนเลวทรามเบาปัญญาเยอะจริงๆ กระมัง?เจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการปรายตามองพวกหยุนเจิง กล่าวเรียบๆ “ใต้เท้าข้าบอกแล้ว เรื่องเล็กจัดการเองได้ เรื่องใหญ่ค่อยหาเขา!”“เช่นนั้นก็เป็นเรื่องใหญ่!”หยุนเจิงมองนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-08
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1120

    สายตาของเฉินปู้ผู้นี้ไม่เลวเลย!คนที่มีสายตาเช่นนี้ คงไม่ใช่คนที่มีความสามารถพื้นๆ กระมัง?หยุนเจิงครุ่นคิดเล็กน้อย มองตาเฉินปู้ไม่กระพริบ “ข้าถามเจ้า เหตุใดเจ้าขี้เกียจเช่นนี้?”“คำพูดของท่านอ๋องผิดแล้ว”เฉินปู้ไม่ตื่นตระหนกเหมือนปลาที่ถูกจับเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่ข้าขี้เกียจ แต่เพราะที่เมืองซินอันเดิมทีก็ไม่มีงานทำ! ข้าน้อยส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจในเมือง เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งบางส่วน โดยพื้นฐานแล้วสามารถแก้ไขในสถานที่เกิดเหตุใด ไม่ต้องวุ่นวายมาถึงศาลาว่าการ”“ไม่มีงานทำหรือ?”หยุนเจิงมองเฉินปู้อย่างมีความหมายล้ำลึก “ความหมายเจ้าคือ ด้วยความสามารถของเจ้า ดูแลสถานที่เล็กเพียงนี้ ดูถูกกันเกินแล้ว กระมัง?”“ท่านอ๋องฉลาดเฉียบแหลม ข้าน้อยเลื่อมใส!”เฉินปู้โค้งคำรับอีกครั้ง“เจ้าตรงไปตรงมาจริงๆ!”หยุนเจิงหัวเราะ “ข้าว่าเจ้าไม่ควรชื่อเฉินปู้ แต่ควรชื่อบังทองถึงจะถูก!”“บังทอง?”เฉินปู้ไม่เข้าใจ“คนผู้นี้ก็เย่อหยิ่งมีความรู้เช่นกัน”หยุนเจิงยิ้มอย่างขอไปที จากนั้นก็เดินไปนอนตรงเก้าอี้ที่เฉินปู้นอนเมื่อครู่ “เจ้าคิดว่าเจ้าดูแลเมืองซินอันเป็นการดูถูกควา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-08
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1121

    เมื่อข่าวซั่วเป่ยรับซื้อธัญพืชในราคาสูงแพร่ออกไป พ่อค้าธัญพืชที่ได้รับข่าวชุดแรกได้นำเสบียงอาหารเข้าด่านเป่ยลู่มาแล้วพ่อค้าเสบียงเหล่านี้ล้วนเป็นพ่อค้าในเขตฟู่โจว อยู่ค่อนข้างใกล้ซั่วเป่ยแต่ว่า พ่อค้าเสบียงเหล่านี้ยังสงสัยเรื่องที่ซั่วเป่ยรับซื้อธัญพืชราคาสูงดังนั้น ธัญพืชในรอบแรกจึงมีไม่มากตั้งแต่หยุนเจิงได้รับข่าว เสบียงที่พ่อค้าธัญพืชเหล่านี้ขนผ่านด่านเป่ยลู่รวมกันแล้วไม่เกินห้าแสนหาบ เพื่อเป็นทดสอบ เมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงทอดถอนใจกับความระมัดระวังของเหล่าพ่อค้าธัญพืชเหล่านี้เขาประกาศรับซื้อเสบียงแล้วก็เท่ากับใช้ความเชื่อมั่นของทางการเป็นการรับประกันปรากฎว่า คนเหล่านี้กลับใจแคบเช่นนี้เห้อ ช่างเถอะ!เรื่องนี้ใจร้อนไม่ได้รอให้พ่อค้าธัญพืชเหล่านี้กินเหยื่อก่อนเถอะ!“จะสร้างป้อมปราการที่นี่จริงหรือ?”ภายในจวน เสิ่นลั่วเยี่ยนอิงแอบอยู่บนตัวหยุนเจิง ถามด้วยความกังวล“เจ้าคิดว่าป้อมปราการไม่ดี?”หยุนเจิงนำมือวางไว้บนหน้าท้องของเสิ่นลั่วเยี่ยน ถามด้วยรอยยิ้มครรภ์ของเสิ่นลั่วเยี่ยนยื่นออกมาแล้ว แม้หยุนเจิงไม่อาจสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของเด็กในครรภ์ แต่ก็ยังรู้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-08

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status