สโรชาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยอาการสะลึมสะลือ นอนบนเตียงท่ามกลางสายช่วยชีวิตระโยงระยาง ธนนท์ยิ้มปรี่ลุกจากเก้าอี้ข้างเตียง“ไม่ต้องห่วงนะบัวปลอดภัยแล้ว ... ลูกก็ด้วย”มือเธอลูบปลอบคนในท้องทนุถนอม“ลูกกระสุนเฉียดจุดสำคัญไป”“คนยิงก็ใจร้าย ทำคนท้องไส้ได้”สโรชาไม่มีวันลืมดวงตาอำพันคู่นั้น ... ผู้หญิงในกระเป๋าสตางค์ของเซอร์เก เธอยิงสโรชาเพราะแค้นที่แย่งเขามากระนั้นหรือ ประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดออก ตัวต้นเหตุในสายตาสองคู่พากายเข้ามา“ผมมีเรื่องคุยกับบัวหน่อย”ธนนท์ตั้งท่าจะไม่ยอมออกไป สโรชาพยักหน้าเป็นเชิงขอร้อง เขาจึงออกไปด้วยอาการไม่พอใจนัก“ผมขอโทษแทนญามิลลาน้องสาวผมด้วย เธอแย่เพราะเสียสามีและเข้าใจผิดเรื่องคุณ”เธอใจชื้น ที่ได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวเขา ... อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ผิดศีลข้อสาม“สามีน้องสาวคุณเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ”“เธอคิดว่าผมเป็นต้นเหตุทำให้สามีเธอตาย คุณกำลังมีลูกกับผม มิลลาต้องการแก้แค้น ไม่อยากเห็นผมมีความสุข”เขาเล่าเสียงแห้งแล้ง ... มีความเจ็บร้าวลึกอยู่ข้างใจ“แล้วคุณเป็นต้นเหตุจริงๆ หรือเปล่าล่ะ”เธอสอบสวนเขาตาแป๋ว เซอร์เกหัวเราะขื่นๆ“จะว่าผมเป็นต้นเหตุก็
ท้องฟ้าคืนนี้เต็มไปด้วยเมฆอุ้มน้ำเทาเข้มเกือบดำ ฝนยังไม่หยุดตั้งแต่เย็น ... ตกยาวนานราววันสุดท้ายก่อนจะสิ้นโลก สายละอองสีเงินโปรยเกาะหน้าต่างรถ อากาศภายในเย็นเฉียบคนขับแท็กซี่กดเปลี่ยนคลื่นวิทยุแก้เบื่อ ... ฝนตก รถติด เป็นธรรมดาของกรุงเทพฯ โชคดีที่ได้ค่าจ้างเหมาแบบไม่ต้องกดมิเตอร์ มิเช่นนั้นเขาไม่ยอมเสียเวลาติดแหง็กอยู่ในเมืองเช่นนี้หรอกสโรชาดูเวลาในโทรศัพท์มือถือ... เกือบสองทุ่มแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัด การจราจรแบบนี้เธอไปสายไปแน่“จอดตรงเซเว่นข้างหน้าก็ได้ นี่ค่ะ ไม่ต้องทอนนะคะ”คนขับรับเงินหน้าบาน ใจคิดว่าดีเหมือนกันที่ได้เงินเร็ว จะได้ออกจากถนนเส้นรถติดมหาโหดนี้เสียที สโรชาใช้กระเป๋าคลัชบังหน้าป้องกันเครื่องสำอางโดนน้ำเลือนเมื่อก้าวผ่านเข้าประตูเลื่อนอัตโนมัติ คนยืนหลบฝนบริเวณใต้กันสาดร้านสะดวกซื้อเหลียวมองเธอเป็นตาเดียว ของที่สโรชาต้องการหาไม่ยากเลย อยู่ในช่องเหล็กโปร่งสีขาวข้างประตู“ไม่ต้องใส่ถุง เดี๋ยวพี่ใช้เลย”สาวเซเว่นรุ่นน้องหลุดจากอาการมองหน้าลูกค้าอย่างตะลึง รีบยิงบาร์โค้ดร่มพับให้ในทันใด“ใครวะ สวยชะมัด ดาราหรือเปล่า”เสียงในร้านดังไล่หลังคนเปิดประตูออกไป สโ
ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียริมฝีปากดังเสือร้ายกำลังหมายขย้ำเหยื่อ ประตูห้องเปิดออกพร้อมไอเย็นลอยระเรื่อยกระทบกาย ดวงตาคมกวาดไปสะดุดชุดสีเขียวมะนาวบนเก้าอี้ร่างขาวสล้างดังกระเบื้องเคลือบเนื้อดีอิงคอกับพนักพิงหลับตานิ่ง เจ้าของเพ้นท์เฮ้าท์แทบลืมหายใจ ก้าวไปพินิจภาพปรากฏตรงหน้าใกล้ๆ ผมสลวยสีน้ำตาลอ่อนเคลียหน้านวล แพขนตายาวทาบผิวเนียนดังผีเสื้อหลุบปีก ริมฝีปากชมพูบางราวกลีบกุหลาบหนุ่มรัสเซียภาวนา ... เปิดตาหน่อยเถิด เขาจะได้รู้ว่าเธอเป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อจริงหรือรูปสลักนางฟ้าจำแลงมา พลันสิ่งวาดไว้ก็เป็นดังหวัง ... คนบนเก้าอี้ขยับตัวสโรชารู้สึกถึงสัมผัสลมหายใจอุ่นร้อนรินรดระข้างแก้ม ตากระพริบถี่ๆ ไล่ความง่วงงุน“ขอโทษที่ผมปลุกเจ้าหญิงนิทราให้ตื่น”ดวงตาสีน้ำเงินทอประกายยั่วล้อ รอยยิ้มสว่างสดใส มือใหญ่ขาวสะอาดจับปอยผมเธอลูบเล่น“ทำไมผู้หญิงชอบทำสีผมกันนักนะ อยากเห็นสีผมจริงๆ ของคุณจัง”สำเนียงอังกฤษแบบอเมริกันเอ่ยชัด กลิ่นน้ำหอมผู้ชายเจอกลิ่นไอฝนลอยมาจางๆ“ผมฉันสีดำค่ะ ธรรมดาเหมือนคนทั่วไปในประเทศนี้ คุณต่างหากที่มีผมสีทองสวย”สโรชาคลี่ยิ้มตอบ นัยน์ตาดำสุกใส มีประกายแสงดาว เขาคงเป็นมิสเตอร์อิคนา
เซอร์เกหัวเราะเบาๆ รสสัมผัสไม่ได้ดูดดื่ม ออกแผ่วเบา ... แต่กลับเร้าใจอย่างประหลาด คุ้นเคยเหมือนอะไรนะ เอ้อ! แมวนั่นเองเซอร์เกเคยเลี้ยงตอนเด็ก เป็นแมวหลง เขาชอบมันมาก แอบแบ่งนมสำหรับดื่มก่อนนอนไปให้บ่อยๆ ตัวมันสีเทามอมแมม แต่ขนข้างในที่แอบแหวกดูยามนิ่งกินอาหารก็พอจะเป็นหลักฐานได้ว่าจริงๆ มันคือแมวขาวแมวเวียนมาเวียนไปหาเขาหลายครั้ง ก่อนที่จะหายไปถาวร สัมผัสนิ่มบนแก่นกลางกายดึงเขาจากภวังค์ สโรชากำลังสวมถุงยางให้“อะไรที่เป็นเรื่องของผม ... ผมจัดการเองดีกว่า”ชายหนุ่มใช้มือเพียงข้างเดียวโอบรอบเอวเธอ ออกแรงเพียงนิดสโรชาก็ผลิกไปอยู่ใต้ร่างเขา“ใครจะรู้ขนาดตัวเองดีเท่าผมล่ะ”เขาขยิบตายั่วล้อ หยิบปราการบางใสมาสวมด้วยตนเอง ก่อนสอดแทรกประสานกายกับเธอ สโรชาผวาเฮือก ดีดร่างขึ้นจากเตียง ความคับแน่นจวนเจียนทำอกระเบิด นิ้วจิกเกร็งบนบ่ากว้างทั้งสอง“ใจเย็นๆ สิหวานใจ” พลอยทำให้คนล่วงล้ำ ใจเต้นแรงไปด้วย เพราะส่วนล่างเธอบีบกระชับ“อย่ายั่วผมอย่างนี้”เขาไล่เล็มกลีบฝีปากบาง ปลอบประโลมคนร่วมเตียงเพื่อคลายเจ็บ ... แต่ไม่คิดถอดถอนออก มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องปล่อยเลยตามเลยเซอร์เกดันขาเรียวออก จัดท่าช่วยให้ร
หญิงสาวปรือตาตื่นงงๆ เหลียวมองสภาพไม่คุ้นตา ... ไม่ใช่ห้องพักพนักงานเวลาดื่มกับแขกจนเมาในค็อกเทลเลาจน์กฤต และไม่ใช่ห้องในคอนโดตัวเองเช่นกันเสียงหายใจยาวลึกสม่ำเสมอของคนข้างกายเรียกสติที่หลับใหลให้หวนคืน ห้องแขกนั่นเอง หนุ่มรูปหล่อร่ำรวย ผู้เสนอให้อยู่กับเขาเธอไม่ชอบ และไม่คิดชินกับวิถีชีวิตที่ต้องให้ผู้ชายเลี้ยงอย่างนี้ แต่ทำอย่างไรได้ ทางเลือกในชีวิตคนเราต่างกัน แม้จะเรียนกศน.จนจบหลักสูตรมัธยมศึกษาปีที่หก ต่อด้วยมหาวิทยาลัยเปิดอีกสี่ปี ถ้าทำงานบริษัทปรกติก็ไม่พอค่าดูแลแม่ในเนอร์สซิ่งเฮลท์แคร์อยู่ดีสโรชายิ้มหยันตัวเอง ... สมควรแล้วกับสิ่งที่ได้รับ ตนนั่นแหละเป็นคนวางชีวิตไว้ในอุ้งมือปีศาจ โดยใช้ความสวยเป็นเดิมพัน ทิ้งความสาวกับศักดิ์ศรีแลกการจ่ายภาระหนี้สินและความสุขสบายของครอบครัว โดยไม่รู้เลยว่าก่อแผลใจ จนลุกลามกลายเป็นอาการทางจิตของผู้เป็นแม่ ค่ารักษานั้นสูง จนดูเหมือนค่าตัวเธอเท่าไรก็ไม่พอ สโรชาทิ้งท่านไปไม่ได้ แม้ไม่ได้ดูแลเองก็ขอเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ เธอจึงเป็นเด็กเสี่ยราคาสูงให้คนมือหนักผูกปิ่นโต[1]... ผู้ชายสำหรับสโรชาคือบ่อเงินทอง ... ยามหลง ต้องรีบสูบ ยามทิ้งก็ตัดฉับ
สโรชาทำใจไว้แล้วว่าต้องเหมาแท็กซี่ ติดตรงไม่มีคันไหนฝ่าการจราจรมาได้นี่สิ ไม่เป็นไร เรียกวินมอเตอร์ไซด์ให้พาลัดออกไปถนนเส้นอื่นแล้วค่อยต่อแท็กซี่ก็ได้คิดได้ดังนั้นเธอจึงเดินไปตามตรอกเล็กในซอยใหญ่เพื่อหารถที่หมาย เห็นป้ายอยู่วินหนึ่งแต่ไม่มีคน ข้างๆ กันเป็นถังขยะกทม.ใบใหญ่สองถัง สกปรกไปหน่อย แต่ป้ายเขียนคิวยังสะอาดและใหม่เอี่ยม‘สงสัยไปส่งคน’สโรชาคิดพลางยืนรอ เมื่อยขาที่ต้องเดินแล้วเหมือนกัน สุนัขจรจัดสองตัววิ่งเฉียดเธอไปนิดเดียว เพื่อเข้าไปคุ้ยขยะ ใจหญิงสาวภาวนาให้วินมอเตอร์ไซด์มาเร็วๆ จะได้พ้นจากสภาพนี้เสียที“แง่ง...” สุนัขฮึมฮัม ทีแรกคิดว่ามันกัดกัน“ออกไปนะ” ... ที่เปล่งออกมาคือเสียงมนุษย์และเป็นภาษาอังกฤษ!“คุณ...” สโรชามาที่ถังขยะ ร่างนั้นมองเธออย่างตกตะลึง“บัว พาผมออกไปจากที่นี่ที”เซอร์เก อินาเซวิช นอนอยู่ พร้อมเลือดแดงฉานเปรอะเสื้อบริเวณหน้าท้อง“เร็ว” ... และมืออีกข้างของเขาถือปืน!“เกิดอะไรขึ้น คุณบาดเจ็บ ต้องไปโรงพยาบาลนะ”เซอร์เกหน้าซีด แต่ดวงตายังคมกล้า“ไปไม่ได้ ผมโดนทรยศ มีคนหักหลัง”สโรชารู้แล้วว่าแขกโรงแรมที่ตำรวจเล่าในร้านสะดวกซื้อคือใคร“แล้วจะให้ฉันพาไปไหนล่ะ”
สองร่างไกลออกมาจากที่เกิดทุกทีๆ เสียงปืนดังสลับเป็นระยะๆ ผู้คนวิ่งหลบกันจ้าละหวั่น เธอพาเขาหยุดพักบริเวณตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่งใกล้ร้านที่ยังไม่เอาประตูเหล็กพับขึ้น“งั้นฉันคงช่วยคุณได้แค่นี้แหละนะ”สโรชาจะสละเรือแล้ว ไม่ไหวๆ ห่างกันไม่ถึงชั่วโมงผู้ชายคนนี้โดนลอบฆ่าสองครั้ง ขืนอยู่ด้วยอีก เธอกลัวโดนลูกหลง เซอร์เกมองหญิงสาวอย่างค้นคว้า“จะว่าฉันใจดำก็ได้นะ แต่ใครๆ ก็รักชีวิตของตัวเอง ทั้งคุณทั้งฉัน คุณไม่อยากตาย ฉันก็ไม่อยากเหมือนกัน”“สายไปแล้วที่จะทิ้งผมนะบัว เมื่อกี้ผู้ชายที่จ้างเขาเห็นแล้วว่าเรามาด้วยกัน คุณจัดการทุกอย่างให้ผม เราร่วมมือกัน ถ้าหมอนั่นโดนจับได้มันต้องเล่าให้ทุกคนฟังแน่ ทีนี้พวกที่ตามฆ่าผมก็จะเปลี่ยนมาสืบหาตัวคุณแทน”เธอฟังแล้วหน้าซีดอ้าปากค้างกับความจริงที่คิดไม่ถึง“คุณเองนั่นแหละที่จะตกอยู่ในอันตราย”ซวย... คำนี้ผุดขึ้นมาทันทีในสมองสโรชา“แต่ถ้าอยู่กับผมคุณจะปลอดภัย รับรองด้วยเกียรติของเซอร์เก อิคนาเซวิช คุณก็เห็นแล้วนี่ เมื่อกี้นี้ผมจัดการให้เรารอดจากอันตรายได้ยังไง”เขาฉลาดจริงดังว่า สโรชาไม่เถียง แต่ในอนาคตกับสภาพร่างกายบาดเจ็บอย่างนี้ล่ะ“อยู่กับผม ช่วยกันก่อน”“แ
“บัว... คุณมีอะไรกับคาสิโนเหรอ”เซอร์เกแปลกใจจนอดถามไม่ได้ เธอเดินไปรูดม่านหน้าต่างห้องคนไข้อย่างแรง แสงตะวันบ่ายคล้อยลอดเข้ามา เผยให้เห็นสวนกว้างละลานตาด้วยดอกไม้ ทางเดินลาดซีเมนส์เรียบทอดลงไปสู่ผืนทราย ลมพัดคลื่นเป็นพรายฟองกระทบหาด บนชายหาดมีร่มคันใหญ่ปักอยู่ ใต้ร่มปรากฏร่างในชุดขาวนั่งบนรถเข็น โดยมีพยาบาลยืนกางร่มคันเล็กยืนอยู่ใกล้“นั่นแม่ของฉัน ... คนใจสลายเพราะสามีติดการพนัน เขาฆ่าตัวตายหนีปัญหา ลูกสาวถูกหลอกว่าจะมีคนจ่ายหนี้ให้จนต้องเป็นผู้หญิงขายตัว”ไหล่บางสั่นเทิ้ม ขอบตาร้อนผ่าว“ผลของการพนัน ... จากคนเปิดคาสิโนอย่างคุณไงล่ะ”โดยไม่รอให้น้ำในตาไหลออกมา สโรชาสาวเท้าออกไปจากห้อง ทิ้งไว้เพียงเสียงปิดประตูดังปัง! เซอร์เกตกตะลึงกับความจริงที่ได้ฟังโชคชะตาเล่นตลกให้คนเกลียดคาสิโนต้องมาช่วยเจ้าของคาสิโน เขาไม่คิดว่าธุรกิจตัวเองทำนั้นดี และไม่คิดว่าคนเข้ามาเล่นพนันเป็นคนดีด้วยทุกคนล้วนมีด้านมืดเรียกว่าความโลภ สุดแล้วแต่ว่าใครจะควบคุมความโลภนั้นได้ดีกว่ากัน คาสิโนเป็นแค่สถานที่ปลดปล่อย เดิมพันด้วยใครมีสติยั้งคิดได้มากกว่า... และคนที่กระโจนลงสู่บ่อแห่งความโลภก็มักทิ้งรอยแผลให้คนรอบ
สโรชาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยอาการสะลึมสะลือ นอนบนเตียงท่ามกลางสายช่วยชีวิตระโยงระยาง ธนนท์ยิ้มปรี่ลุกจากเก้าอี้ข้างเตียง“ไม่ต้องห่วงนะบัวปลอดภัยแล้ว ... ลูกก็ด้วย”มือเธอลูบปลอบคนในท้องทนุถนอม“ลูกกระสุนเฉียดจุดสำคัญไป”“คนยิงก็ใจร้าย ทำคนท้องไส้ได้”สโรชาไม่มีวันลืมดวงตาอำพันคู่นั้น ... ผู้หญิงในกระเป๋าสตางค์ของเซอร์เก เธอยิงสโรชาเพราะแค้นที่แย่งเขามากระนั้นหรือ ประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดออก ตัวต้นเหตุในสายตาสองคู่พากายเข้ามา“ผมมีเรื่องคุยกับบัวหน่อย”ธนนท์ตั้งท่าจะไม่ยอมออกไป สโรชาพยักหน้าเป็นเชิงขอร้อง เขาจึงออกไปด้วยอาการไม่พอใจนัก“ผมขอโทษแทนญามิลลาน้องสาวผมด้วย เธอแย่เพราะเสียสามีและเข้าใจผิดเรื่องคุณ”เธอใจชื้น ที่ได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวเขา ... อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ผิดศีลข้อสาม“สามีน้องสาวคุณเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ”“เธอคิดว่าผมเป็นต้นเหตุทำให้สามีเธอตาย คุณกำลังมีลูกกับผม มิลลาต้องการแก้แค้น ไม่อยากเห็นผมมีความสุข”เขาเล่าเสียงแห้งแล้ง ... มีความเจ็บร้าวลึกอยู่ข้างใจ“แล้วคุณเป็นต้นเหตุจริงๆ หรือเปล่าล่ะ”เธอสอบสวนเขาตาแป๋ว เซอร์เกหัวเราะขื่นๆ“จะว่าผมเป็นต้นเหตุก็
“ฉันก็ไม่มีพ่อ ยังโตมาได้เลย”นึกถึงคนที่จากไปความทรงจำเจ็บปวดก็ลอยเข้ามา“พ่อคุณจากตาย แต่ผมยังมีชีวิตอยู่นะ”“คุณกับฉันอยู่คนละโลก คนละสังคม ถึงจะมีชีวิตอยู่ก็ไม่ต่างกับการตายจากกัน คุณมีทุกอย่าง แต่ฉันไม่มีอะไรเลย เป็นผู้หญิงขายตัว ... โสเภณีที่คุณเคยว่าด้วยซ้ำ ใครจะไปคิดว่าคุณจะแคร์เด็กในท้อง ในเมื่อคุณสามารถหาเมียดีๆ มีหน้ามีตา ลูกที่เกิดกับเธอต้องเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยม”สโรชาใจร้าวเหลือเกินเมื่อคิดภาพเขายืนเคียงหญิงอื่น“อย่าให้ฉันกับเด็กในท้องเป็นเรื่องลำบากใจของคุณเลย ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เงินสิบล้านที่ให้มากก็มากพอแล้ว”“ผมไม่ได้ต้องการรับผิดชอบนะ”... เป็นเรื่องหน้าที่ ... หน้าที่อะไรล่ะ“ผมเป็นพ่อของแก”คนฟังน้ำตารื้น หยิบผ้าห่มคลุมโปง เขาต้องการแค่ลูกจริงๆ ด้วย ไม่เอ่ยถึงอนาคตเธอเลย“บัว...”เซอร์เกอยากจะพูดอะไรต่อ แต่สโรชาฝืนทำเสียงเรียบตัดบท“ฉันง่วง จะนอนแล้ว”“ราตรีสวัสดิ์ครับ”เขาได้ยินเสียงเธอพลิกกายแผ่ว สูดจมูกสั้นเหมือนคนเป็นหวัด ก่อนค่อยๆ ผ่อนเป็นลมหายใจยาวลึกสม่ำเสมอหนุ่มรัสเซียกำลังคิดหนัก เขาสะดุดตั้งแต่สมองตนถามเรื่องเรื่องหน้าที่... หน้าที่พ่อที่มีต่อลูกคือ
“แล้วเธอทำยังไงต่อ”มัณฑลีรับฟังโทรศัพท์จากเพื่อนด้วยใจลุ้นระทึก“ฉันหนีขึ้นห้องนอน กะว่าจะขังตัวเองอยู่คนเดียวสักหน่อย เขาดันไขกุญแจขึ้นมาได้ ตอนนี้อาบน้ำอยู่”“เรียกว่าหนีไม่พ้นแล้วว่าอย่างนั้นเถอะ”สโรชาถอนหายหายใจแทนคำตอบ ปรายตาดูกองเสื้อผ้าใหม่เขาที่อลันเพิ่งเอามาให้“อ๊ะ! ลีคุยโทรศัพท์แปร๊บนึงนะคะ คุณหนึ่งทานข้าวได้เลย”เสียงมัณฑลีหันไปบอกสามี“โทษที ฉันโทร.มากวนหรือเปล่านี่”เวลาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือบอกเวลาสองทุ่มเกือบครึ่ง“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้คุณหนึ่งกลับช้า เลยกินข้าวเลท ปรกติเขาจะกลับมากินข้าวเย็นที่บ้าน ฉันเลยต้องรอ”สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นข้อตกลงร่วมกันอย่างไม่ต้องมีคำพูดของสามีภรรยา สโรชาฟังแล้วอิจฉานิดๆ“ถามจริงๆ เถอะ ลีรู้สึกยังไงกับการมีคู่”... คู่ที่เกิดจากหัวใจตรงกัน ไม่ใช่จากอุบัติเหตุจนมีลูกอย่างเธอและเซอร์เก“ฉันไม่เคยนึกภาพเลยนะ ทั้งตอนที่ตัวเองเป็นแม่คนแล้วก็มีครอบครัว”“ไม่แปลกหรอก แต่ก่อนฉันก็ไม่เคยนึก”ในสังคมมีผู้หญิงมากไปที่สุนกกับการและการใช้ชีวิตอิสระ“ฉันยอมรับนะว่ากลัวการใช้ชีวิตคู่ ... กลัวความรัก เพราะอดีตฉันไม่ดีเลย”สโรชานึกแค่ว่าสักวันเมื่อแก่ตั
ช่วงเวลาที่สโรชาคิดว่าตัวเองสุขนั้นแสนสั้น หัวค่ำตัวก่อกวนใจก็กลับมา“กินข้าวหรือยัง อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”ทำธุระทั้งเรื่องญามิลลากับธุรกิจเสร็จชายหนุ่มขับรถกลับมาเลย“ไม่ ฉันอิ่มแล้ว”เธอเพิ่งจัดการข้าวเย็นไปหมาดๆ คนงานร้านกลับไปหมดแล้ว บรรดาบอดี้การ์ดยังจอดรถเฝ้าเหมือนเดิม อลันอยู่ข้างนอกเมื่อเจ้านายกลับมา“ผมยังไม่ได้ กินอะไรเลย”เขาเอามือลูบท้องตาละห้อย“มีเงินก็ไปซื้อกินเองสิ โน่น! ขับไปไม่ไกลมีตลาดโต้รุ่ง”“ผมเพิ่งขับกลับมาเหนื่อยๆ นะ จะไล่ให้ไปอีกแล้วเหรอ”การได้ต่อล้อต่อเถียงกับเธอทำให้เขาสนุก ลืมเรื่องเครียดๆ ที่กรุงเทพฯได้เยอะ“งั้นใช้ลูกน้องคุณไปซื้อสิ ถ้ากลัวคุยกับเขาไม่รู้เรื่องก็เข้าเซเว่น อาหารแช่แข็งมีเมนูภาษาอังกฤษเพียบ”“อยากชิมฝีมือคุณมากกว่า ขนมยังทำอร่อย อาหารอย่างอื่นคงอร่อยด้วย”“ฉันไม่ทำกับข้าวอีกหรอก เหนื่อย! คุณแย่ขนาดใช้คนท้องเลยหรือยังไง”ใจสโรชาคิดว่ายังไงก็ได้ ... ขอให้ไล่เขาออกไปได้ไวๆ เธออยากอยู่เงียบๆ กับลูก“เอาล่ะๆ” เซอร์เกยอมแพ้ “เดี๋ยวผมทำแซนวิชกินเอง”ร่างสูงไปทางครัวเปิดตู้เย็นแล้วชะงัก ไม่มีขนมปัง เนย แยม หรืออาหารสำเร็จรูปเลย“ฉันไม่อยากให้ล
“นี่ผมอยู่ในพระราชวังเครมลินหรือยังไง”คิริลล์เข้ามายามบ่ายจัด กวาดตาดูรถสี่คัน และบรรดาบอดี้การ์ดอีกครึ่งโหลเดินตรวจตรารอบบริเวณร้าน“พ่อเจ้าตัวเล็กนี่ขี้ห่วงจังนะ”เขายิ้มหลิ่วตาล้อสโรชา เธอค้อนควับไม่ขำด้วย“คุณรู้เห็นเป็นใจกับเขา”ไม่อย่างนั้นเซอร์เกคงไม่ได้เบอร์โทร.ภายในไม่กี่ชั่วโมง แถมยังขับรถกลางดึกมาร้านเธอถูก“เปล่านะ หมอนั่นมันทำเอง ผมอยากจะขวางอยู่หรอกนะ แต่เรื่องบางเรื่องก็สุดวิสัยจริงๆ”คิริลล์โคลงศีรษะไปมา“ไม่มีใครห้ามหมอนั่นได้หรอก ... คุณก็รู้นี่ ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เด็กจะได้มีพ่อ”“ฉันเลี้ยงเขาคนเดียวได้”คิริลล์ได้ยินแล้วนึกสงสารเพื่อน ... ต้องเหนื่อยหนักกันล่ะงานนี้“ระหว่างฉันกับเซอร์เกเป็นแค่เรื่องทางร่างกาย ในเมื่อลูกอยู่ในท้องฉัน เขาก็ต้องเป็นสิทธิ์ของฉันสิ”“ผมไม่เข้าใจเลยนะสโรชา”หนทางข้างหน้าระหว่างเธอกับเซอร์เกอาจยากลำบาก แต่ช่วงเวลาที่ทั้งสองจ้องมองในงานเลี้ยง ... ประกายในแววตาสื่อความลับในหัวใจได้เป็นร้อยพัน“ผู้หญิงคงไม่ยอมอุ้มท้องลูกของผู้ชายที่เธอไม่คิดอะไรด้วยหรอก”สโรชาขณะนี้ไม่ได้ดูสวยสง่าเหมือนเห็นคราแรกแล้ว ... ตรงหน้าคิริลล์คือหญิงสาวผู้สับสน
ธนนท์หน้าหุบทันทีเมื่อเลี้ยวรถจอดหน้าร้านแล้วเห็นเซอร์เกยืนกอดอกพิงรถอยู่“ไงหมอ”เขาทักยิ้มๆ แผ่รัศมีความเป็นต่อออกมาแวบๆ“กลับมาเมืองไทยเมื่อไรครับ”“สักพักมานี้แหละ ผมมาหาบัว”ธนนท์กัดฟันกรอด ลางพ่ายแพ้การช่วงชิงหัวใจสโรชาลอยมาอีกรอบ รถคันที่สามเลี้ยวเข้าจอดขัดจังหวะ เจตวัฒน์ขมวดคิ้วงงที่จู่ๆ พบแขกของคิริลล์ที่นี่ในเวลาเช้าตรู่“ДОБРОЕ УТРО(โด๊บบร๊ะเย่ อูตระ/อรุณสวัสดิ์)”เซอร์เกทักภาษารัสเซีย เขาตอบกลับเช่นกัน นอกจากนั้นยังสังเกตได้ถึงบรรยากาศทะถมึงทึง ระหว่างสองหนุ่ม ประตูร้านเปิดออก เรียกความสนใจจากบรรดาแขกไม่คาดคิดของกันและกัน มัณฑลีกับสโรชายืนอยู่หลังตู้โชว์ขนม“ฉันอยากอยู่ช่วยเธอที่นี่จัง แต่คุณหนึ่งคงไม่ยอม โชคดีนะบัว มีอะไรโทร.หาได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”ดูสถานการณ์แล้ว สโรชาน่าจะปวดหัวไม่น้อย ... ทั้งคนแอบชอบ ทั้งพ่อเด็กในท้อง ทุกคนพร้อมใจมาวันเดียวกันหมด“โชคฉันหมดตั้งแต่ช่วยนายเซอร์เกแล้วล่ะ ลีกลับกับคุณหนึ่งเถอะ ขอบใจมากนะสำหรับทุกอย่าง”เพื่อนกลับไป เหลือไว้แต่เธอที่ต้องจัดการปัญหาที่ตนเลือกเอง“บัว พี่มารับไปตรวจครรภ์จ้ะวันนี้”ธนนท์ปรี่ยิ้มเข้ามาในร้านอย่างคุ้นเคย เขา
“คุยกันตรงนี้ไม่ได้เหรอ”คำต่อรองสโรชามีผลน้อยเหลือเกิน เพราะเจ้าของรถสตาร์ทแล้ว พร้อมเริ่มเร่งเครื่องเสียงดัง“ก็ได้ๆ”อย่างน้อยสโรชาก็คิดว่าเขาคงไม่ใจร้าย ทำอะไรรุนแรงกับเธอหรอก ... และก็เป็นอย่างที่คาด เซอร์เกขับรถช้าระวังเธอมาก ทั้งๆ หน้าโกรธออกอย่างนั้น เขาเลี้ยวรถมาจอดริมทะเล“ในท้องนั่นน่ะ ลูกผมใช่ไหม”สโรชาตกใจเม้มริมฝีปากสั่นระริก ... ไม่กี่ชั่วโมง เขาก็รู้เสียแล้ว ยังไม่ทันหาคำโกหกเลย“อย่ามาโมเมนะ ลูกคนอื่นต่างหาก”“โกหก! คุณไม่มีใครเลย เป็นซิงเกิ้ลมัม”“คุณนั่นแหละไปเอาข่าวมาจากไหน มั่นใจได้ยังไงว่าลูกคุณ”“ในห้องน้ำ เช้าที่คุณเมามาก ... เราไม่ได้ป้องกัน”เธอหน้าแดง อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ภาพความหวามร้อนแรงลอยเข้ามาย้ำเตือนอยู่เนือยๆ“แค่ครั้งเดียว ไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกน่า”“หลังจากพบผมแล้วคุณไม่มีใคร เด็กในท้องต้องเป็นลูกผม”เขาโทร.ไปคาดคั้นเอากับกฤตซึ่งปากหนักเหลือหลาย‘เธอลาออกไปหลังคุณโดนยิงสองอาทิตย์’อดีตเจ้านายเธอทิ้งปริศนาไว้แค่นั้น รวมกับอนุสิทธิ์บอก‘มิสสโรชาเป็นซิงเกิ้ลมัม ไม่มีใครเคยเห็นสามีเธอ ทีแรกคิดว่าเป็นหมอที่มาหาบ่อยๆ แต่เขาไม่เคยค้างที่นั่น จึงไม่ใช่สา
“บัว!”ดวงตาสีน้ำเงินเงยขึ้นสบเจ้าของชื่อ ใบหน้าสโรชาซีด“อยู่นิ่งๆ อย่าเพิ่งขยับนะเดี๋ยวลื่น ทิชชู่ๆ เช็ดพื้นเร็ว”มัณฑลีหยิบทิชชู่แถวๆ นั้น ก้มๆ เงยๆ เช็ดเศษขนมตกพื้น ศีรษะเพื่อนอยู่ระดับเดียวกับครรภ์ที่ยื่นออกมาชัดเจนของเธอพอดี“คุณบัว”เจตวัฒน์โอบวงแขนประคองเธอแน่นขึ้นเมื่อเห็นร่างว่าที่คุณแม่ทำท่าจะเซ“คุณโอเคไหม ไปนั่งก่อนเถอะ”คิริลล์อีกคนห่วงใย พุ่งมาหา พยักหน้าให้คนของเขาเตรียมโต๊ะ“คุณหนึ่งพาบัวไปนั่งพักก่อนเถอะค่ะ เรื่องซุ้มขนมลีจัดการเอง”สโรชาเกาะแขนสามีเพื่อนไว้แน่น หัวใจเต้นระรัว สมองเต็มไปด้วยความว้าวุ่น ... เซอร์เกมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เขารู้หรือเปล่าว่าในท้องเป็นลูกเขา“เวียนหัวไหมครับ ... เอายาดมไหม”เจตวัฒน์อาทร คิริลล์กับเซอร์เกตามมานั่งโต๊ะด้วย สโรชาส่ายศีรษะปฏิเสธก้มหน้าซ่อนเร้นสายตาตระหนก เซอร์เกเริ่มไม่พอใจ อยากรู้ว่าพูดภาษาไทยอะไรกัน“เธอคงเพลียกับงานที่เจอคนมากขนาดนี้ ท้องกี่เดือนแล้วครับภรรยาคุณ”เซอร์เกถามเสียงเย็น“ยี่สิบสี่สัปดาห์ครับ”เจตวัฒน์โบกมือขอน้ำเปล่าจากบริกรถือถาดผ่านมา สโรชาใจหายวาบ ... ภาวนาในใจว่า ... อย่าตอบอะไรอีกนะคุณหนึ่ง หยุดพูดเดี๋ยวน
บ้านคิริลล์กว้างใหญ่มาก สองสาวลงจากรถมองอย่างทึ่งๆ ตึกลักษณะสองชั้น ออกแบบหน้าต่างเป็นกระจกบานสูง ปลูกต้นไม้โดยรอบ โดยเฉพาะไม้จำพวกลีลาวดีขาวและชวนชมสีสดทางเข้าก่อนถึงประตูมีกำแพงน้ำตกประดับปูนปั้นรูปสิงห์ ... ให้อารมณ์สไตล์บาหลี งานเลี้ยงจัดบริเวณสระว่ายน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งมีบันไดเป็นขั้นประดับด้วยกระถางเฟื่องฟ้าชมพูทอดไปถึงชายหาด“ถ้าฉันมองจากฝั่งทะเล จะคิดว่าที่นี่เป็นโรงแรมนะเนี่ย ตกแต่งหรูจัง”มัณฑลีชวนคุย ขณะช่วยยกกล่องขนมไปจัดเรียง งานเริ่มหนึ่งทุ่ม สโรชา มัณฑลีและเจตวัฒน์มาช่วยจัดของตั้งแต่หกโมงเย็น อาทิตย์แสงสุดท้ายยังไม่ลับ ไฟประดับต้นไม้และโต๊ะเริ่มเปิดกระพริบพราย“ถ้าชอบให้คุณหนึ่งซื้อให้ก็ได้นี่ เขารวยออก”พนักงานมานำพวกเธอไปยังสถานที่ ซึ่งคนเดินขวักไขว่ วุ่นวายกับการเตรียมงาน เจตวัฒน์พาคนงานกลับไปเอาของอีกจากรถ“เขาไม่ได้รวยขนาดนั้นหรอก แค่พออยู่ได้”มัณฑลีก็เล่าเรื่องสามีอีกนิดหน่อย สโรชาไม่ทันได้ฟัง เธอคิดว่าหมดงานนี้แล้วจะพยายามเลี่ยงไม่เจอคิริลล์อีก ... เห็นหน้าเขาแล้วแสลงใจถึงอีกคน อีกอย่างเขาเป็นนักธุรกิจรัสเซีย อาจรู้จักกับเซอร์เก เลี่ยงไว้ก่อนละเป็นการดี