หญิงสาวปรือตาตื่นงงๆ เหลียวมองสภาพไม่คุ้นตา ... ไม่ใช่ห้องพักพนักงานเวลาดื่มกับแขกจนเมาในค็อกเทลเลาจน์กฤต และไม่ใช่ห้องในคอนโดตัวเองเช่นกัน
เสียงหายใจยาวลึกสม่ำเสมอของคนข้างกายเรียกสติที่หลับใหลให้หวนคืน ห้องแขกนั่นเอง หนุ่มรูปหล่อร่ำรวย ผู้เสนอให้อยู่กับเขา
เธอไม่ชอบ และไม่คิดชินกับวิถีชีวิตที่ต้องให้ผู้ชายเลี้ยงอย่างนี้ แต่ทำอย่างไรได้ ทางเลือกในชีวิตคนเราต่างกัน แม้จะเรียนกศน.จนจบหลักสูตรมัธยมศึกษาปีที่หก ต่อด้วยมหาวิทยาลัยเปิดอีกสี่ปี ถ้าทำงานบริษัทปรกติก็ไม่พอค่าดูแลแม่ในเนอร์สซิ่งเฮลท์แคร์อยู่ดี
สโรชายิ้มหยันตัวเอง ... สมควรแล้วกับสิ่งที่ได้รับ ตนนั่นแหละเป็นคนวางชีวิตไว้ในอุ้งมือปีศาจ โดยใช้ความสวยเป็นเดิมพัน ทิ้งความสาวกับศักดิ์ศรีแลกการจ่ายภาระหนี้สินและความสุขสบายของครอบครัว
โดยไม่รู้เลยว่าก่อแผลใจ จนลุกลามกลายเป็นอาการทางจิตของผู้เป็นแม่ ค่ารักษานั้นสูง จนดูเหมือนค่าตัวเธอเท่าไรก็ไม่พอ สโรชาทิ้งท่านไปไม่ได้ แม้ไม่ได้ดูแลเองก็ขอเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ เธอจึงเป็นเด็กเสี่ยราคาสูงให้คนมือหนักผูกปิ่นโต[1]
... ผู้ชายสำหรับสโรชาคือบ่อเงินทอง ... ยามหลง ต้องรีบสูบ ยามทิ้งก็ตัดฉับ อย่าเหลือเยื่อใย โชคดีเธอสวย สะอาด กริยา การศึกษาดี ผู้ชายจึงเลี้ยงคราวละเป็นปีๆ คนสุดท้ายที่อยู่ด้วยก็เมื่อปีครึ่ง ก่อนเขาจะต้องแต่งงานแบบคลุมถุงชน
สโรชารับบริการทางกามารมณ์ แต่ไม่รับเป็นชู้ เธอจึงเลือกเฉพาะคนโสด ... นี่เป็นศีลธรรมเล็กๆ ที่เธอยึดไว้ในใจ
การได้มาอยู่ค็อกเทลเลาจน์กฤตเพราะเขาเป็นคนรู้จักกับผู้ชายคนก่อน กฤตไม่บังคับ เขาเปิดค็อกเทลเลาจน์ มีสาวนั่งเป็นเพื่อนดื่ม ถ้าใครอยากจะขายก็ตามแต่ตกลงกันเอง
ร้านกฤตเปิดเมมเบอร์แพง แขกเลือกเฉพาะวีไอพี รายได้จึงดีตามมาด้วย แต่ต้องแลกกับอาการเสี่ยงตับพังเพราะดื่มเหล้ากับลูกค้าและเวลาทำงานเป็นกลางคืน
สโรชาสวย ช่างเอาใจ จึงเป็นเบอร์หนึ่งค็อกเทลเลาจน์ได้ไม่ยาก กฤตตั้งค่าตัวเธอโก่งไว้สูงๆ หวังไม่ให้ใครมาอ็อฟไปง่ายๆ เพิ่งมีเซอร์เกนี่แหละที่ยอมจ่ายเป็นเลขถึงหกหลัก
หญิงสาวก้าวจากเตียง ควานหาเสื้อผ้าตนที่กระจัดกระจาย บราเซียเจอแล้ว ชุดแซกอยู่ข้างโต๊ะโคมไฟ แล้วบีกินี่ล่ะ ... ดวงตาคมหวานกวาดมองไปทั่ว ก่อนจะพบลูกไม้ชั้นในสีดำแพลมออกมาจากหลังคนนอนเตียง
เซอร์เกยังหลับ สโรชาใช้ชุดแซกพาดแขนบดบังกาย ขึ้นไปบนเตียงค่อยๆ ดึงชั้นในออก ระวังไม่ให้เขาตื่น คนตัวโตน้ำหนักเยอะ ทับอาภรณ์ชิ้นน้อยจนแทบไม่ขยับ
สโรชาจำต้องวางเสื้อผ้าทั้งหมดลง เพ่งสายตา พุ่งความสนใจไปที่หลังเขาอย่างเดียว เธอมุ่งมั่นกับภารกิจมากไปนิดจนลืมสังเกตอะไรบางอย่าง
“ได้ซะที” สโรชาโล่งใจ ขืนให้เดินโป๊ท่อนล่างลงไปข้างนอกก็แย่สิ
“โอ๊ะ ... โอ วิวดีเสียด้วย” เจ้าของห้องตื่นแล้ว ทักด้วยสายตาและเสียงกรุ้มกริ่ม
“มีรูมเซอร์วิสอาหารเช้าบนเตียงด้วยเหรอครับ”
... เธอถึงค่อยมาพิจารณาร่างตน ทั้งเนื้อตัว ไม่มีอะไรปกปิดเลยนอกจากชั้นในลูกไม้น้อย
เซอร์เกยื่นมือรวบคนผิวนุ่มนิ่มเข้าไว้ในอ้อมกอด จุมพิตรับอรุณอ่อนหวาน เขาปฏิบัติต่อคู่นอนดีทุกครั้ง ... ทำไมต้องทำเรื่องร้ายกาจให้พวกเธอกันเล่า ในเมื่อต่างคนต่างสุขและเปรมปรีกับรสสวาท ทุกคนได้ ไม่มีใครเสีย
“คุณไม่ต้องไปไหนหรือคะวันนี้”
สมองสโรชาคิดแผนการแล้วว่าจะไปไหน กลับจากที่นี่เธอจะขับรถไปหาแม่ ใช้เวลาวันหยุดทั้งหมดกับท่าน
“มีธุระนิดหน่อย คุณไปด้วยไหม” เขายังตื้อ มือป่ายปะไปทั่วแผ่นหลังเนียน
“บอกแล้วไงคะว่าขอคิดดูก่อน”
“งั้นให้เกียรติกินมื้อเช้ากับผมได้ไหม”
สโรชาชอบดวงตาสีน้ำเงินที่มองมา ... สวย ลึกลับ และเต็มไปด้วยความปรารถนา เธอไม่ตอบแต่เบี่ยงกายลงจากเตียง หยิบเสื้อผ้ากระจัดกระจายแต่งตัว โดยไม่แสดงท่าทีขัดเขิน
... รู้ว่าเขามอง เธอเต็มใจ เพราะคิดว่าร่างกายนี้เป็นสินค้า ผู้ซื้ออย่างเขามีสิทธิ์พิจารณา ชื่นชมความงาม
เซอร์เกอยากใช้เวลาอยู่กับสาวผมน้ำตาลให้มากกว่านี้ ทว่าเขามีนัดตีกอล์ฟกับเพื่อนชาวรัสเซียที่มาทำธุรกิจในเมืองไทย อาหารเช้าของทั้งสองจึงต้องพึ่งรูมเซอร์วิส
“ผมจะให้คนไปส่งคุณนะบัว”
เขากับเธอมีรสนิยมตรงกันที่ดื่มเพียงกาแฟเป็นมื้อเช้า เซอร์เกหันไปสั่งเป็นภาษารัสเซียกับอลันซึ่งยืนเยื้องอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะอาหารริมระเบียง สักพักหนุ่มจมูกโตนายหนึ่งก็มายืนโค้งคำนับให้สโรชา
“เขาจะพาคุณไปส่ง บอกทางเขาหน่อยละกัน แล้วนี่ นามบัตรผม”
เธอพินิจกระดาษสีเทาเข้มพิมพ์ตัวหนังสือสีทองในมือ ตำแหน่งเจ้าของนามบัตรคือประธานบริหารบริษัทลงทุน ... ระบุไว้แค่นั้น ไม่บอกเป็นธุรกิจอะไร
“อยากอยู่กับคุณมากกว่านี้ แต่ผมต้องไปแล้ว” ชายหนุ่มขอตัวอย่างสุภาพ
“ฉันไปด้วยดีกว่าค่ะ ไม่ต้องให้คนของคุณไปส่งหรอก กลับแท็กซี่ สะดวกดี”
เช้าฟ้าหลังฝนสดใส ถนนหน้าโรงแรมคนไม่เยอะนัก เพราะนักท่องเที่ยวยังหลับใหล หลายคนตระเวนราตรีกรุงเทพฯจนดึก
สโรชาอารมณ์ดีที่งานเสร็จ มีวันหยุด จะได้เจอแม่ ปราณบุรีอยู่ไม่ไกล ขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง ระหว่างทางแวะซื้อผลไม้สักหน่อย ฝากแม่ พยาบาลผู้ดูแล และธนนท์
“ปัง!”
พลันความคิดทุกอย่างหยุดลงเมื่อได้ยินเสียง
“เอี๊ยด ... โครม” แล้วก็ตามด้วยปังๆ รัวอีกหลายรอบ เสียงหวีดร้องตะโกนต่อๆ กันดังทั่วบริเวณ
“คนยิงกัน!”
ผู้คนวิ่งหนีลูกหลงกันจ้าละหวั่น สโรชาเข้าไปหลบในร้านเดิมที่เคยมาซื้อร่ม
“ใครยิงกันน่ะ” เพื่อนสมาชิกหนีตายถามให้เซ็งแซ่
“ไม่รู้ จู่ๆ ก็มีทั้งมอเตอร์ไซด์ ทั้งรถเก๋งถล่มยิงรถที่เพิ่งเลี้ยวออกมาจากโรงแรม”
ผู้อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นเล่าเสียงสั่น คนมาหมอบออกันอยู่หน้าตู้แช่เครื่องดื่ม เพราะเป็นมุมอับสายตาคนภายนอกที่สุดของร้าน
“คนในรถก็ตอบโต้ ยิงกันกลางถนนนี่แหละ รถคันอื่นเลยโดนลูกหลงชนกันระเรระนาดด้วย เหมือนในหนังเลย”
ยามเป็นภาพยนตร์ ผู้ชมสะใจกับฉากวินาศสันตะโรแบบนี้ แต่เมื่อมาเจอในชีวิตจริงทุกคนใจสั่น ภาวนาหาที่พึ่งกัน ผ่านไปไม่กี่นาทีแต่เหมือนนานชั่วกัปชั่วกัลป์ของคนกลัว เสียงปืนสงบลง ... เสียงรถหวอตำรวจดังเข้ามาแทน
“ตื๊อ... ดื่อ” ทั้งร้านสะดุ้งเฮือก มองประตูเป็นตาเดียว
“ปลอดภัยไหมครับ มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า”
ตำรวจวัยกลางคนสอดส่ายสายหาคนเจ็บ ท่ามกลางอาการโล่งอก มีแรงถามสถานการณ์จากผู้มาใหม่ สโรชาไม่ได้ร่วมวงถามด้วย เธอเอามือกุมหน้าอกเพื่อคุมอาการเต้นรัวของหัวใจ หูได้ยินคำบอกเล่าแว่วๆ
“มีคนมายิงฝรั่งแขกโรงแรม...”
ชื่อโรงแรมเดียวกับเธอเพิ่งจากมา โชคดีแล้ว ที่ออกมาก่อน ... เฉียดไปนิดเดียว เสี้ยววินาทีแห่งวิกฤติเธอคิดถึงแม่
“คุณป้าเฟื่องฟ้าไปดูดอกไม้ค่ะคุณบัว”
พยาบาลเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เนอร์สซิ่งเฮลท์แคร์ตอบเสียงหวาน เมื่อสโรชาโทรศัพท์หาแม่ดังใจคิด
“เพิ่งออกไปค่ะ เดี๋ยวไปตามให้”
“ไม่ต้องหรอก ขอบคุณค่ะ บอกแม่ด้วยนะคะว่าวันนี้ฉันจะไปเยี่ยม”
สโรชาก้าวออกจากร้านโดยไว เธอจะขับรถยาวรวดเดียวถึงปราณบุรี ... ไปกอด เล่าให้ฟังถึงความโชคดีที่ยังมีชีวิตได้ดูแลท่าน แต่การจราจรก็ติดขัดเหลือเกิน ตำรวจกั้นทางเพื่อเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ รถต่อคิวยาวเป็นกิโล ทุกคนพร้อมใจกันหาทางออกจากถนนเส้นนี้
[1] การขายบริการแบบให้สัญญาว่าจะรับแขกแค่คนนั้นๆ คนเดียว มีค่าตอบแทนรายเดือน โดยตกลงเรื่องวันเวลาที่จะมาหาให้ชัดเจน ส่วนมากจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ ที่มีสัมพันธ์กัน คล้ายๆ เด็กเสี่ย
สโรชาทำใจไว้แล้วว่าต้องเหมาแท็กซี่ ติดตรงไม่มีคันไหนฝ่าการจราจรมาได้นี่สิ ไม่เป็นไร เรียกวินมอเตอร์ไซด์ให้พาลัดออกไปถนนเส้นอื่นแล้วค่อยต่อแท็กซี่ก็ได้คิดได้ดังนั้นเธอจึงเดินไปตามตรอกเล็กในซอยใหญ่เพื่อหารถที่หมาย เห็นป้ายอยู่วินหนึ่งแต่ไม่มีคน ข้างๆ กันเป็นถังขยะกทม.ใบใหญ่สองถัง สกปรกไปหน่อย แต่ป้ายเขียนคิวยังสะอาดและใหม่เอี่ยม‘สงสัยไปส่งคน’สโรชาคิดพลางยืนรอ เมื่อยขาที่ต้องเดินแล้วเหมือนกัน สุนัขจรจัดสองตัววิ่งเฉียดเธอไปนิดเดียว เพื่อเข้าไปคุ้ยขยะ ใจหญิงสาวภาวนาให้วินมอเตอร์ไซด์มาเร็วๆ จะได้พ้นจากสภาพนี้เสียที“แง่ง...” สุนัขฮึมฮัม ทีแรกคิดว่ามันกัดกัน“ออกไปนะ” ... ที่เปล่งออกมาคือเสียงมนุษย์และเป็นภาษาอังกฤษ!“คุณ...” สโรชามาที่ถังขยะ ร่างนั้นมองเธออย่างตกตะลึง“บัว พาผมออกไปจากที่นี่ที”เซอร์เก อินาเซวิช นอนอยู่ พร้อมเลือดแดงฉานเปรอะเสื้อบริเวณหน้าท้อง“เร็ว” ... และมืออีกข้างของเขาถือปืน!“เกิดอะไรขึ้น คุณบาดเจ็บ ต้องไปโรงพยาบาลนะ”เซอร์เกหน้าซีด แต่ดวงตายังคมกล้า“ไปไม่ได้ ผมโดนทรยศ มีคนหักหลัง”สโรชารู้แล้วว่าแขกโรงแรมที่ตำรวจเล่าในร้านสะดวกซื้อคือใคร“แล้วจะให้ฉันพาไปไหนล่ะ”
สองร่างไกลออกมาจากที่เกิดทุกทีๆ เสียงปืนดังสลับเป็นระยะๆ ผู้คนวิ่งหลบกันจ้าละหวั่น เธอพาเขาหยุดพักบริเวณตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่งใกล้ร้านที่ยังไม่เอาประตูเหล็กพับขึ้น“งั้นฉันคงช่วยคุณได้แค่นี้แหละนะ”สโรชาจะสละเรือแล้ว ไม่ไหวๆ ห่างกันไม่ถึงชั่วโมงผู้ชายคนนี้โดนลอบฆ่าสองครั้ง ขืนอยู่ด้วยอีก เธอกลัวโดนลูกหลง เซอร์เกมองหญิงสาวอย่างค้นคว้า“จะว่าฉันใจดำก็ได้นะ แต่ใครๆ ก็รักชีวิตของตัวเอง ทั้งคุณทั้งฉัน คุณไม่อยากตาย ฉันก็ไม่อยากเหมือนกัน”“สายไปแล้วที่จะทิ้งผมนะบัว เมื่อกี้ผู้ชายที่จ้างเขาเห็นแล้วว่าเรามาด้วยกัน คุณจัดการทุกอย่างให้ผม เราร่วมมือกัน ถ้าหมอนั่นโดนจับได้มันต้องเล่าให้ทุกคนฟังแน่ ทีนี้พวกที่ตามฆ่าผมก็จะเปลี่ยนมาสืบหาตัวคุณแทน”เธอฟังแล้วหน้าซีดอ้าปากค้างกับความจริงที่คิดไม่ถึง“คุณเองนั่นแหละที่จะตกอยู่ในอันตราย”ซวย... คำนี้ผุดขึ้นมาทันทีในสมองสโรชา“แต่ถ้าอยู่กับผมคุณจะปลอดภัย รับรองด้วยเกียรติของเซอร์เก อิคนาเซวิช คุณก็เห็นแล้วนี่ เมื่อกี้นี้ผมจัดการให้เรารอดจากอันตรายได้ยังไง”เขาฉลาดจริงดังว่า สโรชาไม่เถียง แต่ในอนาคตกับสภาพร่างกายบาดเจ็บอย่างนี้ล่ะ“อยู่กับผม ช่วยกันก่อน”“แ
“บัว... คุณมีอะไรกับคาสิโนเหรอ”เซอร์เกแปลกใจจนอดถามไม่ได้ เธอเดินไปรูดม่านหน้าต่างห้องคนไข้อย่างแรง แสงตะวันบ่ายคล้อยลอดเข้ามา เผยให้เห็นสวนกว้างละลานตาด้วยดอกไม้ ทางเดินลาดซีเมนส์เรียบทอดลงไปสู่ผืนทราย ลมพัดคลื่นเป็นพรายฟองกระทบหาด บนชายหาดมีร่มคันใหญ่ปักอยู่ ใต้ร่มปรากฏร่างในชุดขาวนั่งบนรถเข็น โดยมีพยาบาลยืนกางร่มคันเล็กยืนอยู่ใกล้“นั่นแม่ของฉัน ... คนใจสลายเพราะสามีติดการพนัน เขาฆ่าตัวตายหนีปัญหา ลูกสาวถูกหลอกว่าจะมีคนจ่ายหนี้ให้จนต้องเป็นผู้หญิงขายตัว”ไหล่บางสั่นเทิ้ม ขอบตาร้อนผ่าว“ผลของการพนัน ... จากคนเปิดคาสิโนอย่างคุณไงล่ะ”โดยไม่รอให้น้ำในตาไหลออกมา สโรชาสาวเท้าออกไปจากห้อง ทิ้งไว้เพียงเสียงปิดประตูดังปัง! เซอร์เกตกตะลึงกับความจริงที่ได้ฟังโชคชะตาเล่นตลกให้คนเกลียดคาสิโนต้องมาช่วยเจ้าของคาสิโน เขาไม่คิดว่าธุรกิจตัวเองทำนั้นดี และไม่คิดว่าคนเข้ามาเล่นพนันเป็นคนดีด้วยทุกคนล้วนมีด้านมืดเรียกว่าความโลภ สุดแล้วแต่ว่าใครจะควบคุมความโลภนั้นได้ดีกว่ากัน คาสิโนเป็นแค่สถานที่ปลดปล่อย เดิมพันด้วยใครมีสติยั้งคิดได้มากกว่า... และคนที่กระโจนลงสู่บ่อแห่งความโลภก็มักทิ้งรอยแผลให้คนรอบ
“... นี่โรงพยาบาลนะ”สโรชาปราม เดาความปารถนาเขาออก“เราไม่ควรทำอย่างนี้”คนป่วยเล่นงานหลังใบหูซึ่งเป็นจุดอ่อนไหว เลือดกายสาวเริ่มร้อน ตัวไหวไปกับการแนบชิด“แล้วควรทำแบบไหนล่ะ”เขาพึมพำถามเหมือนละเมอ เชยใบหน้าเธอขึ้น มอบจุมพิตดูดดื่ม ลิ้นร้อนซอกซอนหาความหวานฉ่ำเย็นจากโพรงปาก สโรชาตอบโต้ตามสัญชาตญาณแห่งกามารมณ์ระหว่างชายหญิงมือใหญ่เริ่มลูบไล้ป่ายปะ สอดเข้าไปด้านหลังเสื้อยืด สัมผัสผิวเนื้ออ่อนไปจนถึงชั้นในตัวน้อย เคล้าคลึงทักทายอย่างคุ้นเคย ก่อให้เกิดความกระสันแก่เจ้าของปทุมถันงามยิ่งนัก“พอเถอะค่ะ คุณเจ็บอยู่นะ” การรุกรานยังไม่ลดละ“เดี๋ยวแผลฉีกหรอก รู้ไหมตอนขับรถมาคุณหน้าซีดมาก ฉันคิดว่าคุณจะเสียเลือดหมดตัวแล้ว”คำพูดเธอเป็นดังสายลม ... พัดแผ่วเลยผ่านหูเขาไป“ไหนจะเรื่องคนทรยศอีกล่ะ”สัมผัสรุกรานทั้งหลายหยุดกึกลง สโรชาจึงได้ผ่อนลม หายใจคล่องขึ้นมาบ้าง“คุณนี่เป็นนางแมวยั่วสวาทขนานแท้จริงๆ นะหวานใจ พูดซะจนผมหมดอารมณ์”เขาเอ็ดเสียงไม่จริงจังนัก ระบายยิ้มกระจ่างใส จุมพิตเบาบนหน้าผากนวล“ก็คุณทำอะไรไม่รู้กาลเทศะเลยนี่” เธอขยับกายหนี“คุณเซ็กซี่จนอดใจไม่ไหวต่างหาก ว่าไง... หลังจบงานนี้แล้ว
‘Let’s.. read·– the mother– – goose’เลขาฯผมทอง หุ่นนางแบบของ คิริลล์ นาบาบคินนิ่วหน้ากับหัวข้ออีเมล์ปริศนา เปิดออกดูมีแต่เนื้อหานิทานกล่อมเด็กพื้นเมืองของอังกฤษเรื่อง ‘mother goose’“Mary,··· Mary,· quite·–·contrary, How– –·does· your–·– – garden grow? With····silver· bells·–··and cockle·– –·shells. And– – pretty· maids all in a row.”และเต็มไปด้วยจุดเครื่องหมายขีดน่าเวียนหัว เธอเกือบลบทิ้งไปแล้วเชียว หากไม่ได้ยินเสียงทักของคนสนิทเจ้านาย“ไงยาหยี ทำไมคิ้วขมวดอย่างนั้นล่ะ เดี๋ยวก็ต้องไปเติมโบท็อกส์ใหม่หรอก”เธอค้อน ชม้ายตาเจ้าชู้ใส่“ฉันเช็คอินบ็อกซ์เมล์ก่อนกลับบ้านให้บอสน่ะสิ มีแต่เมล์ขยะบ้าๆ อย่างชวนอ่านเรื่องมาเธอร์กูซงี้”“ไอ้บ้าตัวไหนที่ทำคุณรำคาญกัน”คนสนิทคิริลล์เลิกคิ้ว แทรกตัวมาดูจอคอมพิวเตอร์ แล้วหน้าระรื่นกลับนิ่วเครียด“คุณกลับไปได้แล้ว ผมมีเรื่องจะคุยกับบอส”“แต่ว่า...”“ไปเถอะ”สายตามองมากดดัน เลขาฯ รีบเก็บของส่วนตัว มือกำลังปิดคอมพิวเตอร์ชะงักกึกด้วยเสียงตวาด“อย่าปิด! ผมจัดการเอง”ความขี้เล่นกรุ้มกริ่มหายไปหมด เหลือแต่ความน่าสะพรึง ... เธ
สโรชาอดยิ้มไม่ได้ เมื่อผิวขาวแบบชาวตะวันตกเต็มไปด้วยริ้วรอยขูดขีดและจ้ำแดงจากหนามทุเรียน ใบหน้าคมสันบึ้งตึง“เอ้า...” มือยื่นขี้ผึ้งทาแก้แมลงสัตว์กัดต่อยซึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านให้ เซอร์เกนั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวีห้องรับแขก“ดูเหมือนเมื่อกี้คุณจะสนุกมากเลยนะบัว”เขานึกถึงผลไม้หนามแหลมลูกแล้วลูกเล่าที่เธอจงใจขว้างเข้ามาในรถอย่างไม่ยั้งมือ“คิดมากน่า ถ้าไม่ทำอย่างนี้แล้วคุณจะขึ้นมาห้องฉันได้ยังไง รู้ไหมทุเรียนเป็นราชาแห่งผลไม้นะ ปีหนึ่งได้กินแค่หนึ่งครั้ง นักท่องเที่ยวต่างชาติถึงขนาดลงทุนมากินเจ้านี่ถึงประเทศฉันเลยนะ คุณเป็นผู้ชายโชคดี ได้นอนท่ามกลางผลไม้ที่ทุกคนชอบ”“ถ้าผมเป็นผู้ชายโชคดีจริง คงไม่ต้องทาขี้ผึ้งเองใช่ไหม”“นี่คุณ! ทาขี้ผึ้งแค่นี้ ทำเองเถอะ”เธอแหว“ผมเจ็บไปทั้งตัวคุณก็เห็น”“ฉันมีงานต้องทำ… ตามที่คุณสั่งไง” เธอเดินไปยังกองข้าวของบนโต๊ะในครัว“ของคุณทั้งนั้น”หญิงสาวบ่นพลางหยิบสิ่งที่อยู่ในถุงห้างสรรพสินค้ามาจัดหมวดหมู่ เขาสั่งให้เธอซื้อเสื้อผ้า ของใช้จำเป็นทั้งหมดจากนอกเมืองเสียทีเดียว ทำทีเป็นไปเยี่ยมแม่แล้วมีของฝากคนรู้จัก เพื่อไม่ให้ผิดปรกติจนเกินไปบทสนทนาในลานจอดรถห
เซอร์เกเปิดตลับแล้วขมวดคิ้ว ... ขี้ผึ้งเหลืองอ่อนกลิ่นเจือหอมเย็นแบบการบูร ปนสมุนไพรตะวันออกพิลึกไม่คุ้นจมูก... ต้องทาเยอะขนาดไหน เขาผ่านวัยซุกซนที่มีแผลฟกช้ำตามร่างกายมานานเสียแล้วด้วยสิชายหนุ่มวางมันกลับบนโต๊ะ ปรายตามองคนกำลังจัดของ มือเล็กบางหยิบโน่นนี่คล่องแคล่ว เธอจัดอาหารอายุสั้นใส่ตู้เย็น จากนั้นจัดอาหารกระป๋องใส่ตู้เหนืออ่างล้างจานผมรวบเป็นมวยไว้ยุ่งนิดๆ ปอยผมตกมาคลอเคลียระต้นคอ ร่างโปร่งเคลื่อนจากครัว ไปรวบเสื้อผ้าซื้อใหม่ใส่เครื่องซัก เขามองตามเพลิน“เดี๋ยวคุณใส่เสื้อยืดเก่าๆ กับกางเกงเลฉันไปก็แล้วกันนะ เสื้อผ้าใหม่ขอซักก่อน”สโรชาว่าพลางกลับมาจัดการถุงพลาสติคบนโต๊ะ เธอพับตามทางยาวเป็นสามส่วนบ้าง สี่ส่วนบ้าง ตามความใหญ่ ก่อนพับทแยงมุมขึ้นข้างบนอีกครั้ง จนเป็นสามเหลี่ยม ซ่อนปลายไว้ในด้านข้างรอยพับ“คุณทำได้ยังไงน่ะ”ชายหนุ่มทึ่ง ถึงขนาดเดินมาหย่อนก้นบนเก้าอี้นั่งดูที่โต๊ะในครัว“พับๆ ไปอย่างนั้นแหละ”แม่เธอเป็นคนมีระเบียบ และท่านก็ส่งต่อคุณสมบัตินี้สู่ลูกสาว เป็นสิ่งที่สโรชาทำตลอดมาไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร“คุณนี่มีอะไรให้ผมประหลาดใจได้เสมอนะ”แรกทีเดียวที่เจอ เธอดูเปรี้ยว
“จริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจเปิดหรอก เพียงแต่ตัดวงจรคู่แข่งที่เป็นเสือนอนกินดึงลูกค้าโรงแรมผมไป”… ธุรกิจบนความโลภของมนุษย์ให้ผลตอบแทนหอมหวาน ทว่าแลกมาด้วยอันตรายรอบด้าน คู่แข่งบางคนไม่อยากโค่นเฉพาะธุรกิจเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงชีวิตเขาด้วย“ผมเข้าใจ ... คุณเกลียดสิ่งที่ผมทำ แต่ในคาสิโนนอกจากมีคนเสียพนันแล้ว ยังมีพนักงาน พวกเขามีครอบครัว มีลูกๆ ต้องดูแล คนเหล่านั้นต้องทำงานเลี้ยงชีพเหมือนกัน”“ฉันไม่ได้เกลียดคนทำงานพวกนั้น แต่เกลียดนายทุนอย่างคุณต่างหาก ธุรกิจมีตั้งมากมายทำไมมาเลือกธุรกิจทำลายคนอย่างนี้”เธอปิดตลับยาหม่อง วางลงบนโต๊ะ ความร้าวรานในอดีตฉายชัดในดวงตา“ผมต้องเลือกธุรกิจที่มีกำไรสิ คุณก็คงคิดเหมือนกันใช่ไหม”“คุณหน้าเลือด เอาเปรียบคนอื่น ฉันน่าจะปล่อยให้ตายข้างถังขยะไปซะ!”สโรชาสะบัดกายลุกขึ้น คนนั่งอยู่ไวกว่า คว้าตัวเธอไว้ในอ้อมกอด“เรื่องธรรมดานะบัว ... โลกเราก็เป็นอย่างนี้แหละ ทุกคนทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น”“แล้วคนเล่นการพนันจนหมดตัว ครอบครัวที่แตกแยกของพวกเขาล่ะ”“คนเล่นหมดตัวคือคนอ่อนแอ ให้ความโลภบังตา ผมเชื่อในทฤษฎีของชาร์ล ดาร์วินนะ การคัดเลือกโดยธรรมชาติ คัดสิ่งอ่
สโรชาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยอาการสะลึมสะลือ นอนบนเตียงท่ามกลางสายช่วยชีวิตระโยงระยาง ธนนท์ยิ้มปรี่ลุกจากเก้าอี้ข้างเตียง“ไม่ต้องห่วงนะบัวปลอดภัยแล้ว ... ลูกก็ด้วย”มือเธอลูบปลอบคนในท้องทนุถนอม“ลูกกระสุนเฉียดจุดสำคัญไป”“คนยิงก็ใจร้าย ทำคนท้องไส้ได้”สโรชาไม่มีวันลืมดวงตาอำพันคู่นั้น ... ผู้หญิงในกระเป๋าสตางค์ของเซอร์เก เธอยิงสโรชาเพราะแค้นที่แย่งเขามากระนั้นหรือ ประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดออก ตัวต้นเหตุในสายตาสองคู่พากายเข้ามา“ผมมีเรื่องคุยกับบัวหน่อย”ธนนท์ตั้งท่าจะไม่ยอมออกไป สโรชาพยักหน้าเป็นเชิงขอร้อง เขาจึงออกไปด้วยอาการไม่พอใจนัก“ผมขอโทษแทนญามิลลาน้องสาวผมด้วย เธอแย่เพราะเสียสามีและเข้าใจผิดเรื่องคุณ”เธอใจชื้น ที่ได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวเขา ... อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ผิดศีลข้อสาม“สามีน้องสาวคุณเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ”“เธอคิดว่าผมเป็นต้นเหตุทำให้สามีเธอตาย คุณกำลังมีลูกกับผม มิลลาต้องการแก้แค้น ไม่อยากเห็นผมมีความสุข”เขาเล่าเสียงแห้งแล้ง ... มีความเจ็บร้าวลึกอยู่ข้างใจ“แล้วคุณเป็นต้นเหตุจริงๆ หรือเปล่าล่ะ”เธอสอบสวนเขาตาแป๋ว เซอร์เกหัวเราะขื่นๆ“จะว่าผมเป็นต้นเหตุก็
“ฉันก็ไม่มีพ่อ ยังโตมาได้เลย”นึกถึงคนที่จากไปความทรงจำเจ็บปวดก็ลอยเข้ามา“พ่อคุณจากตาย แต่ผมยังมีชีวิตอยู่นะ”“คุณกับฉันอยู่คนละโลก คนละสังคม ถึงจะมีชีวิตอยู่ก็ไม่ต่างกับการตายจากกัน คุณมีทุกอย่าง แต่ฉันไม่มีอะไรเลย เป็นผู้หญิงขายตัว ... โสเภณีที่คุณเคยว่าด้วยซ้ำ ใครจะไปคิดว่าคุณจะแคร์เด็กในท้อง ในเมื่อคุณสามารถหาเมียดีๆ มีหน้ามีตา ลูกที่เกิดกับเธอต้องเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยม”สโรชาใจร้าวเหลือเกินเมื่อคิดภาพเขายืนเคียงหญิงอื่น“อย่าให้ฉันกับเด็กในท้องเป็นเรื่องลำบากใจของคุณเลย ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เงินสิบล้านที่ให้มากก็มากพอแล้ว”“ผมไม่ได้ต้องการรับผิดชอบนะ”... เป็นเรื่องหน้าที่ ... หน้าที่อะไรล่ะ“ผมเป็นพ่อของแก”คนฟังน้ำตารื้น หยิบผ้าห่มคลุมโปง เขาต้องการแค่ลูกจริงๆ ด้วย ไม่เอ่ยถึงอนาคตเธอเลย“บัว...”เซอร์เกอยากจะพูดอะไรต่อ แต่สโรชาฝืนทำเสียงเรียบตัดบท“ฉันง่วง จะนอนแล้ว”“ราตรีสวัสดิ์ครับ”เขาได้ยินเสียงเธอพลิกกายแผ่ว สูดจมูกสั้นเหมือนคนเป็นหวัด ก่อนค่อยๆ ผ่อนเป็นลมหายใจยาวลึกสม่ำเสมอหนุ่มรัสเซียกำลังคิดหนัก เขาสะดุดตั้งแต่สมองตนถามเรื่องเรื่องหน้าที่... หน้าที่พ่อที่มีต่อลูกคือ
“แล้วเธอทำยังไงต่อ”มัณฑลีรับฟังโทรศัพท์จากเพื่อนด้วยใจลุ้นระทึก“ฉันหนีขึ้นห้องนอน กะว่าจะขังตัวเองอยู่คนเดียวสักหน่อย เขาดันไขกุญแจขึ้นมาได้ ตอนนี้อาบน้ำอยู่”“เรียกว่าหนีไม่พ้นแล้วว่าอย่างนั้นเถอะ”สโรชาถอนหายหายใจแทนคำตอบ ปรายตาดูกองเสื้อผ้าใหม่เขาที่อลันเพิ่งเอามาให้“อ๊ะ! ลีคุยโทรศัพท์แปร๊บนึงนะคะ คุณหนึ่งทานข้าวได้เลย”เสียงมัณฑลีหันไปบอกสามี“โทษที ฉันโทร.มากวนหรือเปล่านี่”เวลาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือบอกเวลาสองทุ่มเกือบครึ่ง“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้คุณหนึ่งกลับช้า เลยกินข้าวเลท ปรกติเขาจะกลับมากินข้าวเย็นที่บ้าน ฉันเลยต้องรอ”สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นข้อตกลงร่วมกันอย่างไม่ต้องมีคำพูดของสามีภรรยา สโรชาฟังแล้วอิจฉานิดๆ“ถามจริงๆ เถอะ ลีรู้สึกยังไงกับการมีคู่”... คู่ที่เกิดจากหัวใจตรงกัน ไม่ใช่จากอุบัติเหตุจนมีลูกอย่างเธอและเซอร์เก“ฉันไม่เคยนึกภาพเลยนะ ทั้งตอนที่ตัวเองเป็นแม่คนแล้วก็มีครอบครัว”“ไม่แปลกหรอก แต่ก่อนฉันก็ไม่เคยนึก”ในสังคมมีผู้หญิงมากไปที่สุนกกับการและการใช้ชีวิตอิสระ“ฉันยอมรับนะว่ากลัวการใช้ชีวิตคู่ ... กลัวความรัก เพราะอดีตฉันไม่ดีเลย”สโรชานึกแค่ว่าสักวันเมื่อแก่ตั
ช่วงเวลาที่สโรชาคิดว่าตัวเองสุขนั้นแสนสั้น หัวค่ำตัวก่อกวนใจก็กลับมา“กินข้าวหรือยัง อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”ทำธุระทั้งเรื่องญามิลลากับธุรกิจเสร็จชายหนุ่มขับรถกลับมาเลย“ไม่ ฉันอิ่มแล้ว”เธอเพิ่งจัดการข้าวเย็นไปหมาดๆ คนงานร้านกลับไปหมดแล้ว บรรดาบอดี้การ์ดยังจอดรถเฝ้าเหมือนเดิม อลันอยู่ข้างนอกเมื่อเจ้านายกลับมา“ผมยังไม่ได้ กินอะไรเลย”เขาเอามือลูบท้องตาละห้อย“มีเงินก็ไปซื้อกินเองสิ โน่น! ขับไปไม่ไกลมีตลาดโต้รุ่ง”“ผมเพิ่งขับกลับมาเหนื่อยๆ นะ จะไล่ให้ไปอีกแล้วเหรอ”การได้ต่อล้อต่อเถียงกับเธอทำให้เขาสนุก ลืมเรื่องเครียดๆ ที่กรุงเทพฯได้เยอะ“งั้นใช้ลูกน้องคุณไปซื้อสิ ถ้ากลัวคุยกับเขาไม่รู้เรื่องก็เข้าเซเว่น อาหารแช่แข็งมีเมนูภาษาอังกฤษเพียบ”“อยากชิมฝีมือคุณมากกว่า ขนมยังทำอร่อย อาหารอย่างอื่นคงอร่อยด้วย”“ฉันไม่ทำกับข้าวอีกหรอก เหนื่อย! คุณแย่ขนาดใช้คนท้องเลยหรือยังไง”ใจสโรชาคิดว่ายังไงก็ได้ ... ขอให้ไล่เขาออกไปได้ไวๆ เธออยากอยู่เงียบๆ กับลูก“เอาล่ะๆ” เซอร์เกยอมแพ้ “เดี๋ยวผมทำแซนวิชกินเอง”ร่างสูงไปทางครัวเปิดตู้เย็นแล้วชะงัก ไม่มีขนมปัง เนย แยม หรืออาหารสำเร็จรูปเลย“ฉันไม่อยากให้ล
“นี่ผมอยู่ในพระราชวังเครมลินหรือยังไง”คิริลล์เข้ามายามบ่ายจัด กวาดตาดูรถสี่คัน และบรรดาบอดี้การ์ดอีกครึ่งโหลเดินตรวจตรารอบบริเวณร้าน“พ่อเจ้าตัวเล็กนี่ขี้ห่วงจังนะ”เขายิ้มหลิ่วตาล้อสโรชา เธอค้อนควับไม่ขำด้วย“คุณรู้เห็นเป็นใจกับเขา”ไม่อย่างนั้นเซอร์เกคงไม่ได้เบอร์โทร.ภายในไม่กี่ชั่วโมง แถมยังขับรถกลางดึกมาร้านเธอถูก“เปล่านะ หมอนั่นมันทำเอง ผมอยากจะขวางอยู่หรอกนะ แต่เรื่องบางเรื่องก็สุดวิสัยจริงๆ”คิริลล์โคลงศีรษะไปมา“ไม่มีใครห้ามหมอนั่นได้หรอก ... คุณก็รู้นี่ ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เด็กจะได้มีพ่อ”“ฉันเลี้ยงเขาคนเดียวได้”คิริลล์ได้ยินแล้วนึกสงสารเพื่อน ... ต้องเหนื่อยหนักกันล่ะงานนี้“ระหว่างฉันกับเซอร์เกเป็นแค่เรื่องทางร่างกาย ในเมื่อลูกอยู่ในท้องฉัน เขาก็ต้องเป็นสิทธิ์ของฉันสิ”“ผมไม่เข้าใจเลยนะสโรชา”หนทางข้างหน้าระหว่างเธอกับเซอร์เกอาจยากลำบาก แต่ช่วงเวลาที่ทั้งสองจ้องมองในงานเลี้ยง ... ประกายในแววตาสื่อความลับในหัวใจได้เป็นร้อยพัน“ผู้หญิงคงไม่ยอมอุ้มท้องลูกของผู้ชายที่เธอไม่คิดอะไรด้วยหรอก”สโรชาขณะนี้ไม่ได้ดูสวยสง่าเหมือนเห็นคราแรกแล้ว ... ตรงหน้าคิริลล์คือหญิงสาวผู้สับสน
ธนนท์หน้าหุบทันทีเมื่อเลี้ยวรถจอดหน้าร้านแล้วเห็นเซอร์เกยืนกอดอกพิงรถอยู่“ไงหมอ”เขาทักยิ้มๆ แผ่รัศมีความเป็นต่อออกมาแวบๆ“กลับมาเมืองไทยเมื่อไรครับ”“สักพักมานี้แหละ ผมมาหาบัว”ธนนท์กัดฟันกรอด ลางพ่ายแพ้การช่วงชิงหัวใจสโรชาลอยมาอีกรอบ รถคันที่สามเลี้ยวเข้าจอดขัดจังหวะ เจตวัฒน์ขมวดคิ้วงงที่จู่ๆ พบแขกของคิริลล์ที่นี่ในเวลาเช้าตรู่“ДОБРОЕ УТРО(โด๊บบร๊ะเย่ อูตระ/อรุณสวัสดิ์)”เซอร์เกทักภาษารัสเซีย เขาตอบกลับเช่นกัน นอกจากนั้นยังสังเกตได้ถึงบรรยากาศทะถมึงทึง ระหว่างสองหนุ่ม ประตูร้านเปิดออก เรียกความสนใจจากบรรดาแขกไม่คาดคิดของกันและกัน มัณฑลีกับสโรชายืนอยู่หลังตู้โชว์ขนม“ฉันอยากอยู่ช่วยเธอที่นี่จัง แต่คุณหนึ่งคงไม่ยอม โชคดีนะบัว มีอะไรโทร.หาได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”ดูสถานการณ์แล้ว สโรชาน่าจะปวดหัวไม่น้อย ... ทั้งคนแอบชอบ ทั้งพ่อเด็กในท้อง ทุกคนพร้อมใจมาวันเดียวกันหมด“โชคฉันหมดตั้งแต่ช่วยนายเซอร์เกแล้วล่ะ ลีกลับกับคุณหนึ่งเถอะ ขอบใจมากนะสำหรับทุกอย่าง”เพื่อนกลับไป เหลือไว้แต่เธอที่ต้องจัดการปัญหาที่ตนเลือกเอง“บัว พี่มารับไปตรวจครรภ์จ้ะวันนี้”ธนนท์ปรี่ยิ้มเข้ามาในร้านอย่างคุ้นเคย เขา
“คุยกันตรงนี้ไม่ได้เหรอ”คำต่อรองสโรชามีผลน้อยเหลือเกิน เพราะเจ้าของรถสตาร์ทแล้ว พร้อมเริ่มเร่งเครื่องเสียงดัง“ก็ได้ๆ”อย่างน้อยสโรชาก็คิดว่าเขาคงไม่ใจร้าย ทำอะไรรุนแรงกับเธอหรอก ... และก็เป็นอย่างที่คาด เซอร์เกขับรถช้าระวังเธอมาก ทั้งๆ หน้าโกรธออกอย่างนั้น เขาเลี้ยวรถมาจอดริมทะเล“ในท้องนั่นน่ะ ลูกผมใช่ไหม”สโรชาตกใจเม้มริมฝีปากสั่นระริก ... ไม่กี่ชั่วโมง เขาก็รู้เสียแล้ว ยังไม่ทันหาคำโกหกเลย“อย่ามาโมเมนะ ลูกคนอื่นต่างหาก”“โกหก! คุณไม่มีใครเลย เป็นซิงเกิ้ลมัม”“คุณนั่นแหละไปเอาข่าวมาจากไหน มั่นใจได้ยังไงว่าลูกคุณ”“ในห้องน้ำ เช้าที่คุณเมามาก ... เราไม่ได้ป้องกัน”เธอหน้าแดง อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ภาพความหวามร้อนแรงลอยเข้ามาย้ำเตือนอยู่เนือยๆ“แค่ครั้งเดียว ไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกน่า”“หลังจากพบผมแล้วคุณไม่มีใคร เด็กในท้องต้องเป็นลูกผม”เขาโทร.ไปคาดคั้นเอากับกฤตซึ่งปากหนักเหลือหลาย‘เธอลาออกไปหลังคุณโดนยิงสองอาทิตย์’อดีตเจ้านายเธอทิ้งปริศนาไว้แค่นั้น รวมกับอนุสิทธิ์บอก‘มิสสโรชาเป็นซิงเกิ้ลมัม ไม่มีใครเคยเห็นสามีเธอ ทีแรกคิดว่าเป็นหมอที่มาหาบ่อยๆ แต่เขาไม่เคยค้างที่นั่น จึงไม่ใช่สา
“บัว!”ดวงตาสีน้ำเงินเงยขึ้นสบเจ้าของชื่อ ใบหน้าสโรชาซีด“อยู่นิ่งๆ อย่าเพิ่งขยับนะเดี๋ยวลื่น ทิชชู่ๆ เช็ดพื้นเร็ว”มัณฑลีหยิบทิชชู่แถวๆ นั้น ก้มๆ เงยๆ เช็ดเศษขนมตกพื้น ศีรษะเพื่อนอยู่ระดับเดียวกับครรภ์ที่ยื่นออกมาชัดเจนของเธอพอดี“คุณบัว”เจตวัฒน์โอบวงแขนประคองเธอแน่นขึ้นเมื่อเห็นร่างว่าที่คุณแม่ทำท่าจะเซ“คุณโอเคไหม ไปนั่งก่อนเถอะ”คิริลล์อีกคนห่วงใย พุ่งมาหา พยักหน้าให้คนของเขาเตรียมโต๊ะ“คุณหนึ่งพาบัวไปนั่งพักก่อนเถอะค่ะ เรื่องซุ้มขนมลีจัดการเอง”สโรชาเกาะแขนสามีเพื่อนไว้แน่น หัวใจเต้นระรัว สมองเต็มไปด้วยความว้าวุ่น ... เซอร์เกมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เขารู้หรือเปล่าว่าในท้องเป็นลูกเขา“เวียนหัวไหมครับ ... เอายาดมไหม”เจตวัฒน์อาทร คิริลล์กับเซอร์เกตามมานั่งโต๊ะด้วย สโรชาส่ายศีรษะปฏิเสธก้มหน้าซ่อนเร้นสายตาตระหนก เซอร์เกเริ่มไม่พอใจ อยากรู้ว่าพูดภาษาไทยอะไรกัน“เธอคงเพลียกับงานที่เจอคนมากขนาดนี้ ท้องกี่เดือนแล้วครับภรรยาคุณ”เซอร์เกถามเสียงเย็น“ยี่สิบสี่สัปดาห์ครับ”เจตวัฒน์โบกมือขอน้ำเปล่าจากบริกรถือถาดผ่านมา สโรชาใจหายวาบ ... ภาวนาในใจว่า ... อย่าตอบอะไรอีกนะคุณหนึ่ง หยุดพูดเดี๋ยวน
บ้านคิริลล์กว้างใหญ่มาก สองสาวลงจากรถมองอย่างทึ่งๆ ตึกลักษณะสองชั้น ออกแบบหน้าต่างเป็นกระจกบานสูง ปลูกต้นไม้โดยรอบ โดยเฉพาะไม้จำพวกลีลาวดีขาวและชวนชมสีสดทางเข้าก่อนถึงประตูมีกำแพงน้ำตกประดับปูนปั้นรูปสิงห์ ... ให้อารมณ์สไตล์บาหลี งานเลี้ยงจัดบริเวณสระว่ายน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งมีบันไดเป็นขั้นประดับด้วยกระถางเฟื่องฟ้าชมพูทอดไปถึงชายหาด“ถ้าฉันมองจากฝั่งทะเล จะคิดว่าที่นี่เป็นโรงแรมนะเนี่ย ตกแต่งหรูจัง”มัณฑลีชวนคุย ขณะช่วยยกกล่องขนมไปจัดเรียง งานเริ่มหนึ่งทุ่ม สโรชา มัณฑลีและเจตวัฒน์มาช่วยจัดของตั้งแต่หกโมงเย็น อาทิตย์แสงสุดท้ายยังไม่ลับ ไฟประดับต้นไม้และโต๊ะเริ่มเปิดกระพริบพราย“ถ้าชอบให้คุณหนึ่งซื้อให้ก็ได้นี่ เขารวยออก”พนักงานมานำพวกเธอไปยังสถานที่ ซึ่งคนเดินขวักไขว่ วุ่นวายกับการเตรียมงาน เจตวัฒน์พาคนงานกลับไปเอาของอีกจากรถ“เขาไม่ได้รวยขนาดนั้นหรอก แค่พออยู่ได้”มัณฑลีก็เล่าเรื่องสามีอีกนิดหน่อย สโรชาไม่ทันได้ฟัง เธอคิดว่าหมดงานนี้แล้วจะพยายามเลี่ยงไม่เจอคิริลล์อีก ... เห็นหน้าเขาแล้วแสลงใจถึงอีกคน อีกอย่างเขาเป็นนักธุรกิจรัสเซีย อาจรู้จักกับเซอร์เก เลี่ยงไว้ก่อนละเป็นการดี