‘Let’s.. read·– the mother– – goose’
เลขาฯผมทอง หุ่นนางแบบของ คิริลล์ นาบาบคินนิ่วหน้ากับหัวข้ออีเมล์ปริศนา เปิดออกดูมีแต่เนื้อหานิทานกล่อมเด็กพื้นเมืองของอังกฤษเรื่อง ‘mother goose’
“Mary,··· Mary,· quite·–·contrary,
How– –·does· your–·– – garden grow?
With····silver· bells·–··and cockle·– –·shells.
And– – pretty· maids all in a row.”
และเต็มไปด้วยจุดเครื่องหมายขีดน่าเวียนหัว เธอเกือบลบทิ้งไปแล้วเชียว หากไม่ได้ยินเสียงทักของคนสนิทเจ้านาย
“ไงยาหยี ทำไมคิ้วขมวดอย่างนั้นล่ะ เดี๋ยวก็ต้องไปเติมโบท็อกส์ใหม่หรอก”
เธอค้อน ชม้ายตาเจ้าชู้ใส่
“ฉันเช็คอินบ็อกซ์เมล์ก่อนกลับบ้านให้บอสน่ะสิ มีแต่เมล์ขยะบ้าๆ อย่างชวนอ่านเรื่องมาเธอร์กูซงี้”
“ไอ้บ้าตัวไหนที่ทำคุณรำคาญกัน”
คนสนิทคิริลล์เลิกคิ้ว แทรกตัวมาดูจอคอมพิวเตอร์ แล้วหน้าระรื่นกลับนิ่วเครียด
“คุณกลับไปได้แล้ว ผมมีเรื่องจะคุยกับบอส”
“แต่ว่า...”
“ไปเถอะ”
สายตามองมากดดัน เลขาฯ รีบเก็บของส่วนตัว มือกำลังปิดคอมพิวเตอร์ชะงักกึกด้วยเสียงตวาด
“อย่าปิด! ผมจัดการเอง”
ความขี้เล่นกรุ้มกริ่มหายไปหมด เหลือแต่ความน่าสะพรึง ... เธอทำอะไรให้เขาโกรธอีกล่ะ ใจคิดแต่ปากไม่กล้าถาม ได้แต่พาหุ่นงามถลาเข้าลิฟท์ไป
“บอสครับ มาดูนี่หน่อย ข้อความจากเซอร์เก”
เขาเปิดประตูห้อง ตะโกนเรียกเจ้าของอีเมล์
“ด่วน!”
รหัสมอสซ่อนอยู่ในข้อความถอดได้คือ
‘I am Sergey’
“เราต้องกลับกรุงเทพฯ”
“ไหนคุณบอกต้องหนีออกต่างจังหวัดไงล่ะ”
สโรชาร้องเสียงหลง เธอกับเขานั่งอยู่ในรถกำลังแล่นออกจากเนอร์สซิ่งเฮลท์แคร์ แสนเสียดายที่ได้ใช้เวลาอยู่กับแม่เพียงน้อยนิด ต้องจำใจลาเพื่อความปลอดภัยของตัวท่าน
“ที่ๆ อันตรายที่สุดคือสถานที่ปลอดภัยที่สุด”
เซอร์เกไม่อยากให้ตกใจ ป่านนี้ศัตรูคงให้คนไปเฝ้าคอนโดเธอไว้แล้วแน่ๆ ถ้าผ่านเล็ดลอดสายตาพวกมันไปได้ก็คุ้มจะลองเสี่ยง
“เราต้องไปกลับไปคอนโดคุณ ใช้ชีวิตประจำวันเหมือนเดิม”
“แล้วเรื่องวินมอเตอร์ไซด์ที่เห็นฉันอยู่กับคุณล่ะ”
ยิ่งคิดยิ่งแต่มีปัญหาให้แก้
“โกหกไปว่าคุณทิ้งผม ส่วนเรื่องไม่ไปทำงานก็บอกว่าแม่ป่วย”
“เรื่องงานไม่มีปัญหา จริงๆ หลังเจอคุณคืนนั้นแล้ว ฉันได้วันหยุดตั้งสามวัน”
“คุณไม่เห็นบอกผม”
“ก็คุณไม่ได้ถามนี่”
ใช่สิ ... เขาเป็นใครล่ะ ทำไมเธอต้องบอก ... ต้องให้ความสำคัญ
“ช่างมันเถอะ แต่ว่าเราต้องหาวิธีที่คุณจะพาผมเข้าไปในคอนโดให้ได้ก่อน”
คนของอลันจอดรถซุ่มเฝ้าดูคอนโดสโรชาอย่างแข็งขัน เหตุการณ์ทุกอย่างปรกติ จนกระทั่ง รถคันน้อยของเธอแล่นเข้ามา
“ลุงคะ ป้าแม่บ้านอยู่ไหน หนูยืมรถเข็นหน่อยสิ รถเมดก็ดี ไปต่างจังหวัดได้ของฝากมาเยอะเชียว”
สโรชายกทุเรียนในมือลูกละข้างขึ้นโชว์
“หนูเอามาฝากทุกคนแต่หิ้วออกมาไม่ไหว”
รปภ.ยิ้มหน้าบานที่ได้ลาภปาก รีบไปห้องแพนทรีเพื่อเข็นรถแม่บ้านออกมาทันใด รถเป็นกล่องสี่เหลี่ยมมิดทึบขนาดใหญ่ สโรชาจงใจเข็นให้ประตูรถแม่บ้านไปด้านเดียวกับประตูรถตน
“เดี๋ยวแป๊บนะคะ หนูขอเอาของส่วนตัวใส่รถก่อน จะได้ขนขึ้นไปทีเดียวเลย”
เธอเลื่อนรถไป เปิดประตูรถตนเยื้องๆ กัน เซอร์เกที่หมอบอยู่บนเบาะ คอยจังหวะอยู่แล้วรีบมุดลงไปในรถเข็น
“เกรงใจพวกลุงจัง เดี๋ยวหนูขนเองได้ค่ะ แค่เอารถมาให้ก็ดีแล้ว”
แต่รปภ.ยังมีน้ำใจช่วยขนทุเรียนลูกเขื่องใส่รถ
“เอ... ทำไมประตูฝั่งนี้เปิดไม่ได้”
หนึ่งในนั้นสงสัยพลางดึงประตูที่เซอร์เกยึดลูกบิดอยู่เช่นกัน เขาใช้ผ้าม่านเก่าๆ สีเขียวหม่นพรางร่าง ในรถเข็นมืด มองจากภายนอกไม่เห็นว่ามีใครซ่อนอยู่
“สงสัยจะเสีย”
สโรชาว่าพลางโยนทุเรียนเข้า เสียงตุ๊บดังไม่เบาเลย ไม่รู้หนามไปโดนเนื้ออ่อนๆ ของหนุ่มรัสเซียที่ไหนบ้าง แต่ก็ดีแล้ว ถือเป็นการเอาคืน หลังจากเธอเครียดมาหลายวันเพราะอยู่กับเขา
“เธอมาคนเดียวครับ ดูเหมือนกลับมาจากต่างจังหวัด”
คนของอลันโทร.รายงาน
“ตรงตามเจ้าของค็อกเทลเลาจน์บอก ว่าเธอลาหยุดก่อนจะมาเจอเจ้านาย”
“ตามดูต่อไป ถ้ามีอะไรผิดปรกติให้รีบบอกฉันทันที”
อลันสั่งลูกน้องใจร้อนเร่า ... เบาะแสสำคัญว่าผู้เป็นนายอยู่ที่ไหนกลับมาแล้ว พร้อมกับความว่างเปล่า
“อลัน”
ญามิลลาเดินมาเรียกเขาถึงในห้องส่วนตัวที่โรงแรม
“เจอพี่เซอร์เกไหม”
“ยังเลยครับ”
หญิงสาวถอนหายใจยาว มือกุมหน้าผาก
“ทางมอสโคถามมาแล้วว่าจะเอายังไง เขาหายไปอย่างนี้ทุกอย่างแย่ไปหมด”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ท่านจะต้องกลับมา”
สิ่งที่เอ่ยหาใช่เพียงคำปลอบ แต่เป็นปณิธานที่อลันตั้งมั่นจะทำ
“มิลลา”บอริสเรียกหาเธออีกคน “มีเรื่องจะคุยด้วย”
เขาดึงเธอออกให้ไกลจากอลัน พาเดินไปห้องพักส่วนตัวในชั้นเดียวกัน ใบหน้าสามีสดใสแปลกๆ
“บริษัทผมจะได้งานก่อสร้างคาสิโนในพม่าของกลุ่มเดนิซอฟแล้วนะ”
“คุณยังไม่เลิกทำงานกับกลุ่มนี้อีกเหรอคะ พวกเขาเป็นคู่แข่งพี่เซอร์เก บางทีเบื้องหลังการลอบฆ่าพี่ชายฉันครั้งนี้อาจเป็นฝีมือพวกนั้น”
“คิดมากน่า” บอริสเอ็ด
“พี่ชายคุณมีศัตรูตั้งเยอะ ไม่ใช่เดนิซอฟกลุ่มเดียว ถึงคาสิโนที่ได้มาจะเล็กไปหน่อย แต่ก็โอเค”
“บอริส ปฏิเสธไปเถอะค่ะ ฉันยอมให้คุณทำงานกับคนพวกนั้นไม่ได้”
“ทำไมล่ะ” ใบหน้าสามีตึง
“คุณคิดว่าผมทำไม่ได้ได้เหรอ คุณก็เหมือนพี่ชายนั่นแหละมิลลา ดูถูกผมเสมอ”
“โธ่! บอริส ไม่ใช่นะคะ”
เขาน้อยเนื้อต่ำใจมาตลอดเรื่องบริหารงานไม่เก่ง ตัดสินใจแย่ โดนดูถูกทั้งจากคนในครอบครัวและพี่ภรรยา ... แล้วนี่อะไร เมื่อโอกาสมาถึง คนที่น่าจะอยู่ข้างเขามากที่สุดอย่างเธอกลับคัดค้าน
“คอยดูนะมิลลา ผมจะทำงานนี้ให้ได้ ไม่ว่าแลกด้วยอะไรก็ตาม”
สามีทิ้งท้ายพร้อมเดินปึงปังจากไป ... ทิ้งญามิลลายืนเศร้าตามลำพังอยู่ในห้อง
สโรชาอดยิ้มไม่ได้ เมื่อผิวขาวแบบชาวตะวันตกเต็มไปด้วยริ้วรอยขูดขีดและจ้ำแดงจากหนามทุเรียน ใบหน้าคมสันบึ้งตึง“เอ้า...” มือยื่นขี้ผึ้งทาแก้แมลงสัตว์กัดต่อยซึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านให้ เซอร์เกนั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวีห้องรับแขก“ดูเหมือนเมื่อกี้คุณจะสนุกมากเลยนะบัว”เขานึกถึงผลไม้หนามแหลมลูกแล้วลูกเล่าที่เธอจงใจขว้างเข้ามาในรถอย่างไม่ยั้งมือ“คิดมากน่า ถ้าไม่ทำอย่างนี้แล้วคุณจะขึ้นมาห้องฉันได้ยังไง รู้ไหมทุเรียนเป็นราชาแห่งผลไม้นะ ปีหนึ่งได้กินแค่หนึ่งครั้ง นักท่องเที่ยวต่างชาติถึงขนาดลงทุนมากินเจ้านี่ถึงประเทศฉันเลยนะ คุณเป็นผู้ชายโชคดี ได้นอนท่ามกลางผลไม้ที่ทุกคนชอบ”“ถ้าผมเป็นผู้ชายโชคดีจริง คงไม่ต้องทาขี้ผึ้งเองใช่ไหม”“นี่คุณ! ทาขี้ผึ้งแค่นี้ ทำเองเถอะ”เธอแหว“ผมเจ็บไปทั้งตัวคุณก็เห็น”“ฉันมีงานต้องทำ… ตามที่คุณสั่งไง” เธอเดินไปยังกองข้าวของบนโต๊ะในครัว“ของคุณทั้งนั้น”หญิงสาวบ่นพลางหยิบสิ่งที่อยู่ในถุงห้างสรรพสินค้ามาจัดหมวดหมู่ เขาสั่งให้เธอซื้อเสื้อผ้า ของใช้จำเป็นทั้งหมดจากนอกเมืองเสียทีเดียว ทำทีเป็นไปเยี่ยมแม่แล้วมีของฝากคนรู้จัก เพื่อไม่ให้ผิดปรกติจนเกินไปบทสนทนาในลานจอดรถห
เซอร์เกเปิดตลับแล้วขมวดคิ้ว ... ขี้ผึ้งเหลืองอ่อนกลิ่นเจือหอมเย็นแบบการบูร ปนสมุนไพรตะวันออกพิลึกไม่คุ้นจมูก... ต้องทาเยอะขนาดไหน เขาผ่านวัยซุกซนที่มีแผลฟกช้ำตามร่างกายมานานเสียแล้วด้วยสิชายหนุ่มวางมันกลับบนโต๊ะ ปรายตามองคนกำลังจัดของ มือเล็กบางหยิบโน่นนี่คล่องแคล่ว เธอจัดอาหารอายุสั้นใส่ตู้เย็น จากนั้นจัดอาหารกระป๋องใส่ตู้เหนืออ่างล้างจานผมรวบเป็นมวยไว้ยุ่งนิดๆ ปอยผมตกมาคลอเคลียระต้นคอ ร่างโปร่งเคลื่อนจากครัว ไปรวบเสื้อผ้าซื้อใหม่ใส่เครื่องซัก เขามองตามเพลิน“เดี๋ยวคุณใส่เสื้อยืดเก่าๆ กับกางเกงเลฉันไปก็แล้วกันนะ เสื้อผ้าใหม่ขอซักก่อน”สโรชาว่าพลางกลับมาจัดการถุงพลาสติคบนโต๊ะ เธอพับตามทางยาวเป็นสามส่วนบ้าง สี่ส่วนบ้าง ตามความใหญ่ ก่อนพับทแยงมุมขึ้นข้างบนอีกครั้ง จนเป็นสามเหลี่ยม ซ่อนปลายไว้ในด้านข้างรอยพับ“คุณทำได้ยังไงน่ะ”ชายหนุ่มทึ่ง ถึงขนาดเดินมาหย่อนก้นบนเก้าอี้นั่งดูที่โต๊ะในครัว“พับๆ ไปอย่างนั้นแหละ”แม่เธอเป็นคนมีระเบียบ และท่านก็ส่งต่อคุณสมบัตินี้สู่ลูกสาว เป็นสิ่งที่สโรชาทำตลอดมาไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร“คุณนี่มีอะไรให้ผมประหลาดใจได้เสมอนะ”แรกทีเดียวที่เจอ เธอดูเปรี้ยว
“จริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจเปิดหรอก เพียงแต่ตัดวงจรคู่แข่งที่เป็นเสือนอนกินดึงลูกค้าโรงแรมผมไป”… ธุรกิจบนความโลภของมนุษย์ให้ผลตอบแทนหอมหวาน ทว่าแลกมาด้วยอันตรายรอบด้าน คู่แข่งบางคนไม่อยากโค่นเฉพาะธุรกิจเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงชีวิตเขาด้วย“ผมเข้าใจ ... คุณเกลียดสิ่งที่ผมทำ แต่ในคาสิโนนอกจากมีคนเสียพนันแล้ว ยังมีพนักงาน พวกเขามีครอบครัว มีลูกๆ ต้องดูแล คนเหล่านั้นต้องทำงานเลี้ยงชีพเหมือนกัน”“ฉันไม่ได้เกลียดคนทำงานพวกนั้น แต่เกลียดนายทุนอย่างคุณต่างหาก ธุรกิจมีตั้งมากมายทำไมมาเลือกธุรกิจทำลายคนอย่างนี้”เธอปิดตลับยาหม่อง วางลงบนโต๊ะ ความร้าวรานในอดีตฉายชัดในดวงตา“ผมต้องเลือกธุรกิจที่มีกำไรสิ คุณก็คงคิดเหมือนกันใช่ไหม”“คุณหน้าเลือด เอาเปรียบคนอื่น ฉันน่าจะปล่อยให้ตายข้างถังขยะไปซะ!”สโรชาสะบัดกายลุกขึ้น คนนั่งอยู่ไวกว่า คว้าตัวเธอไว้ในอ้อมกอด“เรื่องธรรมดานะบัว ... โลกเราก็เป็นอย่างนี้แหละ ทุกคนทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น”“แล้วคนเล่นการพนันจนหมดตัว ครอบครัวที่แตกแยกของพวกเขาล่ะ”“คนเล่นหมดตัวคือคนอ่อนแอ ให้ความโลภบังตา ผมเชื่อในทฤษฎีของชาร์ล ดาร์วินนะ การคัดเลือกโดยธรรมชาติ คัดสิ่งอ่
“เซอร์เก!”สโรชาเปิดเข้าไปในห้องน้ำ เขายืนโป๊ ศีรษะมีน้ำยาขาวละเลงอยู่เต็ม ขวดแชมพูตกใต้ฝักบัว“คุณทำอะไรเนี่ย”มือปิดตาโวยวาย ก่อนคิดได้ เธอเขินอายเขาทำไม ก็ในเมื่อเคยเห็นกันทุกส่วนสัดหมดแล้วนี่“ผมไม่รู้ว่าขวดไหนเป็นขวดไหนเลยเอามาเทลงหัวผสมรวมกัน บังเอิญมันเข้าตา อีกขวดลื่นมือร่วง”แต่ที่เขาเทครั้งแรกน่าจะเป็นครีมนวดเสียมากกว่า ดูหนืดๆ ไม่มีฟอง“ช่วยหยิบอีกขวดให้หน่อย”เซอร์เกขอร้องตาหยี สโรชามองสภาพเขาเรื่อยมาจนถึงแผลผ่าซึ่งปิดเทปใสกันน้ำไว้ นึกเวทนาในใจ ... แล้วคืนนี้จะอาบน้ำสระผมเสร็จไหม“มาๆ ฉันช่วย” เธอปลดฝักบัวออก โน้มคอเขาให้ต่ำก้มหน้าลงพื้น“หลับตานะ”เก็บแชมพูมาเทใส่เส้นผม มือหนึ่งรดฝักบัว ส่วนอีกมือขยี้ให้ขึ้นฟอง“ผมเมื่อย” คนยืนในท่าฝืนธรรมชาตินานประท้วง“ไปนั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำสิ”เธอจูงเขา จัดท่าให้นั่ง เริ่มสระผมใหม่ คราวนี้ชายหนุ่มแหงนศีรษะไปด้านหลัง ความแสบร้อนในตาหายไปสิ้น มีแต่ภาพชิดใกล้ของดวงหน้านวล กลิ่นเครื่องหอมแปลกจากเครื่องอาบน้ำอวลในจมูกเขารู้สึกดียามมือนุ่มลูบไล้ เธอไม่ได้เชี่ยวชาญเจนจัดเหมือนมืออาชีพแบบในซาลอนหรูที่เคยพบ แต่เซอร์เกก็ชอบ ... อยากให้สัมผัสเข
เซอร์เกเก็บมันเอาไว้ที่เดิม วางกระเป๋าสตางค์ใต้หมอน คิดถึงวันเวลาที่น้องสาวยังเป็นคนน่ารัก ไอหอมหอมจางกรุ่นจากชุดเครื่องนอน เซอร์เกจำได้ว่าเป็นกลิ่นของสโรชาเขาสูดลมหายใจเต็มปอด ... แล้วผ่อนออก รู้สึกถึงความสบายคลายกังวล การอยู่กับเธอเป็นข้อดีเรื่องเดียวในยามวิกฤติชีวิต สีสันแต่งแต้มไม่ให้เครียดจนเกินไปหนุ่มรัสเซียยิ้มเมื่อนึกถึงสัญญาที่เขาคิดว่าบ้า แต่ทั้งเขาและเธอต่างก็ยอมรับมัน คนเคยมีเซ็กส์กันแล้วจู่ๆ วันหนึ่งต้องถูกห้าม ทั้งๆ อยู่ในห้อง นอนเตียงเดียวกัน ... จะเป็นไปได้หรือ ในเมื่อกายเคยผูกพันแนบชิดถึงไหนต่อไหนเอาล่ะ ... ไม่เป็นไร ในเมื่อเธอขอและเขารับปากไปแล้ว ... มาดูกันสิว่าใครจะตบะแตกก่อน ชายหนุ่มยิ้มกริ่มท่ามกลางหอมไอสาว ที่นอนนุ่ม บรรยากาศเงียบ ชวนพักผ่อน ยาแก้ปวดที่ธนนท์สั่งให้เริ่มออกฤทธิ์ ดึงเขาจมสู่นิทรารมย์สโรชาเยี่ยมหน้าออกมาดูลาดเลาจากห้องน้ำ ตั้งใจถ่วงเวลาอยู่ก่อนแล้ว เธอกลั้นหายใจฟังสรรพเสียงในห้อง ก่อนโล่งอก เมื่อร่างบนเตียงผ่อนลมแสดงอาการหลับ เธอท้าวสะเอวมองคนนอนกินที่ แล้วก็เอาหมอนข้างมาทำเป็นกำแพงกั้นอาณาเขตอันน้อยนิดของตนไว้คืนนี้ปลอดภัย เธอป้องกันแน่นหนาขน
เสียงโทรศัพท์มือถือทำเอาเขาและเธอต่างสะดุ้ง มองหน้ากัน สโรชากลับเข้าห้อง ปิดประตูเชื่อมระเบียงรูดม่านลงทึบเพื่อบังเร้นพรางคนภายนอก จากนั้นส่งสายตาเต็มไปด้วยคำถามเจือหวาดหวั่นให้เขา … เธอระแวงทุกอย่างหลังจากชายหนุ่มบอกว่ามีคนตามเฝ้าดูอยู่“ไปรับสิ ทำตัวให้ปรกติ” เซอร์เกพยักหน้าไปทางโทรศัพท์ในห้องนอน“สวัสดีค่ะ” คนโทร.มาคือกฤต“ฉันเพิ่งกลับมาจากเยี่ยมแม่” เธอตอบเมื่อเจ้านายถามว่าอยู่ไหน“ถ้าเข้ามาทำงานแล้ว มาหาผมหน่อยนะ”เป็นเรื่องแปลกอีกนั่นแหละ กฤตไม่ค่อยเรียกพบลูกน้องสาวคนไหนตามลำพัง ปรกติจะสั่งเรื่องให้มาม่าซังผู้ดูแลแจ้งแทน คราวที่แล้วที่เรียกสโรชาพบส่วนตัวก็เรื่องมัณฑลีหายตัวไปจากบ้านเจตวัฒน์เพื่อนเขา ... แล้วคราวนี้ล่ะ“มีเรื่องสำคัญจะถาม”กฤตทิ้งท้ายเสียงนิ่ง แต่สโรชารู้ ... เรื่องที่ถามนั้นต้องสำคัญมากๆ จนเขานิ่งไม่ได้ ต้องโทร.มาตามเอง“ค่ะ เย็นนี้ฉันจะเข้าไปพบ”คนปลายสายมีท่าทีพอใจ แต่คนรอฟังบังคับเธอให้เล่าเรื่องในโทรศัพท์ด้วยสายตา“เจ้านายเรียกฉันไปพบเย็นนี้”ลาทีวันหยุด ... และเค้าลางแห่งความวุ่นวายที่ไม่อยากยอมรับย่างกรายมาเยือนแล้ว“ทำตัวตามปรกตินั่นแหละ ไม่ต้องกังวลใจไป
เซอร์เกลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้า แสงแดดลอดผ่านม่านหน้าต่างที่แย้มไว้นิดๆ ... เจ็ดนาฬิกา เจ้าของห้องยังไม่กลับ เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่กับผู้หญิง แต่ตื่นมาเจอความว่างเปล่าปรกติยามเช้าเขาและเธอเหล่านั้นมักจะมีการต่อเติมอารมณ์ใคร่ที่เหลือค้างจากเมื่อคืน ... กับสโรชานี่แหละที่แปลกสุด เขาต้องเป็นฝ่ายรอชายหนุ่มเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแล้วเปิดเสื้อยืดดูแผล มันดีขึ้นมาก เขาไม่พร้อมออกไปไหน คิริลล์ยังไม่ติดต่อมา เขากับหมอนั่นไม่ชอบหน้า แข่งกันมาตลอด ทั้งธุรกิจและผู้หญิงคิริลล์ก็คล้ายเซอร์เก เป็นทหารมาก่อน รักศักดิ์ศรีและเกียรติของตัวเองพอๆ กับเขา เป็นศัตรูแต่ไม่ถึงขนาดอยากฆ่าหรือใช้วิธีสกปรกเอาชนะอีกฝ่ายเหตุที่ไม่ถูกกันก็แค่ ... เขาเคยกีดกันตอนที่หมอนั่นมาจีบญามิลลา จนน้องสาวไปเลือกบอริส ... คิริลล์จึงโกรธเขาไม่หาย ตั้งตัวเป็นศัตรูเกทับบลัฟแหลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาใครกันนะที่บอก ศัตรูร้ายกาจคือมิตรที่ดีที่สุด ... ในยามไว้ใจใครไม่ได้เลย เขาจะลองยืมมือศัตรูและเตรียมใจจ่ายหนี้ชีวิตครั้งนี้ด้วยราคาอันแสนแพงประตูหน้าห้องดังแกรกกราก ... มีเสียงไขกุญแจ เซอร์เกหยิบปืนพกซึ่งซ่อนไว้ในชั้นเสื้อผ้าตน หลบหลังป
“ฝรั่งรวยๆ อย่างคุณจะไปรู้อะไร” เธอปาทิชชู่ลงพื้นด้วยแรงฉุน“เวลาไม่มีเงิน ไม่มีใครเหลียวแล ค่าไม่ต่างกับหมาข้างถนน ฉันไม่แคร์หรอกว่าตัวเองจะเป็นยังไง คนจะมองแบบไหน รู้แค่ว่าต้องมีเงินรักษาแม่ ให้ท่านอยู่สบายก็พอ”“งั้นไปกับผมสิ”สโรชาแค่นหัวเราะ “พูดน่ะดูตัวเองตอนนี้ด้วย คุณยังต้องหลบคนร้ายมาอยู่กับฉันเลย คิดเหรอว่าจะรอดไปได้นาน”“คุณเป็นผู้หญิงมองโลกในแง่ร้ายนะรู้ตัวไหม”โกรธอยู่หรอก เธอพูดนั่นก็ถูก ... แต่ยังเร็วไปที่จะตัดสินสถานการณ์ย่ำแย่ตอนนี้ของเขา“ฉันมองโลกตามความเป็นจริงต่างหาก คุณก็แค่อยากได้ฉันไปนอนด้วย พอเบื่อก็ทิ้ง ไม่ต่างกับผู้ชายคนก่อนๆ”“อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นสิ ผมไม่ชอบนะ”“คุณก็ไม่ต่างกับทุกคนหรอก” เธอเยาะ“งั้นมาลองดูกัน”เซอร์เกสอดแขนรั้งร่างเธอขึ้นมา ตรงไปยังฝักบัว ... เปิดน้ำใสไหลเย็นลงสู่เจ้าของห้อง“ว๊าย! คุณจะทำอะไรน่ะ”สโรชาตะโกนผ่านม่านน้ำ ผมยาวเปียกลู่แนบลำตัว“คงไม่มีผู้ชายคนไหนเอาตัวคุณมาอาบน้ำให้สร่างเมาอย่างนี้หรอก”“ปิดน้ำเดี๋ยวนี้นะไอ้ฝรั่งบ้า”คำบริภาษพรั่งพรูจากปากสวยๆ“อย่าโวยวายไปน่า คุณเปียก ผมก็เปียก เสมอกันดี ห้องน้ำแคบไปหน่อยสำหรับสองค
สโรชาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยอาการสะลึมสะลือ นอนบนเตียงท่ามกลางสายช่วยชีวิตระโยงระยาง ธนนท์ยิ้มปรี่ลุกจากเก้าอี้ข้างเตียง“ไม่ต้องห่วงนะบัวปลอดภัยแล้ว ... ลูกก็ด้วย”มือเธอลูบปลอบคนในท้องทนุถนอม“ลูกกระสุนเฉียดจุดสำคัญไป”“คนยิงก็ใจร้าย ทำคนท้องไส้ได้”สโรชาไม่มีวันลืมดวงตาอำพันคู่นั้น ... ผู้หญิงในกระเป๋าสตางค์ของเซอร์เก เธอยิงสโรชาเพราะแค้นที่แย่งเขามากระนั้นหรือ ประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดออก ตัวต้นเหตุในสายตาสองคู่พากายเข้ามา“ผมมีเรื่องคุยกับบัวหน่อย”ธนนท์ตั้งท่าจะไม่ยอมออกไป สโรชาพยักหน้าเป็นเชิงขอร้อง เขาจึงออกไปด้วยอาการไม่พอใจนัก“ผมขอโทษแทนญามิลลาน้องสาวผมด้วย เธอแย่เพราะเสียสามีและเข้าใจผิดเรื่องคุณ”เธอใจชื้น ที่ได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวเขา ... อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ผิดศีลข้อสาม“สามีน้องสาวคุณเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ”“เธอคิดว่าผมเป็นต้นเหตุทำให้สามีเธอตาย คุณกำลังมีลูกกับผม มิลลาต้องการแก้แค้น ไม่อยากเห็นผมมีความสุข”เขาเล่าเสียงแห้งแล้ง ... มีความเจ็บร้าวลึกอยู่ข้างใจ“แล้วคุณเป็นต้นเหตุจริงๆ หรือเปล่าล่ะ”เธอสอบสวนเขาตาแป๋ว เซอร์เกหัวเราะขื่นๆ“จะว่าผมเป็นต้นเหตุก็
“ฉันก็ไม่มีพ่อ ยังโตมาได้เลย”นึกถึงคนที่จากไปความทรงจำเจ็บปวดก็ลอยเข้ามา“พ่อคุณจากตาย แต่ผมยังมีชีวิตอยู่นะ”“คุณกับฉันอยู่คนละโลก คนละสังคม ถึงจะมีชีวิตอยู่ก็ไม่ต่างกับการตายจากกัน คุณมีทุกอย่าง แต่ฉันไม่มีอะไรเลย เป็นผู้หญิงขายตัว ... โสเภณีที่คุณเคยว่าด้วยซ้ำ ใครจะไปคิดว่าคุณจะแคร์เด็กในท้อง ในเมื่อคุณสามารถหาเมียดีๆ มีหน้ามีตา ลูกที่เกิดกับเธอต้องเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยม”สโรชาใจร้าวเหลือเกินเมื่อคิดภาพเขายืนเคียงหญิงอื่น“อย่าให้ฉันกับเด็กในท้องเป็นเรื่องลำบากใจของคุณเลย ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เงินสิบล้านที่ให้มากก็มากพอแล้ว”“ผมไม่ได้ต้องการรับผิดชอบนะ”... เป็นเรื่องหน้าที่ ... หน้าที่อะไรล่ะ“ผมเป็นพ่อของแก”คนฟังน้ำตารื้น หยิบผ้าห่มคลุมโปง เขาต้องการแค่ลูกจริงๆ ด้วย ไม่เอ่ยถึงอนาคตเธอเลย“บัว...”เซอร์เกอยากจะพูดอะไรต่อ แต่สโรชาฝืนทำเสียงเรียบตัดบท“ฉันง่วง จะนอนแล้ว”“ราตรีสวัสดิ์ครับ”เขาได้ยินเสียงเธอพลิกกายแผ่ว สูดจมูกสั้นเหมือนคนเป็นหวัด ก่อนค่อยๆ ผ่อนเป็นลมหายใจยาวลึกสม่ำเสมอหนุ่มรัสเซียกำลังคิดหนัก เขาสะดุดตั้งแต่สมองตนถามเรื่องเรื่องหน้าที่... หน้าที่พ่อที่มีต่อลูกคือ
“แล้วเธอทำยังไงต่อ”มัณฑลีรับฟังโทรศัพท์จากเพื่อนด้วยใจลุ้นระทึก“ฉันหนีขึ้นห้องนอน กะว่าจะขังตัวเองอยู่คนเดียวสักหน่อย เขาดันไขกุญแจขึ้นมาได้ ตอนนี้อาบน้ำอยู่”“เรียกว่าหนีไม่พ้นแล้วว่าอย่างนั้นเถอะ”สโรชาถอนหายหายใจแทนคำตอบ ปรายตาดูกองเสื้อผ้าใหม่เขาที่อลันเพิ่งเอามาให้“อ๊ะ! ลีคุยโทรศัพท์แปร๊บนึงนะคะ คุณหนึ่งทานข้าวได้เลย”เสียงมัณฑลีหันไปบอกสามี“โทษที ฉันโทร.มากวนหรือเปล่านี่”เวลาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือบอกเวลาสองทุ่มเกือบครึ่ง“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้คุณหนึ่งกลับช้า เลยกินข้าวเลท ปรกติเขาจะกลับมากินข้าวเย็นที่บ้าน ฉันเลยต้องรอ”สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นข้อตกลงร่วมกันอย่างไม่ต้องมีคำพูดของสามีภรรยา สโรชาฟังแล้วอิจฉานิดๆ“ถามจริงๆ เถอะ ลีรู้สึกยังไงกับการมีคู่”... คู่ที่เกิดจากหัวใจตรงกัน ไม่ใช่จากอุบัติเหตุจนมีลูกอย่างเธอและเซอร์เก“ฉันไม่เคยนึกภาพเลยนะ ทั้งตอนที่ตัวเองเป็นแม่คนแล้วก็มีครอบครัว”“ไม่แปลกหรอก แต่ก่อนฉันก็ไม่เคยนึก”ในสังคมมีผู้หญิงมากไปที่สุนกกับการและการใช้ชีวิตอิสระ“ฉันยอมรับนะว่ากลัวการใช้ชีวิตคู่ ... กลัวความรัก เพราะอดีตฉันไม่ดีเลย”สโรชานึกแค่ว่าสักวันเมื่อแก่ตั
ช่วงเวลาที่สโรชาคิดว่าตัวเองสุขนั้นแสนสั้น หัวค่ำตัวก่อกวนใจก็กลับมา“กินข้าวหรือยัง อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”ทำธุระทั้งเรื่องญามิลลากับธุรกิจเสร็จชายหนุ่มขับรถกลับมาเลย“ไม่ ฉันอิ่มแล้ว”เธอเพิ่งจัดการข้าวเย็นไปหมาดๆ คนงานร้านกลับไปหมดแล้ว บรรดาบอดี้การ์ดยังจอดรถเฝ้าเหมือนเดิม อลันอยู่ข้างนอกเมื่อเจ้านายกลับมา“ผมยังไม่ได้ กินอะไรเลย”เขาเอามือลูบท้องตาละห้อย“มีเงินก็ไปซื้อกินเองสิ โน่น! ขับไปไม่ไกลมีตลาดโต้รุ่ง”“ผมเพิ่งขับกลับมาเหนื่อยๆ นะ จะไล่ให้ไปอีกแล้วเหรอ”การได้ต่อล้อต่อเถียงกับเธอทำให้เขาสนุก ลืมเรื่องเครียดๆ ที่กรุงเทพฯได้เยอะ“งั้นใช้ลูกน้องคุณไปซื้อสิ ถ้ากลัวคุยกับเขาไม่รู้เรื่องก็เข้าเซเว่น อาหารแช่แข็งมีเมนูภาษาอังกฤษเพียบ”“อยากชิมฝีมือคุณมากกว่า ขนมยังทำอร่อย อาหารอย่างอื่นคงอร่อยด้วย”“ฉันไม่ทำกับข้าวอีกหรอก เหนื่อย! คุณแย่ขนาดใช้คนท้องเลยหรือยังไง”ใจสโรชาคิดว่ายังไงก็ได้ ... ขอให้ไล่เขาออกไปได้ไวๆ เธออยากอยู่เงียบๆ กับลูก“เอาล่ะๆ” เซอร์เกยอมแพ้ “เดี๋ยวผมทำแซนวิชกินเอง”ร่างสูงไปทางครัวเปิดตู้เย็นแล้วชะงัก ไม่มีขนมปัง เนย แยม หรืออาหารสำเร็จรูปเลย“ฉันไม่อยากให้ล
“นี่ผมอยู่ในพระราชวังเครมลินหรือยังไง”คิริลล์เข้ามายามบ่ายจัด กวาดตาดูรถสี่คัน และบรรดาบอดี้การ์ดอีกครึ่งโหลเดินตรวจตรารอบบริเวณร้าน“พ่อเจ้าตัวเล็กนี่ขี้ห่วงจังนะ”เขายิ้มหลิ่วตาล้อสโรชา เธอค้อนควับไม่ขำด้วย“คุณรู้เห็นเป็นใจกับเขา”ไม่อย่างนั้นเซอร์เกคงไม่ได้เบอร์โทร.ภายในไม่กี่ชั่วโมง แถมยังขับรถกลางดึกมาร้านเธอถูก“เปล่านะ หมอนั่นมันทำเอง ผมอยากจะขวางอยู่หรอกนะ แต่เรื่องบางเรื่องก็สุดวิสัยจริงๆ”คิริลล์โคลงศีรษะไปมา“ไม่มีใครห้ามหมอนั่นได้หรอก ... คุณก็รู้นี่ ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เด็กจะได้มีพ่อ”“ฉันเลี้ยงเขาคนเดียวได้”คิริลล์ได้ยินแล้วนึกสงสารเพื่อน ... ต้องเหนื่อยหนักกันล่ะงานนี้“ระหว่างฉันกับเซอร์เกเป็นแค่เรื่องทางร่างกาย ในเมื่อลูกอยู่ในท้องฉัน เขาก็ต้องเป็นสิทธิ์ของฉันสิ”“ผมไม่เข้าใจเลยนะสโรชา”หนทางข้างหน้าระหว่างเธอกับเซอร์เกอาจยากลำบาก แต่ช่วงเวลาที่ทั้งสองจ้องมองในงานเลี้ยง ... ประกายในแววตาสื่อความลับในหัวใจได้เป็นร้อยพัน“ผู้หญิงคงไม่ยอมอุ้มท้องลูกของผู้ชายที่เธอไม่คิดอะไรด้วยหรอก”สโรชาขณะนี้ไม่ได้ดูสวยสง่าเหมือนเห็นคราแรกแล้ว ... ตรงหน้าคิริลล์คือหญิงสาวผู้สับสน
ธนนท์หน้าหุบทันทีเมื่อเลี้ยวรถจอดหน้าร้านแล้วเห็นเซอร์เกยืนกอดอกพิงรถอยู่“ไงหมอ”เขาทักยิ้มๆ แผ่รัศมีความเป็นต่อออกมาแวบๆ“กลับมาเมืองไทยเมื่อไรครับ”“สักพักมานี้แหละ ผมมาหาบัว”ธนนท์กัดฟันกรอด ลางพ่ายแพ้การช่วงชิงหัวใจสโรชาลอยมาอีกรอบ รถคันที่สามเลี้ยวเข้าจอดขัดจังหวะ เจตวัฒน์ขมวดคิ้วงงที่จู่ๆ พบแขกของคิริลล์ที่นี่ในเวลาเช้าตรู่“ДОБРОЕ УТРО(โด๊บบร๊ะเย่ อูตระ/อรุณสวัสดิ์)”เซอร์เกทักภาษารัสเซีย เขาตอบกลับเช่นกัน นอกจากนั้นยังสังเกตได้ถึงบรรยากาศทะถมึงทึง ระหว่างสองหนุ่ม ประตูร้านเปิดออก เรียกความสนใจจากบรรดาแขกไม่คาดคิดของกันและกัน มัณฑลีกับสโรชายืนอยู่หลังตู้โชว์ขนม“ฉันอยากอยู่ช่วยเธอที่นี่จัง แต่คุณหนึ่งคงไม่ยอม โชคดีนะบัว มีอะไรโทร.หาได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”ดูสถานการณ์แล้ว สโรชาน่าจะปวดหัวไม่น้อย ... ทั้งคนแอบชอบ ทั้งพ่อเด็กในท้อง ทุกคนพร้อมใจมาวันเดียวกันหมด“โชคฉันหมดตั้งแต่ช่วยนายเซอร์เกแล้วล่ะ ลีกลับกับคุณหนึ่งเถอะ ขอบใจมากนะสำหรับทุกอย่าง”เพื่อนกลับไป เหลือไว้แต่เธอที่ต้องจัดการปัญหาที่ตนเลือกเอง“บัว พี่มารับไปตรวจครรภ์จ้ะวันนี้”ธนนท์ปรี่ยิ้มเข้ามาในร้านอย่างคุ้นเคย เขา
“คุยกันตรงนี้ไม่ได้เหรอ”คำต่อรองสโรชามีผลน้อยเหลือเกิน เพราะเจ้าของรถสตาร์ทแล้ว พร้อมเริ่มเร่งเครื่องเสียงดัง“ก็ได้ๆ”อย่างน้อยสโรชาก็คิดว่าเขาคงไม่ใจร้าย ทำอะไรรุนแรงกับเธอหรอก ... และก็เป็นอย่างที่คาด เซอร์เกขับรถช้าระวังเธอมาก ทั้งๆ หน้าโกรธออกอย่างนั้น เขาเลี้ยวรถมาจอดริมทะเล“ในท้องนั่นน่ะ ลูกผมใช่ไหม”สโรชาตกใจเม้มริมฝีปากสั่นระริก ... ไม่กี่ชั่วโมง เขาก็รู้เสียแล้ว ยังไม่ทันหาคำโกหกเลย“อย่ามาโมเมนะ ลูกคนอื่นต่างหาก”“โกหก! คุณไม่มีใครเลย เป็นซิงเกิ้ลมัม”“คุณนั่นแหละไปเอาข่าวมาจากไหน มั่นใจได้ยังไงว่าลูกคุณ”“ในห้องน้ำ เช้าที่คุณเมามาก ... เราไม่ได้ป้องกัน”เธอหน้าแดง อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ภาพความหวามร้อนแรงลอยเข้ามาย้ำเตือนอยู่เนือยๆ“แค่ครั้งเดียว ไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกน่า”“หลังจากพบผมแล้วคุณไม่มีใคร เด็กในท้องต้องเป็นลูกผม”เขาโทร.ไปคาดคั้นเอากับกฤตซึ่งปากหนักเหลือหลาย‘เธอลาออกไปหลังคุณโดนยิงสองอาทิตย์’อดีตเจ้านายเธอทิ้งปริศนาไว้แค่นั้น รวมกับอนุสิทธิ์บอก‘มิสสโรชาเป็นซิงเกิ้ลมัม ไม่มีใครเคยเห็นสามีเธอ ทีแรกคิดว่าเป็นหมอที่มาหาบ่อยๆ แต่เขาไม่เคยค้างที่นั่น จึงไม่ใช่สา
“บัว!”ดวงตาสีน้ำเงินเงยขึ้นสบเจ้าของชื่อ ใบหน้าสโรชาซีด“อยู่นิ่งๆ อย่าเพิ่งขยับนะเดี๋ยวลื่น ทิชชู่ๆ เช็ดพื้นเร็ว”มัณฑลีหยิบทิชชู่แถวๆ นั้น ก้มๆ เงยๆ เช็ดเศษขนมตกพื้น ศีรษะเพื่อนอยู่ระดับเดียวกับครรภ์ที่ยื่นออกมาชัดเจนของเธอพอดี“คุณบัว”เจตวัฒน์โอบวงแขนประคองเธอแน่นขึ้นเมื่อเห็นร่างว่าที่คุณแม่ทำท่าจะเซ“คุณโอเคไหม ไปนั่งก่อนเถอะ”คิริลล์อีกคนห่วงใย พุ่งมาหา พยักหน้าให้คนของเขาเตรียมโต๊ะ“คุณหนึ่งพาบัวไปนั่งพักก่อนเถอะค่ะ เรื่องซุ้มขนมลีจัดการเอง”สโรชาเกาะแขนสามีเพื่อนไว้แน่น หัวใจเต้นระรัว สมองเต็มไปด้วยความว้าวุ่น ... เซอร์เกมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เขารู้หรือเปล่าว่าในท้องเป็นลูกเขา“เวียนหัวไหมครับ ... เอายาดมไหม”เจตวัฒน์อาทร คิริลล์กับเซอร์เกตามมานั่งโต๊ะด้วย สโรชาส่ายศีรษะปฏิเสธก้มหน้าซ่อนเร้นสายตาตระหนก เซอร์เกเริ่มไม่พอใจ อยากรู้ว่าพูดภาษาไทยอะไรกัน“เธอคงเพลียกับงานที่เจอคนมากขนาดนี้ ท้องกี่เดือนแล้วครับภรรยาคุณ”เซอร์เกถามเสียงเย็น“ยี่สิบสี่สัปดาห์ครับ”เจตวัฒน์โบกมือขอน้ำเปล่าจากบริกรถือถาดผ่านมา สโรชาใจหายวาบ ... ภาวนาในใจว่า ... อย่าตอบอะไรอีกนะคุณหนึ่ง หยุดพูดเดี๋ยวน
บ้านคิริลล์กว้างใหญ่มาก สองสาวลงจากรถมองอย่างทึ่งๆ ตึกลักษณะสองชั้น ออกแบบหน้าต่างเป็นกระจกบานสูง ปลูกต้นไม้โดยรอบ โดยเฉพาะไม้จำพวกลีลาวดีขาวและชวนชมสีสดทางเข้าก่อนถึงประตูมีกำแพงน้ำตกประดับปูนปั้นรูปสิงห์ ... ให้อารมณ์สไตล์บาหลี งานเลี้ยงจัดบริเวณสระว่ายน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งมีบันไดเป็นขั้นประดับด้วยกระถางเฟื่องฟ้าชมพูทอดไปถึงชายหาด“ถ้าฉันมองจากฝั่งทะเล จะคิดว่าที่นี่เป็นโรงแรมนะเนี่ย ตกแต่งหรูจัง”มัณฑลีชวนคุย ขณะช่วยยกกล่องขนมไปจัดเรียง งานเริ่มหนึ่งทุ่ม สโรชา มัณฑลีและเจตวัฒน์มาช่วยจัดของตั้งแต่หกโมงเย็น อาทิตย์แสงสุดท้ายยังไม่ลับ ไฟประดับต้นไม้และโต๊ะเริ่มเปิดกระพริบพราย“ถ้าชอบให้คุณหนึ่งซื้อให้ก็ได้นี่ เขารวยออก”พนักงานมานำพวกเธอไปยังสถานที่ ซึ่งคนเดินขวักไขว่ วุ่นวายกับการเตรียมงาน เจตวัฒน์พาคนงานกลับไปเอาของอีกจากรถ“เขาไม่ได้รวยขนาดนั้นหรอก แค่พออยู่ได้”มัณฑลีก็เล่าเรื่องสามีอีกนิดหน่อย สโรชาไม่ทันได้ฟัง เธอคิดว่าหมดงานนี้แล้วจะพยายามเลี่ยงไม่เจอคิริลล์อีก ... เห็นหน้าเขาแล้วแสลงใจถึงอีกคน อีกอย่างเขาเป็นนักธุรกิจรัสเซีย อาจรู้จักกับเซอร์เก เลี่ยงไว้ก่อนละเป็นการดี