เซอร์เกเปิดตลับแล้วขมวดคิ้ว ... ขี้ผึ้งเหลืองอ่อนกลิ่นเจือหอมเย็นแบบการบูร ปนสมุนไพรตะวันออกพิลึกไม่คุ้นจมูก... ต้องทาเยอะขนาดไหน เขาผ่านวัยซุกซนที่มีแผลฟกช้ำตามร่างกายมานานเสียแล้วด้วยสิชายหนุ่มวางมันกลับบนโต๊ะ ปรายตามองคนกำลังจัดของ มือเล็กบางหยิบโน่นนี่คล่องแคล่ว เธอจัดอาหารอายุสั้นใส่ตู้เย็น จากนั้นจัดอาหารกระป๋องใส่ตู้เหนืออ่างล้างจานผมรวบเป็นมวยไว้ยุ่งนิดๆ ปอยผมตกมาคลอเคลียระต้นคอ ร่างโปร่งเคลื่อนจากครัว ไปรวบเสื้อผ้าซื้อใหม่ใส่เครื่องซัก เขามองตามเพลิน“เดี๋ยวคุณใส่เสื้อยืดเก่าๆ กับกางเกงเลฉันไปก็แล้วกันนะ เสื้อผ้าใหม่ขอซักก่อน”สโรชาว่าพลางกลับมาจัดการถุงพลาสติคบนโต๊ะ เธอพับตามทางยาวเป็นสามส่วนบ้าง สี่ส่วนบ้าง ตามความใหญ่ ก่อนพับทแยงมุมขึ้นข้างบนอีกครั้ง จนเป็นสามเหลี่ยม ซ่อนปลายไว้ในด้านข้างรอยพับ“คุณทำได้ยังไงน่ะ”ชายหนุ่มทึ่ง ถึงขนาดเดินมาหย่อนก้นบนเก้าอี้นั่งดูที่โต๊ะในครัว“พับๆ ไปอย่างนั้นแหละ”แม่เธอเป็นคนมีระเบียบ และท่านก็ส่งต่อคุณสมบัตินี้สู่ลูกสาว เป็นสิ่งที่สโรชาทำตลอดมาไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร“คุณนี่มีอะไรให้ผมประหลาดใจได้เสมอนะ”แรกทีเดียวที่เจอ เธอดูเปรี้ยว
“จริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจเปิดหรอก เพียงแต่ตัดวงจรคู่แข่งที่เป็นเสือนอนกินดึงลูกค้าโรงแรมผมไป”… ธุรกิจบนความโลภของมนุษย์ให้ผลตอบแทนหอมหวาน ทว่าแลกมาด้วยอันตรายรอบด้าน คู่แข่งบางคนไม่อยากโค่นเฉพาะธุรกิจเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงชีวิตเขาด้วย“ผมเข้าใจ ... คุณเกลียดสิ่งที่ผมทำ แต่ในคาสิโนนอกจากมีคนเสียพนันแล้ว ยังมีพนักงาน พวกเขามีครอบครัว มีลูกๆ ต้องดูแล คนเหล่านั้นต้องทำงานเลี้ยงชีพเหมือนกัน”“ฉันไม่ได้เกลียดคนทำงานพวกนั้น แต่เกลียดนายทุนอย่างคุณต่างหาก ธุรกิจมีตั้งมากมายทำไมมาเลือกธุรกิจทำลายคนอย่างนี้”เธอปิดตลับยาหม่อง วางลงบนโต๊ะ ความร้าวรานในอดีตฉายชัดในดวงตา“ผมต้องเลือกธุรกิจที่มีกำไรสิ คุณก็คงคิดเหมือนกันใช่ไหม”“คุณหน้าเลือด เอาเปรียบคนอื่น ฉันน่าจะปล่อยให้ตายข้างถังขยะไปซะ!”สโรชาสะบัดกายลุกขึ้น คนนั่งอยู่ไวกว่า คว้าตัวเธอไว้ในอ้อมกอด“เรื่องธรรมดานะบัว ... โลกเราก็เป็นอย่างนี้แหละ ทุกคนทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น”“แล้วคนเล่นการพนันจนหมดตัว ครอบครัวที่แตกแยกของพวกเขาล่ะ”“คนเล่นหมดตัวคือคนอ่อนแอ ให้ความโลภบังตา ผมเชื่อในทฤษฎีของชาร์ล ดาร์วินนะ การคัดเลือกโดยธรรมชาติ คัดสิ่งอ่
“เซอร์เก!”สโรชาเปิดเข้าไปในห้องน้ำ เขายืนโป๊ ศีรษะมีน้ำยาขาวละเลงอยู่เต็ม ขวดแชมพูตกใต้ฝักบัว“คุณทำอะไรเนี่ย”มือปิดตาโวยวาย ก่อนคิดได้ เธอเขินอายเขาทำไม ก็ในเมื่อเคยเห็นกันทุกส่วนสัดหมดแล้วนี่“ผมไม่รู้ว่าขวดไหนเป็นขวดไหนเลยเอามาเทลงหัวผสมรวมกัน บังเอิญมันเข้าตา อีกขวดลื่นมือร่วง”แต่ที่เขาเทครั้งแรกน่าจะเป็นครีมนวดเสียมากกว่า ดูหนืดๆ ไม่มีฟอง“ช่วยหยิบอีกขวดให้หน่อย”เซอร์เกขอร้องตาหยี สโรชามองสภาพเขาเรื่อยมาจนถึงแผลผ่าซึ่งปิดเทปใสกันน้ำไว้ นึกเวทนาในใจ ... แล้วคืนนี้จะอาบน้ำสระผมเสร็จไหม“มาๆ ฉันช่วย” เธอปลดฝักบัวออก โน้มคอเขาให้ต่ำก้มหน้าลงพื้น“หลับตานะ”เก็บแชมพูมาเทใส่เส้นผม มือหนึ่งรดฝักบัว ส่วนอีกมือขยี้ให้ขึ้นฟอง“ผมเมื่อย” คนยืนในท่าฝืนธรรมชาตินานประท้วง“ไปนั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำสิ”เธอจูงเขา จัดท่าให้นั่ง เริ่มสระผมใหม่ คราวนี้ชายหนุ่มแหงนศีรษะไปด้านหลัง ความแสบร้อนในตาหายไปสิ้น มีแต่ภาพชิดใกล้ของดวงหน้านวล กลิ่นเครื่องหอมแปลกจากเครื่องอาบน้ำอวลในจมูกเขารู้สึกดียามมือนุ่มลูบไล้ เธอไม่ได้เชี่ยวชาญเจนจัดเหมือนมืออาชีพแบบในซาลอนหรูที่เคยพบ แต่เซอร์เกก็ชอบ ... อยากให้สัมผัสเข
เซอร์เกเก็บมันเอาไว้ที่เดิม วางกระเป๋าสตางค์ใต้หมอน คิดถึงวันเวลาที่น้องสาวยังเป็นคนน่ารัก ไอหอมหอมจางกรุ่นจากชุดเครื่องนอน เซอร์เกจำได้ว่าเป็นกลิ่นของสโรชาเขาสูดลมหายใจเต็มปอด ... แล้วผ่อนออก รู้สึกถึงความสบายคลายกังวล การอยู่กับเธอเป็นข้อดีเรื่องเดียวในยามวิกฤติชีวิต สีสันแต่งแต้มไม่ให้เครียดจนเกินไปหนุ่มรัสเซียยิ้มเมื่อนึกถึงสัญญาที่เขาคิดว่าบ้า แต่ทั้งเขาและเธอต่างก็ยอมรับมัน คนเคยมีเซ็กส์กันแล้วจู่ๆ วันหนึ่งต้องถูกห้าม ทั้งๆ อยู่ในห้อง นอนเตียงเดียวกัน ... จะเป็นไปได้หรือ ในเมื่อกายเคยผูกพันแนบชิดถึงไหนต่อไหนเอาล่ะ ... ไม่เป็นไร ในเมื่อเธอขอและเขารับปากไปแล้ว ... มาดูกันสิว่าใครจะตบะแตกก่อน ชายหนุ่มยิ้มกริ่มท่ามกลางหอมไอสาว ที่นอนนุ่ม บรรยากาศเงียบ ชวนพักผ่อน ยาแก้ปวดที่ธนนท์สั่งให้เริ่มออกฤทธิ์ ดึงเขาจมสู่นิทรารมย์สโรชาเยี่ยมหน้าออกมาดูลาดเลาจากห้องน้ำ ตั้งใจถ่วงเวลาอยู่ก่อนแล้ว เธอกลั้นหายใจฟังสรรพเสียงในห้อง ก่อนโล่งอก เมื่อร่างบนเตียงผ่อนลมแสดงอาการหลับ เธอท้าวสะเอวมองคนนอนกินที่ แล้วก็เอาหมอนข้างมาทำเป็นกำแพงกั้นอาณาเขตอันน้อยนิดของตนไว้คืนนี้ปลอดภัย เธอป้องกันแน่นหนาขน
เสียงโทรศัพท์มือถือทำเอาเขาและเธอต่างสะดุ้ง มองหน้ากัน สโรชากลับเข้าห้อง ปิดประตูเชื่อมระเบียงรูดม่านลงทึบเพื่อบังเร้นพรางคนภายนอก จากนั้นส่งสายตาเต็มไปด้วยคำถามเจือหวาดหวั่นให้เขา … เธอระแวงทุกอย่างหลังจากชายหนุ่มบอกว่ามีคนตามเฝ้าดูอยู่“ไปรับสิ ทำตัวให้ปรกติ” เซอร์เกพยักหน้าไปทางโทรศัพท์ในห้องนอน“สวัสดีค่ะ” คนโทร.มาคือกฤต“ฉันเพิ่งกลับมาจากเยี่ยมแม่” เธอตอบเมื่อเจ้านายถามว่าอยู่ไหน“ถ้าเข้ามาทำงานแล้ว มาหาผมหน่อยนะ”เป็นเรื่องแปลกอีกนั่นแหละ กฤตไม่ค่อยเรียกพบลูกน้องสาวคนไหนตามลำพัง ปรกติจะสั่งเรื่องให้มาม่าซังผู้ดูแลแจ้งแทน คราวที่แล้วที่เรียกสโรชาพบส่วนตัวก็เรื่องมัณฑลีหายตัวไปจากบ้านเจตวัฒน์เพื่อนเขา ... แล้วคราวนี้ล่ะ“มีเรื่องสำคัญจะถาม”กฤตทิ้งท้ายเสียงนิ่ง แต่สโรชารู้ ... เรื่องที่ถามนั้นต้องสำคัญมากๆ จนเขานิ่งไม่ได้ ต้องโทร.มาตามเอง“ค่ะ เย็นนี้ฉันจะเข้าไปพบ”คนปลายสายมีท่าทีพอใจ แต่คนรอฟังบังคับเธอให้เล่าเรื่องในโทรศัพท์ด้วยสายตา“เจ้านายเรียกฉันไปพบเย็นนี้”ลาทีวันหยุด ... และเค้าลางแห่งความวุ่นวายที่ไม่อยากยอมรับย่างกรายมาเยือนแล้ว“ทำตัวตามปรกตินั่นแหละ ไม่ต้องกังวลใจไป
เซอร์เกลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้า แสงแดดลอดผ่านม่านหน้าต่างที่แย้มไว้นิดๆ ... เจ็ดนาฬิกา เจ้าของห้องยังไม่กลับ เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่กับผู้หญิง แต่ตื่นมาเจอความว่างเปล่าปรกติยามเช้าเขาและเธอเหล่านั้นมักจะมีการต่อเติมอารมณ์ใคร่ที่เหลือค้างจากเมื่อคืน ... กับสโรชานี่แหละที่แปลกสุด เขาต้องเป็นฝ่ายรอชายหนุ่มเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแล้วเปิดเสื้อยืดดูแผล มันดีขึ้นมาก เขาไม่พร้อมออกไปไหน คิริลล์ยังไม่ติดต่อมา เขากับหมอนั่นไม่ชอบหน้า แข่งกันมาตลอด ทั้งธุรกิจและผู้หญิงคิริลล์ก็คล้ายเซอร์เก เป็นทหารมาก่อน รักศักดิ์ศรีและเกียรติของตัวเองพอๆ กับเขา เป็นศัตรูแต่ไม่ถึงขนาดอยากฆ่าหรือใช้วิธีสกปรกเอาชนะอีกฝ่ายเหตุที่ไม่ถูกกันก็แค่ ... เขาเคยกีดกันตอนที่หมอนั่นมาจีบญามิลลา จนน้องสาวไปเลือกบอริส ... คิริลล์จึงโกรธเขาไม่หาย ตั้งตัวเป็นศัตรูเกทับบลัฟแหลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาใครกันนะที่บอก ศัตรูร้ายกาจคือมิตรที่ดีที่สุด ... ในยามไว้ใจใครไม่ได้เลย เขาจะลองยืมมือศัตรูและเตรียมใจจ่ายหนี้ชีวิตครั้งนี้ด้วยราคาอันแสนแพงประตูหน้าห้องดังแกรกกราก ... มีเสียงไขกุญแจ เซอร์เกหยิบปืนพกซึ่งซ่อนไว้ในชั้นเสื้อผ้าตน หลบหลังป
“ฝรั่งรวยๆ อย่างคุณจะไปรู้อะไร” เธอปาทิชชู่ลงพื้นด้วยแรงฉุน“เวลาไม่มีเงิน ไม่มีใครเหลียวแล ค่าไม่ต่างกับหมาข้างถนน ฉันไม่แคร์หรอกว่าตัวเองจะเป็นยังไง คนจะมองแบบไหน รู้แค่ว่าต้องมีเงินรักษาแม่ ให้ท่านอยู่สบายก็พอ”“งั้นไปกับผมสิ”สโรชาแค่นหัวเราะ “พูดน่ะดูตัวเองตอนนี้ด้วย คุณยังต้องหลบคนร้ายมาอยู่กับฉันเลย คิดเหรอว่าจะรอดไปได้นาน”“คุณเป็นผู้หญิงมองโลกในแง่ร้ายนะรู้ตัวไหม”โกรธอยู่หรอก เธอพูดนั่นก็ถูก ... แต่ยังเร็วไปที่จะตัดสินสถานการณ์ย่ำแย่ตอนนี้ของเขา“ฉันมองโลกตามความเป็นจริงต่างหาก คุณก็แค่อยากได้ฉันไปนอนด้วย พอเบื่อก็ทิ้ง ไม่ต่างกับผู้ชายคนก่อนๆ”“อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นสิ ผมไม่ชอบนะ”“คุณก็ไม่ต่างกับทุกคนหรอก” เธอเยาะ“งั้นมาลองดูกัน”เซอร์เกสอดแขนรั้งร่างเธอขึ้นมา ตรงไปยังฝักบัว ... เปิดน้ำใสไหลเย็นลงสู่เจ้าของห้อง“ว๊าย! คุณจะทำอะไรน่ะ”สโรชาตะโกนผ่านม่านน้ำ ผมยาวเปียกลู่แนบลำตัว“คงไม่มีผู้ชายคนไหนเอาตัวคุณมาอาบน้ำให้สร่างเมาอย่างนี้หรอก”“ปิดน้ำเดี๋ยวนี้นะไอ้ฝรั่งบ้า”คำบริภาษพรั่งพรูจากปากสวยๆ“อย่าโวยวายไปน่า คุณเปียก ผมก็เปียก เสมอกันดี ห้องน้ำแคบไปหน่อยสำหรับสองค
“ท่านจากไปแล้วเหรอคะ เสียใจด้วยนะ”ร่างที่หันหลังให้เธอยืนนิ่ง ก่อนจะเริ่มเปิดน้ำทำความสะอาด“ท่านเสียนานแล้วล่ะ ถ้าผมไม่ทำอาหารให้คุณกินก็ไม่นึกถึงท่านหรอก”แล้วความคิดก็ไพล่ไปถึงความฝันเกี่ยวกับแมวขาวมอซอ เหลียวหลังกลับไป ร่างสโรชานอนบนโซฟาหน้าโทรทัศน์แล้ว เซอร์เกตามไปนั่งที่ปลายเท้าเธอ นิ้วไล้หน้าผากบนดวงตาหลับใหลอย่างทะนุถนอม“บัว ... คุณเลิกอาชีพนี้เถอะ ไปกับผม”เธอไม่ต่างกับแมวตัวนั้น ... หลงทาง ต้องลำบากดิ้นรนในโลกใบใหญ่ ใช้ร่างกายตรากตรำ ดื่มสุราเอาใจแขกแลกกับเงิน“ผมจะดูแลคุณเอง” สโรชาลืมตามองชายหนุ่มนิ่ง“แล้วหลังจากนั้นล่ะ ... ถ้าคุณเบื่อหรือมีผู้หญิงคนใหม่ ชีวิตฉันก็ต้องตกอยู่ในความเสี่ยง การไปกับคุณไม่ต่างกับแขกคนอื่นที่เลี้ยงดูฉันยาวๆ หรอก”“แล้วผมต้องทำยังไงล่ะ ถึงจะแตกต่างจากคนก่อนๆ ของคุณ”เธอเม้มริมฝีปาก ในใจกำลังคิดถึงคำๆ หนึ่ง ... ซึ่งเป็นไม่ได้อยู่แล้วสำหรับเธอ“คนอย่างฉันเป็นได้แค่ผู้หญิงบนเตียง ใครรู้ประวัติมีแต่จะดูถูก”“ไม่มีใครดูถูกผู้หญิงของเซอร์เก อิคนาเซวิช หรอก”... เพราะมันจะได้รับผลที่ตามมาเกินกว่าคาดคิด“แต่ยังไงฉันไม่อยากไปกับคุณอยู่ดี”“หรือว่าคุณคิด
สโรชาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยอาการสะลึมสะลือ นอนบนเตียงท่ามกลางสายช่วยชีวิตระโยงระยาง ธนนท์ยิ้มปรี่ลุกจากเก้าอี้ข้างเตียง“ไม่ต้องห่วงนะบัวปลอดภัยแล้ว ... ลูกก็ด้วย”มือเธอลูบปลอบคนในท้องทนุถนอม“ลูกกระสุนเฉียดจุดสำคัญไป”“คนยิงก็ใจร้าย ทำคนท้องไส้ได้”สโรชาไม่มีวันลืมดวงตาอำพันคู่นั้น ... ผู้หญิงในกระเป๋าสตางค์ของเซอร์เก เธอยิงสโรชาเพราะแค้นที่แย่งเขามากระนั้นหรือ ประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดออก ตัวต้นเหตุในสายตาสองคู่พากายเข้ามา“ผมมีเรื่องคุยกับบัวหน่อย”ธนนท์ตั้งท่าจะไม่ยอมออกไป สโรชาพยักหน้าเป็นเชิงขอร้อง เขาจึงออกไปด้วยอาการไม่พอใจนัก“ผมขอโทษแทนญามิลลาน้องสาวผมด้วย เธอแย่เพราะเสียสามีและเข้าใจผิดเรื่องคุณ”เธอใจชื้น ที่ได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวเขา ... อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ผิดศีลข้อสาม“สามีน้องสาวคุณเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ”“เธอคิดว่าผมเป็นต้นเหตุทำให้สามีเธอตาย คุณกำลังมีลูกกับผม มิลลาต้องการแก้แค้น ไม่อยากเห็นผมมีความสุข”เขาเล่าเสียงแห้งแล้ง ... มีความเจ็บร้าวลึกอยู่ข้างใจ“แล้วคุณเป็นต้นเหตุจริงๆ หรือเปล่าล่ะ”เธอสอบสวนเขาตาแป๋ว เซอร์เกหัวเราะขื่นๆ“จะว่าผมเป็นต้นเหตุก็
“ฉันก็ไม่มีพ่อ ยังโตมาได้เลย”นึกถึงคนที่จากไปความทรงจำเจ็บปวดก็ลอยเข้ามา“พ่อคุณจากตาย แต่ผมยังมีชีวิตอยู่นะ”“คุณกับฉันอยู่คนละโลก คนละสังคม ถึงจะมีชีวิตอยู่ก็ไม่ต่างกับการตายจากกัน คุณมีทุกอย่าง แต่ฉันไม่มีอะไรเลย เป็นผู้หญิงขายตัว ... โสเภณีที่คุณเคยว่าด้วยซ้ำ ใครจะไปคิดว่าคุณจะแคร์เด็กในท้อง ในเมื่อคุณสามารถหาเมียดีๆ มีหน้ามีตา ลูกที่เกิดกับเธอต้องเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยม”สโรชาใจร้าวเหลือเกินเมื่อคิดภาพเขายืนเคียงหญิงอื่น“อย่าให้ฉันกับเด็กในท้องเป็นเรื่องลำบากใจของคุณเลย ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เงินสิบล้านที่ให้มากก็มากพอแล้ว”“ผมไม่ได้ต้องการรับผิดชอบนะ”... เป็นเรื่องหน้าที่ ... หน้าที่อะไรล่ะ“ผมเป็นพ่อของแก”คนฟังน้ำตารื้น หยิบผ้าห่มคลุมโปง เขาต้องการแค่ลูกจริงๆ ด้วย ไม่เอ่ยถึงอนาคตเธอเลย“บัว...”เซอร์เกอยากจะพูดอะไรต่อ แต่สโรชาฝืนทำเสียงเรียบตัดบท“ฉันง่วง จะนอนแล้ว”“ราตรีสวัสดิ์ครับ”เขาได้ยินเสียงเธอพลิกกายแผ่ว สูดจมูกสั้นเหมือนคนเป็นหวัด ก่อนค่อยๆ ผ่อนเป็นลมหายใจยาวลึกสม่ำเสมอหนุ่มรัสเซียกำลังคิดหนัก เขาสะดุดตั้งแต่สมองตนถามเรื่องเรื่องหน้าที่... หน้าที่พ่อที่มีต่อลูกคือ
“แล้วเธอทำยังไงต่อ”มัณฑลีรับฟังโทรศัพท์จากเพื่อนด้วยใจลุ้นระทึก“ฉันหนีขึ้นห้องนอน กะว่าจะขังตัวเองอยู่คนเดียวสักหน่อย เขาดันไขกุญแจขึ้นมาได้ ตอนนี้อาบน้ำอยู่”“เรียกว่าหนีไม่พ้นแล้วว่าอย่างนั้นเถอะ”สโรชาถอนหายหายใจแทนคำตอบ ปรายตาดูกองเสื้อผ้าใหม่เขาที่อลันเพิ่งเอามาให้“อ๊ะ! ลีคุยโทรศัพท์แปร๊บนึงนะคะ คุณหนึ่งทานข้าวได้เลย”เสียงมัณฑลีหันไปบอกสามี“โทษที ฉันโทร.มากวนหรือเปล่านี่”เวลาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือบอกเวลาสองทุ่มเกือบครึ่ง“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้คุณหนึ่งกลับช้า เลยกินข้าวเลท ปรกติเขาจะกลับมากินข้าวเย็นที่บ้าน ฉันเลยต้องรอ”สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นข้อตกลงร่วมกันอย่างไม่ต้องมีคำพูดของสามีภรรยา สโรชาฟังแล้วอิจฉานิดๆ“ถามจริงๆ เถอะ ลีรู้สึกยังไงกับการมีคู่”... คู่ที่เกิดจากหัวใจตรงกัน ไม่ใช่จากอุบัติเหตุจนมีลูกอย่างเธอและเซอร์เก“ฉันไม่เคยนึกภาพเลยนะ ทั้งตอนที่ตัวเองเป็นแม่คนแล้วก็มีครอบครัว”“ไม่แปลกหรอก แต่ก่อนฉันก็ไม่เคยนึก”ในสังคมมีผู้หญิงมากไปที่สุนกกับการและการใช้ชีวิตอิสระ“ฉันยอมรับนะว่ากลัวการใช้ชีวิตคู่ ... กลัวความรัก เพราะอดีตฉันไม่ดีเลย”สโรชานึกแค่ว่าสักวันเมื่อแก่ตั
ช่วงเวลาที่สโรชาคิดว่าตัวเองสุขนั้นแสนสั้น หัวค่ำตัวก่อกวนใจก็กลับมา“กินข้าวหรือยัง อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”ทำธุระทั้งเรื่องญามิลลากับธุรกิจเสร็จชายหนุ่มขับรถกลับมาเลย“ไม่ ฉันอิ่มแล้ว”เธอเพิ่งจัดการข้าวเย็นไปหมาดๆ คนงานร้านกลับไปหมดแล้ว บรรดาบอดี้การ์ดยังจอดรถเฝ้าเหมือนเดิม อลันอยู่ข้างนอกเมื่อเจ้านายกลับมา“ผมยังไม่ได้ กินอะไรเลย”เขาเอามือลูบท้องตาละห้อย“มีเงินก็ไปซื้อกินเองสิ โน่น! ขับไปไม่ไกลมีตลาดโต้รุ่ง”“ผมเพิ่งขับกลับมาเหนื่อยๆ นะ จะไล่ให้ไปอีกแล้วเหรอ”การได้ต่อล้อต่อเถียงกับเธอทำให้เขาสนุก ลืมเรื่องเครียดๆ ที่กรุงเทพฯได้เยอะ“งั้นใช้ลูกน้องคุณไปซื้อสิ ถ้ากลัวคุยกับเขาไม่รู้เรื่องก็เข้าเซเว่น อาหารแช่แข็งมีเมนูภาษาอังกฤษเพียบ”“อยากชิมฝีมือคุณมากกว่า ขนมยังทำอร่อย อาหารอย่างอื่นคงอร่อยด้วย”“ฉันไม่ทำกับข้าวอีกหรอก เหนื่อย! คุณแย่ขนาดใช้คนท้องเลยหรือยังไง”ใจสโรชาคิดว่ายังไงก็ได้ ... ขอให้ไล่เขาออกไปได้ไวๆ เธออยากอยู่เงียบๆ กับลูก“เอาล่ะๆ” เซอร์เกยอมแพ้ “เดี๋ยวผมทำแซนวิชกินเอง”ร่างสูงไปทางครัวเปิดตู้เย็นแล้วชะงัก ไม่มีขนมปัง เนย แยม หรืออาหารสำเร็จรูปเลย“ฉันไม่อยากให้ล
“นี่ผมอยู่ในพระราชวังเครมลินหรือยังไง”คิริลล์เข้ามายามบ่ายจัด กวาดตาดูรถสี่คัน และบรรดาบอดี้การ์ดอีกครึ่งโหลเดินตรวจตรารอบบริเวณร้าน“พ่อเจ้าตัวเล็กนี่ขี้ห่วงจังนะ”เขายิ้มหลิ่วตาล้อสโรชา เธอค้อนควับไม่ขำด้วย“คุณรู้เห็นเป็นใจกับเขา”ไม่อย่างนั้นเซอร์เกคงไม่ได้เบอร์โทร.ภายในไม่กี่ชั่วโมง แถมยังขับรถกลางดึกมาร้านเธอถูก“เปล่านะ หมอนั่นมันทำเอง ผมอยากจะขวางอยู่หรอกนะ แต่เรื่องบางเรื่องก็สุดวิสัยจริงๆ”คิริลล์โคลงศีรษะไปมา“ไม่มีใครห้ามหมอนั่นได้หรอก ... คุณก็รู้นี่ ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เด็กจะได้มีพ่อ”“ฉันเลี้ยงเขาคนเดียวได้”คิริลล์ได้ยินแล้วนึกสงสารเพื่อน ... ต้องเหนื่อยหนักกันล่ะงานนี้“ระหว่างฉันกับเซอร์เกเป็นแค่เรื่องทางร่างกาย ในเมื่อลูกอยู่ในท้องฉัน เขาก็ต้องเป็นสิทธิ์ของฉันสิ”“ผมไม่เข้าใจเลยนะสโรชา”หนทางข้างหน้าระหว่างเธอกับเซอร์เกอาจยากลำบาก แต่ช่วงเวลาที่ทั้งสองจ้องมองในงานเลี้ยง ... ประกายในแววตาสื่อความลับในหัวใจได้เป็นร้อยพัน“ผู้หญิงคงไม่ยอมอุ้มท้องลูกของผู้ชายที่เธอไม่คิดอะไรด้วยหรอก”สโรชาขณะนี้ไม่ได้ดูสวยสง่าเหมือนเห็นคราแรกแล้ว ... ตรงหน้าคิริลล์คือหญิงสาวผู้สับสน
ธนนท์หน้าหุบทันทีเมื่อเลี้ยวรถจอดหน้าร้านแล้วเห็นเซอร์เกยืนกอดอกพิงรถอยู่“ไงหมอ”เขาทักยิ้มๆ แผ่รัศมีความเป็นต่อออกมาแวบๆ“กลับมาเมืองไทยเมื่อไรครับ”“สักพักมานี้แหละ ผมมาหาบัว”ธนนท์กัดฟันกรอด ลางพ่ายแพ้การช่วงชิงหัวใจสโรชาลอยมาอีกรอบ รถคันที่สามเลี้ยวเข้าจอดขัดจังหวะ เจตวัฒน์ขมวดคิ้วงงที่จู่ๆ พบแขกของคิริลล์ที่นี่ในเวลาเช้าตรู่“ДОБРОЕ УТРО(โด๊บบร๊ะเย่ อูตระ/อรุณสวัสดิ์)”เซอร์เกทักภาษารัสเซีย เขาตอบกลับเช่นกัน นอกจากนั้นยังสังเกตได้ถึงบรรยากาศทะถมึงทึง ระหว่างสองหนุ่ม ประตูร้านเปิดออก เรียกความสนใจจากบรรดาแขกไม่คาดคิดของกันและกัน มัณฑลีกับสโรชายืนอยู่หลังตู้โชว์ขนม“ฉันอยากอยู่ช่วยเธอที่นี่จัง แต่คุณหนึ่งคงไม่ยอม โชคดีนะบัว มีอะไรโทร.หาได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”ดูสถานการณ์แล้ว สโรชาน่าจะปวดหัวไม่น้อย ... ทั้งคนแอบชอบ ทั้งพ่อเด็กในท้อง ทุกคนพร้อมใจมาวันเดียวกันหมด“โชคฉันหมดตั้งแต่ช่วยนายเซอร์เกแล้วล่ะ ลีกลับกับคุณหนึ่งเถอะ ขอบใจมากนะสำหรับทุกอย่าง”เพื่อนกลับไป เหลือไว้แต่เธอที่ต้องจัดการปัญหาที่ตนเลือกเอง“บัว พี่มารับไปตรวจครรภ์จ้ะวันนี้”ธนนท์ปรี่ยิ้มเข้ามาในร้านอย่างคุ้นเคย เขา
“คุยกันตรงนี้ไม่ได้เหรอ”คำต่อรองสโรชามีผลน้อยเหลือเกิน เพราะเจ้าของรถสตาร์ทแล้ว พร้อมเริ่มเร่งเครื่องเสียงดัง“ก็ได้ๆ”อย่างน้อยสโรชาก็คิดว่าเขาคงไม่ใจร้าย ทำอะไรรุนแรงกับเธอหรอก ... และก็เป็นอย่างที่คาด เซอร์เกขับรถช้าระวังเธอมาก ทั้งๆ หน้าโกรธออกอย่างนั้น เขาเลี้ยวรถมาจอดริมทะเล“ในท้องนั่นน่ะ ลูกผมใช่ไหม”สโรชาตกใจเม้มริมฝีปากสั่นระริก ... ไม่กี่ชั่วโมง เขาก็รู้เสียแล้ว ยังไม่ทันหาคำโกหกเลย“อย่ามาโมเมนะ ลูกคนอื่นต่างหาก”“โกหก! คุณไม่มีใครเลย เป็นซิงเกิ้ลมัม”“คุณนั่นแหละไปเอาข่าวมาจากไหน มั่นใจได้ยังไงว่าลูกคุณ”“ในห้องน้ำ เช้าที่คุณเมามาก ... เราไม่ได้ป้องกัน”เธอหน้าแดง อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ภาพความหวามร้อนแรงลอยเข้ามาย้ำเตือนอยู่เนือยๆ“แค่ครั้งเดียว ไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกน่า”“หลังจากพบผมแล้วคุณไม่มีใคร เด็กในท้องต้องเป็นลูกผม”เขาโทร.ไปคาดคั้นเอากับกฤตซึ่งปากหนักเหลือหลาย‘เธอลาออกไปหลังคุณโดนยิงสองอาทิตย์’อดีตเจ้านายเธอทิ้งปริศนาไว้แค่นั้น รวมกับอนุสิทธิ์บอก‘มิสสโรชาเป็นซิงเกิ้ลมัม ไม่มีใครเคยเห็นสามีเธอ ทีแรกคิดว่าเป็นหมอที่มาหาบ่อยๆ แต่เขาไม่เคยค้างที่นั่น จึงไม่ใช่สา
“บัว!”ดวงตาสีน้ำเงินเงยขึ้นสบเจ้าของชื่อ ใบหน้าสโรชาซีด“อยู่นิ่งๆ อย่าเพิ่งขยับนะเดี๋ยวลื่น ทิชชู่ๆ เช็ดพื้นเร็ว”มัณฑลีหยิบทิชชู่แถวๆ นั้น ก้มๆ เงยๆ เช็ดเศษขนมตกพื้น ศีรษะเพื่อนอยู่ระดับเดียวกับครรภ์ที่ยื่นออกมาชัดเจนของเธอพอดี“คุณบัว”เจตวัฒน์โอบวงแขนประคองเธอแน่นขึ้นเมื่อเห็นร่างว่าที่คุณแม่ทำท่าจะเซ“คุณโอเคไหม ไปนั่งก่อนเถอะ”คิริลล์อีกคนห่วงใย พุ่งมาหา พยักหน้าให้คนของเขาเตรียมโต๊ะ“คุณหนึ่งพาบัวไปนั่งพักก่อนเถอะค่ะ เรื่องซุ้มขนมลีจัดการเอง”สโรชาเกาะแขนสามีเพื่อนไว้แน่น หัวใจเต้นระรัว สมองเต็มไปด้วยความว้าวุ่น ... เซอร์เกมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เขารู้หรือเปล่าว่าในท้องเป็นลูกเขา“เวียนหัวไหมครับ ... เอายาดมไหม”เจตวัฒน์อาทร คิริลล์กับเซอร์เกตามมานั่งโต๊ะด้วย สโรชาส่ายศีรษะปฏิเสธก้มหน้าซ่อนเร้นสายตาตระหนก เซอร์เกเริ่มไม่พอใจ อยากรู้ว่าพูดภาษาไทยอะไรกัน“เธอคงเพลียกับงานที่เจอคนมากขนาดนี้ ท้องกี่เดือนแล้วครับภรรยาคุณ”เซอร์เกถามเสียงเย็น“ยี่สิบสี่สัปดาห์ครับ”เจตวัฒน์โบกมือขอน้ำเปล่าจากบริกรถือถาดผ่านมา สโรชาใจหายวาบ ... ภาวนาในใจว่า ... อย่าตอบอะไรอีกนะคุณหนึ่ง หยุดพูดเดี๋ยวน
บ้านคิริลล์กว้างใหญ่มาก สองสาวลงจากรถมองอย่างทึ่งๆ ตึกลักษณะสองชั้น ออกแบบหน้าต่างเป็นกระจกบานสูง ปลูกต้นไม้โดยรอบ โดยเฉพาะไม้จำพวกลีลาวดีขาวและชวนชมสีสดทางเข้าก่อนถึงประตูมีกำแพงน้ำตกประดับปูนปั้นรูปสิงห์ ... ให้อารมณ์สไตล์บาหลี งานเลี้ยงจัดบริเวณสระว่ายน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งมีบันไดเป็นขั้นประดับด้วยกระถางเฟื่องฟ้าชมพูทอดไปถึงชายหาด“ถ้าฉันมองจากฝั่งทะเล จะคิดว่าที่นี่เป็นโรงแรมนะเนี่ย ตกแต่งหรูจัง”มัณฑลีชวนคุย ขณะช่วยยกกล่องขนมไปจัดเรียง งานเริ่มหนึ่งทุ่ม สโรชา มัณฑลีและเจตวัฒน์มาช่วยจัดของตั้งแต่หกโมงเย็น อาทิตย์แสงสุดท้ายยังไม่ลับ ไฟประดับต้นไม้และโต๊ะเริ่มเปิดกระพริบพราย“ถ้าชอบให้คุณหนึ่งซื้อให้ก็ได้นี่ เขารวยออก”พนักงานมานำพวกเธอไปยังสถานที่ ซึ่งคนเดินขวักไขว่ วุ่นวายกับการเตรียมงาน เจตวัฒน์พาคนงานกลับไปเอาของอีกจากรถ“เขาไม่ได้รวยขนาดนั้นหรอก แค่พออยู่ได้”มัณฑลีก็เล่าเรื่องสามีอีกนิดหน่อย สโรชาไม่ทันได้ฟัง เธอคิดว่าหมดงานนี้แล้วจะพยายามเลี่ยงไม่เจอคิริลล์อีก ... เห็นหน้าเขาแล้วแสลงใจถึงอีกคน อีกอย่างเขาเป็นนักธุรกิจรัสเซีย อาจรู้จักกับเซอร์เก เลี่ยงไว้ก่อนละเป็นการดี