แชร์

ตอนที่ 5 หรือควรตัดใจ

ผู้เขียน: ฝ้ายสีคราม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-15 16:49:55

หลังจากกลับมาถึงบ้านได้ไม่นานเยี่ยฟางก็รู้สึกว่ายังไม่สบายใจเกี่ยวกับวีรกรรมที่ตนได้ทำลงไป

แม้เรื่องที่ด่าทอลูกค้าและทำลายข้าวของบริษัทเธอก็ได้รับใบเตือนจากฝ่ายบุคคลแล้ว แต่ว่าเรื่องที่เธอคว้าคอเสื้ออี้เฟิงมาจูบแล้วเรียกเขาว่าสามี มันเป็นสิ่งที่ทำให้เธอถูกมองว่ากำลังใฝ่สูงอยากเข้าหาเขา บางคนบอกว่าเธอเป็นภรรยาลับๆ ของอี้เฟิงด้วยซ้ำ

“ไม่สิ ฉันต้องลืมมัน ฉันต้องลืมมัน เขายิ่งใหญ่ขนาดนั้นเขาคงไม่สนใจเรื่องเล็กๆ แค่นี้หรอก”

หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง เดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดม่านมองดูพระจันทร์ที่ลอยอยู่บนฟ้า พร้อมกับชะเง้อมองที่หน้าบ้านหลังข้างๆ ป่านนี้แล้วจางซีเหอยังไม่กลับ ไม่รู้ว่าเขาจะขยันทำงานอะไรนักหนา

สักพักรถที่คุ้นตาก็แล่นมาจอดที่ถนนหน้าบ้านตรงที่ประจำ เพราะในบ้านของเขาคับแคบเกินกว่าที่จะจอดรถเอาไว้ได้ จึงอาศัยจอดที่ข้างถนนมาตลอด

เธอจ้องมองร่างสูงโปร่งที่เดินเข้ามาด้วยท่าทางเหน็ดเหนื่อย สีหน้าของเขาวันนี้ราวกับมีเรื่องให้ต้องคิดหนักและมีความเคร่งเครียด

ชายหนุ่มรู้สึกว่าตนเองถูกจ้องมองก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าของดวงตานั้นมาจากทิศไหน เขาเงยหน้าขึ้นมองยังชั้นสองของบ้านไม้สองชั้นที่อยู่ข้างๆ มองเห็นเยี่ยฟางยืนที่หน้าต่างกำลังมองมาที่เขา

เมื่อเห็นว่าเขามองขึ้นมาหญิงสาวก็โบกมือให้ด้วยความดีใจ แต่ครั้งนี้เขาทำเป็นมองไม่เห็นแล้วเดินกลับเข้าบ้านไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด โดยที่เธอก็ไม่ทราบสาเหตุ

ปกติแล้วแม้จะโกรธเธอแค่ไหนเขาก็ยังทำดีกับเธอ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าบ้านของเธอมีบุญคุณต่อครอบครัวเขา แต่เธอไม่เคยใช้เหตุผลนี้ในการบังคับให้เขาทำอะไรให้เธอเลย

เป็นลู่จินหรงและจางซีเหอเองที่มักจะเกรงใจบ้านของตน และทำดีด้วยโดยไม่ต้องร้องขอ

แต่คราวนี้ใบหน้าที่เขาจ้องมองมานั้นราวกับว่าเบื่อหน่ายตน ทำให้สาวรู้สึกใจหายอย่างน่าประหลาด

“ไม่หรอกพี่ซีเหอจะต้องเหนื่อยจากการทำงานแน่ๆ เขาคงเครียดอยู่ ไม่มีอะไรหรอก” หญิงสาวพยายามคิดในแง่บวก สลัดความคิดที่ทำให้รู้สึกแย่ออกไป ไม่เก็บเอามาใส่ใจ

วันนี้เธอมีอะไรให้คิดมากพอแล้ว เธอไม่อยากจะคิดอะไรที่ทำร้ายหัวใจตัวเองอีก

************************

ในตอนเช้าจางซีเหอรับประทานอาหารเช้ารวมกับมารดา พร้อมกับหิ้วกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมาด้วย บ่งบอกว่าเขาจะต้องเดินทางไปที่ไหนสักที่

“ผมจะต้องไปตรวจดูงานที่ต่างเมืองสักสามถึงสี่วัน น่าจะกลับมาอีกทีก็วันจันทร์ แม่อยู่คนเดียวดูแลตัวเองด้วยนะครับ”

“ไม่ต้องห่วงแม่หรอกลูก ตั้งใจทำงานเถอะ”  

ลู่จินหรงบอกด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล คีบอาหารใส่ถ้วยข้าวของลูกชาย แล้วมองเขาใช้ตะเกียบพุ้ยข้าวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อเอาใจเธอ

“ลูกชายแม่ปีนี้ก็อายุย่างยี่สิบสามแล้ว ยังไม่คิดหาลูกสะใภ้มาดูแลแม่อีกหรือ ถ้าหาไม่ได้...”

“แม่ครับ” เขาพูดแทรกมารดาก่อนที่อีกฝ่ายจะโยงไปหาเยี่ยฟาง

“อาฟางเป็นคนดี” ลู่จินหรงพูดออกมา

“ผมต้องหาลูกสะใภ้ให้แม่ได้แน่ แต่ว่าตอนนี้...”สายตานั้นลังเลราวกับว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เปลี่ยนใจไม่ได้พูดมันออกไป

“จริงๆ ผมรู้นะครับว่าลุงหยางที่อยู่ซอยถัดไปเขาชอบแวะเวียนมาคุยกับแม่บ่อยๆ หากแม่จะลองเปิดใจคุยกับเขาดูผมก็ไม่ติดอะไรนะ”

เขามองใบหน้าที่แดงเรื่อของมารดา ในวัยสี่สิบแปดปี มารดาของเขายังคงดูงดงาม ยิ่งช่วงนี้ที่ไม่ได้ทำงานหนักแล้วเธอก็ยิ่งดูดีขึ้น เพราะมีเวลาดูแลตนเอง จึงไม่แปลกหากจะมีคนเข้ามาชอบพอ และหนึ่งในนั้นก็คือพ่อหม้ายหยาง

เขาเป็นคนขยันขันแข็ง ชื่นชอบมารดาของตนอยู่นานแล้ว ที่ผ่านมาเธอก็ปฏิเสธไปเพราะอยากเลี้ยงตนให้ดีที่สุด แม้ตนเองก็ดีใจที่มารดาไม่ได้แต่งงานใหม่ แต่ตอนนี้อยากให้เธอมีความสุขในบั้นปลายชีวิตกับใครสักคน

“บ้าจริงเชียวเด็กคนนี้ ไปทำงานตั้งแต่เช้ากลับก็ดึกเอาเวลาที่ไหนมารู้เรื่องของแม่กันเนี่ย”

“เรื่องของแม่ผมรู้ทุกเรื่องก็แล้วกันครับ” เขาพูดแล้วยิ้มให้กับมารดา จากนั้นก็กินอาหารฝีมือเธอจนหมดอย่างเอาใจ

ลู่จินหรงมองบุตรชายที่ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ทำงานกับบริษัทต่างชาติ แต่ก็ยังชื่นชอบอาหารพื้นเมืองอยู่ ไม่รู้ว่าทำเพราะเอาใจเธอหรือว่าลูกชายคนนี้ติดใจรสมือของมารดาแล้ว

หลังจากที่กินข้าวจนหมดถ้วย จางซีเหอก็ฉีกยิ้มกว้าง แล้วชมอาหารฝีมือของมารดาที่อร่อยที่สุดสำหรับเขา

“ผมไปทำงานแล้วนะครับ แล้วจะรีบกลับมา แม่รักษาสุขภาพด้วย”

“ไปเถอะ ไปเถอะ ขับรถระวังด้วยล่ะ” ลู่จินหรงอวยพรลูกชาย แล้วเดินไปส่งเขาที่หน้าประตูบ้าน มองดูลูกชายเดินไปตามทางเดิน

ในขณะเดียวกันเยี่ยฟางออกจากบ้านในชุดกี่เพ้าที่สวยงามของตน พร้อมกับกระเป๋าสะพายใบโปรด

เธอเดินออกมาแล้วเห็นว่าจางซีเหอก็กำลังเดินออกจากบ้านเช่นเดียวกัน จึงรีบสาวเท้ายาวๆ เดินออกไปทันเจอเขาพอดี หญิงสาวมองดูกระเป๋าเดินทางนั้นแล้วทำหน้าเศร้า

เธอคิดว่าตอนเย็นวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้อยากจะมาหาเขาที่บ้านเสียหน่อย แต่แผนที่คิดไว้คงไม่มีโอกาสแล้ว

“พี่ซีเหอจะไปไหนคะ”

“ไปดูงานที่ต่างเมืองน่ะ” ใบหน้านั้นยิ้มแย้มแต่ดวงตาภายใต้กรอบแว่นหนาไม่ได้ยิ้มตามด้วย

“แล้วจะกลับมาทันวันอาทิตย์ไหมคะ” เธอถามอย่างมีความหวัง

“ไม่น่าทันนะ มีอะไรหรือเปล่า” เขาถามอย่างไม่ใส่ใจ มองดูน้องสาวข้างบ้านที่ยืนทำหน้าผิดหวัง

“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” เธอบอกแล้วมองใบหน้าของเขาที่เหมือนกำลังฝืนยิ้มให้

บางทีเยี่ยฟางก็แอบน้อยใจ ที่เขาทำดีกับเธอนั้นเป็นเพราะบุญคุณของครอบครัวของเธอหรือไม่ บางอย่างเขาดูฝืนใจที่จะทำ การแอบรักคนที่เขาไม่มีวันรักตัวเองทำไมมันเจ็บปวดและทรมานอย่างนี้

“พี่ซีเหอ เดินทางปลอดภัยนะคะ” หญิงสาวกล่าวเสียงเบา

“อืม ขอบใจนะ” เขาตอบรับสั้นๆ จากนั้นก็เดินขึ้นรถแล้วขับออกไป ไม่แม้แต่จะถามว่าจะให้เธอติดรถไปด้วยหรือไม่

ตั้งแต่ที่ไปเรียนที่ปักกิ่งกลับมา เขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากใกล้ชิดกับตน มันทำให้หญิงสาวรู้สึกน้อยใจอยู่ไม่น้อย

“จะมีวันที่ฉันสมหวังหรือเปล่าคะพี่ซีเหอ หรือว่าฉันควรจะตัดใจจากพี่ดี” เธอพึมพำแล้วมองรถที่แล่นออกไปจนลับตา ไม่เคยคิดเผื่อใจเลยว่าหากวันหนึ่งเขาต้องแต่งงานไปกับเจ้าสาวที่ไม่ใช่เธอ หญิงสาวจะต้องรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน

ไม่แน่ว่าพอถึงตอนนั้นจริงๆ เธออาจจะยินดีที่คนที่ตนเองรักมีความสุขก็เป็นได้

************************

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 6 ข้อเสนอ

    “วันนี้ประธานอี้มาทำงานแต่เช้า ปกติเขาต้องมาวันเสาร์อาทิตย์หรือไม่ก็ตอนที่พวกเราเลิกงานไปแล้วไม่ใช่เหรอ”“นั่นน่ะสิ นี่เพิ่งจะวันศุกร์เองทำไมเขามาได้ล่ะ หรือว่ามีแขกสำคัญ”การสนทนาของพนักงานสองคนที่พูดคุยกัน ดึงดูดความสนใจของเยี่ยฟางพี่กำลังทำงานอยู่สักพักก็มีคนเดินเข้ามาในห้องสำนักงานด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง “ใครคือเยี่ยฟาง”“ฉันค่ะ” หญิงสาวตอบรับแล้วมองดูคนที่ยืนตรงหน้า ถ้าจำไม่ผิดเขาคือที่ปรึกษาส่วนตัวของอี้เฟิง ซึ่งเป็นผู้ประสานงานและถ่ายทอดคำสั่งของอี้เฟิงเปรียบเสมือนตัวแทนของเขาการที่ถังจิ้งมาหาเธอด้วยตนเองแบบนี้ แสดงว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่“ประธานอี้ให้คุณเข้าไปพบตอนนี้”“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันทำงานนี้เสร็จแล้วจะรีบขึ้นไป”“ผมขอย้ำอีกทีว่า ‘ตอนนี้’ ครับ” ถังจิ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สุภาพแต่จริงจังเยี่ยฟางจึงวางมือจากงานในตอนนั้น แล้วรีบลุกขึ้นแทบจะทันที ท่ามกลางสายตาที่สงสัยของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่ตอนนี้ในหัวคงกำลังเกี่ยวโยงเรื่องที่อี้เฟิงเรียกพบ เข้ากับวีรกรรมที่เธอทำในงานเลี้ยงครั้งที่ผ่านมาเยี่ยฟางเดินตามถังจิ้งไปด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เดินจากห้องทำงานชั้นหนึ่งขึ้นชั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-17
  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 7 เรื่องไม่คาดฝัน

    เช้าวันเสาร์ เยี่ยฟางที่เพิ่งตื่นนอนในตอนเช้า เธอบิดตัวไปมาแล้วยืดแขนตรงเพื่อบิดขี้เกียจอีกที เมื่อวานนี้หลังจากกลับมาเธอก็หงุดหงิดและกังวลใจ กว่าจะข่มตาหลับได้ก็ดึกมากแล้วอี้เฟิง เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงหลายคนปรารถนาที่จะแต่งงานด้วย เขากลับขอแต่งงานกับเธอเพียงเพราะต้องการทำให้ภาพลักษณ์ของตนดูดีขึ้นมา“เห็นแก่ตัวที่สุด” หญิงสาวพึมพำออกมาเสียงเบา พาร่างเพรียวบางลุกเดินไปที่หน้าต่างแล้วชะเง้อมองบ้านข้างๆ แม้รู้ว่าจางซีเหอไม่ได้อยู่ที่บ้านในตอนนี้ แต่เธอก็ยังมองอย่างมีความหวัง ว่าเขาอาจจะทำธุระเสร็จเร็วก่อนกำหนดแล้วกลับมาก็ได้หญิงสาวเปลี่ยนชุดเป็นชุดลำลอง แล้วลงไปข้างล่าง เห็นว่าบิดากำลังพูดคุยกับมารดาด้วยท่าทางเครียด เพราะอีกฝ่ายปวดท้องอย่างรุนแรงตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็ยังดื้อไม่ยอมไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล“แม่เป็นอะไรคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นใบหน้านิ่ว หัวคิ้วขมวดเข้าหากันของมารดา เม็ดเหงื่อผุดเต็มหน้าผากบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังอดกลั้นกับความเจ็บปวดอยู่“แม่ของลูกปวดท้องตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว พ่อบอกให้ไปหาหมอก็ไม่ยอมไป ไม่รู้จะประหยัดเงินอะไรนักหนา เมื่อเช้าก็ลุกมาทำอาหารแต่เช้า ทำเสร็จก็มานั่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-17
  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 8 ความจำเป็น

    เงินจำนวนสามพันหยวนไม่ใช่เงินน้อยๆ เลย แต่อี้เฟิงสามารถจัดหาให้เธอได้ และนำใส่ซองให้เธอถือเอาไว้ พร้อมกับให้รถไปส่งเธอเพื่อความปลอดภัย โดยไม่ได้ถามถึงเหตุผลและจุดหมายที่เธอกำลังจะไปเยี่ยฟางนำเงินจำนวนนั้นใส่กระเป๋าแล้วกอดเอาไว้แนบอก ระหว่างที่นั่งรถไปหญิงสาวก็ร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น น้ำตาไหลรินไปตลอดทาง แม้แต่คนขับรถก็ยังไม่กล้าถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น“คุณผู้หญิงจะให้ผมไปส่งที่ไหนครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ สายตาลอบสังเกตเธอผ่านกระจกมองหลังอยู่เป็นระยะ“โรงพยาบาลในเขตผู่ตงค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ยกชายเสื้อขึ้นปาดน้ำตาไม่อยากคิดเลยว่าเธอจะต้องขายศักดิ์ศรีของตนเองเพื่อแลกกับเงินจำนวนเพียงสามพันหยวน ช่างน่าอดสูนักในความคิดเธอตอนนี้สุขภาพของมารดาต้องมาก่อน เรื่องอื่นเอาไว้ทีหลังเมื่อหญิงสาวชำระเงินค่าผ่าตัดเบื้องต้นจำนวน หนึ่งพันหยวนเสร็จแล้ว ก็เก็บส่วนที่เหลือเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำเคมีบำบัด หลังการผ่าตัดกู่เหมยยังต้องให้ยาต่อจนกว่าจะหายดี“ลูกไปเอาเงินมาจากไหน” เยี่ยชงถามบุตรสาวพร้อมกับมองดวงตาที่แดงช้ำของเธอ“เจ้านายของลูก อี้เฟิง” หญิงสาวตอบสั้นๆ สักพักน้ำต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-17
  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 9 สัญญาแต่งงาน

    เสื้อผ้าของเยี่ยชงถูกจัดเก็บลงในกระเป๋าอย่างระมัดระวังให้มีรอยยับน้อยที่สุด จากนั้นเยี่ยฟางก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อวานนี้ตอนที่มารดาของเธอเจ็บป่วยจนไม่กล้าที่จะไปรับการรักษา มันทำให้เธอรู้สึกได้ว่าชีวิตนั้นมันสั้นมากแค่ไหนโชคดีที่ได้รับเงินจากอี้เฟิงในการช่วยเหลือมารดาได้ทันท่วงที ไม่อย่างนั้นไม่อยากคิดเลยว่าเนื้อร้ายจะลุกลามไปถึงไหน และจะรักษาทันหรือไม่แม้ค่ารักษาจะแพงแสนแพง เพราะว่าแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษานั้นเป็นหมอที่จบเฉพาะทางจากต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมห้องพักและพยาบาลพิเศษไว้ ซึ่งไม่สามารถตัดรถส่วนใดออกไปได้การรักษาแผลผ่าตัดต้องทำอย่างระมัดระวังโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งราคาก็คงจะสมเหตุสมผลอยู่ไม่น้อยกับการบริการดูแลที่ดีอย่างนี้เธอลุกขึ้นมองตัวเองที่หน้ากระจก อี้เฟิงไม่ได้ต้องการแต่งงานกับเธอเพียงเพราะหน้าตาและความสวยงามนี้เขาเห็นแก่ตัวที่จะกู้ชื่อเสียงของตัวเอง ซึ่งนั่นก็โทษเขาไม่ได้หรอก มันเป็นเธอเองไม่ใช่หรือที่เมาแล้วขาดสติทำเรื่องแบบนั้นลงไป แต่เธอจะทำอย่างไรได้อี้เฟิงไม่เพียงแค่ชื่อเสียงเขาโด่งดังในแวดวงธุรกิจค้าของโบราณ แต่ก็ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-18
  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 10 ร้อนใจ

    “แต่สำหรับฉัน คุณเทียบเขาไม่ติดเลยสักนิด” ประโยคที่ออกมาจากปากของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นว่าที่คู่หมั้น ทำให้อี้เฟิงรู้สึกไม่พอใจเขาคืออี้เฟิง คนที่ฉลาดในการปั่นราคา ผลักดันตัวเองจากคนธรรมดาที่ซื้อของในตลาดมืดนำมาปล่อยขาย จับทางธุรกิจค้าวัตถุโบราณ จนมีชื่อเสียงและก้าวมาสู่เศรษฐีคนหนึ่งในเขตเมืองใหม่อย่างผู่ตงทุกคนชื่นชมเขา และเขาก็ชื่นชมและภูมิใจในตัวเอง แต่เธอกลับบอกว่าเขาเทียบกับผู้ชายธรรมดา ที่ไม่มีอะไรดี นอกจากความขยันและกตัญญูอย่างที่เธอพูดมา แม้ว่าเขากับจางซีเหอจะเป็นคนคนเดียวกันก็เถอะ แต่ในฐานะอี้เฟิงเธอจะดูถูกเขาเกินไปแล้วเขาเกลียดตัวตนของจางซีเหอ เกลียดตัวเองที่อ่อนแอ เกลียดที่ให้จางเสิ่นหลอกให้เป็นผู้จัดการมรดกจนถูกโกงไป จางซีเหอคือคนที่ไร้ความสามารถแม้ในตอนที่สร้างเนื้อสร้างตัวได้ ก็ไม่กล้าแม้แต่จะบอกมารดาของตน เพราะรอวันที่ตัวเองจะไปยืนในจุดสูงสุดก่อน เพื่อไม่ให้มารดาต้องพลอยเป็นกังวลกับแผนการของเขาที่จะเอาคืนจางเสิ่นจางซีเหอคนนั้นอ่อนแอ แต่อี้เฟิงคนนี้ต่างหากเล่าที่เป็นคนทำทุกอย่างจนมีวันนี้แววตาคมกริบและแข็งกร้าวมองน้องสาวข้างบ้าน เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าที่ผ่านมาตนคอยช่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-18
  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 11 กอดลา

    กระเป๋าเสื้อผ้าถูกนำไปวางเก็บเข้าในตู้เก็บของภายในห้องพักฟื้นของกู่เหมยเยี่ยชงเห็นดวงตาที่บอบช้ำไม่ต่างจากเมื่อวานก็รู้ได้ทันทีว่าลูกสาวผ่านการร้องไห้ก่อนจะมาที่นี่“เป็นอย่างไรบ้างฉูฉู่ เขาว่าอย่างไร”“เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะให้ลูกเอาเปรียบได้ค่ะ เขา..”“เขาทำไม”“เขาอยากหมั้นกับลูก งานจะถูกจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า” พูดจบเธอก็มองกู่เหมยที่ยังหลับอยู่ เพื่อมารดาแล้วให้ลำบากกว่านี้ตนก็ยินดีทำ เพราะมารดาเลี้ยงดูเธอมาอย่างยากลำบากตั้งแต่จำความได้“แม่น่าจะได้กลับไปพักฟื้นที่บ้านในสัปดาห์หน้า ไม่รู้จะหายทันวันหมั้นหรือเปล่า” เยี่ยชงบอกบุตรสาวถึงแม้จะเป็นงานหมั้นที่บังหน้าหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผู้เป็นพ่อแม่จะไม่ไปร่วมงานก็คงไม่ได้“ลูกกลับก่อนนะคะ ไม่อยากให้แม่ตื่นมาเห็นแล้วเป็นห่วงจนอาการทรุด”“อืม กลับไปพักผ่อนเถอะ ทางนี้พ่อจะดูแลเอง”“ค่ะ” หญิงสาววางกุญแจรถไว้คืนบิดา จากนั้นก็เดินกลับออกไปด้วยท่าทางที่ดูหม่นหมองในตอนนี้เยี่ยฟางเองที่กำลังตกอยู่ในความเศร้า เธอไม่อยากแสดงออกให้มารดาที่เจ็บป่วยรู้ว่าตนกำลังรู้สึกอย่างไร เพราะอย่างไรกู่เหมยก็ดูออกและคงไม่สบายใจว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวต้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-18
  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 12 ฝืนยิ้ม

    “ฉันขอโทษที่กอดพี่” น้ำเสียงที่เจอสะอื้นเบาๆ พูดด้วยความรู้สึกผิด มือเรียวเล็กปล่อยมือจากลำตัวของเขา แล้วถอยห่างออกไปด้วยตนเองเธอกอดลาจางซีเหอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ตนจะมีพันธะ เป็นกอดแรกและอาจจะเป็นกอดสุดท้าย เธอจะจดจำความรู้สึกนี้เอาไว้ให้นานที่สุด“เลิกร้องได้แล้ว ตาบวมหมดแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ก็ยังทำเป็นพาซื่อไม่สงสัยเลยว่ากอดเขาด้วยเรื่องอะไรจางซีเหอพาหญิงสาวกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง จากนั้นก็ใช้ตะเกียบของเธอคีบอาหารแล้ววางใส่ถ้วยข้าวให้อย่างที่เคยทำตอนเด็กๆ พร้อมกับคิดหาคำพูดมาปลอบโยนอีกฝ่าย“ตอนเด็กๆ เธอบอกว่าเธอชอบกินผัก และกินผักอวดพี่อยู่เสมอ แต่จริงๆ แล้วพี่รู้ว่าเธอไม่ได้ชอบกินผักเลยสักนิด แต่เธอทำให้พี่รู้ว่าเธอเก่งและอยากได้รับคำชมจากพี่”หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของประโยคที่ฟังดูเป็นทางการกว่าแต่ก่อน ไม่เข้าใจว่าเขาจะสื่อความหมายว่าอย่างไรสักพักลู่จินหรงก็ยกอาหารที่อุ่นเข้ามาเพิ่ม พร้อมกับถ้วยข้าวของลูกชายวางให้แก่เขา“พี่ซีเหอจะบอกว่า อะไรที่มันฝืนใจแล้วไม่มีความสุขก็อย่าทำเพื่อคนอื่น ให้ทำอะไรเพื่อตนเองบ้าง อย่างนั้นหรือคะ” เธอถามตามความเข้าใจ“คิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-19
  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 13 เรื่องน่ายินดี

    กู่เหมยนอนพักรักษาตัวจนบาดแผลเริ่มแห้ง ห้าวันที่ผ่านมาลูกสาวมาเยี่ยมเธอหลังเลิกงานแค่แป๊บเดียวก็ต้องรีบกลับไปที่บ้าน เหมือนกับว่ากำลังหลบหน้าเธออยู่ โดยใช้เหตุผลที่ว่ากลัวรถโดยสารประจำทางจะหมดก่อนเมื่อกลับมาถึงบ้านในเย็นวันศุกร์ กู่เหมยก็อยากลงมือเข้าครัวแต่ก็ถูกสามีและลูกสาวห้ามเอาไว้“คุณพักผ่อนเถอะ เก็บแรงเอาไว้”“เก็บแรงเอาไว้ทำอะไรหรือคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่งุนงง แล้วมองหน้าสามีและลูกสาวที่กำลังมองหน้ากันราวกับมีเรื่องปิดบังเธออยู่“งั้นลูกไปทำกับข้าวก่อนนะคะ พ่อกับแม่คุยกันไปก่อน” เยี่ยฟางบอกด้วยรอยยิ้มตั้งแต่วันที่เธอพยายามตัดใจจากจางซีเหอ หญิงสาวก็ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ขึ้น จากคนที่สดใสร่าเริงตอนนี้กลายเป็นคนเงียบขรึม และทำอะไรก็ระวังอยู่เสมอ“เกิดอะไรขึ้นคะคุณ” กู่เหมยหันไปถามสามีเยี่ยชงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะเล่าให้ภรรยาฟัง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากและภรรยาเองก็ไม่ใช่คนที่เก็บความลับอะไรอยู่ เขาจึงเปลี่ยนเรื่องราวเล็กน้อยเพื่อให้ภรรยาสบายใจ“คุณรู้จักอี้เฟิงใช่ไหม เจ้านายของลูกเราน่ะ”“ใช่ค่ะ เขาเป็นนักธุรกิจที่กำลังมีชื่อเสียงในแวดวงซื้อขายวัตถุโบราณ และประสบความสำเร็จตั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-19

บทล่าสุด

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 34 ตอนจบ

    หนึ่งปีต่อมามูลนิธิอี้เฟิงถูกเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยใช้ที่ดินของสกุลจางที่อี้เฟิงได้คืนมาในการสร้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเด็กกำพร้าและผู้ยากไร้ตามที่เขาตั้งปณิธานเอาไว้ตอนนี้อี้เฟิงเป็นผู้ทรงอำนาจในวงการค้าขายวัตถุโบราณและเป็นนักธุรกิจที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสามารถบางคนรู้ตัวตนของเขาเพราะอี้เฟิงไม่ได้ปิดบังอีกต่อไป แต่หลายคนก็ไม่รู้พื้นเพของนักธุรกิจคนนี้ รู้แค่เพียงว่าอี้เฟิงถอดหน้ากากออกแล้ว และไม่ได้อัปลักษณ์อย่างที่เขาเล่าลือกัน เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีและมีความสามารถที่อยากปิดบังตัวตนเท่านั้นเยี่ยฟางตอนนี้ใช้ความสามารถเข้ามาทำงานในแผนกประมูลงานได้สมดั่งความตั้งใจ เธอได้รับความไว้ใจให้เป็นคนวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า และศึกษาพฤติกรรมและความชอบของคนที่มีความเป็นไปได้ที่อยากได้วัตถุโบราณชิ้นสำคัญนอกจากนี้ยังได้เรียนรู้จากอาจารย์เฉิน นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณ เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาและวิธีการตรวจสอบของแท้ด้วยวิธีดั้งเดิม ซึ่งเป็นคนที่สอนอี้เฟิงจนมายืนในจุดนี้“อาฟาง กลับบ้านเถอะ” อี้เฟิงลงมาเรียกภรรยาด้วยตัวเอง หากเป็นวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ พวกเขาจะกลับไปนอนที่บ้

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 33 งานมงคล (18+)

    พิธีแต่งงานของทั้งคู่ ถูกจัดขึ้นโดยประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ยังคงความเป็นอนุรักษนิยมอยู่ตามที่เยี่ยชงต้องการสินสอดถูกนำไปให้ที่บ้านเจ้าสาว เจ้าบ่าวในนามของอี้เฟิงที่เปิดใบหน้าของเขาให้คนอื่นรับรู้ตัวตน และไม่ได้ปิดบังตัวตนจริงอย่างที่เคยตั้งใจไว้ตู้เย็น หม้อหุงข้าว และชุดเครื่องนอน สามสิ่งนี้บ้านเจ้าสาวซื้อใหม่เป็นของขวัญวันแต่งงาน เพื่อเตรียมเอาไว้ให้ขนย้ายไปที่เรือนหอ ตามธรรมเนียมการแต่งงานที่เจ้าสาวต้องย้ายไปอยู่บ้านฝ่ายชาย สื่อถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของทั้งคู่ทุกคนมองเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วยความชื่นชม ทั้งคู่อยู่ในชุดแต่งงานแบบดั้งเดิม สีแดงมงคล และประดับด้วยเครื่องประดับที่มีมูลค่าอย่างสมเกียรติอี้เฟิงในชุดเจ้าบ่าวที่โดดเด่น นำขบวนรถมารับเจ้าสาวและพ่อตาแม่ยายที่บ้าน เพื่อไปจัดพิธีแต่งงานที่โรงแรมหรูใจกลางเมือง พร้อมกับรถบรรทุกคันเล็กที่จะขนของขวัญแต่งงานไปยังเรือนหอชั่วคราว นั่นคือห้องพักที่บริษัทหลี่โถว“จริงๆ พ่อจะเตรียมไว้แปดอย่าง แต่มันมากเกิน ฉันเลยให้เตรียมพอเป็นพิธีเท่านั้น” เธอกระซิบบอกเจ้าบ่าวของตน“เสียใจไหมที่แต่งงานกับผม แทนที่จะเป็นจางซีเหอ” เขาถ

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 32 ความจริง

    เจ้าของร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในบริษัทด้วยรอยยิ้มที่ปรากฏภายใต้หน้ากากของเขา ข้างกายคือเยี่ยฟางที่เดินควงแขนเข้ามาอย่างเปิดเผย และเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สดใสสามเดือนแล้วที่หมั้นหมายกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนในบริษัทหลี่โถวก็เห็นภาพหวานนี้จนชินตาอี้เฟิงที่เข้ามาทำงานเต็มเวลา ล้มเลิกระบบทำงานตอนเย็นและวันหยุด ก็ทำให้หลายฝ่ายทำงานสะดวกขึ้น“วันนี้คุณยิ้มกว้างกว่าทุกวันเลยนะคะ”“วันนี้ครบสองเดือนที่โฉนดครบกำหนดน่ะ ตอนนี้ผมได้ที่ดินตรงนั้นคืนมาแล้ว” เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน โดยที่คู่หมั้นสาวนั่งเก้าอี้ฝั่งที่อยู่ตรงข้ามโดยมีโต๊ะกั้นระหว่างทั้งคู่“แล้วคุณจะเปิดเผยตัวตนกับทุกคนตอนไหนคะ ในเมื่อทุกอย่างก็จบลงแล้ว คุณก็ประสบความสำเร็จ และได้ทุกอย่างกลับคืนมาแล้ว” หญิงสาวถามด้วยความใคร่รู้“พรุ่งนี้” เขายิ้มด้วยความสะใจเมื่อวานนี้ผลการตรวจสอบเอกสารเท็จทำให้หลายบริษัทถูกสั่งปรับค่าภาษีย้อนหลังจำนวนหลักแสนไปจนถึงหลักล้าน บางบริษัทถึงกับต้องปิดตัวลงเพราะข่าวฉาวทำให้ไม่มีคนเชื่อถือ แม้ปิงชางจะรอดมาได้ก็เจ็บหนักเอาการ“ให้ฉันไปด้วยไหมคะ” เยี่ยฟางถามด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 31 ถูกตรวจสอบ

    ที่บริษัทตรวจสอบบัญชีที่จางซีเหอทำงาน เขาได้ทำการตรวจสอบและให้เตียวหม่ารับรองบัญชีให้กับบริษัทปิงชางไปตั้งแต่เดือนที่แล้วตอนนี้เขาได้ส่งคืนเอกสารรับรองไปยังบริษัทปิงชาง เพื่อให้ทางนั้นยื่นเข้าสู่สำนักงานตรวจสอบภาษีของรัฐบาลต่อไปตามขั้นตอนจางซีเหอได้ทำเอกสารตรวจสอบบัญชี และยื่นให้เตียวหม่ารับรองให้อีกสองบริษัทให้เสร็จเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยว่าทิ้งงานกลางคันและตัดสินใจยื่นใบลาออกจากบริษัทนี้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผนการแล้ว “นี่นายจะลาออกจริงๆ เหรอ ทำงานเสร็จตั้งสามงานแล้วนี่ ไม่รอเงินโบนัสก่อนเหรอ” เตียวหม่าถามด้วยความห่วงใย แต่ในใจนั้นคิดว่าโชคลาภได้ลอยมาถึงตนแล้วนอกจากจะได้งานและได้หน้าแล้ว ยังได้รับเงินในสิ่งที่ตนไม่ได้เป็นคนลงมือ ใครจะโชคดีไปกว่าเขาไม่มีอีกแล้ว“ครับ ผมจะต้องย้ายไปทำงานที่บริษัทใกล้บ้านเพราะต้องดูแลแม่ที่แก่ชรา ท่านไม่เหลือใครเลยนอกจากผม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แสร้งเสียดาย เตียวหม่าได้แต่ตบไหล่ให้กำลังใจเขา“นายยังหนุ่มยังแน่น ไปทำงานที่ไหนก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ขอให้โชคดีก็แล้วกัน” เขาไม่ได้รั้งพนักงานที่เก่งและรอบคอบคนนี้เอาไว้ แต่กลับพูดให้กำล

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 30 ลงโทษ

    สัญญาซื้อขายหยกจักรพรรดิถูกลงนามทั้งสองฝ่าย เหลือเพียงให้จางเสิ่นนำโฉนดมาวางในวันจันทร์ก็เป็นอันเสร็จสิ้นจางเฟยหรงเดินควงแขนอี้เฟิงออกมาจากห้องเซ็นสัญญา เธอรู้สึกได้ถึงสายตาของพนักงานสาวในชุดกี่เพ้าสีแดงที่กำลังจ้องมองมาที่ตน จึงชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจจนอี้เฟิงสังเกตเห็น“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณหนูจาง” อี้เฟิงรีบถามอย่างเอาใจ“พนักงานของคุณจ้องมองฉันอยู่ ไม่สุภาพเอาเสียเลย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจเขาหันไปมองตามสายตาของหญิงสาว พบว่าเป็นเยี่ยฟางที่กำลังจ้องมองมา“คุณมานี่” เขาเรียกให้เธอเดินเข้ามาหาเยี่ยฟางมองแขนที่เธอวางคล้องแขนของอี้เฟิงแล้วก็รู้สึกไม่พอใจลึกๆ เรียวขางามก้าวเดินเข้าไปพร้อมกับก้มศีรษะเล็กน้อย เพื่อให้ความเคารพจางเสิ่นแหละจางเฟยหรงตามมารยาทของผู้ที่ต้องต้อนรับแขก“เธอคือเยี่ยฟาง เป็นคู่หมั้นของผม” อี้เฟิงแนะนำด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความรู้สึกในตอนนั้นเยี่ยฟางรู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อย แม้รู้ว่าเป็นการเล่นละครของเขา แต่มันต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ‘คอยดูเถอะอี้เฟิง จบงานนี้เมื่อไหร่ฉันจะหยิกคุณให้หลังเขียวเลยเชียว’ หญิงสาวคิดในใจ“นี่คือประธานจางและคุณหนู

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 29 งานประมูล

    งานประมูลของบริษัทหลี่โถวได้ถูกจัดขึ้นในวันเสาร์ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นตามที่ได้วางแผนเอาไว้วัตถุโบราณถูกนำออกมาประมูลขายทีละชิ้น เริ่มจากชิ้นที่ราคาถูกที่สุดไล่ไปจนถึงชิ้นสุดท้ายที่เป็นดาวเด่นของงาน นั่นก็คือคทามังกรซึ่งมีราคาประมูลขั้นต่ำที่ตั้งเอาไว้ที่สองล้านหยวนเป็นราคาที่สูงพอสมควรแต่กลับเป็นที่ต้องการของระดับมหาเศรษฐีนักธุรกิจ เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งนำโชคที่จะทำให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ถึงเวลานำออกมาประมูลจางเสิ่นและลูกสาววัยยี่สิบสามปีของตน จางเฟยหรง ทั้งคู่มาร่วมงานนี้เพราะได้รับการ์ดเชิญจากบริษัทหลี่โถว และจางเฟยหรงก็อยากเข้าสังคมที่มีแต่เศรษฐีจึงรบเร้าบิดาให้พามาอี้เฟิงต้อนรับสองพ่อลูกด้วยตนเอง พาเดินชมวัตถุโบราณที่เป็นรูปถ่ายติดเอาไว้แทนของจริงที่รอการประมูลอยู่แววตาของเขามองจางเฟยหรงอย่างชื่นชม พร้อมทั้งชวนพูดคุยจนหญิงสาวนั้นรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีใจให้แก่ตนแขกที่มาร่วมงานเป็นระดับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยทั้งนั้น แต่เขากลับเลือกที่จะมาต้อนรับแต่เธอกับบิดาเป็นการส่วนตัวหากจะบอกว่าคิดเข้าข้างตัวเองก็คงไม่ใช่“ประธานอี้ คุณฟู่อยากจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว” เล

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 28 คนป่วย (18+)

    นานเท่าไรแล้วไม่รู้ที่เขานอนหลับไป พอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่เห็นคนที่บอกว่าจะเฝ้าไข้“อาฟาง ผมหิวน้ำ...อาฟาง” เขาเรียกหาเธอเสียงแหบ แต่ก็ไม่มีวี่แววของอีกฝ่ายอี้เฟิงลุกจากเตียงแล้วเดินออกไปนอกห้องนอน เห็นว่าเยี่ยฟางฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะอาหารด้านนอก เขายืนมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ตั้งแต่จูบครั้งนั้นมาจนถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นแนบ ยิ่งนานวันเขาก็ยิ่งหลงรักเธอมากขึ้นเรื่อยๆเขาเดินเข้าไปหาเธอแล้วโน้มใบหน้าลงไปข้างใบหู แล้วกระซิบเสียงพร่า “อาฟาง ตื่นได้แล้ว”หญิงสาวรู้สึกขนลุกเกรียวไปทั่วแผ่นหลัง จากนั้นก็ลืมตาตื่นลุกขึ้น ยืนมองอี้เฟิงที่เปลือยท่อนบนด้วยแววตาที่ขัดเขินเล็กน้อย“มาเฝ้าไข้ผม หรือว่าให้ผมมาเฝ้าคุณนอนหลับกันแน่”“ฉันเผลอหลับไปนานมากเลยเหรอคะ” เธอเอามือแตะริมฝีปาก สำรวจดูว่าตัวเองนอนน้ำลายไหลให้ตัวเองขายหน้าหรือไม่ เมื่อพบว่าปกติดีก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก“ผมอยากดื่มน้ำ เรียกหาสองรอบแล้วคุณไม่ตื่น ก็เลยลุกเดินมาดู”“เดี๋ยวฉันหาน้ำให้นะคะ” หญิงสาวบอกอย่างเอาใจ แล้วเดินไปหยิบน้ำมาให้เขา จากนั้นก็ยื่นแก้วน้ำให้พร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสอี้เฟิงรับไปดื่ม พร้อมทั้งอมยิ้มอย่า

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 27 คนดูแล

    ในตอนเช้าวันอาทิตย์ จางซีเหอมีอาการไข้อ่อนๆ จากพิษบาดแผล เขาตัดสินใจที่จะแต่งตัวไปทำงานและทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เพราะหากอยู่ที่บ้านอย่างไรมารดาก็ต้องรู้แน่เมื่อคืนนี้เขากลับมาถึงบ้านในยามดึก เพราะไม่อยากให้มารดาสงสัยเพราะไม่ได้แจ้งเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะไม่กลับเขาหยุดยืนแล้วเงยหน้ามองขึ้นไปยังหน้าต่างห้องของเยี่ยฟาง แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา เธอคงจะนอนหลับไปแล้ว เนื่องจากตอนนั้นก็เป็นเวลาค่อนข้างดึก แต่ก็ดีแล้วที่เธอไม่เห็น เพราะใบหน้าเขาเมื่อคืนนี้ซีดไร้สีเลือดและดูอิดโรยมากเขามองดูเสื้อผ้าของเมื่อคืนนี้ที่เปลี่ยนชุดกลับมาที่บ้าน โชคดีที่เลือดไม่ซึมออกมาด้านนอกไม่อย่างนั้นตอนซักผ้ามารดาคงได้ตกใจอย่างแน่นอน“วันอาทิตย์นี้ก็ยังทำงานอีกเหรอลูก”“ครับแม่”“ไม่กินข้าวเช้าก่อนเหรอ” ลู่จินหรงเรียกลูกชายที่ถือกระเป๋าเดินผ่านไป ไม่มานั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเช่นทุกครั้ง“ไม่หรอกครับแม่ วันนี้ผมมีงานด่วน” พูดจบเขาก็รีบเดินออกจากประตูบ้านรถของบริษัทยังไม่มาจอดรับเยี่ยฟาง เธอคงกำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่ ดังนั้นเขาจึงฝืนขับรถออกไปได้สักพัก ก็จอดเรียกคนของตนที่ซุ่มดูอยู่บริเวณบ้านเพื่อปกป้องดูแลมารดาและคร

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 26 ผู้หนุนหลัง

    คทามังกร วัตถุโบราณชิ้นสำคัญที่อี้เฟิงได้มาจากต่างประเทศ เป็นวัตถุโบราณที่หายากของจีนที่มหาเศรษฐีของฝั่งยุโรปได้ซื้อไปสะสมไว้เขาสามารถติดต่อและนำกลับมาได้โดยการช่วยเหลือของตระกูลใหญ่ที่ไม่ได้เปิดเผยสิ่งนี้ทำให้เหล่าจิ้ง ศัตรูสำคัญทางธุรกิจรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก พวกเขาก็ต้องการวัตถุโบราณชิ้นนี้ มาขายให้แก่ลูกค้าที่จะจัดประมูลชนกันในสัปดาห์หน้าหากมีคนรู้ว่าอีกฝ่ายมีวัตถุโบราณชิ้นนั้นแล้ว เหล่าเศรษฐีก็จะแห่ไปลงทะเบียนร่วมประมูลงานของบริษัทหลี่โถวมากกว่าแน่นอน“ตั้งแต่เด็กนั่นก้าวขึ้นมาในวงการค้าขายวัตถุโบราณ ฉันก็สูญเสียลูกค้าไปมากมาย จนตอนนี้บริษัทของมันใหญ่โตแทบจะแซงบริษัทของเราไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรมันได้” น้ำเสียงนั้นแสดงความเกรี้ยวกราดออกมาที่ปรึกษาวัยสามสิบสองยืนนิ่ง แล้วเสนอวิธีที่จะจัดการกับอี้เฟิง“ถ้าอย่างนั้นเราก็เล่นงานประธานอี้โดยตรง โดยใช้วิธีที่ต่างออกไป ศัตรูของเขาไม่ได้มีแค่เราอยู่กลุ่มเดียว อีกอย่างอีกฝ่ายคงไม่คิดว่าเราจะทำซึ่งหน้า คงไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ และคงคิดไม่ถึงว่าจะเป็นฝีมือของเราแน่”“ว่ามาสิ” เหล่าจิ้งเริ่มใจเย็นลง แล้วรับฟังวิธีการของที่ปรึกษา

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status