“ฮื่อ” สั้นๆ แต่ได้ใจความที่มีแค่สองพี่น้องนี้เท่านั้นที่เข้าใจ นายหัวเหมันต์ พูดน้อยและเงียบขรึมจนดูเหมือนหยิ่งและเย็นชา ยิ่งดวงตาสีน้ำเงินเข้มเกือบดำนั้น เวลาที่เจ้าตัวโกรธจัดมันจะมืดดำดูน่ากลัวจนคนที่ถูกมองเสียววาบเย็นไปถึงไขสันหลังเลยทีเดียว สองพี่น้องได้แต่มองหน้ากันอย่างปลงๆ กับความเย็นชาเสมอต้นเสมอปลายของนายหัวหนุ่ม ที่เป็นมาตลอดเกือบเจ็ดปี่ที่ผ่านมานับตั้งแต่เลิกรากับแฟนสาวสวยลูกครึ่งนามว่า แอนนิต้า รามอส นางแบบไฮโซที่ตอนนี้เธอแต่งงานอยู่กินกับสามีชาวฝรั่งเศสหลังจากทิ้งเจ้านายเขาไปอย่างไม่ไยดี
เมื่อถึงบ้านพักหลังใหญ่ในหมู่บ้านจัดสรรสุดหรู แถวชานกรุงนายหัวหนุ่มก็รีบขึ้นมาเก็บของเตรียมตัวกลับเกาะ เหมันต์ยืนนิ่งอยู่หน้ากระจกเงาในห้องน้ำใบหน้าหล่อเหลาคมคร้ามด้วยอยู่กลางแจ้งเป็นนิจนั้นดูเย็นชา เงาที่สะท้อนออกมาจากกระจกนั้น เป็นภาพภาพชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาเยี่ยงเทพบุตรพึงมี ใบหน้าเหลี่ยมหล่อเหลาเข้มคม สันกรามแกร่งมีรอยผ่าบุ๋มที่คางบึกบึน จมูกโด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากหยักหนาสีเข้ม ผิวสีแทนสวย แผงอกกว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามดั่งรูปปั้นนักรบโรมันผู้ห้าวหาญ แต่แววตาสีน้ำเงินเข้มนั้นกลับเย็นชาแม้เจ้าตัวเองยังรู้สึกได้ เขากลายเป็นคนเย็นชาแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ตั้งแต่ตอนนั้นสินะ...
เกาะส่วนตัวเล็กๆ ในทะเลตอนใต้ของประเทศ เป็นเกาะส่วนตัวที่มีเนื้อที่กว้างประมาณหกกิโลเมตรความยาวรอบเกาะราวสิบสองกว่ากิโลเมตร โดยด้านหน้าเกาะนั้นเป็นเวิ้งอ่าวสวยงามมีท่าเรือที่สามารถจอดเรือได้ ชายหาดสวยที่มีทรายละเอียด ขาวสะอาดและชายฝั่งเหมาะแก่การเล่นน้ำและพักผ่อน
เกาะพราวแสงจันทร์เป็นเกาะส่วนตัวและค่อนข้างเงียบสงบถึงแม้จะมีรีสอร์ตสำหรับนักท่องเที่ยวแต่ที่นี่จะเปิดให้เฉพาะแขกระดับวีไอพีที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และผู้ที่มาพักต้องเป็นคนที่รักธรรมชาติและสันโดษด้วย และไม่ใช่ทุกคนจะสามารถใช้เงินเพื่อเข้ามาพักได้ เพราะเจ้าของเกาะจะต้องขออนุญาตผู้เข้ามาพักในการตรวจสอบประวัติและจุดประสงค์ของการมาพักที่นี่อย่างเข้มงวด ถ้าผู้มาพักตกลงยินยอมและเจ้าของตกลงก็อันเป็นว่าเข้ามาพักผ่อนที่เกาะแห่งนี้ได้ และแม้ว่าการเข้ามาเที่ยวพักผ่อนที่เกาะพราวแสงจันทร์จะดูยุ่งยากและเจ้าของเกาะจะดูเหมือนว่าเรื่องมากสักเท่าใด ก็ยังมีคนที่ต้องการเข้ามาสัมผัสและชมความงดงามของน้ำทะเลสีมรกต ชายหาดขาวสะอาด และพักผ่อนเพลินเพลินไปกับการชมเกาะที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่ใดๆ ในโลก ผู้คนเหล่านั้นก็ยินดีที่จะทำตามกฎที่ตั้งขึ้นของที่นี่อย่างไม่อิดออด และก็มีนักท่องเที่ยวมาพักไม่ขาดสายและที่สำคัญที่เกาะแห่งนี้จะรับนักท่องเที่ยวให้เข้าพักแค่ช่วงปีใหม่ถึงเดือนเมษายนเท่านั้น หลังจากนั้นทางเกาะจะปิดรับนักท่องเที่ยวทันที
ครอบครัวหิรัญวารินทร์ เจ้าของเกาะพราวแสงจันทร์โดยมีหัวหน้าครอบครัวคือ นิคลอส (มาร์ติเนซ คาร์เตอร์)หิรัญวารินทร์ นายใหญ่เลือดผสมไทย สแปนิช-อเมริกัน แม้จะมีเชื้อสายต่างชาติและหน้าตาก็ไม่มีส่วนไหนเหมือนคนไทยเลยสักนิดนั้น แต่นายใหญ่แห่งเกาะพราวแสงจันทร์ก็เลือกที่จะใช้นามสกุลของมารดาและอยู่ที่เมืองไทยกับภรรยาที่รักยิ่งนั่นคือนายหญิงวาริน สาวงามผู้เป็นดั่งดวงใจมากกว่าจะไปใช้ชีวิตหรูหราสุขสบายกับครอบครัวฝ่ายบิดาซึ่งเป็นถึงมหาเศรษฐีติดอันดับโลก อย่างตระกูล มาร์ติเนซ คาร์เตอร์
นายใหญ่นิคลอส และนายหญิงวาริน มีบุตรชายทั้งหมดสามคน และไม่รู้ว่าเรื่องบังเอิญหรือชะตาลิขิตลูกชายทั้งสามคนจะเกิดในช่วงฤดูกาลสามฤดู ลูกชายคนโตคือ เหมันต์ นายหัวหนุ่มวัย 36 ปี ที่ตอนนี้เป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดการบริหารงานทุกอย่างในเกาะพราวแสงจันทร์ เนื่องจากเขาเกิดในฤดูหนาวที่ตอนนั้นเกาะพราวแสงจันทร์เกิดภาวะอากาศหนาวเย็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทั้งๆ ที่ในแถบจังหวัดภาคใต้ของไทยแทบจะไม่มีฤดูหนาวเลยก็ว่าได้ แต่คราวที่เหมันต์เกิดนั้นก็เกิดสภาวะที่หนาวมากจนน่าอัศจรรย์ใจ เขาจึงได้ชื่อว่าเหมันต์ หรือนายหัวมาร์ค
บุตรชายคนที่สองคือ คิม หรือคิมหันต์ หิรัญวารินทร์ มาร์ติเนซ คาร์เตอร์ ชายหนุ่มวัย 29 ปี เจ้าชายแสนสำราญและเร่าร้อนดั่งอากาศอันร้อนแรงของเดือนเมษยน เขาเป็นนักรักผู้เร่าร้อนและเนื้อหอม ซึ่งตอนนี้บริหารงานของวาริน กรุ๊ปด้านการแปรรูปอาหารเพื่อการส่งออกของครอบครัวและตอนนี้ก็กำลังเรียนรู้และดูงานด้านการบริหารอยู่อเมริกากับผู้เป็นปู่ซึ่งเขายินยอมที่จะใช้นามสกุล มาร์ติเนซ คาร์เตอร์ ของผู้เป็นปู่แทนผู้เป็นบิดา เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้เป็นบิดากับผู้เป็นปู่ เพราะเนื่องด้วยในอดีตนายใหญ่นิคลอสเคยถูกทอดทิ้งไร้การเหลียวแลจาก ตระกูลมาร์ติเนซคาร์เตอร์ แต่สุดท้ายนายใหญ่ก็ยอมให้บุตรชายคนกลางใช้นามสกุลของตระกูล มาร์ติเนซ คาร์เตอร์และคิมหันต์เองก็ยินดี
ส่วนน้องเล็กคนสุดท้องคือ วัตสัน หรือ วสันต์ ชายหนุ่มวัย 27 ปีผู้มีความสดใสร่าเริง ประดุจฝนแรกฤดู เขาเป็นคนที่ยิ้มหัวง่ายและขี้เล่นนอกจากนี้ยังเป็นขวัญใจบรรดาคนงานและพนักงานทั้งที่บริษัทแปรรูปและส่งออกวารินกรุ๊ป และที่ รีสอร์ตพราวแสงจันทร์อีกด้วยเพียงแต่ตอนนี้ชายหนุ่มไปเรียนต่อที่อเมริกาและวสันต์เองก็ชอบที่จะทำงานแบบอิสระและชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นทางบ้านจึงไม่แปลกใจที่วสันต์จะเป็นหนึ่งในทีมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของหน่วยงานอาสาสมัครอิสระที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในประเทศด้วยพัฒนาในแอฟริกาและกำลังจะจัดตั้งมูลนิธิช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในประเทศโลกที่สาม
แต่ไม่ว่าอย่างไรทั้งสามหนุ่มก็ยังคงความโสดอยู่จนทำให้ทั้งนายใหญ่และนายหญิงกลัวว่าจะไม่ได้อุ้มหลานพยามหว่านล้อมและหาเหตุผลมาให้ทั้งสามหนุ่มมีครอบครัวเสียที โดยเฉพาะนายหัวมาร์คที่ตอนนี้อายุก็ปาเข้าไปสามสิบหกปีแล้วยังไม่คิดแต่งงานมีครอบครัว ทำให้ผู้เป็นบิดามารดาได้แต่หวังว่าจะมีหญิงสาวคนใดมาทลายกำแพงน้ำแข็งและจูงมือบุตรชายของนางเข้าประตูวิวาห์เสียที
ตอนที่6.ร่างสูงใหญ่ของบุตรชายที่นางเพิ่งคิดถึงเมื่อครู่ เดินขึ้นเรือนมาพร้อมกับโยนหมวกใบโปรดให้เจ้า คอบร้า สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานขนสีน้ำตาลแดงเข้มที่มันจะมาคอยรับนายหัวของมันเสมอๆโฮ่งๆๆ เจ้าสี่ขาเห่าอย่างขอความดีความชอบที่เอาหมวกไปเก็บไว้ที่แขวนหมวกอย่างเรียบร้อย เจ้าคอบร้าเคล้าเคลียเจ้านายหนุ่มอย่างยินดีเมื่อเขานำช็อกโกแลตเนยถั่วของโปรดยื่นให้ และมันก็รีบคาบไปกินที่มุมประจำของมัน“เป็นไงล่ะมาร์ค ได้คนที่จะมาแต่งรีสอร์ต ใหม่แล้วรึลูก”“ครับแม่ เป็นน้องสาวเพื่อนของเพื่อนอีกทีน่ะครับ เพิ่งจะเริ่มทำบริษัทของตัวเองแต่ก็ยังไม่เป็นทางการเหมือนกับว่าเขารับทำแค่เป็นช่วงระยะเวลาหรือตามความพอใจของคนทำน่ะครับ แต่ได้ข่าวว่าฝีมีดีงานเข้าไม่ขาดเลยลองไปคุยด้วยตัวเองดูก็เข้าท่าดี และมีทัศนคติในการออกแบบตกแต่งคล้ายๆ กันด้วยก็เลยตกลงว่าจ้างเขา”“แบบนี้ก็มีด้วย หึหึ แต่ก็ดีแล้วล่ะลูก ที่หาคนที่สนใจและทำงานไปในทางเดียวกันได้ ดีกว่าทำๆ ไปแล้วนึกเบื่อแล้วก็ออกไป เราก็ต้องเสียเวลาหาคนมาแทน”นายหญิงวาริน นึกประหลาดใจที่ยังมีคนที่รับงานตามอารมณ์ความพอใจของตัวเองมากกว่าอยากจะรับงานเพื่ออยากได้เงินเยอะๆ นับว่า
ตอนที่7.“มาร์คคะ แอนนี่ชอบที่นี่จังค่ะ มันสวยมากเหมือนดินแดนในฝันเลย”แอนนิต้า รามอส นางแบบสาวแสนสวยเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มแสนหวาน เธอเป็นนางแบบไฮโซคนดังที่มีชื่อเสียงเพราะมีดีกรีเป็นถึงอดีตนางแบบโลกเมื่อสามปีก่อน และตอนนี้นี้เธอกำลังคบหาดูใจอยู่กับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้มีผิวสีแทนงดงามร่างแกร่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง และใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มเยี่ยงบุรุษพึงมี ดวงตาสีน้ำเงินเข้มทอประกายเจิดจ้าส่องสว่างด้วยความสุข ริมฝีปากหยักสวยแย้มยิ้มอย่างมีเสน่ห์ด้วยลักยิ้มที่กรีดลงสองข้างแก้มยามที่เจ้าตัวเผยยิ้มกว้าง ทำให้ใบหน้านั้นอ่อนโยนและมีเสน่ห์ขึ้นอีกเท่าตัว และเธอก็ภูมิใจนักหนาที่มีคนรักเป็นถึงเจ้าของเกาะพราวแสงจันทร์“ถ้าแอนนี่ชอบก็อยู่ที่นี่กับมาร์คเลยก็ได้นะ ยินดีให้อยู่ด้วยกันตลอดชีวิตเลย” เหมันต์สวมกอดร่างงามอย่างรักใคร่ พลางกดจมูกโด่งคมลงบนแก้มนวลฟอดใหญ่ ทำให้เจ้าของแก้มหอมมองค้อนอย่างมีจริต แต่ก็น่ารักในสายตาเขา“มาร์คนี่ ทำอะไรอายคนอื่นบ้างสิคะ”“มีใครที่ไหนกัน มีแต่เราเท่านั้นแหละที่นี่ เพราะถ้าขืนมีโผล่มาตอนนี้มาร์คจะเตะมันให้กระเด็นตกทะเลไปเลย”โฮ่ง โฮ่ง ไม่ทันขาดคำ เสียงของสุนัขที่
ตอนที่8.เมื่อชายหนุ่มรูปงามตัวต้นเหตุจากไป บรรยากาศระหว่างนายหัวหนุ่มและแฟนสาวก็อึมครึม อึดอัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ชายหนุ่มมองคนรักอย่างตัดพ้อและหึงหวง ส่วนหญิงสาวก็ทั้งโกรธทั้งอายที่เหมันต์แสดงความเป็นเจ้าของเธอต่อหน้าชายหนุ่มอีกคนที่เธอหมายปองให้เป็นที่หมายใหม่เพื่อเธอจะได้ยกระดับตัวเองเป็นหญิงสาวผู้โชคดี มีคนรักเป็นถึงมหาเศรษฐีระดับโลกมากกว่าเป็นแฟนนายหัวกระจอกๆ อย่างเหมันต์“มาร์คคุณทำอะไรเนี่ย เห็นมั๊ยว่าคุณริค เขาเข้าใจผิดเลย” หญิงสาวโวยวายทันที และมันทำให้เหมันต์ถึงกับผงะด้วยความรวดร้าว ไม่เคยเลยที่แอนนิต้าจะขึ้นเสียงกับเขาแบบนี้เพราะที่ผ่านมาเธอช่างเอาใจและอ่อนหวานจนเขาลุ่มหลง“ทำไมแอนนี่พูดกับมาร์คอย่างนี้ล่ะ เพราะผู้ชายคนนั้นใช่มั๊ย ใช่มั๊ย” ชายหนุ่มแผดเสียงดังลั่นพร้อมกับเขย่าร่างสวยจนหัวสั่นหัวคลอนด้วยแรงอารมณ์ที่ประทุด้วยความหึงหวงมากมาย“หยุดนะมาร์ค คุณบ้าไปแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับแอนนี่นะ คุณมันบ้า แค่นี้คุณก็กล่าวหาแอนนี่แล้ว คุณเห็นแอนนี่เป็นคนยังไง เขาหวังดีแค่มาส่งแอนนี่เพราะว่ามันค่ำแล้วกลัวเป็นอันตรายเขาแค่หวังดีแค่นั้นจริงๆ ใครจะเหมือนมาร์คที่ปล่อยแอนนี่ท
ตอนที่9.“ถ้าแอนนี่โกรธเรื่องเมื่อว่านก่อนมาร์คขอโทษนะ แอนนี่ขอโทษมาร์ค ขอโทษ มาร์ครักแอนนี้นะ เรารักกัน”“ไม่มีประโยชน์แล้วค่ะมาร์ค แอนนี่ตัดสินใจแล้วเราเลิกกันเถอะค่ะ แอนนี่ทนอยู่บนเกาะที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าผืนน้ำ ท้องฟ้า สายลมและแสงแดดไม่ได้หรอกค่ะ มันเงียบเหงาเกินไปและถ้าแอนนี่มัวแต่รอคุณให้คุณทำงานพัฒนาเกาะบ้าๆ นี่ของคุณ แอนนี่คงเฉาตายพอดี แล้วตอนนี้แอนนี่ก็ไม่ได้รักคุณแล้วมาร์ค” หญิงสาวบอกอย่างไม่กักเก็บกักความรู้สึกอีกต่อไป“ไม่จริง ทำไมแอนนี่พูดแบบนี้ ทำไม เพราะไอ้หมอนั่นรึเปล่าแอนนี่ คุณเห็นว่าริครวยกว่าผมหรือแอนนี่ หรือเพราะอะไรกัน ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าที่พูดมาทั้งหมดคือความจริง แอนนี่ไม่รักมาร์คแล้ว แอนนี่รักคนอื่น” ชายหนุ่มถามอย่างปวดร้าวเมื่อได้ฟังคำตัดรอนจากคนรัก แววตาสี้น้ำเข้มบัดนี้ขุ่นมัวด้วยอารมณ์อันอ่อนไหว“ใช่แอนนี่พูดความจริงค่ะ แอนนี่ไม่รักคุณแล้ว และ ริคเขาก็รวยกว่าคุณค่ะมาร์ค แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือแอนนี่ทนไม่ได้ที่จะมาอยู่ในที่ห่างไกลความเจริญ และไอ้ความคิดอนุรักษ์นิยมบ้าบอของคุณ วันๆ ขลุกอยู่กับลิงค่างอยู่แต่ในป่าในสวนไม่สนใจแอนนี่เลยว่าเหงามั้ยอยากไปเที่ยวรึเป
ตอนที่10 .“หึไอ้พี่บ้า จี้เอวมาได้แทบขาดใจแนะ โอย...เหนื่อย” ดรุณนุช เดินบ่นกระปอดกระแปดเข้าห้องนอนตัวเอง พลางนึกถึงภาพที่ตนนั้น แอบเห็นฉากรักอันเร่าร้อนระหว่างยัยคุณแอนนิต้าหน้าวอก (มันเป็นชื่อที่เธอมักแอบเรียกแอนนิต้าลับหลังซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ดีนักที่เรียกขานผู้อื่นลับหลังเช่นนั้น หากนายหญิงวารินรู้เธอโดนบิดเนื้อเขียวแน่ๆ) กับไอ้ฝรั่งบ้ากามนั่นอย่างไม่ตั้งใจที่ท้ายเกาะอันเป็นที่พักของชายหนุ่มนามว่าริค เวลส์ไม่ได้ แค่คิดถึงใบหน้านวลของสาวน้อยก็แดงก่ำ นี่ขาดล้างหน้าล้างตาหลายรอบแล้วภาพนั้นยังชัดเต็มสองตา“ยี้ น่าเกลียดไอ้ฝรั่งบ้าลามก นิสัยไม่ดี” ว่าแล้วร่างบางของสาวน้อยก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนเข้านอนพร้อมกับภาพฝันว่าคนที่กำลังร่วมรักกันอย่างดุเดือดเร่าร้อนนั้นกลับเป็นเธอและไอ้ฝรั่งบ้ากามคนนั้น หาใช่แอนนิต้า รามอสไม่!!!ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลากระชากใจเดินขึ้นเรือนมาหยุดที่ชายหนุ่ม ผู้เป็นเจ้าของเกาะพราวแสงจันทร์ที่ตอนนี้สภาพยับเยิน เมาหยำเป หนวดเครารุงรัง ขวดเหล้าหลายต่อหลายขวดเกลื่อนกลาดทั่วชานบ้านเหมันต์มองปลายเท้าขาวสะอาดตรงหน้าพลางสะบัดหัวแ
ตอนที่11.“เอ้าว่าไงมีอะไรก็ว่ามา ง่วงนะนี่ต้องตื่นแต่เช้าอีกพรุ่งนี้เดี๋ยวตกเครื่องกันพอดี”“แกจะไปนานมั้ยอ่ะ ฉันอยู่คนเดียวก็เหงาแย่สิ”หญิงสาวทำเสียงออดอ้อนเพราะพรุ่งนี้เนตรนาราต้องเดินทางไปเกาะพราวแสงจันทร์ของนายหัวม้งมาร์คอะไรนั่น วันนี้ทั้งสองสาวจึงได้มาจัดเตรียมของที่จะนำไปตกแต่งสวนบ้านพักของรีสอร์ตผู้ว่าจ้าง นามว่าเหมันต์ หิรัญวารินทร์“โธ่ๆๆ อย่างแกนี่นะจะเหงา ฉันว่าคนที่อยู่ใกล้ๆ แกจะเฉาตายก่อนแกเหงาตายอีกแมงปอ”“เชอะทำมาว่าเขา ตัวเองก็ใช่ย่อย” หญิงสาวพ้อเพื่อนพลางทำปากยื่นอย่างแสนงอนแล้วเธอก็เปลี่ยนโหมดกะทันหัน“แกๆ เมื่อกี้อธิษฐานอะไรน่ะ บอกหน่อยสิ นะนะ”“อะไรของแกนี่แมงปอปรับโหมดไวจังวะอยากรู้แกก็บอกของแกมาก่อนสิ”“ก็ได้ๆ ฉันน่ะนะอธิษฐานว่า ขอให้แมงปอตัวน้อยๆ ตัวนี้ได้พบกับชายหนุ่มผู้แสนดีและรักแมงปอสุดหัวใจ ขอให้เขาขอแมงปอแต่งงานภายใต้ท้องสีฟ้าคราม ท่ามกลางทะเลงามสายลมและแสงแดดที่ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนโรแม๊นติก อิอิอิ เขินจัง”เนตรนารามองกิริยา เขินจัง ของเพื่อนรักแล้วส่ายหน้าใบหน้าเล็กๆ รูปหัวใจแดงก่ำ ทำกระบิดกระบวนเอียงอาย หมอนที่เธอทุบปุบๆ อยู
ตอนที่12.เนตรนาราไม่วายหาของมาหลอกล่อ และเธอรู้ว่าอรุณนารีชอบทะเลมากกว่าอะไร และงานนี้ไม่พลาดแน่ แม้ว่าเธอเจ็บตัวแต่งานที่รับไว้ต้องเสร็จสมบูรณ์โดยที่ร้านของเธอไม่เสียชื่อแน่นอนเพราะเพื่อนรักของเธอก็แต่งสวนได้สวยไม่แพ้กัน และยังมีความละเอียดอ่อนรอบคอบ ใจเย็นมากกว่าเธอหลายเท่านัก“แล้วจะไปยังไงอะไรก็ยังไม่ได้เตรียม”อรุณนารีพูดส่งๆ แต่ในแววตาวาววับว่างานนี้เธอจะได้ไปทำงานในที่ที่โอบล้อมด้วยทะเลซึ่งเป็นอะไรที่เธอชอบมากที่สุด ทะเล สายลม แสงแดด ต้นไม้เขียวๆ น้ำใสๆ โอยแค่คิดก็คุ้มแล้ว แต่งานนี้ต้องขูดเลือดยัยหมวยมหาภัยขี้งกให้สุดๆ“แต่มีข้อแม้ งานนี้ฉันเจ็ดสิบ แกสามสิบ โอเคตามนี้”เนตรนาราอ้าปากค้างเมื่อโดนมุกนี้ของเพื่อน แต่ก็ต้องยอมเมื่อเจอสายตาแบบแมงปอพิฆาตที่เธอกับอโนมารู้ดีว่าถ้าเจอสายตาแบบนี้ต้องเงียบและทำตามแม่คุณอย่าให้ขาดตกบกพร่อง“เออๆ ก็ได้ ฉันโทรไปบอกเขาแล้วว่าเลื่อนการเดินทางไปสักสองวันเพราะประสบอุบัติเหตุ ฉันให้แกไปแทน เขาก็ไม่ว่าอะไรการเดินทางเดี๋ยวฉันบอก ส่วนของที่จะเอาไปด้วยน่ะ ส่งไปล่วงหน้าแล้ว”“ดีมากเพื่อนรัก”“ยัยแมงปอจอมงก”“ฉันก็ติดนิสัยมากจากแกนั่นล่ะ นังหมวยมหาภัย
ตอนที่13.ใช่แล้วมันคือสุนัข หรือหมา และมันเป็นสุนัขพันธ์ไทยหลังอานที่ตัวใหญ่มากๆ ยืนแยกเขี้ยวครางแฮ่ๆ ใส่เธอ และที่สำคัญเธอกลัวสุนัขเป็นที่สุด และทุกครั้งที่เข้าใกล้เธอมักจะเป็นผื่นและเป็นไข้ไปหลายวันเลยทีเดียว และตอนนี้อาการเหล่านั้นกำลังจะกลับมาเพราะเธอเห็นว่าเจ้าหน้าขนใหญ่ยักษ์กำลังลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน แล้วค่อยๆ เยื้องย่างอย่างช้าๆ มาที่เธอท่าทางของมันเหมือนราชสีห์ที่กำลังจ้องตะครุบเหยื่อที่สุด แต่มันเป็นสุนัขไม่ใช่ราชสีห์ และเธอก็กลัวสุนัขเป็นที่สุดในชีวิต ร่างบางยืนตัวแข็งทื่อ ก้าวขาไม่ออก เหงื่อเม็ดโตๆ ผุดพราวตามไรผม มือเท้าเย็นเฉียบ และเหมือนหัวใจหยุดเต้นก่อนจะกรีดร้องสุดเสียงเมื่อภาพที่ห็นเห็นก่อนสติสุดท้ายจะระลึกได้ คือภาพเหมือนเจ้าสุนัขตัวใหญ่ยักษ์มันกระโจนเข้าหาเธอและแยกเขี้ยวคมใส่ราวจะขย้ำเธอให้แหลกเหลวด้วยคมเขี้ยวของมัน แล้วร่างเล็กๆ ของเธอก็อ่อนระทวยลงกับผืนทรายนุ่มพร้อมกับสติที่ดับวูบ...ชายหนุ่มร่างสูงแข็งแรงมองภาพสะท้อนในกระจกเงาอย่างเพ่งพิศ ใบหน้าหล่อเหลากระชากใจไม่ว่าจะเป็นรูปหน้าเรียวยาว ดวงตาคมเข้มสีเขียวมรกตวับวาว จมูกโด่งสวยคมรับกับริมฝีปากบางสวยราวอิสตรี นั้
ตอนที่ 140. “เอาไว้งานเสร็จเมื่อไหร่ฉันจะให้เธอได้พบกับแม่เธอเอง ไม่ต้องถามอะไรวุ่นวาย และถ้าวุ่นวายมากๆ เธออาจจะไม่ได้เจอหน้าแม่เธอเลยตลอดชีวิต” ชลเขตหันมาตะคอกสาวน้อยเสียงเข้มแต่รู้สึกสะใจลึกๆ ที่เห็นหน้าซีดเผือดหวาดหวั่นของฤดีชล “และขอให้ทำตัวน่ารักๆ หน่อยนะจ๊ะสาวๆ ฮ่าๆ ไม่น่าเชื่อว่าพวกเธอสองคนจะเป็นตัวเงินตัวทองที่มีค่ามหาศาล” แอนนิต้าอดไม่ได้ที่จะหันมาเยาะเย้ยคนที่รู้สึกริษยา อีกคนสวยน่ารักแม้ยังไม่เป็นสาวเต็มตัว แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังต้องมองเหลียวหลัง และอีกคนก็เป็นมารหัวใจที่ทำให้เป้าหมายในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอพังทลาย เมื่อประตูปิดลงอีกครั้งสองสาวก็ทรุดนั่งลงอย่างหมดแรงเมื่อรับรู้ชะตากรรมของตนว่าต่อจากนี้พวกเธอคือเชลยดีๆ นี่เอง “พี่มาร์คจะต้องมาช่วยพี่แมงปอเชื่อสิคะแต่สำหรับหนูดี คงไม่ได้หวังจะให้ใครมาช่วย” สาวน้อยบอกอรุณนารีแต่คำหลังนั้นเธอพูดกับตัวเองในใจเพราะรู้สึกลึกๆ ในใจตนว่าบัดนี้ชีวิตของเธอไม่มีใครอีกแล้ว“พี่มาร์คจะต้องมาช่วยเราทั้งสองคนจ๊ะ มาเถอะมากินอะไรกันก่อนดีกว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง” แล้วสองสาวก็นั่งกินอาหารที่เป็นเพ
ตอนที่ 139.ผู้กองวัยย่างสี่สิบซึ่งยังดูหนุ่มแน่นและแกร่งกว่าอายุ เอ่ยขัดขึ้นเพราะเขาเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ซึ่งเขาก็ตามทำคดีมานานมากแต่ก็คว้าน้ำเหลวมาตลอดจนหิรัญวารินทร์ยื่นมือเข้ามาช่วย และเขาเองก็กำลังจะได้สะสางบัญชีกับพวกอัครไพฑูรย์เสียที “ใช่ครับพี่มาร์ค เราต้องตั้งสติอย่าให้ความร้อนรนทำลายแผนของเรา”เหมันต์หันกลับมาด้วยใบหน้าและแววตาที่ยังไม่คลายกังวล ริคตบบ่าแกร่งเพื่อนรักเบาๆ อย่างให้กำลังใจ ตอนนี้เขาก็นึกถึงดรุณนุชผู้เป็นภรรยาที่รอเขาอยู่บนเกาะหากเป็นดรุณนุชถูกจับตัวไป เขาก็คงมีอาการไม่ต่างจากเหมันต์และคงอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำกระมัง “ทางเราได้เบาะแสแล้วครับผู้กอง”นายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งเข้ามารายงานข่าวที่รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของ ราอูล ซาราฟ อดีตนักค้าอาวุธสงครามและยาเสพติดข้ามชาติซึ่งเขาห่างหายจากวงการนี้มานานพอสมควรเหมือนจะล้างมือแต่ยังเป็นที่ต้องการตัวของทางการอยู่ แล้วอยู่ๆ ก็โผล่มาที่เมืองไทยและตอนนี้ก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของชลเขตซึ่งกำลังกบดานอยู่ในอำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งมีเขตติดต่อชายแดนพม่าในจังหวัดเล็กๆ ทางภาคตะวันตกและมันก็กำลังลำเลียงทั้งยาเสพติดและ
ตอนที่ 138. “หนูดีไม่กล้ารบกวนค่ะพี่แมงปอ แค่ให้พี่เด่นดังไปส่งก็พอ ไปถึงโรงพยาบาลแล้วค่อยโทรกลับมาบอกก็ได้หนูดีคิดว่าจะอยู่เฝ้าไข้แม่สักสองสามวันตอนนี้หนูดีอยากไปหาแม่เร็วๆ งั้นเราไปกันเลยนะคะ” สาวน้อยร้อนรนด้วยความห่วงหามารดาโดยไม่ได้นึกถึงสิ่งใด เพราะบัดนี้ดวงใจน้อยๆ ของเธอมันลอยไปอยู่แทบเท้าผู้เป็นมารดาที่นอนรอพบเธอในความคิดอันบริสุทธิ์ของตน “ไงคอบร้าแกก็อยากไปด้วยเหรอ อ้าวเจ้ากุ้งแก้วกับจัสมินด้วย พวกแกนี่ถูกไล่มาล่ะสิ เอ หรือว่าไปทำอะไรขวางหูขวางตาพี่ริครึเปล่า เอาเป็นว่าฉันให้พวกแกตามไปด้วยก็ได้ ไปๆ” อรุณนารีมองเจ้าหน้าขนทั้งสาม และพวกมันก็ทำเสียงเหมือนฟ้องว่า ที่เธอพูดมานั้นถูกต้องแล้วทั้งสองสาวพร้อมด้วยลิงสองตัวและหมาอีกหนึ่งตัวก็เดินไปหาเด่นดังที่บ้านเด็กเพราะรู้ดีว่าเด่นดังมักจะไปขลุกอยู่ที่นั่นยามว่างเว้นจากงานเพราะตอนนี้กำลังทำคะแนนเอาชนะใจครูดาวผู้น่ารักนั่นเอง “หนูดีแน่ใจนะว่าน้าฤดีน่ะอยู่โรงพยาบาลที่ว่าจริงๆ” เด่นดังถามอย่างสงสัยในขณะขับรถมาให้น้องสาวยังสถานที่ๆ ชลเขตบอกว่านำตัวดวงฤดีแม่ของฤดีชลมารักษาตัวหลังจากที่นำเครื่องบินเล็กลง
ตอนที่ 137. “ถ้าพ่อกับแม่เขาไม่ยกให้ และสาวสวยคนนั้นไม่ยอมพี่มาร์คจะฉุดมาทำเมียเสียเฉยๆ พอมีลูกสักสี่ห้าคนค่อยพาไปขอขมาอีกทีคราวนี้คาดว่าตากับยายคงยอมเพราะเห็นแก่หลานฮ่าๆๆ” “กรี๊ดตาบ้าจะมาฉุดเขาเหรอนี่แนะๆๆ คนบ้าปล่อยแมงปอนะ มันเย็นแล้วแมงปอไม่อยากเล่นน้ำตอนนี้” หญิงสาวโวยวายเมื่อเขาทำท่าจะพาเธอเดินลงทะเลและต้องโอบกอดลำคอแกร่งวุ่นวายเมื่อเขาทำท่าจะโยนร่างเล็กๆ ของเธอลงทะเลเสียอย่างนั้น “พี่มาร์คหยุดนะถ้าโยนแมงปอนะจะโกรธจริงๆ ด้วยจะไม่พูดด้วยสามวัน” “โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วเราไปเดินเล่นกันก่อนกลับบ้านดีกว่า” ชายหนุ่มชวนและวางร่างเล็กบางลงบนผืนทรายนุ่มก่อนจะกุมมือบางเดินลัดเลาะชายหาดชื่นชมบรรยากาศของอาทิตย์อัสดงด้วยกัน แม้ว่าตอนนี้เขาพยายามไม่แสดงออกถึงความยุ่งยากใจและเรื่องที่สุมอยู่ในหัวให้หญิงสาวได้รับรู้ เขาเลือกที่จะกลบเกลื่อนมันด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนตัวเล็กข้างๆ กายแต่เหมันต์ก็สัญญากับตนเองว่าจะจัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ชายหนุ่มโอบประคองร่างเล็กไว้ในอ้อมกอด มองท้องทะเลยามอัสดงเกยคางแกร่งกับเรือนผมนุ่มดวงตาสีน้ำ
ตอนที่ 136. เขารู้แต่เพียงว่าเธอเป็นโรคร้ายแต่ไม่รู้ว่าเธอเป็นโรคร้ายที่เรื้อรังระยะสุดท้าย เธอถูกชลเขตนำตัวไปไว้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดโดยอ้างว่าจะพาเธอไปรักษาตัว แต่ความจริงแล้วชลเขตเพียงแต่นำเธอไปนอนรอความตายโดยที่ไม่ได้ให้การรักษาเธออย่างที่บอกใครๆ แล้วหลอกใช้ฤดีชลให้ทำตามแผนเพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้เหมันต์รับผิดชอบเธอด้วยการแต่งงาน เขารู้แต่เพียงว่าชลเขตจัดฉากโดยให้ฤดีชลวางยานอนหลับเหมันต์และทำทีเหมือนทั้งสองได้เสียกัน โดยชลเขตกับแอนนิต้าเป็นคนจัดฉากและจัดการทุกอย่าง ในตอนนั้นความโลภและอยากเอาชนะคู่อริทำให้เขาเห็นดีเห็นงามไปด้วย และเห็นว่ามันเป็นเพียงการจัดฉากซึ่งฤดีชลเองก็เต็มใจยอมทำตาม เขาเลยปล่อยเลยตามเลย แต่เขาไม่รู้มาก่อนว่าเบื้องหลังการยินยอมของฤดีชล คือชีวิตของดวงฤดีผู้เป็นมารดาซึ่งชลเขตใช้มาต่อรองกับสาวน้อยผู้โชคร้ายซึ่งเธอก็เป็นลูกสาวของเขาเช่นกัน นายหัวใหญ่ชัชชลเดินไปที่ลิ้นชักหัวเตียงและหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งซึ่งเขาและดวงฤดีเคยถ่ายร่วมกันในวันวาน ภาพถ่ายนั้นทั้งเขาและเธอต่างยิ้มให้กล้องด้วยใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความสุข ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายค
ตอนที่ 135. “ไม่เห็นจะยากตรงไหน คุณมีน้องสาวเป็นถึงสะใภ้หิรัญวารินทร์ที่คนทั้งจังหวัดให้ความเกรงใจ แถมยังเป็นมาร์ติเนซคาร์เตอร์ ที่ทั้งร่ำรวยและทรงอิทธิพล คุณจะกลัวอะไร” “จริงสินะที่เธอพูดมันก็ถูก ขอบใจมากแอนนี่เธอนี่ฉลาดเป็นกรดไม่เปลี่ยนเลยนะ” ชายหนุ่มชมแกมประชดหญิงสาวแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้แคร์นักกับสิ่งที่เขาประชดเธอ “ฉันอยากให้เราลงมือเร็วที่สุด เพราะตอนนี้พวกนั้นอาจจะคิดว่าเราไม่กล้าเคลื่อนไหว เราชิงลงมือเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี” แอนนิต้าบอกอย่างเป็นการเป็นงาน ใบหน้าสวยฉายแววเร่งร้อน ที่ชลเขตไม่อาจคาดเดาได้ว่าเธอร้อนเพราะความริษยาหรือร้อนเพราะอยากแก้แค้นเหมันต์ที่ไม่หันกลับมาหาเธออีกครั้งหรือแค้นที่ถูกอรุณนารีได้หัวใจของเหมันต์ไปครองกันแน่ “เอาเป็นว่าถ้าเธอพร้อมก็บอกมาฉันเตรียมพร้อมเสมอ อยากเอาคืนไอ้พวกชาวเกาะนั่นเหมือนกันฉันจะถล่มมันให้ราบทั้งเกาะเลยคอยดู” ชลเขตดวงตาวาวโรจน์ขึ้นมาเมื่อนึกถึงวันที่ตนจะได้แก้แค้น นึกถึงวันที่เขาถล่มเกาะนั่นจนราบคาบและทุกอย่างก็จะตกเป็นของเขาทั้งหิรัญวารินทร์ และมาร์ติ เนซ คาร์เตอร์เพราะหากทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ตอนที่ 134. “นายคิมมันคงโกรธและเกลียดหนูดี เจ้าหมอนี่ไม่ชอบวิธีตลบหลังแบบนี้ด้วยที่คิมทำแบบนั้นก็คงท้าทายฝ่ายโน้นและประกาศศึกเต็มที่ แต่ดูเหมือนไอ้เขตมันจะไม่กล้าสู้ซึ่งหน้า คิมหันต์ใจร้อนเกินไปฉันคิดว่าสิ่งที่ทั้งคิม และไอ้เขตมันทำ ผลเสียมันจะมีมากกว่าเพราะคนหลายคนต้องมาสูญเสีย” เหมันต์หน้าเครียดเมื่อคิดว่าการที่หลายชีวิตต้องมาสูญเสียก็เพราะความใจร้อนของคิมหันต์ “แต่มันก็ได้ผลเพราะชลเขตเริ่มเคลื่อนไหวบ้างแล้ว แต่อย่างนายว่า มันไม่กล้าสู้ซึ่งหน้าเราแน่นอน ตอนนี้มันก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อยู่พอสมควรจะทำอะไรไม่สะดวกเหมือนเดิมด้วยเพราะตอนนี้มันกำลังถูกจับตามอง ซึ่งมันก็เข้าทางเราพอดี” “เอาไงเอากัน เมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้วฉันเองก็รอเวลานี้มานานแล้ว” สองหนุ่มมองหน้ากันด้วยอย่างรู้ใจและหันไปมองยังชายหาดเบื้องล่างที่มีหญิงสาวอันเป็นที่รักของพวกเขาอยู่ด้วยแววตาที่ฉายแววกังวลนิดๆ “โว้ยยย! ไอ้คิม ไอ้มาร์คมึง!” ชลเขตโวยวายขว้างปาข้าวของแตกกระจายไปทั่วบ้าน จนลูกน้องที่คอยสอพลอทั้งหลายต้องหามุมหลบดีๆ เพราะถ้าพลาดอาจโดนอะไรลอยมากระแทกหัวก็เป็นได้
ตอนที่ 133.“พี่น่ะไม่โกรธมันหรอกแมงปอ แค่อยากกระเตะก้านคอเฉยๆ นี่มาร์คนายรู้ไหมนั่นน่ะความฝันฉันเลยนะที่อยากจะพาเมียไปล่องเรือฮันนีมูนสุดท้ายนายได้ไปหวานกับแมงปอเฉยเลย ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับฉันแบบนี้” ริคทำท่าเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากร่างสูงเอนกายแหงนหงายไปกับพนักโซฟาตัวสวยพลางโอดครวญอย่างน่าสงสารและน่าหมั่นไส้ในสายตาของเหมันต์ ส่วนนายหญิงกับนายใหญ่ก็ได้แต่มองหนุ่มสาวยิ้มๆ ก่อนจะพากันเดินเลี่ยงไปปล่อยให้หนุ่มสาวคุยกันลำพัง“ก็มัวแต่ท่ามากล่ะ บางทีถ้านายเอานิสัยปากว่ามือถึงแบบเดิมๆ มาใช้ป่านนี้นายได้เข้าหอกับน้ำผึ้งไปแล้ว ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้าท่ามากปากหนักดีนักบางทีการกระทำอย่างเดียวผู้หญิงเขาก็ไม่เข้าใจทั้งหมดนะริค ต้องแบบนี้ แมงปอจ๋าพี่มาร์ครักแมงปอที่สุด แต่งงานกับพี่มาร์คนะจ๊ะที่รักๆๆ” คนที่กำลังมีความสุขได้ทีเอ่ยสอนและแสดงให้ดูด้วยทั้งแววตาท่าทางสุดแสนจะยียวนจนอรุณนารีหน้าแดงเพราะขัดเขินและไม่อยากจะเชื่อว่าชายหนุ่มที่ดูเงียบขรึมและแกร่งกระด้างอย่างเหมันต์จะมีมุมน่ารักๆ เพี้ยนๆ แบบนี้อยู่“พี่มาร์คบ้า ไม่คุยด้วยแล้วไปหาน้ำผึ้งดีกว่า” อรุณนารีเขินจัดที่ชายหนุ่มแสดงความรักต่อเธอด้วยการ
ตอนที่ 132. “ตัวแดงเป็นกุ้งแล้วยัยแมงเปลือย หึๆ ซ่อนรูปนะเราน่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยหยอกเย้าเสียงกระเส่าแหบพร่าอยู่ริมหูบาง และเพิ่มความซ่านเสียวและเขินอายให้หญิงสาวมากขึ้นเมื่อจมูกและริมปากร้ายกาจฉกชิมความหอมละมุนของผิวสาวที่กลายเป็นสีชมพูไปทั้งตัวอย่างอดไม่ไหวกับความเย้ายวนตรงหน้าจนร่างที่เบี่ยงหนีไร้เรียวแรงขัดขืน ยอมจำนนให้เขาได้เชยชมร่างสาวอีกครั้งแต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่แดงซ่านหวามไหวและแสนจะยินยอมพร้อมใจไปกับบทโอ้โลมของเขา ก็ได้แต่คิดว่าเขาอาจจะอดใจไม่อยู่จริงๆ ร่างสูงจึงตัดใจจุมพิตหนักๆ ที่กลีบปากบวมช้ำเพราะจุมพิตเร่าร้อนดุเดือดของตนหนักๆ แล้วหันไปคว้าผ้าบาติกผืนงามที่เธอใช้พันร่างกายลงมาจากเรือคลุมร่างเล็กแสนเย้ายวนให้อย่างแสนเสียดาย แต่เขาไม่อยากให้เธอเสียใจและเสียความไว้วางใจที่มีต่อเขามากกว่า “เอาล่ะสาวน้อยขึ้นเรือไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ก่อนที่จะเสียสาวก่อนแต่งจริงๆ ยัยแมงปอแก่แดด” “พี่มาร์คคนบ้า” หญิงสาวได้แต่พึมพำเบาๆ แล้วทุบหนักๆ ลงไปบนอกแกร่งอย่างขัดเขินและอับอายสุดขีดที่ยอมเขาได้มากถึงเพียงนี้ นี่ถ้าหากเขาไม่หยุดเธอก็คงจะยอมให้เขาจ