Share

บทที่ 37

Author: ลูกพีชแสนสวย
last update Last Updated: 2024-11-11 18:52:04
ยังไม่ทันที่ฉันจะปฏิเสธ เขาก็หยิบกระเป๋าของฉันไปโดยอัตโนมัติ ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างสดใส

“ฉันคนเดียวก็ทำเองได้นะ”

ฉันพยายามจะดึงกระเป๋าคืนมา แต่เขาก็ไม่เปิดโอกาสให้ฉันเลย

เขาเดินอย่างรวดเร็วพร้อมกับหิ้วกระเป๋าของฉันนำหน้าไป จนกระทั่งมาถึงใกล้หอพักหญิง เขาจึงหยุดและหันมามองฉัน

ฉันหยิบสมุดรายชื่อนักเรียนใหม่ออกมา แล้วหาหมายเลขห้องของตัวเอง เขาเพียงแค่ก้มลงดูนิดเดียว จากนั้นก็ยกกระเป๋าของฉันเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว

ฉันตกใจกับการกระทำของเขาจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เดินตามหลังเขาไปด้วยความรีบเร่ง

เมื่อถึงห้องพัก เขาก็วางกระเป๋าลงบนพื้นทันที จากนั้นก็เริ่มจัดเตียงให้ฉันอีก

“ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้ ฉันทำเองได้”

ฉันไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร และไม่อยากมีอะไรข้องเกี่ยวกับเขามากนัก แต่เขากลับทำเหมือนไม่ได้ยิน

เขากำลังจัดของอย่างแข็งขัน ทำงานด้วยความกระตือรือร้น

“เธอคือเฉียวซิงลั่วใช่ไหม? แฟนของเธอเท่มากเลยนะ พลังแฟนหนุ่มมาเต็มสุด ๆ!”

เมื่อได้ยินเพื่อนร่วมห้องเข้าใจผิดว่าเขาเป็นแฟนฉัน ก็ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที

ฉันพยายามอธิบาย แต่เพื่อนร่วมห้องของฉันดูเหมือนจะไม่สนใจเท่าไร พวกเธอกลับคุย
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 38

    ในขณะที่ฉันกำลังคิดหาวิธีที่จะหลีกเลี่ยงความอึดอัดนั้น ลั่วอี้ฝานกลับนั่งลงข้าง ๆ ฉัน และเริ่มตักอาหารให้ทุกคน ไม่นานเขาก็เข้ากับเพื่อนร่วมห้องของฉันได้อย่างรวดเร็วไม่แปลกใจเลยที่เขามาที่นี่ เขาคงเตรียมการไว้แล้วด้วยการซื้อใจเพื่อนร่วมห้องของฉันขณะที่บรรยากาศกำลังสนุกสนานดี จู่ ๆ ก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนปรากฏตัวขึ้นโลกช่างแคบจริง ๆ ฉันไม่คิดเลยว่าจะเจอคนที่ฉันไม่อยากเจอที่สุดที่นี่เฉินเยวี่ยเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอคล้องแขนกู้จือโม่ไว้แน่น“ซิงลั่ว บังเอิญจังเลยนะ ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่!”ไม่ใช่คู่กรรมคงไม่ได้เจอกัน เธอจะตามฉันไปทุกที่จริง ๆ เหรอ?บรรยากาศที่เคยสนุกสนานก็จางหายไปทันทีที่สองคนนั้นปรากฏตัว“นี่เพื่อนเธอเหรอ?”เพื่อนร่วมห้องของฉันไม่เคยเจอเฉินเยวี่ยมาก่อน เมื่อเห็นว่าเธอดูเรียบร้อยและมีท่าทีไร้เดียงสา พวกเธอก็เหมือนจะหลงใหลในบุคลิกของเธอ“แค่เพื่อนร่วมชั้นน่ะ”น้ำเสียงของฉันเย็นชาอย่างที่สุด การเจอเธอที่นี่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับฉันเลย ความรู้สึกยินดีที่เคยมีหายไปจนหมด“สวัสดีทุกคน ฉันเป็นเพื่อนร่วมชั้นของซิงลั่ว เราเคยเรียนมัธยมปลายด้วยกันน่ะ!”

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 39

    ฉันมองแผ่นหลังของพวกเขาที่เดินจากไป พลางหัวเราะเยาะตัวเองในใจไม่ว่าจะเป็นชาติก่อนหรือชาตินี้ สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือความลำเอียงอย่างไร้ขีดจำกัดของกู้จือโม่ที่มีต่อเฉินเยวี่ยโชคดีที่ครั้งนี้ฉันไม่ได้สารภาพความรู้สึกออกไป และไม่ได้ทำให้ตัวเองต้องอับอายอีกครั้งการรู้จักประเมินสถานการณ์ รู้จักถอย ทำให้ฉันไม่จำเป็นต้องเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อนร่วมห้องของฉันหันมามองหน้ากันด้วยความสับสน แล้วก็หันมามองฉันด้วยสีหน้ากังวล“ดูเหมือนเธอจะเจ็บหนักนะ จะไปโรงพยาบาลไหม?”แต่ฉันก็ได้ยินเสียงที่พวกเธอกำลังคุยกันอยู่เมื่อครู่มุมมองของเพื่อนร่วมห้องทั้งสามคนนั้นเห็นชัดเจนว่าเฉินเยวี่ยตั้งใจเทน้ำร้อนใส่ตัวเอง ซึ่งยิ่งเป็นหลักฐานว่าเธอคือคนที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ฉันเพียงแค่ยิ้มแล้วส่ายหัว จากนั้นก็ปัดน้ำร้อนที่เลอะกระโปรงออก“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย”ถ้าฉันต้องไปโรงพยาบาลแล้วเจอคู่กรณีคู่นั้นอีก ฉันคงรู้สึกเครียดมากแน่ ๆเรื่องโชคร้ายเพียงแค่นี้ก็มากพอแล้ว ฉันไม่อยากเจออะไรที่แย่กว่านี้อีกในขณะที่ฉันปฏิเสธไป ลั่วอี้ฝานก็จับมือฉันไว้ทันที“อย่าละเลยเชียวนะ ถ้ามีรอยแผล

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 40

    เขาไม่มีวันรู้ว่าเขาประเมินความรักที่เฉินเยวี่ยมีต่อกู้จือโม่ต่ำเกินไปในสายตาของทุกคน พวกเขาคือคู่รักที่สมบูรณ์แบบ หล่อสวยและดูเข้ากันมาก แสนจะเหมาะสมและน่ามองแต่ฉันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในเกมของพวกเขา เป็นคนที่ไม่ควรปรากฏตัว เป็นบุคคลที่สามที่ไม่ควรเข้ามาขัดขวางความรักของพวกเขาบางทีคำพูดนั้นอาจจะจริง คนที่ไม่ได้รับความรักนั่นแหละคือมือที่สามฉันนึกถึงวันหนึ่งในบ่ายที่ฝนตกปรอย ๆ เฉินเยวี่ยอวดสร้อยคอที่เพิ่งได้มา เป็นสร้อยที่กู้จือโม่ประมูลมาให้เธอด้วยเงินก้อนโตถึงแม้ในวันนั้นจะไม่มีแสงแดด แต่สร้อยคอเพชรนั้นกลับส่องแสงระยิบระยับ“เฉียวซิงลั่ว เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? เขาไม่รักเธอหรอก ต่อให้เธอเป็นภรรยาของเขาแล้วจะยังไง? คนที่ไม่ได้รับความรักก็คือมือที่สามอยู่ดี!”บางทีเฉินเยวี่ยอาจจะสังเกตเห็นฉันแล้ว เธอจึงยิ้มเยาะใส่ฉันด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะใช่แล้ว ฉันช่างน่าสมเพชเหลือเกินฉันยื่นจุดอ่อนของตัวเองให้เธอใช้เป็นเครื่องมือในการเหยียบย่ำหัวใจที่อ่อนโยนที่สุดของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า“ฉันไม่อยากเข้าร่วมในเกมของพวกเธออีกต่อไปแล้ว และอย่ามากวนใจฉันอีกเลย ถ้านายรักเธอจริง ๆ ก็ไปแสดงออกให้

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 41

    ฝนที่โปรยปรายกลับกลายเป็นพายุฝนกระหน่ำในชั่วพริบตาแยกไม่ออกว่านั่นเป็นน้ำตาของฉันหรือว่าน้ำฝน แค่รู้สึกว่ามีกลิ่นเค็มลอยโชยในอากาศเขาขับรถออกไปทั้งเช่นนั้น ทิ้งฉันไว้บนพื้นเพียงลำพังความมืดและความหนาวเย็นเข้าครอบงำเจตจำนงของฉันอย่างไม่หยุดหย่อน และห่อหุ้มฉัน กักขังฉันไว้ในกรงอันไร้ที่สิ้นสุดฝันร้ายนี้แทบจะฉีกฉันออกจากกัน หลังห้วงฝันยามเที่ยงคืน ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาเช้าตรู่แล้วฉันเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก เสื้อผ้าของฉันชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อเย็นโชคดีที่ทุกอย่างมันจบลงแล้ว และฉันจะไม่มีวันยอมให้ใครโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดีอีกมหาวิทยาลัยปักกิ่งนั้นใหญ่มาก ถ้าไม่ใช่เพราะจงใจ เกรงว่าจะไม่ได้พบกันอีกตลอดกาลมหาวิทยาลัยปักกิ่งเองก็เล็กมาก ดังนั้นหากมีวาสนา ก็อาจจะได้พบกันบ่อย ๆฉันได้ยินมาว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นดีมากขึ้นเรื่อย ๆ และฉันก็เป็นเหมือนมือที่สามแม้ว่าฉันจะไม่เคยไปปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา แต่ก็มักจะอยู่ในบทสนทนาของพวกเขาเสมอในช่วงเวลาหลังจากนั้น เนื่องจากเพิ่งเปิดเทอม การเรียนจึงยังไม่หนักมากฉันมักจะบังเอิญเจอพวกเขาอย่างไม่น่าเชื่ออยู่เสมอ ดังนั้นฉันจึงริ

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 42

    ที่แท้ก็เป็นกู้จือโม่ เขายื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนในมือมา“น่าจะยังทันใช่ไหมครับ?”เมื่อรุ่นพี่ผู้หญิงเห็นกู้จือโม่เป็นครั้งแรกเธอก็ตกตะลึงอยู่กับที่ ไม่มีแก่ใจมาสนแล้วว่าได้ดึงมือกลับไปหรือไม่ เพียงยืนมองเขาอย่างโง่งมที่เดิมตรงนั้นฉันดึงมือกลับไปอย่างกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย ตอนนี้รุ่นพี่ถึงเพิ่งได้สติกลับมาเธอเม้มริมฝีปากลง รับแบบฟอร์มลงทะเบียนแล้วพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น"ทันจ๊ะ ยินดีต้อนรับเธอเข้ามาเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของชมรมวางแผนกิจกรรมของเรา เพื่อนนักศึกษาเฉียว พวกเธอสองคนเข้ามาไล่เลี่ยกัน ช่างบังเอิญจริง ๆ"สายตาของประธานชมรมนั้นที่มองเราสองคนสลับกันไปมาไม่หยุด มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดใจอย่างมากให้ตายเถอะ ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?ฉันจำได้ว่าเขาชอบเล่นบาสเกตบอล ทำไมไม่ไปเข้าร่วมชมรมบาสเกตบอลเล่า?หรือไม่ก็ไปเข้าร่วมชมรมอะไรก็ได้กับเฉินเยวี่ย จะต้องมาสมัครชมรมวางแผนกิจกรรมที่เหลืออยู่เป็นชมรมสุดท้ายด้วยเหรอ?หรือว่านี่ก็คือเรื่องอย่างพรหมลิขิตหนีก็หนีไม่พ้น จะหลบก็หลบไม่ได้?แต่ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าทุกสิ่งได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว โชคชะตาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ฉันสามารถเปลี

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 43

    ที่น่าแปลกก็คือ เมื่อคืนฉันนอนหลับสบายมากเดิมทีฉันคิดว่าเขาจะติดต่อฉันผ่านทางโทรศัพท์ ส่งข้อความถึงฉันหรือไม่ก็โทรมา เพื่อหารือกับฉันเรื่องจัดสถานที่แต่คืนนี้มันกลับเงียบอย่างน่าประหลาดใจ ราวกับว่าเขาไม่ได้เก็บเรื่องนี้ไปใส่ใจ หรือบางทีเขาอาจจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฉันทว่าเมื่อคิดอีกมุม ฉันก็เข้าใจเหตุผลทั้งหมดบางทีเขาอาจจะไม่ได้อยากสมัครเข้าชมรมแต่แรก ถ้าไม่ใช่เพราะต้องเก็บหน่วยกิตให้ครบแปดหน่วยกิต เขาก็คงไม่ถูกบังคับให้สมัครเข้าร่วมชมรมวางแผนกิจกรรมและถึงแม้ว่าเขาจะอยู่กลุ่มเดียวกับฉัน แต่ก็ไม่อยากให้เฉินเยวี่ยเข้าใจผิดด้วย ดังนั้นเขาจึงรักษาระยะห่างจากฉันเมื่อคิดได้แบบนี้ ฉันก็รู้สึกในใจว่ามันช่างน่าขำ เพียงแต่ตอนนี้ฉันได้ปล่อยวางแล้ว ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาฉันไม่ได้มีความรู้สึกขมขื่นวนเวียนอยู่รอบตัวอีกต่อไป ที่แท้การที่ไม่ถูกใครสักคนบงการหัวใจนั้น มันช่างอิสรเสรีถึงเพียงนี้เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมมื้อเช้าทันทีที่ลงมาที่ชั้นล่าง ก็เห็นว่าไม่ไกลนักมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งยอง ๆ อยู่ข้างพุ่มไม้ในวันปกติธรรมดา ก็มักจะเห็นชายหนุ่มหญิ

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 44

    ฉันยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็หยุดและหันกลับมามองที่ฉัน“ไม่กินมื้อเช้าเหรอ?”ฉันถอนหายใจยาว ทำได้เพียงตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้หลังจากรับประทานมื้อเช้ากันแบบง่าย ๆ เป็นเพราะบรรยากาศอึดอัดเกินไป ฉันก็ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกับเขาราวกับกำลังหนีตายระหว่างที่ฉันจ่ายเงิน เขาก็หยิบของหนัก ๆ แล้วเดินออกไปก่อนเรามาถึงสถานที่จัดประชุมและตัดสินใจตกแต่งสถานที่ ที่นี่พวกรุ่นพี่ได้สร้างเวทีที่เรียบง่ายขึ้นเวทีหนึ่ง พวกเราแค่ต้องตกแต่งสถานที่นี้ตามรูปภาพก็พอฉันหยิบทุกอย่างข้างในถุงออกมา แล้วจัดเรียงมันให้ตรงตำแหน่งเพื่อหน่วยกิต ต้องบอกว่าฉันพยายามอย่างหนักจริง ๆ แต่ก็มักจะรู้สึกเหมือนมีสายตาที่เร่าร้อนจับจ้องฉันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่กลับไม่รู้ที่มาของสายตานี้ฉันเม้มริมฝีปากลง ค่อย ๆ จัดสถานที่ทีละนิดระหว่างพักเบรก เขายื่นเครื่องดื่มมาให้ฉันหนึ่งขวด ฉันปฏิเสธไปอย่างสุภาพ แต่เขากลับบังคับยัดมันใส่มือฉัน“เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนี้หรอก”นี่ไม่เหมือนเขาเลย แต่...ของฟรีแบบนี้ ทำไมจะไม่เอาล่ะ?ดื่มน้ำอัดลมไปห

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 45

    ขืนยังอยู่เป็นก้างขวางคออีก ก็คงเสียมารยาทแล้ว พอเห็นทั้งสองคนที่แสนจะมีความสุขและหวานหยด ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินท้ายที่สุด คนที่ไม่ถูกรักต่างหากถึงจะเป็นมือที่สามฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาถึงหอพักด้วยอารมณ์ความรู้สึกแบบไหน แต่เมื่อฉันนอนลงบนเตียง ภาพที่เขาอุ้มฉันไว้ในอ้อมแขนก็ประเดประดังเข้ามาในหัว ทำให้ฉันรู้สึกแปลกพิกลแต่ด้วยอุปนิสัยเช่นนั้นของเขา แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นคนอื่นเขาก็คงยื่นมือเข้าช่วยเหลือเหมือนกันฉันพยายามขจัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวทั้งหมดออกไป จากนั้นก็หลับไปอย่างสงบในความฝัน ฉันฝันว่าพวกเขาสองคนกำลังกอดกัน ส่วนฉันซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เป็นเหมือนหัวขโมยที่คอยแอบดูความสุขของคนอื่นฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา โชคดีที่ทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันก็เปลี่ยนไปสวมชุดใหม่ที่สะอาดและคล่องตัว เตรียมจะไปจัดสถานที่คนเดียว แต่กลับได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่รู้จักสายหนึ่ง “สวัสดีค่ะ”ฉันกดรับสายอย่างสุภาพ แม้จะไม่รู้ว่าใครโทรมา แต่มันก็ทำให้ฉันประหลาดใจอย่างมาก“ฉันไม่โอเค”น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังส่งมา ทำให้ฉันยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีกเขาโทรหาฉันทำไม?

    Last Updated : 2024-11-11

Latest chapter

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 236

    บนใบหน้าของลั่วอี้ฝานมีแววประหลาดใจเล็กน้อย คล้ายกับได้เจอเพื่อนรู้ใจที่เข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร ผู้อาวุโสหนานก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า “สาวน้อย เธอเล่นหมากรุกเป็นไหม?” จู่ ๆ ก็ถูกเรียกชื่อ ฉันนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะได้สติกลับมาแล้วตอบว่า “เคยเล่นในมือถือไม่กี่ครั้งเองค่ะ ดูเหมือนว่าจะเล่นไม่เป็นค่ะ” ฉันพูดอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งดูเหมือนผู้อาวุโสหนานจะชอบความตรงไปตรงมาของฉันเช่นกัน ท่านโบกมือเรียกฉันพร้อมพูดว่า “มานี่สิ เดี๋ยวฉันสอนให้” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปหา นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของกระดานหมากรุก ผู้อาวุโสหนานอธิบายกฎของหมากล้อมให้ฉันฟัง ฉันตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ ไม่นานนักผู้ช่วยก็เอากระดานหมากรุกชุดใหม่มาให้ ผู้อาวุโสหนานส่งหมากสีดำให้ฉันพร้อมพูดว่า “ลองดูไหม?” ฉันรับมาก่อนจะพูดด้วยความลำบากใจปนลังเลว่า “แต่คุณปู่ต้องอย่าโกรธจนปาแผ่นกระดานนะคะ” “แล้วก็ห้ามไล่พวกเราออกไปด้วยนะคะ”ฉันกอดถ้วยหมากล้อมไว้ มือขวาหยิบหมากสองตัวขึ้นมา พร้อมกล่าวว่า “แม่น้ำแยงซีคลื่นลูกเก่าผลักดันคลื่นลูกใหม่ คุณต้องให้โอกาสพวกเราเติบโตบ้างนะคะ” ความจริงตอนที่พูดคำพวก

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 235

    ออกจากบ้านเดิมตระกูลเฉียว ฉันกับลั่วอี้ฝานขึ้นรถแล้วจากไปทันทีที่ขึ้นรถเสียงหยอกล้อของลั่วอี้ฝานก็ดังขึ้นทันที "เฉียวซิงลั่ว เธอเตรียมตัวมาดีจริง ๆ ถึงขั้นพกเครื่องรูดบัตรมาเลยเหรอ? ในกระเป๋าเธอคงไม่ได้ใส่เครื่องนับเงินมาด้วยใช่ไหม? เอามาให้ฉันดูหน่อยสิ จะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง"มือข้างหนึ่งของเขายื่นมาตรงหน้าฉันฉันตบมือลงบนฝ่ามือของเขาเสียงดัง "เพียะ!" พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงรำคาญ "ฉันจะพกเครื่องนับเงินไปทำไมกันล่ะ"แถมหลี่เหม่ยอิงก็คงไม่พกเงินสดหนึ่งร้อยล้านบาทมาให้ฉันหรอกโง่จริง ๆ"นี่" ฉันคลายมือออก เผยให้เห็นบัตรเอทีเอ็มที่อยู่ด้านล่างลั่วอี้ฝานตาเป็นประกายทันที เขาหยิบบัตรเอทีเอ็มขึ้นมา พร้อมกับอุทานอย่างตกใจว่า “นี่มันไม่ใช่หนึ่งร้อยล้านบาทที่หลี่เหม่ยอิงให้เธอหรอกเหรอ?!”"ใช่แล้ว เอาไว้เป็นเงินสำรองสำหรับบริษัท""ดีขนาดนี้เชียว?" ลั่วอี้ฝานเลิกคิ้วฉันตอบ "ใช่ บริษัทมีปัญหา ฉันก็ช่วยได้แค่เรื่องเงินนี่แหละ""ว่าแต่ พรุ่งนี้ไปเจอผู้อาวุโสหนาน นายเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ"ฉันมองไปที่ลั่วอี้ฝานเขาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ส่วนฉันก็แค่ช่วยเปิดทางเล็กน้อยถ้าเขาไม่ไป โครง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 234

    เมื่อมองเฉียวซิงอวี่ ฉันเผลอคิดเพลินไปว่าที่จริงแล้วเธอก็โชคดีไม่น้อยไม่ว่าจะอย่างไร หลี่เหม่ยอิงก็ยังรักเธอและพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้สิ่งที่ดีที่สุดแม้ฉันจะเคยด่าว่าเธอทั้งโง่ทั้งไร้เดียงสา แต่บางทีความโง่และไร้เดียงสาแบบนี้อาจเป็นความสุขอย่างหนึ่ง“ฉันง่วงแล้ว จะไปนอนก่อน” ฉันลุกขึ้น ไม่สนใจลั่วอี้ฝาน “ถ้านายไม่กลับบ้านคืนนี้ ก็ไปนอนที่ห้องรับรองแล้วกัน”……เช้าวันรุ่งขึ้นฉันกับลั่วอี้ฝานพาบอดี้การ์ดคุมตัวเฉียวซิงอวี่กลับไปที่บ้านเก่าของตระกูลเฉียว ในตอนที่ไปถึงหลี่เหม่ยอิงก็รออยู่ที่นั่นด้วยสีหน้ากระวนกระวายเฉียวซิงอวี่อุทานออกมาด้วยความดีใจ “แม่คะ!”“ซิงอวี่!” หลี่เหม่ยอิงรีบวิ่งเข้ามาหาพวกเราโดยไม่ทันคิด“หยุดอยู่ตรงนั้น!”ลั่วอี้ฝานตะโกนห้าม น้ำเสียงเย็นชาเต็มไปด้วยการข่มขู่ “ถ้าคุณกล้าเข้ามาอีกก้าวเดียว เราจะไม่ออมมือกับเธอ”หลี่เหม่ยอิงหยุดการเคลื่อนไหวทันที ดวงตามองฉันอย่างเย็นชา ราวกับงูพิษที่กำลังแลบลิ้น "เฉียวซิงลั่ว การลักพาตัวมันผิดกฎหมายนะ!"“แล้วการเอาน้ำกรดมาสาดคนอื่นไม่ผิดกฎหมายหรือไง?” ฉันสวนกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความเย็นชาหลี่เ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 233

    ฉันโทรหาหลี่เหม่ยอิงครั้งแรกเธอไม่รับ ฉันจึงโทรซ้ำอีกครั้งเสียงของหลี่เหม่ยอิงเต็มไปด้วยความโกรธเมื่อเธอรับสาย “เฉียวซิงลั่ว นางเด็กสารเลว พ่อเธอตายเพราะเธอแล้ว ยังจะโทรมาหาฉันอีกทำไม!”ฉันไม่ได้ตอบอะไร ทว่าใช้เล็บที่เพิ่งทำใหม่ขึ้นมาแตะใบหน้าที่แดงก่ำจากการถูกตบของเฉียวซิงอวี่เฉียวซิงอวี่ร้องไห้ออกมาทันที “แม่คะ ช่วยหนูด้วย!”หลี่เหม่ยอิงเงียบไปชั่วขณะก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปทันที “ซิงอวี่เหรอ? เฉียวซิงลั่ว เธอทำอะไรลูกสาวฉัน!”“หึ” ฉันหัวเราะเยาะ เอาโทรศัพท์แนบหู “คุณป้าพูดผิดแล้วล่ะค่ะ ไม่ใช่ฉันที่ทำอะไรน้องสาวตัวเอง คุณป้าน่าจะถามลูกสาวที่แสนดีมากกว่าว่าเธอทำอะไรฉัน”“ให้เวลาครึ่งชั่วโมง... ไม่สิ” ฉันหยุดคิดและเผยรอยยิ้ม “พรุ่งนี้เช้าเก้าโมง เจอกันที่บ้านเดิมตระกูลเฉียว” พูดจบ ฉันก็ตัดสายทันที…… ที่อะพาร์ตเมนต์หลี่เสี่ยงลั่วอี้ฝานมัดมือและเท้าของเฉียวซิงอวี่ แล้วโยนเธอไว้ที่ระเบียงเฉียวซิงอวี่ยังคงร้องไห้เสียงดัง “เฉียวซิงลั่ว ปล่อยฉันนะ! เธอไม่มีสิทธิ์มาจับฉัน! ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ฉันรำคาญเสียงร้องไห้ของเธอ จึงเดินไปที่ครัว เพื่อหยิบผ้าขี้ริ้วออกมา

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 232

    เมื่อเห็นว่าฉันปลอดภัย ลั่วอี้ฝานจึงลากร่างของคนที่สาดน้ำกรดใส่ฉันขึ้นมาฉันเดินเข้าไปใกล้พวกเขา ยกมือขึ้นถอดหน้ากากของคนร้ายทันใดนั้นเองใบหน้าของเฉียวซิงอวี่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าฉัน"เฉียวซิงอวี่?"ฉันจ้องมองใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ดวงตาแดงก่ำ เธอตะโกนด้วยเสียงสะอื้น “ทำไมเธอไม่ไปตายซะ! เฉียวซิงลั่ว ทำไมเธอไม่ไปตายซะ!""แกทำลายพ่อฉัน ทำลายครอบครัวฉันจนพังพินาศ!""เฉียวซิงลั่ว นางสารเลว! ไปตายซะ!""ฉันไม่น่าจะใช้แค่น้ำกรดสาดแก ฉันควรจะเอามีดแทงแกให้ตายไปเลยด้วยซ้ำ!"ใบหน้าฉันเริ่มเย็นชาเมื่อได้ยินคำพูดของเฉียวซิงอวี่ เมื่อเธอพูดจบฉันก็ยกมือขึ้นตบหน้าอีกฝ่ายด้วยแรงทั้งหมดที่มีฉันใส่แรงทั้งหมดลงไปในฝ่ามือนั้นใบหน้าครึ่งหนึ่งของเฉียวซิงอวี่แดงก่ำและบวมขึ้นทันที หมวกที่เธอสวมหล่นลงพื้น เผยให้เห็นผมยาวสยายฉันมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอคนที่มีสายเลือดครึ่งหนึ่งเหมือนกับฉันเมื่อครั้งที่อยู่บนเรือ ฉันเคยรู้สึกผิดที่ทำร้ายเธอ เพราะต้องการปกป้องตัวเองจากแผนการของเฉียวเจี้ยนกั๋ว แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกดีใจที่ครั้งนั้นฉันไม่ลังเลที่จะลงมือสำหรับคนในตระกูลเฉียว นอกจากคุณ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 231

    เมื่อพูดจบผู้อาวุโสหนานก็เดินจากไปสีหน้าของประธานหลี่ย่ำแย่จนเกินจะบรรยาย อีกไม่นานก็มีชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนผู้ช่วยเดินเข้ามาหาเขาและกระซิบอะไรบางอย่างข้างหู จากนั้นเขาก็สะบัดมือออกจากมือของคุณหนูคนนั้นอย่างแรงเพราะสวมรองเท้าส้นสูงอยู่ คุณหนูคนนั้นจึงถูกสะบัดจนเสียหลักล้มลงไปนั่งกับพื้นทันที แถมยังทำเครื่องดื่มบนโต๊ะข้าง ๆ หกใส่ตัวเองจนเปียกโชกไปทั้งชุดอีกเสื้อผ้าชุดใหม่ของเธอเปียกชุ่มจนดูน่าเวทนา ใบหน้าแสดงออกทั้งความอับอายและความโกรธ แต่ก็ต้องอดกลั้นไว้“นี่มันอะไรกัน! กล้าทำตัวแบบนี้ใส่คนอย่างผู้อาวุโสหนานอีก ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอคงไม่ได้เฉียดเข้ามาในงานนี้หรอก!”ประธานหลี่กดเสียงต่ำ คำพูดที่ออกมาล้วนหยาบคายและน่ารังเกียจสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่พวกเขา ประธานหลี่รีบเปลี่ยนท่าทีเป็นคนสุภาพนุ่มนวล ยื่นมือพยุงคุณหนูขึ้นพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “ทำไมถึงไม่ระวังเลย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า? เสื้อผ้าก็เลอะหมดแล้ว เดี๋ยวผมพาคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะ”พูดจบเขาเรียกพนักงานเสิร์ฟมาถามหาห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะพาหญิงสาวออกจากงานไปลั่วอี้ฝานขมวดคิ้วพลางเอ่ยเบา ๆ “ผีเน่ากับโลงผุจริง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 230

    ฉันครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบา ๆไม่นานนักฉันกับลั่วอี้ฝานก็เดินมาถึงห้องจัดเลี้ยง เสียงดนตรีไพเราะบรรเลงไปทั่ว ผู้คนต่างจับกลุ่มกันพูดคุยหรือเดินถือแก้วแชมเปญไปมา ทั้งหมดต่างต้องการใช้โอกาสในงานเลี้ยงนี้เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับตัวเองซึ่งฉันกับลั่วอี้ฝานก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันเพราะปกติฉันไม่ค่อยออกสังคม ลั่วอี้ฝานจึงพาฉันไปทำความรู้จักกับคนอื่น ๆเพิ่งแนะนำตัวกับบางคนเสร็จ ลั่วอี้ฝานก็เหลือบมองเป้าหมายอีกคนที่สะดุดตาเข้าอย่างจังเขาใช้ศอกสะกิดฉันเบา ๆ ฉันจึงมองตามสายตาของเขาแล้วพูดว่า "ประธานสวีก็มาเหมือนกัน ไปกันเถอะ เราไปทักทายเขาหน่อย"“ได้สิ”ลั่วอี้ฝานพาฉันเดินไปหาประธานสวี แต่พอเดินไปได้ครึ่งทาง จู่ ๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเราฉันเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ และเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ฉันก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นนี่คงเป็นผลกระทบจากการช่วยเหลือครั้งนั้น“เธอคนนี้แหละ”หญิงสาวผู้ดีคล้องแขนชายคนหนึ่งไว้ แล้วชี้มาที่ฉันพร้อมกับทำเสียงออดอ้อนว่า “ประธานหลี่ต้องช่วยฉันเอาคืนเธอให้ได้นะคะ”“กล้านักนะ กล้ารังแกคนของหลี่ซู่คนนี้ได้ยังไง?” ประธานหลี่มอง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 229

    เมื่อแขกที่ผ่านไปมาต่างหยุด ทว่าไม่มีใครออกหน้ามาช่วยพูดแทนชายชราเลยแม้กระทั่งคนที่เห็นชัดเจนว่าแท้จริงแล้วหญิงสาวคนดังกล่าวเดินไม่ระวังเองชายชราถูกต่อว่าจนหน้าแดง แต่ยังคงกล่าวขอโทษต่อไป “ขอโทษนะ คุณหนู ชุดของเธอราคาเท่าไหร่ ฉันจะชดใช้ให้...”“ผู้หญิงคนนี้นี่น่ารังเกียจจริง ๆ” ลั่วอี้ฝานขมวดคิ้ว มองดูความวุ่นวายตรงหน้าฉันหันไปมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนก้าวเท้าเดินเข้าไปยืนข้างชายชรา แล้วส่งยิ้มให้คุณหนูคนดังกล่าวพลางพูดว่า "เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณปู่นะคะ"จากนั้นฉันหันกลับไปเผชิญหน้าหญิงสาวที่แต่งหน้าอย่างประณีต พร้อมชี้ไปที่กล้องด้านบน “ที่นี่มีกล้องวงจรปิด อยากให้เราเรียกมาตรวจดูไหมว่าใครกันแน่ที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ?”หญิงสาวมองฉันด้วยความประหลาดใจ “เธอเป็นใคร?”“ฉันเป็นใครไม่สำคัญหรอก สำคัญคือต้องเรียกดูภาพจากกล้องวงจรปิด” ฉันหันไปส่งสัญญาณให้ลั่วอี้ฝานลั่วอี้ฝานเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แต่พอเห็นฉันส่งสายตามาให้ เขาก็เข้าใจทันที ก่อนเรียกพนักงานคนหนึ่งมา “ไปตามผู้จัดการของพวกคุณมา”สมแล้วที่เป็นหุ้นส่วนของฉัน เข้าขากันได้ดีไม่มีที่ติฉันขยิบตาให้ลั่วอี้ฝานด้วยความพอใจเขาย

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 228

    ฉันง่วงมากจนไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน พอรู้ตัวอีกที เสียงของลั่วอี้ฝานก็ดังขึ้นปลุกฉัน“ซิงลั่ว ตื่นเถอะ”ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างงงงวย มองไปรอบ ๆ อย่างสับสนดูเหมือนว่าเราจะจอดอยู่หน้าร้านเช่าชุดราตรี ฉันเปิดประตูรถลงไปถามว่า “มาที่นี่ทำไม?”“ลืมแล้วเหรอ?”เสียงของลั่วอี้ฝานดังขึ้นอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “ลืมจริง ๆ เหรอ?”“อ๋อ” ฉันพึ่งจะนึกออก หลังจากที่เขาโทรมาบอกตอนกลางวันว่า ตอนเย็นจะพาฉันไปเจอใครบางคน ดูเหมือนว่าเป้าหมายของเราคือไปร่วมงานเลี้ยงไม่นานนัก เราก็เลือกชุดราตรีจากร้านเสื้อผ้าได้หนึ่งชุด พร้อมทั้งจัดแต่งทรงผมและแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยเมื่อออกมาจากร้านชุดราตรี รถเบนท์ลีย์สีดำสำหรับนักธุรกิจจอดรออยู่ตรงหน้าฉันลั่วอี้ฝานผายมือเชิญอย่างสุภาพ ฉันหันไปมองเขาพลางถาม “เปลี่ยนรถแล้วเหรอ?”“อืม” เขาดูเวลาที่นาฬิกา จากนั้นเปิดประตูรถ “เร็วเข้า เดี๋ยวจะไม่ทันเอา”บนรถ เขาเพิ่งเล่าให้ฉันฟังว่าในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เขาได้ขยายทีมงานเพิ่มขึ้น ทั้งจ้างคนขับรถและพนักงานใหม่ อีกทั้งยังเล่าถึงครั้งหนึ่งที่เขาไปเจรจาธุรกิจ แต่ถูกยกเลิกการนัดหมาย เพราะแต่งตัวไม่เป็นทางการและรถที่ใ

DMCA.com Protection Status