แชร์

บทที่ 45

ผู้เขียน: ลูกพีชแสนสวย
ขืนยังอยู่เป็นก้างขวางคออีก ก็คงเสียมารยาทแล้ว พอเห็นทั้งสองคนที่แสนจะมีความสุขและหวานหยด ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน

ท้ายที่สุด คนที่ไม่ถูกรักต่างหากถึงจะเป็นมือที่สาม

ฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาถึงหอพักด้วยอารมณ์ความรู้สึกแบบไหน แต่เมื่อฉันนอนลงบนเตียง ภาพที่เขาอุ้มฉันไว้ในอ้อมแขนก็ประเดประดังเข้ามาในหัว ทำให้ฉันรู้สึกแปลกพิกล

แต่ด้วยอุปนิสัยเช่นนั้นของเขา แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นคนอื่นเขาก็คงยื่นมือเข้าช่วยเหลือเหมือนกัน

ฉันพยายามขจัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวทั้งหมดออกไป จากนั้นก็หลับไปอย่างสงบ

ในความฝัน ฉันฝันว่าพวกเขาสองคนกำลังกอดกัน ส่วนฉันซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เป็นเหมือนหัวขโมยที่คอยแอบดูความสุขของคนอื่น

ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา โชคดีที่ทุกอย่างเป็นเพียงความฝัน

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันก็เปลี่ยนไปสวมชุดใหม่ที่สะอาดและคล่องตัว เตรียมจะไปจัดสถานที่คนเดียว แต่กลับได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่รู้จักสายหนึ่ง

“สวัสดีค่ะ”

ฉันกดรับสายอย่างสุภาพ แม้จะไม่รู้ว่าใครโทรมา แต่มันก็ทำให้ฉันประหลาดใจอย่างมาก

“ฉันไม่โอเค”

น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังส่งมา ทำให้ฉันยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก

เขาโทรหาฉันทำไม?
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
สุกัญญา แสงเพ็ง
ไอ้กู้มันเฮี้ยของแท้ใช่ไหม
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 46

    ชั่วครู่หนึ่ง ฉันถูกบีบให้เข้าสู่ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้าฉันปฏิเสธเขา ฉันจะกลายเป็นคนถ่อยที่เนรคุณคนทันทีแต่ถ้าฉันตอบตกลง ก็กลัวว่าจะเข้าไปพัวพันกับเขาอีก“ฉันไม่บังคับเธอหรอกนะ ถ้าเธอไม่เต็มใจ ก็ลืมมันไปซะเถอะ อย่างที่คิดไว้เลย ทำดีไม่ได้ดีจริง ๆ ด้วย”กู้จือโม่ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของสายถอนหายใจยาว เสียงนี้เป็นเหมือนกับเสียงของปีศาจที่วนเวียนอยู่ในหัวใจของฉันไม่หยุด“อีกเดี๋ยวฉันจะไปถึงที่นั่น”ขณะที่เขากำลังจะวางสาย ฉันก็ตอบตกลงต่อให้เราจะใกล้ชิดกันสักสองสามวันแล้วจะทำไม ฉันไม่มีทางเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีกับเขาอย่างมากสุด อีกหน่อยก็อยู่ให้ห่างจากเขาเยอะหน่อยฟังจากที่พูดมา เหมือนว่าเขาจะยังไม่ได้กินข้าวเช้า ฉันเลยรีบนั่งแท็กซี่ไปที่ร้านอาหารเช้าใกล้โรงพยาบาล แล้วซื้ออาหารเช้าสองสามอย่างแล้วหิ้วมันไปที่โรงพยาบาลด้วยกันกู้จือโม่ในเวลานี้กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสง่างาม เขาก็แค่กระดูกมือหัก ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมเขาถึงต้องเข้าแอดมิดในโรงพยาบาลด้วยเมื่อเห็นฉันมาถึง เขาก็เริ่มทักทายฉันทันที“เมื่อวานฉันนอนเฝ้าดูอาการอยู่ที่นี่ตลอดทั้งคืน ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ต

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 47

    นิ้วเรียวยาวของเขากำลังดึงสายกางเกง เหมือนว่าจะเป็นเพราะมือของเขาเข้าเฝือกอยู่ เลยทำให้มัดเชือกได้ยากถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาสวมกางเกงเสร็จแล้ว ฉันคงได้เห็นเขาล่อนจ้อนจริง ๆวินาทีนั้น ฉันรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองแดงเหมือนกุ้งที่เพิ่งต้มสุกเลย“นาย…”ฉันอยากจะตำหนิเขา แต่ก็รู้สึกเขินอายอย่างมาก จึงหันหลังกลับและรีบวิ่งออกไปให้ตายสิ ทำไมเขาถึงได้น่ารำคาญขนาดนี้นะ?ฉันที่ยืนอยู่ที่ประตูรู้สึกเหมือนหัวใจตึกตักไม่หยุด ใบหน้าแดงก่ำมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งแดงจนร้อนผ่าวแม้แต่การหายใจก็ยังหอบกระชั้น แทบจะขาดอากาศหายใจอยู่แล้วฉันหลับตาลงอย่างตื่นเต้น แต่ในหัวก็เอาแต่นึกถึงนิ้วยาวของเขาที่กำลังดึงสายกางเกงไม่หยุดมองดูผ้าห่มที่ยังไม่ได้พับซึ่งกองอยู่บนเตียง ฉันก็รีบปรี่ขึ้นไปแล้วพับผ้าห่มผืนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งเขาเดินออกมา ฉันถึงได้วางผ้าห่มไว้ข้าง ๆฉันหันหน้าหนีทันที ไม่กล้าเผชิญหน้าเขาส่วนเขารอบตัวกลับปลดปล่อยกลิ่นอายที่เจ้าเล่ห์ออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นด้านหนึ่งของกู้จือโม่ที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน“อะไร เธอเขินเหรอ?”น้ำเสียงของเขามีเสน่ห์อย่างมาก ฉันรู้สึกเหมือนว่าขื

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 48

    ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นรดลงมาและกระจายไปโดนใบหูและแก้มของฉันแต่เดิมฉันก็เป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลามีคนมาพูดที่ข้างหู จึงทำให้ฉันยิ่งเขินอายเข้าไปใหญ่ ใบหูแดงก่ำจนเกือบสุกเขายื่นมือออกมากอดฉันไว้ จากนั้นก็ก้มศีรษะลงมาริมฝีปากบางเฉียดผ่านแก้มของฉันไปเบา ๆดวงตาคู่นั้นมันช่างล้ำลึกเหมือนเหมือนจะรวบรวมเอาความเวิ้งว้างของกาแล็กซีไว้ แค่ได้มองครั้งเดียวก็ทำให้คนตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้นเมื่อเห็นริมฝีปากบางขยับเข้ามาใกล้ฉัน ฉันก็รู้สึกราวกับมีมนต์สะกดมาพันธนาการตัวฉันไว้ ฉันจับเชือกมัดกางเกงนั้นด้วยมือทั้งสองข้างและยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ แม้แต่ลมหายใจก็กระชั้นแทบจะหยุดลงผู้ชายที่เคยทำให้ทั้งชีวิตนั้นของฉันน่าทึ่ง จะไม่หวั่นไหวเมื่อพบเขาเป็นครั้งที่สองได้อย่างไรเมื่อคุณพบใครสักคนที่น่าทึ่งมากเมื่อสมัยยังเด็ก น่ากลัวว่าไม่เพียงแต่คุณจะไม่สามารถลืมมันได้ตลอดทั้งชีวิต แม้ว่าจะมีโอกาสกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ก็ยังไม่อาจหนีพ้นเป็นเหมือนกับกับดักที่ทำให้ใจเต้น และก็เป็นเหมือนตาข่ายความรักที่ผูกมัดผู้คนไว้แน่นโดยไม่รู้ตัวเขากำลังจะจูบปากของฉัน และฉันเองก็แอบคาดหวังนิด ๆ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 49

    หลังจากที่เฉินเยวี่ยพูดจบ ฉันก็ตกตะลึงไปสองวินาทีก่อนที่จะกลับมาได้สติอีกครั้งเธอเดินขึ้นมา จับมือของฉันแล้วถามฉันอย่างจริงใจ “ลั่วลั่ว เธอจะอวยพรให้กับฉันและอาโม่ใช่ไหม?"ฉันมองดูท่าทางคาดหวังของเฉินเยวี่ย แล้วดึงมือของตัวเองกลับ“ขอโทษทีนะ ฉันคิดว่าพวกเธอไม่ต้องการคำอวยพรจากฉันหรอก ยังไงพวกเธอก็ต้องมีชีวิตที่ดีมากอยู่แล้ว”“แต่พวกเราไม่ใช่เพื่อนกันเหรอ?”ฉันอยากจะหัวเราะเล็กน้อย เฉินเยวี่ยเห็นว่าฉันเป็นนางโง่รึไง?ไม่ใช่ว่าฉันจะสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงในพักนี้ของกู้จือโม่ไม่ได้ เพียงแต่ว่าถูกงูกัดครั้งหนึ่งกลัวเชือกไปสิบปี ฉันยังจดจำหลักการนี้ได้อย่างขึ้นใจตอนนี้ฉันมีความฝันที่อยากจะทำมันให้สำเร็จแล้ว มีชีวิตที่อยากจะมี ห้วงทุกข์ในอดีต มีแต่จะเตือนฉันว่าให้อยู่ให้ห่างจากเขา“เฉินเยวี่ย” ฉันมองเธออย่างเย็นชาและยิ้ม “สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ว่าเธอกำลังจะกลายเป็นหลานสะใภ้ของตระกูลกู้ และเป็นคู่หมั้นของกู้จือโม่ในเร็ว ๆ นี้หรอกเหรอ?”“ทำไมฉันถึงมองเห็นความหวาดกลัวจากในสายตาของเธอกันล่ะ?”ฉันเปิดโปงความคิดของเฉินเยวี่ยออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ใบหน้าที่ไร้เดียงสานั้นฉับพลันจึงบิดเบี้ย

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 50

    ฉันจับมือของเธอลงมาแล้วส่ายหัว "เปล่า วันนี้ฉันแค่เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ"“แล้วพวกนั้นล่ะ?”“ไม่รู้สิ น่าจะใกล้กลับมาแล้วมั้ง พวกนั้นออกไปช้อปปิ้ง ฉันไม่ได้ไปด้วย แค่ไปเดินเล่นที่สนามกีฬาน่ะ”“โอเค งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”“ไปเถอะ ถ้ารู้สึกไม่ดีก็รีบเก็บของและพักผ่อนซะนะ”หลังจากที่ฉันออกจากห้องน้ำ ทุกคนก็กลับมาแล้ว ฉันพูดหยอกล้อกับพวกเธออีกสักพัก แล้วจึงขึ้นเตียงนอนประมาณสี่ทุ่ม กู้จือโม่ก็ส่งข้อความมาบอกให้ฉันไปที่โรงพยาบาลในเช้าวันพรุ่งนี้ เพราะพยาบาลพิเศษติดธุระบางอย่างเลยจะไม่มาทำงานแล้วฉันมองดูตัวอักษรบนหน้าจอแต่ละแถว จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามันน่าหัวเราะเขากำลังจะหมั้นหมายกับเฉินเยวี่ย แต่ก็ยังมาเกาะแกะฉันอีก นี่เขาหมายความว่ายังไง?ฉันซุกโทรศัพท์ไว้ใต้หมอน หลับตาแล้วพยายามทำให้ตัวเองหลับไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเที่ยงคืน ฉันก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโอนเงินไปให้กู้จือโม่ก้อนหนึ่ง จากนั้นก็บล็อกวีแชทของเขาไปตลอดคืนไร้ซึ่งความฝันเนื่องจากเพิ่งจะเปิดเทอม ตารางเรียนของพวกเราจึงยังไม่ออกมาโดยส่วนใหญ่ทุกคนจึงว่างกันมากฉันเพิ่งจะมองหางานพาร์ทไทม์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเสื้อผ้าผ่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 51

    ฉันกำหมัดไว้ข้างหลังตัวเอง ในขณะที่น้ำเสียงเย็นชา “ก็อย่างที่นายเห็นนั่นแหละ”“เธอบล็อกฉันเหรอ?”กู้จือโม่ถามด้วยสีหน้าที่เข้มขึ้นฉันมองเขาแล้วยิ้ม “ก็เห็น ๆ กันอยู่นี่ไง”สีหน้าของกู้จือโม่จากหม่นหมองกลายเป็นเคร่งเครียด ดวงตาของเขาจ้องมาที่ฉันเหมือนจะเผาฉันให้เป็นจุณ มือที่ห้อยอยู่ข้างลำตัวกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นมาฉันเริ่มรู้สึกกลัวโดยสัญชาตญาณ จึงถอยหลังไปหนึ่งก้าวแต่ในทันทีนั้นเอง มือใหญ่มาก็วางลงบนบ่าของฉันฉันหันกลับไปมอง ก็พบลั่วอี้ฝานยืนอยู่ เขามองฉันด้วยดวงตาแฝงไปด้วยความสนุกสนาน“อรุณสวัสดิ์นะ ที่รักของฉัน”ฉันเงียบ “...”ฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำเรียกของลั่วอี้ฝาน แล้วส่งสายตาให้เขาปล่อยมือจากไหล่ฉันแต่เขากลับเลิกคิ้วขึ้น เหมือนจงใจไม่ยอมปล่อยการที่ฉันกับลั่วอี้ฝานเงียบกันแบบนี้ ในสายตาของกู้จือโม่คงดูเหมือนว่าเรากำลังหยอกล้อกันกู้จือโม่ใช้มือข้างที่ไม่ได้ใส่เฝือกจับข้อมือของฉัน ในขณะเดียวกันลั่วอี้ฝานก็เหมือนจะรู้ทัน เขาก็จับข้อมือของฉันอีกข้างไว้เช่นกันทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างแรงราวกับอยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายตอนนี้เป็นเวลาประมาณเก้าโมงเช้า นักศึกษาท

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 52

    ฉันเดินใต้ร่มไม้ไปสักพัก กลิ่นหอมของต้นไม้และใบไม้รอบตัวทำให้จิตใจของฉันสงบขึ้น“วันนี้เธอมีเรียนไหม?” ลั่วอี้ฝานวิ่งตามมาจากข้างหลัง “ฉันจะพาเธอไปกินของอร่อย”ในช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับลั่วอี้ฝานเริ่มซับซ้อนขึ้น มันไม่ใช่ทั้งเพื่อนและก็ไม่ใช่แค่คนรู้จักฉันยังจำความเจ็บปวดที่เขานำมาให้ฉันในชาติก่อนได้ชัดเจน แต่ในชาตินี้ฉันก็เห็นว่าเขากำลังช่วยฉันหลายอย่าง“ฉันไม่อยากไปกินกับนาย” ฉันหยุดเดินและรอให้เขาเดินมาถึง “อีกอย่าง ฉันไม่ได้ชอบกู้จือโม่และยิ่งไม่ได้ชอบนายด้วย ดังนั้นถ้ามีปัญหาอะไรก็แค่ทำเป็นไม่รู้จักฉันก็พอ”ฉันพูดจบแล้วก็ไม่สนใจสีหน้าของลั่วอี้ฝาน ก่อนจะเดินจากไปทันทีการเรียนในสาขาออกแบบเสื้อผ้าไม่เข้มงวดมาก ส่วนใหญ่ไม่ต้องเรียนในห้องเรียนช่วงเช้าเราต้องไปดูขั้นตอนการผลิตผ้าที่โรงงาน จนถึงเที่ยงถึงได้กลับมาพอกลับมาถึงมหาวิทยาลัย โรงอาหารก็หมดเวลาอาหารกลางวันไปแล้วฉันไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ จึงตัดสินใจไม่ทานอาหารกลางวัน และกลับห้องพักทันทีระหว่างทางฉันได้รับสายจากเฉิงเฉิงเฉิงเฉิงต้องฝึกทหารนานกว่าเรา ช่วงนี้เธอยังอยู่ในการฝึกเดินแถวอยู่เลยเธอโทรมาหาฉันระหว่าง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 53

    เมื่อคืนฉันฝันร้ายตลอดทั้งคืนเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้าก็เลยรู้สึกปวดหัวและเวียนหัว สมองมึนงงไปหมด สภาพโดยรวมไม่ค่อยดีนักฉันทำทุกอย่างด้วยความงุนงง ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นหยิบกระเป๋าเตรียมไปเรียนจู่ ๆ เจี่ยนซินที่นั่งอยู่บนเตียงก็เรียกฉันไว้ “ลั่วลั่ว เธอจะไปไหนเหรอ?”“ฉันจะไปเรียน” ฉันหันกลับไปมองพวกเธอ เห็นว่าเจี่ยนซินและหลี่เสี่ยวอวี่ยังใส่ชุดนอนอยู่ จึงรู้สึกแปลกใจ “จะเก้าโมงแล้วนะ ทำไมพวกเธอยังไม่ลุกกันล่ะ ไม่กลัวสายเหรอ?”หลี่เสี่ยวอวี่กับเจี่ยนซินหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะเจี่ยนซินสวมรองเท้าแตะแล้วรีบเดินมาหาฉัน เธอยื่นมือมาจับหน้าผากฉัน “เด็กคนนี้ก็ไม่ได้เป็นไข้นี่นา”หลี่เสี่ยวอวี่พูดขึ้น “ซิงลั่ว วันนี้วันเสาร์นะ”ฉันนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ฉันแขวนกระเป๋าไปที่ตะขอ แล้ววิ่งไปกระโดดขึ้นเตียงอย่างรวดเร็ว “เยี่ยมไปเลย งั้นฉันจะนอนต่ออีกหน่อย”ครั้งนี้ฉันหลับลงอย่างรวดเร็ว และไม่มีฝันร้ายอีกแล้วฉันตื่นขึ้นเพราะถูกเสียงโทรศัพท์ปลุกหัวหน้าชมรมโทรมาบอกว่าเย็นนี้จะมีงานเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่หัวหน้าชมรมพูดต่อไป ฉันคิ

บทล่าสุด

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 348

    แววตาของเขาสะท้อนอารมณ์ที่ซับซ้อนออกมาเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยขึ้นว่า “ฉันแค่เป็นห่วงเธอ ไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บหรือเจอเรื่องร้าย”ฉันถอนหายใจเบา ๆ ในใจรู้สึกซับซ้อนอยู่ไม่น้อยความห่วงใยของกู้จือโม่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกดดันไปด้วยฉันไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด และยิ่งไม่อยากให้เขาทำอะไรที่หุนหันพลันแล่นเพราะความเข้าใจผิดนั้น“กู้จือโม่ ฉันรู้ว่านายหวังดี แต่ฉันกับซูข่ายเหวินเป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ เราทั้งคู่กำลังพยายามเปิดโปงความผิดของศาสตราจารย์จาง ฉันหวังว่านายจะเข้าใจนะ”ฉันพยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูจริงใจที่สุดเขาเงียบไปสักพัก แล้วค่อย ๆ พยักหน้า“ได้ ฉันเชื่อเธอ แต่เธอต้องระวังตัวให้ดี ศาสตราจารย์จางไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ”ฉันมองเขาด้วยความซาบซึ้งใจ แล้วพยักหน้าเบา ๆ“ฉันจะระวังตัว ขอบคุณนะ กู้จือโม่”เขายิ้มบาง ๆ ดวงตาสะท้อนความอ่อนโยนออกมาเล็กน้อย“ไม่ต้องเกรงใจ ไปเถอะ ฉันจะไปส่งเธอที่หอพักเอง”พวกเราเดินไปด้วยกันในบริเวณโรงเรียน แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องกระทบตัวเรา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเงียบสงบฉันรู้สึกถึงความสงบและความมั่นใจที่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 347

    ฉันแค่นหัวเราะเย็นโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ส่วนผู้หญิงตรงหน้าดูจะไม่พอใจอย่างมากในตอนนี้“ฉันก็ไม่อยากพูดคำสวยหรูพวกนี้กับคุณ และก็ไม่มีเวลาจะเสียไปมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นพอแค่นี้เถอะ ฉันจะไปแล้ว”ฉันหันหลังแล้วเดินจากไป ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนด่าทออยู่ข้างหลัง แต่ก็ทำอะไรฉันไม่ได้เลยพอฉันกลับมาถึงมหาวิทยาลัยก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นอยู่ไม่ไกลตามคาดกู้จือโม่เดินเข้ามาหาทันที พร้อมจ้องมองฉันด้วยสายตาร้อนแรง“ได้ยินมาว่าเธอได้รับบาดเจ็บ เป็นยังไงบ้าง?”ฉันยิ้มบาง ๆ พยายามทำให้ตัวเองไม่ดูอ่อนแอจนเกินไป“ไม่มีอะไรน่าห่วง แค่บาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น”กู้จือโม่ดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อคำพูดของฉันนัก เขาขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล“เธอแน่ใจนะ? ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ต้องบอกฉันนะ”ฉันพยักหน้าเบา ๆ ความอบอุ่นเอ่อล้นขึ้นในใจในโลกที่ซับซ้อนใบนี้ การมีใครสักคนที่ห่วงใยอยู่เสมอเป็นเรื่องที่อบอุ่นใจฉันไม่ได้แหลมคมเฉียบขาดเหมือนเมื่อก่อน และก็ไม่มีออร่าที่แข็งแกร่งแบบเดิมอีกแล้ว“ขอบคุณนะ ฉันจะระวังตัว”กู้จือโม่ดูเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของฉั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 346

    ในช่วงหลายวันต่อมา ฉันและซูข่ายเหวินให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของตำรวจอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งติดตามข่าวจากสื่ออย่างใกล้ชิดไม่นานนัก อาชญากรรมของศาสตราจารย์จางก็ถูกเปิดเผยออกมาทีละเรื่องแต่สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจก็คือ เรื่องนี้กลับถูกกลบด้วยเหตุการณ์อื่นอย่างรวดเร็วและเรื่องนี้ก็ถูกตำรวจจัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ฉันไม่คาดคิดเลยว่าคำตอบสุดท้ายจะทำให้ฉันประหลาดใจมาก โดยเฉพาะตอนที่ตำรวจยืนอยู่ตรงหน้าฉันและอธิบายทุกอย่างให้ฟัง“จากการสืบสวนของเรา พบว่าผู้ก่อเหตุเพียงแค่ต้องการปล้นเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาถูกจ้างวานให้ฆ่าแต่อย่างใด”ฉันเบิกตากว้าง แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินปล้นงั้นเหรอ?เป็นไปได้ยังไง?คนนั้นชัดเจนว่าเล็งเป้าหมายมาที่ฉันโดยตรง แถมยังทิ้งคำพูดที่เกี่ยวข้องกับศาสตราจารย์จางไว้หลังจากก่อเหตุ นี่มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญได้จริง ๆ เหรอ?“แต่... มีดในมือของเขา วิธีที่เขาโจมตีฉัน รวมถึงคำพูดนั้น...”ฉันพยายามอธิบาย แต่เสียงของฉันกลับอ่อนลงเรื่อย ๆซูข่ายเหวินจับมือฉันไว้ เป็นสัญญาณให้ฉันสงบสติอารมณ์ลงเขาหันไปมองตำรวจ ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่เข้าใจตำรวจดู

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 345

    ฉันตกใจอย่างมาก คาดไม่ถึงเลยว่าคนคนนี้จะลงมือทำร้ายฉันจริง ๆฉันรีบปรับสภาพจิตใจของตัวเองอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีที่อาจตามมาคนขี่มอเตอร์ไซค์ดูเหมือนไม่คิดจะให้ฉันมีโอกาสได้พักหายใจเลย เขาเงื้อไม้เบสบอลขึ้นอีกครั้งแล้วฟาดมาทางฉันอย่างรุนแรง!ฉันหลบหลีกอย่างคล่องแคล่ว พลางมองหาจังหวะที่จะตอบโต้กลับไปหลังจากปะทะกันไปหลายครั้ง ฉันสังเกตได้ว่าคนคนนี้มีฝีมือพอตัว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผ่านการฝึกฝนอย่างเป็นทางการฉันรู้สึกยินดีอยู่ลึก ๆ ในใจ เพราะเห็นโอกาสเล็กน้อยที่จะเอาชนะเขาได้ฉันเริ่มเป็นฝ่ายโจมตีก่อน พยายามทำลายจังหวะของเขาเพื่อให้เขาเสียสมดุลและเปิดช่องโหว่หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดอยู่พักหนึ่ง ฉันก็พบช่องโหว่และซัดหมัดตรงเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรง!เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นฉันถือโอกาสพุ่งเข้าไป หวังจะควบคุมตัวเขาให้สิ้นฤทธิ์แต่ในขณะนั้นเอง เขากลับควักมีดออกมาจากกระเป๋าแล้วพุ่งแทงมาทางฉัน!ฉันตกใจสุดขีด รีบถอยหลังออกไปทันทีแต่ฉันก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่มีแรงมากนัก จะรับมือกับชายที่ดุดันเช่นนี้ได้อย่างไร?มีดสั้นพุ่งตรงมาทางฉัน ก่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 344

    “บางทีคุณอาจพูดถูก หากไม่มีการสนับสนุนจากคุณ ฉันอาจต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายมากขึ้น แต่ฉันก็เชื่อว่า ตราบใดที่ฉันพยายามมากพอและยืนหยัดอย่างมั่นคง สักวันหนึ่งฉันจะทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงได้ และฉันก็เชื่อว่า บนโลกนี้ยังมีอีกหลายคนที่มีความฝันและพรสวรรค์เหมือนฉัน พวกเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคุณ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จในวงการนี้ได้!”เขาชัดเจนว่าโกรธจัดเพราะคำพูดของฉัน ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธขณะที่จ้องมองฉันอย่างดุดัน“เธอคิดว่าพูดแบบนี้แล้วจะเปลี่ยนอะไรได้งั้นเหรอ? ฉันจะบอกให้รู้ไว้เลยนะว่าเธอคิดผิด! เธอจะต้องเสียใจในทุกสิ่งที่เธอทำในวันนี้แน่นอน!”ฉันยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน“บางทีฉันอาจจะเสียใจ แต่ฉันจะไม่มีวันเสียใจในสิ่งที่ฉันเลือก เพราะฉันรู้ดีว่า มีเพียงหนทางนี้เท่านั้นที่ทำให้ฉันเป็นตัวของตัวเอง และทำให้ฉันสามารถเติมเต็มความฝันของตัวเองได้ และสำหรับคุณ ศาสตราจารย์จาง คุณจะต้องกลายเป็นฝันร้ายของตัวเอง”พูดจบ ฉันหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปตอนนั้นเอง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาซูข่ายเหวิน“หลักฐานทั้งหมดเก็บรวบรวมเรียบร้อยหรือ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 343

    คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกและเหยียดหยาม ราวกับว่าเขาได้จัดฉันให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับเด็กสาวที่ยอมประนีประนอมเพื่อผลประโยชน์ไปแล้วอย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้อ่อนแอและถูกกดขี่ยังไงก็ได้อย่างที่เขาคิด ฉันมีหลักการและขอบเขตของตัวเองฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทำให้จิตใจสงบลง จากนั้นก็มองเขาด้วยสายตาที่เยือกเย็น“ศาสตราจารย์จาง บางทีคุณอาจเข้าใจอะไรผิดไป ฉันมาที่นี่เพราะความหลงใหลในงานออกแบบและความกระหายในความรู้ ไม่ใช่เพราะเหตุผลอย่างที่คุณว่า ถ้าคุณคิดว่าการกระทำของคุณจะทำให้ฉันยอมจำนน ฉันคงต้องบอกว่าคุณคิดผิดแล้ว”เขาไม่คาดคิดว่าฉันจะกล้าตอบโต้เขาอย่างตรงไปตรงมา สีหน้าของเขาพลันมืดครึ้มลงทันที ดวงตาเผยให้เห็นแววโกรธเคืองแวบหนึ่งอย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้ถอยหนีเพราะเหตุนี้ ฉันยังคงอธิบายจุดยืนของตัวเองต่อไป“ฉันรู้ว่า ในวงการนี้มีบางคนที่ใช้ตำแหน่งและอำนาจของตัวเองทำเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่ฉันอยากบอกว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น และฉันก็จะไม่มีวันเป็นแบบนั้น ฉันให้เกียรติตัวเอง ทั้งยังให้เกียรติผู้อื่น ฉันหวังว่าคุณจะเคารพการตัดสินใจของฉันด้วย”เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะเยาะออกมาเบา

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 342

    บางทีอาจเป็นเพราะฉันเคยพบเจอผู้คนมามากมาย จึงทำให้ฉันเข้าใจได้ว่าคนประเภทนี้มีความคิดที่รอบคอบเพียงใด และยังทำให้ฉันรับรู้ได้ถึงเจตนาที่แท้จริงของพวกเขาด้วยนี่คิดจะใช้วิธีนี้เพื่อล่อให้ฉันตกหลุมพรางงั้นเหรอ? ดูเหมือนจะโง่ไปหน่อยนะ แต่ฉันจะไม่รีบร้อนหรอก ของดีมักจะมาในตอนท้าย และฉันมั่นใจว่าจะสามารถจับจุดอ่อนของเขาได้แน่นอนฉันแสร้งทำเป็นมีท่าทีคาดหวังอย่างตั้งใจ สีหน้าของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นความหมายที่ยากจะคาดเดา จากนั้นสายตาของเขาก็เริ่มเปล่งประกายร้อนแรงขณะมองมาที่ฉัน แล้วก้าวเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น“ฉันได้พิจารณาแบบร่างของเธออย่างละเอียดแล้ว ก็ต้องบอกตรง ๆ ว่าค่อนข้างธรรมดานะ แต่ที่เธอสามารถโดดเด่นขึ้นมาได้ในครั้งนี้ คงเป็นเพราะโชคช่วยเสียมากกว่า เพราะอันดับของเธอไม่ได้อยู่ในระดับต้น ๆ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ครั้งนี้เธอได้รับโอกาสที่ดีมาก ก็หวังว่าเธอจะสามารถใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์และค้นพบศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่”เมื่อได้ยินคำวิจารณ์ของเขา ฉันแทบกลั้นขำไว้ไม่อยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของฉันเลย แต่การที่เขาพูดแบบนี้ออกมาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 341

    เมื่อมีความคิดเช่นนี้ ฉันก็รักษาสีหน้าที่อ่อนโยนไว้ทันที เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ จนกระทั่งรถจอดลงที่นี่ ฉันก็เดินตามผู้ชายคนนั้นขึ้นไปบนชั้นอย่างรวดเร็วขณะอยู่ในลิฟต์ เขาหันกลับมามองฉันแวบหนึ่ง จากนั้นสายตาของเขาก็แฝงไปด้วยอารมณ์ที่ทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจและแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก“ศาสตราจารย์จางเป็นอาจารย์ที่ทุกคนยกย่องมาโดยตลอด การที่เธอได้รับโอกาสนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่หายาก แต่มีบางเรื่องที่ฉันต้องอธิบายให้เธอเข้าใจ”ฉันพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมแสร้งทำท่าทางเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้อีกฝ่ายเชื่อจริง ๆ ว่าฉันเป็นคนไร้เดียงสาและใสซื่อ“ต่อจากนี้ ศาสตราจารย์จางอาจจะให้คำแนะนำเธอเกี่ยวกับบางประเด็น และยังเสนอวิธีที่ดียิ่งขึ้นให้กับเธอ เพื่อที่เธอจะสามารถก้าวไปได้ไกลขึ้นบนเส้นทางที่เกี่ยวข้องนี้”ฉันย่อมรู้ดีว่า ‘วิธี’ ที่ว่าก็คือการเรียนการสอนตามเส้นทางที่เป็นทางการเท่านั้น แต่ในตอนนี้ ฉันกลับแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลย พร้อมกับถามเขาด้วยท่าทีไร้เดียงสา“แล้วทำไมถึงนัดที่นี่ล่ะคะ? นัดในห้องเรียนไม่ได้เหรอ?”ฉันแสร้งทำเป็นรู้

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 340

    หลังจากวางสาย ฉันรีบแจ้งเรื่องนี้ให้ซูข่ายเหวินรู้เป็นอันดับแรก แต่เขากลับไม่ได้แสดงท่าทีประหลาดใจอย่างที่ฉันคาดไว้เลย ตรงกันข้าม เขากลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ จากนั้นก็เผยรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า“ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ฉันคาดไว้ ถ้าอย่างนั้น ต่อจากนี้คงต้องลำบากเธอหน่อย การต้องอยู่กับคนเลวแบบนี้คงเป็นเรื่องที่เหนื่อยแน่ ๆ เธอต้องทำให้เขาตายใจและลดความระมัดระวังลงให้ได้”ฉันพยักหน้าตอบรับ แน่นอนว่าฉันรู้ดีว่าสิ่งนี้อันตรายแค่ไหน และก็รู้เช่นกันว่าต้องจัดการเรื่องนี้อย่างรอบคอบให้ดีที่สุด“อุปกรณ์ที่ฉันให้เธอ อย่าลืมใช้ล่ะ เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดแน่ ๆ แต่มั่นใจได้เลยว่าอุปกรณ์ที่ฉันให้ จะสามารถบันทึกหลักฐานความผิดของเขาได้ทั้งหมด”ฉันพยักหน้า เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ซูข่ายเหวินให้ฉันนั้นต้องมีประโยชน์อย่างมาก ดังนั้นฉันจะไม่ยอมให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นอย่างแน่นอนด้วยแผนการที่รอบคอบของเราทั้งสองคน เชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องถูกเปิดโปงอย่างแน่นอน และเมื่อนั้นก็จะไม่มีใครสามารถคุกคามสาว ๆ ที่ไร้เดียงสาเหล่านี้ได้อีกต่อไปเมื่อลมเย็นพัดผ่านตัวฉันในค่ำคืนนี้ ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเวลานัดห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status