แชร์

บทที่ 40

ผู้เขียน: ลูกพีชแสนสวย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-11 18:52:04
เขาไม่มีวันรู้ว่าเขาประเมินความรักที่เฉินเยวี่ยมีต่อกู้จือโม่ต่ำเกินไป

ในสายตาของทุกคน พวกเขาคือคู่รักที่สมบูรณ์แบบ หล่อสวยและดูเข้ากันมาก แสนจะเหมาะสมและน่ามอง

แต่ฉันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในเกมของพวกเขา เป็นคนที่ไม่ควรปรากฏตัว เป็นบุคคลที่สามที่ไม่ควรเข้ามาขัดขวางความรักของพวกเขา

บางทีคำพูดนั้นอาจจะจริง คนที่ไม่ได้รับความรักนั่นแหละคือมือที่สาม

ฉันนึกถึงวันหนึ่งในบ่ายที่ฝนตกปรอย ๆ เฉินเยวี่ยอวดสร้อยคอที่เพิ่งได้มา เป็นสร้อยที่กู้จือโม่ประมูลมาให้เธอด้วยเงินก้อนโต

ถึงแม้ในวันนั้นจะไม่มีแสงแดด แต่สร้อยคอเพชรนั้นกลับส่องแสงระยิบระยับ

“เฉียวซิงลั่ว เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? เขาไม่รักเธอหรอก ต่อให้เธอเป็นภรรยาของเขาแล้วจะยังไง? คนที่ไม่ได้รับความรักก็คือมือที่สามอยู่ดี!”

บางทีเฉินเยวี่ยอาจจะสังเกตเห็นฉันแล้ว เธอจึงยิ้มเยาะใส่ฉันด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ

ใช่แล้ว ฉันช่างน่าสมเพชเหลือเกิน

ฉันยื่นจุดอ่อนของตัวเองให้เธอใช้เป็นเครื่องมือในการเหยียบย่ำหัวใจที่อ่อนโยนที่สุดของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ฉันไม่อยากเข้าร่วมในเกมของพวกเธออีกต่อไปแล้ว และอย่ามากวนใจฉันอีกเลย ถ้านายรักเธอจริง ๆ ก็ไปแสดงออกให้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 41

    ฝนที่โปรยปรายกลับกลายเป็นพายุฝนกระหน่ำในชั่วพริบตาแยกไม่ออกว่านั่นเป็นน้ำตาของฉันหรือว่าน้ำฝน แค่รู้สึกว่ามีกลิ่นเค็มลอยโชยในอากาศเขาขับรถออกไปทั้งเช่นนั้น ทิ้งฉันไว้บนพื้นเพียงลำพังความมืดและความหนาวเย็นเข้าครอบงำเจตจำนงของฉันอย่างไม่หยุดหย่อน และห่อหุ้มฉัน กักขังฉันไว้ในกรงอันไร้ที่สิ้นสุดฝันร้ายนี้แทบจะฉีกฉันออกจากกัน หลังห้วงฝันยามเที่ยงคืน ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาเช้าตรู่แล้วฉันเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก เสื้อผ้าของฉันชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อเย็นโชคดีที่ทุกอย่างมันจบลงแล้ว และฉันจะไม่มีวันยอมให้ใครโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดีอีกมหาวิทยาลัยปักกิ่งนั้นใหญ่มาก ถ้าไม่ใช่เพราะจงใจ เกรงว่าจะไม่ได้พบกันอีกตลอดกาลมหาวิทยาลัยปักกิ่งเองก็เล็กมาก ดังนั้นหากมีวาสนา ก็อาจจะได้พบกันบ่อย ๆฉันได้ยินมาว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นดีมากขึ้นเรื่อย ๆ และฉันก็เป็นเหมือนมือที่สามแม้ว่าฉันจะไม่เคยไปปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา แต่ก็มักจะอยู่ในบทสนทนาของพวกเขาเสมอในช่วงเวลาหลังจากนั้น เนื่องจากเพิ่งเปิดเทอม การเรียนจึงยังไม่หนักมากฉันมักจะบังเอิญเจอพวกเขาอย่างไม่น่าเชื่ออยู่เสมอ ดังนั้นฉันจึงริ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 42

    ที่แท้ก็เป็นกู้จือโม่ เขายื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนในมือมา“น่าจะยังทันใช่ไหมครับ?”เมื่อรุ่นพี่ผู้หญิงเห็นกู้จือโม่เป็นครั้งแรกเธอก็ตกตะลึงอยู่กับที่ ไม่มีแก่ใจมาสนแล้วว่าได้ดึงมือกลับไปหรือไม่ เพียงยืนมองเขาอย่างโง่งมที่เดิมตรงนั้นฉันดึงมือกลับไปอย่างกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย ตอนนี้รุ่นพี่ถึงเพิ่งได้สติกลับมาเธอเม้มริมฝีปากลง รับแบบฟอร์มลงทะเบียนแล้วพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น"ทันจ๊ะ ยินดีต้อนรับเธอเข้ามาเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของชมรมวางแผนกิจกรรมของเรา เพื่อนนักศึกษาเฉียว พวกเธอสองคนเข้ามาไล่เลี่ยกัน ช่างบังเอิญจริง ๆ"สายตาของประธานชมรมนั้นที่มองเราสองคนสลับกันไปมาไม่หยุด มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดใจอย่างมากให้ตายเถอะ ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?ฉันจำได้ว่าเขาชอบเล่นบาสเกตบอล ทำไมไม่ไปเข้าร่วมชมรมบาสเกตบอลเล่า?หรือไม่ก็ไปเข้าร่วมชมรมอะไรก็ได้กับเฉินเยวี่ย จะต้องมาสมัครชมรมวางแผนกิจกรรมที่เหลืออยู่เป็นชมรมสุดท้ายด้วยเหรอ?หรือว่านี่ก็คือเรื่องอย่างพรหมลิขิตหนีก็หนีไม่พ้น จะหลบก็หลบไม่ได้?แต่ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าทุกสิ่งได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว โชคชะตาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ฉันสามารถเปลี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 43

    ที่น่าแปลกก็คือ เมื่อคืนฉันนอนหลับสบายมากเดิมทีฉันคิดว่าเขาจะติดต่อฉันผ่านทางโทรศัพท์ ส่งข้อความถึงฉันหรือไม่ก็โทรมา เพื่อหารือกับฉันเรื่องจัดสถานที่แต่คืนนี้มันกลับเงียบอย่างน่าประหลาดใจ ราวกับว่าเขาไม่ได้เก็บเรื่องนี้ไปใส่ใจ หรือบางทีเขาอาจจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฉันทว่าเมื่อคิดอีกมุม ฉันก็เข้าใจเหตุผลทั้งหมดบางทีเขาอาจจะไม่ได้อยากสมัครเข้าชมรมแต่แรก ถ้าไม่ใช่เพราะต้องเก็บหน่วยกิตให้ครบแปดหน่วยกิต เขาก็คงไม่ถูกบังคับให้สมัครเข้าร่วมชมรมวางแผนกิจกรรมและถึงแม้ว่าเขาจะอยู่กลุ่มเดียวกับฉัน แต่ก็ไม่อยากให้เฉินเยวี่ยเข้าใจผิดด้วย ดังนั้นเขาจึงรักษาระยะห่างจากฉันเมื่อคิดได้แบบนี้ ฉันก็รู้สึกในใจว่ามันช่างน่าขำ เพียงแต่ตอนนี้ฉันได้ปล่อยวางแล้ว ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาฉันไม่ได้มีความรู้สึกขมขื่นวนเวียนอยู่รอบตัวอีกต่อไป ที่แท้การที่ไม่ถูกใครสักคนบงการหัวใจนั้น มันช่างอิสรเสรีถึงเพียงนี้เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมมื้อเช้าทันทีที่ลงมาที่ชั้นล่าง ก็เห็นว่าไม่ไกลนักมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งยอง ๆ อยู่ข้างพุ่มไม้ในวันปกติธรรมดา ก็มักจะเห็นชายหนุ่มหญิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 44

    ฉันยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็หยุดและหันกลับมามองที่ฉัน“ไม่กินมื้อเช้าเหรอ?”ฉันถอนหายใจยาว ทำได้เพียงตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้หลังจากรับประทานมื้อเช้ากันแบบง่าย ๆ เป็นเพราะบรรยากาศอึดอัดเกินไป ฉันก็ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกับเขาราวกับกำลังหนีตายระหว่างที่ฉันจ่ายเงิน เขาก็หยิบของหนัก ๆ แล้วเดินออกไปก่อนเรามาถึงสถานที่จัดประชุมและตัดสินใจตกแต่งสถานที่ ที่นี่พวกรุ่นพี่ได้สร้างเวทีที่เรียบง่ายขึ้นเวทีหนึ่ง พวกเราแค่ต้องตกแต่งสถานที่นี้ตามรูปภาพก็พอฉันหยิบทุกอย่างข้างในถุงออกมา แล้วจัดเรียงมันให้ตรงตำแหน่งเพื่อหน่วยกิต ต้องบอกว่าฉันพยายามอย่างหนักจริง ๆ แต่ก็มักจะรู้สึกเหมือนมีสายตาที่เร่าร้อนจับจ้องฉันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่กลับไม่รู้ที่มาของสายตานี้ฉันเม้มริมฝีปากลง ค่อย ๆ จัดสถานที่ทีละนิดระหว่างพักเบรก เขายื่นเครื่องดื่มมาให้ฉันหนึ่งขวด ฉันปฏิเสธไปอย่างสุภาพ แต่เขากลับบังคับยัดมันใส่มือฉัน“เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนี้หรอก”นี่ไม่เหมือนเขาเลย แต่...ของฟรีแบบนี้ ทำไมจะไม่เอาล่ะ?ดื่มน้ำอัดลมไปห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 45

    ขืนยังอยู่เป็นก้างขวางคออีก ก็คงเสียมารยาทแล้ว พอเห็นทั้งสองคนที่แสนจะมีความสุขและหวานหยด ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินท้ายที่สุด คนที่ไม่ถูกรักต่างหากถึงจะเป็นมือที่สามฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาถึงหอพักด้วยอารมณ์ความรู้สึกแบบไหน แต่เมื่อฉันนอนลงบนเตียง ภาพที่เขาอุ้มฉันไว้ในอ้อมแขนก็ประเดประดังเข้ามาในหัว ทำให้ฉันรู้สึกแปลกพิกลแต่ด้วยอุปนิสัยเช่นนั้นของเขา แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นคนอื่นเขาก็คงยื่นมือเข้าช่วยเหลือเหมือนกันฉันพยายามขจัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวทั้งหมดออกไป จากนั้นก็หลับไปอย่างสงบในความฝัน ฉันฝันว่าพวกเขาสองคนกำลังกอดกัน ส่วนฉันซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เป็นเหมือนหัวขโมยที่คอยแอบดูความสุขของคนอื่นฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา โชคดีที่ทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันก็เปลี่ยนไปสวมชุดใหม่ที่สะอาดและคล่องตัว เตรียมจะไปจัดสถานที่คนเดียว แต่กลับได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่รู้จักสายหนึ่ง “สวัสดีค่ะ”ฉันกดรับสายอย่างสุภาพ แม้จะไม่รู้ว่าใครโทรมา แต่มันก็ทำให้ฉันประหลาดใจอย่างมาก“ฉันไม่โอเค”น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังส่งมา ทำให้ฉันยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีกเขาโทรหาฉันทำไม?

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 46

    ชั่วครู่หนึ่ง ฉันถูกบีบให้เข้าสู่ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้าฉันปฏิเสธเขา ฉันจะกลายเป็นคนถ่อยที่เนรคุณคนทันทีแต่ถ้าฉันตอบตกลง ก็กลัวว่าจะเข้าไปพัวพันกับเขาอีก“ฉันไม่บังคับเธอหรอกนะ ถ้าเธอไม่เต็มใจ ก็ลืมมันไปซะเถอะ อย่างที่คิดไว้เลย ทำดีไม่ได้ดีจริง ๆ ด้วย”กู้จือโม่ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของสายถอนหายใจยาว เสียงนี้เป็นเหมือนกับเสียงของปีศาจที่วนเวียนอยู่ในหัวใจของฉันไม่หยุด“อีกเดี๋ยวฉันจะไปถึงที่นั่น”ขณะที่เขากำลังจะวางสาย ฉันก็ตอบตกลงต่อให้เราจะใกล้ชิดกันสักสองสามวันแล้วจะทำไม ฉันไม่มีทางเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีกับเขาอย่างมากสุด อีกหน่อยก็อยู่ให้ห่างจากเขาเยอะหน่อยฟังจากที่พูดมา เหมือนว่าเขาจะยังไม่ได้กินข้าวเช้า ฉันเลยรีบนั่งแท็กซี่ไปที่ร้านอาหารเช้าใกล้โรงพยาบาล แล้วซื้ออาหารเช้าสองสามอย่างแล้วหิ้วมันไปที่โรงพยาบาลด้วยกันกู้จือโม่ในเวลานี้กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสง่างาม เขาก็แค่กระดูกมือหัก ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมเขาถึงต้องเข้าแอดมิดในโรงพยาบาลด้วยเมื่อเห็นฉันมาถึง เขาก็เริ่มทักทายฉันทันที“เมื่อวานฉันนอนเฝ้าดูอาการอยู่ที่นี่ตลอดทั้งคืน ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 47

    นิ้วเรียวยาวของเขากำลังดึงสายกางเกง เหมือนว่าจะเป็นเพราะมือของเขาเข้าเฝือกอยู่ เลยทำให้มัดเชือกได้ยากถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาสวมกางเกงเสร็จแล้ว ฉันคงได้เห็นเขาล่อนจ้อนจริง ๆวินาทีนั้น ฉันรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองแดงเหมือนกุ้งที่เพิ่งต้มสุกเลย“นาย…”ฉันอยากจะตำหนิเขา แต่ก็รู้สึกเขินอายอย่างมาก จึงหันหลังกลับและรีบวิ่งออกไปให้ตายสิ ทำไมเขาถึงได้น่ารำคาญขนาดนี้นะ?ฉันที่ยืนอยู่ที่ประตูรู้สึกเหมือนหัวใจตึกตักไม่หยุด ใบหน้าแดงก่ำมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งแดงจนร้อนผ่าวแม้แต่การหายใจก็ยังหอบกระชั้น แทบจะขาดอากาศหายใจอยู่แล้วฉันหลับตาลงอย่างตื่นเต้น แต่ในหัวก็เอาแต่นึกถึงนิ้วยาวของเขาที่กำลังดึงสายกางเกงไม่หยุดมองดูผ้าห่มที่ยังไม่ได้พับซึ่งกองอยู่บนเตียง ฉันก็รีบปรี่ขึ้นไปแล้วพับผ้าห่มผืนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งเขาเดินออกมา ฉันถึงได้วางผ้าห่มไว้ข้าง ๆฉันหันหน้าหนีทันที ไม่กล้าเผชิญหน้าเขาส่วนเขารอบตัวกลับปลดปล่อยกลิ่นอายที่เจ้าเล่ห์ออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นด้านหนึ่งของกู้จือโม่ที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน“อะไร เธอเขินเหรอ?”น้ำเสียงของเขามีเสน่ห์อย่างมาก ฉันรู้สึกเหมือนว่าขื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 48

    ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นรดลงมาและกระจายไปโดนใบหูและแก้มของฉันแต่เดิมฉันก็เป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลามีคนมาพูดที่ข้างหู จึงทำให้ฉันยิ่งเขินอายเข้าไปใหญ่ ใบหูแดงก่ำจนเกือบสุกเขายื่นมือออกมากอดฉันไว้ จากนั้นก็ก้มศีรษะลงมาริมฝีปากบางเฉียดผ่านแก้มของฉันไปเบา ๆดวงตาคู่นั้นมันช่างล้ำลึกเหมือนเหมือนจะรวบรวมเอาความเวิ้งว้างของกาแล็กซีไว้ แค่ได้มองครั้งเดียวก็ทำให้คนตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้นเมื่อเห็นริมฝีปากบางขยับเข้ามาใกล้ฉัน ฉันก็รู้สึกราวกับมีมนต์สะกดมาพันธนาการตัวฉันไว้ ฉันจับเชือกมัดกางเกงนั้นด้วยมือทั้งสองข้างและยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ แม้แต่ลมหายใจก็กระชั้นแทบจะหยุดลงผู้ชายที่เคยทำให้ทั้งชีวิตนั้นของฉันน่าทึ่ง จะไม่หวั่นไหวเมื่อพบเขาเป็นครั้งที่สองได้อย่างไรเมื่อคุณพบใครสักคนที่น่าทึ่งมากเมื่อสมัยยังเด็ก น่ากลัวว่าไม่เพียงแต่คุณจะไม่สามารถลืมมันได้ตลอดทั้งชีวิต แม้ว่าจะมีโอกาสกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ก็ยังไม่อาจหนีพ้นเป็นเหมือนกับกับดักที่ทำให้ใจเต้น และก็เป็นเหมือนตาข่ายความรักที่ผูกมัดผู้คนไว้แน่นโดยไม่รู้ตัวเขากำลังจะจูบปากของฉัน และฉันเองก็แอบคาดหวังนิด ๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11

บทล่าสุด

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 236

    บนใบหน้าของลั่วอี้ฝานมีแววประหลาดใจเล็กน้อย คล้ายกับได้เจอเพื่อนรู้ใจที่เข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร ผู้อาวุโสหนานก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า “สาวน้อย เธอเล่นหมากรุกเป็นไหม?” จู่ ๆ ก็ถูกเรียกชื่อ ฉันนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะได้สติกลับมาแล้วตอบว่า “เคยเล่นในมือถือไม่กี่ครั้งเองค่ะ ดูเหมือนว่าจะเล่นไม่เป็นค่ะ” ฉันพูดอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งดูเหมือนผู้อาวุโสหนานจะชอบความตรงไปตรงมาของฉันเช่นกัน ท่านโบกมือเรียกฉันพร้อมพูดว่า “มานี่สิ เดี๋ยวฉันสอนให้” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปหา นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของกระดานหมากรุก ผู้อาวุโสหนานอธิบายกฎของหมากล้อมให้ฉันฟัง ฉันตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ ไม่นานนักผู้ช่วยก็เอากระดานหมากรุกชุดใหม่มาให้ ผู้อาวุโสหนานส่งหมากสีดำให้ฉันพร้อมพูดว่า “ลองดูไหม?” ฉันรับมาก่อนจะพูดด้วยความลำบากใจปนลังเลว่า “แต่คุณปู่ต้องอย่าโกรธจนปาแผ่นกระดานนะคะ” “แล้วก็ห้ามไล่พวกเราออกไปด้วยนะคะ”ฉันกอดถ้วยหมากล้อมไว้ มือขวาหยิบหมากสองตัวขึ้นมา พร้อมกล่าวว่า “แม่น้ำแยงซีคลื่นลูกเก่าผลักดันคลื่นลูกใหม่ คุณต้องให้โอกาสพวกเราเติบโตบ้างนะคะ” ความจริงตอนที่พูดคำพวก

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 235

    ออกจากบ้านเดิมตระกูลเฉียว ฉันกับลั่วอี้ฝานขึ้นรถแล้วจากไปทันทีที่ขึ้นรถเสียงหยอกล้อของลั่วอี้ฝานก็ดังขึ้นทันที "เฉียวซิงลั่ว เธอเตรียมตัวมาดีจริง ๆ ถึงขั้นพกเครื่องรูดบัตรมาเลยเหรอ? ในกระเป๋าเธอคงไม่ได้ใส่เครื่องนับเงินมาด้วยใช่ไหม? เอามาให้ฉันดูหน่อยสิ จะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง"มือข้างหนึ่งของเขายื่นมาตรงหน้าฉันฉันตบมือลงบนฝ่ามือของเขาเสียงดัง "เพียะ!" พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงรำคาญ "ฉันจะพกเครื่องนับเงินไปทำไมกันล่ะ"แถมหลี่เหม่ยอิงก็คงไม่พกเงินสดหนึ่งร้อยล้านบาทมาให้ฉันหรอกโง่จริง ๆ"นี่" ฉันคลายมือออก เผยให้เห็นบัตรเอทีเอ็มที่อยู่ด้านล่างลั่วอี้ฝานตาเป็นประกายทันที เขาหยิบบัตรเอทีเอ็มขึ้นมา พร้อมกับอุทานอย่างตกใจว่า “นี่มันไม่ใช่หนึ่งร้อยล้านบาทที่หลี่เหม่ยอิงให้เธอหรอกเหรอ?!”"ใช่แล้ว เอาไว้เป็นเงินสำรองสำหรับบริษัท""ดีขนาดนี้เชียว?" ลั่วอี้ฝานเลิกคิ้วฉันตอบ "ใช่ บริษัทมีปัญหา ฉันก็ช่วยได้แค่เรื่องเงินนี่แหละ""ว่าแต่ พรุ่งนี้ไปเจอผู้อาวุโสหนาน นายเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ"ฉันมองไปที่ลั่วอี้ฝานเขาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ส่วนฉันก็แค่ช่วยเปิดทางเล็กน้อยถ้าเขาไม่ไป โครง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 234

    เมื่อมองเฉียวซิงอวี่ ฉันเผลอคิดเพลินไปว่าที่จริงแล้วเธอก็โชคดีไม่น้อยไม่ว่าจะอย่างไร หลี่เหม่ยอิงก็ยังรักเธอและพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้สิ่งที่ดีที่สุดแม้ฉันจะเคยด่าว่าเธอทั้งโง่ทั้งไร้เดียงสา แต่บางทีความโง่และไร้เดียงสาแบบนี้อาจเป็นความสุขอย่างหนึ่ง“ฉันง่วงแล้ว จะไปนอนก่อน” ฉันลุกขึ้น ไม่สนใจลั่วอี้ฝาน “ถ้านายไม่กลับบ้านคืนนี้ ก็ไปนอนที่ห้องรับรองแล้วกัน”……เช้าวันรุ่งขึ้นฉันกับลั่วอี้ฝานพาบอดี้การ์ดคุมตัวเฉียวซิงอวี่กลับไปที่บ้านเก่าของตระกูลเฉียว ในตอนที่ไปถึงหลี่เหม่ยอิงก็รออยู่ที่นั่นด้วยสีหน้ากระวนกระวายเฉียวซิงอวี่อุทานออกมาด้วยความดีใจ “แม่คะ!”“ซิงอวี่!” หลี่เหม่ยอิงรีบวิ่งเข้ามาหาพวกเราโดยไม่ทันคิด“หยุดอยู่ตรงนั้น!”ลั่วอี้ฝานตะโกนห้าม น้ำเสียงเย็นชาเต็มไปด้วยการข่มขู่ “ถ้าคุณกล้าเข้ามาอีกก้าวเดียว เราจะไม่ออมมือกับเธอ”หลี่เหม่ยอิงหยุดการเคลื่อนไหวทันที ดวงตามองฉันอย่างเย็นชา ราวกับงูพิษที่กำลังแลบลิ้น "เฉียวซิงลั่ว การลักพาตัวมันผิดกฎหมายนะ!"“แล้วการเอาน้ำกรดมาสาดคนอื่นไม่ผิดกฎหมายหรือไง?” ฉันสวนกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความเย็นชาหลี่เ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 233

    ฉันโทรหาหลี่เหม่ยอิงครั้งแรกเธอไม่รับ ฉันจึงโทรซ้ำอีกครั้งเสียงของหลี่เหม่ยอิงเต็มไปด้วยความโกรธเมื่อเธอรับสาย “เฉียวซิงลั่ว นางเด็กสารเลว พ่อเธอตายเพราะเธอแล้ว ยังจะโทรมาหาฉันอีกทำไม!”ฉันไม่ได้ตอบอะไร ทว่าใช้เล็บที่เพิ่งทำใหม่ขึ้นมาแตะใบหน้าที่แดงก่ำจากการถูกตบของเฉียวซิงอวี่เฉียวซิงอวี่ร้องไห้ออกมาทันที “แม่คะ ช่วยหนูด้วย!”หลี่เหม่ยอิงเงียบไปชั่วขณะก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปทันที “ซิงอวี่เหรอ? เฉียวซิงลั่ว เธอทำอะไรลูกสาวฉัน!”“หึ” ฉันหัวเราะเยาะ เอาโทรศัพท์แนบหู “คุณป้าพูดผิดแล้วล่ะค่ะ ไม่ใช่ฉันที่ทำอะไรน้องสาวตัวเอง คุณป้าน่าจะถามลูกสาวที่แสนดีมากกว่าว่าเธอทำอะไรฉัน”“ให้เวลาครึ่งชั่วโมง... ไม่สิ” ฉันหยุดคิดและเผยรอยยิ้ม “พรุ่งนี้เช้าเก้าโมง เจอกันที่บ้านเดิมตระกูลเฉียว” พูดจบ ฉันก็ตัดสายทันที…… ที่อะพาร์ตเมนต์หลี่เสี่ยงลั่วอี้ฝานมัดมือและเท้าของเฉียวซิงอวี่ แล้วโยนเธอไว้ที่ระเบียงเฉียวซิงอวี่ยังคงร้องไห้เสียงดัง “เฉียวซิงลั่ว ปล่อยฉันนะ! เธอไม่มีสิทธิ์มาจับฉัน! ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ฉันรำคาญเสียงร้องไห้ของเธอ จึงเดินไปที่ครัว เพื่อหยิบผ้าขี้ริ้วออกมา

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 232

    เมื่อเห็นว่าฉันปลอดภัย ลั่วอี้ฝานจึงลากร่างของคนที่สาดน้ำกรดใส่ฉันขึ้นมาฉันเดินเข้าไปใกล้พวกเขา ยกมือขึ้นถอดหน้ากากของคนร้ายทันใดนั้นเองใบหน้าของเฉียวซิงอวี่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าฉัน"เฉียวซิงอวี่?"ฉันจ้องมองใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ดวงตาแดงก่ำ เธอตะโกนด้วยเสียงสะอื้น “ทำไมเธอไม่ไปตายซะ! เฉียวซิงลั่ว ทำไมเธอไม่ไปตายซะ!""แกทำลายพ่อฉัน ทำลายครอบครัวฉันจนพังพินาศ!""เฉียวซิงลั่ว นางสารเลว! ไปตายซะ!""ฉันไม่น่าจะใช้แค่น้ำกรดสาดแก ฉันควรจะเอามีดแทงแกให้ตายไปเลยด้วยซ้ำ!"ใบหน้าฉันเริ่มเย็นชาเมื่อได้ยินคำพูดของเฉียวซิงอวี่ เมื่อเธอพูดจบฉันก็ยกมือขึ้นตบหน้าอีกฝ่ายด้วยแรงทั้งหมดที่มีฉันใส่แรงทั้งหมดลงไปในฝ่ามือนั้นใบหน้าครึ่งหนึ่งของเฉียวซิงอวี่แดงก่ำและบวมขึ้นทันที หมวกที่เธอสวมหล่นลงพื้น เผยให้เห็นผมยาวสยายฉันมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอคนที่มีสายเลือดครึ่งหนึ่งเหมือนกับฉันเมื่อครั้งที่อยู่บนเรือ ฉันเคยรู้สึกผิดที่ทำร้ายเธอ เพราะต้องการปกป้องตัวเองจากแผนการของเฉียวเจี้ยนกั๋ว แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกดีใจที่ครั้งนั้นฉันไม่ลังเลที่จะลงมือสำหรับคนในตระกูลเฉียว นอกจากคุณ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 231

    เมื่อพูดจบผู้อาวุโสหนานก็เดินจากไปสีหน้าของประธานหลี่ย่ำแย่จนเกินจะบรรยาย อีกไม่นานก็มีชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนผู้ช่วยเดินเข้ามาหาเขาและกระซิบอะไรบางอย่างข้างหู จากนั้นเขาก็สะบัดมือออกจากมือของคุณหนูคนนั้นอย่างแรงเพราะสวมรองเท้าส้นสูงอยู่ คุณหนูคนนั้นจึงถูกสะบัดจนเสียหลักล้มลงไปนั่งกับพื้นทันที แถมยังทำเครื่องดื่มบนโต๊ะข้าง ๆ หกใส่ตัวเองจนเปียกโชกไปทั้งชุดอีกเสื้อผ้าชุดใหม่ของเธอเปียกชุ่มจนดูน่าเวทนา ใบหน้าแสดงออกทั้งความอับอายและความโกรธ แต่ก็ต้องอดกลั้นไว้“นี่มันอะไรกัน! กล้าทำตัวแบบนี้ใส่คนอย่างผู้อาวุโสหนานอีก ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอคงไม่ได้เฉียดเข้ามาในงานนี้หรอก!”ประธานหลี่กดเสียงต่ำ คำพูดที่ออกมาล้วนหยาบคายและน่ารังเกียจสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่พวกเขา ประธานหลี่รีบเปลี่ยนท่าทีเป็นคนสุภาพนุ่มนวล ยื่นมือพยุงคุณหนูขึ้นพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “ทำไมถึงไม่ระวังเลย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า? เสื้อผ้าก็เลอะหมดแล้ว เดี๋ยวผมพาคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะ”พูดจบเขาเรียกพนักงานเสิร์ฟมาถามหาห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะพาหญิงสาวออกจากงานไปลั่วอี้ฝานขมวดคิ้วพลางเอ่ยเบา ๆ “ผีเน่ากับโลงผุจริง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 230

    ฉันครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบา ๆไม่นานนักฉันกับลั่วอี้ฝานก็เดินมาถึงห้องจัดเลี้ยง เสียงดนตรีไพเราะบรรเลงไปทั่ว ผู้คนต่างจับกลุ่มกันพูดคุยหรือเดินถือแก้วแชมเปญไปมา ทั้งหมดต่างต้องการใช้โอกาสในงานเลี้ยงนี้เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับตัวเองซึ่งฉันกับลั่วอี้ฝานก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันเพราะปกติฉันไม่ค่อยออกสังคม ลั่วอี้ฝานจึงพาฉันไปทำความรู้จักกับคนอื่น ๆเพิ่งแนะนำตัวกับบางคนเสร็จ ลั่วอี้ฝานก็เหลือบมองเป้าหมายอีกคนที่สะดุดตาเข้าอย่างจังเขาใช้ศอกสะกิดฉันเบา ๆ ฉันจึงมองตามสายตาของเขาแล้วพูดว่า "ประธานสวีก็มาเหมือนกัน ไปกันเถอะ เราไปทักทายเขาหน่อย"“ได้สิ”ลั่วอี้ฝานพาฉันเดินไปหาประธานสวี แต่พอเดินไปได้ครึ่งทาง จู่ ๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเราฉันเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ และเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ฉันก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นนี่คงเป็นผลกระทบจากการช่วยเหลือครั้งนั้น“เธอคนนี้แหละ”หญิงสาวผู้ดีคล้องแขนชายคนหนึ่งไว้ แล้วชี้มาที่ฉันพร้อมกับทำเสียงออดอ้อนว่า “ประธานหลี่ต้องช่วยฉันเอาคืนเธอให้ได้นะคะ”“กล้านักนะ กล้ารังแกคนของหลี่ซู่คนนี้ได้ยังไง?” ประธานหลี่มอง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 229

    เมื่อแขกที่ผ่านไปมาต่างหยุด ทว่าไม่มีใครออกหน้ามาช่วยพูดแทนชายชราเลยแม้กระทั่งคนที่เห็นชัดเจนว่าแท้จริงแล้วหญิงสาวคนดังกล่าวเดินไม่ระวังเองชายชราถูกต่อว่าจนหน้าแดง แต่ยังคงกล่าวขอโทษต่อไป “ขอโทษนะ คุณหนู ชุดของเธอราคาเท่าไหร่ ฉันจะชดใช้ให้...”“ผู้หญิงคนนี้นี่น่ารังเกียจจริง ๆ” ลั่วอี้ฝานขมวดคิ้ว มองดูความวุ่นวายตรงหน้าฉันหันไปมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนก้าวเท้าเดินเข้าไปยืนข้างชายชรา แล้วส่งยิ้มให้คุณหนูคนดังกล่าวพลางพูดว่า "เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณปู่นะคะ"จากนั้นฉันหันกลับไปเผชิญหน้าหญิงสาวที่แต่งหน้าอย่างประณีต พร้อมชี้ไปที่กล้องด้านบน “ที่นี่มีกล้องวงจรปิด อยากให้เราเรียกมาตรวจดูไหมว่าใครกันแน่ที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ?”หญิงสาวมองฉันด้วยความประหลาดใจ “เธอเป็นใคร?”“ฉันเป็นใครไม่สำคัญหรอก สำคัญคือต้องเรียกดูภาพจากกล้องวงจรปิด” ฉันหันไปส่งสัญญาณให้ลั่วอี้ฝานลั่วอี้ฝานเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แต่พอเห็นฉันส่งสายตามาให้ เขาก็เข้าใจทันที ก่อนเรียกพนักงานคนหนึ่งมา “ไปตามผู้จัดการของพวกคุณมา”สมแล้วที่เป็นหุ้นส่วนของฉัน เข้าขากันได้ดีไม่มีที่ติฉันขยิบตาให้ลั่วอี้ฝานด้วยความพอใจเขาย

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 228

    ฉันง่วงมากจนไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน พอรู้ตัวอีกที เสียงของลั่วอี้ฝานก็ดังขึ้นปลุกฉัน“ซิงลั่ว ตื่นเถอะ”ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างงงงวย มองไปรอบ ๆ อย่างสับสนดูเหมือนว่าเราจะจอดอยู่หน้าร้านเช่าชุดราตรี ฉันเปิดประตูรถลงไปถามว่า “มาที่นี่ทำไม?”“ลืมแล้วเหรอ?”เสียงของลั่วอี้ฝานดังขึ้นอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “ลืมจริง ๆ เหรอ?”“อ๋อ” ฉันพึ่งจะนึกออก หลังจากที่เขาโทรมาบอกตอนกลางวันว่า ตอนเย็นจะพาฉันไปเจอใครบางคน ดูเหมือนว่าเป้าหมายของเราคือไปร่วมงานเลี้ยงไม่นานนัก เราก็เลือกชุดราตรีจากร้านเสื้อผ้าได้หนึ่งชุด พร้อมทั้งจัดแต่งทรงผมและแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยเมื่อออกมาจากร้านชุดราตรี รถเบนท์ลีย์สีดำสำหรับนักธุรกิจจอดรออยู่ตรงหน้าฉันลั่วอี้ฝานผายมือเชิญอย่างสุภาพ ฉันหันไปมองเขาพลางถาม “เปลี่ยนรถแล้วเหรอ?”“อืม” เขาดูเวลาที่นาฬิกา จากนั้นเปิดประตูรถ “เร็วเข้า เดี๋ยวจะไม่ทันเอา”บนรถ เขาเพิ่งเล่าให้ฉันฟังว่าในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เขาได้ขยายทีมงานเพิ่มขึ้น ทั้งจ้างคนขับรถและพนักงานใหม่ อีกทั้งยังเล่าถึงครั้งหนึ่งที่เขาไปเจรจาธุรกิจ แต่ถูกยกเลิกการนัดหมาย เพราะแต่งตัวไม่เป็นทางการและรถที่ใ

DMCA.com Protection Status