Share

บทที่ 43

Author: ลูกพีชแสนสวย
ที่น่าแปลกก็คือ เมื่อคืนฉันนอนหลับสบายมาก

เดิมทีฉันคิดว่าเขาจะติดต่อฉันผ่านทางโทรศัพท์ ส่งข้อความถึงฉันหรือไม่ก็โทรมา เพื่อหารือกับฉันเรื่องจัดสถานที่

แต่คืนนี้มันกลับเงียบอย่างน่าประหลาดใจ ราวกับว่าเขาไม่ได้เก็บเรื่องนี้ไปใส่ใจ หรือบางทีเขาอาจจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฉัน

ทว่าเมื่อคิดอีกมุม ฉันก็เข้าใจเหตุผลทั้งหมด

บางทีเขาอาจจะไม่ได้อยากสมัครเข้าชมรมแต่แรก ถ้าไม่ใช่เพราะต้องเก็บหน่วยกิตให้ครบแปดหน่วยกิต เขาก็คงไม่ถูกบังคับให้สมัครเข้าร่วมชมรมวางแผนกิจกรรม

และถึงแม้ว่าเขาจะอยู่กลุ่มเดียวกับฉัน แต่ก็ไม่อยากให้เฉินเยวี่ยเข้าใจผิดด้วย ดังนั้นเขาจึงรักษาระยะห่างจากฉัน

เมื่อคิดได้แบบนี้ ฉันก็รู้สึกในใจว่ามันช่างน่าขำ เพียงแต่ตอนนี้ฉันได้ปล่อยวางแล้ว ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตา

ฉันไม่ได้มีความรู้สึกขมขื่นวนเวียนอยู่รอบตัวอีกต่อไป ที่แท้การที่ไม่ถูกใครสักคนบงการหัวใจนั้น มันช่างอิสรเสรีถึงเพียงนี้

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมมื้อเช้า

ทันทีที่ลงมาที่ชั้นล่าง ก็เห็นว่าไม่ไกลนักมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งยอง ๆ อยู่ข้างพุ่มไม้

ในวันปกติธรรมดา ก็มักจะเห็นชายหนุ่มหญิ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 44

    ฉันยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็หยุดและหันกลับมามองที่ฉัน“ไม่กินมื้อเช้าเหรอ?”ฉันถอนหายใจยาว ทำได้เพียงตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้หลังจากรับประทานมื้อเช้ากันแบบง่าย ๆ เป็นเพราะบรรยากาศอึดอัดเกินไป ฉันก็ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกับเขาราวกับกำลังหนีตายระหว่างที่ฉันจ่ายเงิน เขาก็หยิบของหนัก ๆ แล้วเดินออกไปก่อนเรามาถึงสถานที่จัดประชุมและตัดสินใจตกแต่งสถานที่ ที่นี่พวกรุ่นพี่ได้สร้างเวทีที่เรียบง่ายขึ้นเวทีหนึ่ง พวกเราแค่ต้องตกแต่งสถานที่นี้ตามรูปภาพก็พอฉันหยิบทุกอย่างข้างในถุงออกมา แล้วจัดเรียงมันให้ตรงตำแหน่งเพื่อหน่วยกิต ต้องบอกว่าฉันพยายามอย่างหนักจริง ๆ แต่ก็มักจะรู้สึกเหมือนมีสายตาที่เร่าร้อนจับจ้องฉันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่กลับไม่รู้ที่มาของสายตานี้ฉันเม้มริมฝีปากลง ค่อย ๆ จัดสถานที่ทีละนิดระหว่างพักเบรก เขายื่นเครื่องดื่มมาให้ฉันหนึ่งขวด ฉันปฏิเสธไปอย่างสุภาพ แต่เขากลับบังคับยัดมันใส่มือฉัน“เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนี้หรอก”นี่ไม่เหมือนเขาเลย แต่...ของฟรีแบบนี้ ทำไมจะไม่เอาล่ะ?ดื่มน้ำอัดลมไปห

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 45

    ขืนยังอยู่เป็นก้างขวางคออีก ก็คงเสียมารยาทแล้ว พอเห็นทั้งสองคนที่แสนจะมีความสุขและหวานหยด ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินท้ายที่สุด คนที่ไม่ถูกรักต่างหากถึงจะเป็นมือที่สามฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาถึงหอพักด้วยอารมณ์ความรู้สึกแบบไหน แต่เมื่อฉันนอนลงบนเตียง ภาพที่เขาอุ้มฉันไว้ในอ้อมแขนก็ประเดประดังเข้ามาในหัว ทำให้ฉันรู้สึกแปลกพิกลแต่ด้วยอุปนิสัยเช่นนั้นของเขา แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นคนอื่นเขาก็คงยื่นมือเข้าช่วยเหลือเหมือนกันฉันพยายามขจัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวทั้งหมดออกไป จากนั้นก็หลับไปอย่างสงบในความฝัน ฉันฝันว่าพวกเขาสองคนกำลังกอดกัน ส่วนฉันซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เป็นเหมือนหัวขโมยที่คอยแอบดูความสุขของคนอื่นฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา โชคดีที่ทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันก็เปลี่ยนไปสวมชุดใหม่ที่สะอาดและคล่องตัว เตรียมจะไปจัดสถานที่คนเดียว แต่กลับได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่รู้จักสายหนึ่ง “สวัสดีค่ะ”ฉันกดรับสายอย่างสุภาพ แม้จะไม่รู้ว่าใครโทรมา แต่มันก็ทำให้ฉันประหลาดใจอย่างมาก“ฉันไม่โอเค”น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังส่งมา ทำให้ฉันยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีกเขาโทรหาฉันทำไม?

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 46

    ชั่วครู่หนึ่ง ฉันถูกบีบให้เข้าสู่ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้าฉันปฏิเสธเขา ฉันจะกลายเป็นคนถ่อยที่เนรคุณคนทันทีแต่ถ้าฉันตอบตกลง ก็กลัวว่าจะเข้าไปพัวพันกับเขาอีก“ฉันไม่บังคับเธอหรอกนะ ถ้าเธอไม่เต็มใจ ก็ลืมมันไปซะเถอะ อย่างที่คิดไว้เลย ทำดีไม่ได้ดีจริง ๆ ด้วย”กู้จือโม่ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของสายถอนหายใจยาว เสียงนี้เป็นเหมือนกับเสียงของปีศาจที่วนเวียนอยู่ในหัวใจของฉันไม่หยุด“อีกเดี๋ยวฉันจะไปถึงที่นั่น”ขณะที่เขากำลังจะวางสาย ฉันก็ตอบตกลงต่อให้เราจะใกล้ชิดกันสักสองสามวันแล้วจะทำไม ฉันไม่มีทางเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีกับเขาอย่างมากสุด อีกหน่อยก็อยู่ให้ห่างจากเขาเยอะหน่อยฟังจากที่พูดมา เหมือนว่าเขาจะยังไม่ได้กินข้าวเช้า ฉันเลยรีบนั่งแท็กซี่ไปที่ร้านอาหารเช้าใกล้โรงพยาบาล แล้วซื้ออาหารเช้าสองสามอย่างแล้วหิ้วมันไปที่โรงพยาบาลด้วยกันกู้จือโม่ในเวลานี้กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสง่างาม เขาก็แค่กระดูกมือหัก ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมเขาถึงต้องเข้าแอดมิดในโรงพยาบาลด้วยเมื่อเห็นฉันมาถึง เขาก็เริ่มทักทายฉันทันที“เมื่อวานฉันนอนเฝ้าดูอาการอยู่ที่นี่ตลอดทั้งคืน ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ต

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 47

    นิ้วเรียวยาวของเขากำลังดึงสายกางเกง เหมือนว่าจะเป็นเพราะมือของเขาเข้าเฝือกอยู่ เลยทำให้มัดเชือกได้ยากถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาสวมกางเกงเสร็จแล้ว ฉันคงได้เห็นเขาล่อนจ้อนจริง ๆวินาทีนั้น ฉันรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองแดงเหมือนกุ้งที่เพิ่งต้มสุกเลย“นาย…”ฉันอยากจะตำหนิเขา แต่ก็รู้สึกเขินอายอย่างมาก จึงหันหลังกลับและรีบวิ่งออกไปให้ตายสิ ทำไมเขาถึงได้น่ารำคาญขนาดนี้นะ?ฉันที่ยืนอยู่ที่ประตูรู้สึกเหมือนหัวใจตึกตักไม่หยุด ใบหน้าแดงก่ำมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งแดงจนร้อนผ่าวแม้แต่การหายใจก็ยังหอบกระชั้น แทบจะขาดอากาศหายใจอยู่แล้วฉันหลับตาลงอย่างตื่นเต้น แต่ในหัวก็เอาแต่นึกถึงนิ้วยาวของเขาที่กำลังดึงสายกางเกงไม่หยุดมองดูผ้าห่มที่ยังไม่ได้พับซึ่งกองอยู่บนเตียง ฉันก็รีบปรี่ขึ้นไปแล้วพับผ้าห่มผืนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งเขาเดินออกมา ฉันถึงได้วางผ้าห่มไว้ข้าง ๆฉันหันหน้าหนีทันที ไม่กล้าเผชิญหน้าเขาส่วนเขารอบตัวกลับปลดปล่อยกลิ่นอายที่เจ้าเล่ห์ออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นด้านหนึ่งของกู้จือโม่ที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน“อะไร เธอเขินเหรอ?”น้ำเสียงของเขามีเสน่ห์อย่างมาก ฉันรู้สึกเหมือนว่าขื

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 48

    ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นรดลงมาและกระจายไปโดนใบหูและแก้มของฉันแต่เดิมฉันก็เป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลามีคนมาพูดที่ข้างหู จึงทำให้ฉันยิ่งเขินอายเข้าไปใหญ่ ใบหูแดงก่ำจนเกือบสุกเขายื่นมือออกมากอดฉันไว้ จากนั้นก็ก้มศีรษะลงมาริมฝีปากบางเฉียดผ่านแก้มของฉันไปเบา ๆดวงตาคู่นั้นมันช่างล้ำลึกเหมือนเหมือนจะรวบรวมเอาความเวิ้งว้างของกาแล็กซีไว้ แค่ได้มองครั้งเดียวก็ทำให้คนตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้นเมื่อเห็นริมฝีปากบางขยับเข้ามาใกล้ฉัน ฉันก็รู้สึกราวกับมีมนต์สะกดมาพันธนาการตัวฉันไว้ ฉันจับเชือกมัดกางเกงนั้นด้วยมือทั้งสองข้างและยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ แม้แต่ลมหายใจก็กระชั้นแทบจะหยุดลงผู้ชายที่เคยทำให้ทั้งชีวิตนั้นของฉันน่าทึ่ง จะไม่หวั่นไหวเมื่อพบเขาเป็นครั้งที่สองได้อย่างไรเมื่อคุณพบใครสักคนที่น่าทึ่งมากเมื่อสมัยยังเด็ก น่ากลัวว่าไม่เพียงแต่คุณจะไม่สามารถลืมมันได้ตลอดทั้งชีวิต แม้ว่าจะมีโอกาสกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ก็ยังไม่อาจหนีพ้นเป็นเหมือนกับกับดักที่ทำให้ใจเต้น และก็เป็นเหมือนตาข่ายความรักที่ผูกมัดผู้คนไว้แน่นโดยไม่รู้ตัวเขากำลังจะจูบปากของฉัน และฉันเองก็แอบคาดหวังนิด ๆ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 49

    หลังจากที่เฉินเยวี่ยพูดจบ ฉันก็ตกตะลึงไปสองวินาทีก่อนที่จะกลับมาได้สติอีกครั้งเธอเดินขึ้นมา จับมือของฉันแล้วถามฉันอย่างจริงใจ “ลั่วลั่ว เธอจะอวยพรให้กับฉันและอาโม่ใช่ไหม?"ฉันมองดูท่าทางคาดหวังของเฉินเยวี่ย แล้วดึงมือของตัวเองกลับ“ขอโทษทีนะ ฉันคิดว่าพวกเธอไม่ต้องการคำอวยพรจากฉันหรอก ยังไงพวกเธอก็ต้องมีชีวิตที่ดีมากอยู่แล้ว”“แต่พวกเราไม่ใช่เพื่อนกันเหรอ?”ฉันอยากจะหัวเราะเล็กน้อย เฉินเยวี่ยเห็นว่าฉันเป็นนางโง่รึไง?ไม่ใช่ว่าฉันจะสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงในพักนี้ของกู้จือโม่ไม่ได้ เพียงแต่ว่าถูกงูกัดครั้งหนึ่งกลัวเชือกไปสิบปี ฉันยังจดจำหลักการนี้ได้อย่างขึ้นใจตอนนี้ฉันมีความฝันที่อยากจะทำมันให้สำเร็จแล้ว มีชีวิตที่อยากจะมี ห้วงทุกข์ในอดีต มีแต่จะเตือนฉันว่าให้อยู่ให้ห่างจากเขา“เฉินเยวี่ย” ฉันมองเธออย่างเย็นชาและยิ้ม “สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ว่าเธอกำลังจะกลายเป็นหลานสะใภ้ของตระกูลกู้ และเป็นคู่หมั้นของกู้จือโม่ในเร็ว ๆ นี้หรอกเหรอ?”“ทำไมฉันถึงมองเห็นความหวาดกลัวจากในสายตาของเธอกันล่ะ?”ฉันเปิดโปงความคิดของเฉินเยวี่ยออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ใบหน้าที่ไร้เดียงสานั้นฉับพลันจึงบิดเบี้ย

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 50

    ฉันจับมือของเธอลงมาแล้วส่ายหัว "เปล่า วันนี้ฉันแค่เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ"“แล้วพวกนั้นล่ะ?”“ไม่รู้สิ น่าจะใกล้กลับมาแล้วมั้ง พวกนั้นออกไปช้อปปิ้ง ฉันไม่ได้ไปด้วย แค่ไปเดินเล่นที่สนามกีฬาน่ะ”“โอเค งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”“ไปเถอะ ถ้ารู้สึกไม่ดีก็รีบเก็บของและพักผ่อนซะนะ”หลังจากที่ฉันออกจากห้องน้ำ ทุกคนก็กลับมาแล้ว ฉันพูดหยอกล้อกับพวกเธออีกสักพัก แล้วจึงขึ้นเตียงนอนประมาณสี่ทุ่ม กู้จือโม่ก็ส่งข้อความมาบอกให้ฉันไปที่โรงพยาบาลในเช้าวันพรุ่งนี้ เพราะพยาบาลพิเศษติดธุระบางอย่างเลยจะไม่มาทำงานแล้วฉันมองดูตัวอักษรบนหน้าจอแต่ละแถว จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามันน่าหัวเราะเขากำลังจะหมั้นหมายกับเฉินเยวี่ย แต่ก็ยังมาเกาะแกะฉันอีก นี่เขาหมายความว่ายังไง?ฉันซุกโทรศัพท์ไว้ใต้หมอน หลับตาแล้วพยายามทำให้ตัวเองหลับไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเที่ยงคืน ฉันก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโอนเงินไปให้กู้จือโม่ก้อนหนึ่ง จากนั้นก็บล็อกวีแชทของเขาไปตลอดคืนไร้ซึ่งความฝันเนื่องจากเพิ่งจะเปิดเทอม ตารางเรียนของพวกเราจึงยังไม่ออกมาโดยส่วนใหญ่ทุกคนจึงว่างกันมากฉันเพิ่งจะมองหางานพาร์ทไทม์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเสื้อผ้าผ่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 51

    ฉันกำหมัดไว้ข้างหลังตัวเอง ในขณะที่น้ำเสียงเย็นชา “ก็อย่างที่นายเห็นนั่นแหละ”“เธอบล็อกฉันเหรอ?”กู้จือโม่ถามด้วยสีหน้าที่เข้มขึ้นฉันมองเขาแล้วยิ้ม “ก็เห็น ๆ กันอยู่นี่ไง”สีหน้าของกู้จือโม่จากหม่นหมองกลายเป็นเคร่งเครียด ดวงตาของเขาจ้องมาที่ฉันเหมือนจะเผาฉันให้เป็นจุณ มือที่ห้อยอยู่ข้างลำตัวกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นมาฉันเริ่มรู้สึกกลัวโดยสัญชาตญาณ จึงถอยหลังไปหนึ่งก้าวแต่ในทันทีนั้นเอง มือใหญ่มาก็วางลงบนบ่าของฉันฉันหันกลับไปมอง ก็พบลั่วอี้ฝานยืนอยู่ เขามองฉันด้วยดวงตาแฝงไปด้วยความสนุกสนาน“อรุณสวัสดิ์นะ ที่รักของฉัน”ฉันเงียบ “...”ฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำเรียกของลั่วอี้ฝาน แล้วส่งสายตาให้เขาปล่อยมือจากไหล่ฉันแต่เขากลับเลิกคิ้วขึ้น เหมือนจงใจไม่ยอมปล่อยการที่ฉันกับลั่วอี้ฝานเงียบกันแบบนี้ ในสายตาของกู้จือโม่คงดูเหมือนว่าเรากำลังหยอกล้อกันกู้จือโม่ใช้มือข้างที่ไม่ได้ใส่เฝือกจับข้อมือของฉัน ในขณะเดียวกันลั่วอี้ฝานก็เหมือนจะรู้ทัน เขาก็จับข้อมือของฉันอีกข้างไว้เช่นกันทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างแรงราวกับอยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายตอนนี้เป็นเวลาประมาณเก้าโมงเช้า นักศึกษาท

Latest chapter

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 370

    “อย่าให้เธอหนีไปได้!”เสียงคำรามของหัวหน้าชายดังมาจากด้านหลัง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยอำนาจที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และแฝงความเร่งรีบอย่างชัดเจนแต่ฉันรู้ดีว่า นี่คือโอกาสสุดท้ายของฉันฉันพุ่งเข้าไปในห้องนอนโดยไม่ลังเล โถมตัวเข้าหาหน้าต่างทันที ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเปิดบานหน้าต่างที่หนักและเก่าไปสุดแรงสายลมเย็นพัดกระทบใบหน้า พร้อมกับกลิ่นอายของค่ำคืน ทำให้ฉันลืมความหวาดกลัวและความเหนื่อยล้าไปชั่วขณะฉันลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหันตัวเตรียมหนีไป แต่ทันใดนั้นเอง ปลายเสื้อของฉันก็ถูกกระชากเอาไว้!“ปล่อยฉันนะ!”ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจ พยายามดิ้นรนสุดแรง แต่แรงที่จับฉันไว้นั้นแข็งแกร่งอย่างน่ากลัว ราวกับจะดึงฉันกลับเข้าไปในห้องอย่างไม่ปรานีในช่วงเวลาที่คับขันที่สุด ฉันเหวี่ยงมีดปอกผลไม้ในมือออกไปอย่างสุดแรง แม้ว่าจะไม่ได้แทงเข้าเป้าตรง ๆ แต่คมมีดก็เฉือนเข้าที่แขนของเขา ทิ้งรอยแผลลึกไว้พร้อมกับเลือดที่ไหลซึมออกมา!ความเจ็บปวดทำให้เขาเผลอคลายมือโดยไม่รู้ตัว ฉันฉวยโอกาสนี้สะบัดตัวหลุดจากการควบคุม แล้วกระโจนออกไปทันที ร่างของฉันลอยอยู่กลางอากาศ แขวนตัวอยู่เหนือพื้นด้านล่าง!‘กระโดดเร็ว!

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 369

    ในตอนนั้นเอง ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของฉันอย่างกะทันหันฉันต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ตัวตนของพวกเขา หรืออย่างน้อยก็ถ่วงเวลาไว้ เพื่อรอโอกาสที่อาจเปลี่ยนสถานการณ์ได้แต่ฉันก็นึกถึงความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง นั่นคือพวกเขากำลังทดสอบขีดจำกัดของฉันฉันเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ตามลำพัง ไร้ที่พึ่งพาเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ ฉันรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ จำเป็นต้องรักษาความสงบและใช้สติปัญญาอย่างถึงที่สุดฉันกวาดตามองชายเหล่านั้นอย่างเงียบ ๆ โดยประมาณแล้วดูเหมือนว่าจะมีเพียงสามคนฉันคำนวณในใจเงียบ ๆ หากจำเป็นต้องลงมือ อย่างน้อยฉันต้องพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาเสียก่อนดังนั้น ฉันจึงจงใจเพิ่มระดับเสียง ทำท่าเหมือนกำลังหาโทรศัพท์ไปด้วย ขณะเดียวกันก็ใช้หางตาสังเกตปฏิกิริยาของพวกเขาอย่างระมัดระวัง“ขอโทษค่ะ ดูเหมือนว่าโทรศัพท์ของฉันจะอยู่ในห้องนั่งเล่น รอสักครู่ค่ะ เดี๋ยวฉันกลับมา”พูดจบ ฉันค่อย ๆ หมุนตัวทำท่าเหมือนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง แต่แท้จริงแล้ว ฉันใช้ปลายเท้าเกี่ยวเข้ากับกระถางต้นไม้ที่วางอยู่ตรงขอบประตู กระถางนั้นเป็นเพียงของตกแต่งในชีวิตประจ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 368

    ชายคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่ยังคงแฝงไปด้วยความหนักแน่นฉันพยักหน้า พยายามทำให้เสียงของตัวเองฟังดูนิ่งสงบที่สุด“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเหรอคะ?”“พวกเราเป็นทีมปฏิบัติการพิเศษของตำรวจ เกี่ยวกับเหตุการณ์ปล้นในช่วงเช้าวันนี้ เรามีบางเรื่องที่ต้องสอบถามคุณเพิ่มเติม”ชายที่เป็นผู้นำยื่นบัตรประจำตัวให้ดู น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังที่ไม่อาจมองข้ามได้ฉันชะงักไปเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าเหตุปล้นที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดา จะโยงมาถึงตัวฉันได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ฉันก็พยายามทำตัวให้สงบที่สุด ก่อนจะขยับตัวหลบไปด้านข้าง เตรียมให้พวกเขาเข้ามาในบ้านแต่ฉันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ดึกขนาดนี้ ตำรวจจะมาหาฉันถึงบ้านได้อย่างไรกัน?ฉันหยุดเดินทันที ความระแวงพุ่งขึ้นสุดขีด สายตากวาดมองไปมาระหว่างชายเหล่านั้น พยายามจับพิรุธจากแววตาของพวกเขาในตอนนั้นเอง เบาะแสเล็กน้อยบางอย่างก็สะดุดตาฉันชายที่เป็นหัวหน้าถึงแม้จะแสดงบัตรออกมา แต่ในสายตาที่พร่ามัวของฉัน บัตรใบนั้นดูเหมือนจะมีแสงสะท้อนที่ผิดปกติ ไม่เหมือนกับวัสดุพลาสติกทั่วไปที่ควรจะเป็นเมื่ออยู่ใต้แสงไฟ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 367

    สำหรับกู้จือโม่ ความรักของเขามีหรือไม่มี ก็ไม่สำคัญสำหรับฉันอีกต่อไปบางที สักวันหนึ่ง เขาอาจยอมทิ้งฉันเพื่อครอบครัวของเขาก็เป็นได้คิดมาถึงตรงนี้ ฉันเผลอแสดงรอยยิ้มขมขื่นออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ในรอยยิ้มนั้นกลับแฝงไปด้วยความปล่อยวางเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันเก็บข้าวของเสร็จล่วงหน้าแล้วและออกเดินไปตามทางแสงแดดลอดผ่านกลุ่มเมฆบางเบา โปรยเป็นลวดลายลงบนพื้น เติมความอบอุ่นให้กับเช้าวันนี้ที่เงียบเหงาขึ้นมาเล็กน้อยฉันสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปลึก ๆ พยายามปล่อยความหม่นหมองของเมื่อคืนออกไปทั้งหมด และเตรียมตัวต้อนรับวันใหม่บนท้องถนน ผู้คนเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนต่างก้าวเดินอย่างเร่งรีบและวุ่นวายกับชีวิตของตัวเองฉันเดินไปอย่างไร้จุดหมาย แต่ในใจกลับมีทิศทางที่ชัดเจน ฉันจะมุ่งมั่นกับชีวิตและหน้าที่ของตัวเองให้มากขึ้น และจะไม่ให้ความรู้สึกมาผูกมัดฉันอีกต่อไปขณะที่ฉันกำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงบรอบตัวฉันหันกลับไปมอง เห็นชายคนหนึ่งวิ่งตรงมาหาฉันด้วยท่าทางตื่นตระหนก ขณะที่ด้านหลังของเขามีกลุ่มชายฉกรรจ์สีหน้าดุดันไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด เห็นได้ชัดว

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 366

    เมื่อหลินเฉี่ยนได้ยินดังนั้น ดวงตาของเธอแดงก่ำ แต่เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมาการอยู่ที่นี่ต่อไปจะยิ่งทำให้สถานการณ์น่าอึดอัดขึ้น ฉันหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินออกไปทันทีเดินอยู่บนถนนอันเงียบสงัด ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เด็กหนุ่มที่เคยอ่อนโยนและน่ารักในวันวาน กลับมาทะเลาะกันเพราะเรื่องของความรู้สึกในตอนนี้ดูเหมือนจะสามารถสืบทอดกิจการของครอบครัวได้ แต่กลับสูญเสียอิสรภาพในการเลือกความรักของตัวเองไม่รู้ว่าเดินมาได้นานแค่ไหน ฉันก็พบว่าตัวเองมาถึงริมแม่น้ำแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงพลบค่ำพอดีสายลมยามค่ำคืนพัดผ่านเบา ๆ นำพาความเย็นเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะช่วยพัดพาความหงุดหงิดในใจให้จางหายไปด้วยฉันเดินทอดน่องเพียงลำพังบนถนนที่มีแสงไฟสลัว ในหัวยังคงฉายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านกาแฟซ้ำแล้วซ้ำเล่าความรัก ความรับผิดชอบ ผลประโยชน์ของครอบครัว... คำเหล่านี้สานกันเป็นใยซับซ้อนในความคิดของฉัน ทำให้ยากที่จะหลุดพ้นบางเรื่องฉันเคยผ่านมันมาแล้ว แต่บางเรื่องกลับทำให้ฉันเจ็บปวดเหลือเกิน แม้ว่าจะมีโอกาสเริ่มต้นใหม่ ฉันก็ยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการอยู่ดีฉันหยุดเดิน เ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 365

    สีหน้าของลู่เฉินเต็มไปด้วยความสับสน เขามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะรีบหลบสายตากลับไป ราวกับกำลังชั่งใจและตัดสินใจบางอย่างในใจฉันรับรู้ได้ถึงความสับสนและความเจ็บปวดในใจของเขา ไม่ใช่แค่เพราะหลินเฉี่ยนที่อยู่ตรงหน้า แต่ยังเป็นเพราะทางเลือกที่เขาเคยทำ รวมถึงความไม่แน่นอนต่ออนาคตของตัวเอง“หลินเฉี่ยน เธอใจเย็น ๆ ก่อนนะ”น้ำเสียงของลู่เฉินพยายามรักษาความสงบ แต่ความเหนื่อยล้าและความสิ้นหวังที่ซ่อนอยู่กลับไม่อาจปกปิดได้“ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคุยเรื่องนี้ เราหาเวลาคุยกันให้ดีอีกทีได้ไหม?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหลินเฉี่ยนไม่ได้ดีขึ้นมากนัก แต่เธอดูเหมือนจะตระหนักได้ว่าสถานการณ์ตรงนี้ไม่เหมาะสมสำหรับการพูดคุยเรื่องนี้ เธอจึงสูดลมหายใจลึก พยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง“ก็ได้ แต่ฉันต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากคุณตอนนี้เลย เกี่ยวกับการหมั้นของเรา คุณคิดยังไงกันแน่?”ลู่เฉินนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยปากพูดอย่างช้า ๆ ในที่สุด“หลินเฉี่ยน ผมรู้ว่าฉันติดค้างคำอธิบายกับคุณ เกี่ยวกับการหมั้น ผมไม่เคยคิดจะหนี เพียงแต่... ผมต้องใช้เวลาเพื่อจัดการความคิดของตัวเอง ธุรกิจของครอบครัว อนาคตของเราสักหน่อย เร

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 364

    ในคำพูดของเขา มีทั้งความจำใจต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ความคิดถึงอดีต และความสับสนต่ออนาคตที่ไม่แน่นอนฉันตระหนักได้ว่าหนทางชีวิตของแต่ละคนล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราต่างก็ใช้วิธีของตัวเองในการประนีประนอมกับโลกใบนี้ และพูดคุยกับตัวเองภายในใจฉันแตะหลังมือของเขาเบา ๆ อย่างแผ่วเบา มอบกำลังใจให้เขาโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใด ๆ“จริง ๆ แล้ว ทุกเส้นทางชีวิตล้วนมีคุณค่าและความหมายในแบบของตัวเอง การที่นายรับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว นั่นก็เป็นความรับผิดชอบและความกล้าหาญในอีกรูปแบบหนึ่ง ส่วนเรื่องการแต่งงาน แม้ว่าตอนแรกอาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคย แต่ชีวิตเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง ใครจะรู้ได้ล่ะว่า คู่ชีวิตในอนาคตอาจกลายเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนายก็ได้?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น แววตาของเขาฉายแววคลายกังวลขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากค่อย ๆ ปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ อย่างไม่รู้ตัว“เธอพูดถูกนะ เฉียวเฉียว บางทีฉันอาจจะมองโลกในแง่ร้ายเกินไป”ท่ามกลางบทสนทนา กลิ่นหอมของกาแฟอบอวลไปทั่วอากาศ ราวกับพาเราย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลามัธยมที่ไร้กังวลอีกครั้ง“จริง ๆ แล้ว นายอาจรู้สึกว่าชีวิตตอนนี้เหมือนกรงขัง แต่พวกเราที่ดิ้นรนต่อสู้อยู่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 363

    ในตอนนั้น หัวใจของฉันเจ็บปวดราวกับถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แต่ยังต้องฝืนยิ้มต่อหน้าผู้คน และเล่นตามบทบาทในพิธีศพอันแสนไร้สาระทุกครั้งที่ฉันมองแผ่นหลังของไอ้สารเลวนั่น ความโกรธและความเศร้าที่ไม่อาจบรรยายได้ก็เอ่อล้นขึ้นมาในใจคนที่ควรจะเป็นที่พึ่งพาที่มั่นคงที่สุดของฉัน กลับเลือกที่จะใช้การจากไปของคุณย่าเพื่อตอบสนองความต้องการเห็นแก่ตัวของตัวเอง ในช่วงเวลาที่ฉันต้องการความเข้าใจและการสนับสนุนมากที่สุดหลังจากพิธีศพจบลง ฉันเดินวนเวียนอยู่เพียงลำพังในสวนหลังบ้าน แสงจันทร์สาดส่องลงมา ทำให้บรรยากาศยิ่งเย็นเยียบและเงียบเหงาเป็นพิเศษฉันหวนคิดถึงทุกช่วงเวลาที่แสนอบอุ่นที่เคยใช้ร่วมกับคุณย่า รอยยิ้มของเธอ คำสอนของย่า ราวกับยังคงก้องอยู่ข้างหูน้ำตาไหลรินอย่างเงียบงันในช่วงเวลานี้ ความคับแค้น ความโกรธ และความไม่ยอมรับทุกอย่าง ถูกปลดปล่อยออกมาในที่สุดแต่ตอนนี้ คนที่เจ็บปวดจริง ๆ คือเฉิงเฉิง ฉันรู้สึกทรมานใจเหลือเกินเห็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันกลายเป็นคนหมดอาลัยตายอยากหลังจากการจากไปของคุณย่า ฉันเองก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกันฉันสูดลมหายใจลึก พยายามทำให้ตัวเองสงบลง แล้วหันไปมองเฉิงเฉิงด้วยความต

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 362

    “ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอ เฉียวเฉียว การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะลืมเลือน แต่เช่นเดียวกับที่เธอกล่าวไว้ เราทุกคนจำเป็นต้องหาหนทางที่จะก้าวออกจากความเศร้าและกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง คุณทำได้ และฉันเชื่อว่าฉันก็ทำได้เช่นกัน”เสียงของเฉิงเฉิงเต็มไปด้วยความหนักแน่นมากขึ้น แม้ว่าดวงตาจะยังคงแดงก่ำ แต่ความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตก็ได้ปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ“ฉันจำได้ว่า คุณย่าเคยบอกฉันว่า ชีวิตก็เหมือนการเดินทาง เราจะได้พบเจอผู้คนมากมาย และก็ต้องลาจากกับหลายคนเช่นกัน การจากไปของแต่ละคนมีไว้เพื่อให้เราซาบซึ้งกับคนที่ยังอยู่เคียงข้างเรามากขึ้น และให้เห็นคุณค่าของเส้นทางชีวิตข้างหน้าของตัวเอง ฉันคิดว่า ตอนนี้ย่าคงอยู่ที่ไหนสักแห่ง มองฉันด้วยความอ่อนโยน และหวังให้ฉันเข้มแข็งก้าวต่อไป”ฉันจับมือเธอเบา ๆ มอบกำลังใจให้เธอโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใด ๆ“เฉิงเฉิง คำพูดของย่าเธอถูกต้องแล้ว เราต้องก้าวต่อไปโดยมีความรักของเธออยู่กับเรา พรุ่งนี้เราจะเผชิญกับพิธีศพด้วยกัน แม้ว่ามันจะยาก แต่ก็นับเป็นการอำลาย่าของเธอ และเป็นก้าวสำคัญของการเติบโตของเราเอง”คืนนั้น เราคุยกันมากมาย ตั้งแต่ความทรง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status