หลายวันผ่านไปเย่ม่านรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในยามสายของวันที่เจ็ด นางสบสายตาเข้ากับดวงตาของพระสวามีที่นั่งอยู่ไม่ไกล เย่ม่านพลันยิ้มกว้างออกมาด้วยความยินดี
"อื้ออี้!"น้ำเสียงที่เปล่งออกมากลับอู้อี้ไม่เป็นคำ เย่ม่านรู้สึกลำคอของนางแห้งผากเป็นผุยผง ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว"อั่นอี้""ท่านหมอ พระชายารองฟื้นแล้ว"กงหนิงหลงเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงติดเย็นชา สายตาที่เขามองเย่ม่านราวกับมองตัวไร้ประโยชน์ท่านหมอเดินเข้ามาตรวจจับชีพจร และแตะที่บริเวณเส้นเสียงของลำคอ เขายังสั่งให้หญิงสาวอ้าปากเพื่อตรวจสอบดูด้วย ท่านหมอใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งจึงเดินเข้ามารายงานอาการของเย่ม่านด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก"พระชายารองถูกพิษร้ายแรงมาก พิษชนิดนี้มีฤทธิ์กัดกร่อนอวัยวะภายใน แม้ว่าจะขับพิษออกมาหมดแล้ว และสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่ลำคอไล่ลงมาถึงกระเพาะอาหารเสียหายหนักมาก ทำให้เส้นเสียงเสียหาย พระชายารองจึงไม่สามารถเปล่งเสียงได้เหมือนคนปกติ และกระเพาะอาหารเองก็ทำงานไม่เหมือนเดิม ต่อไปนี้พระชายารองจึงเสวยได้เพียงอาหารอ่อนเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ"บทที่ 22ความฝันของกงหนิงเจี้ยน เย่ปิงปิงได้รับจดหมายของเย่ม่านแล้ว ใจความจดหมายเขียนไว้ว่านางถูกลี่หลินวางยาพิษ ตอนนี้นางมิอาจพูดได้ องค์รัชทายาทไม่แม้แต่จะลงโทษคนผิด แต่กลับส่งนางที่ถูกกระทำไปยังอารามหลวง ขอให้เย่ปิงปิงได้โปรดช่วยเหลือด้วยทันทีที่อ่านจดหมายของเย่ม่านจบ เย่ปิงปิงทำแค่พับกระดาษแผ่นนี้เก็บไว้ ในท้ายที่สุดผลกรรมที่เย่ม่านเคยทำกับนางไว้เมื่อชาติก่อนก็ได้ส่งผลของมันแล้ว นางไม่ต้องออกแรงทำอะไรเลย คนชั่วอย่างไรก็ต้องแพ้ภัยตัวเอง แต่ข้อที่ลี่หลินเป็นคนวางยานั้นยังมีข้อพิรุธอยู่หลายจุด"คิดสิ่งใดอยู่หรือ หน้าเครียดเชียว"กงซ่างเหว่ยที่กำลังออกไปทำงานตรงเข้ามาสวมกอดภรรยา ทั้งยังหอมแก้มของเย่ปิงปิงเสียหลายฟอด ซีซีที่ยืนคอยรับใช้อยู่ไม่ไกลรีบหันหน้าหนีด้วยความเขินอายแทนเจ้านายสาว"น้องรองส่งจดหมายมาให้หม่อมฉันช่วยเพคะ"เย่ปิงปิงยื่นแผ่นกระดาษให้กับพระสวามี กงซ่างเหว่ยกวาดสายตาอ่านตัวอักษรก่อนจะแค่นหัวเราะออกมา
กงหนิงหลงมองตามเย่ปิงปิงที่เดินจากไปด้วยเสียดาย ตั้งแต่งานเลี้ยงวันเกิดครานั้น เขาก็รู้สึกแสนเสียดายในตัวเย่ปิงปิงนัก หากวันนั้นไม่มีเสด็จอาเข้ามายุ่ง เขาคงได้เย่ปิงปิงมาไว้ข้างกายแล้ว คงไม่ใช่เย่ม่าน สตรีที่มีจิตใจอำมหิตไม่สมกับใบหน้าที่อ่อนหวานของนาง"เสียดายนางหรือ""พ่ะย่ะค่ะ"โจวซูเหวินมองตาเขียวใส่กงหนิงหลง "หึ! จะมาเสียดายนางเอาตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้วล่ะ ตอนนี้นางมีความสุขในฐานะพระชายาในชินอ๋องไปแล้ว""ลูกรู้พ่ะย่ะค่ะ""ไม่รู้ว่าไป๋กุ้ยเฟยมันล่วงรู้แผนการของเราหรือไม่ ถึงได้มาเรียกตัวนางได้ถูกเวลานัก ว่าแต่เรื่องของพระชายารองของลูกจัดการอย่างไร แล้วลี่หลินเล่า""ลูกจะรอให้อาการของเย่ม่านดีขึ้นมากกว่านี้ก่อน แล้วจึงจะส่งตัวนางไปยังอารามหลวง ส่วนลี่หลินเพราะความผิดของนางจึงได้ย้ายให้นางไปอยู่เรือนหลังเล็กพ่ะย่ะค่ะ""ลี่หลินคงแค้นใจที่เสียลูกไป แต่อย่างไรนางก็เป็นเพียงสาวใช้อุ่นเตียง ทำร้ายเชื้อพระวงศ์มีโทษตาย หากเจ้าจะไว้ชีวิตนางก็อย่าให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปได้ ถ้าเสด็จพ่อทรงทราบคงจะตำหนิที่เจ้าไม่มีความเป็นธรรม ต
บทที่ 23ความจริงที่ขาดหายไป ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ กงซ่างเหว่ยได้เข้ามาพบกงหนิงเจี้ยนเพื่อรายงานเรื่องเหตุหิมะถล่ม รวมถึงเรื่องที่เย่ปิงปิงได้กักตุนเสบียงเอาไว้ นางยินดีที่จะมอบเสบียงทั้งหมดเพื่อช่วยราษฎรที่ลำบาก"น้องสะใภ้ของข้ามีความคิดที่รอบคอบเช่นนี้เลยหรือ นางเตรียมพร้อมราวกับล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอย่างนั้นแหละ""กระหม่อมก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ""อาเหว่ยวันนี้เจ้าไม่ต้องออกไปไหนหรอก ข้าจะให้เจากงกงไปจัดการเรื่องในหมู่บ้านเอง ส่วนเจ้าก็มาอยู่ฟังเรื่องสนุก ๆ กับข้าดีกว่า"เพราะคำชวนนี้เอง กงซ่างเหว่ยจึงได้มายืนหลบมุมตรงหลังพุ่มไม้ เขายืนฟังบทสนทนาของเย่ปิงปิงกับกงหนิงเจี้ยนอยู่เป็นนาน ภายในหัวของเขาขบคิดถึงเรื่องราวที่ผ่าน ๆ มา มีหลายเรื่องที่เย่ปิงปิงทำราวกับล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า รวมถึงเรื่องของเจ้าเมืองต้าอู๋ที่เขาเพิ่งได้รับรายงานจากม้าเร็วเมื่อครู่นี้เอง "น้องหญิงเคยตายมาก่อนแล้วเช
"เป็นอย่างไรบ้างอาหรงน้องพี่""ถุย! คนหยาบช้าเช่นเจ้าไม่ใช่พี่ของข้า""ข้าเองก็ไม่ได้อยากนับเจ้าเป็นน้องหรอก หากไม่ใช่เพราะเลือดในกายอีกครึ่งมันเป็นของเสด็จพ่อแล้วล่ะก็ ข้าคงตัดศีรษะของเจ้าไปแล้ว"กงซ่างเหว่ยตวาดเสียงกร้าว เขาจ้องมองคนที่เคยเรียกว่าน้องชายด้วยความรู้สึกผิดหวังผิดหวังที่ไว้ใจคนผิด หากไม่ได้จดหมายจากเย่ปิงปิงว่าวังหลวงอาจจะเกิดเรื่องวุ่นวาย เขาคงไม่รีบขี่ม้าเร็วจากแดนเหนือที่ถูกคนเถื่อนรุกราน ตรงกลับมาที่เมืองหลวงโดยไม่พักหรอก ยิ่งได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเหตุการณ์ที่ชายแดนใต้ เจ้าเมืองต้าอู๋เป็นคนของกงเฟยหรง เขาก็คงยังไม่ตาสว่าง แต่ที่น่าตกใจที่สุดก็คือกงเฟยหรงเดินได้!!จบจากเรื่องนี้เขาคงต้องขอบคุณเย่ปิงปิงเสียแล้ว..."ฆ่าข้าซะเลยสิ ข้าแพ้เจ้าแล้วนี่""ความตายสำหรับเจ้ามันน้อยไปนัก""หึ! แต่ถึงเจ้ามาตอนนี้ก็ช้าไปแล้วล่ะ ถึงเจ้าจะช่วยเสด็จพี่ได้ แต่สตรีที่เจ้าแอบรักนั้นได้เซ่นสังเวยให้กับฉากงิ้วของข้าไปแล้วล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า""อะไรนะ! เจ้าทำอะไรปิงปิง"กงซ่างเหว่ยถลาเข้ามาเหยียบหน้าอกของ
บทที่ 24 ไหลไปตามน้ำ "พวกเจ้าเลิกเห็นข้าไร้ตัวตนสักทีเถิด ในเมื่อรู้เช่นนี้แล้วจะทำอย่างไรต่อไป ที่ข้าเล่าให้ฟังก็เพราะอยากชดเชยที่ข้าเลี้ยงดูบุตรชายไม่ดี ทำให้เขากลายเป็นคนเช่นนั้นไปได้"ประโยคหลังกงหนิงเจี้ยนเอ่ยกับเย่ปิงปิงด้วยความรู้สึกผิด "เราไม่ต้องทำสิ่งใดหรอกเพคะ แค่ปล่อยให้เหตุการณ์มันไหลไปตามน้ำ อย่างไรคนผิดก็ต้องรับโทษ เราแค่รอเวลาที่จะต่อกรกับพวกเขาเท่านั้น แต่ตำแหน่งองค์รัชทายาทคงต้องถึงคราวสับเปลี่ยนแล้วนะเพคะ ฝ่าบาทคงเล็งเห็นแล้วว่ากงหนิงหลง ไม่เหมาะสมกับการเป็นฮ่องเต้""ข้าเองก็คิดจะปลดเขาออกจากตำแหน่ง แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเช่นนั้นนะ ในเมื่อตอนนี้เขายังไม่ได้ทำผิดอะไร""ทำไมจะไม่มีเล่าเพคะ ขอแค่ฝ่าบาทมอบอำนาจให้หม่อมฉันสักเล็กน้อย หม่อมฉันจะทำให้เขาตกลงมาจากตำแหน่งเอง แต่เมื่อถึงเวลานั้นพระองค์จะไม่ผิดคำพูดนะเพคะ"เย่ปิงปิงสบตากับกงหนิงเจี้ยนอย่างไม่หวั่นเกรง"เข้าใจแล้ว อาเหว่ย! เจ้ารีบพ
"หม่อมฉันมีสายข่าวที่เชื่อถือได้เพคะ หากไป๋กุ้ยเฟยไม่เชื่อจะทรงส่งคนไปสืบก็ได้นะเพคะ ในทุก ๆ วันฮองเฮาจะเป็นคนลงไปควบคุมพระกระยาหารของฮ่องเต้ มันอาจจะไม่แปลก แต่ถ้าทุกครั้งฮองเฮาจะสั่งให้คนออกไปก่อนที่พระนางจะนำพระกระยาหารไปให้ฮ่องเต้ทรงเสวย นี่มันไม่แปลกหรือเพคะ ฉวยโอกาสที่ไล่ทุกคนออกไปแล้ว ฮองเฮาก็ลอบใส่ยาพิษลงไปในพระกระยาหาร หากเรื่องนี้ถูกจับได้ก็แค่หาคนมารับผิดซะก็สิ้นเรื่อง เพราะไม่มีผู้ใดเห็นว่าเป็นฝีมือของฮองเฮา"ไป๋มู่ตานนิ่งคิดไปชั่วครู่ เรื่องที่เย่ปิงปิงพูดขึ้นมานั้นถูกต้องทั้งหมด เพราะเคยมีครั้งหนึ่งที่นางทำโจ๊กรังนกไปถวายฮ่องเต้ แต่กลับถูกฮองเฮาสั่งให้คนยกกลับมา โดยแจ้งว่าวันนี้ฮองเฮาทรงทำพระกะยาหารถวายฮ่องเต้แล้ว หากนางอยากจะทำอาหารมามอบให้กับฮ่องเต้ ให้ทำเป็นมื้ออื่นแทนที่ไม่ใช่มื้อเช้า"ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าจะให้ข้าเป็นคนเปิดโปงฮองเฮาใช่หรือไม่""เพคะ เรื่องนี้คงต้องรบกวนไป๋กุ้ยเฟยแล้ว ยิ่งมีหลักฐานอยู่ที่ตัวฮองเฮาด้วยก็จะยิ่งดิ้นไม่หลุด เมื่อนั้นฮ่องเต้จะเป็นผู้ตัดสินโทษฮองเฮาเองเพคะ""ฝ่าบาททรงรู้ด้วยหรือ?"แค่เรื่องที่ฮอง
บทที่ 25พี่สาวผู้แสนดี เย่ปิงปิงที่มากับเจากงกงเดินตรงไปยังเรือนของเย่ม่าน แต่กลับมีหลี่กงกงเข้ามาขวางทางเอาไว้ เขาไม่ยอมปล่อยให้ทั้งสองเข้าพบกับเย่ม่านเป็นอันขาด ด้วยรู้ดีว่าถ้าหากเย่ปิงปิงเจอเย่ม่านสภาพนั้น องค์รัชทายาทจะต้องตกที่นั่งลำบาก เขาจึงรีบใช้ให้คนไปตามกงหนิงหลงกลับมาที่วังบูรพาโดยด่วน แต่ไม่คาดว่าคนผู้นั้นจะถูกขัดขวางเอาไว้เสียก่อน ข่าวการมาเยือนของเย่ปิงปิงจึงไม่ได้ล่วงรู้ไปถึงหูของกงหนิงหลง"นี่มันอะไร หลี่กงกงกล้าเข้ามาขวางทางพระชายากับข้าหรือ"เจากงกงขึ้นเสียงแหลมปรี๊ดใส่หลี่กงกงด้วยความไม่พอใจ มาถึงขนาดนี้ยังคิดจะมาขวางทางพวกเขาได้อีกหรือ...ช่างไม่ดูกำลังของตัวเองบ้างเลย"ขออภัยพระชายาพ่ะย่ะค่ะ เวลานี้พระชายารองทรงหลับอยู่ บ่าวจึงมิอาจปล่อยให้พระชายาเข้าไปในห้องได้ อีกอย่างท่านหมอได้สั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปรบกวนการพักผ่อนของพระชายารองพ่ะย่ะค่ะ"หลี่กงกงพูดคุยอย่างมีเหตุมีผล เขาทั้งอ่อนน้อมและนิ่งสงบเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เ
"ม่านเอ๋อร์ สาวใช้นางนี้ใช่คนที่ทำร้ายเจ้าหรือไม่"เย่ปิงปิงจำได้ว่าเย่ม่านไม่ได้เขียนบอกว่านางเดินไม่ได้ และดูจากที่รอยช้ำที่ท่อนขาคงจะเพิ่งเกิดได้ไม่นาน"อื้อ ๆ"เย่ม่านน้ำตาซึมแล้วพยักหน้าระรัว เป็นสาวใช้ผู้นั้นที่ลงมือทุบตีนาง"ดี! เจากงกงนำตัวสาวใช้นางนี้ไปขังที่คุกหลวง ข้าจะทูลขอฝ่าบาทไต่สวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ส่วนม่านเอ๋อร์ ข้าจะพานางกลับจวนชินอ๋องด้วย ผู้ใดกล้าเข้ามาขัดขวางหรือไม่""เรื่องนี้เป็นเรื่องของวังบูรพา พระชายาไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายนะพ่ะย่ะค่ะ"หลี่กงกงพลันได้สติ เขารีบเอ่ยแย้งทันที สายตาก็เอาแต่มองบานประตูว่าเมื่อไหร่องค์รัชทายาทจะเสด็จกลับมาเสียที"สภาพของน้องสาวข้าเป็นเช่นนี้ยังคิดว่าข้าจะเชื่อใจองค์รัชทายาทได้อีกหรือ ก่อนแต่งงานบอกรักนางนักหนา แต่เวลานี้กลับละเลยจนนางมีสภาพแย่ยิ่งกว่าขอทาน ข้าที่เป็นพี่สาวไม่ยอมเป็นอันขาด และเรื่องนี้ข้าจะกราบทูลฮ่องเต้ ให้พระองค์ให้ความเป็นธรรมแก่ตระกูลเย่ของข้า""พระชายา เรื่องนี้...""พอได้แล้วหลี่กงกง เรื่องนี้ให้คนที่มีอำนาจมาพูดคุยกัน เจ้าเป็นแค
ตอนพิเศษ 4 การละเล่นของเด็กน้อย กงซูเจินที่เห็นหน้าของเจียงหนิงเหมยก็รีบตรงเข้าไปดึงแขนของหญิงสาวด้วยความสนิทสนม "พี่สาว เราไปนั่งเล่นกันที่ศาลาด้านนู้นกันเถิดเจ้าค่ะ ข้ามีอะไรสนุก ๆ อยากมาเล่นกับพี่สาวด้วยเจ้าค่ะ" กงซูเจินแย้มยิ้มอย่างน่ารักน่าเอ็นดู นี่จึงทำให้เจียงหนิงเหมยรู้สึกเอ็นดูท่านหญิงน้อยผู้นี้มาก นางทรุดตัวนั่งคุกเข่าเพื่อให้สามารถพูดคุยกับเด็กหญิงได้ "ท่านหญิงน้อยนำทางเลยเพคะ หม่อมฉันจะเป็นเพื่อนเล่นให้ท่านหญิงน้อยเองเพคะ" จบคำหญิงสาวก็จูงมือเด็กหญิงไปทางศาลาด้านนู้น โดยมีหญิงสาวกว่าสามสิบนางติดตามมาด้วย แม้ทั้งคู่จะดูสนิทสนมกันมากจนสร้างความไม่พอใจให้แก่สตรีทั้งหลาย แต่เพราะพวกนางคิดว่าอย่างไรพวกนางก็ยังมีโอกาสอยู่มาก สตรีที่อยู่แต่ในสนามรบจะเข้าใจการเล่นกับท่านหญิงน้อยที่ถูกประคบประหงมได้อย่างไร หวังซิ่วอิงไม่ใคร่จะถูกชะตากับกงซูเจินนัก นางจึงคิดว่าในบรรดาเด็กทั้งสามนั้น กงซีซวนดูน่าเข้าหาที่สุด เพราะใบหน้าของเด็กชายนั้นเปื้อนยิ้มตลอดเวลา ผิดกับกงซีห่าวที
ตอนพิเศษ 3ด่านสุดท้าย ไป๋มู่ตานที่ไม่มีหลานสาวนั้นรู้สึกเอ็นดูบุตรสาว และบุตรชายของชินอ๋องมาก โดยเฉพาะกงซูเจินที่พระนางเอ็นดูมากเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะพระนางเองนั้นไม่มีบุตรสาวเลย เมื่อได้มีหลานสาวที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู และช่างพูดเช่นนี้ พระนางจึงทั้งรักและหวงแหนท่านหญิงน้อยมากทันทีที่ไทเฮาทรงรู้เรื่องในวันนี้ พระนางก็กริ้วเป็นอย่างมาก มีอย่างที่ไหนกล้ามารังแกผู้อื่นในวังหลัง ทั้งยังกล้ามาขึ้นเสียงและต่อว่าหลานสาวคนโปรดของพระนางอีก"เจินเอ๋อร์หลานป้า เจ้ากลัวหรือไม่""ไม่เพคะ หลานรู้ดีว่าอยู่ที่นี่ไม่มีใครกล้าทำร้ายหลานได้ ก็หลานมีไทเฮาที่ทรงรักหลานอยู่ทั้งคนนี่เพคะ"กงซูเจินเข้าไปออดอ้อนไป๋มู่ตานอย่างน่าเอ็นดู เรียกเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมาจากไทเฮาได้"เด็กดี อย่าได้กลัวไปเลย"ไป๋มู่ตานเรียกกงซูเจินให้เข้าไปหา พระนางลูบศีรษะเล็กด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันไปคุยกับเย่ปิงปิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง"ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยที่เกิดเรื่องเช่นนี้ได้ โชคดีที่เจินเอ๋อร์เป็นเด็กกล้าหาญ ไม่เกรงกลัวสิ่งใด มิเช่นน
ตอนพิเศษ 2คัดเลือกฮองเฮา สองปีผ่านไปแคว้นลั่วหยางได้ถึงคราวเปลี่ยนรัชสมัยใหม่ เนื่องจากฮ่องเต้กงหนิงเจี้ยนได้ยกราชบัลลังก์ให้กับกงเจียวลู่ขึ้นเป็นฮ่องเต้คนถัดไป โดยพระองค์อยากจะพักผ่อน ออกห่างจากเรื่องวุ่นวายเพื่อไปใช้ชีวิตอันสงบสุขในบั้นปลายของชีวิตถึงแม้กงเจียวลู่จะยังไม่มีฮองเฮาเคียงบัลลังก์ แต่เขาจะใช้โอกาสนี้คัดเลือกสตรีจากทั่วทั้งแคว้น เพื่อเฟ้นหาหญิงสาวที่คู่ควรกับตำแหน่งมารดาแห่งแผ่นดิน โดยการคัดเลือกรอบสุดท้าย เขาจะให้ท่านหญิงน้อยและท่านชายน้อยแห่งจวนชินอ๋อง เป็นด่านสุดท้ายของการคัดเลือก โดยตั้งข้อแม้ไว้เพียงหนึ่งข้อ หากสตรีนางใดสามารถเอาชนะใจเด็กทั้งสามได้ เขาก็จะแต่งตั้งนางให้เป็นฮองเฮา!! "เจ้าได้ยินเรื่องนี้หรือยัง ฮ่องเต้จะให้ท่านหญิงน้อย และท่านชายน้อยช่วยคัดเลือกสตรีที่จะมาเป็นฮองเฮาด้วย"ชายชราเอ่ยถามสหายข้างกาย พวกเขาทั้งสองกำลังพูดคุยเรื่องแปลกประหลาดนี้ด้วยกัน"ปัดโธ่! ผู้ใดไม่รู้บ้าง ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานท่านหญิงท่านชายน้อยมากเพียงใด จะกล่าวว่าหลงหลานจนกระทั่งให้คัดเลือกสตรีให้ก
ตอนพิเศษ 1ท่านชายน้อยและท่านหญิงน้อย อากาศอันแสนอบอุ่นของสารทฤดูที่มาเยือนแคว้นลั่วหยางนั้น ภายในจวนของชินอ๋องได้มีเสียงหัวเราะร่าของเด็กน้อยทั้งสามดังก้องกังวานไปทั่วเรือน เมื่อเย่ปิงปิงที่เพิ่งเสร็จจากการตรวจสอบบัญชีของร้านค้า นางได้เดินตรงมาหาลูก ๆ ด้วยความคิดถึง แต่ภาพตรงหน้านั้นกลับทำให้หญิงสาวรู้สึกขบขันยิ่งนัก ดวงตาคู่สวยทอประกายแห่งความเอ็นดูออกมาอย่างเปี่ยมล้นเกากงกงที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเด็กน้อยทั้งสามที่อายุได้หนึ่งหนาวนั้น เขาได้ทำท่าทางต่าง ๆ โดยแสดงสีหน้าที่หลากหลาย ทั้งหัวเราะร่า ยิ้มตาหยี คิ้วขมวดมุ่นขึงขัง ดวงตาเบิกกว้างที่ขยายใหญ่กว่าปกติ และเบะปากร้องไห้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเด็กน้อยทั้งสามจึงส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาด้วยความชอบใจ "ฮ่ะฮ่าฮ่า"เสียงหัวเราะของเด็กน้อยช่างเป็นการปลอบประโลมให้กับหัวใจของเกากงกงยิ่งนัก ในทุก ๆ วันที่เขารู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน เขาก็ได้มาเล่นกับท่านชายและท่านหญิงน้อย การทำท่าทางต่าง ๆ คือสิ่งที่ทำให้เด็กน้อยทั้งสามหัวเราะร่าด้วยความเบิกบานใจ เกากงกงจึงชอบมาเล่นเช่นนี้ในทุ
เย่ม่านที่ได้กลับมารักษาตัวที่จวนตระกูลเย่ อาการของนางเหมือนจะเริ่มดีขึ้น แต่คนรอบตัวรู้ดีว่าชีวิตของเย่ม่านมันช่างริบหรี่ยิ่งนัก ในคืนที่พระจันทร์ส่องแสงเข้ามาทางบานหน้าต่าง เย่ม่านก็ได้จากไป...อย่างน้อยในวาระสุดท้ายของชีวิต นางก็ได้กลับมาสู่อ้อมกอดของคนที่รักนางลู่เมิ่งที่ต้องสูญเสียบุตรสาวอันเป็นที่รัก ชีวิตของนางก็มิอาจมีความหมายอีกต่อไป สุดท้ายลู่เมิ่งก็ได้ตรอมใจตายไปอีกคน... สารทฤดูหลังจากที่เรื่องราวคลี่คลายไปได้ด้วยดี กงซ่างเหว่ยยังต้องคอยจัดการงานที่คั่งค้างเพื่อมาอยู่ใกล้ภรรยาที่จวนจะคลอดเต็มที เขาได้มอบหมายงานทั้งหมดให้กับเสวี่ยไป๋ แล้วปลีกตัวมาอยู่เคียงข้างเย่ปิงปิง ทุกการกระทำของนางล้วนตกอยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา"ท่านพี่...น้องเจ็บท้องเพคะ"ช่วงเวลาที่ทั้งสองกำลังนั่งทานผลไม้อยู่นั้น เย่ปิงปิงพลันรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อย ราวกับนางจะคลอดแล้ว ไม่นานก็มีน้ำคร่ำไหลออกมาจากหว่างขาของนาง กงซ่างเหว่ยพลันตื่นตระหนก เขาแทบทำสิ่งใดไม่ถูก นอกจากอุ้มเย่ปิงปิงไปยังห้องคลอด แล้วสั่งให้ซีซีไปตามท่านหมอมาอย่างเร่งด่ว
บทที่ 28สู่จุดจบ กงซ่างเหว่ยโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขารีบสั่งให้เกากงกงไปตามคนมาเดี๋ยวนี้!“ส่งคนไปตามหวังเปามาพบข้าเดี๋ยวนี้!!”“ท่านหวังเปาหรือพ่ะย่ะค่ะ”“ใช่!! ในเมื่อพวกมันอยากรนหาที่ตายดีนัก ข้าก็จะทำให้พวกมันได้รู้ซึ้งถึงการอยู่มิสู้ตาย”กงซ่างเหว่ยเอ่ยสั่งเสียงเหี้ยม คนที่กล้าทำร้ายปิงปิงของเขาจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต!!เกากงกงที่ได้ยินชื่อของ ‘หวังเปา’ เขาก็ได้แต่ไว้อาลัยให้กับคนผู้นั้น หวังเปาผู้นี้คือหัวหน้าหน่วยเสือขาว เขาเป็นบุรุษที่มีร่างกายแข็งแรงกำยำ และโหดเหี้ยมที่สุดในหน่วย แต่สิ่งที่ทำให้เขาน่ากลัวคือการล่าศัตรูต่างหากเล่า ไม่มีใครที่จะสามารถหนีพ้นจากการไล่ล่าของเขาไปได้เลย แม้แต่คนเดียว!หวังเปาถูกเรียกตัวกลับมาโดยด่วน คราแรกเขาต้องเตรียมตัวปลอมเป็นชินอ๋อง เพื่อตบตาพวกกบฏว่าได้ออกไปรบที่ชายแดนใต้ แต่เพราะเกิดเรื่องขึ้นกับพระชายา หวังเปาผู้เปรียบดั่งสุนัขล่าเนื้อได้ออกเร่งตามหาพระชายาตามคำสั
กงเฟยหรงตวาดเสียงใส่เย่ปิงปิง ตอนนี้เขาไม่ต้องเสแสร้งทำสีหน้าอบอุ่นอ่อนโยนอีกต่อไปแล้ว เพราะไม่ว่าเขาจะเป็นเช่นไร ปิงเอ๋อร์ของเขาก็ไม่มีวันหันมามองเขาเลยสักครั้ง ทั้งที่เขารักและถนอมนางมากมายถึงเพียงนี้“จวิ้นอ๋อง หม่อมฉันเป็นพี่สะใภ้ของพระองค์นะเพคะ”“หึ ๆ เคยเป็นต่างหากเล่า แต่หลังจากนี้เจ้าจะเป็นภรรยาของข้าแล้วล่ะ”“กงเฟยหรง ท่านมันบ้าไปแล้ว ข้าคือภรรยาของพี่ชายท่านนะ จิตใจของท่านมันมืดบอดไปเสียแล้วหรือ”เย่ปิงปิงตวาดเสียงกร้าว บัดนี้นางเข้าใจแล้วว่ากงเฟยหรงที่นางรู้จักนั้น แท้จริงแล้วนางไม่เคยรู้จักตัวตนของเขาเลยต่างหาก ทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตาที่เขาเสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น“ข้าหรือจิตใจมืดบอด เป็นเจ้าต่างหากที่มีดวงตามืดบอด หลงรูปโฉมของซ่างเหว่ย ครานั้นข้าควรจะเข้าไปช่วยเจ้าด้วยตัวเอง ถ้าไม่ติดว่ามีงานใหญ่สำคัญ คงเป็นข้าที่ได้เชยชมเจ้าไปแล้ว น่าเสียดายจริง ๆ”“ท่านหมายความว่าอย่างไร ท่านเป็นคนวางยากำหนัดข้าหรือ”“ปิงเอ๋อร์ของข้าช่างฉลาดนัก เจ้าเข้าใจถูกแล้วล่ะ เป็นข้าที่ให้คนวางยากำหนัดเจ้าเอง แม้ว่าซ่างเหว่ยจะส่งเสว
บทที่ 27ลอบโจมตี กงเฟยหรงกลับมาที่จวนด้วยความเกรี้ยวกราด แม้เขาจะรีบใช้วิชาตัวเบากลับมาที่จวน แต่ดวงตาของเขาข้างขวาก็มิอาจจะรักษาได้ เขาได้สูญเสียการมองเห็นของดวงตาข้างขวาไปแล้ว ทันทีที่เขารู้เช่นนั้น ดาบที่อยู่ใกล้มือได้ถูกดึงออกมาแทงท่านหมอจนขาดใจตาย"ไร้ประโยชน์ จะบอกว่าข้าตาบอดหรือ ฮ่ะฮ่าฮ่า"กงเฟยหรงไล่ฟาดดาบฟันไปทุกที่ภายในห้อง จนห้องเละเทะจนแทบดูไม่ได้ เขาสูดหายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อระงับสติตัวเอง ก่อนที่ดวงตาของเขาจะลุกโชนด้วยความปรารถนา"ตงไห่ ส่งคนไปบอกนางว่าข้าต้องการตัวปิงเอ๋อร์ ทำอย่างไรก็ได้ให้ปิงเอ๋อร์ออกจากจวนชินอ๋อง แล้วมาที่ถนนทิศตะวันตก""พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง"ตงไห่ผู้นี้คือคนสนิทของกงเฟยหรง เขาเปรียบดั่งมือและเท้าของกงเฟยหรง และยังเป็นคนที่คอยเก็บกวาดงานต่าง ๆ ด้วย ข่าวลี่หลินใช้ปิ่นแทงตัวเองตายล่วงรู้มาถึงหูของเย่ปิงปิง นางไม่เชื่อจึงได้นั่งรอพระสวามีเพื่อเอ่ยถามเร
เย่ซานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเอ่ยถามด้วยความไม่สบายใจ เขาเกรงว่าพวกเขาอาจจะถูกลอบเล่นงานก็เป็นได้ และอาจจะมาช่วยทางวังหลวงไม่ทัน""เจ้าวางใจเถิดคุณชายใหญ่ ข้าไม่ยอมปล่อยให้ภรรยาของข้าไม่ปลอดภัยหรอก""ที่แท้เสด็จอาก็เป็นห่วงพระชายา""ภรรยาข้า ข้าย่อมต้องเป็นห่วงสิ เอาล่ะแยกย้ายกันไปได้แล้ว อาลู่อย่าได้ลืมเตรียมพลธนูให้พร้อมเล่า""พ่ะย่ะค่ะ"กงเจียวลู่ผุดยิ้มร้ายออกมา เขารอเวลาที่จะได้แสดงฝีมือกองกำลังนกกระเรียนทองของเขามานานเต็มทีแล้ว ครานี้เขาจะทำให้ทุกคนได้ประจักษ์ว่าเขานั้นเหมาะสมกับตำแหน่งองค์รัชทายาทมากกว่ากงหนิงหลง! จวนชินอ๋องเย่ปิงปิงที่เคยชอบตื่นเช้ากลับตื่นสายจนพระอาทิตย์ขึ้นอยู่เหนือศีรษะนานแล้ว กงซ่างเหว่ยที่เพิ่งกลับออกมาจากวังหลวงรีบเข้ามาหานางด้วยความคิดถึง คิ้วกระบี่เลิกขึ้นด้วยความแปลกใจ"น้องหญิง เจ้าไม่สบายหรือไม่""อื้อ...ท่านพี่หรือเพคะ"เย่ปิงปิงปรือตาขึ้นมามองพระสวามี ทั้งที่วันนี้นางตั้งใจว่าจะเข้าเฝ้าฮ่องเต้พร้อมกันกับเขา แต่นางกลับรู้สึกว่าหนังตาทั้งสองหนักอึ้