Share

ตอนที่ 2 จดหมายทวงสัญญา

last update Huling Na-update: 2025-02-21 07:47:00

จดหมายฉบับหนึ่งที่ถูกส่งมาจากสกุลเซี่ย ตระกูลแม่ทัพแห่งเมืองหนานจง ทำให้ท่านผู้เฒ่าสกุลจ้าว จ้าวหยวนจงถึงกับกุมขมับ ไม่รู้ว่าเขาหลงลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร เรื่องที่เขาเคยทำสัญญาใจกับท่านผู้เฒ่าสกุลเซี่ยเอาไว้ ว่าภายภาคหน้าจะยกหลานสาวของตน ให้ออกเรือนไปกับหลานชายของอีกฝ่าย เพื่อเป็นการตอบแทนที่ครั้งหนึ่งในอดีต ท่านผู้เฒ่าสกุลเซี่ย เคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้

“ฟงฉี...เจ้าไปตามนายท่านใหญ่มาพบข้าที่ห้องตำรา” บ่าวรับใช้คนสนิทรับคำสั่งแล้วจึงออกจากเรือนฟงเฟยไป

จ้าวหยวนจงแต่งงานกับซิ่วเหมยฉี ตระกูลรุ่งโรจน์ ร่ำรวยมาจากการค้าขายตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ นับเป็นตระกูลคหบดีอันดับต้นๆ ของเมืองหนานจาง สองสามีภรรยามีบุตรชายสืบสกุลอยู่สองคน คนโตคือจ้าวหวังเหล่ย ปีนี้มีอายุได้สามสิบหกปี และคนที่สองคือจ้าวหวังหย่ง อายุสามสิบสี่ปี จ้าวหวังเหล่ยแต่งงานกับหวงฟางหรง บุตรสาวของพ่อค้าสกุลหวง บุตรชายคนโตและสะใภ้ใหญ่มีทายาทสืบสกุลด้วยกันทั้งหมดสามคน

คนโตเป็นบุตรีมีนามว่า จ้าวฟางหรู คุณหนูใหญ่ผู้มีรูปโฉมงดงาม และกิริยามารยาทเพียบพร้อม มีความสามารถด้านการเขียนอักษร เล่นหมากล้อม ท่องบทกวี และการเล่นดนตรี ปีนี้แม้จะเข้าสู่วัยสิบแปดปีแล้ว แต่ทว่านางกลับไม่ยอมที่จะออกเรือนไปกับผู้ใดเสียที แม้ว่าจะมีบุรุษมากมายที่มาหมายปองโฉมสะคราญเช่นนางก็ตาม

คนที่สองเป็นบุตรชาย มีนามว่าจ้าวฟางฉี คุณชายหนุ่มที่มีอายุน้อยกว่าพี่สาวไปเพียงหนึ่งปี เขานับว่าเป็นเด็กหนุ่มที่มีอนาคตไกล เพราะเขาชื่นชอบด้านการศึกษาตำรา และเป็นลูกหลานคนแรกของตระกูลจ้าว ที่เลือกเดินเข้าสู่เส้นทางแห่งการเป็นขุนนาง จ้าวฟางฉีใช้ความสามารถสอบผ่านเค่อจวี่ ในระดับจวี่เหรินได้ตั้งแต่วัยสิบหก สร้างชื่อเสียงให้ตระกูลจ้าวเลื่องลือไปไกล

และคนที่สามเป็นบุตรี มีนามว่า จ้าวฟางเซียน แม้เด็กหญิงจะอยู่ในวัยเพียงสิบสี่ปี แต่ทว่านางกลับมีความรู้และความสามารถในด้านการบัญชี คอยช่วยบิดาและมารดา จัดการดูแลบัญชีร้านค้าของสกุลจ้าวได้เป็นอย่างดี อีกไม่กี่เดือนจ้าวฟางเซียนก็จะเข้าพิธีปักปิ่นแล้ว แน่นอนว่าย่อมมีหลายสกุลที่หมายตานางเอาไว้ ให้บุตรชายหรือหลานชายของตน แต่ทว่าทั้งจ้าวหวังเหล่ยและหวงฟางหรง ต่างก็คิดว่านางยังเด็กนัก จึงไม่เคยหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยกัน

ภายในเรือนขนาดกลาง ซึ่งเป็นที่พำนักของนายท่านใหญ่จ้าวหวังเหล่ย ยามนี้ทุกคนในครอบครัวกำลังนั่งกินมื้อเช้าร่วมกันอยู่พร้อมหน้า บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นปรองดอง จ้าวหวังเหล่ยมีภรรยาเพียงหนึ่งเดียว ทำให้ไร้ปัญหาเรื่องเรือนหลัง นับตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษมา ตระกูลจ้าวยึดมั่นธรรมเนียมมีภรรยาเดียวมาตลอด ทำให้สตรีที่แต่งเข้ามาเป็นสะใภ้นั้น ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยไปกับการแย่งชิงความโปรดปรานในเรือนหลัง หวงฟางหรง ฮูหยินใหญ่ของจวนตระกูลจ้าว จึงใช้ชีวิตอยู่ในจวนนี้อย่างสงบสุข เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่บุตรีและบุตรชาย

“นายท่านใหญ่ขอรับ นายท่านผู้เฒ่าให้ข้าน้อยมาเชิญท่านไปพบที่เรือนฟงเฟยขอรับ”

ฟงฉีรายงานออกมา จ้าวฟางเซียนเหลือบมองบ่าวรับใช้คนสนิทของท่านปู่เพียงแวบเดียว ก่อนที่นางจะลงมือกินอาหารตรงหน้าต่อไป แม้ภายในใจจะรู้สึกตื่นเต้นยินดีก็ตาม

“ท่านพ่อมีเรื่องอันใดอยากจะพูดคุยกับข้าเช่นนั้นรึ แล้วได้เรียกเจ้ารองไปด้วยหรือไม่” จ้าวหวังเหล่ยเอ่ยถามบ่าวรับใช้คนสนิทของบิดา เป็นคำถามที่จ้าวฟางเซียนเคยได้ยินมาแล้วหนหนึ่ง นางยกมุมปากขึ้นเพียงเล็กน้อย

“บ่าวเองก็มิทราบขอรับ แต่นายท่านผู้เฒ่าให้บ่าวมาตามนายท่านใหญ่ไปพบเพียงผู้เดียว” ฟงฉีตอบตามตรง จ้าวหวังเหล่ยจึงพยักหน้าให้

“เจ้ากลับไปแจ้งท่านพ่อให้ข้าที ว่าข้าขอกินมื้อเช้ากับฮูหยินและคุณหนูคุณชายเสร็จก่อน แล้วข้าจะไปพบเขา” ฟงฉีรับคำสั่งแล้วจึงคำนับลา ก่อนที่จะเดินออกจากเรือนฟางเฟยไป

จ้าวหวังเหล่ยกินอาหารตรงหน้าอย่างเร่งรีบขึ้น เพราะไม่รู้ว่าบิดามีเรื่องสำคัญอันใด ถึงได้เรียกหาเขาเพียงผู้เดียว และเรียกหาตั้งแต่เช้าเช่นนี้ จ้าวหวังเหล่ยกินอาหารตรงหน้าไปอีกไม่กี่คำก็วางตะเกียบลงบนชาม ก่อนที่จะบอกภรรยาและลูกๆ ให้กินกันต่อตามสบาย จากนั้นเขาจึงดื่มน้ำพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วรีบเดินออกจากเรือนฟางเฟย มุ่งหน้าสู่เรือนฟงเฟยอย่างไม่รีรอ

หวงฟางหรงรู้สึกใจคอไม่ดี ที่จู่ๆ พ่อสามีก็เรียกเขาให้ออกไปพบในยามนี้ ไม่รู้ว่ามีเรื่องรีบร้อนอันใด เขาเพิ่งจะกินข้าวไปเพียงไม่กี่คำเท่านั้น นางมองตามแผ่นหลังของสามีไปด้วยแววตากังวล ทว่าเสียงของบุตรชายช่วยดึงสายตาของนางให้กลับมามอง ใบหน้าหล่อเหลาที่เหมือนกับบิดาของเขาไม่มีผิดเพี้ยน

“ท่านปู่คงจะเรียกท่านพ่อไปคุยเรื่องจดหมายที่มาจากตระกูลเซี่ยนั่นแหละขอรับ ท่านแม่อย่าได้เป็นกังวลไปเลย”

จ้าวฟางฉีที่สังเกตท่าทีของมารดากล่าวออกมา ก่อนที่เขาจะคีบหมูตุ๋นใส่ชามให้แก่ผู้เป็นน้องสาวอย่างใส่ใจ จ้าวฟางเซียนส่งยิ้มให้พี่ชายรอง เพื่อเป็นการขอบน้ำใจเขา

“นั่นน่ะสิเจ้าคะท่านแม่ ท่านอย่าเพิ่งคิดมากไปเลย ประเดี๋ยวจะกินข้าวไม่ลงเอาได้ ว่าแต่ฉีเอ๋อร์….เจ้ารู้ได้เช่นไร ว่าที่ท่านปู่เรียกหาท่านพ่อ เป็นเพราะเรื่องจดหมายที่มาจากตระกูลเซี่ยน่ะ”

จ้าวฟางหรูเห็นด้วยกับน้องชาย ก่อนที่นางจะเอ่ยถามเขาออกมา จ้าวฟางเซียนยกยิ้มเพียงเล็กน้อย เพราะทุกถ้อยคำที่มารดา พี่ชายรองและพี่หญิงใหญ่พูดคุยกันออกมาในยามนี้นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นถ้อยคำที่นางเคยได้ยินได้ฟังมาแล้วหนหนึ่ง

“ก็ข้าเป็นคนรับจดหมายนั้นเองกับมือ ครั้นข้านำจดหมายนั้นไปให้ท่านปู่ ไม่นานนักท่านปู่ก็ให้ฟงฉีมาตามท่านพ่อไปพบ แล้วจะเป็นเพราะเรื่องใดไปได้อีก” จ้าวฟางฉีตอบพี่สาว แล้วจึงหันไปคีบเนื้อปลาให้กับจ้าวฟางเซียนอีกครา

“กินให้มากๆ หน่อยเซียนเอ๋อร์…จะสิบห้าอยู่แล้ว ยังดูเหมือนอายุสิบปีอยู่เลย”

เป็นคำพูดเช่นเดิมที่เคยได้ยินมาไม่ผิดเพี้ยน จ้าวฟางเซียนจึงส่งค้อนน้อยๆ ให้พี่ชายอย่างเช่นที่นางเคยกระทำ เรียกรอยยิ้มจากใบหน้าหล่อเหลา ของพี่ชายรองได้เป็นอย่างดี

“ตระกูลเซี่ย...ใช่ตระกูลแม่ทัพแห่งเมืองหนานจงใช่หรือไม่เจ้าคะท่านแม่”

จ้าวฟางหรูเอ่ยถามมารดา นางวางตะเกียบลงบนชาม พลางใช้ผ้าเช็ดปากอย่างเนิบนาบ ทุกท่วงท่าสง่างามสมกับเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่

“อืม...ตระกูลแม่ทัพเซี่ยแห่งเมืองหนานจงนั่นแหละ แต่ไม่นานมานี้แม่ได้ยินมาว่า ตระกูลเซี่ยเพิ่งจะสูญเสียบุตรชายคนรองไป ยามนี้ตระกูลเซี่ยจึงเหลือเพียงคุณชายใหญ่ที่เป็นทายาทสายตรงเพียงผู้เดียว"

“ตระกูลขุนนางฝ่ายบู๊ส่วนมากก็เป็นเช่นนี้ อายุไม่ยืนยาว”

จ้าวฟางหรูไม่ชื่นชอบบุรุษที่มีหน้าที่เสี่ยงชีวิตเพื่อบ้านเมืองเช่นนั้น หากวันใดวันหนึ่งนางต้องเลือกตระกูลที่จะแต่งออกไปจริงๆ ตระกูลแม่ทัพ หรือพวกขุนนางฝ่ายบู๊ย่อมไม่อยู่ในตัวเลือกของนาง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 2 - 1 จดหมายทวงสัญญา

    เรื่องนี้จ้าวฟางเซียนนั้นรู้ดี ว่าพี่หญิงใหญ่ของนางนั้นไม่มีวันยินยอมที่จะออกเรือนไปกับตระกูลเซี่ยเป็นแน่ เช่นเดียวกับชีวิตก่อน ที่จ้าวฟางหรูชิงออกเรือนไปกับบัณฑิตทั่นฮวาของแคว้นเจิ้ง แล้วทิ้งหน้าที่ออกเรือนกับคุณชายใหญ่สกุลเซี่ยให้นางแทน“แต่ก็เป็นตระกูลที่มีเกียรติ และน่าเคารพนับถือนะเจ้าคะ ตายในสนามรบย่อมมีเกียรติกว่าการตายโดยเปล่าประโยชน์” จ้าวฟางเซียนที่กินอาหารอยู่อย่างเพลิดเพลินก่อนหน้า แสดงความคิดเห็นของตนออกมาจ้าวฟางหรูที่ได้ยินเช่นนั้นได้แต่นึกขบขันอยู่ภายในใจ น้องสาวของนางนั้นช่างมีความคิดที่ไร้เดียงสา และเป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดียิ่งนัก หาได้คาดการณ์ถึงเรื่องราวในภายภาคหน้าไม่ ผู้ใดกันที่อยากจะมีสามีอายุสั้น นางคนหนึ่งล่ะที่ไม่ปรารถนา“เจ้ายังเป็นเด็กอยู่ จะไปรู้เรื่องอันใด หากวันหน้าเจ้าต้องออกเรือน เจ้าจะเลือกบุรุษที่มีอายุขัยสั้นกว่าเจ้ามาเป็นคู่ครองเช่นนั้นรึ” จ้าวฟางหรูติเตือนน้องสาวออกมาทว่าครานี้จ้าวฟางเซียนกลับไม่เก็บเอาคำพูดของพี่สาวมาใส่ใจ เพราะนางเคยใช้ชีวิตเป็นฮูหยินแม่ทัพมาหนหนึ่งแล้ว ทว่าชีวิตก่อนนางนึกเสียดายและเสียใจ ที่ไม่ได้แสดงความรักที่มีต่อสามีออกไป ค

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 3 บุพเพของพี่หญิงใหญ่

    ภายในเรือนฟางเฟยจ้าวหวังเหล่ยเดินกลับเข้ามา ภายในเรือนของตนด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลอันใด ไปโน้มน้าวจ้าวฟางหรู บุตรีคนโตที่มีอายุสิบแปดปี ให้นางยินยอมออกเรือนไปกับคุณชายใหญ่สกุลเซี่ยดี ครั้นได้พบหน้าภรรยาเขาจึงลองปรึกษาเรื่องนี้กับนาง หวงฟางหรงถึงกับถอนหายใจออกมา และแล้วสิ่งที่นางกังวลก็เกิดขึ้นจริงๆ เรื่องนี้คงจะปัดภาระให้พ้นตัวมิได้ เพราะตระกูลจ้าวมีหลานสาวสายตรงเพียงแค่สองคนเท่านั้น นั่นก็คือบุตรีทั้งสองของนาง“ฮูหยิน…เจ้าว่าหรูเอ๋อร์จะยินยอมออกเรือนไปกับคุณชายใหญ่สกุลเซี่ยหรือไม่ ข้าได้ยินท่านพ่อบอกว่า คุณชายใหญ่สกุลเซี่ยผู้นั้นเป็นบุรุษที่มีหน้าตาดี และรูปร่างสง่างามยิ่งนัก อนาคตภายหน้าตำแหน่งแม่ทัพใหญ่คงจะไม่พ้นเป็นของเขา เพราะยามนี้ตระกูลเซี่ยเหลือเพียงแค่เขาที่เป็นทายาทสืบสกุล” จ้าวหวังเหล่ยถามความเห็นของภรรยาออกมา“ท่านก็รู้นี่เจ้าคะ ว่าหรูเอ๋อร์นางเป็นสตรีที่มีใจเด็ดเดี่ยว ยึดมั่นในความคิดของตนเองมาตลอด นางเคยบอกกับน้องว่า จะไม่ยอมออกเรือนไปกับตระกูลแม่ทัพ หรือขุนนางฝ่ายบู๊เป็นเด็ดขาด แล้วท่านว่า…ท่านจะสามารถเกลี้ยกล่อมนางได้หรือเจ้าคะ”หวงฟางหรงบอก

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 3 - 1 บุพเพของพี่หญิงใหญ่

    หลังจากชื่นชมเหล่าบัณฑิตท่องบทกวีกันจนจบ จ้าวฟางหรูจึงขอตัวกลับจวนก่อน เพราะวันนี้นางรู้สึกผิดหวังอยู่ไม่น้อย ครั้นแยกจากสหายสนิทของนางแล้ว เปี๋ยเอ๋อ สาวรับใช้คนสนิทก็เข้ามากระซิบบอกนางเบาๆ“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณชายใหญ่สกุลเถียนผู้นั้น หาได้มีคู่หมายอย่างเช่นคุณหนูรองเหลียงกล่าวมาหรอกเจ้าค่ะ” จ้าวฟางหรูชะงักเท้าก่อนที่จะหันกลับไปถามสาวรับใช้คนสนิทของนางทันที“เจ้ารู้ได้เช่นไร”“เมื่อสามสี่วันก่อน บ่าวได้ยินพวกในจวนพูดคุยกัน ถึงเรื่องผู้ที่ได้เป็นทั่นฮวาของปีนี้น่ะเจ้าค่ะ” เปี๋ยเอ๋อกระซิบบอกคุณหนูใหญ่ของตน“เจ้าจะบอกว่า…เยว่เล่อนางโป้ปดข้าเช่นนั้นรึ เพราะเหตุใดนางถึงต้องทำเช่นนั้นกันเล่า”“คุณหนูใหญ่อาจจะตำหนิว่าบ่าวปากมาก แต่บ่าวอยากจะขออนุญาตเตือนคุณหนูใหญ่สักหน่อย ว่าคุณหนูรองสกุลเหลียงผู้นั้น หาได้เป็นคนที่น่าคบหาไม่ นางไม่จริงใจต่อท่านเจ้าค่ะ" เปี๋ยเอ๋อกล่าวออกมา พลางสังเกตสีหน้าคุณหนูของนาง“ไม่จริงใจเยี่ยงไรรึ” จ้าวฟางหรูเลิกคิ้ว แล้วเอ่ยถามสาวรับใช้ข้างกาย"สองสามวันก่อนบ่าวได้ยินพวกบ่าวในจวนพูดคุยว่า ก่อนที่คุณหนูรองเหลียงจะหมั้นหมายกับคุณชายรองสกุลจ้ง นางเคยมอบไมตรีให้แก่คุณชา

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 4 นางไม่ยินยอม

    จ้าวฟางฉีกลับออกจากจวนตระกูลจ้าวมา ด้วยท่าทางตื่นเต้น เขากำลังกลับไปรับจ้าวฟางเซียนที่ร้านจ้าวเจา ยามนี้นางคงจะตรวจสอบบัญชีของที่ร้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาอยากจะเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ก่อนที่เขาจะออกจากเรือนมาให้น้องสาวได้ฟัง ที่มีคนกล่าวว่า เกลียดสิ่งใดมักจะได้สิ่งนั้นคงจะเป็นเรื่องจริง เพราะยามนี้พี่หญิงใหญ่ของพวกเขา กำลังเผชิญกับด่านเคราะห์กรรมที่ว่านั้นเสียแล้ว“พี่ชายรอง… ท่านเพิ่งกลับจวนไปได้แค่หนึ่งชั่วยาม เหตุใดถึงรีบกลับมานักเล่าเจ้าคะ” จ้าวฟางเซียนแสดงท่าทีประหลาดใจยามที่เห็นพี่ชายของตนกลับเข้ามาในร้าน“ก็ที่เรือนฟางเฟยของพวกเราน่ะสิ ยามนี้แทบจะลุกเป็นไฟอยู่แล้วฮ่าๆๆๆ” จ้าวฟางฉีบอกน้องสาวพลางหัวเราะออกมา ยามที่นึกถึงใบหน้าของพี่หญิงใหญ่จ้าวฟางเซียนรู้ดีว่าที่จวนเกิดเหตุการณ์อันใดขึ้น ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องที่จ้าวฟางหรู พี่หญิงใหญ่ของนางปฏิเสธการแต่งงานกับตระกูลเซี่ยเป็นแน่ นางแสร้งถามพี่ชายออกมาราวกับว่า ตนยังไม่รับรู้ถึงเรื่องราว“ไฟไหม้เรือนของพวกเราจริงหรือเจ้าคะ”“ฮ่าๆๆ น้องหญิงรอง ถ้าหากไฟไหมเรือนจริง เจ้าคิดว่าพี่ยังจะมีอารมณ์มานั่งหัวเราะอยู่ต่อหน้าเจ้าได้อีกหรือ"

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 4 - 1 นางไม่ยินยอม

    “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเจ้าคะท่านพ่อท่านแม่”จ้าวฟางเซียนรีบเดินเข้าไปประคองพี่สาวขึ้นมาจากพื้น โดยที่มีจ้าวฟางฉีช่วยอีกแรง จ้าวฟางหรูที่ดูเหมือนจะไม่ยินยอมตั้งแต่แรก ทว่าสุดท้ายก็ยอมตัวอ่อนปล่อยให้น้องสาว และน้องชายช่วยประคองนางไปนั่งลงบนเก้าอี้“ก็จดหมายจากตระกูลเซี่ย ที่พี่ชายเจ้านำมาส่งให้ท่านปู่เมื่อเช้าน่ะสิ มันมิใช่จดหมายธรรมดา แต่ทว่าเป็นจดหมายทวงถามสัญญาที่ท่านปู่ของพวกเจ้า เคยให้ไว้ต่อท่านผู้เฒ่าสกุลเซี่ย” จ้าวฟางเซียนแสร้งตกใจ“สัญญาอะไรกันหรือเจ้าคะ”ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว แต่จ้าวฟางเซียนก็ไม่ทำให้เรื่องราวผิดเพี้ยนไปจากเดิม นางยังคงถามออกมา ทว่าจ้าวฟางฉีกลับเหล่มองน้องหญิงรองด้วยแววตาประหลาดใจ หรือน้องหญิงรองจะไม่เชื่อที่เขาเล่าให้นางฟัง“ท่านผู้เฒ่าสกุลเซี่ย แต่เดิมเขาคือแม่ทัพทิศใต้ผู้องอาจ วัยหนุ่มท่านปู่ของพวกเจ้า ได้เดินทางไปค้าขายทางทิศใต้พอดี วันนั้นบังเอิญเจอพวกโจรป่าที่คอยดักปล้นพวกพ่อค้ากับชาวบ้าน แต่ทว่าในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่ได้พบกับกองทัพสกุลเซี่ยเข้าพอดี ท่านผู้เฒ่าเซี่ยในยามนั้นจึงได้ช่วยชีวิตของท่านปู่เอาไว้” สิ่งที่บิดาเล่าออกมาล้วนแต่เป็นเรื

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 5 หาทางออก

    หลังจากแยกย้ายกลับเรือนของตนไป จ้าวฟางหรูก็ได้แต่จมดิ่งอยู่ในความทุกข์ระทม ทว่านางก็ไม่ยอมแพ้พยายามมองหาทางออกให้ตัวเองอย่างเงียบๆ จู่ๆ นางก็นึกไปถึงใบหน้าหล่อเหลาของบัณฑิตหนุ่มที่เพิ่งได้พบเจอกัน หากเป็นเขาผู้นั้นยังจะดีเสียกว่า ชีวิตนี้นางไม่มีวันยอมที่จะออกเรือนไปกับตระกูลแม่ทัพหรือขุนนางฝ่ายบู๊เป็นอันขาด“คุณหนู…บ่าวเตรียมน้ำเสร็จแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูรีบไปอาบน้ำแล้วก็พักผ่อนก่อนเถิดนะเจ้าคะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” เปี๋ยเอ๋อบอกจ้าวฟางหรูออกมา พลางมองคุณหนูใหญ่ของนางด้วยแววตาเห็นใจ ทว่าเรื่องเช่นนี้หาใช่เรื่องที่ตนจะสอดมือเข้าไปยุ่งได้“ขอบใจนะเปี๋ยเอ๋อ”จ้าวฟางหรูบอกสาวรับใช้คนสนิทของตน จากนั้นจึงเดินเข้าไปภายในห้องอาบน้ำด้วยสติที่เลื่อนลอย เปี๋ยเอ๋อถอนหายใจออกมาก่อนที่นางจะหันไปเตรียมที่นอนให้คุณหนูของนางภายในอ่างน้ำที่เคยมีกลีบดอกไม้ลอยอยู่ ยามนี้มีสตรีเรือนร่างงดงามก้าวเท้าลงไป นางนอนแช่น้ำอย่างใคร่ครวญ พยายามหาทางออกให้แก่ตนเอง นางได้แต่คิดเสียใจในภายหลังว่า เหตุใดก่อนหน้านี้นางไม่คิดจะออกเรือนไปเสีย เหตุใดต้องรอให้ถึงวันที่นางถูกบีบบังคับให้ออกเรือนไปกับบุรุษที่นางไม่เคยต้อง

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 5 - 1 หาทางออก

    ครั้นปรึกษากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จ้าวหวังเหล่ยจึงไปพบผู้เป็นบิดา เพื่อบอกกล่าวถึงเรื่องที่ตนเพิ่งได้คุยกับบุตรสาวไป นายท่านผู้เฒ่าค่อยวางใจ ที่อย่างน้อยวันนี้หลานสาว ก็ไม่ต่อต้านเรื่องการหมั้นหมายกับตระกูลเซี่ยอีกแล้ว ทั้งยังร้องขอพบหน้าว่าที่คู่หมั้นก่อนอีกด้วย เป็นเช่นนี้เขาจะขัดข้องไปเพื่อเหตุใด นายท่านผู้เฒ่าจ้าวหยวนจง จึงรีบเขียนจดหมายเพื่อส่งข่าวให้แก่นายท่านผู้เฒ่าตระกูลเซี่ยทันที อีกไม่นานสิ่งที่ตนรู้สึกติดค้างตระกูลเซี่ย ก็จะได้รับการตอบแทนแล้ว หากเขาต้องจากไป เขาก็ไม่ต้องรู้สึกว่าตนเองติดค้างต่อผู้ใดอีกในยามเซิน จ้าวฟางหรูนั่งรถม้าออกจากจวนไปเที่ยวชมตลาด วันนี้เปี๋ยเอ๋อได้ยินมาจากสาวรับใช้จวนตระกูลเถียนว่า คุณชายใหญ่เถียนซ่ง จะออกไปพบปะสหายที่โรงน้ำชาอู๋เหลียง นางจึงตั้งใจจะไปดื่มน้ำชาที่โรงน้ำชาอู๋เหลียงเช่นกัน เพื่อให้ตนได้อยู่ในสายตาของทั่นฮวาหนุ่ม นางมีเวลาไม่มากแล้ว ถึงอย่างไรนางก็ต้องผูกไมตรีกับคุณชายใหญ่เถียนซ่งผู้นั้น ก่อนที่คุณชายใหญ่สกุลเซี่ยจะเดินทางมาถึงเมืองหนานจาง“เป็นถึงทั่นฮวา แต่ข้างกายกลับขาดสตรีที่รู้ใจ ไม่คิดว่าชีวิตเจ้าก็มีเรื่องให้น่าสงสารเช่นกันฮ่า

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 6 กับบางคนก็มิอาจฝืนชะตา

    ณ จวนตระกูลเซี่ย แห่งเมืองหนานจงเซี่ยเฟยอวี่ หรือนายท่านผู้เฒ่าตระกูลเซี่ย กำลังนั่งอ่านจดหมายตอบรับจากตระกูลจ้าวที่อยู่ในมือ ในใจพลันรู้สึกตื่นเต้นยินดี แต่ทว่ายามนี้บุตรชายกับหลานชาย เพิ่งจะเดินทางออกไปสู้รบกับทหารแคว้นจิ้นที่ชายแดนเมืองหนานตง เขาจึงไม่อาจตอบรับคำร้องขอ ที่ตระกูลจ้าวกล่าวมาในจดหมาย ว่าขอให้คุณชายใหญ่เซี่ยเฟยหลง เดินทางไปพบหน้าคุณหนูตระกูลจ้าว ก่อนที่จะตอบรับการหมั้นหมายกัน“ทางนั้นเขาตอบกลับมาว่าอย่างไรบ้างหรือเจ้าคะท่านพี่” เหลียงลี่จู ผู้เป็นภรรยาเอ่ยถามสามีออกมา“เขาบอกว่าอยากจะให้หลงเอ๋อร์ของเรา เดินทางไปพบหน้าหลานสาวของเขาก่อน ก่อนที่เด็กทั้งสองจะหมั้นหมายกัน”เหลียงเหล่าฮูหยินพยักหน้าขึ้นลง นางพอจะเข้าใจความรู้สึกของทางฝั่งตระกูลจ้าว เพราะอีกฝ่ายเป็นเพียงตระกูลคหบดี ร่ำรวยมาจากการค้าขาย หาใช่ตระกูลขุนนางเช่นตระกูลเซี่ยไม่ หากจะให้ลูกหลานออกเรือนมา ก็ต้องทำให้นางรู้สึกยินยอมพร้อมใจด้วยเช่นกัน“ยามนี้เหตุการณ์ชายแดนเมืองหนานตงก็ไม่สงบเสียด้วย ข้าก็หวังเพียงแต่ว่า ฉีเอ๋อร์กับหลงเอ๋อร์จะสามารถร่วมมือกัน จัดการกองทัพแคว้นจิ้นให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้โดยเร็ว” เซี่ยเฟยอวี่ก

    Huling Na-update : 2025-02-23

Pinakabagong kabanata

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 37 - 1 สุขสันต์นิรันดร (จบ)

    หลังจากพูดคุยกันอยู่นานเกือบสองเค่อ เสียงของทารกน้อยที่นอนอยู่ห้องข้างๆ ก็ดังขึ้นมา จ้าวฟางเซียนรีบบอกกล่าวมารดา แล้วรีบเดินออกไปหาบุตรชาย หลังฟื้นมาจากฝันร่้ายในวันนั้น จ้าวฟางเซียนก็รู้สึกเสียใจเป็นอันมาก ที่สองวันแรก นางไม่อาจให้นมบุตรชายเองได้ ดีที่แม่สามีมองการณ์ไกล เตรียมแม่นมเอาไว้ให้ เผื่อเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและสองวันแรกที่นางคลอดลู่หมิงออกมา ก็เกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ หลังจากที่นางตื่นขึ้นมา ก็พยายามดูแลร่างกายตนเอง และกินอาหารบำรุงน้ำนม ไม่ถึงเจ็ดวัน นางก็ขออนุญาตแม่สามี ให้นางป้อนนมลูกด้วยตัวเอง จางซื่อก็ไม่ได้ห้ามปรามอันใด เพราะน้ำนมจากมารดาย่อมดีกว่านมจากผู้อื่นอยู่แล้ว นับตั้งแต่นั้นมา จ้าวฟางเซียนก็ให้นมเซี่ยลู่หมิงเองเรื่อยมา ทว่ามีแม่นมฉินอยู่คอยช่วยดูแลบุตรชาย ในเวลาที่นางไม่ต้องให้นมหวงซื่อเดินตามบุตรสาวเข้ามาในห้องของหลานชาย นางมองไปยังบุตรสาว ที่ออกเรือนมาได้ไม่ถึงสามปี ทว่ายามนี้ได้มาเห็น ว่านางนั้นมีครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุขเพียงใด ก็พลอยให้รู้สึกโล่งใจ จากที่เคยคิดเป็นกังวล ว่านางจะได้พบเจอกับความยากลำบาก ในการใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลขุนนางใหญ่ ก็ทำให้นางวางใจล

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 37 สุขสันต์นิรันดร์

    วันเวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากฤดูที่หนาวเย็นยะเยือก แปรเปลี่ยนมาเป็นฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลลี่ชุนก็ได้เวียนมาถึงอีกหน อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ สรรพสิ่งเริ่มงอกงาม หลายครอบครัวที่ทำการเกษตร เริ่มต้นการเพาะปลูก สรรพสัตว์เริ่มออกจากการจำศีล เพื่อออกหากิน เหล่านายพรานกลับมาทำอาชีพของตนบ้านเมืองสงบสุขร่มเย็น ชาวเมืองยิ้มแย้มแจ่มใส เด็กน้อยที่กำลังวิ่งเล่น ส่งเสียงหัวเราะออกมา จนทำให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายที่ได้ยิน ต่างก็พากันยิ้มได้ จวนตระกูลเซี่ยยามนี้ ก็ไม่ต่างไปจากสถานที่อื่น หรือจวนอื่นนัก ทว่าวันนี้ที่จวนสกุลเซี่ย ได้จัดงานครบเดือนให้แก่คุณชายน้อย ที่มีอายุครบหนึ่งเดือนพอดี บรรยากาศภายในจวน จึงเต็มไปด้วยความชื่นมื่นมีความสุขตระกูลจ้าวถือโอกาสที่เหลนน้อยอายุครบเดือน พากันเดินทางมาจากเมืองหนานจาง เพื่อมาเยี่ยมเยือนจ้าวฟางเซียน และบุตรชายของนางที่จวนสกุลเซี่ย เมืองหนานจง จ้าวฟางเซียนมองไปยังผู้คนจากตระกูลเดิมของตน ด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ นางไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่า ชีวิตของนางจะมีโอกาส ได้มาเห็นภาพแห่งความสุขเช่นในวันนี้ท่านปู่ท่านย่าที่อายุมากแล้ว ก็ยังอุตส่าเดินทางมาถึงที่นี่ เพื่อมาอวยพรให้เ

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 36 - 1 เป็นเพียงแค่ความฝัน

    “หลงเอ๋อร์…จ้าวซื่อกับเจ้า ได้ตั้งชื่อเตรียมเอาไว้ให้เขาแล้วใช่หรือไม่”จางซื่อถามบุตรชายออกมาขณะที่ส่งทารกในห่อผ้าไปให้เขา เซี่ยเฟยหลงหัดอุ้มเด็กกับภรรยามาบ้างแล้ว แม้จะมีท่าทีเงอะงะงุ่มง่าม ทว่ากลับดูไม่ขัดตาเท่าใดนัก เซี่ยเฟยหลงก้มมองดวงหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของบุตรชาย ก่อนที่จะเอ่ยนามของเขาออกมา“เซี่ย…ลี่หมิง”เพราะเขาคือแสงสว่างอันงดงาม ส่องลงมายังบนโลกมนุษย์ให้ความอบอุ่นแก่ผู้คน จ้าวฟางเซียนเป็นผู้ที่ตั้งชื่อบุตรชาย ส่วนตัวเขาเป็นผู้ที่ตั้งชื่อบุตรสาวเอาไว้ ทว่ากลับไม่ได้ใช้ ช่างเป็นวาสนาของเจ้าตัวน้อยเสียจริง ที่ได้ชื่อที่มารดาเป็นผู้ที่ตั้งให้“นามไพเราะ ความหมายดี…หมิงเอ๋อร์หลานย่า” จางซื่อยื่นมือไปรับหลานชายกลับมา เซี่ยเฟยหลงไม่ดื้อดึง ส่งทารกในห่อผ้ากลับคืนให้แก่มารดาทันที“จ้าวซื่อเป็นคนตั้งชื่อให้เขาใช่หรือไม่” นายท่านผู้เฒ่าเซี่ยเอ่ยถามหลานชายออกมา ก่อนที่จะกวักมือเรียกลูกสะใภ้ให้พาเหลนตัวน้อยมาให้เขาได้เชยชมบ้าง“ขอรับท่านปู่…นางตั้งชื่อบุตรชาย ส่วนข้าตั้งชื่อบ

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 36 เป็นเพียงแค่ความฝัน

    หลังจากที่ตรวจพบว่า จ้าวฟางเซียนตั้งครรภ์ จางซื่อก็ได้ส่งแม่นมฉิน ให้มาทำหน้าที่คอยดูแลฮูหยินน้อยอย่างใกล้ชิด แม้เซี่ยเฟยหลงจะรับปากกับมารดาว่า เขาจะไม่ล่วงเกินภรรยา ขอเพียงแค่ให้เขาได้นอนกอดนางก็พอคราแรกจางซื่อก็ไม่ยินยอม ทว่าจ้าวฟางเซียนกลับช่วยพูดให้แม่สามีเข้าใจ จางซื่อจึงยอมอ่อนข้อให้แก่บุตรชาย ทว่ากลับให้แม่นมฉิน มานอนเฝ้าอยู่ที่หน้าฉากกั้นแทน เช่นนั้นแล้วหากเซี่ยเฟยหลงมีความคิดเหลวไหล ย่อมถูกแม่นมฉินจับได้“โหวเหย…ท่านต้องเห็นใจบ่าวด้วยสิเจ้าคะ บ่าวก็ไม่ได้อยากทำเช่นนี้ แต่ในเมื่อนายหญิงท่านสั่งมา บ่าวจะกล้าขัดได้อย่างไรกัน”เซี่ยเฟยหลงจ้องหน้าแม่นมตาเขม็ง แม่นมฉินฉีกยิ้มกว้างออกมา ก่อนที่จะสั่งให้คนนำตั่งตัวยาวมาวางไว้ ด้านหน้าฉากกั้น จ้าวฟางเซียนนึกขัน ให้กับใบหน้าของสามีที่กำลังบูดบึ้ง พลางมองไปยังแม่นมฉินด้วยแววตาอบอุ่นแม่นมฉินแคล้วคลาดจากความตายในความทรงจำของนาง หรืออาจจะเป็นเพราะนางมีครรภ์ ถึงได้ทำให้เหตุการณ์บางอย่างเปลี่ยนไป นางเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน เพราะถ้าหากเหตุการณ์ดำเนินไปตามที่นางเคยพบเจอแม่นมฉินจะต้องจากไปตั้งแต่ต้น

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 35 - 1 มีแต่เรื่องน่ายินดี

    แสงทิวากำลังจะลาลับ พร้อมกับท้องฟ้าสีน้ำหมึกกำลังเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ สองอาชาสองชายหนุ่ม ยังคงเร่งรีบฝ่าความมืดกลับเมืองหนานจงด้วยความคะนึงหา เซี่ยเฟยหลงไม่แม้แต่คิดที่จะหยุดพัก ในเมื่อเจ้านายไม่ยินยอมที่จะพัก ทั้งคนทั้งม้าจึงได้พากันอดทนจนถึงประตูเมืองหนานจงในเวลาดึกดื่นหากเป็นชาวบ้านธรรมดา มีหรือจะสามารถผ่านทหารเวรยาม ที่ทำหน้าที่เฝ้ารักษาการณ์อยู่หน้าประตูเมืองเข้าไปได้ง่ายๆ ทว่าเซี่ยเฟยหลงคือผู้ใด ทหารเหล่านี้ย่อมรู้ดี ครั้นได้เห็นว่าท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยกลับมา ต่างก็พากันกล่าวต้อนรับการกลับมา ของผู้เป็นผู้บังคับบัญชาท่านแม่ทัพหนุ่มยามนี้ปลดชุดเกราะที่น่าเกรงขามออก เหลือเพียงอาภรณ์เยี่ยงคุณชายทั่วไปสวมใส่เท่านั้น เขาไม่พูดจากับทหารเหล่านี้ให้มากความ รีบกลับเข้าเมืองอย่างเร็วรี่ มุ่งหน้าไปยังจวนแม่ทัพของตน“พวกเจ้าอย่าคิดรั้งท่านแม่ทัพไว้นาน เขาเร่งรีบกลับมาย่อมคิดถึงภรรยา” นายทหารที่เป็นหัวหน้ากล่าวกับลูกน้องที่กำลังมองตามท่านแม่ทัพผู้องอาจ ควบอาชาหายไปในความมืดมิดครั้นมาถึงหน้าประตูจวน เซี่ยเฟยหลงสั่งห้ามมิให้ผู้ใด ไปรายงานให้คนด้านในทราบ เพราะเข

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 35 มีแต่เรื่องน่ายินดี

    ณ ตำหนักไท่เหอ ราชสำนัก แคว้นจิ้นองค์รัชทายาทวัยสามสิบต้นๆ กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทน เพราะกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ยังคงนอนป่วยรักษาตัวอยู่ ทำให้หน้าที่ดูแลบ้านเมือง ตกอยู่ในมือของเขาชั่วคราว อย่างชอบธรรม สีหน้าของเขายามนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก เป็นเพราะความต้องการของเขา ถูกเหล่าขุนนางเก่าแก่เหล่านี้ พากันกล่าวคัดค้านเขาย่อมรู้ดีว่ายามนี้ บ้านเมืองยังขาดความมั่นคง ยิ่งกับตัวเขาหากไม่สร้างผลงาน ไหนเลยจะขึ้นมานั่งบัลลังก์มังกรนี้อย่างภาคภูมิ เขาจึงอยากใช้การยึดเมืองหนานตงของแคว้นเจิ้ง มาเป็นผลงานเพื่อขึ้นครองราชย์ของตน ถึงอย่างไรบิดา ผู้เป็นกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ก็คงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว“จะทำเช่นนั้นมิได้พ่ะย่ะค่ะ ผู้สำเร็จราชการน่าจะรู้ดี ว่ายามนี้สถานการณ์ภายในของแคว้นจิ้นเรา ยังไม่เหมาะแก่การทำศึก อีกทั้งพวกเราเพิ่งจะสูญเสียแม่ทัพใหญ่อย่างท่านอู่ผา และกำลังทหารจำนวนหลายพันคนไป บ้านเมืองเรายังคงบอบช้ำอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ ขอพระองค์ทรงโปรดคิดทบทวน และพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีด้วยเถิด”“ขอพระองค์ทรงโปรดคิดทบทวน และพิจารณาเรื่องนี้ใ

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 34 - 1 พลิกสถานการณ์

    สามวันหลังจากที่อี้จงสืบความมาได้ พวกเขาก็สามารถจับกุมพวกหนูสกปรก และได้หลักฐาน เกี่ยวกับผู้ที่อยู่เบื้องหลัง คอยให้การสนับสนุน พวกทหารไส้ศึกเหล่านั้นเพียงชั่วคืน ตระกูลหยวนที่เคยรุ่งเรือง และมีอำนาจมากที่สุดในเมืองหนานตง ก็ถูกกองกำลังทหาร เข้ายึดทรัพย์ และตัดสินลงโทษประหารชีวิต ในข้อหาก่อกบฏ สมคบคิด และให้การสนับสนุนพวกทหารแคว้นจิ้น โดยผู้ที่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต ส่วนใหญ่ล้วนเป็นบุรุษของตระกูลเหลือเพียงเด็กชายอายุต่ำกว่าสิบสองปี และสตรีเท่านั้น ที่เซี่ยเฟยหลงยังมอบโอกาสให้พวกเขา ได้มีชีวิตรอด ทว่าทุกคนก็ต้องถูกลดสถานะ เป็นเพียงสามัญชน ชาวบ้านธรรมดา แต่เพียงแค่นี้ ก็นับว่ายังมีเมตตามากแล้ว ดีที่ไม่เนรเทศเด็กชาย ให้ไปทำงานหนักอยู่ที่ชายแดน และบังคับสตรีให้ไปอยู่หอนางโลม หากเป็นเช่นนั้นแล้ว อยู่ก็ไม่สู้ตาย“ไม่น่าเลย…แล้วเช่นนี้พวกสตรีกับเด็กน้อยเหล่านั้นจะไปอยู่ที่ใดกัน ใต้เท้าหยวนสมองเป็นหมูไปแล้วหรืออย่างไร เหตุใดถึงได้ไปร่วมมือกับพวกข้าศึกศัตรูทำลายบ้านเมืองตัวเอง”ชายชราที่ขายน้ำเต้าหู้กล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ พลางมองบรรดาสตรีและเด็กสกุลห

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 34 พลิกสถานการณ์

    ในช่วงเย็นของวันต่อมา ข่าวดีเรื่องการตั้งครรภ์ของฮูหยินน้อยจวนสกุลกวน ก็มาถึงจวนแม่ทัพ ซึ่งจ้าวฟางเซียนได้รู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว นางจึงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอันใด กับเรื่องที่สหายกำลังตั้งครรภ์ เพราะนางได้แสดงความยินดีกับอีกฝ่ายไปก่อนผู้ใดแล้ว ทว่าเรื่องที่นางกำลังให้ความสนใจและรู้สึกเป็นกังวลในยามนี้ ก็คือ สถานการณ์ทางชายแดนเมืองหนานตงต่างหากเพราะชีวิตนี้นางออกเรือนมาเร็วกว่าชีวิตก่อนอยู่หลายเดือนนัก จึงทำให้เหตุการณ์ต่างๆ มีความเปลี่ยนแปลง และคาดเคลื่อนไปไม่น้อย หากนางอยากรู้ว่าสถานการณ์ชายแดนเมืองหนานตงเป็นเช่นไร ก็คงต้องรอให้สามีกลับมาก่อน แล้วนางค่อยฟังจากปากของเขาเอา“นายหญิง…ท่านจะอาบน้ำเลยหรือไม่เจ้าคะ” เซียงซุนเดินเข้ามาสอบถามจ้าวฟางเซียน ที่ยามนี้ยังคงนั่งอ่านตำราอยู่บนตั่งภายในห้องนอนของตน“อืม…สั่งให้คนเตรียมน้ำเถิด” นางตอบสาวรับใช้คนสนิท พลางเหลือบมองแสงของทิวาที่กำลังจะลาลับเซียงซุนออกไปสั่งการอยู่นอกห้อง ไม่นานนักน้ำร้อนและน้ำเย็น ก็ถูกส่งเข้าไปภายในห้องอาบน้ำ จ้าวฟางเซียนวางตำราในมือลง ก่อนที่จะลุกขึ้นจากตั่

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 33 - 1 ทุกสิ่งล้วนคือโชคชะตา

    “ท่านนักพรตน้อย” จ้าวฟางเซียนคำนับนักพรตน้อยนามว่าจ้วนชิง อีกฝ่ายยิ้มแย้มพลางคำนับนางกลับอย่างเต๋า“แม่นางมาพบข้า ต้องการไขปริศนาธรรมกับข้าหรือ” นักพรตน้อยนามว่าจ้วนชิงเอ่ยถามออกมา“เจ้าค่ะ…” จ้าวฟางเซียนตอบรับทันที“ถ้าเช่นนั้นก็ไปนั่งคุยกันที่ศาลาด้านหลังอารามเถิด” จ้าวฟางเซียนไม่อิดออด สิ่งที่นางต้องการรู้ นางเชื่อว่านักพรตน้อยผู้นี้ จะสามารถไขข้อสงสัยของนางได้จ้าวฟางเซียนหันไปบอกกล่าวสหาย ก่อนที่จะติดตามนักพรตน้อย ไปยังศาลาด้านหลังของอาราม พร้อมกับสาวรับใช้คนสนิทของตน ท่านหญิงชิงหลวนเห็นว่าจ้าวฟางเซียนมีธุระที่ต้องไปทำ นางจึงเดินนำสาวรับใช้คนสนิท มุ่งหน้าไปยังโรงทาน เพื่อกินอาหารเจรอจ้าวฟางเซียนอยู่ที่นั่น ตามที่ได้คุยกันเอาไว้ก่อนหน้านานเกือบครึ่งชั่วยาม จ้าวฟางเซียนถึงได้เดินกลับออกมา จากศาลาด้านหลังอารามด้วยหัวใจที่เต้นแรง มีทั้งความรู้สึกเป็นกังวล และความรู้สึกโล่งใจปะปนกันไป เรื่องที่นางรู้สึกเป็นกังวลนั้นก็คือ สิ่งที่นักพรตน้อยได้บอกกล่าว เขาล่วงรู้ว่านาง คือผู้ที่ได้รับโอกาสจากสวรรค์ ให้ย้อน

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status