“ให้ตายเถอะ อู๋เยว่เซี๋ย ไม่แปลกใจเลยที่พี่ใหญ่จะโกรธขนาดนี้....”ถังเจิ้งเฉินหลับตาลง ในใจเกิดความเสียใจอย่างไม่มีสื้นสุด“ปกป้องท่านสาม!”ผู้คุ้มกันตระกูลถังที่อยู่โดยรอบกลับมามีรู้สึกตัว ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย สุดท้ายเพียงแค่หลินเฟิงก้าวออกไป พลังชี่แท้ที่น่าสะพรึงกลัวก็ทะลักออกมาตามพื้นดินและพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทางผู้คุ้มกันพวกนี้ก็เดินเซไปเซมาพร้อมกับส่งเสียงร้องทันทีถังเจิ้งเฉินมองไปเขาพบว่าผู้คุ้มกันส่วนใหญ่ของตระกูลถังถูกหลินเฟิงหักขาทั้งสองข้างในครั้งเดียว ก่อนที่ทั้งหมดจะนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นลำส่งเสียงร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว “จบแล้ว....จบสิ้นทุกอย่างแล้ว....”ถังเจิ้งเฉินหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง“คุณหลินเฟิง! ได้โปรด.....ได้โปรดหยุดเถอะ!”ในเวลานี้ เสียงของหลานเฟยก็ดังขึ้นมาด้านข้างทันที“หืม? หลานเฟย?”ถังเจิ้งเฉินมองดูไปด้วยความประหลาดใจ หลานเฟยที่ถือโทรศัพท์อยู่ วิ่งตรงไปที่หลินเฟิง โดยไม่สนใจผู้คุ้มกันตระกูลถังที่พิการและส่งเสียงกรีดร้องอยู่โดยรอบ“หลานเฟน หนีเร็ว ไปบอกพี่ใหญ่...”“แก้แค้นให้ฉันด้วย” คำไม่กี่คำนี้ติดอยู่ในลำคอของถังเจิ้งเ
“ได้...ได้ยิน”ถังเจิ้งเฉินตอบกลับด้วยความอับอาย“ฮึ่ม คุณจำสิ่งที่ฉันพูดตอนแรกได้หรือเปล่า? ฉันบอกว่าอย่าข่มขู่เขาด้วยความปลอดภัยของครอบครัวเขา ดูเหมือนว่าพวกคุณจะหูหนวกตาบอดกับสิ่งที่ฉันพูดนะ!”“จริงสิ ถึงแม้ว่าฉันอยากจะเห็นท่าทางหดหู่ของหลี่ฮุ่ยหร่านตอนอยู่ข้าง ๆฉัน แต่....”“สามี คุณลงมือเลยเถอะ!”“ต่อให้ฆ่าอาสามแล้ว ฉันก็ไม่โทษคุณหรอก!”เมื่อได้ยินถังหว่านพูดแบบนี้ทางโทรศัพท์ ถังเจิ้งเฉินก็หน้าซีดทันทีเขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ก้มหัวลง ไม่ได้พูดต่ออะไรอีก“.....”หลินเฟิงก็เงียบไม่พูดอะไรถ้าถังหว่านร้องขอความเมตตา หลินเฟิงคงจะโกรธมาก และอาจจะไม่ฟังเธอด้วยแต่ถังหว่านเป็นคนฉลาดและรู้ว่าหลินเฟิงไม่สามารถย้อนแย้งแผนการได้เธอพูดอ้อมค้อมและเลือกยืนข้างหลินเฟิง สิ่งนี้กลับทำให้หลินเฟิงลังเลที่จะทำเล็กน้อยหากฆ่าถังเจิ้งเฉินไปแบบนี้ จะกลายเป็นหลินเฟิงที่ดูใจแคบเกินไป“เอาล่ะ เอาล่ะ”หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง ถังหว่านในโทรศัพท์ก็ถอนหายใจ ก่อนจะใช้น้ำเสียงออดอ้อน “สามี”“ไม่อย่างนั้นก็ปล่อยเขาไป? แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว? ครั้งเล็กๆ? ในเมื่อเขาก็เป็นอาสามของฉัน จะฆ่
ถังเจิ้งเฉินมองไปที่คราบเลือดและเศษซากที่แตกออกมา ก่อนจะถอนหายใจและพูดว่า“มาสร้างสุสานให้คุณเจิ้นเถอะ เรื่องในวันนี้ ฉันก็โชคดีแล้วที่เขาช่วยชีวิตได้ทันพอดี”“ท่านสาม หรือว่า....”ผู้คุ้มกันตระกูลถังเหลือบมองไปที่แผ่นหลังของหลินเฟิง ก่อนจะกระซิบเสียงเบาข้าง ๆหูของถังเจิ้งเฉิน“แล้วพวกเราต้องเข้าไปดูเขาที่ตระกูลถังหรือเปล่าครับ?”“ฉันจำได้ว่าผู้นำตระกูลออกคำสั่ง ไม่อนุญาตให้หลินเฟิงติดต่อกับคุณหนูถังหว่านใช่ไหม? แม้แต่คุยโทรศัพท์ก็ไม่ได้” “ คุณหลานเฟยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้นำตระกูลอย่างโจ่งแจ้ง ต้องบังคับใช้กฎในตระกูลกับเธอไหมครับ?”“กฎในตระกูล?”ถังเจิ้งเฉินส่ายหน้าไปมา และหัวเราะเยาะหยัน“หากไม่ใช่เพราะหลายเฟย เกรงว่าวันนี้พวกเราทั้งหมดต้องตายอยู่ที่นี่ แล้วยังจะบังคับใช้กฎในตระกูล....”“ ฉันรู้สึกว่ามีอีกคนหนึ่งที่ควรบังคับใช้กฎในตระกูลมากที่สุด”ใบหน้าของคนหนึ่งค่อย ๆปรากฏขึ้นมาในใจของถังเจิ้งเฉินนั้นก็คือ อู๋เยว่เซี๋ย ผู้เย่อหยิ่ง......ไม่นานหลังจากนั้น หลินเฟิงที่นั่งอยู่บนรถของหลานเฟย เข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลถังที่อยู่ในเมืองเป็นอย่างที่คิดไว้สไตล์ของสี่ตระกูลใหญ่ที
“ใช่ก็บ้าแล้ว!”หลินเฟิงตำหนิเสียงดังถังเจี้ยนหยวนด้วยน้ำเสียงเย็นชาต่อหน้าผู้คุ้มกันตระกูลถังที่อยู่โดยรอบ “ฉันกับถังหว่านไปทำข้อตกลงกันตอนไหน?”“เธอโทรศัพท์ให้ฉันมาเจอเธอ”“การช่วยพ่อของคุณเป็นเพียงเรื่องง่าย ไม่ว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของฉัน ตระกูลถังของพวกคุณอย่าได้คือจะเอาศอก!”ต่อให้ใครก็ตามที่โดนตำหนิเสียงดังแบบนี้ ก็ล้วนไม่มีสีหน้าที่ดีได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถังเจี้ยนหยวน ผู้นำตระกูล หนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยของเมืองจิงครั้งที่แล้วคนที่เขาตำหนิเสียงดังแบบนี้ ก็คือพ่อของเขานอกจากพ่อของเขา ใครก็ตามที่อยู่ข้างนอกเมื่อเห็นเขาแล้วไม่เคารพบ้าง? หรือถึงกับคุกเข่าและหมอบลงก็มีแม้แต่ผู้นำตระกูลหลงและตระกูลสือหม่า ก็ต้องแสดงความเคารพเมื่อเห็นเขาแต่ตัวเองโดนหลินเฟิงตำหนิเสียงดังจริง ๆงั้นเหรอ?หลินเฟิงเป็นใคร?“คุณหลิน คุณระวังหน่อย! ถ้าคุณยังกล้าพูดแบบนี้กับผู้นำตระกูลถังอีก ก็ลองดู!”บริวารของตระกูลถังหลาย ๆคนที่อยู่ข้าง ๆ ก้าวออกมาพวกเขาล้วนเป็นบริวารยอดฝีมือแดนแปรภาพที่ได้รับการว่าจ้างจากตระกูลถังเป็นเงินจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นก็ยังเป็นผู้อาวุโสของกลุ่ม
“จะพูดมากไร้สาระกับเขาไปทำไม? จัดการฆ่าเขาซะ”บริวารแก่พูดอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก“ฉันก็คิดอย่างนั้น”ชายชราหลังค่อมวัยห้าสิบกว่าออกก็พูดเสริม“เหอะ ไอ้หนู อย่าโทษพวกเรา ล่ะ ถ้าจะโทษก็โทษที่ตัวคุณเองที่ไม่รู้สถานการณ์ ผู้นำตระกูลถังอ่อนข้อให้คุณแล้ว แต่คุณยอม!”สถานการณ์อยู่ในช่วงเวลาที่วิกฤติ ตอนที่ยอดฝีมือทุกคนเตรียมพร้อมที่รวมพลังเพื่อจัดการกับหลินเฟิง จู่ ๆประตูใหญ่ห้องรับแขกก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง“หืม?”ไม่เพียงแค่หลินเฟิง ถังเจี้ยนหยวนกับัเหล่ายอดฝีมือตระกูลถังต่างก็หันกลับไปมอง“หลินเฟิง พวกเราเจอกันอีกแล้ว”คนที่เข้าประตูมาในเวลานี้ก็คือ คุณชายใหญ่ของตระกูลหลง หลงยวน ที่มีผมสั้นและแววตาดุร้าย “ฉันจำได้ว่าฉันเคยบอกคุณไปแล้วว่าไม่อนุญาตให้คุณมาที่เมืองจิงใช่ไหม? ในเมื่อคุณกล้ามา ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าคุณพร้อมที่จะตายแล้ว”หลงยวนยืนในจุดเดียวกัน และตามด้วยยอดฝีมือแดนแปรภาพหลายคน ซึ่งจริง ๆแล้วหนึ่งในนั้นยังเป็นแดนแปรภาพขั้นสูงสุดขณะที่หายใจเข้าออก หลินเฟิงก็เพิ่มความกดดันเป็นสองเท่ากลายเป็นหลินเฟิงที่ควมคุมสถานการณ์เอาไว้ทันที“ผู้...ผู้ป่วยอยู่ที่ไหน? ผม
“ถ้าหากคุณแค่เหยียดหยามผมหลินเฟิงเพียงคนเดียว งั้นผมอาจจะไม่ใส่ใจอะไร แต่คุณกลับกล้าดูถูกวิชาแพทย์ดั้งเดิมของประเทศมังกร งั้นผมจำเป็นต้องคิดเล็กคิดน้อยกับคุณแล้ว”หลินเฟิงตวาดเสียงทุ้มต่ำด้วยใบหน้าเย็นชาวิชาแพทย์ทั้งตัวของเขาได้เรียนรู้มาจากสำนักเสวียนเทียน เป็นแบบดั้งเดิมมากที่สุด สืบทอดวิชาแพทย์ดั้งเดิมประเทศมังกรที่เก่าแก่มากที่สุดในตอนที่วิชาแพทย์ดั้งเดิมของประเทศมังกรช่วยชีวิตคนใกล้ตายและรักษาผู้บาดเจ็บ วิชาแพทย์ต่างประเทศกำลังทำอะไรอยู่?แค่เป็นโรคกลากเกลื้อนที่เท้าก็จะตัดเท้าทิ้ง!อีกทั้งยังเป็นชนิดที่ไม่ฉีดยาชา จะเป็นจะตายแล้วแต่ชะตากรรมและคนจนถึงตอนนี้ กลับกลายเป็นคนเหล่านี้มาดูถูกวิชาแพทย์ดั้งเดิมของประเทศมังกร? เขานับประสาอะไรงั้นเหรอ?ท่าทางของหลินเฟิงตรงกับความต้องการของหลงยวนครั้งที่แล้วอยู่ที่เมืองเจียงโจว หลงยวนสามารถพูดได้ว่าศักดิ์ศรีของเขาที่มีมาหลายปีหายไปจนหมดสิ้นเขากลับถึงที่ตระกูล ก็ไม่กล้าพูดตอนนี้ได้เจอกับหลินเฟิงที่เมืองจิงอีกครั้งงั้นก็ต้อง “ต้อนรับ” เขาเป็นอย่างดี นำความอับอายที่หลินเฟิงเคยมอบให้เขา เอาคืนกลับให้หลินเฟิงเป็นร้อยเท่าและโจมต
หลินเฟิงเงียบขรึมอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นและตอบตกลงดูท่าว่านี่คือเงื่อนไขที่เป็นเส้นตายของตระกูลถังแล้ว ถ้าหากเสนอเงื่อนไขอื่นอีก เกรงว่าตระกูลถังก็จะโมโหแล้วและวันนี้โชคก็ไม่ดีบังเอิญเจอกับหลงยวนที่นี่ และบริวารแดนแปรภาพที่เป็นลูกน้องของหลงยวนต่อให้หลินเฟิงลงมือที่นี่ ก็ไม่ได้เปรียบเท่าไหร่นักเอาเป็นว่า ช่วงเวลานี้ให้เขาได้เจอหน้าถังหว่านก็พอแล้วเขาจำเป็นต้องถามเรื่องบางเรื่องกับถังหว่านให้ชัดเจนเห็นหลินเฟิงตอบตกลง ถังเจี้ยนหยวนที่อยู่ไกลออกไปก็โล่งอกอย่างเห็นได้ชัด นั่นเป็นเพราะข่าวที่น้องสามของตัวเองส่งมาหลินเฟิงไม่เพียงมีพลังระดับแดนแปรภาพอีกทั้งเกรงว่ายังจะเป็นแดนแปรภาพขั้นสูงสุดอีกด้วย ถ้าหากทำให้เขาโมโห งั้นเรื่องราวก็คงจะจัดการได้ยากจริงๆ“ผู้ป่วยอยู่ที่ไหน? พวกคุณ...เร็ว เร็วหน่อยไม่ได้เหรอ?”ศาสตราจารย์โรเบิร์ตที่หัวล้านมีสีหน้าหงุดหงิด เขารู้สึกไม่ชินความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงแบบนี้ของประเทศมังกรเป็นอย่างมาก“ศาสตราจารย์โรเบิร์ตพูดได้ถูกต้อง ไปเถอะครับ ช่วยพ่อของผมก่อนเป็นเรื่องสำคัญ”เมื่อพูดคุยถึงเงื่อนไขกันเสร็จแล้ว ถังเจี้ยนหยวนสั่งให้ลูกน้องขับร
“นี่...”หลินเฟิงขมวดคิ้ว“วิชาแพทย์ดั้งเดิมของประเทศมังกรให้ความสำคัญกับการมองการถามการดมและการคลำ สำหรับคำว่าการคลำ ไม่มีเรื่องของการสวมถุงมือ การสัมผัสถึงอุณหภูมิของผู้ป่วย และสภาพร่างกาย ผมต้องสัมผัสร่างกายของผู้ป่วย...”“อย่าพูดพล่าม!”เมื่อได้ยินคำแก้ตัวที่พูดไม่หยุดของหลินเฟิง หญิงชราก็หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เธอบุ้ยปาก จนฟันปลอมเกือบจะหลุดออกมา“สวมถุงมือคู่นี้ นายไม่สวมถุงมือก็ไสหัวไป พวกเราไม่ได้ขอให้นายรักษา!”“นายที่เป็นไอ้หนุ่มยากจนที่มาจากสถานที่ห่างไกล คู่ควรที่จะสัมผัสร่างกายของนายท่านตระกูลถังด้วยงั้นเหรอ?”“นายไม่รังเกียจ แต่ฉันรังเกียจ!”คำพูดของหญิงชราเกือบจะทำให้หลินเฟิงอดกลั้นความโมโหไว้ไม่ไหวเขาอยากจะรักษา แต่ตระกูลถังนี้ข่มเหงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูท่าว่าไม่อยากให้เขารักษานายท่านตระกูลถังด้วยซ้ำ!“หึ”หลินเฟิงส่งเสียงไม่พอใจ เพื่อที่จะได้เจอถังหว่าน ก็ยังอดกลั้นเอาไว้ จากนั้นก็สวมถุงมืออย่างว่าง่าย“สหายหลินเฟิง คุณต้องระวังหน่อยนะ”หลินเฟิงสวมถุงมือไปด้วย หลงยวนที่อยู่ด้านหลังก็ยิ้มพูดไปด้วย: “อีกเดี๋ยววินิจฉัยสาเหตุของโรคผิดแล้วโยนความผิดไปที่ถุงมือล่ะ