หลินเฟิงเงียบขรึมอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นและตอบตกลงดูท่าว่านี่คือเงื่อนไขที่เป็นเส้นตายของตระกูลถังแล้ว ถ้าหากเสนอเงื่อนไขอื่นอีก เกรงว่าตระกูลถังก็จะโมโหแล้วและวันนี้โชคก็ไม่ดีบังเอิญเจอกับหลงยวนที่นี่ และบริวารแดนแปรภาพที่เป็นลูกน้องของหลงยวนต่อให้หลินเฟิงลงมือที่นี่ ก็ไม่ได้เปรียบเท่าไหร่นักเอาเป็นว่า ช่วงเวลานี้ให้เขาได้เจอหน้าถังหว่านก็พอแล้วเขาจำเป็นต้องถามเรื่องบางเรื่องกับถังหว่านให้ชัดเจนเห็นหลินเฟิงตอบตกลง ถังเจี้ยนหยวนที่อยู่ไกลออกไปก็โล่งอกอย่างเห็นได้ชัด นั่นเป็นเพราะข่าวที่น้องสามของตัวเองส่งมาหลินเฟิงไม่เพียงมีพลังระดับแดนแปรภาพอีกทั้งเกรงว่ายังจะเป็นแดนแปรภาพขั้นสูงสุดอีกด้วย ถ้าหากทำให้เขาโมโห งั้นเรื่องราวก็คงจะจัดการได้ยากจริงๆ“ผู้ป่วยอยู่ที่ไหน? พวกคุณ...เร็ว เร็วหน่อยไม่ได้เหรอ?”ศาสตราจารย์โรเบิร์ตที่หัวล้านมีสีหน้าหงุดหงิด เขารู้สึกไม่ชินความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงแบบนี้ของประเทศมังกรเป็นอย่างมาก“ศาสตราจารย์โรเบิร์ตพูดได้ถูกต้อง ไปเถอะครับ ช่วยพ่อของผมก่อนเป็นเรื่องสำคัญ”เมื่อพูดคุยถึงเงื่อนไขกันเสร็จแล้ว ถังเจี้ยนหยวนสั่งให้ลูกน้องขับร
“นี่...”หลินเฟิงขมวดคิ้ว“วิชาแพทย์ดั้งเดิมของประเทศมังกรให้ความสำคัญกับการมองการถามการดมและการคลำ สำหรับคำว่าการคลำ ไม่มีเรื่องของการสวมถุงมือ การสัมผัสถึงอุณหภูมิของผู้ป่วย และสภาพร่างกาย ผมต้องสัมผัสร่างกายของผู้ป่วย...”“อย่าพูดพล่าม!”เมื่อได้ยินคำแก้ตัวที่พูดไม่หยุดของหลินเฟิง หญิงชราก็หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เธอบุ้ยปาก จนฟันปลอมเกือบจะหลุดออกมา“สวมถุงมือคู่นี้ นายไม่สวมถุงมือก็ไสหัวไป พวกเราไม่ได้ขอให้นายรักษา!”“นายที่เป็นไอ้หนุ่มยากจนที่มาจากสถานที่ห่างไกล คู่ควรที่จะสัมผัสร่างกายของนายท่านตระกูลถังด้วยงั้นเหรอ?”“นายไม่รังเกียจ แต่ฉันรังเกียจ!”คำพูดของหญิงชราเกือบจะทำให้หลินเฟิงอดกลั้นความโมโหไว้ไม่ไหวเขาอยากจะรักษา แต่ตระกูลถังนี้ข่มเหงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูท่าว่าไม่อยากให้เขารักษานายท่านตระกูลถังด้วยซ้ำ!“หึ”หลินเฟิงส่งเสียงไม่พอใจ เพื่อที่จะได้เจอถังหว่าน ก็ยังอดกลั้นเอาไว้ จากนั้นก็สวมถุงมืออย่างว่าง่าย“สหายหลินเฟิง คุณต้องระวังหน่อยนะ”หลินเฟิงสวมถุงมือไปด้วย หลงยวนที่อยู่ด้านหลังก็ยิ้มพูดไปด้วย: “อีกเดี๋ยววินิจฉัยสาเหตุของโรคผิดแล้วโยนความผิดไปที่ถุงมือล่ะ
“อย่ารีบร้อนสิครับ”หลินเฟิงจับคาง จากนั้นถามต่อว่า:“ยาสารคัดหลั่งกวางชะมด แต่ทุกครั้งทาน 5 กรัม ผสมน้ำดื่มเข้าไป ถูกต้องไหมครับ?”“ไอ้หนุ่ม ที่นายพูดมาไม่ถูกต้องสักข้อ”หญิงชราหมดความอดทนแล้ว เดินเข้าไปชี้หน้าต่าทอหลินเฟิงโดยตรง: “รีบไสหัวไป อย่ามาเสียเวลาของพวกเราอยู่ตรงนี้!”“หลินเฟิง ไม่อย่างนั้นคุณยอมแพ้ซะเถอะ”หลงยวนเห็นเขาประสบเคราะห์ก็รู้สึกดีใจ“ถูกต้อง หลินเฟิง คุณไปซะเถอะ ตระกูลถังของผมไม่กีดขวางคุณ แต่ต่อไปห้ามคุณเอ่ยถึงถังหว่านอีก และไม่อนุญาตให้คุณมาเหยียบที่ตระกูลถังอีกแม้แต่ครึ่งก้าว คุณได้ยินแล้วยัง?”ถังเจี้ยนหยวนก็เผยอำนาจของผู้นำตระกูลออกมา และพูดเสียงทุ้มต่ำ“หึ...”หลินเฟิงหรี่ตา สุดท้ายพยักหน้าพูดว่า: “ผมคิดว่าผมรู้แล้วว่านายท่านตระกูลถังโดนหนอนคุณไสยชนิดไหน”“ระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ไม่ได้เป็นเพราะโสมภูเขา แต่เป็นการนำพาด้วยยาสารคัดหลั่งกวางชะมด ที่มากกว่า 5 กรัม และไม่ได้ดูดซึมเข้าในปากด้วยลักษณะเข้มข้น...”หลินเฟิงหยิบเข็มเงินที่พกติดตัวออกมาจากกระเป๋าหน้าอก จากนั้นมองไปทางผู้คนที่อยู่รอบๆ และพูดว่า:“ลำดับต่อไปผมจะทำการฝังเข็ม ถ้าหากข้อมูลที่พวกค
“กลับกัน พวกเราก็สามารถือโอกาส โยนความผิดไปใส่หลินเฟิงได้ ให้หว่านเอ๋อร์เกิดความรังเกียจต่อหลินเฟิง”“และทำให้พวกเรามีเหตุผลในการจัดการหลินเฟิงเพิ่มมากขึ้น”ประโยคสุดท้ายนี้ เป็นคำพูดที่ถังเจี้ยนหยวนขยับเข้าไปพูดข้างหูหญิงชราหญิงชราได้ยินคำพูดสุดท้ายของถังเจี้ยนหยวน ทันใดนั้นคิ้วที่ขมวดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก“งั้นก็ได้ เอาตามที่นายว่า!”หญิงชราพยักหน้าอย่างหนักแน่น และจึงได้ตอบตกลงหลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ เห็นการแอบกระซิบกระซาบของพวกเขา ชั่วพริบตาเดียวก็เดาออกได้ว่าคนเหล่านี้มีความคิดอะไรถึงแม้เขาจะไม่สนใจอะไร แต่ในใจก็ค่อนข้างโมโหอยู่ดีถ้าหากไม่ใช่เพราะหญิงชราไม่ให้เขาสัมผัสร่างกายกับผิวหนังของนายท่านตระกูลถัง งั้นหลินเฟิงก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการหลอกล่อคำพูดของพวกเขาด้วยซ้ำก็สามารถหาสาเหตุอาการป่วยของนายท่านตระกูลถังออกมาได้อย่างแม่นยำนายท่านตระกูลถังถูกหนอนคุณไสย นั่นคือหนอนคุณไสยเน่าเฟะชนิดหนึ่งของเมืองหนานไห่ที่ไม่นับว่าเก่งอาจมากนักหนอนคุณไสยประเภทนี้ถ้าหากถูกคนกลืนเข้าไปในท้อง ควบคู่ยาชนิดพิเศษหรือวิธีการกระตุ้น ก็สามารถทำให้ตัวอ่อนฟักไข่เป็นตัว จากนั้นวางไข่และสร้างร
ตามการคาดเดาของหลินเฟิงหลังจากที่นายท่านตระกูลถังได้รับการรักษาของตัวเองแล้ว ก็น่าจะต้องฟื้นคืนสติขึ้นมาในเวลาห้านาที แล้วขับไข่ออกจากช่องท้องเขาบอกว่าสิบนาที แต่จริง ๆแล้วก็พอมีเวลาสเหลืออยู่บ้างสุดท้ายก็ไม่มีการรับรองได้ว่าว่าร่างกายของทุกคนจะเหมือนกัน และการปิดเป็นความลับก็เป็นรูปแบบการรักษาของหลินเฟิงเช่นกันแต่เมื่อมองเวลาที่ผ่านไปสิบนาทีแล้วนายท่านตระกูลถังที่อยู่บนเตียงยังคงไม่แสดงท่าทีว่าจะฟื้นขึ้นมา แม้แต่ใบหน้าก็ยังคงเป็นสีเขียวงคล้ำเหมือนเดิม ไม่มีท่าทางจะดีขึ้นด้วยซ้ำ“หรือว่าตอนที่ฉันถามไปเมื่อครู่นั้น พวกเขาจะโกหกหลอกลวงงั้นเหรอ?” หลังจากที่หลินเฟิงตรวจดูยาที่ตัวแองถือมา ผลที่ได้จึงทำให้เขาโกรธมากถ้าหากพวกเธอโกหกหลอกลวง ถ้าอย่างนั้นความคาดเดาของหลินเฟิงเกี่ยวกับหนอนคุณไสยก็จะไม่ถูกต้อง และวิธีการที่ใช้ก็จะไม่ถูกต้องเช่นกันถ้าเป็นแบบนี้มันก็จะไม่มีผลอะไรเลยอย่างเลวร้ายที่สุด ก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตของผู้ป่วยได้ในตอนที่หลินเฟิงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา ถังเจี้ยนหยวนที่อยู่ด้านข้างก็ยกแขนของตัวเอง ขึ้นมา แล้วเหลือบมองไปที่ปาเต็กฟิลิปป์ที่บนข้อมือ ก่อนจะส
“ผมเป็นหมอน่ะถูกต้องแล้ว”หลินเฟิงยังอยากจะพยายามเป็นครั้งสุดท้าย และพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “แต่ผมไม่ใช่เทพเจ้า มันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะสรุปสาเหตุอาการป่วยของผู้ป่วยได้โดยไม่ต้องติดต่อกับเขา!” “และผมก็ไม่อาจจะรักษานายท่านของคุณได้ ในเมื่อคุณปิดบังอาการป่วยและโกหกผม!”“มีผู้หญิงแบบนี้อย่างคุณ นายท่านตระกูลถังโชคไม่ดีจริง ๆ!”คำพูดสุดท้ายของหลินเฟิงนับว่าเป็นระเบิดที่ถูกจุดชนวนแล้วเพียงแค่เห็นคุณนายตระกูลถังกระโดดขึ้นมา แล้วตรงไหนกันที่เหมือนกับหญิงชราวันเจ็ดสิบปี?ความสามารถของเธอคล่องแคล่วมาก และต้องการที่จะข่วนใบหน้าและดวงตาของหลินเฟิงด้วยเล็บของเธออย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่เอะอะโวยวายก็พูดด่าไปด้วยว่า“ไอ้สารเลว แกนับประสาอะไร ถึงได้กล้ามาด่าฉัน?! วันนี้.....วันนี้ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้!”“เจี้ยนหยวน! เรียกผู้คุ้มกันทั้งหมดของตระกูลถังเข้ามา!”“ฉันจะทำให้ไอ้สารเลวคนนี้ตายทั้งเป็น!”เมื่อเผชิญหน้ากับแม่ที่บ้าคลั่งแบบนี้ ถังเจี้ยนหยวนก็ไม่ได้ก้าวไปเพื่อห้ามปราม แต่กลับมองไปที่หลินเฟิงอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า“หลินเฟิง คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณพูดอะไรอยู่?!”“คำพูดเมื่อครู่ของคุณลองพูดอีกรอ
เขาเงยหน้าและเผชิญหน้ากับหลินเฟิง“เดี๋ยวก่อน”และในขณะนี้ หลงยวนก็ยืนขึ้นมา“ผู้นำตระกูลถัง จะจัดการกับหลินเฟิงอย่างไร พวกเราจะหารือเรื่องนี้ในภายหลัง แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกว่าศาสตราจารย์โรเบิร์ตได้เห็นทักษะทางการแพทย์แบบดั้งเดิมของประเทศมังกรที่ไร้สาระของหลินเฟิงแล้ว”“ตอนนี้ก็ควรจะให้เขาได้เปิดประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญตัวจริงได้แล้ว”หลงยวนหัวเราะเยาะ“หลังจากที่เขาได้เห็นทักษะทางการแพทย์ที่แท้จริงแล้ว ค่อยฆ่าเขาก็ไม่สายเกินไปหรอก”ผลลัพธ์นี้คือสิ่งที่หลงยวนต้องการ หากจะโจมตีก็ต้องเริ่มจากจิตใจ เริ่มลงมือจากสองด้านของสรีรวิทยาหลินเฟิงที่สูญเสียท่าทางอวดดีไปอย่างสิ้นเชิง สีหน้าไม่มีชีวิตชีวาและคุกเข่าแทบเท้าด้วยความเสียใจ“พวกคุณคุยกันจบแล้วงใช่ไหม?”ศาสตราจารย์โรเบิร์ตที่ยืนรออยู่ด้านข้างอย่างหงุดหงิด“คุยจบแล้ว เชิญศาสตราจารย์โรเบิร์ตลงมือ ช่วยเหลือพ่อของผม”หลินเฟิงที่ถูกรายล้อมไปด้วยบริวารของตระกูลถังและตระกูลหลงอยู่ไกล ๆเพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนจากบริวารตระกูลหลง จึงไม่ปฏิเสธข้อเสนอของหลงยวนอยู่แล้วดังนั้นเขาจึงมองตรงไปที่โรเบิร์ตอย่างขอร้องด้วยความจริงใจ“ฮึ ศาส
“ฮะ?!”ความผิดปกติของนายท่านตระกูลถังแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเกินความคาดหมายของศาสตราจารย์โรเบิร์ตเขาถลึงตาโต และส่ายหน้าอย่างแรงพูดว่าเป็นไปไม่ได้อยู่หลายครั้ง จากนั้นก้มหน้าเริ่มค้นหากระเป๋าถือของตัวเอง“ศาสตราจารย์โรเบิร์ต นี่...พ่อของผมเป็นอะไรไปครับ?”ถังเจี้ยนหยวนเห็นภาพนี้ จึงรีบถามขึ้น“ผมก็ไม่เคยเห็นมาก่อน นี่เป็นยาแก้พิษที่ทีมงานของเราคิดค้นขึ้นมาใหม่ล่าสุด เป็นแบบนี้ต่อไป น่าจะฆ่าพยาธิตายได้...แต่สถานการณ์แบบนี้...”โรเบิร์ตลุกลี้ลุกลนอย่างมาก เขาใช้เข็มฉีดสูบของเหลวสีเหลืองอ่อนอีกครั้งด้วยความสั่นเทา และมองไปรอบๆ จากนั้นพูดว่า:“พวกคุณ เร็ว...ใครก็ได้มาช่วยผมกดผู้ป่วยเอาไว้!”ได้ยินเสียงตะโกนของศาสตราจารย์โรเบิร์ต ถังเจี้ยนหยวนรีบเรียกบริวารตระกูลถังสองสามคนที่เพิ่งล้อมหลินเฟิงเอาไว้เมื่อครู่ ให้พวกเขาจับนายท่านที่คลุ้มคลั่งกดไว้บนเตียง“จับให้ดีล่ะ!”ศาสตราจารย์โรเบิร์ตลูบเหงื่อที่อยู่บนศีรษะ และฉีดของเหลวสีเหลืองอ่อนเข้าไปในหลอดเลือดของนายท่านตระกูลถัง“เอื๊อก...”ในที่สุดนายท่านตระกูลถังก็สงบลงแล้วเขาไม่สั่นเทาและกระตุกอีกแล้ว เลือดสีดำที่ไหลออกจากปากไม่หยุดก็
ได้ยินการวิเคราะห์ของหลินเฟิง เฝิงเอ้อกับเฝิงชางถลึงตาโตทันที“เฝิงหลี?!”หรือว่าเมื่อครู่เฝิงหลีถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้สังเกต วางยาพิษเฝิงอวี้อู่เป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?!ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวเพิ่งรักษาจนดีขึ้นเล็กน้อย ก็ได้อาการหนักขึ้นทันที ?“ไอ้สารเลว ผมจะไปจับตัวเขามาถามเดี๋ยวนี้!”เฝิงเอ้ออารมณ์ร้อน ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหทันที“หยุดก่อน!”เฝิงชางกลับตะโกนเสียงดัง จ้องมองเฝิงเอ้อแล้วพูดว่า:“หรือว่านายอยากให้ตระกูลเฝิงของเราตายงั้นเหรอ?”“ไม่พูดก่อนว่านี่เป็นคำพูดของไอ้หมอนี่ฝ่ายเดียว ต่อให้ไอ้หนุ่มคนนี้พูดจริง หรือว่าพวกเราจะแตกหักกับเฝิงหลีจริงๆ งั้นเหรอ?!”“ถ้าหากไอ้หมอนี่รักษาไม่หาย งั้นพวกเราตระกูลเฝิงจะทำยังไง?!”เผชิญหน้ากับการสอบถามของเฝิงชาง เฝิงเอ้อนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็โมโหจนทรุดนั่งลงกับพื้น“แม่งเอ๊ย แบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำให้ผมโมโหตายไปเลยเถอะ!”เมื่อเห็นว่าน้องรองของตัวเองโมโหขนาดนี้ เฝิงชางก็รู้สึกเชื่อความสามารถของหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงรีบถามว่า:“หลินเฟิง ถ้าหากคุณสามารถรักษาอวี้อู่กับหมอเทวดาเลี่ยวจนหายได
เลี่ยวจื้อหมิงอายุเยอะขนาดนี้ ถูกพวกเขาทำแบบนี้ ยังไงก็ต้องอายุสั้นลงสองปี“หลินเฟิง ผมเตือนคุณว่าทางที่ดีอย่างวู่วาม”“ยาพิษนี้แม้แต่หมอเทวดาเลี่ยวก็โดนโดยที่ไม่ระวัง ทางที่ดีนายช่างใจให้ดีเฝิงชางสีหน้าเย็นชา“หึ ไม่ฟังคำเตือนของผม ตอนนี้เสนอตัวออกมาแสร้งเป็นคนดีงั้นเหรอ?”หลินเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ อะไรต่อผู้นำตระกูลเฝิง เขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ เป็นเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ“เพียงแค่ผมช่วยเฝิงอวี้อู่ให้รอดได้ คุณก็จะบอกข่าวของหยินหลิงให้กับผมใช่ไหม?”“หยินหลิง?”ผู้นำตระกูลเฝิงนิ่งอึ้ง“ผู้นำตระกูล หยินหลิงก็คือชื่อของผู้นำตระกูลกลุ่มพันธมิตรบู๊”เฝิงเอ้อที่อยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้น“......”สีหน้าของเฝิงชางอึดอัดเล็กน้อย ในเมื่อเมื่อครู่เขาบอกตำแหน่งของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ไปแล้ว อยู่ที่เรือนด้านหลังของตระกูลเฝิงของพวกเขาคราวนี้ หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊น่าจะถูกเขาพาตัวไปแล้วเป้าหมายก็เพื่อมอบให้กับผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษต่อให้เป็นแบบนี้ เฝิงชางพยักหน้าพูดว่า:“แต่ตอนนี้บวกกับหมอเทวดาเลี่ยว ในเมื่อคุณสามารถช่วยลูกชายของผมให้รอดได้ งั้นก็ช่วยหมอเทวดาเลี่ยวด้วยคงไม่ยากใช่
“เร็ว! น้องรอง อย่ามัวแต่ยืนอยู่ รีบไปเชิญอาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยว!”“พี่ใหญ่ อาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยวเป็นยอดฝีมือคนไหนกัน เขาไม่ได้พูด พวกเราจะรู้ได้ยังไง?!”เฝิงเอ้อที่ยืนอยู่ตรงประตูก็งุนงงเช่นเดียวกันหมอเทวดาลั่วตายอยู่ที่ตระกูลเฝิงของพวกเขา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้วเฝิงเอ้อรู้ดีเช่นกัน“พี่ใหญ่ เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว พี่มอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรออกมาอย่างว่าง่ายดีกว่า แบบนี้ผมยังสามารถขอร้องให้ผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษถอนพิษให้ได้ ไม่อย่างนั้น จะไม่ทันการณ์แล้วจริงๆ!”เฝิงหลีใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์“ได้...ฉันมอบตัวให้! ฉันมอบให้!”เฝิงชางร้อนใจแล้ว ถ้าหากแค่ลูกชายของเขา งั้นเขายังสามารถสงบสติเลือกที่จะรับหรือไม่รับได้ และคิดถึงอนาคตของตระกูลแต่ชีวิตของหมอเทวดาเลี่ยงกลับไม่สามารถผิดพลาดได้หากเมื่อหมอเทวดาเลี่ยวเสียชีวิต พวกเขาตระกูลเฝิงก็จบสิ้นแล้ว“หึหึ วางใจเถอะพี่ใหญ่ มีผมอยู่ หมอเทวดาเลี่ยวกับหลานอวี้อู่ ไม่มีทางเป็นอันตรายอย่างแน่นอน”เฝิงหลียิ้มอย่างลำพองใจมากที่สุดแผนการของเขาในที่สุดก็สำเร็จแล้วต่อไป ผู้นำตระกูลของตระกูลเฝิงก็จะกลายเป็นเขาเฝิงหลีต
เฝิงอวี้อู่สงบลงแล้วแต่ตอนนี้สีหน้าของเขากลับดูแย่ลงกว่าเดิม ลมหายใจก็เปลี่ยนไปอ่อนแรง ถึงขั้นมีแต่ถอนหายใจ ไม่มีหายใจเข้าผิวทั่วตัวเริ่มคล้ำขึ้น“หมอเทวดาเลี่ยว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”เฟิงชางวิตกกังวลมากจนไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อครู่ลูกชายของเขาเพิ่งดีขึ้น มันแย่ลงอีกแล้วเหรอ?“ผมดูหน่อย!”หมอเทวดาเลี่ยวถอดเข็มเงินที่เจาะเข้าไปในเส้นลมปราณหลักของเฝิงอวี้อู่ออกโดยตรง ใส่ไว้ในมือแล้วหมุน สีหน้าก็เปลี่ยนไป“หมอเทวดาเลี่ยวเป็นอะไรเหรอครับ?”เฝิงชางขยับเข้ามาถามใกล้ๆ ส่วนเฝิงเอ้อที่อยู่ไกลออกไปกลับเหม่อลอยเล็กน้อยเพราะว่าในตอนนี้จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลินเฟิงขึ้นมาได้“อย่าลืมบอกหมอเทวาดาเลี่ยว ห้ามใช้มือสัมผัสเข็มเงินโดยตรง พิษนี้ต่อให้โดนแค่ผิวหนัง ก็ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว”“หมอเทวดาเลี่ยว!”เฟิงเอ้ออดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา“หือ?”หมอเทวดาเลี่ยวกับเฝิงชางหันหน้ามาส่วนเฟิงเอ้อยังคงยื่นมือออกไป เขาต้องการพูดสิ่งที่หลินเฟิงเตือนไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ดูไม่เหมาะสมนักหมอเทวดาเลี่ยวไม่รู้ว่ามันมีพิษเหรอ ต้องให้นายเตือนด้วย?สุดท้ายเฝิงเอ้ออ้าปาก แต่สุดท้ายก็ส่ายหน
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี