“กลับกัน พวกเราก็สามารถือโอกาส โยนความผิดไปใส่หลินเฟิงได้ ให้หว่านเอ๋อร์เกิดความรังเกียจต่อหลินเฟิง”“และทำให้พวกเรามีเหตุผลในการจัดการหลินเฟิงเพิ่มมากขึ้น”ประโยคสุดท้ายนี้ เป็นคำพูดที่ถังเจี้ยนหยวนขยับเข้าไปพูดข้างหูหญิงชราหญิงชราได้ยินคำพูดสุดท้ายของถังเจี้ยนหยวน ทันใดนั้นคิ้วที่ขมวดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก“งั้นก็ได้ เอาตามที่นายว่า!”หญิงชราพยักหน้าอย่างหนักแน่น และจึงได้ตอบตกลงหลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ เห็นการแอบกระซิบกระซาบของพวกเขา ชั่วพริบตาเดียวก็เดาออกได้ว่าคนเหล่านี้มีความคิดอะไรถึงแม้เขาจะไม่สนใจอะไร แต่ในใจก็ค่อนข้างโมโหอยู่ดีถ้าหากไม่ใช่เพราะหญิงชราไม่ให้เขาสัมผัสร่างกายกับผิวหนังของนายท่านตระกูลถัง งั้นหลินเฟิงก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการหลอกล่อคำพูดของพวกเขาด้วยซ้ำก็สามารถหาสาเหตุอาการป่วยของนายท่านตระกูลถังออกมาได้อย่างแม่นยำนายท่านตระกูลถังถูกหนอนคุณไสย นั่นคือหนอนคุณไสยเน่าเฟะชนิดหนึ่งของเมืองหนานไห่ที่ไม่นับว่าเก่งอาจมากนักหนอนคุณไสยประเภทนี้ถ้าหากถูกคนกลืนเข้าไปในท้อง ควบคู่ยาชนิดพิเศษหรือวิธีการกระตุ้น ก็สามารถทำให้ตัวอ่อนฟักไข่เป็นตัว จากนั้นวางไข่และสร้างร
ตามการคาดเดาของหลินเฟิงหลังจากที่นายท่านตระกูลถังได้รับการรักษาของตัวเองแล้ว ก็น่าจะต้องฟื้นคืนสติขึ้นมาในเวลาห้านาที แล้วขับไข่ออกจากช่องท้องเขาบอกว่าสิบนาที แต่จริง ๆแล้วก็พอมีเวลาสเหลืออยู่บ้างสุดท้ายก็ไม่มีการรับรองได้ว่าว่าร่างกายของทุกคนจะเหมือนกัน และการปิดเป็นความลับก็เป็นรูปแบบการรักษาของหลินเฟิงเช่นกันแต่เมื่อมองเวลาที่ผ่านไปสิบนาทีแล้วนายท่านตระกูลถังที่อยู่บนเตียงยังคงไม่แสดงท่าทีว่าจะฟื้นขึ้นมา แม้แต่ใบหน้าก็ยังคงเป็นสีเขียวงคล้ำเหมือนเดิม ไม่มีท่าทางจะดีขึ้นด้วยซ้ำ“หรือว่าตอนที่ฉันถามไปเมื่อครู่นั้น พวกเขาจะโกหกหลอกลวงงั้นเหรอ?” หลังจากที่หลินเฟิงตรวจดูยาที่ตัวแองถือมา ผลที่ได้จึงทำให้เขาโกรธมากถ้าหากพวกเธอโกหกหลอกลวง ถ้าอย่างนั้นความคาดเดาของหลินเฟิงเกี่ยวกับหนอนคุณไสยก็จะไม่ถูกต้อง และวิธีการที่ใช้ก็จะไม่ถูกต้องเช่นกันถ้าเป็นแบบนี้มันก็จะไม่มีผลอะไรเลยอย่างเลวร้ายที่สุด ก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตของผู้ป่วยได้ในตอนที่หลินเฟิงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา ถังเจี้ยนหยวนที่อยู่ด้านข้างก็ยกแขนของตัวเอง ขึ้นมา แล้วเหลือบมองไปที่ปาเต็กฟิลิปป์ที่บนข้อมือ ก่อนจะส
“ผมเป็นหมอน่ะถูกต้องแล้ว”หลินเฟิงยังอยากจะพยายามเป็นครั้งสุดท้าย และพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “แต่ผมไม่ใช่เทพเจ้า มันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะสรุปสาเหตุอาการป่วยของผู้ป่วยได้โดยไม่ต้องติดต่อกับเขา!” “และผมก็ไม่อาจจะรักษานายท่านของคุณได้ ในเมื่อคุณปิดบังอาการป่วยและโกหกผม!”“มีผู้หญิงแบบนี้อย่างคุณ นายท่านตระกูลถังโชคไม่ดีจริง ๆ!”คำพูดสุดท้ายของหลินเฟิงนับว่าเป็นระเบิดที่ถูกจุดชนวนแล้วเพียงแค่เห็นคุณนายตระกูลถังกระโดดขึ้นมา แล้วตรงไหนกันที่เหมือนกับหญิงชราวันเจ็ดสิบปี?ความสามารถของเธอคล่องแคล่วมาก และต้องการที่จะข่วนใบหน้าและดวงตาของหลินเฟิงด้วยเล็บของเธออย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่เอะอะโวยวายก็พูดด่าไปด้วยว่า“ไอ้สารเลว แกนับประสาอะไร ถึงได้กล้ามาด่าฉัน?! วันนี้.....วันนี้ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้!”“เจี้ยนหยวน! เรียกผู้คุ้มกันทั้งหมดของตระกูลถังเข้ามา!”“ฉันจะทำให้ไอ้สารเลวคนนี้ตายทั้งเป็น!”เมื่อเผชิญหน้ากับแม่ที่บ้าคลั่งแบบนี้ ถังเจี้ยนหยวนก็ไม่ได้ก้าวไปเพื่อห้ามปราม แต่กลับมองไปที่หลินเฟิงอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า“หลินเฟิง คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณพูดอะไรอยู่?!”“คำพูดเมื่อครู่ของคุณลองพูดอีกรอ
เขาเงยหน้าและเผชิญหน้ากับหลินเฟิง“เดี๋ยวก่อน”และในขณะนี้ หลงยวนก็ยืนขึ้นมา“ผู้นำตระกูลถัง จะจัดการกับหลินเฟิงอย่างไร พวกเราจะหารือเรื่องนี้ในภายหลัง แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกว่าศาสตราจารย์โรเบิร์ตได้เห็นทักษะทางการแพทย์แบบดั้งเดิมของประเทศมังกรที่ไร้สาระของหลินเฟิงแล้ว”“ตอนนี้ก็ควรจะให้เขาได้เปิดประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญตัวจริงได้แล้ว”หลงยวนหัวเราะเยาะ“หลังจากที่เขาได้เห็นทักษะทางการแพทย์ที่แท้จริงแล้ว ค่อยฆ่าเขาก็ไม่สายเกินไปหรอก”ผลลัพธ์นี้คือสิ่งที่หลงยวนต้องการ หากจะโจมตีก็ต้องเริ่มจากจิตใจ เริ่มลงมือจากสองด้านของสรีรวิทยาหลินเฟิงที่สูญเสียท่าทางอวดดีไปอย่างสิ้นเชิง สีหน้าไม่มีชีวิตชีวาและคุกเข่าแทบเท้าด้วยความเสียใจ“พวกคุณคุยกันจบแล้วงใช่ไหม?”ศาสตราจารย์โรเบิร์ตที่ยืนรออยู่ด้านข้างอย่างหงุดหงิด“คุยจบแล้ว เชิญศาสตราจารย์โรเบิร์ตลงมือ ช่วยเหลือพ่อของผม”หลินเฟิงที่ถูกรายล้อมไปด้วยบริวารของตระกูลถังและตระกูลหลงอยู่ไกล ๆเพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนจากบริวารตระกูลหลง จึงไม่ปฏิเสธข้อเสนอของหลงยวนอยู่แล้วดังนั้นเขาจึงมองตรงไปที่โรเบิร์ตอย่างขอร้องด้วยความจริงใจ“ฮึ ศาส
“ฮะ?!”ความผิดปกติของนายท่านตระกูลถังแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเกินความคาดหมายของศาสตราจารย์โรเบิร์ตเขาถลึงตาโต และส่ายหน้าอย่างแรงพูดว่าเป็นไปไม่ได้อยู่หลายครั้ง จากนั้นก้มหน้าเริ่มค้นหากระเป๋าถือของตัวเอง“ศาสตราจารย์โรเบิร์ต นี่...พ่อของผมเป็นอะไรไปครับ?”ถังเจี้ยนหยวนเห็นภาพนี้ จึงรีบถามขึ้น“ผมก็ไม่เคยเห็นมาก่อน นี่เป็นยาแก้พิษที่ทีมงานของเราคิดค้นขึ้นมาใหม่ล่าสุด เป็นแบบนี้ต่อไป น่าจะฆ่าพยาธิตายได้...แต่สถานการณ์แบบนี้...”โรเบิร์ตลุกลี้ลุกลนอย่างมาก เขาใช้เข็มฉีดสูบของเหลวสีเหลืองอ่อนอีกครั้งด้วยความสั่นเทา และมองไปรอบๆ จากนั้นพูดว่า:“พวกคุณ เร็ว...ใครก็ได้มาช่วยผมกดผู้ป่วยเอาไว้!”ได้ยินเสียงตะโกนของศาสตราจารย์โรเบิร์ต ถังเจี้ยนหยวนรีบเรียกบริวารตระกูลถังสองสามคนที่เพิ่งล้อมหลินเฟิงเอาไว้เมื่อครู่ ให้พวกเขาจับนายท่านที่คลุ้มคลั่งกดไว้บนเตียง“จับให้ดีล่ะ!”ศาสตราจารย์โรเบิร์ตลูบเหงื่อที่อยู่บนศีรษะ และฉีดของเหลวสีเหลืองอ่อนเข้าไปในหลอดเลือดของนายท่านตระกูลถัง“เอื๊อก...”ในที่สุดนายท่านตระกูลถังก็สงบลงแล้วเขาไม่สั่นเทาและกระตุกอีกแล้ว เลือดสีดำที่ไหลออกจากปากไม่หยุดก็
“ย้าก!”หลินเฟิงตบไปที่หน้าอกของนายท่านตระกูลถังเห็นเพียงแค่เลือดสีดำคล้ำพุ่งออกมาจากรูเล็กๆ เหมือนน้ำพุที่เกิดจากการแทงของเข็มเงิน“อ๊ากกกกก!”เสียงร้องอนาถของนายท่านตระกูลถัง ค่อยๆ ผ่อนคลายลง หลังจากที่เลือดสีดำคล้ำไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ “ยาของคุณมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย เกิดปฏิกิริยากับหนอนคุณไสยที่อยู่ภายในตัว ตอนนี้หนอนคุณไสยฟักตัว และมุดเข้าไปในตับไตไส้พุงของนายท่านตระกูลถังแล้วหลินเฟิงมองศาสตราจารย์โรเบิร์ตด้วยสีหน้านิ่งเฉยส่วนคำพูดเรียบเฉยของหลินเฟิงทำให้ศาสตราจารย์โรเบิร์ตตั้งตัวกลับมาได้ เขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความเหลือเชื่อ:“คุณทำไมถึงได้...”“การพัฒนาของวิชาแพทย์ต่างประเทศผมก็เคยเรียนมาไม่น้อย เพียงแต่ในตอนปกติขี้เกียจจะใช้ เพราะผลลัพธ์ไม่ดีเท่าการแพทย์ดั้งเดิมของประเทศมังกร”หลินเฟิงพูดอย่างเรียบง่ายประโยคหนึ่งหลังจากที่เลือดตรงหน้าอกของนายท่านตระกูลถังค่อยๆ เปลี่ยไปเป็นสีแดงหลินเฟิงยื่นมือออกมา และกดลงไปสองครั้งเพื่อผนึกจุดฝังเข็มที่มีเลือดออกมา จากนั้นเขาก็ใช้ฝ่ามือเมฆากดไปที่ท้องของนายท่านตระกูลถัง และตะโกนออกมา“พรวด!”คุณท่านตระกูลถังเงยหน้าขึ้นพ
“แฮ่มแฮ่มแฮ่ม...”หลังจากที่หลินเฟิงพูดจบได้ไม่นาน ในที่สุดนายท่านตระกูลถังก็ดิ้นรนฟื้นขึ้นมา เขาลืมตาขึ้น และกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความงุนงง“คุณพ่อ!”“ตาเฒ่า!”เห็นนายท่านตระกูลถังฟื้นขึ้นมา ถังเจี้ยนหยวนกับหญิงชราต่างก็เผยสีหน้าประหลาดใจเป็นอย่างมากออกมาส่วนหลงยวนที่อยู่ด้านข้าง หนังหน้ากลับกระตุก สีหน้าแย่อย่างถึงที่สุด“หึ”เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ส่งเสียงไม่พอใจ และพาลูกน้องของตระกูลหลงออกจากห้องนอนไปโดยตรง“เดี๋ยวก่อน คุณชายหลงยวน...”เมื่อเห็นหลงยวนจากไปด้วยความโมโห ถังเจิ้งเฉินที่เพิ่งจะเข้าประตูมานิ่งอึ้งครู่หนึ่ง ได้ยินเสียงของพี่ใหญ่ของตัวเอง“เจิ้งเฉิน รีบไปขวางคุณชายตระกูลหลงเอาไว้ ครั้งนี้โชคดีที่มีคุณชายหลง ถ้าหากไม่ใช่ว่าคุณชายหลงพาศาสตราจารย์โรเบิร์ตมา พ่อของเรายังไมรู้ว่าจะได้รับความทรมานที่มากมายแค่ไหน!”ถังเจิ้งเฉินไม่ได้พูดอะไร เขาเหลือบมองหลินเฟิง และรีบตามหลงยวนที่เดินจากไป จากนั้นก็ยิ้มแหยไปด้วย และพูดขอให้อยู่ต่อไปด้วยแต่ทว่าศาสตราจารย์โรเบิร์ตที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้ตามหลงยวนออกไป เขามองไปทางถังเจี้ยนหยวนด้วยความงุนงงและพูดว่า:“ผู้นำตระกูลถัง คุณ
“ตอนนี้ผมหวังว่าคุณจะสามารถทำตามที่เดิมพันกับผม ให้ผมได้เจอกับถังหว่านสักครั้ง”“ไม่ได้!”ถังเจี้ยนหยวนกับหญิงชราตะโกนออกมาเสียงดังแทบจะในขณะเดียวกันเห็นได้ชัดว่านายท่านตระกูลถังที่อยู่บนเตียงยังงุนงงกับสถานการณ์อยู่“คนผู้นี้คือ…”นายท่านตระกูลถังถูกประคองขึ้นมา และมองไปทางหลินเฟิงด้วยความอ่อนแอ“นี่คือผู้มีพระคุณของคุณครับ”คิดไม่ถึงว่าคนที่พูดแทนหลินเฟิงในตอนนี้ จะเป็นศาสตราจารย์โรเบิร์ต เขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความเลื่อมใส จากนั้นประสานมือที่เป็นมารยาทไปทางหลินเฟิง ใช้น้ำเสียงที่กระอักกระอ่วน แต่ชัดเจนเป็นอย่างมากพูดว่า:“ถึงแม้ผมไม่รู้ว่าตระกูลของพวกคุณมีปัญหาอะไรกันแน่”“พวกคุณเล่นงานหมอหลินทุกทาง แต่หมอหลินยังคงรักษาผู้ป่วยจนหายโดยที่ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องก่อนหน้านี้”“หมอหลินเป็นแพทย์แผนโบราณประเทศมังกรที่ลึกลับ แข็งแกร่ง น่าเชื่อถือและซื่อสัตย์มากที่สุดที่ผมเคยเจอมา“คุณเปลี่ยนแปลงความคิดที่ผมมีต่อการแพทย์แผนโบราณของประเทศมังกรมองดูสายตาที่เต็มไปด้วยความเลื่อมใสของของศาสตราจารย์โรเบิร์ต ในใจของหลินเฟิงก็มีความรู้สึกที่ดีต่อหมอต่างชาติคนนี้เป็นอย่างมากในช่วงน
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ
“ตอนนี้ ฉันถามพวกนายตอบ”หลินเฟิงค่อยๆ เดินเข้าไปหาจวงฉุน เหยียดมองลงที่ชายผู้ล้มอยู่บนพื้น และตกใจจนหน้าซีดเผือด“คุณ...คุณว่ามาครับ คุณว่า...ผม...ผมจะบอกคุณทุกอย่าง”จวงฉุนในตอนนี้รู้สึกกลัวจนสติแตก ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่“เมื่อวาน อุปกรณ์ไฮเอนด์ล็อตหนึ่งของหลี่ซื่อกรุ๊ป ถูกคนขโมยและทำลายระหว่างทาง...”“เป็นฝีมือพวกผม!”เมื่อจวงฉุนได้ยินเช่นนี้ น้ำตาก็เริ่มไหลออกมา รีบยอมรับทันทีเขากราบหลินเฟิงไม่หยุดและพูดว่า:“ขอโทษครับคุณหลิน เรื่องนี้พวกเราเป็นคนทำจริงๆ แต่เราแค่ถูกใช้เป็นปืนเท่านั้น! หลงซิ่วจากตระกูลหลงสั่งให้พวกเราทำ เขาสั่งให้พวกเราทำ พวกเราก็ไม่กล้าขัดคำสั่งนะครับ!”การได้ยินคำวิงวอนของจวงฉุนซึ่งแทบจะเป็นเหมือนการขอความเมตตาเริ่นโหย่วไฉที่อยู่ข้างๆ ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอต้องรู้ไว้ว่า ผู้ชายคนนี้เคยคุยโม้กับเขามาก่อนว่า เขาทำได้ดีแค่ไหนและเผาผลาญมันได้คล่องแคล่วแค่ไหนท่าทางหยิ่งยโส มีท่าทางเหมือน “ถูกบังคับ” ที่ไหนกัน?แต่ตอนนี้เริ่นโหย่วไฉไม่กล้าที่จะพูดอะไรเกรงว่าจะเดินตามรอยของสวีโจวการตายแบบนี้ มันน่าหวาดกลัวมากเกินไป ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ
“พวกเราไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋ออีกต่อไป!”“ทุกคนฟังคำสั่งของฉัน ลุย!”คำสั่งของจวงฉุนมีน้ำหนักมากกว่าคำสั่งของสวีโจวอย่างเห็นได้ชัดไม่ใช่แค่เพราะเงื่อนไขที่จวงฉุนเสนอมาดึงดูดพวกเขามากเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะพวกเขาไม่เคยรู้ถึงความสามารถของหลินเฟิงว่าเป็นอย่างไรกันแน่คนธรรมดาหลายคนรวมกันอาจเปรียบเป็นขงเบ้งได้ในความคิดของพวกเขา ความสามารถของหลินเฟิงเป็นอย่างไรกันแน่ พวกเขาก็มองไม่เห็นแต่สิ่งที่เป็นความจริงคือพวกเขากลับสามารถมองเห็นข้อได้เปรียบของพวกเขาจากจำนวนคนบวกกับพลังอำนาจของหลงซิ่วด้วยหลังจากครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ที่เดิม นักบู๊ตระกูลหลงประมาณสิบกว่าคนในที่สุดก็ตัดสินใจได้แล้ว และล้อมรอบหลินเฟิงเอาไว้ทีละคนวันนี้สู้ดูสักตั้งถ้าไม่สำเร็จก็ต้องตาย!"แม่งเอ๊ย จวงฉุนไอ้สารเลวตัวน้อย!"ในที่เกิดเหตุมีเพียงสวีโจวเท่านั้น ที่รู้ว่าการปิดล้อมครั้งนี้เป็นการไปตายโดยที่ไม่ต้องคิดด้วยซ้ำเขาเกลียดจวงฉุนมาก จนถึงขั้นมีความคิดอยากฆ่าเขาด้วยซ้ำแต่ทว่าจวงฉุนกลับแสยะยิ้มมองดูสวีโจว และพูดอย่างเย็นชา:“สวีโจว อย่าทำเป็นเสแสร้งอยู่ตรงนี้ รอให้ภารกิจในครั้งน
"อะ......"จางฉุนไม่เข้าใจว่าหลินเฟิงกำลังพูดอะไร เขาพาคนเหล่านี้มาที่นี่ เป้าหมายเพียงเพื่อจับตัวอิ่นนั่วเจียไปเขารู้ว่าหลินเฟิงเป็นนักบู๊และจัดการยากสักหน่อยเพราะงั้นถึงเรียกคนของตัวเองมาแต่อะไรที่เรียกว่า “พาผู้กระทำความผิดมาตรงหน้าเขาโดยตรง” ?ในตอนนี้เอง สวีโจวที่อยู่ไกลออกไปก็คำรามออกมาอย่างกะทันหัน“นาย... ฉันจำได้ นายคือหลินเฟิง! นายคือ... นายคือคนของหลี่ซื่อกรุ๊ป! หลินเฟิงหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป!”"อะไรนะ?"เมื่อได้ยินชื่อนี้ จางฉุนก็หันหน้ามองไปที่หลินเฟิงด้วยสีหน้าที่น่าเหลือเชื่อเพราะเขาเคยได้ยินชื่อหลินเฟิงเขาได้ยินมาจากหลงซิ่วว่า ข้อห้ามประการเดียวในการปฏิบัติการครั้งนี้คือการปะทะกับหลินเฟิงตัวซวยคนนี้หลงซิ่วเตือนจางฉุนซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ระวังหลินเฟิงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะพัฒนาไปเกินความคาดหมายของเขา“โอ้? ดูท่าพวกคุณจะรู้จักผม”หลินเฟิงเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มจากนั้นรัศมีแห่งความหวาดกลัวก็ค่อยๆ แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา อุณหภูมิทั่วทั้งห้องทำงานก็ลดลงมากกว่าสิบองศาในพริบตาเดียวแม้แต่ชาที่มีไอร้อนลอยออกมาเมื่อครู่นี้บนโต๊ะ
“บ้าเอ๊ย ทนไม่ไหวแล้ว!”จวงฉุนรีบถีบประตูห้องทำงานของหัวหน้าโรงงานทันทีสิ่งแรกที่เขาเห็นคือเริ่นโหย่วไฉที่เหงื่อไหลท่วมตัวและยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่เขลาและอิ่นนั่วเจียผู้มีเสน่ห์กำลังนั่งอยู่บนโซฟา“อิอิอิ…”จวงฉุนเลียริมฝีปากและเผยรอยยิ้มหื่นกามออกมาทันทีตอนนี้เขาโยนคำพูดของเริ่นโหย่วไฉไปไกลโพ้นทันที เพียงแค่จ้องมองไปที่หุบเขาที่คอเสื้อของอิ่นนั่วเจียแล้วแสยะยิ้มพูดว่า:“คุณอิ่นนั่วเจีย ผมมารับคุณแล้ว”"โอ้?"ใครจะไปรู้ว่ารอยยิ้มของจวงฉุนไม่ได้ทำให้อิ่นนั่วเจียตกใจหรืองุนงง เธอยิ้มให้จวงฉุนแล้วพูดว่า:"ฉันรอคุณมานานแล้ว""รอผม?"จวงฉุนตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ที่แท้คุณหญิงอิ่นนั่วเจียก็สนใจผมด้วย ดังนั้นการเตรียมการทั้งหมดนี้เกินความจำเป็นไปแล้ว!”ขณะที่จวงฉุนกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สวีโจวที่เดินเข้ามาเห็นอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้เถ้าแก่ในห้องทำงาน สีหน้าของเขาดูตกตะลึงเล็กน้อย“พี่สวี มีอะไรหรือเปล่า?”นักบู๊ตระกูลหลงที่อยู่ด้านหลังเขาเห็นท่าทางแปลกๆ ของสวีโจว จึงรีบถามแต่สวีโจวกลับไม่สนใจคนข้างหลังเขา กลับก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขน