"อ๊ะ?"เมื่อหมอเทวดาเลี่ยวพูดในสิ่งที่หลินเฟิงบอกให้เขาถ่ายทอด คนของบ้านตระกูลถังก็ดูงุนงงไปหมด"อาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยวนามสกุลหลิน เราในตระกูลถังไม่รู้จักหมอชื่อหลินสักคนเดียว โดยเฉพาะที่อยู่ในประเทศมังกร..."ถังเจิ้งเฉิน น้องชายของถังเจี้ยนหยวน และเป็นอาของถังหว่าน แสดงสีหน้างุนงง"ยังไงก็ตาม คุณพ่อป่วยหนัก เราจำเป็นต้องหาทางแก้ไข"ถังเจี้ยนหยวนพูดอย่างจริงจัง"รีบไปตรวจสอบดูว่ามีใครในครอบครัวรู้จักหมอแซ่หลินหรือไม่ ใช่แล้ว หมอเทวดาเลี่ยว ขออภัยที่ถาม ชื่อเต็มของอาจารย์คุณคืออะไร?""หลินเฟิง"หมอเทวดาเลี่ยวตอบอย่างตรงไปตรงมา"ดี ไปสืบค้นดูว่าใครชื่อหลินเฟิง... เดี๋ยวก่อน หลินเฟิง? หรือว่า..."ถังเจี้ยนหยวนเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ มองไปทางหมอเทวดาเลี่ยวด้วยความไม่แน่ใจแล้วถามว่า:"หลินเฟิงที่คุณพูดถึง เป็นหนุ่มจากเจียงโจวใช่ไหม?""ผมไม่รู้ว่าเขามาจากเจียงโจวหรือเปล่า แต่เขาเป็นคนหนุ่มแน่นอน"หมอเทวดาเลี่ยวพยักหน้า"อะไรนะ?! คนที่คุณพูดถึงคือหลินเฟิงคนนั้นเหรอ?!"เธอคืออู๋เยว่เซี๋ย"ไม่ได้!""ฉันคัดค้าน ไม่ให้เด็กคนนั้นมารักษาคุณพ่อเด็ดขาด เขาจะต้องไม่รักษาด้วยค
"ผมจะไปขอร้องเขาด้วยตัวเอง เพื่อให้เขาวางมือลาจากถังหว่าน ตระกูลถังจะให้ค่าตอบแทน""อีกทั้งยังขอให้เขาช่วยรักษาคุณพ่อด้วย"คำพูดของถังเจี้ยนหยวนทำให้อู๋เยว่เซี๋ยที่อยู่ข้างๆ ร้อนรน"ไม่ได้! ฉันจะไม่ยอมเด็ดขาด"อู๋เยว่เซี๋ยพูดอย่างหนักแน่น"เจี้ยนหยวน คุณไม่รู้หรือว่าเจ้าเด็กนั่นหยิ่งยโสขนาดไหน การให้เขาละถังหว่านไป คงยากยิ่งกว่าปีนฟ้า""หากคุณลดตัวเองไปขอร้องเขา เขาไม่เพียงแต่ไม่มีความรู้คุณ ยังอาจจะทำตัวหยิ่งผยองใส่อีก!""พี่ใหญ่"ถังเจิ้งเฉินพูดขึ้นมา"ทำไมเราไม่เรียกคนไปจับตัวเขามา บังคับให้เขารักษาคุณพ่อล่ะ?""ไร้สาระ!"ถังเจี้ยนหยวนที่มีอายุเกือบหกสิบพูดตำหนิน้องชายของเขาอย่างเข้มงวด"ตั้งแต่โบราณมาแล้วเคยมีที่ไหนที่บังคับหมอให้รักษาด้วยเล่า? ไม่ต้องห่วง ผมได้เตรียมค่าตอบแทนอย่างเพียงพอสำหรับเขาแล้ว""ตระกูลถังอาจต้องเสียสละบ้างในครั้งนี้ แต่ตราบใดที่คุณพ่อของเรารอดชีวิต ทุกอย่างยังสามารถเจรจาได้""เขาจะต้องสนใจแน่นอน"ถังเจี้ยนหยวนลูบหนวดแล้วยิ้ม"หวังว่าเจ้าหนุ่มนั้นจะรู้จักสถานการณ์นะ"ถังเจิ้งเฉินถอนหายใจ เมื่อพูดถึงถังหว่าน พวกเขาต่างมีความรู้สึกผิดในใจถังห
"หึหึ"ถังเจี้ยนหยวนแสนจะอ่อนโยน ยิ้มบาง ๆ แล้วพูดว่า"ยังไงก็ตาม ตระกูลถังของเราเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของประเทศมังกร ค่าตอบแทนที่ให้ไม่ขี้เหนียวแน่นอน""นั่นก็ไม่แน่"หลินเฟิงหัวเราะเยาะ"นั่นคือหลินเฟิง?"ในขณะนั้นเอง ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา หัวหน้ากลุ่มคือถังเจิ้งเฉิน น้องชายคนที่สามของถังเจี้ยนหยวนและเป็นอาของถังหว่าน"เจิ้งเฉิน ผมไม่ได้บอกคุณแล้วเหรอว่าไม่ต้องตามมา?"ถังเจี้ยนหยวนขมวดคิ้ว จากนั้นเขาหันไปมองหลานเฟยข้าง ๆ ขมวดคิ้วแล้วถาม "หลานเฟย หรือว่าคุณเป็นคนบอกตำแหน่งให้เจิ้งเฉินรู้?""ฉัน..."หลานเฟยต้องการจะแก้ต่างอะไรบางอย่าง แต่บุคคลสำคัญเหล่านี้ยากที่จะหลอกลวงได้ เธอจึงได้แค่ก้มหัว ยอมรับกลาย ๆ"หึ เขานี่เหรอคืออาจารย์ที่หมอเทวดาเลี่ยวพูดถึง? หนุ่มขนาดนี้? หลานเฟย เธอจะไม่หลอกผมอยู่ใช่ไหม?"ถังเจิ้งเฉินมองหลินเฟิงแวบหนึ่งแล้วหันไปมองหลานเฟยด้วยความสงสัย"คุณหลินเฟิงมีฝีมือการแพทย์...หาที่เปรียบไม่ได้ ฉันไม่ได้โกหกเลย"หลานเฟยพยักหน้าอย่างระมัดระวัง"หึ ไอ้หนุ่ม"ถังเจิ้งเฉินก้าวเข้ามาข้างหน้า โดยมีผู้คุ้มกันของตระกูลถังจำนวนมากอยู่เบื้องหลัง รวมถึงหนึ่
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ หลินเฟิงก็หัวเราะเยาะออกมาแล้วพูดว่า"ดี ดี ดี คนหนึ่งทำหน้าดี อีกคนทำหน้าร้ายใช่ไหม""ไปให้พ้น"หลินเฟิงโบกมือเบาๆ อย่างเกียจคร้าน แล้วพูดว่า"ด้วยท่าทีของพวกคุณ คุณปู่ตระกูลถังตายไปก็ไม่เสียเปล่า ผมแนะนำให้คุณประหยัดแรงกลับไปจัดการเรื่องงานศพเถอะ""เรื่องนี้ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว""ว่าแต่"หลินเฟิงเดินกลับไปที่ห้องใต้หลังคา แต่ก็หยุดมองถังเจี้ยนหยวนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ในวันงานเลี้ยงประจำปีของพวกคุณ ผมจะไปเยี่ยม ถ้าผมรู้ว่าถังหว่านไม่ได้ต้องการแต่งงานกับตระกูลหลงอย่างจริงใจล่ะก็ หึ..."พูดจบ หลินเฟิงก็ปิดประตูเสียงดัง ทิ้งถังเจี้ยนหยวนและอาอวี๋ยืนอึ้งอยู่ที่เดิม"ท่านประมุขตระกูลถัง นี้..."อาอวี๋ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี ถึงแม้ว่าถังเจี้ยนหยวนจะเป็นคนที่เขาไม่กล้าหือ แต่หลินเฟิงก็ไม่ใช่คนที่เขาจะละเมิดได้เขาตกอยู่ระหว่างกลาง ทำอะไรไม่ถูกถังเจี้ยนหยวนยืนนิ่ง ขบกรามแน่น สีหน้าสลับไปมาระหว่างโกรธและขาวซีด ขณะที่เขากำลังจะระเบิดอารมณ์ หลานเฟยก็เดินออกมา"ท่านประมุขตระกูลถัง ให้ฉันลองพูดกับคุณหลินเฟิงดูนะคะ""คุณ?"ถังเจี้ยนหยวนอึ้งไปครู่หนึ่ง "คุณม
"พี่ใหญ่ เป็นไงบ้าง?"ถังเจิ้งเฉินรีบเดินเข้าไปถามเมื่อเห็นถังเจี้ยนหยวนเดินออกมาจากบ้านของอาอวี๋"หึ ยังต้องถามอีกเหรอ? เจ้าเด็กนั่นก็ต้องไม่ตกลงแน่นอน"อู๋เยว่เซี๋ยที่ยืนข้างๆ พูดอย่างเหน็บแนมว่า:"เพราะงั้นฉันถึงบอกว่าจุดเริ่มต้นพวกเราก็ทำผิดแล้ว ควรร่วมมือกับตระกูลหลง เรียกยอดฝีมือมาแล้วจับเจ้านั่นมัดไว้ที่เตียงของคุณปู่ตระกูลถัง""ถ้าเขาไม่รักษา ก็หักแขนเขาเสีย!""พี่สะใภ้ พูดน้อยๆ หน่อยเถอะ!"ถังเจิ้งเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นสีหน้าของพี่ชายไม่ดี รีบหยุดอย่างไม่สบอารมณ์ถ้าไม่ใช่เพราะเธอทำเสียงเอะอะบอกให้เขาตามมาด้วย เรื่องก็คงไม่ยุ่งยากขนาดนี้"แล้วไงล่ะ? ฉันพูดผิดตรงไหน?"อู๋เยว่เซี๋ยเท้าสะเอวพูดว่า:"เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้ ดูเหมือนเราต้องใช้กำลังแล้ว ถ้าจากไปแบบเงียบๆ แบบนี้ คุณจะให้คนอื่นมองตระกูลถังของเราอย่างไร?!""เพียะ!"ในขณะที่อู๋เยว่เซี๋ยยกคิ้วขึ้นและน้ำลายกระเด็น ถังเจี้ยนหยวนก็สุดจะทน ยกมือขึ้นแล้วตบหน้าของอู๋เยว่เซี๋ยด้วยเสียงดัง"อ๊า!"อู๋เยว่เซี๋ยทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เธอเอามือปิดหน้าของตัวเอง มองถังเจี้ยนหยวนด้วยความไม่เชื่อ พร้อมทั้งหยิบผ้าเช็ดหน้าช
"ในเมื่อเป็นแบบนี้..."ถังเจิ้งเฉินสูดหายใจลึก แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "วิธีของพี่ใหญ่ไม่ได้ผล งั้นผมคงต้องใช้กำลัง!""ถูกต้อง!"อู๋เยว่เซี๋ยดีใจแล้วพูดว่า "ถ้าไม่ได้ผลจริง ๆ ก็ลองสืบเรื่องราวเบื้องหลังของเด็กนี่แล้วจับตัวประกันมาสิ ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะไม่ยอมก้มหัวให้!""พวกเราตระกูลถังแห่งประเทศมังกร จะมาเสียเวลากับคนประเภทนี้ทำไม?"หลังจากพยักหน้า ถังเจิ้งเฉินก็นำคนบุกเข้าไปในบ้านของอาอวี๋"หลินเฟิง!"ยืนอยู่ในลานบ้าน ถังเจิ้งเฉินพูดด้วยสีหน้าเย็นชา"พี่ใหญ่ของผมเพิ่งพยายามพูดกับคุณดี ๆ แต่คุณกลับไม่ใส่ใจ คิดว่าตระกูลถังของเราเป็นลูกส้มง่าย ๆ ที่ใครก็มาเด็ดหรือยังไง?!""วันนี้คุณต้องรักษาพ่อของผม ไม่งั้นอย่าหาว่าผมจะส่งคนไปจับตัวประกันที่เจียงโจวนะ!"เมื่อได้ยินคำพูดของถังเจิ้งเฉิน หลินเฟิงภายในบ้านก็โกรธขึ้นมาทันทีจุดอ่อนที่สุดของเขาคือคนรอบข้างหากตระกูลถังกล้าแตะต้องหลี่ฮุ่ยหรานและคนอื่น ๆ หลินเฟิงก็ไม่ลังเลที่จะถอนรากถอนโคนตระกูลถังนี้แม้แต่ในเมื่อต้องไม่สนหน้าถังหว่านก็ตาม"ปัง!"พร้อมกับเสียงดังสนั่น ประตูห้องบนชั้นลอยก็แตกเป็นเสี่ยง ๆหลินเฟิงเดินออกมาจากข้
“เห็นแก่หน้าของถังหว่าน ฉันจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย”หลินเฟิงหรี่ตาและตะโกนออกไปว่า:“รีบหายไปจากสายตาของผมซะ! ไม่อย่างนั้น... พวกคุณทั้งหมดจะต้องตายที่นี่!”“หลินเฟิง คุณอวดดีเกินไปแล้ว!”ถังเจิ้งเฉินพูดด้วยสีหน้าโกรธว่า“คุณคิดว่า คุณจะสามารถเอาชนะตระกูลถังของพวกเราได้ด้วยตัวเองจริง ๆงั้นเหรอ?”“เฮ้อ”เมื่อได้ยินถังเจิ้งเฉินยังคงพูดข่มขู่อยู่ หลินเฟิงก็ถอนหายใจเบา ๆแล้วเงยหน้าขึ้นทันที“เป็นพวกคุณที่หาเรื่องตายเองนะ ผมให้โอกาสกับคุณแล้ว!”หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งตัวของหลินเฟิงก็กลายเป็นพายุโหมกระหน่ำในทันที“อะไรนะ?!”ถังเจิ้งเฉินยังไม่ทันที่จะตอบโต้กลับ หลินเฟิงก็ไปปรากฏที่ด้านหน้าของเขาและใช้นิ้วแตะที่หน้าผาก“นิ้วสวรรค์พังทลาย”หลินเฟิงขยับริมฝีปากเล็กน้อยและหรี่ตาลง“ท่านสาม ระวัง!”ทันใดนั้นยอดฝีมือแดนแปรภาพของตระกูลถังที่อยู่ด้านข้างก็ผลักถังเจิ้งเฉินออกไป จากนั้นพลังชี่ที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดจากปลายนิ้วของหลินเฟิงในทันที“ตูม!”ด้วยพลังชี่แท้ที่ระเบิดออกมามีลักษณะคล้ายกับมังกรหรือเสืออย่างคลุมเครือยอดฝีมือแดนแปรภาพของตระกูลถังที่ผลักถังเจิ้งเฉินออกไป คาด
“ให้ตายเถอะ อู๋เยว่เซี๋ย ไม่แปลกใจเลยที่พี่ใหญ่จะโกรธขนาดนี้....”ถังเจิ้งเฉินหลับตาลง ในใจเกิดความเสียใจอย่างไม่มีสื้นสุด“ปกป้องท่านสาม!”ผู้คุ้มกันตระกูลถังที่อยู่โดยรอบกลับมามีรู้สึกตัว ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย สุดท้ายเพียงแค่หลินเฟิงก้าวออกไป พลังชี่แท้ที่น่าสะพรึงกลัวก็ทะลักออกมาตามพื้นดินและพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทางผู้คุ้มกันพวกนี้ก็เดินเซไปเซมาพร้อมกับส่งเสียงร้องทันทีถังเจิ้งเฉินมองไปเขาพบว่าผู้คุ้มกันส่วนใหญ่ของตระกูลถังถูกหลินเฟิงหักขาทั้งสองข้างในครั้งเดียว ก่อนที่ทั้งหมดจะนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นลำส่งเสียงร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว “จบแล้ว....จบสิ้นทุกอย่างแล้ว....”ถังเจิ้งเฉินหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง“คุณหลินเฟิง! ได้โปรด.....ได้โปรดหยุดเถอะ!”ในเวลานี้ เสียงของหลานเฟยก็ดังขึ้นมาด้านข้างทันที“หืม? หลานเฟย?”ถังเจิ้งเฉินมองดูไปด้วยความประหลาดใจ หลานเฟยที่ถือโทรศัพท์อยู่ วิ่งตรงไปที่หลินเฟิง โดยไม่สนใจผู้คุ้มกันตระกูลถังที่พิการและส่งเสียงกรีดร้องอยู่โดยรอบ“หลานเฟน หนีเร็ว ไปบอกพี่ใหญ่...”“แก้แค้นให้ฉันด้วย” คำไม่กี่คำนี้ติดอยู่ในลำคอของถังเจิ้งเ
ได้ยินการวิเคราะห์ของหลินเฟิง เฝิงเอ้อกับเฝิงชางถลึงตาโตทันที“เฝิงหลี?!”หรือว่าเมื่อครู่เฝิงหลีถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้สังเกต วางยาพิษเฝิงอวี้อู่เป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?!ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวเพิ่งรักษาจนดีขึ้นเล็กน้อย ก็ได้อาการหนักขึ้นทันที ?“ไอ้สารเลว ผมจะไปจับตัวเขามาถามเดี๋ยวนี้!”เฝิงเอ้ออารมณ์ร้อน ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหทันที“หยุดก่อน!”เฝิงชางกลับตะโกนเสียงดัง จ้องมองเฝิงเอ้อแล้วพูดว่า:“หรือว่านายอยากให้ตระกูลเฝิงของเราตายงั้นเหรอ?”“ไม่พูดก่อนว่านี่เป็นคำพูดของไอ้หมอนี่ฝ่ายเดียว ต่อให้ไอ้หนุ่มคนนี้พูดจริง หรือว่าพวกเราจะแตกหักกับเฝิงหลีจริงๆ งั้นเหรอ?!”“ถ้าหากไอ้หมอนี่รักษาไม่หาย งั้นพวกเราตระกูลเฝิงจะทำยังไง?!”เผชิญหน้ากับการสอบถามของเฝิงชาง เฝิงเอ้อนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็โมโหจนทรุดนั่งลงกับพื้น“แม่งเอ๊ย แบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำให้ผมโมโหตายไปเลยเถอะ!”เมื่อเห็นว่าน้องรองของตัวเองโมโหขนาดนี้ เฝิงชางก็รู้สึกเชื่อความสามารถของหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงรีบถามว่า:“หลินเฟิง ถ้าหากคุณสามารถรักษาอวี้อู่กับหมอเทวดาเลี่ยวจนหายได
เลี่ยวจื้อหมิงอายุเยอะขนาดนี้ ถูกพวกเขาทำแบบนี้ ยังไงก็ต้องอายุสั้นลงสองปี“หลินเฟิง ผมเตือนคุณว่าทางที่ดีอย่างวู่วาม”“ยาพิษนี้แม้แต่หมอเทวดาเลี่ยวก็โดนโดยที่ไม่ระวัง ทางที่ดีนายช่างใจให้ดีเฝิงชางสีหน้าเย็นชา“หึ ไม่ฟังคำเตือนของผม ตอนนี้เสนอตัวออกมาแสร้งเป็นคนดีงั้นเหรอ?”หลินเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ อะไรต่อผู้นำตระกูลเฝิง เขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ เป็นเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ“เพียงแค่ผมช่วยเฝิงอวี้อู่ให้รอดได้ คุณก็จะบอกข่าวของหยินหลิงให้กับผมใช่ไหม?”“หยินหลิง?”ผู้นำตระกูลเฝิงนิ่งอึ้ง“ผู้นำตระกูล หยินหลิงก็คือชื่อของผู้นำตระกูลกลุ่มพันธมิตรบู๊”เฝิงเอ้อที่อยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้น“......”สีหน้าของเฝิงชางอึดอัดเล็กน้อย ในเมื่อเมื่อครู่เขาบอกตำแหน่งของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ไปแล้ว อยู่ที่เรือนด้านหลังของตระกูลเฝิงของพวกเขาคราวนี้ หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊น่าจะถูกเขาพาตัวไปแล้วเป้าหมายก็เพื่อมอบให้กับผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษต่อให้เป็นแบบนี้ เฝิงชางพยักหน้าพูดว่า:“แต่ตอนนี้บวกกับหมอเทวดาเลี่ยว ในเมื่อคุณสามารถช่วยลูกชายของผมให้รอดได้ งั้นก็ช่วยหมอเทวดาเลี่ยวด้วยคงไม่ยากใช่
“เร็ว! น้องรอง อย่ามัวแต่ยืนอยู่ รีบไปเชิญอาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยว!”“พี่ใหญ่ อาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยวเป็นยอดฝีมือคนไหนกัน เขาไม่ได้พูด พวกเราจะรู้ได้ยังไง?!”เฝิงเอ้อที่ยืนอยู่ตรงประตูก็งุนงงเช่นเดียวกันหมอเทวดาลั่วตายอยู่ที่ตระกูลเฝิงของพวกเขา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้วเฝิงเอ้อรู้ดีเช่นกัน“พี่ใหญ่ เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว พี่มอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรออกมาอย่างว่าง่ายดีกว่า แบบนี้ผมยังสามารถขอร้องให้ผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษถอนพิษให้ได้ ไม่อย่างนั้น จะไม่ทันการณ์แล้วจริงๆ!”เฝิงหลีใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์“ได้...ฉันมอบตัวให้! ฉันมอบให้!”เฝิงชางร้อนใจแล้ว ถ้าหากแค่ลูกชายของเขา งั้นเขายังสามารถสงบสติเลือกที่จะรับหรือไม่รับได้ และคิดถึงอนาคตของตระกูลแต่ชีวิตของหมอเทวดาเลี่ยงกลับไม่สามารถผิดพลาดได้หากเมื่อหมอเทวดาเลี่ยวเสียชีวิต พวกเขาตระกูลเฝิงก็จบสิ้นแล้ว“หึหึ วางใจเถอะพี่ใหญ่ มีผมอยู่ หมอเทวดาเลี่ยวกับหลานอวี้อู่ ไม่มีทางเป็นอันตรายอย่างแน่นอน”เฝิงหลียิ้มอย่างลำพองใจมากที่สุดแผนการของเขาในที่สุดก็สำเร็จแล้วต่อไป ผู้นำตระกูลของตระกูลเฝิงก็จะกลายเป็นเขาเฝิงหลีต
เฝิงอวี้อู่สงบลงแล้วแต่ตอนนี้สีหน้าของเขากลับดูแย่ลงกว่าเดิม ลมหายใจก็เปลี่ยนไปอ่อนแรง ถึงขั้นมีแต่ถอนหายใจ ไม่มีหายใจเข้าผิวทั่วตัวเริ่มคล้ำขึ้น“หมอเทวดาเลี่ยว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”เฟิงชางวิตกกังวลมากจนไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อครู่ลูกชายของเขาเพิ่งดีขึ้น มันแย่ลงอีกแล้วเหรอ?“ผมดูหน่อย!”หมอเทวดาเลี่ยวถอดเข็มเงินที่เจาะเข้าไปในเส้นลมปราณหลักของเฝิงอวี้อู่ออกโดยตรง ใส่ไว้ในมือแล้วหมุน สีหน้าก็เปลี่ยนไป“หมอเทวดาเลี่ยวเป็นอะไรเหรอครับ?”เฝิงชางขยับเข้ามาถามใกล้ๆ ส่วนเฝิงเอ้อที่อยู่ไกลออกไปกลับเหม่อลอยเล็กน้อยเพราะว่าในตอนนี้จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลินเฟิงขึ้นมาได้“อย่าลืมบอกหมอเทวาดาเลี่ยว ห้ามใช้มือสัมผัสเข็มเงินโดยตรง พิษนี้ต่อให้โดนแค่ผิวหนัง ก็ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว”“หมอเทวดาเลี่ยว!”เฟิงเอ้ออดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา“หือ?”หมอเทวดาเลี่ยวกับเฝิงชางหันหน้ามาส่วนเฟิงเอ้อยังคงยื่นมือออกไป เขาต้องการพูดสิ่งที่หลินเฟิงเตือนไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ดูไม่เหมาะสมนักหมอเทวดาเลี่ยวไม่รู้ว่ามันมีพิษเหรอ ต้องให้นายเตือนด้วย?สุดท้ายเฝิงเอ้ออ้าปาก แต่สุดท้ายก็ส่ายหน
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี