โดยเฉพาะในตอนที่เห็นอวี๋จื่อเสวียน เด็กสาวที่มองไปรอบๆ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ สีหน้าของทุกคนก็แย่ยิ่งกว่าเดิม“สหายหลิน ยินดีต้อนรับครับ”จีอวิ๋นเจี๋ยไม่ได้มีความสงสัยใดๆ และเข้าไปต้อนรับโดยตรงในตอนที่เข้ามาต้อนรับ จีอวิ๋นเจี๋ยยังขยับเข้าไปพูดเสียงเบาที่ข้างหูของหลินเฟิง: “สหายหลิน คำแนะนำของคุณก่อนหน้านี้ผมรับปากแล้ว ขอร้องคุณช่วยพ่อของผมด้วยนะครับ”“อืม”หลินเฟิงเผยรอยยิ้มให้จีอวิ๋นเจี๋ยบอกให้เขาวางใจได้ และตบไหล่ของเขาอวี๋จื่อเสวียนที่อยู่ข้างๆ เห็นภาพนี้ก็ฉีกยิ้มด้วยความกระอักกระอ่วนหลินเฟิงแค่มองก็รู้ว่าเด็กคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เขาเหลือบตามองเธอในทันที“ฮ่าฮ่า ท่านนี้ก็คือสหายหลินที่อวิ๋นเจี๋ยพูดถึงใช่ไหมครับ? ไม่ทราบว่าสหายน้อยท่านนี้ชื่ออะไรครับ?”จีว่านหลัวเดินเข้ามา และหัวเราะเสียงดังทักทายหลินเฟิงพยักหน้า พูดด้วยท่าทางที่ไม่ได้แสดงตัวต่ำต้อยและไม่ได้แสดงตัวโอหัง: “หลินเฟิงครับ”“หลินเฟิง?”จีว่านหลัวแอบครุ่นคิด และพบว่าตัวเองไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ทันใดนั้นก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็ยังปิดบังเอาไว้ได้อย่างดีมากในตอนที่หลินเฟิงจะเดินเข้
งั้นก็ถูกต้องแล้วในเมื่อคนที่สวะอย่างจีอวิ๋นเจี๋ยรู้จักจะเก่งกาจยิ่งกว่าหมอเทวดาเลี่ยวได้อย่างไรอีกทั้งยังอายุน้อยขนาดนี้ ถ้าหากเขาเก่งกาจขนาดนั้นอย่างที่พูด จะเป็นไปได้อย่างไรที่จนถึงตอนนี้แล้วยังไร้ชื่อเสียงอยู่อีก?”จีอวิ๋นเทียนมองดูแผ่นหลังของหลินเฟิงแล้วยิ้มเยาะสี่พันล้านบาทนี่เรียกว่าใจคนไม่รู้จักพอไม่รู้จักเจียมตัวถ้าหากหลินเฟิงไม่ได้ยั่วยุเขา อย่างมากจีอวิ๋นเจี๋ยก็แค่สั่งคนให้กระทืบคนต้มตุ๋นคนนี้แล้วโยนออกไปแต่ในสายโทรศัพท์เมื่อครู่นี้ ท่าทางกำเริบเสิบสานของไอ้หมอนี่ทำให้จีอวิ๋นเทียนโมโหอย่างถึงที่สุดยั่วโมโหตะโกนจี เขายังจะมีจุดจบที่ดีได้อย่างนั้นเหรอ?บนใบหน้าของจีอวิ๋นเทียนเผยความเคร่งขรึมออกมาผ่านไปครู่หนึ่งทุกคนของตระกูลจีก็มาร่วมตัวกันอยู่ในห้องนอนของจีว่านจ่างหลินเฟิงเดินเข้ามาแล้วมองดูแวบหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าพูดว่า: “นี่คือต้นน้ำค้างแข็งเฉียนหยวน ยาพิษขั้นรุนแรงที่มาจากสำนักร้อยพิษ”“ต่อให้เป็นยาหวงตี๋ล้างพิษก็ไม่สามารถทำให้พิษหายไปได้ อย่างมากก็แค่ยื้อเวลาช่วงหนึ่ง”เห็นหลินเฟิงเพียงแค่มองแวบเดียวก็รู้ว่ายาพิษที่จีว่านจ่างโดนนั้นคืออะไรนี่จึ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวิธีการควบคุมพลังชี่แท้ที่ช่ำชองถึงขนาดนี้ นี่ไม่มีทางที่เป็นดินแดนที่นักบู๊แดนแปรภาพทั่วไปจะสามารถแตะถึงได้“ขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่าน?”จีว่านหลัวรู้สึกตกตะลึงกับการคาดเดาในหัวใจของตัวเองภายใต้ความตกตะลึง ในใจก็เกิดความหวังขึ้นมาไม่แน่เขาอาจจะสามารถช่วยชีวิตพี่ชายของตัวเองได้จริงๆ“ไอ้หมอนี่...”ในตอนที่จีอวิ๋นเทียนเห็นหลินเฟิงปล่อยเข็มออกไป ดวงตาของเขาก็หดตัวลง ไอ้หมอนี่เป็นนักบู๊ขั้นเซียนเทียนงั้นเหรอ?!หรือว่าเขามีวิธีรักษาจีว่านจ่างให้หายได้จริงๆ?คิดได้ถึงตรงนี้ ในใจของจีอวิ๋นเทียนก็เกิดความกระวนกระวายขึ้นมา“นั่นมัน...เข็มดอกเหมยห้าวิญญาณ?!”หมอเทวดาเลี่ยวในตอนนี้ไม่มีความสงสัยต่อหลินเฟิงอีกต่อไปคนนอกดูความครึกครื้น คนสายเดียวกันดูช่องทางในตอนที่เขาเห็นการลงเข็มและฝีมือของหลินเฟิง ใบหน้าก็ขาวโพลนในทันที และในใจก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมาเพราะว่าเมื่อครู่นี้ท่าทางที่เขามีต่อวัยรุ่นคนนี้ไม่ดีเท่าไหร่นักเดิมทีเขายังอยากถามถึงผู้อาวุโส หรือว่าที่มาของยาหวงตี๋ล้างพิษจากหลินเฟิง แต่ตอนนี้ดูแล้ว...เมื่อครู่เกรงว่าเขาคงจะพูดจริงสินะ!ยาหวงตี๋
จีอวิ๋นเทียนจับคอเสื้อของจีอวิ๋นเจี๋ยเอาไว้ ในตอนที่กำลังจะลงมือ จีว่านหลัวที่อยู่ข้างๆ กลับอุทานออกมา“เดี๋ยวนะ พวกคุณรีบดูสิ!”ทุกคนมองไปตามทางที่จีว่านหลัวชี้ไป น้ำเดือดที่ถูกสาดไปบนใบหน้าของจีว่านจ่างเมื่อครู่นี้กลายเป็นเศษน้ำแข็งสีดำทั้งหมด และไหลตกลงบนพื้น“ฮะ? นี่มัน...”จีอวิ๋นเทียนนิ่งอึ้งจีอวิ๋นเจี๋ยกลับดิ้นให้หลุดจากการจับกุมของพี่ชายตัวเอง จากนั้นยิ้มเยาะพูดว่า: “พี่ใหญ่ ผมดูแล้วเป็นพี่ต่างหากที่เป็นคนที่ไม่อยากให้พ่อร่างกายฟื้นฟูมากที่สุดสินะ?!“แก...”“อวิ๋นเจี๋ย อย่าพูดจาซี้ซั้ว!”เมิ่งหย่าเดินออกมา และพูดสนับสนุน: “พี่ใหญ่ของนายเป็นห่วงร่างกายของพ่อ จะไม่อยากให้พ่อหายได้อย่างไรกัน?”“ถูกต้อง!”จีอวิ๋นเทียนฝืนพยักหน้าเมื่อเห็นว่าทำทุกสิ่งเสร็จเรียบร้อย หลินเฟิงก็ถอนหายใจเบาๆ และวางจีว่านจ่างลง ปล่อยให้เขานอนบนเตียงในตอนนี้สีหน้าของจีว่านจ่างดีขึ้นแล้วไม่เหมือนกับเมื่อครู่นี้ที่หน้าสีม่วงช้ำ แค่มองก็รู้ว่ามีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่วัน ตอนนี้กลับมีสีแดงระเรื่อแล้วแต่ยังคงอยู่อยู่ในอาการหมดสติอยู่“เอาล่ะ งานของผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว”หลินเฟิงรับผ้าขนหนูจากคนรั
“ผมเพียงแค่ขอร้องคุณหลินถ่ายทอดความรู้ให้นิดหน่อย เลี่ยวจื้อหมิงจะเทิดทูนให้คุณหลินเป็นอาจารย์ของตระกูลเลี่ยวของผมไปตลอดชีวิต”“ตระกูลเลี่ยว?”หลินเฟิงรู้สึกหวั่นไหวจีอวิ๋นเจี๋ยที่อยู่ข้างๆ รีบเข้ามาพูด:“สหายหลิน ตระกูลเลี่ยวอยู่ที่เมืองจิงก็นับว่าเป็นตระกูลร่ำรวย และเป็นหมอทุกรุ่น อีกทั้งมีศูนย์การแพทย์กับโรงพยาบาลของตระกูลจี เป็นตระกูลการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจิง”“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง...”หลินเฟิงลูบคางของตัวเอง ในใจกลับมีความคิดเล็กๆ ของตัวเองถ้าหากจะต่อกลอนกับตระกูลหลงและตระกูลถัง หลินเฟิงเพียงคนเดียว เกรงว่ากำลังจะไม่เพียงพอ และทำได้ไม่สำเร็จต่อให้บวกกับจีอวิ๋นเจี๋ยของตระกูลจีก็พูดได้ยากและตระกูลจี...ตระกูลการแพทย์ของเมืองจิง ดูท่าว่าอยู่ที่เมืองจิงมีตำแหน่งค่อนข้างสูง ถ้าหากมีโอกาส หลินเฟิงก็สามารถคบหาได้เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลินเฟิงพยักหน้าพูดว่า: “เห็นแก่ที่คุณจริงใจขนาดนี้ คุณทิ้งที่อยู่เอาไว้แล้วกัน วันหน้าผมมีเวลา จะไปเยี่ยมเยือนเอง”“ดีมากเลยครับ!”ได้ยินคำพูดของหลินเฟิง หมอเทวดาเลี่ยวดีใจจนหนวนเคราสั่นเทา จากนั้นรีบล้วงนามบัตรของตัวเอง ยื่นให้หลินเฟิ
ความเป็นกังวลของจีอวิ๋นเทียนไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลนี่ทำให้จีว่านหลัวก็ก้มหน้าลง และตกอยู่ในภวังค์ความคิด“จากที่ฉันดู ไม่แน่ไอ้หมอนี่สมรู้ร่วมคิดกับหมอเทวดาเลี่ยว ตั้งใจมาหลอกเอาเงิน”ในตอนนี้เมิ่งหย่าเอ่ยปากพูดเยาะหยัน:“ไม่แน่เขาเพียงแค่ใช้วิธีการบดบังสายตาที่คนนอกดูไม่เข้าใจ หลอกลวงพวกเรา ความเป็นจริงแล้วไม่ได้แก้พิษของว่านจ่างด้วยซ้ำ!”“ถูกต้อง ผมก็คิดแบบนี้ครับ”จีอวิ๋นเทียนก็ยิ้มเยาะพูด“ดูท่านายไม่คิดที่จะจ่ายค่ารักษาให้ฉันสินะ?”หลินเฟิงก้าวเดินเข้าไป ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยการข่มขู่“ทำไม? หรือว่านายจะกล้าสามหาวที่ตระกูลจีของฉัน?”จีอวิ๋นเทียนไม่ยอมอ่อนข้อ จากนั้นก็โบกมือขึ้น บริวารของตระกูลจีที่จงรักภักดีต่อจีอวิ๋นเทียนเดินออกมา แรงสังหารรุนแรงก็พรั่งพรูออกมา“คุณจีว่านหลัวท่านนี้ นี่ก็คือการปฏิบัติต่อแขกของตระกูลจีของพวกคุณอย่างนั้นเหรอ? มีท่าทางต่อผู้มีบุญคุณที่ช่วยชีวิตผู้นำตระกูลจีของพวกคุณแบบนี้เหรอ?”หลินเฟิงกวาดสายตามองไปที่จีว่านหลัวจีว่านหลัวนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง จากนั้นเข้าไปพูดเกลี้ยกล่อม: “คุณหลินเฟิงอย่าร้อนใจไป เมื่อครู่ที่คุณรักษาพี่ชายของผม ผมเห็นอยู่กับต
จีอวิ๋นเทียนหรี่ตาลง บอดี้การ์ดกับบริวารของตระกูลจีที่อยู่รอบๆ ล้อมเข้ามาด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด“จีอวิ๋นเทียน นายอยากจะทำอะไร?!”จีอวิ๋นเจี๋ยตะโกนขึ้นด้วยเสียงดุดัน“ทำอะไรงั้นเหรอ?”“หึ”จีอวิ๋นเทียนส่งเสียงเยาะหยัน และหรี่ตาลง: “จีอวิ๋นเทียน เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้วฉันก็ไม่ปิดบังนายแล้ว ถูกแล้วล่ะ ที่พ่อถูกพิษ เป็นฝีมือของฉันจริงๆ”“ใครใช้ใหไอ้แก่นั่นมอบกจิการของตระกูลให้กับแกกันล่ะ?!”“เขาหาเรื่องใส่ตัวเอง!”จีอวิ๋นเทียนหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า: “อีกทั้งไม่เพียงแค่ฉัน แม่เลี้ยงก็เข้าร่วมด้วย และก็คนที่วางยาก็คือเธอ!”“พวกแก...”จีอวิ๋นเจี๋ยมองไปทางลูกน้องของจีอวิ๋นเทียนที่ล้อมรอบเข้ามา เขาทั้งตกตะลึงทั้งโมโห และตะโกนพูดว่า: “หรือว่านายลืมอารองไปแล้วงั้นเหรอ? เรื่องนี้ถ้าหากอารองรับรู้...”“วางใจเถอะ ไอ้โง่นั่นจะไม่มีทางรู้ไปตลอดกาล”จีอวิ๋นเทียนหลุดขำออกมา:“โทษไอ้สารเลวนั่นเลย คิดไม่ถึงว่าจะยื้อเวลาของฉันนานขนาดนี้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะหวาดกลัวบริวารเหล่านั้นของเขา ฉันคงจะแตกกับเขาไปนานแล้ว!”“แต่ไม่เป็นไร”จีอวิ๋นเทียนหัวเราะด้วยความดุดันแล้วพูดว่า:“ฉันเจรจากับตระก
“อะไร?”“นี่มันพลังอะไรกัน?”วิธีการต่อสู้ที่บ้าระห่ำของหลินเฟิงแบบนี้ ทำให้บอดี้การ์ดของตระกูลจีทุกคนหัวใจบีบรัดแม้แต่จีอวิ๋นเจี๋ยที่อยู่ข้างกายหลินเฟิงก็ยังนิ่งอึ้งอยู่ครึ่งวินาที“ย้ากกก!”แต่ในเมื่อตระกูลจีเป็นตระกูลร่ำรวย อีกทั้งมีกำลังที่จะแทนที่ตระกูลหลินที่ลึกลับ และกลายเป็นสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองจิงบริวารที่อยู่ใต้บัญชาก็ไม่ได้มีฝีมือกระจอกเห็นเพียงแค่บริวารอายุสี่สิบกว่าๆ คนนี้ถีบรถลินคอล์นเพิ่มความยาวที่ลอยมาจนกลายเป็นสองท่อน“หือ?”ในตอนที่บริวารคนนี้ก้มหน้าหาเงาของหลินเฟิง เขากลับรู้สึกได้ถึงลมโหมกระหน่ำที่เย็นเยือกจากใบหน้าด้านข้างของตัวเองในทันทียังไม่ทันได้หันหน้ามองไป ฝ่าเท้าของหลินเฟิงก็เตะไปที่ใบหน้าครึ่งหนึ่งของบริวาร จนกระทั่งเขาหมุนวนอย่างบ้าคลั่งที่กลางอากาศ และอ้วกออกมาเป็นเลือดจำนวนมาก“อะไรน่ะ?!”ต่อให้เป็นจีอวิ๋นเทียนที่ยืนชมการต่อสู้อยู่ข้างๆ ก็ไม่เห็นว่าหลินเฟิงปรากฏตัวขึ้นที่กลางอากาศตั้งแต่ตอนไหนมีเพียงบริวารอีกสองคนที่ยืนอยู่บนพื้นที่ไกลออกไปพวกเขาเป็นยอดฝีมือระดับเซียนเทียน พอจะเห็นหลินเฟิงลอยขึ้นไปกลางอากาศ พร้อมกับรถลินคอล์น“คนผู้
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี
หลินเฟิงตามกลุ่มคนตระกูลเฝิงมาที่ตึกเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตรงสวนหลังบ้าน ยังไม่ได้เข้าประตู หลินเฟิงก็เห็นหมอเทวดาเลี่ยวที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งติดตามมาเขาไม่ได้เข้าไปทักทาย แต่ยืนอยู่นอกกลุ่มคนเพราะว่าผู้คุ้มกันของตระกูลเฝิงสองคนจับตาดูเขาอยู่ตลอดพวกเขาสองคนอนุญาตให้หลินเฟิงรออยู่ตรงนี้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายในเมื่อเฝิงอวี้อู่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงและอำนาจมากที่สุดในตระกูลเฝิงพวกเขาได้ยินมานานแล้วว่า สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายของคุณชายเฝิงอวี้อู่ในตอนนี้ เป็นฝีมือของหลินเฟิงถึงแม้หลินเฟิงไม่ได้เป็นคนวางยา และหลินเฟิงก็ชี้แจงแล้วว่า เขาไม่ใช่คนชั่วช้าต่ำทรามที่ใช้แผนลวงทำร้ายคนอื่นแต่ความโมโหแบบนี้ยังคงมีอยู่และยิ่งเป็นคนชั้นล่างของตระกูลเฝิง ผลกระทบแบบนี้ก็ยิ่งมีมากดังนั้นเหล่าผู้คุ้มกันตระกูลเฝิง จึงยังคงมีท่าทางไม่เป็นมิตรต่อหลินเฟิงเป็นอย่างมากถึงขั้นที่มีลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงจำนวนมากขยับเข้ามา อยากจะประลองฝีมือกับหลินเฟิง ลองดูว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ หรือไม่ถ้าหากไม่ได้ผู้คุ้มกันตระกูลเฝิงขวางไว้ ตรงนี้คงเกิดการปะทะครั้งใหญ่ขึ้นตั้งนานแล
“ง่ายมาก”หลินเฟิงยืดอก พูดด้วยความมั่นใจว่า:“ผมช่วยแก้พิษให้เฝิงอวี้อู่ ส่วนคุณ บอกเบาะแสะของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม เป็นยังไง?”“พรวด”คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงเพิ่งพูดแบบนี้จบ เฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะออกมาเขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความเยาะหยันและพูดว่า:“คุณหลินคนนี้ คุณคงไม่ได้คิดว่าพวกเราโง่เหมือนกับคุณหรอกนะ? ใครจะเชื่อคำพูดไร้สาระของคุณได้?”“ผมได้พูดกำชับหลายครั้งแล้วว่า ยาโลหิตปลิดชีพเป็นยาพิษพิเศษของสำนักร้อยพิษ ไม่ใช่ผู้อาวุโสของเราแก้พิษก็ไม่มีทางแก้ได้”“ส่วนคุณพูดจาโอ้อวดอยู่ตรงนี้ ไม่กลัวว่าฟ้าจะผ่าลิ้นบ้างเหรอ?”เผชิญหน้ากับการเยาะหยันของเฝิงหลี หลินเฟิงไม่ได้รู้สึกโกรธเพียงแค่ส่ายหน้าช้าๆ พูดว่า:“ผู้นำตระกูลเฝิง ผมมองออกถึงความลำบากใจของคุณ”“ไม่สู้เอาแบบนี้ คุณพาผมไปพบเฝิงอวี้อู่ตอนนี้ รักษาหายไม่หาย ก็คิดบัญชีกับผมได้”“ถ้าหากรักษาหาย คุณก็บอกเบาะแสของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม แต่ถ้าหากรักษาไม่หาย...ผมก็จะติดเชื้อพิษ และก็จะต้องตายเพราะคำพูดโอ้อวดของผม”“เป็นยังไง?”ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองของหลินเฟิง เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อย
“ขู่นายนี่แหละ จะทำไม?”เฝิงเอ้อก็ไม่เสแสร้งแล้ว เขาชักดาบสะท้อนแสงเล่มใหญ่ออกมาจากด้านหลัง ฟันไปบนโต๊ะเสียงดังปึง จ้องมองหลินเฟิงด้วยความดุดันและพูดอย่างโมโหว่า:“วันนี้ถ้านายพูดไม่ชัดเจน นายก็อย่าได้คิดจะออกจากตระกูลเฝิงเลย!”“พรวด...”ในตอนที่บรรยากาศค่อยๆ เปลี่ยนไปตึงเครียดเฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ กลับหลุดหัวเราะออกมากระทันหัน“นายหัวเราะอะไร?!”เฝิงเอ้อไม่พอใจอย่างมากเป้าหมายที่เขาข่มขู่หลินเฟิงแบบนี้ ก็เพราะไม่อยากให้ไอ้หมอนี่สมหัวงถ้าหากสามารถได้รับวิธีการรักษาอวี้อู่จากตัวหลินเฟิง งั้นพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ออกไปแล้วเมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มพันธมิตรบู๊แล้วและก็ไม่ต้องทิ้งจุดอ่อนเอาไว้แต่ทว่าแม้แต่เรื่องที่แม้แต่เฝิงเอ้อยังสามารถคิดได้ เฝิงหลีจะคิดไม่ได้ได้อย่างไร?เขากวาดตามองหลินเฟิงด้วยความเหยียดหยาม และก็มองไปทางเฝิงเอ้ออีกครั้ง:“ฉันว่านะพี่รอง ฉันเคยพูดไว้แล้ว พิษที่อวี้อู่โดนคือยาโลหิตปลิดชีพ พิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลก”“บนโลกนี้แล้ว นอกจากผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษ ก็ไม่มีใครสามารถแก้พิษนี้ได้แล้ว”“ไอ้ห
“ที่คุณหลินพูดถึง ไม่ทราบว่ารับการไหว้วานมาจากใคร? ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไม?”ตอบกลับด้วยคำถามง่ายๆเตะบอลกลับมาที่เท้าของหลินเฟิงใหม่อีกครั้ง“ได้รับการไหว้วานจากพ่อของผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ สำหรับเรื่องที่ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไมนั้น...”หลินเฟิงหยุดชะงัก ในหัวครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว และยิ้มบางพูดว่า:“ตอนเด็กผมเคยมีหมั้นหมายกับผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่มาตามหาในวันนี้ เพื่อให้การหมั้นหมายเสร็จสมบูรณ์”“หือ?”เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อยผู้นำของกลุ่มพันธมิตรบู๊มีหมั้นหมายแล้วงั้นเหรอ? ภายในกลุ่มพันธมิตรบู๊ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไม่ใช่ว่าไอ้หมอนี่พูดจาซี้ซั้วหรอกนะ?เฝิงชางหรี่ตาลง ในใจครุ่นคิดไม่หยุดส่วนทางด้านหลินเฟิงเขาจำเป็นต้องหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผล หาสถานะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เพื่อที่จะให้เขาตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรไม่อย่างนั้นคุณจะเข้ายุ่งเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ได้อย่างไร?ในตอนนี้เอง หลินเฟิงก็มีข้ออ้างแล้วหยินหลิงเป็นหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรของพวกคุณ เป็นเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่ฉันตามหาคู่หมั้นของตัวเอง มีปัญหาไ