“ทำไม? อวิ๋นเทียน?”จีว่านหลัวมองไปทางจีอวิ๋นเทียน และพูดอย่างเย็นชา:“หรือว่าชีวิตพ่อของนายไม่ถึงห้าร้อยล้านบาท? หรือว่านายไม่หวังอยากให้พ่อของนายถูกช่วยชีวิตเอาไว้ด้วยซ้ำ?!”“เปล่า....เปล่านะครับ”จีอวิ๋นเทียนเช็ดเหงื่อบนศีรษะภายใต้สายตาเย็นชาของจีว่านหลัว และยิ้มอย่างสดใสพูดว่า:“ผมจะไม่อยากให้คุณพ่อร่างกายแข็งแรงได้อย่างไร เพียงแต่ผมกลัวว่าหมอเร่ร่อนไม่เพียงไม่มีวิธีรักษาคุณพ่อ แถมยังทำให้คุณพ่ออาการหนักขึ้น”“หือ”ในตอนนี้ โทรศัพท์ที่อยู่ในมือของจีว่านหลัวก็มีเสียงอขงหลินเฟิงดังขึ้นมาอีก“ดูท่าพวกคุณไม่ได้อยากให้ผมลงมือสินะ”ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไม่มีอะไรให้คุยกันแล้ว”“เดี๋ยวก่อนครับ!”ในตอนที่หลินเฟิงจะตัดสายโทรศัพท์ จีว่านหลัวรีบยิ้มพูด: “ได้ได้ได้ ห้าร้อยล้านบาทก็ห้าร้อยล้านบาท อวิ๋นเทียนรับปากแล้วครับ”“พูด!”จีว่านหลัวมองไปทางจีอวิ๋นเทียน ในสายตาเต็มไปด้วยแรงสังหารที่มากมาย“ได้...ห้าร้อยล้านก็ห้าร้อยล้าน”จีอวิ๋นเทียนกำหมัดแน่น ในใจกลับสาปแช่งจีอวิ๋นหลัวไม่หยุดถ้าหากไม่ใช่อารองของเขาคนนี้สร้างความวุ่นวาย เขาคงจะกำจัดจีอวิ๋นเจี๋ยไปนานแล้ว และกลายเป็นผู้สื
โดยเฉพาะในตอนที่เห็นอวี๋จื่อเสวียน เด็กสาวที่มองไปรอบๆ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ สีหน้าของทุกคนก็แย่ยิ่งกว่าเดิม“สหายหลิน ยินดีต้อนรับครับ”จีอวิ๋นเจี๋ยไม่ได้มีความสงสัยใดๆ และเข้าไปต้อนรับโดยตรงในตอนที่เข้ามาต้อนรับ จีอวิ๋นเจี๋ยยังขยับเข้าไปพูดเสียงเบาที่ข้างหูของหลินเฟิง: “สหายหลิน คำแนะนำของคุณก่อนหน้านี้ผมรับปากแล้ว ขอร้องคุณช่วยพ่อของผมด้วยนะครับ”“อืม”หลินเฟิงเผยรอยยิ้มให้จีอวิ๋นเจี๋ยบอกให้เขาวางใจได้ และตบไหล่ของเขาอวี๋จื่อเสวียนที่อยู่ข้างๆ เห็นภาพนี้ก็ฉีกยิ้มด้วยความกระอักกระอ่วนหลินเฟิงแค่มองก็รู้ว่าเด็กคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เขาเหลือบตามองเธอในทันที“ฮ่าฮ่า ท่านนี้ก็คือสหายหลินที่อวิ๋นเจี๋ยพูดถึงใช่ไหมครับ? ไม่ทราบว่าสหายน้อยท่านนี้ชื่ออะไรครับ?”จีว่านหลัวเดินเข้ามา และหัวเราะเสียงดังทักทายหลินเฟิงพยักหน้า พูดด้วยท่าทางที่ไม่ได้แสดงตัวต่ำต้อยและไม่ได้แสดงตัวโอหัง: “หลินเฟิงครับ”“หลินเฟิง?”จีว่านหลัวแอบครุ่นคิด และพบว่าตัวเองไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ทันใดนั้นก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็ยังปิดบังเอาไว้ได้อย่างดีมากในตอนที่หลินเฟิงจะเดินเข้
งั้นก็ถูกต้องแล้วในเมื่อคนที่สวะอย่างจีอวิ๋นเจี๋ยรู้จักจะเก่งกาจยิ่งกว่าหมอเทวดาเลี่ยวได้อย่างไรอีกทั้งยังอายุน้อยขนาดนี้ ถ้าหากเขาเก่งกาจขนาดนั้นอย่างที่พูด จะเป็นไปได้อย่างไรที่จนถึงตอนนี้แล้วยังไร้ชื่อเสียงอยู่อีก?”จีอวิ๋นเทียนมองดูแผ่นหลังของหลินเฟิงแล้วยิ้มเยาะสี่พันล้านบาทนี่เรียกว่าใจคนไม่รู้จักพอไม่รู้จักเจียมตัวถ้าหากหลินเฟิงไม่ได้ยั่วยุเขา อย่างมากจีอวิ๋นเจี๋ยก็แค่สั่งคนให้กระทืบคนต้มตุ๋นคนนี้แล้วโยนออกไปแต่ในสายโทรศัพท์เมื่อครู่นี้ ท่าทางกำเริบเสิบสานของไอ้หมอนี่ทำให้จีอวิ๋นเทียนโมโหอย่างถึงที่สุดยั่วโมโหตะโกนจี เขายังจะมีจุดจบที่ดีได้อย่างนั้นเหรอ?บนใบหน้าของจีอวิ๋นเทียนเผยความเคร่งขรึมออกมาผ่านไปครู่หนึ่งทุกคนของตระกูลจีก็มาร่วมตัวกันอยู่ในห้องนอนของจีว่านจ่างหลินเฟิงเดินเข้ามาแล้วมองดูแวบหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าพูดว่า: “นี่คือต้นน้ำค้างแข็งเฉียนหยวน ยาพิษขั้นรุนแรงที่มาจากสำนักร้อยพิษ”“ต่อให้เป็นยาหวงตี๋ล้างพิษก็ไม่สามารถทำให้พิษหายไปได้ อย่างมากก็แค่ยื้อเวลาช่วงหนึ่ง”เห็นหลินเฟิงเพียงแค่มองแวบเดียวก็รู้ว่ายาพิษที่จีว่านจ่างโดนนั้นคืออะไรนี่จึ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวิธีการควบคุมพลังชี่แท้ที่ช่ำชองถึงขนาดนี้ นี่ไม่มีทางที่เป็นดินแดนที่นักบู๊แดนแปรภาพทั่วไปจะสามารถแตะถึงได้“ขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่าน?”จีว่านหลัวรู้สึกตกตะลึงกับการคาดเดาในหัวใจของตัวเองภายใต้ความตกตะลึง ในใจก็เกิดความหวังขึ้นมาไม่แน่เขาอาจจะสามารถช่วยชีวิตพี่ชายของตัวเองได้จริงๆ“ไอ้หมอนี่...”ในตอนที่จีอวิ๋นเทียนเห็นหลินเฟิงปล่อยเข็มออกไป ดวงตาของเขาก็หดตัวลง ไอ้หมอนี่เป็นนักบู๊ขั้นเซียนเทียนงั้นเหรอ?!หรือว่าเขามีวิธีรักษาจีว่านจ่างให้หายได้จริงๆ?คิดได้ถึงตรงนี้ ในใจของจีอวิ๋นเทียนก็เกิดความกระวนกระวายขึ้นมา“นั่นมัน...เข็มดอกเหมยห้าวิญญาณ?!”หมอเทวดาเลี่ยวในตอนนี้ไม่มีความสงสัยต่อหลินเฟิงอีกต่อไปคนนอกดูความครึกครื้น คนสายเดียวกันดูช่องทางในตอนที่เขาเห็นการลงเข็มและฝีมือของหลินเฟิง ใบหน้าก็ขาวโพลนในทันที และในใจก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมาเพราะว่าเมื่อครู่นี้ท่าทางที่เขามีต่อวัยรุ่นคนนี้ไม่ดีเท่าไหร่นักเดิมทีเขายังอยากถามถึงผู้อาวุโส หรือว่าที่มาของยาหวงตี๋ล้างพิษจากหลินเฟิง แต่ตอนนี้ดูแล้ว...เมื่อครู่เกรงว่าเขาคงจะพูดจริงสินะ!ยาหวงตี๋
จีอวิ๋นเทียนจับคอเสื้อของจีอวิ๋นเจี๋ยเอาไว้ ในตอนที่กำลังจะลงมือ จีว่านหลัวที่อยู่ข้างๆ กลับอุทานออกมา“เดี๋ยวนะ พวกคุณรีบดูสิ!”ทุกคนมองไปตามทางที่จีว่านหลัวชี้ไป น้ำเดือดที่ถูกสาดไปบนใบหน้าของจีว่านจ่างเมื่อครู่นี้กลายเป็นเศษน้ำแข็งสีดำทั้งหมด และไหลตกลงบนพื้น“ฮะ? นี่มัน...”จีอวิ๋นเทียนนิ่งอึ้งจีอวิ๋นเจี๋ยกลับดิ้นให้หลุดจากการจับกุมของพี่ชายตัวเอง จากนั้นยิ้มเยาะพูดว่า: “พี่ใหญ่ ผมดูแล้วเป็นพี่ต่างหากที่เป็นคนที่ไม่อยากให้พ่อร่างกายฟื้นฟูมากที่สุดสินะ?!“แก...”“อวิ๋นเจี๋ย อย่าพูดจาซี้ซั้ว!”เมิ่งหย่าเดินออกมา และพูดสนับสนุน: “พี่ใหญ่ของนายเป็นห่วงร่างกายของพ่อ จะไม่อยากให้พ่อหายได้อย่างไรกัน?”“ถูกต้อง!”จีอวิ๋นเทียนฝืนพยักหน้าเมื่อเห็นว่าทำทุกสิ่งเสร็จเรียบร้อย หลินเฟิงก็ถอนหายใจเบาๆ และวางจีว่านจ่างลง ปล่อยให้เขานอนบนเตียงในตอนนี้สีหน้าของจีว่านจ่างดีขึ้นแล้วไม่เหมือนกับเมื่อครู่นี้ที่หน้าสีม่วงช้ำ แค่มองก็รู้ว่ามีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่วัน ตอนนี้กลับมีสีแดงระเรื่อแล้วแต่ยังคงอยู่อยู่ในอาการหมดสติอยู่“เอาล่ะ งานของผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว”หลินเฟิงรับผ้าขนหนูจากคนรั
“ผมเพียงแค่ขอร้องคุณหลินถ่ายทอดความรู้ให้นิดหน่อย เลี่ยวจื้อหมิงจะเทิดทูนให้คุณหลินเป็นอาจารย์ของตระกูลเลี่ยวของผมไปตลอดชีวิต”“ตระกูลเลี่ยว?”หลินเฟิงรู้สึกหวั่นไหวจีอวิ๋นเจี๋ยที่อยู่ข้างๆ รีบเข้ามาพูด:“สหายหลิน ตระกูลเลี่ยวอยู่ที่เมืองจิงก็นับว่าเป็นตระกูลร่ำรวย และเป็นหมอทุกรุ่น อีกทั้งมีศูนย์การแพทย์กับโรงพยาบาลของตระกูลจี เป็นตระกูลการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจิง”“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง...”หลินเฟิงลูบคางของตัวเอง ในใจกลับมีความคิดเล็กๆ ของตัวเองถ้าหากจะต่อกลอนกับตระกูลหลงและตระกูลถัง หลินเฟิงเพียงคนเดียว เกรงว่ากำลังจะไม่เพียงพอ และทำได้ไม่สำเร็จต่อให้บวกกับจีอวิ๋นเจี๋ยของตระกูลจีก็พูดได้ยากและตระกูลจี...ตระกูลการแพทย์ของเมืองจิง ดูท่าว่าอยู่ที่เมืองจิงมีตำแหน่งค่อนข้างสูง ถ้าหากมีโอกาส หลินเฟิงก็สามารถคบหาได้เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลินเฟิงพยักหน้าพูดว่า: “เห็นแก่ที่คุณจริงใจขนาดนี้ คุณทิ้งที่อยู่เอาไว้แล้วกัน วันหน้าผมมีเวลา จะไปเยี่ยมเยือนเอง”“ดีมากเลยครับ!”ได้ยินคำพูดของหลินเฟิง หมอเทวดาเลี่ยวดีใจจนหนวนเคราสั่นเทา จากนั้นรีบล้วงนามบัตรของตัวเอง ยื่นให้หลินเฟิ
ความเป็นกังวลของจีอวิ๋นเทียนไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลนี่ทำให้จีว่านหลัวก็ก้มหน้าลง และตกอยู่ในภวังค์ความคิด“จากที่ฉันดู ไม่แน่ไอ้หมอนี่สมรู้ร่วมคิดกับหมอเทวดาเลี่ยว ตั้งใจมาหลอกเอาเงิน”ในตอนนี้เมิ่งหย่าเอ่ยปากพูดเยาะหยัน:“ไม่แน่เขาเพียงแค่ใช้วิธีการบดบังสายตาที่คนนอกดูไม่เข้าใจ หลอกลวงพวกเรา ความเป็นจริงแล้วไม่ได้แก้พิษของว่านจ่างด้วยซ้ำ!”“ถูกต้อง ผมก็คิดแบบนี้ครับ”จีอวิ๋นเทียนก็ยิ้มเยาะพูด“ดูท่านายไม่คิดที่จะจ่ายค่ารักษาให้ฉันสินะ?”หลินเฟิงก้าวเดินเข้าไป ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยการข่มขู่“ทำไม? หรือว่านายจะกล้าสามหาวที่ตระกูลจีของฉัน?”จีอวิ๋นเทียนไม่ยอมอ่อนข้อ จากนั้นก็โบกมือขึ้น บริวารของตระกูลจีที่จงรักภักดีต่อจีอวิ๋นเทียนเดินออกมา แรงสังหารรุนแรงก็พรั่งพรูออกมา“คุณจีว่านหลัวท่านนี้ นี่ก็คือการปฏิบัติต่อแขกของตระกูลจีของพวกคุณอย่างนั้นเหรอ? มีท่าทางต่อผู้มีบุญคุณที่ช่วยชีวิตผู้นำตระกูลจีของพวกคุณแบบนี้เหรอ?”หลินเฟิงกวาดสายตามองไปที่จีว่านหลัวจีว่านหลัวนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง จากนั้นเข้าไปพูดเกลี้ยกล่อม: “คุณหลินเฟิงอย่าร้อนใจไป เมื่อครู่ที่คุณรักษาพี่ชายของผม ผมเห็นอยู่กับต
จีอวิ๋นเทียนหรี่ตาลง บอดี้การ์ดกับบริวารของตระกูลจีที่อยู่รอบๆ ล้อมเข้ามาด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด“จีอวิ๋นเทียน นายอยากจะทำอะไร?!”จีอวิ๋นเจี๋ยตะโกนขึ้นด้วยเสียงดุดัน“ทำอะไรงั้นเหรอ?”“หึ”จีอวิ๋นเทียนส่งเสียงเยาะหยัน และหรี่ตาลง: “จีอวิ๋นเทียน เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้วฉันก็ไม่ปิดบังนายแล้ว ถูกแล้วล่ะ ที่พ่อถูกพิษ เป็นฝีมือของฉันจริงๆ”“ใครใช้ใหไอ้แก่นั่นมอบกจิการของตระกูลให้กับแกกันล่ะ?!”“เขาหาเรื่องใส่ตัวเอง!”จีอวิ๋นเทียนหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า: “อีกทั้งไม่เพียงแค่ฉัน แม่เลี้ยงก็เข้าร่วมด้วย และก็คนที่วางยาก็คือเธอ!”“พวกแก...”จีอวิ๋นเจี๋ยมองไปทางลูกน้องของจีอวิ๋นเทียนที่ล้อมรอบเข้ามา เขาทั้งตกตะลึงทั้งโมโห และตะโกนพูดว่า: “หรือว่านายลืมอารองไปแล้วงั้นเหรอ? เรื่องนี้ถ้าหากอารองรับรู้...”“วางใจเถอะ ไอ้โง่นั่นจะไม่มีทางรู้ไปตลอดกาล”จีอวิ๋นเทียนหลุดขำออกมา:“โทษไอ้สารเลวนั่นเลย คิดไม่ถึงว่าจะยื้อเวลาของฉันนานขนาดนี้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะหวาดกลัวบริวารเหล่านั้นของเขา ฉันคงจะแตกกับเขาไปนานแล้ว!”“แต่ไม่เป็นไร”จีอวิ๋นเทียนหัวเราะด้วยความดุดันแล้วพูดว่า:“ฉันเจรจากับตระก