เขาเคยได้ยินมาบ้างว่าถังหว่านและหลินเฟิงมีความสัมพันธ์กัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะลึกซึ้งถึงขั้นนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนยอมรับได้หรอกถ้าจะต้องถูกว่าที่ภรรยาสวมเขาให้ไม่ต้องพูดถึงคุณชายหลงยวนของตระกูลหลงแค่เพียงไม่นานสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม“คุณชายหลิน ที่ถังอวิ๋นเฟิงพูดคือความจริงเหรอ?”ไม่รอให้หลินเฟิงตอบถังอวิ๋นเฟิงก็รีบก้าวเข้ามาชี้หน้าหลินเฟิงก่อนจะตะคอก “หลินเฟิง แกกล้าพูดไหมว่าคฤหาสน์ที่อ่าวเทียนสุ่ยแกไม่ได้นอนกับถังหว่านน่ะ!”“ถังหว่านนอนที่ห้องฉันจริง ๆ”หลินเฟิงไม่ได้มีความกลัวยิ่งเห็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรของหลินเฟิงก็พูดเสียงเรียบ “แต่ว่าระหว่างฉันกับถังหว่านไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น”“ฉันกับพวกเธอเกี่ยวข้องกันแค่เรื่องของงานในบริษัท จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของพวกนาย”“โกหก!”ถังอวิ๋นเฟิงพูดด้วยความโมโห “น้องสาวของฉัน ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง? ถ้าไม่ใช่เพราะฉันคอยห้ามไว้ น้องของฉันคงหลงกลแกไปแล้ว!”“หึ แกจะไม่ยอมรับก็ช่างเถอะ แต่ฉันมีเสียงบันทึกอยู่!”พูดจบถังอวิ๋นเฟิงก็ยิ้มร้ายก่อนจะเปิดโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะเลื่อนไปที่คลิปเสียงที่ถังหว่านคุยโทรศัพท์อยู่ใน
“คุกเข่าลงแล้วฆ่าตัวตายซะหลินเฟิง แล้วฉันจะเหลือร่างของแกไว้”หลงยวนกุมอำนาจครั้งนี้ไว้ก่อนจะพูดออกมาอย่างโมโหบอดี้การ์ดที่เขาเลือกมาไม่มีคนธรรมดาเลยสักคน ต่อให้เป็นหลินเฟิงแต่ถ้าต้องเจอกับคนมากมายขนาดนี้ก็คงจะสู้ไม่ไหวยิ่งไม่ต้องพูดถึงถ้าจะต้องเจอกับหลงยวนที่บรรลุถึงขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านและไหนจะมียอดฝีมืออีกนับสิบคนด้วยพูดได้เลยว่าครั้งนี้หลินเฟิงไม่มีทางหนีไปได้ง่าย ๆ“หึ คุณชายหลงยวนผมก็นึกว่าคุณจะเชื่อใจในฝีมือของตัวเอง”หลินเฟิงหัวเราะออกมาก่อนจะพูด “แต่ไม่คิดเลยนะว่าคุณก็ไม่เท่าไหร่ แค่จะรับมือกับผมคนเดียวก็ต้องเรียกคนมามากขนาดนี้”“ต่อให้คุณฆ่าผมให้ตายได้ แต่ไม่คิดเหรอว่ามันไม่มีศักดิ์ศรีอะไรเลย?”“สิงโตจับกระต่ายป่าก็ยังต้องใช้แรงตั้งมากมาย”หลงยวนไม่ได้หลงกลคำพูดของหลินเฟิงเขาหัวเราะเสียงเย็นชา “ฉันคุ้นกับฝีมือของคนตระกูลหลินดี ถ้าไม่มียอดฝีมือมากพอก็คงจะจัดการแกไม่ได้”“เพื่อที่จะจัดการแกให้สิ้นซาก ฉันไม่สนใจศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น”“หึหึ...”ได้ยินหลงยวนพูดแบบนี้หลินเฟิงก็หัวเราะออกมา“ดูท่าคนพวกนี้คือคนที่คุณชายหลงยวนพามาจากจิงเฉิงสินะ? ผมยอมรับว่าค
หยางเทียนฉีหัวเราะเสียงดังก่อนจะพาคนเดินเข้ามาในห้องโถงของตระกูลกู้ในฐานะของประธานหอการค้าของเมืองเจียงโจว จางเทียนฉีถือว่าเป็นคนที่มีเงินเยอะที่สุดในกลุ่มนั้น เพื่อที่จะได้สนิทกับหลินเฟิงเขาเองก็ลงแรงไปไม่น้อยไม่ใช่แค่เพียงแบ่งคนในตระกูลแต่ก็ยังต้องซื้อพวกยอดฝีมือจากตลาดมืดมาอีกหลายสิบคนตอนนี้มีคนมากกว่าหนึ่งพันคน“คุณหลิน สำนักเทียนเตาของเรามากันหมดแล้วเพื่อที่จะร่วมสู้ไปกับคุณ!”ซ่งเฉียนคุนก้าวยาว ๆ เข้ามาด้านในห้องโถงใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชาและด้านหลังก็ตามมาด้านบรรดาลูกศิษย์ในสำนักเทียนเตา“หึหึ คุณหลิน สำนักร้อยพฤกษาก็มาแล้ว คนอาจจะน้อยหน่อย อย่าโกรธกันนะครับ”จางเต๋อหลินพูดขึ้นอย่างมั่นคงก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกับการประคองของหลานสาวจางเจียหนิงด้านหลังของเขาก็มีคนจากตระกูลเล็กใหญ่อื่น ๆ ที่ติดค้างบุญคุณของจางเต๋อหลินเดินตามเข้ามา นับดูก็หลายร้อยคนเช่นกันเพราะว่าคนที่เข้ามามีมากขึ้นเรื่อย ๆ คนที่อยู่ห้องโถงของตระกูลกู้เองก็เริ่มที่จะเบียดกันแล้วขนาดคฤหาสน์ของตระกูลกู้ยังถูกคนจำนวนมากล้อมเอาไว้คนใหญ่คนโตในเมืองเจียงโจวต่างก็พากันมารวมตัวอยู่ที่นี่ ขนาดคนตระกูลป๋
ถึงว่าล่ะทำไมหลินเฟิงถึงได้แสดงออกอย่างเย็นชาและบ้าคลั่งขนาดนั้นที่แท้ก็เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี!แน่นอนว่ากู้เฉินและถังอวิ๋นเฟิงไม่มีทางเดาได้ว่าหลินเฟิงจะรู้แผนการของพวกเขาแล้ววางแผนมาแบบนี้เรื่องนี้ต้องไปถามป๋ายจินเต๋อดูแล้วล่ะตอนนี้กู้เฉินและถังอวิ๋นเฟิงรู้สึกหมดหวังเป็นอย่างมากต่อให้เป็นตระกูลหลงแต่ก็ไม่สามารถต่อกรกับหลินเฟิงที่มีอำนาจของคนทั้งเมืองคอยหนุนหลังไว้ได้และพวกเขาทั้งสองคนในสถานการณ์แบบนี้ก็ไปกระตุกหนวดเสืออย่างหลินเฟิงเข้าแล้ว ก็คงไม่ได้มีจุดจบที่ดีเช่นกันตระกูลหลงก็คงช่วยพวกเขาไม่ได้เพราะแม้แต่หลงยวนเองก็ยังแทบจะปกป้องตัวเองไม่ได้อยู่แล้วถ้าหลงยวนกล้าที่จะลงมือกับหลินเฟิงคนพวกนี้ไม่มีทางนิ่งดูดายแน่ ๆหรือถ้าหากจะลองดูสักตั้งทั้งหลงยวนและคนตระกูลหลงคงต้องได้ฝากชื่อไว้ที่นี่“พี่...พี่ ผม...ผมกลัว! ผมกลัวอ่ะ! ผมไม่อยากตาย! ผมไม่อยากตายที่นี่นะ!”หลงเชาตกใจจนร้องไห้ แม้แต่กางเกงเองก็เปียกไปหมดเพราะฉี่ราดออกมา“ถูกล้อมไว้หมดแล้ว…”หลงยวนมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นว่าด้านนอกห้องโถงก็มีคนล้อมรอบอยู่เต็มไปหมด เขารู้ดีว่าเขาสูญเสียอำนาจไปแล้ว ไม่มีสิทธิ์จะไ
"ทำไม? หรือว่าคุณชายหลินไม่อยากยอมรามือ?”แววตาของหลงยวนมีความโมโหผุดขึ้นมาไอ่บ้าหลินเฟิงนี่ไม่รู้อะไรซะแล้ว“คุณชายหลิน อย่าหาว่าผมไม่เตือนคุณนะ ถ้าเกิดว่าผมเป็นอะไรไปที่เจียงโจว…”หลงยวนมองไปรอบ ๆ ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็นชา “พวกผู้อำนาจที่นี่อย่าคิดจะว่าจะรอดแม้แต่คนเดียว!”ได้ยินคำขู่ของหลงยวน ผู้คนของเมืองเจียงเจียงโจวต่างก็พากันแสดงสีหน้ากังวลออกมา“ผมไม่ได้จะต่อกรกับคุณ”หลินเฟิงค่อย ๆ เดินตรงไปข้างหน้าก่อนจะมองตาหลงยวน “ก็แค่อยากจะอธิบายเรื่องนึงให้คุณเข้าใจ”“เรื่องอะไร?”หลงยวนยังพอรับรู้จากความรู้สึกได้ว่าเลเซอร์สีแดงพวกนั้นยังคงถูกส่องมาที่ตัวของเขา“เรื่องของถังหว่าน”หลินเฟิงพูดคำนี้จบ หลงยวนก็แทบจะระงับความโมโหในใจของตัวเองไม่อยู่“ทำไม? คุณชายหลินจะทำให้ผมอับอายต่อหน้าคนมากมายแบบนี้เหรอ?”หลงยวนหัวเราะเสียงเย็นชา“ผมไม่ชอบทำอะไรแบบนั้น แล้วก็ไม่สนใจจะทำด้วย”หลินเฟิงส่ายหน้า “ผมสามารถใช้ตัวผมเป็นประกันได้เลยว่าผมกับถังหว่านไม่มีอะไรเกินเลยทั้งนั้น”“คุณจะพูดแค่นี้เหรอ? คุณคิดว่าผมจะเชื่อไหม? ยังจะเอาชีวิตมาเป็นประกัน ชีวิตคุณมันมีค่าสักเท่าไหร่กันเชียว?”
"คุณชายหลิน สองคนนี้เหรอ?”เสิ่นหานเดินเข้ามาก่อนจะชะโงกหน้าเข้ามาแสดงสีหน้าสงสัย“เก็บเอาไว้ก็เป็นปัญหา ตระกูลกู้ต่อจากนี้ก็ไม่ต้องมีแล้วก็ได้ ส่วนถังอวิ๋นเฟิง…”หลินเฟิงมองถังอวิ๋นเฟิงที่คุกเข่าโขกหัวขอร้องตัวเองเหมือนกับมองสุนัขตัวหนึ่งเขายิ้มเบา ๆ “พวกที่เลี้ยงไม่เชื่องแบบนี้ถ่ายคลิปความผิดของเขาไว้แล้วส่งไปให้ตระกูลถัง ส่วนตัวคนก็จัดการได้เลย”“ครับ”เสิ่นหานทำความเคารพ“คะ...คุณชายหลินไว้ชีวิตผมด้วย ไว้ชีวิตผมด้วย! ผมถูกคนอื่นหลอก ผมถูกกู้เฉินหลอกนะครับ ไว้ชีวิตผมด้วย…”ทหารสองคนหิ้วปีกถังอวิ๋นเฟิงที่ยังไม่หยุดโวยวายออกไปส่วนกู้เฉินนั้นเขาเหมือนกับเสียสติไปแล้ว ตอนนี้เขาลงไปนั่งหัวเราะเสียงดังอยู่ที่พื้น“ไม่คิดเลยนะหลินเฟิง ฉันคิดไม่ถึงเลย! ว่าแกจะมีคนคอยหนุนหลังมากขนาดนี้ ฉันผิดเอง ฉันคำนวณผิดเอง…”กู้เฉินทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ“หลินเฟิง ฉันทำคนเดียวฉันรับคนเดียว”กู้เฉินพยายามฝืนตัวออกจากบรรดาทหารที่เข้ามารุมล้อม “ถือว่าฉันขอแก ทั้งหมดนี่เป็นแผนของฉันคนเดียว ไม่เกี่ยวกับพ่อของฉัน…”“ไม่เกี่ยวกับลูกน้องของฉันแกปล่อยตระกูลกู้ไปได้ไหม?!”“แกปล่อยตระกูลกู้ไปได้ไ
"เร็วเข้าซินซิน เหลืออีกแค่สิบนาทีพวกเรายังไปสนามบินทันอยู่!”จางกุ้ยหลานเร่ง“มาแล้วค่ะ ๆ!”จางซินหอบเอาเครื่องสำอางค์ราคาแพงของหลี่ฮุ่ยหรานออกมาจากห้องของเธอ ก่อนจะจับทั้งหมดยัดลงไปในกระเป๋าถือ“เราอยู่ที่เจียงโจวไม่ได้แล้ว อย่าว่าแต่เจียงโจวเลย เราอยู่ที่ประเทศนี้ไม่ได้แล้ว เก็บของแล้วหนีไปหลบที่ประเทศอื่นก่อน!”จางกุ้ยหลานมองจางซินที่พยายามยัดเครื่องสำอางค์ลงไปในกระเป๋าก็อดจะโมโหไม่ได้ “โถ่เอ๊ยซินซิน ถ้ามัดยัดลงไปไม่ได้ก็ไม่ต้องยัดแล้ว ของพวกนี้มันจะราคาเท่าไหร่กันเชียว? รีบไปเร็วเข้า!”“คุณอาซื้อตั๋วเครื่องบินหรือยังคะ?”“ซื้อแล้ว ฉันมีเงินในบัญชีอยู่หลายแสน แล้วก็ของพวกนี้ด้วย พอให้พวกเราอยู่เมืองนอกไปสักระยะแล้วล่ะ!จางกุ้ยหลานเร่งรีบในตอนที่พวกเธอหนีออกมาพร้อมแขกคนอื่นๆก็ไม่ได้เลือกว่าจะอยู่ที่ตระกูลกู้นานนักเพราะดูจากท่าทีของหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว จางกุ้ยหลานก็รู้ว่าวันนี้การแต่งงานไม่มีทางสำเร็จแน่นอนในเมื่อหลี่ฮุ่ยหรานไม่ได้แต่งงานกับตระกูลกู้งั้นตระกูลหลี่ก็คงไม่ต้อนรับพวกเธอ และไหนจะยังไปมีเรื่องกับตระกูลกู้และตรงกูลหลงอีก โดยเฉพาะตระกูลหลงยิ่งแล้วใหญ่ถ้าตระกูล
"พวกตระกูลหลี่จากทางเจียงเป่ยทำเรื่องเอาไว้ก็ไปรับผิดชอบเอง อย่าคิดจะหนีไปไหนเชียว!”หลัวอวี้เฟิ่งพูดเสียงดัง “เพื่อไม่ให้ตระกูลกู้และตระกูลหลงเข้าใจผิด วันนี้ฉันต้องจับพวกแกแม่ลูกเอาไปมอบให้ทั้งสองตระกูลนั้นจัดการ!”“แล้วจากวันนี้ไป สองตระกูลเราขาดกัน!”“อะไรนะ?!”จางกุ้ยหลานรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เกือบจะเป็นลมล้มลงไปที่พื้นจางซินที่ยืนอยู่ด้านข้างก็รีบเปลี่ยนสีหน้าก่อนจะรีบเข้าไปออเซาะ “คุณน้าหลัวคะ เราเป็นญาติกันอย่าตัดขาดกันขนาดนี้เลยค่ะ”“หึ”หลัวอวี้เฟิ่งแค่นยิ้ม ก่อนจะมองไปทางจางซินแล้วพูดประชดประชัน “จางซินเธอไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้อยากจะมานับญาติกับฉัน”“เธอเป็นฐาติกับจางกุ้ยหลาน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน”“ฉันไม่มีญาติที่ขโมยเครื่องประดับของคนอื่นในงานแต่งงานหรอกนะ!”เรื่องดี ๆไม่มีใครรู้ แต่เรื่องแย่ ๆ คนต่างก็รู้กันทั่วได้ยินหลัวอวี้เฟิ่งพูดแบบนี้ จางซินก็หน้าแข็งค้างไม่คิดเลยว่าเรื่องที่เธอขโมยเครื่องประดับของหลี่ฮุ่ยหรานจะมีคนรู้เรื่องเร็วขนาดนี้ แล้วต่อจากนี้เธอจะทำมีหน้าไปเจอคนอื่นได้ยังไงล่ะ?“น้องสะใภ้ ถ้าซินซินเป็นคนนอกแต่ฉันไม่ใช่ ใช่ไหมล่ะ?”จา
“อีกเดี๋ยว แกไปหลี่ซื่อกรุ๊ปกับฉัน คุกเข่าขอร้องหลี่ฮุ่ยหรานพี่สาวของแก ขอให้เขาช่วยแก”“สำหรับเรื่องที่ดิน ไม่ต้องเอ่ยถึงอีก”“ไม่มีทาง!”หลี่เหวินเชาตะโกนขึ้นมาด้วยความคลุ้มคลั่ง:“ฆ่าผมเถอะ ฆ่าผมผมก็ไม่ยอมคุกเข่าให้หลินเฟิง!”“งั้น…”จางกุ้ยหลานเห็นว่าลูกชายของเธอเป็นคนดื้อรั้นขนาดนี้ จึงไม่รู้จะทำยังไงชั่วขณะจางซินก็เสนอตัวขึ้นมา“คุณป้า พูดอีกอย่าง ประธานโจวของเจี้ยนหงกรุ๊ปคนนั้นก็แค่อยากได้เงิน แบบนี้แล้ว คุณป้าคิดหาวิธีเอาที่ดินมาจากในเมื่อของหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหราน”“จากนั้นพวกเราให้เงินประธานโจวก้อนหนึ่ง ใช้เพื่อไถ่ตัวหลี่เหวินเชา รักษาชีวิตน้อยๆ ของเขาเอาไว้ เงินที่เหลือเราค่อยแบ่งกัน”“แบบนี้ก็สิ้นเรื่องไม่ใช่เหรอ?”หลี่เหวินเชาเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของจางซินอย่างรวดเร็วเขาเปลี่ยนจากร้องไห้เป็นยิ้มพูดว่า:“ไม่เสียแรงที่เป็นพี่จางซิน ฉลาดจริงๆ!”“หึ ไม่รู้เมื่อครู่ใครยังจะสู้ตายกับฉันอยู่เลยนะ”จางซินกลอกตาไปมาด้วยความครุมเครือ“ยังต้องเอาที่ดินอีกเหรอ…นี่มัน…”จางกุ้ยหลานลังเลอย่างเห็นได้ชัด“คุณป้า คุณป้าคิดดูนะคะ นั่นเป็นเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาท ต่อให้เ
จางกุ้ยหลานวางโทรศัพท์ลง ภายใต้สายตาคาดหวังของจางซินและหลี่เหวินเชา จากนั้นถอนหายใจพูดว่า:“ช่างเถอะ ในเมื่อที่ดินผืนนี้ได้ถูกขายไปแล้ว งั้นฉันก็ไม่เอาแล้ว ในเมื่อ…”จางซินรู้ดีอยู่แล้ว แต่เธอหนังหน้าหนาพูดเกลี้ยกล่อมว่า:“คุณป้า นั่นมันสองหมื่นห้าพันล้านบาทเชียวนะ!”“มีเงินสองพันห้าล้านบาทนี้ ชีวิตที่เหลือของเราก็มีแต่ความร่ำรวยรุ่งโรจน์ อยากได้อะไรก็ได้หมด?”“ตอนนี้ไปขอจากหลินเฟิง คิดว่าสุดท้ายเขาเห็นแก่หน้าของหลี่ฮุ่ยหราน ก็ยังคืนที่ดินผืนนั้นมาให้เราอยู่ดี”“ในเมื่อไอ้หมอนี่ชอบโอ้อวดต่อหน้าหลี่ฮุ่ยหรานมากที่สุด”คำแนะนำของจางซินทำให้จางกุ้ยหลานหวั่นไหวจริงด้วย นั่นมันสองหมื่นห้าพันล้านบาทเชียวนะ!มีเงินมหาศาลก้อนนี้ ชีวิตที่เหลือ เธอสามารถทำอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ“แม่ แม่ต้องซื้อที่ดินผืนนั้นกลับมาจากในมือหลินเฟิงให้ได้นะ ไม่อย่างนั้น…ไม่อย่างนั้นลูกชายแม่ต้องตายแน่!”หลี่เหวินเชาล้มลงบนเตียงและร้องไห้โฮออกมา“อะไร?! ไม่มีที่ดินผืนนี้ ก็จะตายเหรอ?”จางกุ้ยหลานตกตะลึงส่วนจางซินกลับมองความเสแสร้งของไอ้หมอนี่ออก พูดยิ้มว่า:“คุณป้า ไม่ใช่ว่าจนถึงตอนนี้ป้ายังดูไม่ออก
“คุณป้า สิบเท่า! ไม่เพียงแค่สิบเท่า!”จางซินนับนิ้วมือ คำนวณและพูดว่า:“ก่อนหน้านี้พวกเราใช้เงินจำนวนสองพันห้าร้อยล้านบาทซื้อที่ดินผืนนี้เอาไว้ และตอนนี้ มูลค่าของที่ดินผืนนี้เกินสองหมื่นห้าพันล้านบาทแล้ว!”“ป้า นั่นมันสองหมื่นห้าพันล้านบาทแล้ว!”ได้ยินตัวเลขที่จางซินรายงานออกมา จางกุ้ยหลายงุนงงไปหมด เธอนั่งลงบนเตียง พูดไม่ออกอยู่ครู่ใหญ่“เร็ว…เร็ว…เร็ว…”จางกุ้ยหลานตั้งสติอยู่นาน ถึงได้ยกมือขึ้นอย่างเหม่อลอย มองไปทางจางซินและพูดว่า:“เอาโทรศัพท์ของฉันมา ฉัน…ฉันจะโทรศัพท์ไปหาหลินเฟิง!”“ได้ค่ะ!”จางซินกระตือรือร้นอย่างมาก ที่ดินผืนนี้ถ้าหากจางกุ้ยหลานได้มา งั้นเธอยังไงก็ได้รับเงินส่วนแบ่งจางกุ้ยหลานถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้ เปิดสมุดโทรศัพท์เลื่อนไปที่หมายเลขของหลินเฟิงในตอนที่ปุ่มโทรออก จู่ๆ เธอก็นิ่งอึ้งไป“คุณป้า เป็นอะไรไป? รีบโทรสิคะ!”เห็นได้ชัดว่าจางซินร้อนใจยิ่งกว่าจางกุ้ยหลานส่วนหลี่เหวินเชาที่อยู่ข้างๆ ก็ร้อนใจอย่างมาก รีบพูดเร่งว่า: “แม่ รีบโทรสิ แม่ยังลังเลอะไรอีก?”“ฉัน…”จางกุ้ยหลานพูดไม่ออก ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอถึงได้มองไปทางจางซินกับหลี่เหวินเชาด้วยความกร
“ก็ปล่อยให้เธออยู่ด้วยกันกับหลินเฟิงไปเถอะ ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็ต้องจบเห่!”“สุดท้ายพี่สาวของผมก็ต้องร้องไห้กลับมาขอร้องพวกเรา”หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ ในที่สุดจางกุ้ยหลานก็วางใจ“ได้ได้ได้ เด็กอย่างแกถือว่าคิดได้แล้วนะ”หลังจากที่ได้รับคำชม สีหน้าของจางกุ้ยหลานก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน โดยมีความรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย“ที่พูดมานั้นก็เป็นเรื่องจริง แต่.....เหวินเชา ที่ดินตรงนั้น....ที่ดินตรงนั้นถูกฉันขายทิ้งไปแล้ว”“อะไรนะ?!”หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ หลี่เหวินเชาก็กระโดดสูงสามฟุตเหมือนกับแมวที่ถูกเหยียบหาง “แม่....แม่...แม่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีคนซื้อที่ดินตรงนี้ในเวลาอันสั้นแบบนี้ล่ะ?”“แม่ขายให้ใครไป?”เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่รุนแรงขนาดนี้ของลูกชายตัวเอง จางกุ้ยหลานก็รู้สึกผิดเล็กน้อย ก่อนจะเกาหัวอย่างกระอักกระอ่วนพร้อมกับพูดว่า :“หลังจากที่ลูกโทรมาหาในวันนั้น แม่ก็กังวลนิดหน่อย สุดท้ายก็เลยเอาที่ดินตรงนั้นขายให้กับหลินเฟิงไป”“หลินเฟิง? แม่ขายให้กับหลินเฟิง?!”เมื่อหลี่เหวินเชาได้ยินชื่อนี้ หัวก็แทบจะระเบิด แต่เขายังคงกอดความหวังสุดท้ายเอาไว้ ก่อนจะฝืนรอยยิ้มสุดท้า
“ไอ้สารเลว แกยังกล้ากลับมาอีกนะ!”ทันทีที่จางกุ้ยหลานเห็นหลี่เหวินเชา สีหน้าก็เปลี่ยนไป ก่อนที่จะเริ่มด่าทอหลี่เหวินเชาทำเธอเจ็บปวดอย่างมากสุดท้ายหากไม่ใช่หลินเฟิงที่เป็นคนโดนโกง แล้วเอาที่ดินที่ขายไม่ออกตรงนั้นไปเธอก็คงจะเดือดร้อนมากแน่ ๆไม่เพียงแค่สูญเสียวิลล่าหรูหราเท่านั้น ถึงขั้นที่ถูกคนไล่ล่าอีกด้วยจุดจบแบบนั้น แค่คิดก็ทำให้จางกุ้ยหลานสั่นไปทั้งตัวเมื่อเห็นตัวการสำคัญคนนี้ จางกุ้ยหลานก็ไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้อีกต่อไป ก่อนจะชี้ไปที่หน้าของหลี่เหวินเชาและด่าทอเสียงดัง“ไอ้สารเลวน่ารังเกียจ แกต้องการจะฆ่าแม่ของแกให้ตาย! แล้วตอนนี้แกยังกล้าโผล่หน้ามาเจอฉันอีกเหรอ?!”“แม่ แม่ก็พูดเกินไป”หลี่เหวินเชาเกาหัว ก่อนจะยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน สุดท้ายก็วางดอกไม้ที่พามาด้วยไว้บนโต๊ะที่อยู่ด้านข้างจางกุ้ยหลานแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจางกุ้ยหลานจะไม่ซาบซึ้งเลยแม้แต่น้อยก่อนจะปัดช่อดอกไม้ร่วงตกไปอยู่บนพื้น“แกออกไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก ฉันไม่มีลูกชายสารเลวที่หลอกได้แม้กระทั่งแม่อย่างแก!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของหลี่เหวินเชาก็เปลี่ยนไปแต่เมื่อเขาคิดถึงราคาที่ดินตรงนั้น
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหลี่เหวินเชาต้องการที่จะเลี่ยงความรับผิดชอบชายที่ถูกเรียกว่ารองประธานโจวก็ลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะเดินไปข้าง ๆหลี่เหวินเชา แล้วจับคอเสื้อของเขา พร้เอมกับด่าทอว่า :“แล้วมันไม่ใช่ความคิดของไอ้สารเลวอย่างแกเหรอ? ที่บอกว่าเอาที่ดินตรงนี้ ไปหลอกเอาเงินแม่ของแกเพื่อมาใช้หนี้พนัน.....”“แม่งเอ๊ย ตอนนี้กลับเป็นคนในครอบครัวของแกได้เปรียบไป”รองประธานโจวโยนหลี่เหวินเชาลงบนโซฟาแล้วตะโกนใส่ว่า :“ฉันจะให้เวลาแกสามวันไปคิดหาทางซื้อที่ดินตรงนี้คืนจากกลับมาให้ฉัน หากซื้อคืนกลับมาไม่ได้ นายก็รอถูกตัดหัวได้เลย!”หลังจากที่พูดคำนี้จบ ประธานโจวก็ทุบโต๊ะ“รปภ.!”ทันใดนั้น ประตูบานคู่ของสำนักงานก็เปิดออก ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่ดูแข็งแกร่งและสูงสองเมตรจะเดินเข้ามา“จับมันโยนออกไป!”รองประธานโจวชี้ไปที่หลี่เหวินเชา พร้อมกับตะโกนขึ้น“ครับ รองประธานโจว”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนหิ้วปีกหลี่เหวินเชาออกไปจากบริษัทราวกับจับลูกไก่ แล้วไปโยนทิ้งไว้บนถนนเหมือนกับสุนัขที่ตายแล้วตัวหนึ่ง“พวกแก....พวกแกจะเกินไปแล้วนะ!”หลี่เหวินเชาลุกขึ้นจากพื้น พร้อมกับป
เขาอุ้มหลินเสวี่ยฮุ่ยออกมาจากในอ่างอาบน้ำ วางลงบนเตียงก็อยากจะออกจากห้องของเธอไปทั้งแบบนี้แต่เห็นท่าทางหลับสนิทของหลินเสวี่ยฮุ่ย และผมกับร่างกายที่เปียกชุ่ม หลินเฟิงก็อดไม่ได้หากจะเดินจากไปโดยตรงถ้าหลับต่อไปแบบนี้ ต้องไม่สบายแน่นอนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลินเฟิงถึงได้ทำการตัดสินใจยังไงเธอก็หลับแล้ว ไม่รู้อะไรทั้งนั้นหลินเฟิงค้นหาเสื้อผ้าของหลินเสวี่ยฮุ่ยในตู้เสื้อผ้า และใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดร่างกายให้เธอสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นชุดแนบเนื้อที่สะอาดสะอ้านระหว่างนี้ หลินเฟิงถึงแม้จะพยายามเต็มที่แล้ว แต่สิ่งที่ควรดูไม่ควรดูเขาก็ดูจนหมดแล้วเขารู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างมาก แต่โชคดีที่สุดท้ายก็เปลี่ยนเสร็จหลินเฟิงถอนหายใจยาวๆ ออกจากห้องของหลินเสวี่ยฮุ่ยเหมือนหนีตาย......หลินเฟิงไม่กล้าอยู่ต่อนานนักเขากลัวว่าหลังจากหลินเสวี่ยฮุ่ยตื่นขึ้นมา เมื่อนึกถึงบรรยากาศกระอักกระอ่วนระหว่างทั้งสองคน ดังนั้นจึงรีบขับรถออกจากเมืองเจียงโจวในคืนเดียวกันวันต่อมาเขาปรากฏตัวที่เมืองเจิ้งเต๋อ มารายงานตัวที่หลี่ซื่อกรุ๊ปตรงเวลาในฐานะหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป งานของหลินเฟิงพูดได้ว
“เธอถูกพิษ อดทนหน่อย กลับไปฉันจะถอนพิษให้เธอ”หลินเฟิงกัดฟัน อดกลั้นกับร่างกายหญิงสาวที่อ่อนนุ่ม ตั้งสมาธิทั้งหมดไปที่บนถนนที่อยู่นอกรถ“อื้อ...อืม”หลินเสวี่ยฮุ่ยครวญคราง แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างเชื่อฟังกว่าจะกลับมาถึงอ่าวเทียนสุ่ยได้หลินเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง อุ้มหลินเสวี่ยฮุ่ยเข้าไปในห้องของเธอโดยตรง โชคดีที่ตอนนี้ในคฤหาสน์ไม่มีคนพอดีจ้าวเฉียวอวิ๋นก็กำลังยุ่งอยู่ที่ในร้าน ไม่ได้กลับมาส่วนอิ่นนั่วเจียกับพวกอวี๋จื่อเสวียนออกจากมหาวิทยาลัยไปที่บริษัท หลังจากเสร็จสิ้นงานรับปริญญาของพวกเธอตอนนี้ก็ยังไม่กลับมานี่เป็นโอกาสดีที่หาได้ยากมาก...เพิ่งคิดถึงตรงนี้ หลินเฟิงก็เกือบจะทนไม่ไหวจนตบหน้าตัวเอง โอกาสดีที่หาได้ยากอะไรกัน?หลินเฟิงฝืนยิ้มออกมา ภายในห้องรับน้ำอาบอ่างใหญ่ ละลายยาแก้พิษ และใช้พลังชี่แท้เร่งให้ออกฤทธิ์ไม่นานนัก น้ำในอ่างอาบน้ำนี้ก็ส่งกลิ่นยาออกมา“เอาล่ะเสวี่ยฮุ่ย ตอนนี้เธอ...”หลินเฟิงเพิ่งหันหน้าไป ก็เห็นหลินเสวี่ยฮุ่ยในตอนนี้แต่งตัวเย็นสบายอย่างมาก สวมแค่เพียงชุดชั้นใน เห็นสายตาตะลึงงันของหลินเฟิง เธอก็ยิ้มซื่อๆ เหมือนกับดื่มเหล้าเมาและพูดว่า:“ร้อนมาก ฉั
“พี่หลินเฟิง...”ในตอนนี้เอง หลินเสวี่ยฮุ่ยเดินโซเซเข้ามาที่ด้านข้างของหลินเฟิง และหายใจหอบพูดขอร้องว่า:“พี่หลินเฟิง ไม่เอา...อย่าวู่วามนะ ถ้าหากฆ่าเขา...พี่ก็จะเดือดร้อน!”“พี่หลินเฟิง อย่าวู่วามเด็ดขาด อย่า...”หลินเสวี่ยฮุ่ยจับแขนของหลินเฟิงไว้ พูดขอความเมตตาได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆๆ ก็หลับตาลง และหมดสติล้มไปบนพื้น“เสวี่ยฮุ่ย!”หลินเฟิงเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ยหมดสติ จึงไม่สนใจเจียงปินอีกต่อไปเขารีบผลักเจียงปินไปที่ด้านข้าง ประคองหลินเสวี่ยฮุ่ยขึ้นมา และหลับตาลงตรวจภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยไม่นานนัก หลินเฟิงก็พบว่าภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยมีไฟหยินกลุ่มหนึ่งที่ยิ่งอยู่ยิ่งโหมกระหน่ำสำหรับอาการแบบนี้ หลินเฟิงงงงวยเล็กน้อย แต่ไม่นานนัก จู่ๆ เขาก็นึกถึงเหล้าที่เจียงปินฝืนกรอกปากให้หลินเสวี่ยฮุ่ยในเหล้านั้น คงจะผสมยาที่กระตุ้นอารมณ์บางอย่าง เพิ่มไฟหยินขึ้นมา“ไอ้สารเลว!”หลินเฟิงจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าเจียงปินคิดอะไรอยู่เขาจึงโกรธขึ้นมาฉับพลัน แต่ติดตรงที่ตรงนี้อยู่ภายใต้สายตาของทุกคน ไม่สามารถถอนพิษให้เสวี่ยฮุ่ยที่ตรงนี้ได้ ดังนั้นทำได้เพียงไว้ชีวิตเจียงปินก่อนชั่วคราว